ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - udom
หน้า: [1]
1  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ภาวนาอย่างไร ในขณะ ครองเรือนอยู่ เมื่อ: กันยายน 24, 2011, 08:34:37 am
การใช้ชีวิตอย่างผู้ครองเรือน เป็นอุปสรรคในการฝึกสมาธิหรือไม่ มีแนะนำ หรือแนวคิดอย่างไร

หลังจาก ที่ทำหน้าสามี-ภรรยากันแล้ว 1-2 วัน  ผมจะไม่อยากนั่งสมาธิ เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่สะอาด

ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าผู้ครองเรือนก็ ปฏิบัติธรรมได้

 :smiley_confused1: :'(
2  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / นั่งสมาธิ แล้ว ขยับได้หรือไม่ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2011, 07:27:19 am
นั่งสมาธิ แล้ว ขยับได้หรือไม่ครับ เวลานั่งกรรมฐาน หลังเดินจงกรมนั้น
เวลาเข้านั่งสมาธิ สามารถขยับตัวได้หรือไม่ครับ

 ถ้าได้ ควรทำอย่างไร จึงจะถูกต้องครับ

 ถ้าไม่ได้ เพราะเหตุไร ครับ

  :c017:
3  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ธุดงควัตร 13 ประกอบด้วย เมื่อ: มิถุนายน 16, 2011, 05:06:35 am


ธุดงควัตร 13 ประกอบด้วย

1. ถือการนุ่งห่มผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
2. ถือการนุ่งห่มผ้าสามผืนเป็นวัตร
3. ถือการบิณฑบาตเป็นวัตร
4. ถือการบิณฑบาตไปโดยลำดับแถวเป็นวัตร
5. ถือการฉันจังหันมื้อเดียวเป็นวัตร
6. ถือการฉันในภาชนะเดียวคือฉันในบาตรเป็นวัตร
7. ถือการห้ามภัตตาหารที่เขานำมาถวายภายหลังเป็นวัตร
8. ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร
9. ถือการอยู่โคนต้นไม้เป็นวัตร
10. ถือการอยู่อัพโภกาสที่แจ้งเป็นวัตร
11. ถือการอยู่ป่าช้าเป็นวัตร
12. ถือการอยู่ในเสนาสนะตามมีตามได้เป็นวัตร
13. ถือเนสัชชิกังคธุดงค์ คือการไม่นอนเป็นวัตร

พระที่ปฏิบัติธุดงควัตรเป็นการปฏิบัติแบบเข้มเพื่อการหลุดพ้นครับ
พระจริงๆจับต้องเงินไม่ได้ครับ ท่านเข้าป่าบางครั้งมีชาวบ้านตามหมู่บ้านมาถวาย
ถ้าไม่มีท่านก้ออดครับเพราะท่านก้อรู้ก่อนแล้วว่ามาธุดง
ถ้าท่านหวังสบายคงอยู่วัดดีกว่าครับ
อย่าถวายเงินจะดีกว่าเพราะส่งเสริมให้มีพระปลอมมากขึ้น
ส่วนอาหาร ท่านคงไม่อดหรอกครับ
หลวงพ่อชาบอกว่า บาตรพระเหมือนเศียรพระพุทธเจ้าเป็นมรดกมาจากพุทธองค์
แค่หิ้วบาตรไปในหมู่บ้านก้อมีคนถวายอาหารแล้วครับ
4  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 16 นิสัยไม่ไหวจะเคลียร์ เมื่อ: มีนาคม 03, 2011, 09:56:18 am
16 นิสัยไม่ไหวจะเคลียร์

1. ใจร้อน เป็นไฟ วีนได้ไม่เว้นวันหยุดราชการ

นิสัย แบบ ไม่ไหวจะเคลียร์ข้อแรกก็คือ นิสัยใจร้อนเป็นไฟ ขี้วีนแบบสุดขีด ประมาณว่า เจออะไรไม่ถูกใจเข้าหน่อยก็แผลงฤทธิ์โวยวายจะเอาเรื่องให้ได้ นิสัยอย่างนี้นอกจากจะหาเรื่องเจ็บตัวง่ายๆแล้ว ยัง สร้างศัตรูแถมเพื่อน ๆ อาจพากันหายหน้าเพราะเซ็งกับ การมีเพื่อนขี้วีน จนเธอต้องนั่งสะกดคำว่าเหงา อยู่คนเดียว

2. เอาแต่ใจตัวเอง จนชาวบ้านเซ็ง

แม้ ว่าเรา จะถูกเลี้ยงดูแบบสปอยสุดขีดขนาดไหน แต่ถ้าติด นิสัยเอาแต่ใจแล้วเอาไปใช้กับเพื่อน รับรองได้เลย ว่า เพื่อนต้องพากันจนลีหนีหน้าไปหมดแน่ ๆ เพราะคนที่เอาแต่ใจเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก ๆ หัดเอาใจคนอื่นให้มากขึ้น แล้วเธอจะพบว่าตัวเอง น่ารักได้อีก !

3. แล้งน้ำใจตลอด ขอแค่ฉันเอาตัวรอดเป็นพอ

ไม่ ว่ายัง ไง น้ำใจก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้า เราแล้งน้ำใจ เพื่อนขอให้ช่วยอะไรก็ไม่ช่วย หรือบางทีอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ แบ่งปันให้คนอื่นได้ก็หวงไว้ทำหอกอะไรไม่รู้ รู้ แต่ไม่ชอบแบ่งปันใคร เธอจะเป็นคนประเภทที่ไม่น่า เข้าใกล้อันดับต้น ๆ เลยล่ะ

4. งี่เง่า ไร้ เหตุผล จนผู้คนรอบข้างปวดกบาล

ประเภท ที่ งี่เง่า ไม่เคยฟังเหตุผลอะไร คิด แต่อยากได้ยังไงก็ต้องได้ ย้ำเลยว่าถ้าเธอไม่แก้ นิสัยนี้ ผู้คนจรลีออกไปจากชีวิตเธอชัวร์ ไม่มีใครอยากอยู่กับคนที่ไม่มีเหตุผลหรอกนะ พยายามใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ให้มาก ๆ ทุกอย่างจะเวิร์ก

5. ในโลกนี้ไม่มีใครดีเท่าตัวฉัน เลยดูถูกคนอื่นซะงั้นเลย

ประเภท ที่ ชอบดูถูกคนอื่นไปซะหมด มองคนอื่นว่าด้อย ไม่เก่ง ไม่สวยไม่หล่อ สู้เราไม่ได้ ไม่อยากอยู่ ใกล้เพราะขยะแขยง ขอบอกไว้เลยว่า เธอนั่นแหละที่น่าขยะแขยงในสายตาคนทั้งโลก เพราะพฤติกรรมแบบนี้ มัน บ่งบอกว่าจิตใจเธออยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าน้ำทะเลอะดิ

6. หนังสือสอบเป็นยังไงไม่เคยเห็น เข้าห้องสอบแปลงกายเป็นยีราฟคอยาว

ประเภท ที่ ชอบเอาเปรียบเพื่อน ไม่ยอมอ่านหนังสือสอบ สักแต่ว่าจะลอกอย่างเดียว ขอ บอได้เลยว่า เธอจะไม่เวิร์ก ทั้ง ในเรื่องสมอง และมิตรภาพ เพราะ เพื่อน ๆ จะเริ่มเอือมระอาในความเห็นแก่ตัวของเธอ น่ะสิ ที่เธอได้คะแนนดี ๆ เพราะ เป็นปลิงเกาะ ( สมอง ) เพื่อน แต่เพื่อนอดตาหลับขับตานอนอ่านหนังสือแทบตาย

7. เรื่องส่วนตัวยังไม่สันทัด แต่ถนัดจุ้นจ้านเรื่องชาวบ้าน

คน ที่ชอบ จุ้นเรื่องของคนอื่นไปซะหมด รู้ชัดยิ่งกว่าตำรา เรียนว่าใคร ทำอะไร ที่ ไหน อยากรู้อยากเห็น ขอ เจ๋อเสมอต้นเสมอปลาย เธอจะได้รับฉายาบุคคลไม่น่า คบไปโดยปริยาย ทางที่ดี หัน มาอัพเกรดเรื่องของตัวเองให้ดีขึ้นดีกว่า อย่า เจ๋อเรื่องคนอื่นให้เสียเวลาอยู่เลย

8. โกหกไปวัน ๆ เพราะ ฉันคือนางเอกเรื่องสาวน้อยสตรอว์เบอร์รี่

ความ จริง คืออะไรไม่รู้จักแค่ลื่นไหลไปวัน ๆ เพราะอยากได้ สิ่งที่ตัวเองปรารถนา คนแบบนี้รับรองได้เลยว่าจะ ต้องถูกเฉดออกจากสังคมแน่ ๆ เพราะคงไม่มีใครอยาก อยู่กับคนที่เชี่ยวชาญเรื่องสตรอว์เบอร์รี่ตลอดเวลา คน เราต้องการความซื่อสัตย์ด้วยกันทั้งนั้นแหละ และ เธอก็ควรจะเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรอ ?

9. ทำตัวเป็นนักวิจารณ์ ใครเดินผ่านเป็นนินทา

พวก ที่ชอบ นินทาชาวบ้านก็เป็นอีกพวกที่จัดอยู่ในกลุ่มน่ารังเกียจอันดับต้น ๆ ยิ่งคนที่ชอบใส่ร้ายป้ายสีให้คนอื่นเสียหาย เพียงเพราะอยากได้เพื่อน อยาก ให้เพื่อนเกลียดคนอื่นเพื่อมาเลิฟตัวเองน่ะ นอก จากจะเป็นการกระทำที่โง่มาก ๆ แล้ว ยังเป็นการ กระทำที่เข้าข่ายน่าเกลียดอีกด้วยนะจ๊ะ

10. กร่างเป็นจิ๊กกี๋ รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า

แม้ ว่า แก๊งเราจะมีพวกเยอะ อิทธิพลแยะ ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เธอจะไปรังแกคนที่ไม่มีทางสู้ หรือ คนที่อ่อนแอกว่า ยิ่งเพียงเพราะความสะใจของตัวเอง แล้วละก็ ยิ่งไม่ควรเข้าไปใหญ่ เพราะคนที่รังแกคนที่อ่อนแอกว่าไม่ได้เรียกว่าเก่งเลย ออกจะขี้ขลาดมาก ๆ ซะด้วยซ้ำ

11. ใครจะมองยังไงไม่เห็นแคร์ แหมก็แค่เลิฟซีนกันแค่นั้นเอง

ทน ไม่ได้ จริง ๆ กับภาพผู้หญิงปล่อยตัวให้ผู้ชายจับนั่นแตะ นี่อย่างไม่หวงเนื้อหวงตัวกลางสาธารณะชน นี่ยัง ไม่รวมประเภทกอดจูบลูบคลำโชว์ชาวบ้านเพราะคิดผิด ๆ ว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ แน่ละผู้ชายควรให้เกียรติเรา แต่ถ้าอยากให้เค้าใหเกียรติเรา ก็ ควรเซฟตัวเองให้เป็นผู้หญิงที่ไม่ง่ายด้วย ถึงจะ ถูก

12. ขี้ขโมย ฉก ทุกอย่างที่ไม่ใช่ของตัวเอง

แม้ บางที จะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ไม่ควร ที่เธอจะไปหยิบฉกมาใช้โดยไม่ขออนุญาต เพราะมัน เป็นการกระทำที่แสดงว่าเธอไม่มีมารยาทเอาซะเลย และ ของบางอย่างมันก็มีคุณค่าทางใจของเจ้าของ การที่ เธอไปฉวยเอามา อาจทำให้เค้าเสียใจมากกว่าที่เธอ คิด

13. แต่งตัวเอ็กซ์เซ็กส์ไม่ว่าที่ ไหน ไม่เคยเกรงใจคำว่า "กาลเทศะ"

อนุโลม ให้ ได้ถ้าเป็นการเปรี้ยวแบบมีระดับ ( ไม่โป๊เกินไป ) ในงานปาร์ตี้ และมีคนไว้ใจ ได้มารับมาส่ง แต่ถ้าเป็นสถานศึกษา งานที่ต้องจริงจังสำรวม เธอยังโชว์โป๊ไป อวดใครไม่รู้ เธอจะกลายเป็นพวกที่ไม่มีสมองขึ้นมา ทันที นอกจากจะอันตรายแล้ว ยัง โชว์โง่อีกต่างหาก

14. หยาบคายวาจา เหมือนเลี้ยงหมาไว้ในปาก

พูด จาแต่ ละทีสัตว์เลื้อยคลานเต็มถนน แบบนี้นอกจากจะไม่น่า รักแล้ว คนอาจจะมองว่าเธอขาดการอบรมบ่มสอนจากพ่อ แม่ได้ และขอบอกว่า แค่ คำพูดก็สามารถเป็นตัวกำหนดได้ว่า เธอจะดึงดูดคนดี มีระดับ หรือคนโหล่ยโท่ยโซ้ยไม่ลงมาในชีวิต

15. นิยามฉันคือสวยเลือกได้ ไม่ว่าใครผ่านเข้ามาฉันกิ๊กกั๊กไว้หมด

เจ้า ชู้ไป เรื่อย ปล่อยตัวไม่เลือกหน้า แบบ นี้ก็ไม่เวิร์กนะจะบอกให้ เธออาจเคยชินกับการ บริหารเสน่ห์ตัวเอง และรู้สึกว่าการกั๊กผู้ชายไว้ ในฐานะกิ๊กมาก ๆ คือแปลว่าเธอป๊อบปูลาร์ ขอบอกเลยว่าเธอคิดผิด เพราะ แทนที่เธอจะดูป๊อป เธอกลับดูเหมือนพวกใจง่าย ขาดความรัก เพราะกลัวว่าคน ที่รักเธอจะจรลีไป เลยกั๊กไว้ซะงั้น

16. คิดว่าเป็นเรื่องเท่ ที่ทำตัวเกเรมั่วอบายมุข

สุด ท้าย ที่ถ้าใครทำอยู่ควรเปลี่ยนด่วนก็คือ การมั่ว อบายมุข สุรา ยาเสพติด ทั้งหลาย ถ้าเธอหลงไปมัวเมากับมันเมื่อไหร่ มีแต่อนาคตดับวูบก็เท่านั้น เชื่อ เหอะ .. ของพวกนี้น่ะไม่เคยทำให้ชีวิตใครดีขึ้น มี แต่ตกต่ำลงจนกระทั่งไม่เหลืออะไรเลย
5  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / หนังสือสวดมนต์ ครับ ดาวน์โหลดไดที่นี่ครับ เมื่อ: มีนาคม 02, 2011, 04:59:31 pm
แนะนำคู่มือสวดมนต์ จัดพิมพ์โดยกรมการศาสนาครับ

ดาวน์โหลดได้ในหน้าตามลิงค์นี้ครับ

http://www.dra.go.th/elibrary/bookdetail.php?bookid=54

ถ้าต้องการแบบเข้มข้น ก็ต้องหนังสือมนต์พิธีครับ จากกรมการศาสนาเช่นเดียวกัน

http://www.dra.go.th/emedia/bookdetail.php?bookid=17


http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=988553&d=1275534232

แนะนำบทสวดมนต์ที่เป็น mp3 ได้ไหมครับ

http://www.luangphee.co.cc
   
   
6  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ฟังว่านิพพาน คือความพอ เพื่อนสมาชิกมีความเห็นอย่างไรคะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2011, 07:34:23 am
ได้ฟังจากรายการเจาะใจไปเมืือสักครู่นี้ ว่าหลวงตามหาบัว ท่านสรุปว่า นิพพานคือความพอ ที่เหนือกว่าความพอของชาวโลก เพื่อนๆ มีความเห็นอย่างไรคะ


 :25:
7  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ปรัชญาเรื่องเงิน ที่มีสัจจธรรม ในตัว "เงินซื้อได้ทุกอย่าง" เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 04:42:27 am
ปรัชญาเรื่องเงิน ที่มีสัจจธรรม ในตัว

เงิน  ซื้อบ้านได้ แต่ซื้อความอบอุ่นไม่ได้

เงิน  ซื้อเตียงได้ แต่ซื้อการนอนหลับไม่ได้

เงิน  ซื้อยาได้ แต่ซื้อสุขภาพไม่ได้

เงิน  ซื้อหนังสือได้ แต่ซื้อความรู้ไม่ได้

เงิน  ซื้อตำแหน่งได้ แต่ซื้อความนับถือไม่ได้

เงิน  ซื้อSEXได้ แต่ซื้อความรักไม่ได้

เงิน  ซื้อกระดาษปากกาได้ แต่ซื้อความเป็นกวีไม่ได้

เงิน  ซื้ออาหารดีๆได้ แต่ซื้อความอยากรับทานไม่ได้

เงิน  ซื้อความประจบสอพลอได้ แต่ซื้อความจริงใจไม่ได้

เงิน  ซื้อการตามใจได้ แต่ซื้อความจงรักภักดีไม่ได้



เงิน  ซื้อเพชรนินจิลดาได้ แต่ซื้อความงามไม่ได้

เงิน  ซื้อความสนุกชั่วครู่ได้ แต่ซื้อความสุขไม่ได้

เงิน  ซื้อเพื่อนร่วมเดินทางได้ แต่ซื้อเพื่อนแท้ไม่ได้

เงิน  ซื้ออำนาจราชศักดิ์ได้ แต่ซื้อปัญญาไม่ได้

เงิน  ซื้ออาวุธยุธภัณฑ์ได้ แต่ซื้อสันติสุขไม่ได้

เงิน  ซื้อเมียที่สวยได้ แต่ซื้อแม่ที่ดีให้ลูกไม่ได้




แล้วใหนเล่าที่คนเราทุกคนคิดว่า "เงิน" ซื้อทุกสิ่งทุกอย่างได้

เมื่อคุณตายไปแล้วคุณสามารถเอาสมบัติของคุณไปได้ใหม

สิ่งที่จะติดตัวกับเราไปตราบชั่วนานก็คือ
"ความดี" "ความชั่ว"
ที่เราได้ก่อขึ้นมาเท่านั้นเอง!!!
8  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / แนะันำโปรแกรม สามัญ ฟรี ไปที่นี่ครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 04:29:33 am
https://ninite.com/

  Ninite คือ เว็บไซต์ ที่เป็นเสมือนร้านค้าสะดวกซื้อสำหรับซอฟต์แวร์ที่ฮิตๆและฟรีๆมารวมอยู่ในที่ เดียวกัน ที่คุณต้องทำก็เพียงเข้าไปช้อปปิ้งโดยการติ๊กเลือกซอฟต์แวร์ที่ต้องการและ ใช้อยู่ประจำ โดยมีให้เลือกถึงหนึ่งโหล อาทิ เบราว์เซอร์ โปรแกรมดูหนัง ฟังเพลง แชต ฯลฯ ครบครัน จากนั้นก็จะได้โปรแกรมที่กดคลิกเดียวก็ติดตั้งทุกโปรแกรมที่เราเลือกเอาไว้ ก่อนหน้านี้ได้ทันที
     
 
       ตัวอย่างโปรแกรมที่มีบริการใน Ninite (ซึ่งเลือกเฉพาะโปรแกรมที่เป็นฟรีแวร์มาโดยเฉพาะ)

1. โปรแกรมเปิดชมเว็บไซต์ อาทิ Chrome, Safari, Opera, Firefox
       
       2. โปรแกรมสนทนา อาทิ Skype, Windows Live Messenger,Digsby, Google Talk เป็นต้น
       
       3. โปรแกรมเล่นไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ อาทิ iTunes, VLC, KMPlayer, Winamp เป็นต้น
       
       4. โปรแกรมเปิดชมภาพ อาทิ Paint.NET, Google Picasa, GIMP เป็นต้น
       
       5. โปรแกรมเปิดอ่านไฟล์เอกสาร อาทิ OpenOffice, Adobe Reader, CutePDF เป็นต้น
       
       6. โปรแกรมป้องกันไวรัส อาทิ Essentials, Avast, AVG
       
       7. โปรแกรมที่ช่วยให้โปรแกรมอื่นทำงานได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น (Runtimes) อาทิ Flash, Java, Silverlight เป็นต้น
       
       8. โปรแกรมโหลดไฟล์ที่คนนำมาแจกกัน (File Sharing) อาทิ uTorrent, eMule
       
       9. โปรแกรมน่าสนใจอื่นๆ (Other) อาทิ Dropbox, Evernote, BumpTop, Google Earth เป็นต้น
       
       10. โปรแกรมใช้งานอื่นๆ (Utilities) อาทิ ImgBurn, CCleaner, Revo Uninstaller, RealVNC, CDBurnerXP เป็นต้น
       
       11. โปรแกรมบีบอัดไฟล์ (Compression) อาทิ 7-Zip, WinRAR
       
       12. โปรแกรมสำหรับนักพัฒนา (Developer Tools) อาทิ FileZilla, Notepad++, WinSCP เป็นต้น
       
       อาจกล่าวได้ว่า Ninite คือ เว็บไซต์ที่เหมาะกับมือใหม่ทุกๆคน เพราะสามารถลงโปรแกรมต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง แค่ 4 ขั้นตอน ได้แก่
       1. ติ๊กเลือกโปรแกรมต่างๆ ที่ต้องการ และกดปุ่ม Get Installer ทางด้านล่างสุด 2. ดาวน์โหลดโปรแกรมทั้งหมดมาไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ จะได้เป็นไฟล์เดียวที่มนามสกุล .exe

ข้อดีของ Ninite ที่นอกจากฟรี ใช้งานง่ายแล้ว ยังไม่มีการแอบใส่โปรแกรมแปลกปลอม อาทิ ทูลบาร์ หรือโปรแกรมเสริมอื่นที่เราไม่รู้จักและไม่อยากได้เหมือนในเว็บดาวน์โหลด โปรแกรมทั่วไป ทั้งยังดึงเอาเวอร์ชันล่าสุดของทุกโปรแกรมมาให้เราแล้ว ทำให้ไม่ต้องไปอัปเดตอีกครั้งหลังที่ลงโปรแกรมเสร็จ ส่วนข้อเสียก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่ากว่าครึ่งร้อยโปรแกรมที่มีอยู่ตอนนี้ ก็อาจจะยังตอบสนองความต้องการของทุกคนไม่ได้ทั้งหมด แต่เชื่อมั่นว่าจะต้องมีมาเพิ่มอีกหลายโปรแกรมในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน
       
       สุดท้าย ถ้าคุณรู้ว่าคอมฯ เครื่องใหม่ของคุณเป็นระบบวินโดวส์ รุ่น XP,Vista,7 ก็เชิญแวะช้อปโปรแกรมที่ชอบได้ที่ Ninite ได้เลย!

ที่มาเนื้อหา
http://www.fwdder.com
9  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รวมเรื่องจริง ที่คุณโดนหลอกบ่อยๆ จาก fwd เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 03:51:39 am
รวมเรื่องจริง ที่คุณโดนหลอกบ่อยๆ

รวบรวมความเชื่อที่ถูกบอกกล่าวเล่าขานกันมานานเกี่ยวกับสุขภาพและร่างกาย อะไรจริง อะไรมั่ว ลองตามไปอ่านกันค่ะ

ความเชื่อ :  หลังจากเสียชีวิต ผมและเล็บของมนุษย์ยังสามารถยาวและงอกต่อได้ เนื่องมาจากสารเคมีในร่างกายตามธรรมชาติ
ข้อเท็จจริง :  ไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อเสียชีวิต อวัยวะทุกอย่างจะหยุดทำงานอย่างถาวร แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเสียทีเดียว เพราะเมื่อเราเสียชีวิตผิวหนังบริเวณเล็บและหนังศีรษะที่เป็นเนื้อเยื่ออ่อน จะหดลงตามธรรมชาติ (เช่นเดียวกับเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ) ทำให้ดูเหมือนว่าผมและเล็บยาวขึ้นได้เอง

ความเชื่อ :  อ่านหนังสือในที่สลัว หรือใช้ไฟฉายส่องจะทำให้สายตาเสีย-ต้องใส่แว่น
ข้อเท็จจริง :  นับว่าเป็นหนึ่งในคำขู่สุดฮิตของบรรดาคุณพ่อและคุณแม่ การที่อ่านหนังสือในที่มีแสงสว่างน้อย หรือใช้ไฟฉายส่องไม่มีผลทำให้สายตาเสียขนาดต้องใส่แว่น อย่างไรก็ตามการอ่านหนังสือในที่ที่แสงสว่างส่องไม่เพียงพอ หรือแสงที่ส่องไม่มีคุณภาพ เช่น แสงจากหลอดไส้ แสงไฟฟลูออเรสเซนท์ที่มีสีแสบตา การอ่านหนังสือในสภาวะเช่นนี้ส่งผลทำให้ตาต้องปรับโฟกัสมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการตาแห้ง เมื่อยล้าได้ง่าย เนื่องจากต้องใช้การเพ่งมากกว่าปกติ ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก



ความเชื่อ :  เผลอกลืนหมากฝรั่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ข้อเท็จจริง :  เป็นคำขู่ของผู้ใหญ่อีกเช่นกัน แต่ก็ทำให้เด็กระมัดระวังในการเคี้ยวหมากฝรั่งได้ผลดีนัก ในความเป็นจริงแล้ว การเผลอกลืนหมากฝรั่งไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต ไม่ถึงขนาดต้องไปพึ่งแพทย์ให้ผ่าตัดเอาก้อนหมากฝรั่งออก เพราะระบบย่อยอาหารของคนเราสามารถย่อยหมากฝรั่งได้เหมือนกับอาหารชนิดอื่นๆ แต่ระบบย่อยอาหารอาจจะต้องทำงานหนักมากกว่าปกติสักหน่อย เนื่องจากส่วนผสมหนึ่งของหมากฝรั่งคือยาง แต่ก็สามารถย่อยหมดภายในเวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นขับออกมาทางอุจจาระตามปกติ


ความเชื่อ :  การดึงหรือหักนิ้วมากๆ จะทำให้เป็นโรคข้ออักเสบ หรือข้อเสื่อมได้ง่าย
ข้อเท็จจริง :  โรคข้ออักเสบ หรือข้อเสื่อมมีปัจจัยมาจากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม อายุ น้ำหนัก อาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือการติดเชื้อบริเวณข้อ เป็นต้น การดึงหรือหักนิ้วจนทำให้เกิดเสียงดังกร๊อบแกร๊บ เป็นการบิดและดึงจนทำให้น้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อที่ป้องกันการเสียดสีระหว่าง กระดูก เกิดแรงดันกลายเป็นฟองอากาศจนเกิดเสียงขึ้น การดึงแบบนี้ไม่ส่งผลใดๆ ต่อข้ออย่างที่เข้าใจกัน แต่การดึงหรือหักข้อนิ้วเป็นประจำจะทำให้เอ็นรอบๆ ข้อสูญเสียความแข็งแรงและความยืดหยุ่น


ความเชื่อ :  กินไอศกรีมโยเกิร์ตลดความอ้วน แถมดีต่อร่างกาย
ข้อเท็จจริง :  สิ่งที่เหมือนกันระหว่างโยเกิร์ตและไอศกรีมโยเกิร์ตคือ สีขาวของโยเกิร์ต การเลือกรับประทานไอศกรีมที่ทำมาจากโยเกิร์ตย่อมดีกว่าไอศกรีมทั่วไปใน เรื่องของปริมาณพลังงานและไขมัน ทั้งนี้หากพิจารณาคุณประโยชน์ที่ได้จากการรับประทานไอศกรีมโยเกิร์ตก็คงจะดี ไม่เท่ากับการรับประทานโยเกิร์ต เนื่องจากไอศกรีมที่ทำมาจากโยเกิร์ตต้องผ่านกระบวนการผลิตและปั่นหลายขั้น ตอน ทำให้จุลินทรีย์ชนิดดีต่อสุขภาพนั้นสูญสลายไปหมด ถ้าอยากลดความอ้วนหันมารับประทานผลไม้สดแช่เย็นก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย


 :85: :s_laugh:
10  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / วันมาฆบูชา ๑๘-๒๐ ก.พ.๕๔ ขอเชิญร่วมงานบวชเนกขัมมะบารมี ณ ศูนย์พุทธศรัทธา เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2011, 01:01:40 am
วันมาฆบูชา ๑๘-๒๐ ก.พ.๕๔ ขอเชิญร่วมงานบวชเนกขัมมะบารมี ณ ศูนย์พุทธศรัทธา    

วันศุกร์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์-วันอาทิตย์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบำเพ็ญมหากุศล

งานบวชเนกขัมมะบารมี ครั้งที่ ๗๑ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันมาฆบูชา

ณ ศูนย์พุทธศรัทธา สำนักปฏิบัติพระกรรมฐาน สาขาวัดท่าซุง

 

                  กำหนดการวันศุกร์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
๐๙.๐๐ น. เริ่มลงทะเบียนบวช ปฐมนิเทศและทำวัตรสวดมนต์
๑๐.๓๐ น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และถวายภัตตาหารเพล
๑๒.๐๐ น. เริ่มพิธีบวชเนกขัมมะบารมี โดยพระเดชพระคุณพระธรรมปิฏก เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี
วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร เป็นองค์ประธานในพิธี
๑๔.๐๐ น. ถวายสังฆทานฟังธรรมโอวาทจากครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน วัดอ้อมแก้วมณีโชติ
๑๗.๓๐ น. เดินจงกรมและทำวัตรสวดมนต์
๑๙.๐๐ น. พิธีเวียนเทียนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาวันมาฆบูชา
๑๙.๓๐ น. ปฏิบัติพระกรรมฐาน (มโนมยิทธิ)

                  วันเสาร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
๐๕.๐๐ น. ปฏิบัติพระกรรมฐานโดยพระมหาสายชล วัดมงคลชัยพัฒนา
๐๖.๑๕ น. ใส่บาตรพระสงฆ์-เดินจงกรม-อาหารเช้าและทำวัตรสวดมนต์
๐๙.๓๐ น. ฟังธรรมโอวาทจากพระมหาสายชล วัดมงคลชัยพัฒนา
๑๒.๐๐ น. อบรมสมาธิและฝึกมโนมยิทธิ โดย อ.คณานันท์ ทวีโภค จากเว็บพลังจิต
๑๕.๓๐ น. ฟังธรรมโอวาทจากพระมหาบุญส่ง สุภัทโท วัดแค จ.พระนครศรีอยุธยา
๑๘.๐๐ น. ทำวัตรสวดมนต์
๒๐.๐๐ น. ฟังธรรมโอวาทจากพระเดชพระคุณพระราชสุเมธี วัดภูตูมวนาราม จ.เลย

                  วันอาทิตย์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
๐๕.๐๐ น. ปฏิบัติพระกรรมฐาน โดยพระเดชพระคุณพระราชสุเมธี วัดภูตูมวนาราม จ.เลย
๐๖.๑๕ น. ใส่บาตรพระสงฆ์-เดินจงกรม-อาหารเช้าและทำวัตรสวดมนต์
๐๙.๓๐ น. ฟังธรรมโอวาท-ตอบปัญหาธรรม โดยพระเดชพระคุณพระราชสุเมธี
๑๒.๐๐ น. พิธีทอดผ้าป่าสามัคคีและลาสิกขา โดยพระเดชพระคุณพระราชสุเมธี เป็นองค์ประธานในพิธี
๑๔.๐๐ น. นำอธิษฐานจิตและอุทิศส่วนกุศล เป็นอันเสร็จพิธี

 

ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
คุณชนะ สิริไพโรจน์ ประธานศูนย์พุทธศรัทธา โทรฯ :๐๓๖-๒๐๑๖๐๐,๐๘๔-๑๐๗๖๑๐๖
อ.วิภาพร วิรัชกุล รองประธานศูนย์พุทธศรัทธา โทรฯ :๐๘๑-๙๓๗๐๒๔๔

เว็บศูนย์พุทธศรัทธา : BuddhaSattha.com
หรืออีเมล์ : info@buddhasattha.com">info@buddhasattha.com

คลิกดู : แผนที่เดินทางไปศูนย์พุทธศรัทธา
คลิกชม : ภาพงานบวชวันมาฆบูชา ปี ๒๕๕๓ ณ ศูนย์พุทธศรัทธา

ข้อมูลจากเว็บศูนย์พุทธศรัทธา : BuddhaSattha.com
11  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / เหตุให้พระศาสนาดำรงอยู่ไม่นานและนาน เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2011, 12:54:35 am


[๗] ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรไปในที่สงัดหลีกเร้นอยู่ ได้มีความปริวิตกแห่งจิตเกิด
ขึ้นอย่างนี้ว่า พระศาสนาของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทั้งหลาย พระองค์ไหนไม่ดำรงอยู่นาน ของ
พระองค์ไหนดำรงอยู่นาน ดังนี้ ครั้นเวลาสายัณห์ท่านออกจากที่เร้นแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระ-
ภาค ถวายบังคม นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าไปใน
ที่สงัดหลีกเร้นอยู่ ณ ตำบลนี้ ได้มีความปริวิตกแห่งจิตเกิดขึ้นอย่างนี้ว่า พระศาสนาของพระผู้มี
พระภาคพุทธเจ้าทั้งหลาย พระองค์ไหนไม่ดำรงอยู่นาน ของพระองค์ไหนดำรงอยู่นาน.
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรสารีบุตร พระศาสนาของพระผู้มีพระภาคพระนามวิปัสสี
พระนามสิขี และพระนามเวสสภู ไม่ดำรงอยู่นาน ของพระผู้มีพระภาคพระนามกกุสันธะ พระ
นามโกนาคมนะ และพระนามกัสสปะดำรงอยู่นาน.

ส. อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ให้พระศาสนาของพระผู้มีพระภาคพระนามวิปัสสี
พระนามสิขี และพระนามเวสสภู ไม่ดำรงอยู่นาน พระพุทธเจ้าข้า?

ภ. ดูกรสารีบุตร พระผู้มีพระภาคพระนามวิปัสสี พระนามสิขี และพระนามเวสสภู
ทรงท้อพระหฤทัยเพื่อจะทรงแสดงธรรมโดยพิสดารแก่สาวกทั้งหลาย อนึ่ง สุตตะ เคยยะ
เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ ของพระผู้มีพระภาคทั้ง
สามพระองค์นั้นมีน้อย สิกขาบทก็มิได้ทรงบัญญัติ ปาติโมกข์ก็มิได้ทรงแสดงแก่สาวก เพราะ
อันตรธานแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น เพราะอันตรธานแห่งสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า
เหล่านั้น สาวกชั้นหลังที่ต่างชื่อกัน ต่างโคตรกัน ต่างชาติกัน ออกบวชจากตระกูลต่างกัน จึง
ยังพระศาสนานั้นให้อันตรธานโดยฉับพลัน ดูกรสารีบุตร ดอกไม้ต่างพรรณที่เขากองไว้บนพื้น
กระดาน ยังไม่ได้ร้อยด้วยด้าย ลมย่อมกระจาย ขจัด กำจัด ซึ่งดอกไม้เหล่านั้นได้ ข้อนั้น
เพราะเหตุอะไร เพราะเขาไม่ได้ร้อยด้วยด้าย ฉันใด เพราะอันตรธานแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า
เหล่านั้น เพราะอันตรธานแห่งสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าเหล่านั้น สาวกชั้นหลังที่ต่างชื่อกัน
ต่างโคตรกัน ต่างชาติกัน ออกบวชจากตระกูลต่างกัน จึงยังพระศาสนานั้นให้อันตรธานโดยฉับพลัน
ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น ทรงท้อพระหฤทัยเพื่อจะทรง
กำหนดจิตของสาวกด้วยพระหฤทัย แล้วทรงสั่งสอนสาวก.
12  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / คุณเคยเห็นวิญญาณ ( ผี ) กันบ้างหรือไม่ ? เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2011, 12:50:47 am
เรื่อง วิญญาณ ( ผี ) สัมภะเวสี หรือ เทวดา เป็นเรื่องที่พูดลำบากมากครับ อยากทราบว่าเพื่อนแต่ละท่าน

แต่ละคนมีประสพการณ์ในการ เห็น พบ เจอ ประสพ กับตนเองมาในรูปแบบ ใดกันบ้างครับ

มาแชร์ประสพการณ์ กันหน่อยดีไหมครับ

 :25:
13  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / วิธีระงับความโกรธที่ได้ผล พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้มีอยู่ 9 วิธี เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2011, 02:39:35 am

วิธีระงับความโกรธที่ได้ผล พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้มีอยู่ 9 วิธี  แต่จะขอยกมาเล่า 7  วิธีดังนี้
1.  ให้ระลึกถึงโทษของความโกรธ - ความโกรธนั้นมีโทษด้วยประการต่างๆซ้ำยังหาค่าไม่ได้ ถ้าคนเขามาโกรธ ( ด่า ) เราแล้วเราโกรธ ( ด่า )ตอบ เราก็ได้ชื่อว่าเลวเสียยิ่งกว่าคนที่มาโกรธ ( ด่า ) เราก่อนเสียอีก  ผู้ไม่โกรธ ( ด่า )คนที่กระทำกับตนก่อน  ผู้นั้นได้ชื่อว่าชนะสงครามที่ชนะยาก
2.  ให้ระลึกถึงความดีของเขา - ธรรมดาของคนโดยทั่วไปย่อมมีทั้งส่วนดีและไม่ดีอยู่ในตัวเอง ให้เรานึกถึงแต่ในส่วนดีของเขา  แต่ถ้าหาส่วนดีของเขาไม่เจอจริงๆก็ให้นึกสงสาร  คิดเสียว่าน่าสงสาร  ต่อไปนี้คนๆนี้จะต้องประสยกับเคราะห์ร้ายต่างๆ เพราะความประพฤติไม่ดีอย่างนี้
3.  ให้ระลึกถึงความจริงว่า..ความโกรธคือการทำให้ตัวเองทุกข์ - คนที่โกรธแล้วเป้นสุขนั้นไม่มีในโลก เมื่อเราคิดได้อย่างนี้แล้วเราก็ต้องไม่โกรธเพราะเรื่องอะไรจะทำให้ตัวเอง ทุกข์จริงไหม
4.  ให้พิจารณาว่า..สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆตน - กรรมที่เกิดจากความโกรธนั้นจะทำให้บรรลุความหลุดพ้นก็หาไม่ จะช่วยให้ได้ทิพยสมบัติหรือมนุษย์สมบัติก็หาไม่มีแต่จะทำให้ตัวเองตกต่ำลงไป จนถึงกับต้องตกนรกหมกไหม้  เมื่อพิจารณาได้ดังนี้แล้วก็ไม่ควรให้ความโกรธเกิดขึ้นในตัวเรา
5.  ให้พิจารณาพระจริยวัตรในปางก่อนของพระพุทธเจ้า - พระพุทธเจ้าของเรานั้น  กว่าจะตรัสรู้ก็ได้ทรงบำเพ็ญบารมีมาตลอดเวลายาวนานทั้งทรงบำเพ็ญประโยชน์ แก่ผู้อื่น เสียสละแม้แต่พระชนม์ชีพของพระองค์เอง เมื่อทรงถูกกลั่นแกล้งหรือเบียดเบียนด้วยวิธีการต่างๆนานาก็ไม่ทรงแค้นเคือง ทรงเอาดีเข้าตอบถึงเขาจะตั้งตัวเป็นศัตรูขนาดพยายามปลงพระชนม์ก็ไม่ทรงมีจิต ประทุษร้าย ดังปรากฏในชาดก เช่น เรื่องมหาสีลวชาดก มหากปิชาดก  เป็นต้น
6.  ให้พิจารณาถึงความเกี่ยวข้องในวัฏสงสาร - ดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า..ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  สัตว์ที่ไม่เคยเป้นบิดา มารดา  พี่ชายน้องชาย พี่น้องหญิง ไม่เคยเป็นบุตรธิดาของเรามิใช่หาได้ง่าย อันนี้ก็หมายความว่า มนุษยืทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ต้องเคยเกี่ยวข้องกันมาในอดีตชาติไม่ชาติใดก็ ชาติหนึ่ง ถึงได้มาเจอกันอีก เราจึงไม่ควรโกรธหรือใจร้ายกับเขา
7.  พิจารณาอานิสงส์ของเมตตา - ความโกรธมีแต่โทษ ก่อผลร้ายมากมายเพียงใด เมตตาก็มีคุณก่อให้เกิดผลดีมากเพียงนั้น  ผู้ที่มีเมตตาย่อมสามารถเอาชนะใจคนอื่นซึ่งเป็นชัยชนะที่ชนะเด็ดขาดไม่กลับ แพ้  ผู้ที่ตั้งอยู่ในความเมตตาชื่อว่า...ทำประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น...
( คัดมาจาก...ธรรมนิยายชุดสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เรื่องที่ 3 - สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม บทที่ 21  หน้า 232 - 234 โดย สุทัสสา  อ่อนค้อม )
    ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้มีจิตมั่นคงหนักแน่นตลอดไป...ขอบุญจงรักษาท่านและขออนุโมทนาด้วยครับ


จากคุณ : จักรธรรม
14  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อานิสงค์ โพธิจิต เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 02:20:56 am

บทที่หนึ่ง

อานิสงส์ของโพธิจิต


โอม ขอนอบน้อมแด่สมเด็จพระผู้มีพระภาค !

1. ข้าขอนอบน้อมแด่เหล่าพระสุคตเจ้าทั้งหลาย ผู้ทรงไว้ซึ่งพระธรรมกาย
พร้อมทั้งเหล่าพระชินบุตรและพระผู้ควรแก่การบูชาทั้งปวง
ข้าฯจะแสดงซึ่งวิถีแห่งเหล่าพระชินบุตรตามที่แสดงไว้ในพระธรรม

2. ในที่นี้ไม่มีอะไรเลยที่ไม่เคยมีผู้กล่าวไว้แล้ว
และข้าฯก็ไม่มีความชำนาญในการประพันธ์
ดังนั้น ข้าฯจึงไม่มีความห่วงใยประโยชน์ของสัตว์โลกอื่นๆ
และได้แต่งบทเหล่านี้มาเพื่อประโยชน์ของจิตของข้าฯเอง

3. ด้วยเหตุนี้ พลังของศรัทธาของข้าฯจึงเพิ่มพูนขึ้นเพื่อปลูกฝังคุณธรรม
ยิ่งไปกว่านั้นหากมีใครสักคนที่มีลักษณะอาการเหมือนข้าฯ
แล้วมาตรวจสอบบทประพันธ์นี้
บทนี้ก็อาจมีความหมายแก่เขาบ้าง

4. เสรีภาพ (ในการปฏิบัติธรรม) และปัจจัยเอื้ออำนวยต่างๆ
ต่างก็ได้มาได้อย่างยากยิ่ง
และต่างก็มีผลต่อการยังประโยชน์ให้แก่โลกทั้งมวล
สองสิ่งนี้ก็ได้มาแล้ว
หากยังละเลย ไม่ฉกฉวยโอกาสอันดียิ่งนี้เอาไว้
แล้วเมื่อใดเล่าจะเกิดโอกาสเช่นนี้อีก?

5. เช่นเดียวกับแสงฟ้าแลบ ซึ่งยังความสว่างให้บังเกิดในคืนเดือนมืด
แม้เพียงชั่วขณะ
ด้วยอำนาจแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้า
ในบางครั้งจิตของมนุษย์ก็น้อมนำไปสู่บุญบารมี
แม้เพียงชั่วขณะเช่นกัน

6. ด้วยเหตุนี้ ธรรมฝ่ายกุศลจึงอ่อนกำลังอยู่ตลอดเวลา
หากกำลังของฝ่ายอกุศลนั้นแรงยิ่งนัก และน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
ดังนั้น หากปราศจากโพธิจิตเสียแล้ว
จะมีกุศลกรรมใดอีกเล่าที่จะเอาชนะอกุศลกรรมเหล่านี้ได้?


7. พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ซึ่งได้ทรงพิจารณาเรื่องนี้มาเป็นเวลาหลายกัป
ทรงเห็นว่าสิ่งนี้เท่านั้นที่ทำให้ปิติพอกพูนขึ้น
และยังสัตว์โลกอันมีจำนวนสุดจะประมาณให้รอดพ้นจากสังสารวัฏ

8. ผู้ที่ปรารถนาจะเอาชนะทุกข์ทั้งหลายที่อยู่กับสังสารวัฏ
ผู้ที่ปรารถนาจะขจัดปัดเป่าความทุกข์ของเหล่าสัตว์
และผู้ที่ปรารถนาจะรับรสแห่งปิติอันไพศาล
ไม่ควรเลยที่จะละเลิกโพธิจิต

9. ทันใดที่โพธิจิตบังเกิดขึ้น
ณ บัดนั้นผู้ทุกข์ยากที่ถูกจองจำอยู่ในคุกของสังสารวัฏ
ก็เรียกว่าเป็นบุตรธิดาของพระสุคตเจ้า
ผู้นั้นจะเป็นผู้ที่ควรแก่การบูชาทั้งในเทวโลกและมนุษยโลก

10. เมื่อโพธิจิตปรากฏในสัตว์ที่ยังไม่บริสุทธิ์
สัตว์นั้นก็จะเปลี่ยนไปเป็นภาพอันหาค่ามิได้ของแก้วมณีของพระชินเจ้า
ด้วยเหตุนี้
จงยึดถือในน้ำอมฤตอันได้แก่โพธิจิตนี้
ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง

11. ผู้นำแต่เพียงผู้เดียวของโลก ผู้ซึ่งจิตของท่านลึกสุดจะประมาณได้
ก็ได้ตรวจสอบคุณค่าของโพธิจิตมาแล้ว
ท่านซึ่งน้อมนำไปในทางที่จะหนีออกจากสภาพความเป็นอยู่พื้นๆในสังสาระ
ก็ควรจะยึดเอาแก้วมณีอันได้แก่โพธิจิตนี้ไว้

12. เช่นเดียวกับต้นกล้วย ที่เหี่ยวตายลงไปเมื่อมีผลออกมา
คุณธรรมอื่นๆทั้งหมดก็เสื่อมถอยลงไปได้
แต่ต้นไม้แห่งพระโพธิจิตออกผลอยู่ตลอดเวลา
ไม่มีวันเหี่ยวเฉาเสื่อมสลาย หากมีแต่จะเจริญงอกงามขึ้น

13. การปกป้องนี้เป็นการปกป้องผู้ที่มีพลัง
แม้แต่ภายหลังจากที่เขาได้กระทำบาปอันใหญ่หลวง
ด้วยเหตุแห่งการปกป้องของโพธิจิตนี้
แม้ผู้ที่ทำบาปเช่นนี้ก็ยังปราศจากความกลัว
เมื่อเป็นเช่นนี้
เหตุใดสัตว์โลกทั่วไปจึงไม่แสวงหา โพธิจิตเป็นที่พึ่งแห่งตน

14. ไฟประลัยกัลป์ที่เกิดขึ้นเมื่อเอกภพถึงกาลสิ้นสุด
เผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดฉันใด
ไฟอันได้แก่โพธิจิตนั้น
ก็เผาผลาญอกุศลกรรมทั้งหมดให้มอดไหม้ไปในบัดดลฉันนั้น
พระไมเตรยะพุทธเจ้า
ได้ตรัสเรื่องอานิสงส์อันประมาณไม่ได้ของโพธิจิตนี้ไว้แก่พระสุธนะ

15. กล่าวย่อๆ โพธิจิตมีสองประเภท ได้แก่
จิตที่ตั้งความมุ่งมั่นจะตรัสรู้
กับ
จิตที่กำลังเดินทางสู่การตรัสรู้

16. เช่นเดียวกับผู้ที่มองห็นความแตกต่างระหว่าง
คนที่ตั้งความปรารถนาจะเดินทาง
กับ
ผู้ที่กำลังเดินทางอยู่
บัณฑิตย่อมเห็นความแตกต่างระหว่างโพธิจิตสองแบบนี้

17. แม้ว่าอานิสงส์ของการตั้งความปรารถนาจะตรัสรู้
จะยิ่งใหญ่มหาศาลในสังสารวัฏ
อานิสงส์นี้ยังเทียบไม่ได้กับบุญบารมีอันหลั่งไหลไม่ขาดสาย
อันเกิดจากการลงมือเดินทางไปสู่การตรัสรู้

18. นับตั้งแต่เวลาที่คนผู้หนึ่งตั้งโพธิจิตมั่นคงแน่วแน่มั่นคง
เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์อันมีจำนวนสุดที่จะประมาณ
และจะไม่มีวันเลิกล้มโพธิจิต
นั้นไม่ว่ากรณีใดๆ

19. นับตั้งแต่เวลานั้น
บุญอันยิ่งใหญ่มหาศาลดุจดังท้องฟ้า
ก็จะหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย
แม้ในขณะที่เขาหลับหรือมีจิตไม่เป็นสมาธิ

20. พระตถาคตเองก็ตรัสเรื่องนี้ไว้อย่างมีเหตุผลใน สุพาหุปฤจฉา
เพื่อประโยชน์แก่เหล่าสัตว์ที่โน้มเอียงไปในทางของหินยาน

21. บุคคลผู้มีจิตใจดี ผู้คิดว่า
"ฉันจะกำจัดโรคปวดหัวให้หมดไปจากสัตว์โลก"
จะได้บุญมหาศาล

22. แล้วบุคคลที่ปรารถนาจะกำจัดความเจ็บปวด
อันไม่มีอะไรมาเปรียบได้ของสัตว์โลกทุกๆตน
และมอบคุณสมบัติที่ดีมากจนหาประมาณมิได้เล่า
จะได้บุญมากเพียงใด?

23. ใครมีแม้แต่มารดาหรือบิดาที่มีจิตเห็นแก่ผู้อื่นเช่นนี้?
ทวยเทพ
ฤาษี
หรือ
พระพรหม
จะมีสิ่งนี้หรือไม่?

24. ถ้าหากบุคคลเหล่านี้ไม่เคยแม้แต่จะปรารถนาโพธิจิต
แม้แต่เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง
เขาจะมีโพธิจิตเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นได้อย่างไร?

25. แก้วมณีอันล้ำค่า และไม่เคยมีมาก่อนเช่นนี้
ความปรารถนาแก้วนี้เพื่อประโยชน์ของสัตว์อื่นๆ
มิได้เคยบังเกิดในผู้อื่น
แม้แต่เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง
เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?

26. เราจะวัดปริมาณบุญของแก้วมณีแห่งจิตนี้ได้อย่างไร
อันเป็นเมล็ดพันธุ์ของความปิติสุขในโลก
และเป็นยารักษาโรคทุกข์ของโลก?

27. ถ้าหากการเคารพบูชาพระพุทธเจ้าทั้งหลายนั้น
ยังมีที่เหนือไปกว่าได้แก่
ความปรารถนาจะยังประโยชน์แก่ผู้อื่น
แล้วความพยายามที่จะยังสัตว์โลกทั้งมวล
ให้ประสบกับความสุขอันสมบูรณ์สูงสุดเล่า
จะเหนือกว่าทั้งหมดเพียงใด?

28. เหล่าผู้ที่ปรารถนาจะหลุดพ้นจากทุกข์
ต่างก็เร่งรุดวิ่งไปหาทุกข์
ด้วยความปรารถนาจะได้มาซึ่งความสุข
พวกเขาทำลายความสุขของเขาลง
ราวกับเป็นข้าศึก
ด้วยจิตอันเปื้อนด้วยกิเลสของเขาเอง

29. เขาผู้นั้นยังความปิติทั้งหมด
และยังความพอใจให้แก่ผู้ที่หิวกระหายความสุข
เขาก็ยังกำจัดความโศกทั้งหลาย
ที่เกิดแก่ผู้ที่ถูกกิเลสรบกวน
ด้วยหนทางต่างๆ

30. เขากำจัดความเห็นผิดกับกิเลสทั้งมวล
ผู้ใจบุญเช่นนี้หาได้ที่ไหนอีก?
กัลยาณมิตรเช่นนี้จะมีได้อีกหรือ?
บุญอันมหาศาลยิ่งเช่นนี้จะมีที่ไหนอีกเล่า?

31. แม้แต่ผู้ที่ตอบแทนกรรมอันเป็นกุศล
ก็ยังได้คำชื่นชมพอสมควร
แล้วเราจะกล่าวอย่างไรกับ
พระโพธิสัตว์
ที่กรรมอันเป็นกุศลของท่านเกิดมาเองโดยมิได้ร้องขอ?

32. โลกยังยกย่องผู้ที่มอบของให้แก่คนจำนวนหนึ่งว่า
ผู้นั้นเป็นผู้ที่มีคุณธรรม
แม้ว่าจะเป็นการให้อาหารธรรมดาๆ และความช่วยเหลือเพียงครึ่งวัน
ซึ่งเป็นการให้ชั่วครั้งคราว
และให้ด้วยจิตอันดูหมิ่นดูแคลน

33.แล้วผู้ที่ให้อยู่ตลอดเวลาแก่สรรพสัตว์อันนับประมาณมิได้
ซึ่งการตอบสนองความต้องการทั้งสิ้นทั้งมวล
และเป็นความต้องการของสัตว์ทั้งหลายจำนวนนับไม่ถ้วน
อันไม่มีที่สิ้นสุดและกว้างใหญ่ไพศาลดุจท้องฟ้านภากาศเล่า?

34. สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดังนี้
"ใครที่มีจิตเป็นอกุศลในหัวใจแก่ผู้ที่ยังประโยชน์ให้แก่สัตว์อื่น
ผู้เป็นบุตรธิดาแห่งพระชินเจ้า
เขาผู้นั้นจะต้องทนทรมานในนรกเป็นเวลาหลายต่อหลายกัป
จนกว่าจิตอันเป็นอกุศลนั้นจะหมดไป"

35. แต่หากจิตของผู้นั้นมีความโน้มเอียงไปในทางกุศล
ผู้นั้นก็จะมีผลบุญมากมายเพิ่มพูนยิ่งขึ้นไปอีก
แม้ว่าจะมีอกุศลกรรมอันหนักยิ่งเกิดแก่บุตรธิดาของพระชินเจ้า
บุญบารมีของเขานั้นก็จะยังเกิดขึ้นอยู่เอง

36. ข้าฯขอกราบนมัสการกายของเหล่าูผู้ที่แก้วมณีอันหาค่ามิได้นี้ได้บังเกิดขึ้น
ข้าฯขอยึดเป็นที่พึ่งที่ระลึก ซึ่งเหล่าผู้ที่เป็นแหล่งที่มาแห่งปิติสุข
ผู้ซึ่งแม้แต่การทำร้ายก็ยังเกิดผลเป็นความสุข

จบ บทที่ 1 ค่ะ



ข้อความจากคุณ พยัคฆ์น้อยครับ

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10210371/Y10210371.html
15  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ไข่มุกถ้ำ รู้จักกันหรือป่าว ในยุคกระแสตื่นเรื่องพระธาตุ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 01:55:50 am
พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า

พบได้ในถ่ำโดยเฉพราะ เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา และหายาก
คนไทยมักจะเรียกว่า ลูกนิมิตในถ่ำ และมีความเชื่อที่ว่าเป็นลูกหินศักดิ์สิทธิ์
สามารถนำมาใช้ฝึกสมาธิได้ และผู้ที่ได้ครอบครองจะช่วยให้เป็นคนที่ใจเย็นได้

ความเป็นมาในไทยเรียกว่า พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า หรือ ไข่มุกกวนอิม ไข่มุกถ้ำ ไข่หินตัน หรือพญางูเผือก แล้วแต่คนจะเรียกกัน!

ธาตุกายสิทธิ์อีกชนิดหนึ่งที่จัดได้ว่ามีความแข็งของโมล์เท่ากับ 10 โมล์คือแข็งแกร่งเท่าเพชรหรือมากกว่าเพชรและมีพลังเทียบเท่ากับธาตุ กายสิทธิ์เหล็กไหลและพระบรมสารีริกธาตุเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีลักษณะและสีสรร รูปร่างเหมือนกับพระธาตุสมเด็จองค์ปฐมเลยครับ และยัง มีอีกชิ้นที่รูปร่างเหมือนกับพระธาตุของพระธาตุของพระอรหันต์ไม่ทราบพระนาม ด้วยครับ แต่องค์ขนาดเท่าลูกปิงปองเนี่ยก็หนักและมีพลัง เกินตัวมาก ด้วยความแข็งที่เท่ากับเพชรดังนั้นจึงมีพลังมากขนาดทำลายก้อนหินขนาดที่ใหญ่ กว่าได้

แต่บางคนบอกว่าใช้หินเจียที่เขาใช้ตัดเหล็ก มาค่อยๆตัดผ่าซีกกว่าจะตัดเข้าก็ใช้เวลานานมากครับ ซึ่งคนเก่าแก่บอกว่าเขาเอาไว้ ใต้ฐานพระพุทธรูปหรือที่พระธาตุหรือเจดีย์ต่างๆครับ เพราะบางคนก็เล่าว่าข้างในไข่มุกกวนอิมนั้นเป็นลูกแก้ว 7 สี บางคนก็บอกว่ามี 12 ราศีอยู่ข้างใน บางคนก็บอกว่ามีองค์เหล็กไหลอยู่ข้างใน ไข่มุกกวนอิมมักจะมีอยู่ในถ้ำลึกที่คนเข้าถึงยาก มีอยู่ทางภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคกลางกับภาคอิสานผมไม่รู้ว่ามีหรือไม่เพราะมันไม่มีข่าวออกมา และมีที่ถ้ำในธิเบตครับ ก็ที่ลามะธิเบตใช้ทำลูกประคำแขวนคอนั่นเอง เพราะจะมีองค์เล็กๆเท่าหัวแม่โป้งก็มี

อีกความเห็นหนึ่งที่ได้มาคือ พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า เหล็กไหลสีขาว ธาตุกายสิทธิ์พลังเย็น

พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า จัดเป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาและหายาก พระลามะทิเบตชอบมีไว้ประจำตัว เพราะจะพบได้เฉพาะในถ้ำในภูเขาประเทศทิเบต และลึกเข้าไปในแคว้นเชียงตุงของพม่า และทางเหนือของประเทศลาว

ส่วนในประเทศไทยจะพบในถ้ำลึกกลางป่าเขาทางภาคเหนือ พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าชอบ อากาศหนาวจัด จึงมีพลังเย็น มีอานุภาพทางแคล้วคลาดล่องหนหายตัวได้ชั่วคราว ถูกไฟไม่ยืด แต่ถ้าใช้คาถาอาคมยืดได้ มีมายาในตัว งอกขึ้นได้เล็กลงได้ ถ้าจะนำไปสร้างพระเครื่องจะต้องใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุบังคับ หากพลังจิตไม่แก่กล้าพอก็ทำไม่ได้

พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าผู้ ครอบครองจะหมดสิ้นอายุขัย มีเคราะห์ร้ายถึงตายเมื่อใด ไข่มุกกวมอิมจะถือโอกาสล่องหนอันตรธานหายไป ผู้ครอบครองคนใดเมื่อรู้ว่าไข่มุกกวมอิมของตนหายก็อย่าได้ตกใจจนขวัญเสีย มีสติปลงให้ตก ทำบุญสุนทาน แผ่เมตตา ทำสมาธิให้จิตสงบไม่ฟุ้งซ่าน เมื่อจะต้องตายไปจริงๆ จิตจะได้สู่สุคติในสัมปรายภพ

คนไทยมักจะเรียกว่า พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ไข่มุกกวมอิม เหล็กไหลสีขาว เหล็กไหลชีปะขาว เหล็กไหลน้ำหนึ่งไข่มุกถ้ำ ไข่หินตัน แล้วแต่คนจะเรียกกัน!

เกจิอาจารย์บางท่านเรียกว่า “พญางูเผือก” มีสีขาวเป็นมันเลื่อมคล้ายเกล็ดงู และมีความเชื่อที่ว่าเป็นลูกหินศักดิ์สิทธิ์ สามารถนำมาใช้ฝึกสมาธิได้ มีไว้กับตัวกับบ้านถือว่าเป้นศิริมงคลยิ่งนัก

ในทางธรณีวิทยานั้นจัดได้ว่าเป็นธาตุที่มีความแข็งของโมล์เท่ากับ 10 โมล์ เทียบเท่ากับเพชรหรือมากกว่าเพชร ทุบไม่แตก ตัดไม่ขาด และมีพลังเทียบเท่ากับธาตุกายสิทธิ์เหล็กไหลและพระบรมสารีริกธาตุเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีลักษณะ สีสรร และรูปร่างเหมือนกับ"พระธาตุสมเด็จองค์ปฐม"

ถ้าองค์ขนาดเท่าลูกปิงปองจะหนักและมีพลังเกินตัวมาก ด้วยความแข็งที่เท่ากับเพชรดังนั้นจึงมีพลังมากขนาดทำลายก้อนหินขนาดที่ใหญ่ กว่าได้










ที่มาภาพและเรื่อง
http://www.spantique.com/product.detail_0_th_1385102
16  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ความสงสัย เรื่องการแต่งกายของเทวดา เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 11:34:38 pm
คือเป็นความสงสัย ของผมตั้งแต่เด็กแล้ว ซึ่งก็สงสัยมาตลอดว่า เทวดา ก็คือผู้ที่ทำบุญแล้วไปเกิดบนสวรรค์ ตามนิยาม
ของศาสนาต่าง ๆ นั้น ผมสงสัยว่าเครื่องแต่งกายของเทวดา จริง ๆ เป็นอย่างไร และเทวดามีการแบ่งประเทศบนสวรรค์หรือ
ไม่ การสื่อสารใช้ภาษาอะไร แท้ที่จริงแล้วในพระพุทธศาสนา มีการกล่าวแสดงที่ตั้งของทวีป ทั้ง 4 ตามความเข้าใจของผมเห็น
ว่า เทวดาไม่น่าจะมีการแบ่งประเภท ตามประเทศ และ เครื่องแต่งกาย การเรียกภาษา น่าจมีหลักการอะไรที่แสดงให้เข้าใจได้ง่าย ๆ  อีกอย่างเทวดา หน้าตาเหมือนกันหรือไม่ เพราะเทวดาไม่แก่ แล้วจำแนกอายุกันอย่างไร

 ปล.อาจจะสงสัย เรื่องที่ไม่ควรสงสัย แต่ก็เผื่อท่านที่มีความรู้และเข้าใจ จะช่วยเพิ่มความเข้าใจให้ผม ได้มากขึ้น
ผมชอบเว็บนี้ เพราะมีการตอบไวดีครับ เว็บอื่น ๆ ผมไปทิ้งคำถามแล้ว จะสามสัปดาห์แล้วยังไม่ตอบเลย ชื่นชมกับสมาชิก
ที่ใจดีในที่นี้ทุกท่าน ครับ

 :25: :25: :25:
17  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / เมื่อเพื่อนคนหนึ่งมาปรึกษา....เรื่องที่จะทำให้ใจสงบ เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 12:20:40 am
เมื่อเพื่อนคนหนึ่งมาปรึกษา....เรื่องที่จะทำให้ใจสงบ

คือว่าผมพึ่งรู้จักกับน้องผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาน้องเค้าน่ารักดี น้องเค้ามาฝึกงานที่ทำงานผม หลังจากที่น้องเค้าได้มาฝึกงานมาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว และได้พูดคุยกันบ้าง ผมก็เริ่มมีความกระวนกระวายใจยังไงบอกไม่ถูก คือมีอาการเวลานอนก็คิดถึงแต่หน้าน้อง เห็นภาพน้องมาลอยอยู่ตรงหน้าคิดว่าน้องจะชอบเราบ้างไหม รังเกียจเราหรือป่าว ตื่นมาก็ยังคิดถึงอีก วันๆก็คิดแต่เรื่องนี้ ไม่เป็นอันทำงานจะมีวิธีทำจิตใจให้สงบอย่างไรดี ขอคำแนะนำผู้ที่เคยมีประสบการณ์ หรือไม่มีประสบการณ์ก็ได้ครับแนะนำหน่อย ขอบคุณครับ

ใครพอจะให้คำปรึกษาได้บ้างครับ....

 :49:
18  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญร่วมสมโภชน์พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ๐-๑๙ ก.พ.๕๔ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง ชัยภูมิ เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 01:20:30 am
ขอเชิญร่วมสมโภชน์พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
วันที่ ๑๐-๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔
ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง ตำบลตลาดแร้ง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ

พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง



กำหนดการ

วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔

เวลา ๐๙.๐๙ น. พิธีบวงสรวง

พระสงฆ์ ๙ รูป เจริญพระพุทธมนต์

พิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน

๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์

๑๘.๐๐ น. ทำวัตรเย็น

พิธีบวชเนกขัมมะ ชาย-หญิง

พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และสวดธรรมจักรกัปวัตตนสูตร

วันศุกร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔

๐๕.๐๐ น. ทำวัตรเช้า

๐๗.๔๕ น. พระสงฆ์บิณฑบาต

๐๘.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์

ผู้บวชเนกขัมมะ รับประทานอาหารเช้า

ปฏิบัติภาวนา

๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์

ผู้บวชเนกขัมมะ รับประทานอาหาร

พักผ่อนตามอัธยาศัย

๑๘.๐๐ น. ทำวัตรเย็น

พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และสวดธรรมจักรกัปวัตตนสูตร

วันเสาร์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔

ภาคเช้า

เวลา ๐๕.๐๐ น. ทำวัตรเช้า

๐๗.๔๕น. พระสงฆ์บิณฑบาต

๐๘.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์

๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์

ภาคบ่าย

เวลา ๑๒. ๓๐น. ประชาชนพร้อมกันภายในลานปะรำพิธี

พระสุวีรญาณ เจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ ถวายเครื่องสักการะ

พระอุดมฤกษ์ อมโร เจ้าสำนักสงฆ์ผาผึ้ง ถวายเครื่องสักการะ

พระธวัชชัย ชาครธัมโม ประธานการสร้างพระเจดีย์ ถวายเครื่องสักการะ

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ถวายเครื่องสักการะ

ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยภูมิกล่าวรายงาน

เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตประธานในพิธีจุดธูปเทียน

เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล / ประธานสงฆ์ให้ศีล

เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริตร

พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์

คณะเจ้าภาพร่วมกันถวายจตุปัจจัยไทยธรรมและถวายของที่ระลึก

พระสงฆ์อนุโมทนา / กรวดน้ำ / รับพร

เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตเปิดป้ายพระเจดีย์

พระมงคลวิสุทธิ์ถวายผ้าห่มพระเจดีย์

เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตนำคณะสงฆ์เวียนเทียน

เสร็จพิธี

หมายเหตุ : กำหนดการนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามระยะเวลาที่เหมาะสม

วันที่ ๑๓ - ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔

๐๕.๐๐ น. ทำวัตรเช้า

๐๗.๔๕ น. พระสงฆ์บิณฑบาต

๐๘.๐๐ น. พระสงฆ์ฉันภัตตาหารเช้าแล้วแยกย้ายไปเจริญภาวนา

ผู้ถือบวชเนกขัมมะ รับประทานอาหารเช้าแล้วแยกย้ายไปเจริญภาวนา

๑๑.๐๐ น. พระสงฆ์ฉันภัตตาหารเพล

ผู้ถือบวชเนกขัมมะ รับประทานอาหาร

พักผ่อนตามอัธยาศัย

๑๕.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. พระสงฆ์ฉันน้ำปานะ

ผู้ถือบวชเนกขัมมะ ดื่มน้ำปานะ

๑๘.๐๐ น. ทำวัตรเย็นและเจริญพระพุทธมนต์ สวดธรรมจักรกัปวัตตนสูตร

พิธีเวียนเทียนรอบพระเจดีย์

หมายเหตุ : สำหรับวันที่ ๑๖, ๑๗ และ ๑๘ กุมภาพันธ์ เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. จะมีเทศน์มหาชาติ ต่อเนื่องเป็นเวลา ๓ วัน

วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔ ( วันมาฆบูชา )

ภาคเช้า

๐๗.๐๙ น. พิธีบวงสรวง

๐๗.๔๕ น. พระสงฆ์บิณฑบาต

๐๘ .๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์

๑๐. ๐๐ น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์

พิธีทอดผ้าป่าสามัคคี

๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพล

ภาคบ่าย

๑๓.๐๐ น. เทศน์มหาชาติ

๑๘.๐๐ น. ทำวัตรเย็น และเจริญพระพุทธมนต์ สวดธรรมจักรกัปวัตตนสูตร

พิธีเวียนเทียนรอบพระเจดีย์

วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔

๐๖. ๐๐ น. พิธีลาศีลแปดของผู้บวชเนกขัมมะ

๐๗.๔๕ น. พระสงฆ์บิณฑบาต

๐๘.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์

๐๙.๓๐ น. พิธีขออโหสิกรรม


พิธีถวายพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง มณฑปหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร พร้อมด้วยสิ่งก่อสร้างทั้งหมด ถวายไว้ในพระพุทธศาสนา โดยมี พระครูสุวิมลภาวนาคุณ เป็นประธานคณะสงฆ์ ในการรับมอบวิหารทาน ทั้งหมด.

****************************



รายนามพระเถรานุเถระ ซึ่งได้นิมนต์เข้าร่วมพิธีฉลองสมโภชน์พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง วันเสาร์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔

ประธานในพิธี 2 รูป ( รับนิมนต์แล้ว )

๑. สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ

๒. พระมงคลวิสุทธิ์ (หลวงปู่สุภา กฺนฺตสีโล ) วัดสิริสีลสุภาราม ภูเก็ต

พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์

๑. พระธรรมวราภรณ์ วัดเครือวัลย์ กรุงเทพฯ

๒. พระธรรมไตรโลกาจารย์ วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพฯ

๓. พระเทพปัญญามุนี วัดอาวุธวิกสิตาราม กรุงเทพฯ

๔. พระเทพวราลังการ วัดพระศรีมหาธาตุ กรุงเทพฯ

๕. พระเทพดิลก วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ

๖. พระกวีวรญาณ วัดตรีทศเทพ กรุงเทพฯ

๗. พระอธิการสุทัศน์ โกศโล วัดกระโจมทอง กรุงเทพฯ

๘. พระสุวีรญาณ วัดศรีแก้งคร้อ ชัยภูมิ

๙.. พระครูชัยสิทธิการโกศล วัดป่าสุทธิโกศล ชัยภูมิ

๑๐. พระครูสุนทรกิตติคุณ วัดป่าบ้านพลัง ชัยภูมิ

๑๑. พระครูสุวิมลภาวนาคุณ วัดเขาตาเงาะอุดมพร ชัยภูมิ

๑๒. พระครูปภสฺสรวรพินิจ วัดห้วยมงคล ประจวบคีรีขันธ์

๑๓. พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ วัดท่าขนุน กาญจนบุรี

๑๔. พระครูปลัดสมปอง สุธมฺมสนฺตจิตโต สำนักปฏิบัติธรรมบ้านสบายใจ อุทัยธานี

๑๕. พระครูวินัยธร วัดประยงค์กิตติวราราม กรุงเทพ ฯ

๑๖. พระครูถาวรเจติยาภิรักษ์ วัดเกาะแก้วขวัญเมือง หนองคาย

๑๗. พระครูสิริธีรคุณ วัดศรีชมชื่น หนองคาย

๑๘. พระสมมาศ คุณาธิโก วัดบางนมโค อยุธยา

๑๙. พระครูบาเหนือชัย โฆสิโต สำนักสงฆ์ถ้ำป่าอาชาทอง เชียงราย

๒๐. พระครูบาวิฑูรย์ ชินวโร สำนักปฏิบัติธรรมปรียานันท์ธรรมสถาน

๒๑. พระมหาทอง ฐานคุโณ วัดเขาสมโภชน์ ลพบุรี

๒๒. พระมหาดง ปภัสสโร วัดเกาะแก้วขวัญเมือง หนองคาย

รายละเอียดเพิ่มเติม http://thaipagoda.wordpress.com/

19  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อานิสงส์ของศีล เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 12:38:10 am
อานิสงส์ของศีล

ใน กิมัตถิยสูตร อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ข้อ ๑ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงแสดงอานิสงส์ของศีลที่เป็นกุศล คือ กุศลศีล ที่มีกุศลจิตเป็นสมุฏฐาน แก่ท่านพระอานนท์ไว้ ๑๐
ประการ คือ
๑. ศีลที่เป็นกุศลมีอวิปปฏิสาร คือความไม่เดือดร้อนใจเป็นผล เป็นอานิสงส์
๒. ความไม่เดือดร้อนใจมีความปราโมทย์เป็นผล เป็นอานิสงส์
๓. ความปราโมทย์มีปีติเป็นผล เป็นอานิสงส์
๔. ปีติมีปัสสัทธิ คือความสงบใจเป็นผล เป็นอานิสงส์
๕. ปัสสัทธิ มีสุข คือความสุขใจเป็นผล เป็นอานิสงส์
๖. สุขมีสมาธิเป็นผล เป็นอานิสงส์
๗. สมาธิมียถาภูตญาณทัสสนะ คือความเห็นด้วยญาณตามความเป็นจริงเป็นผล เป็นอานิสงส์
๘. ยถาภูตญาณทัสสนะ มีนิพพิทาวิราคะ คือความหน่ายความคลายเป็นผล เป็นอานิสงส์
๙. นิพพิทาวิราคะ มีวิมุตติญาณทัสสนะ คือความเห็นด้วยญาณเป็นเครื่องหลุดพ้นเป็นผล
เป็นอานิสงส์
๑๐. ศีลที่เป็นกุศลย่อมถึงอรหันต์โดยลำดับ ด้วยประการฉะนี้

เพราะฉะนั้น โลกียศีลจึงเป็นบันไดให้เข้าถึงโลกุตตรศีล เข้าถึงอธิศีลสิกขา เป็น
อริยศีลได้ในที่สุด

มนุษย์นั้นมีมากมายหลายประเภท สวยมาก สวยน้อย ดีมาก ดีน้อย บางคนทั้งสวยทั้งดี บาง
คนไม่สวยด้วยไม่ดีด้วย บางคนเรียบร้อย บางคนหยาบคาย บางคนอ่อนโยน บางคนดุร้าย บางคนมีศีล
บางคนไม่มีศีล สุดแท้แต่กรรมจะจำแนกให้เป็นไป

ในจำนวนคนมากมายหลายประเภทเหล่านี้ คนมีศีลเป็นคนประเสริฐ ยิ่งมีศีลด้วย
สวยด้วย ยิ่งประเสริฐสุด เหมือนดอกไม้ที่สวยทั้งสีและกลิ่น

ส่วนคนสวยที่ไม่มีศีลนั้น ก็เหมือนดอกไม้ที่สวยแต่สี หามีกลิ่นไม่

คนเราจะมีศีลได้ก็เพราะมีหิริ และโอตตัปปะ คือความละอายและเกรงกลัวบาป ทั้งบาปของ
ตนและคนอื่น โดยอาศัยการมีสติเตือนตนว่า "เราเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์ ไม่ควรกระ
ทำความชั่ว" ดังนี้เป็นต้น หรือเพราะเกรงคำครหาของผู้อื่นว่า "ผู้นี้เป็นถึงสาวกของพระพุทธเจ้า
ทำไมจึงประพฤติชั่วอย่างนี้" ดังนี้เป็นต้น เมื่อมีสติคิดได้อย่างนี้ จิตใจก็อ่อนโยน ไม่กล้าทำความชั่ว
เมื่อไม่ทำความชั่วก็ไม่เดือดร้อน ศีลจึงมีความไม่เดือดร้อนเป็นผล เป็นอานิสงส์

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในมหาปรินิพพานสูตรทีฆนิกาย มหาวรรค ว่า
ผู้มีศีลย่อมได้รับอานิสงส์ ๕ ประการ คือ
๑. ย่อมได้รับโภคทรัพย์ใหญ่ เพราะความไม่ประมาทเป็นเหตุ ( ดังที่พระท่านแสดง
อานิสงส์ของศีลในเวลาให้ศีลว่า สีเลน โภคสมปทา )
๒. เกียรติศัพท์อันงามของผู้มีศีล ย่อมฟุ้งขจรไปไกล
๓. ผู้มีศีลเข้าไปสู่สมาคมใดๆ ย่อมเข้าไปอย่างองอาจไม่เก้อเขิน
๔. ผู้มีศีลย่อมไม่หลงทำกาละ ( คือไม่หลงในเวลาตาย )
๕. ผู้มีศีล ตายแล้วย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ( สีเลน สุคตึ ยนฺติ )

นอกจากนั้นพระพุทธองค์ยังทรงแสดงไว้ด้วยว่า ผู้ที่หวังได้รับความรักใคร่ สรรเสริญจากบัณฑิต
ทั้งหลาย ควรทำศีลให้บริบูรณ์

ศีลเป็นที่พึ่งของผู้ประพฤติพรหมจรรย์ในพระศาสนา
ศีลเป็นเสมือนน้ำที่ล้างมลทิน คือความชั่วของสัตว์ทั้งหลาย อันน้ำในแม่น้ำทั้งหลายไม่อาจล้างได้
ศีล ยังผู้รักษาให้สงบเย็น ไม่ร้อนรุ่มด้วยกิเลส
กลิ่นใดที่ฟุ้งไปได้ทั้งทวนลม และตามลม กลิ่นนั้นเสมอด้วยกลิ่นศีลไม่มี
บันไดที่จะขึ้นสู่สวรรค์ และบรรลุนิพพาน ( สีเลน นิพฺพุตึ ยนฺติ ) ที่จะเสมอด้วยบันได
คือศีลหามีไม่

บุคคลแม้จะงดงามด้วยเครื่องประดับอันมีค่า ก็ยังไม่งามเท่าบุคคลที่มีศีลประดับกาย วาจา ใจ

ผู้มีศีล ย่อมติเตียนตนเองไม่ได้ เมื่อพิจารณาถึงความประพฤติของตน ย่อมเกิดปีติ
ทุกเมื่อ
เพราะศีลมีอานิสงส์มากมายดังกล่าว ศีลจึงเป็นรากฐานแห่งคุณความดีทั้งหลาย และกำจัดความ
ชั่วทั้งปวง
20  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญร่วมสมทบทุนบูรณะฟื้นฟู พุทธอุทยานธารน้ำไหล จ.เชียงราย เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 01:29:34 am
ขอเชิญร่วมสมทบทุนบูรณะฟื้นฟู พุทธอุทยานธารน้ำไหล จ.เชียงราย

:b42: พุทธอุทยานธารน้ำไหล บ้านปางเกาะทราย ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง อ.พาน จ.เชียงราย ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของ พระอาจารย์ทรงวุฒิ ชวโน ซึ่งท่านมาปลีกวิเวกบำเพ็ญเพียรตามลำพัง

(ผู้ ตั้งกระทู้ - ปิยวณฺโณภิกฺขุ เคยไปบำเพ็ญเพียรและศึกษาข้อวัตรปฏิบัติตามแบบแผนพระวัดป่ากับท่านระยะหนึ่ง เห็นถึงปฏิปทาและข้อวัตรตามระเบียบแบบแผนแห่งพระป่าจริงๆ)

:b47: เนื่องจากในพรรษาที่ผ่านมา ทราบข่าวจากอุบาสกผู้ดูแลและอุปัฏฐากพระอาจารย์ ว่า พื้นที่บริเวณวัดและตลิ่งได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำที่หลากมาจากภูเขา ที่สำคัญน้ำจากลำธารไหลมาแรงทำให้ตลิ่งถูกน้ำเซาะพังเสียหาย ไหลทะลักมาถึง โรงครัว และกุฏิ ในฐานะที่เคยไปบำเพ็ญกับท่านมาไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไรเพราะเป็นบรรพชิต เช่นกัน คงจะมีทางนี้ทางเดียวที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด และในอนาคตกำลังจะกลับไปดูแลและขอนิสสัยกับท่านด้วย

แผนงาน

1. เอาแม็คโครเข้าเก็บกู้ท่อที่ถูกน้ำพัดพาไปและปร้บพื้นที่ในส่วนที่เสียหาย
2. เทปูนทำผนังตลิ่งที่ได้ปรับพื้นที่ไว้ทั้งหมด
3. เสริมขอบบนผนังตลิ่งเพิ่มอีก ตามระยะความยาวตามผน้งตลิ่ง 50เมตร50 ซม.
(ดำเนินงานไปบ้างแล้วบางส่วน)

:b40: ท้าย นี้ด้วยอำนาจคุณพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ตลอดจนถึงบุญบารมีที่เคยทำมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จงอำนวยอวยพรให้ผู้ร่วมทางบุญทุกท่านได้รู้ธรรม เห็นธรรม และพบแสงสว่างแห่งธรรมด้วยเทอญ :b8: :b8: :b8: /ปิยวณฺโณภิกฺขุ

ร่วมสมทบทุนได้ที่

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อ.พาน จ.เชียงราย
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 4010192451
ชื่อบัญชี คุณศุขเชภฐ ชอบอยู่สบาย

ติดต่อสอบถาม
คุณศุขเชภฐ ชอบอยู่สบาย
โทร. 089-5581645, email: suka_2344@yahoo.co.th

รบกวนแจ้งรายการสมทบทุนไปที่อีเมล์ หรือโทรศัพท์





21  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสมทบทุนสร้างพระพุทธรูป หน้าตัก 9 เมตร 18 ก.พ.54 เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 01:26:23 am
ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสมทบทุนสร้างพระพุทธรูป
พระ อาจารย์ชนะราษฎร์ สิริมงฺคโล เจ้าอาวาสวัดป่ากุดชุมเจริญธรรม มีดำริสร้างพระพุทธรูปขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร เพื่อเป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอกุดชุม ขณะนี้การดำเนินงานเริ่มไปขั้นหนึ่งแล้วในส่วนของฐานรากที่จะทำการหล่อสร้าง ประดิษฐานองค์พระพุทธรูป ซึ่งมีนามว่า "พระพุทธรักษาศรัทธากล้ากุดชุม" (หลวงพ่อกุดชุม) จึงขอโอกาสเรียนเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมบุญใหญ่ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554 ตรงกับวันมาฆบูชา
ณ วัดป่ากุดชุมเจริญธรรม ม.5 ต.กุดชุม อ.กุดชุม จ.ยโสธร หรือสมทบทุนสร้างได้ที่
บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขากุดชุม
เลขที่บัญชี 336-0-22197-4
ชื่อบัญชี พระชนะราษฎร์ สิริมงฺคโล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
พระอาจารย์ชนะราษฎร์ สิริมงฺคโล เบอร์โทร.0878173356
22  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล จะเปลี่ยนชีวิตได้จริงหรือ เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 01:23:52 am
เห็นเพื่อน ๆ ผมช่วงนี้พอหลังจากโดนทักเรื่อง งาน เรื่องชีวิต ก็มักจะได้รับคำแนะนำว่าให้
ไปเปลี่ยนชื่อบ้าง เปลี่ยนนามสกุลบ้าง ในฐานะชาวพุทธที่นับถือพระพุทธเจ้าแล้ว พวกเพื่อน ๆ สมาชิก
มีความเห็นอย่างไร กับการเปลี่ยนชื่อ นามสกุล แล้วจะเปลี่ยนชีวิตได้จริงหรือครับ

ขอความเห็นด้วยนะครับ เพื่อน ๆ ทุกท่าน


 :c017:
23  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / จงทำกับเพื่อนมนุษย์โดยคิดว่า เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 01:20:46 am
24  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ปฏิบัติธรรมประจำปีขึ้น ณ วัดถ้ำแสงเพชร 3 – 6 กุมภาพันธ์ 2554 อำนาจเจริญ เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 12:23:22 am
วัดถ้ำแสงเพชร ขอเชิญร่วมทำบุญปฏิบัติธรรม บวชชีพราหมณ์ และสมโภชพระประธาน อุโบสถเนื่องในวันกตัญณุตา                 
ด้วยวัด ถ้ำแสงเพชรร่วมกับคณะกรรมการและศรัทธาสาธุชน
ผู้ มีความเลื่อมใสในบวรพุทธ ศาสนาทั้งหลาย ได้จัดกิจกรรมงานปฏิบัติธรรมประจำปีขึ้น ณ วัดถ้ำแสงเพชร บ้านดงเจริญ ตำบลหนองมะแซว อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ระหว่างวันที่ 3 – 6 กุมภาพันธ์ 2554 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้-                  เพื่อเผยแผ่พุทธธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า-                  เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนผู้มีความสนใจได้เข้าร่วมประพฤติปฏิบัติธรรม-                 
เพื่อทรงไว้ซึ่งข้อวัตรปฏิบัติ และสืบทอดประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ-                 
เพื่ออบรมคุณธรรม จริยธรรม แก่ผู้ที่สนใจรวมทั้งเยาวชนลูกหลาน                   
คณะ สงฆ์ อุบาสก – อุบาสิกาวัดถ้ำแสงเพชรจึงใคร่ขอเชิญบรรดาญาติธรรมสาธุชนผู้มีความสนใจเข้า ร่วมประพฤติปฏิบัติธรรมบวชเนกะขัมมะ นุ่งขาวห่มขาว ในวัน เวลา และสถานทีดังกล่าว    วันชาติ / พิมพ์วิมล /บก.ข่าว สวท.อจ.21 มกราคม 2554
ข้อมูลจาก ::   สิทธิเดช นนทพรหม  สวท. อำนาจเจริญ  วันที่ ::  21/1/2554
25  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รวมพระไตรปิฎก 3 นิกาย มจร.ทำคืบหน้า80% เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 11:05:10 pm
พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดี ม.มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการจัดกิจกรรมนานาชาติเนื่องในวันวิสาขบูชาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนได้แจ้งต่อที่ประชุมว่ามหาเถรสมาคม (มส.) มีมติให้มจร. จัดกิจกรรมนานาชาติเนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญของสหประชาชาติ ในวันที่ 12-14 พ.ค. 2554 ณ มจร. วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กท.ในหัวข้อ “พุทธธรรมกับการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ (Buddhist Virtues in Socio-Economic Development) และคณะกรรมการฯยังมีมติให้จัดพิมพ์บทความทาง วิชาการเพื่อเผยแพร่ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยรวบรวมจากนักวิชาการทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เสนอเข้ามา โดยบทความที่ผ่านการพิจารณาจะได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในระดับนานาชาติ และมีโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตรมอบให้ด้วย โดยผู้สนใจส่งบทความได้ถึงวันที่ 15 มี.ค. 2554 สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-3524-8098 หรือเว็บไซต์ www.li.mcu.ac.th
   
“ก่อนหน้านี้ที่ประชุมชาวพุทธ ได้ตกลงรวบรวมพระไตรปิฎกนิกายมหายาน นิกายเถรวาท และนิกายวชิรญาณ มาเป็นพระไตรปิฎกฉบับสากล แปลเป็นภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อเผยแผ่ตามโรงแรมทั่วโลก ซึ่งในการประชุมวิสาขบูชาโลกในครั้งนี้ก็จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือ เพื่อหาข้อสรุปการนำเนื้อหาของทั้ง 3 นิกาย มาเรียบเรียงไว้ในฉบับสากล เมื่อที่ประชุมเห็นชอบให้การยอมรับในเนื้อหาพระไตรปิฎกฉบับสากลแล้วก็จะให้ ผู้นำชาวพุทธแต่ละประเทศนำไปแปลเป็นภาษาของตนต่อไป” พระธรรมโกศาจารย์ กล่าว
   
พระศรีคัมภีรญาณ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มจร กล่าวว่า  การจัดทำเนื้อหาต้นฉบับพระไตรปิฎกได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 80%  ประกอบด้วย ต้นฉบับพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย, อักษรโรมัน, ต้นฉบับภาษาไทย โดยได้มอบหมายพระมหาเจิม สุวโจ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ และกองวิชาการ เป็นผู้รับผิดชอบ โดยมีการระดมนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกมาร่วมจัดทำให้เกิดความสมบูรณ์ที่สุด.

ที่มา
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=42&contentID=116110
26  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ผัว-เมียวิตถารโร่มอบตัวหลัง ลวงเด็ก ป.5 วัย 11 ปี ข่มขืน เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 10:58:12 pm
ผัว-เมียวิตถารโร่มอบตัวหลัง ลวงเด็ก ป.5 วัย 11 ปี ข่มขืน เมียคแสบช่วยจับแขนขาเหยื่อให้ผัวขืนใจ

วันนี้(18 ม.ค.) พ.ต.อ.เสกสรรค์ นิ่มนวล ผกก.สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ได้รับการติดขอมอบตัวจากนายณรงค์เดช   ตนา ยะพันธุ์ อายุ 31 ปี อาชีพรับจ้าง และ นางวรรณรีย์ หรือแกลบ ตนายะพันธุ์ อายุ 20 ปี ภรรยา ตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ในคดีร่วมกันล่อลวง และข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 13 ปี เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยนางวรรณรีย์ ออกอุบายชักชวน ด.ญ.ปลา (นามสมมติ) อายุ 11 ปี ลูกสาวคนข้างบ้าน นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งใน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ไปเที่ยว และซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง พร้อมทั้งเลี้ยงอาหารกลางวันอีก 1 มื้อ จากนั้นชักชวนมาเที่ยวที่บ้าน  แต่เมื่อมาถึง นายณรงค์เดช  นอน แก้ผ้าเปลือยกายรออยู่บนเตียง จากนั้นทั้งสองคนได้ช่วยกันจับด.ญ.ปลา ถอดเสื้อผ้า ให้นายณรงค์เดช ขืนใจ โดยมีนางวรรณรีย์ ช่วยจับยึดแขนทั้งสองข้างของด.ญ.ปลา ไม่ให้ขัดขืน จนกระทั่งสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง จากนั้นได้บังคับให้ด.ญ.ปลา เข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ ทำให้ด.ญ.ปลา ฉวยโอกาสใส่เสื้อผ้าวิ่งหลบหนี  สร้างความหวาดผวาให้ กับด.ญ.ปลา เป็นอย่างมาก จนด.ญ.ปลา ไม่กล้าไปเรียนหนังสือ และเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องนอนเพียงลำพังคนเดียว จนกระทั่งมารดาเห็นผิดสังเกต เรียกตัวลูกสาวมาคาดคั้นความจริง และทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนพาเข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.เกียรติคุณ พิญญะคุณ พนักงานสอบสวน สภ.สองพี่น้อง เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเอาผิดกับผัวเมียรายนี้.

ที่มา เดลินิวส์ 18/1/54

อุทาหรณ์เรื่องนี้ ครับ

   อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง เรื่องนี้กับสังคมที่วิปริต ยังมีพวกวิปริตแฝงเร้นในคราบคนดีอีกมากครับ

 :91:
หน้า: [1]