ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ  (อ่าน 5336 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0

QA  ใครช่วยตอบได้ ก็ช่วยตอบกัน ด้วยนะ จะนำคำถามมาลงก่อน ก็แล้วกันนะ ส่วนคำตอบจะทะยอยตอบ


ปุจฉา
      การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ ใช้ การเห็นตามความเป็นจริง จากสติ โดยตรงไม่ได้หรือคะ   


วิสัชชนา

    <?<?<? ยังไม่ได้ตอบ รอให้ สมาชิกธรรม ร่วมตอบกันก่อน


 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

sayamol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 95
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2012, 10:15:16 am »
0
จิตเป็นสมาธิ เป็น จิตที่สงบลงจากกิเลส 5 ประการคะ

  เวลาน้ำใส ก็จะมองเห็น ปลา นะคะ เห็นสิ่งที่อยู่ในน้ำ เวลาน้ำขุ่น จะมองไม่เห็น คะ

  คนที่มีจิตสงบ เยือกเย็น ก็จะมองเห็นกิเลสที่เป็นอนุสัยได้ง่าย คะ

  ส่วนคนที่มีจิตไม่สงบ ก็จะไม่สามารถเห็นสิ่งใด ได้เพราะจิตกวัดแกว่ง หดหู่ เศร้าหมอง

  โดยเฉพาะ คนที่มีจิต เศร้าหมอง ย่อมตัดสินใจกระทำชั่ว กระทำเลว ได้ง่าย คะ......


  :s_hi: :49:

บันทึกการเข้า
จริงใจ อ่อนน้อม พรั่งพร้อมด้วยความรู้
อัตตาหิ อัตตโนนาโถ
ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2012, 08:51:09 am »
0
ควรจะต้องกล่าวว่า การเห็นตามความเป็นจริง นั้นมีความสำคัญอย่างไร ผมว่าเกี่ยวพันกับความเป็นพุทธแท้นะครับ หรือ จิตที่มีนิพพาน เป็นเป้าหมายนะครับ

  พระอาจารย์ได้สอนไว้ว่า การเห็นตามความเป็นจริงเรื่องแรกคือ

   1. การเห็นว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้่นมีความเสื่อม ( ดับไป )เป็นธรรมดา

   2. การเห็นว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เสื่อมไป ( ดับไป )เป็นธรรมดา สิ่งนั้นไม่ควรตามยึดมั่น ถือมั่น ว่า นั่นเป็นเรา นั่นเป็นชองเรา นั่นเป็นตัวเป็นตนของเรา

   3. การเห็นว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มิใช่เรา มิใช่ของเรา มิใช่ตัวตนของเรา เป็นธรรมดา ควรตามเห็นว่า จิตควรปล่อยเพราะความยึดมั่นถือมั่น นั้น ๆ ไม่มีอีก

   4. การเห็นว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น อีกต่อไป ควรเป็นตามเป็นจริงว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่ง นั้นเป็นสิ่งที่ต้องละ เพราะนำมาซึ่งความทุกข์

   5. การเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ด้วยการละ พึงสมาทาน การปล่อยวางอารมณื นั้นด้วยใจ....


    ยังมีต่ออีกนะครับ ส่วนหนึ่งของ email ที่แนะนำธรรมของพระอาจารย์ครับ

   :08: :25:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2012, 11:13:07 am »
0
พุทธวจนะ
“สมาธึ ภิกขเว ภาเวถ สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ”
ภิกษุทั้งหลาย เธอจงยังสมาธิให้เกิดเถิด ผู้มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง

กระทู้แนะนำ
"สมาหิโต ยถาภูตัง ปชานาติ" ผู้มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5371.msg19928#msg19928

พุทธวจนะ
"เมื่อสัมมาสมาธิมีอยู่ ยถาภูตญาณทัสสนะ ของภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยสัมมาสมาธิ ย่อมเป็นธรรมถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย"
กระทู้แนะนำ
เมื่อสัมมาสมาธิไม่มี..."ยถาภูตญาณทัสสนะ" ย่อมไม่เกิด
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6410.msg23742#msg23742

พุทธวจนะ
"ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะ ก็ทำให้ไม่มีธรรมะอื่น ๆ อีก ๗ ข้อโดยลำดับ มีสัมมาสมาธิ ญาณทัสสนะ เป็นต้น"
กระทู้แนะนำ
ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะ ธรรมเหล่าอื่นจะไม่เกิด
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5287.msg19533#msg19533

พุทธวจนะ
"สมาธิภาวนาที่ภิกษุอบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความได้เฉพาะซึ่งญาณทัสสนะ"
"สมาธิภาวนาที่ภิกษุอบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อสติและสัมปชัญญะ"

กระทู้แนะนำ
การเจริญสมาธิ (สมาธิภาวนา) ๔ อย่าง
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2727.msg9471#msg9471




  การเดินอยู่ในมรรคมีองค์ ๘ ต้องพร้อมด้วย "องค์แห่งสติและสมาธิ" จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้
    ทั้งสองสิ่งอยู่ใน"อธิจิตตสิกขา" หรือเรียกโดยทั่วไปว่า "สมาธิสิกขา"


    ถึงตรงนี้สงสัยไหมว่า ทำไมไม่เรียกว่า "สติสิกขา"(อธิจิตตสิกขา คือ วายามะ สติ สมาธิ)
    ผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวว่า เนื่องจากพระพุฒาโฆษาจารย์ ผู้รจนาคัมภีร์วิสุทธมรรค ได้ยกเอาสมาธิมาแสดง
    คล้ายๆกับว่าให้ความสำคัญมากกว่า ทำให้เรียกสิกขานี้ว่า "สมาธิสิกขา"


    คำถามที่ว่า "การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิคะ ใช้การเห็นตามความเป็นจริงจากสติ โดยตรงไม่ได้หรือคะ"
 
    ตอบว่า  ขอให้ไปอ่านพุทธพจน์ในพระสูตรในกระทู้ที่ผมแนะนำให้อ่าน เช่น
    “สมาธึ ภิกขเว ภาเวถ สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ”
    "ภิกษุทั้งหลาย เธอจงยังสมาธิให้เกิดเถิด ผู้มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง" หรือ
    "สมาธิภาวนาที่ภิกษุอบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความได้เฉพาะซึ่งญาณทัสสนะ"


    อย่างไรก็ตาม สติและสมาธิต่างสนับสนุนซึ่งกันและกัน ต้องมีทั้งสองสิ่งจึงจะเห็นตามความเป็นจริงได้ 
    ดังพุทธพจน์ที่ว่า
    "ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะ ก็ทำให้ไม่มีธรรมะอื่น ๆ อีก ๗ ข้อโดยลำดับ มีสัมมาสมาธิ ญาณทัสสนะ เป็นต้น" และ
    "สมาธิภาวนาที่ภิกษุอบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อสติและสัมปชัญญะ"

    (ขอให้ไปอ่านกระทู้ที่ผมแนะนำให้เข้าใจนะครับ)
    ขอให้นึกถึงล้อธรรมจักร ที่เป็นวงกลมมีซี่ล้อ ๘ ซี่ หากขาดซี่ใดไป
    ล้อนี้จะพังลง ไม่อาจดำรงสภาพความเป็นล้อธรรมจักรอยู่ได้


    พุทธพจน์สองประโยคนี้อยู่ต่างสูตรกัน อาจมีคนสงสัยว่า แล้วอะไรเกิดก่อน
    ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็ต้องบอกว่า
    สัมมาสติ เป็นมรรคองค์ที่ ๗ สัมมาสมาธิเป็นมรรคองค์ที่ ๘ คิดเอาเองละกัน

     :25:
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 13, 2012, 07:13:18 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

pakorn

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2012, 12:43:20 am »
0
อนุโมทนา กับ คุณ nathponson ครับที่นำข้อมูลมา ซัพพอร์ต ได้อย่างมากเลยครับ รู้สึกว่าเหมือนผมจะตกหล่นความเข้าใจในส่วนนี้ไปหลายเรื่อง นะครับ เพราะแท้ที่จริงผมฝึกสมาธิ มาตลอด 40 กว่าปี เกษียณงานมาแล้วก็ไม่ได้มุ่งฝึกเพื่อ ญาณทัศนะ แต่มุ่งฝึกเพื่อให้จิตสงบ และมีพลังจิต เพื่อกระทำเรื่องที่เหลือเชื่อมากกว่า ครับ

  พอได้อ่านแล้ว รู้สึกว่า วันนี้ผมฝึกกรรมฐาน สมาธิ ไปผิดแนวทางมากเพราะไม่ได้ฝึกเพื่อญาณทัศนะ นี่เอง ปัญญาที่ตามเห็นตามความเป็นจริง จึงไม่เกิดและไม่เข้าใจ ครับ

 ขอบคุณมากครับ

  :c017: :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

pussadee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 149
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2012, 12:28:44 am »
0
อนุึโมทนา คะ อ่านแล้วก็เข้าใจเพิ่มเติมได้จริง ๆ คะ
ที่เหลืออยู่ที่การภาวนาจริง ๆ แล้วนะคะ

  อย่าลืมว่า การเห็นตามความเป็นจริง จะมีได้ ต้องภาวนากันจริง ๆ นะจีะ
 
 สาธุ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2012, 12:49:40 am »
0
การเห็นตามความเป็นจริงแบบกําหนดรู้จากสติโดยตรง กําลังไม่พอแตกไตรลักษณ์
   การฝึกถึงอุปจารสมาธิเป็นอย่างตํา จึงอาจสามารถแตก ไตรลักษณ์ถึงผลปัญญาได้
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2012, 08:57:05 am »
0
เป้าหมาย ของการภาวนา ของ พุทธศาสนา จริง ๆ ก็คือ การที่เราภาวนาแล้ว พ้นจากสังสารวัฏ

 การพ้นจากสังสารวัฏ ( นิพพาน ) นั้น ต้องอาศัย ยถาภูตญาณทัศนะ คือ การเห็นตามความเป็นจริง

 การเห็นตามความเป็นจริง เป็น ธรรมเบื้องต้น เป็น ธรรมจักษุ ซึ่งเป็น อริยะธรรมเบื้องต้น เป็นต้นกำเนิดของการต่อยอด การภาวนาของพระพุทธเจ้า เรียกว่า ปัญญา บ้่าง ญาณ บ้าง  วิชชา บ้าง

   การเห้นตามความเป็นจริง มีได้ เพราะมีสมาธิ  สมาธิ มีได้ เพราะมี ศีล

   ธรรม ทั้ง 3 ประการ คือ ศีล สมาธิ และ ปัญญา เป็นองค์แห่งมรรค หรือ พระอริยะมรรค 8 ซึ่งเป็นกำลังในการที่ พระโยคาวจร ซึ่งเป็น โคตรภูบุคคล ( ผู่ที่มีความปรารถนาต้องการพ้นจากสังสารวัฏ ) นั้นใช้เป็นคุณเครื่องข้ามฟัง นทีสีทันดร หรือ โอฆะ ห้วงน้ำแห่งทุกข์ นี้ไปได้

   ดังนั้น สมาธิ มีความจำเป็น ต่อ ยถาภูตญาณทัศนะ ด้วยเหตุนี้ เพราะเป็นธรรมที่ขาดกันไม่ได้

   เจริญธรรม

     ;)
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา