ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สิ่งที่บดบังพระพุทธเจ้าคือ พระพุทธรูป สิ่งที่บดบังพระธรรมคือ พระไตรปิฎก และ..?  (อ่าน 1347 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ภูเขาแห่งวิถีพุทธธรรม

ปาฐกถาธรรม ที่พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย เมื่อ 5 มิถุนายน พ.ศ.2491 ทำให้พระหนุ่มฉายา “พุทธทาส” เป็นที่สนใจและรู้จักของชาวพุทธมาจนถึงวันนี้ ชื่อ ภูเขาแห่งวิถีพุทธธรรม

“ข้าพเจ้าไม่ขลาดกลัวใครจะว่าเป็นมิจฉาทิฐิ ที่ขอให้นึกถึงการที่จะหลุดพ้นออกไปให้ได้ มากกว่าที่จะนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์” ท่านอาจารย์กล่าวไว้ตอนหนึ่ง

ถ้าหากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตามทัศนะของผู้ที่เต็มอัดไปด้วยอัตตานุทิฏฐินั้น ดูมันจะมากเกินไป จนกลายเป็นภูเขาหิมาลัยขวางหน้าไปเสียแล้ว เหวี่ยงทิ้งกันไปเสียบ้าง การที่จะก้าวหน้าไปถึงขั้นหลุดพ้นสิ้นเชิงนั้น จำเป็นที่จะต้องละวางความยึดมั่นทุกสิ่งทุกอย่างไปตามลำดับ

การยึดถือในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แม้จะมีในขั้นต้น ก็ไม่ควรยึดถือชนิดเป็นตัวตน ควรเป็นเพียงการยึดถือเอาในฐานะเป็นเครื่องมือ หรือเครื่องนำทาง

 ans1 ans1 ans1 ans1

   สรุป เป็นข้อห้ามไว้ 3 อย่า
    - อย่ายึดถือในพระพุทธ ในทำนองที่จะก่อวิวาทกันเรื่องพระพุทธ
    - อย่ายึดถือในพระธรรม อันเป็นนามที่สมมติขึ้นแทนชื่อของความบริสุทธิ์หลุดพ้น ปล่อยวาง ขึ้นเป็นตัวตน เป็นรูปแบบต่างๆจนแตกร้าวเพราะพระธรรม
    - อย่าขัดกันในหลักเรื่อง “พระสงฆ์” ซึ่งเป็นเพียงชื่อของผู้ที่จะหลุดพ้น หรือกำลังพยายามเพื่อหลุดพ้น จนต้องเกิดแบ่งแยกแตกร้าวกันอย่างไม่มีหลักเกณฑ์ เพราะต่างฝ่ายต่างก็ยึดถือ ตึงเครียดอยู่ด้วยกัน


    จบ 3 อย่าแล้ว ท่านก็ขอให้ทำ...2 จง
    - จง...เพ่งกำลังความคิดทั้งหมด ตรงไปยังความหลุดพ้นของจิต ที่กำลังถูกทรมานอยู่ด้วยการหุ้มห่อ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องว่าจะไม่มีตัวเรา คือ นึกว่ายอมขาดทุน ยอมเสียสละ ไม่ต้องมีตัวเราสำหรับที่จะเอานั่นเอานี่ ได้รับสิ่งนั้นสิ่งนี้ โดยตัดใจเสียว่า ตัวตนเท่าที่มีอยู่จริงๆในเวลานี้ ก็ทนไม่ไหวแล้ว เพียงเท่านี้ ก็เหลือที่จะแบกจะทนทานได้แล้ว
   - จง...ค้นจนกว่าจะพบความจริงว่า ก็เห็นมีแต่จิตนั่นเอง กำลังจะถูกอะไรห่อหุ้ม ทำให้เกิดทุกข์ทรมาน ถ้าเอาสิ่งที่ครอบงำจิตออกไปเสียได้ มันจะเป็นอิสระเอง ภาวะของความทุกข์ ก็ไม่มีที่จิตอีกต่อไป ไม่ต้องมีตัวเราอะไรที่ไหนเลย



ความพ้นทุกข์อย่างเด็ดขาด ก็มีได้โดยสมบูรณ์ ในขั้นที่ไร้ศีลธรรม ไม่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในขั้นที่มีศีลธรรม มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แต่ในขั้นที่หลุดพ้นจากเครื่องพัวพันทั้งปวง...กลับไม่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ความมุ่งหมายของพุทธศาสนา สอนให้มนุษย์มีใจสูงถึงขั้นเหลือโลก หรือหลุดพ้นจากเครื่องพัวพันทั้งปวงในโลก เป็นเหตุให้พุทธศาสนามีระดับสูงกว่าคำสอนอื่น ซึ่งมีความสูงแค่ขั้นศีลธรรม การถอนเอาความยึดถือ หรือภูเขามหึมา ออกไปเสียจากจิตอย่างเดียวเท่านั้น ทำให้พบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ถูกต้อง

วงพุทธศาสนาใหม่ ที่กำลังขยายตัวแพร่พันธุ์ อะไรนิด ก็ พุทธานุภาเวน ธัมมานุภาเวน สังฆานุภาเวน ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงให้สำเร็จสมตามประสงค์ พระพุทธศาสนาเก่าแท้ สมัยพุทธกาลไม่เคยมี มีแต่คำสอนให้ชำระจิตให้หมดจด...อย่างเดียว...


 st12 st12 st12 st12

    บทสรุปคำสอนชุดนี้...
    สิ่งที่บดบังพระพุทธเจ้า คือ พระพุทธรูป
    สิ่งที่บดบังพระธรรม คือ พระไตรปิฎก (หนังสือเล่มหรือใบลาน) และ
    สิ่งที่บดบังพระสงฆ์ ก็คือ ลูกหลานชาวบ้านที่นุ่งห่มผ้าเหลือง


หลังปาฐกถา...ภูเขาแห่งวิธีพุทธธรรมนี้มีเสียงวิจารณ์ต่อต้านมากมาย จนมาถึงวันนี้เกือบ 70 ปีแล้ว...ชาวพุทธรุ่นใหม่ ถ้าได้อ่าน ก็คงเข้าใจ คำสอนของท่านอาจารย์...เป็นจริง  ยิ่งประเด็น ลูกชาวบ้านที่โกนหัวห่มผ้าเหลือง...บังพระสงฆ์...ใครหน้าไหนจะกล้าเถียงว่า...ไม่จริง.


คอลัมน์ ชักธงรบ โดยกิเลน ประลองเชิง
http://www.thairath.co.th/content/484596
ขอบคุณภาพจาก ท่านปัญญสโก ภิกขุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2015, 09:53:39 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ