ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - prachabeodee
หน้า: [1] 2 3 4
1  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ปุจฉา : "มิตรรักแฟนธรรม" ถามว่า หากไม่นำเถ้าอังคาร ไปลอยแม่น้ำ จะเป็นอะไรไหม.? เมื่อ: กันยายน 19, 2017, 02:07:32 am
ยังมีอีกเรื่อง...ที่น่าคิด...เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวทางเฟสทางไลน์...ทีมีบริการบรรจุ อัฐทิธาตุ ใส่หัวจรวด...แล้วยิงออกสุ่ห้วงอวกาศ.....ถ้ามีลักษณะนั้นๆจริง....วงจรของจิตวิญญาณ...ตามความเชื่อ,ตามคติ...ต่างๆ คงต้องเปลี่ยนไปแล้ว...
เช่น....อาจจะส่งไปสุ่  จักวาลอื่นๆภพภุมิอื่นๆ,พุทธเกษตรอื่นๆ ข้ามเวลา,ข้ามขีดจำกัดในลักษณะเดิม...เช่น..อาจไปจุติเป็นพรหม,มหาพรหมอยุ่ขอบๆจักรวาลใดจักวาลหนึ่ง...ก็เป็นได้
เพ้อเจ้อ....ไปแล้วจร้า......ขออภัยด้วย...ตามปะสาของคนยังอยุ่ในธาตุ๔ขันธ์๕....อิอิ
2  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ปุจฉา : "มิตรรักแฟนธรรม" ถามว่า หากไม่นำเถ้าอังคาร ไปลอยแม่น้ำ จะเป็นอะไรไหม.? เมื่อ: กันยายน 19, 2017, 01:51:55 am
คงไม่อ้างหลักใดๆหรอกนะ...เพราไม่มีความรุ้มากพอแน่นพอ..ที่จะอ้าง...
แต่...จิตก่อนตาย..หากยังไม่นิพพานแล้ว..ย่องต้อง ..ข้องอยุ่ในสิ่งใด,สิ่งหนึ่งภพใดภพหนึ่งเสมอๆ
ธาตุทั้ง4. ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ..
ก็เป็นที่ๆจิตจะยึดครองได้....อาศัยได้...
จิตถ้ายึดติดอยุ่กับธาตุดิน(เถ้าอังคาร)..เมื่อไปลอยน้ำแล้วย่อมไหลไปสุ่มหานที-มหาสมุทร...ซึ่งละอองไอน้ำก็จะระเหยกลายเป็นไอน้ำ---เป็นเมฆฝนตกลงมาสุ่พื้นดิน..จิตที่ติดอยุ่ก็จะได้ไปจุตติตามสถานที่ต่างๆ  ตามกระแส มรสุมตะวันตกเฉียงใต้,ตะวันออกเฉียงเหนือ(ถ้าจิตนั้นมากับธาตุน้ำก็สามสรถคำนวนตามหลักวิทยาศาตร์ได้เลยว่า..วิญญารนั้มาเกิดจากทิศทางใด)....ที่ข้าพเจ้าเข้าใจได้เพราะ  ก่อนมาเกิดจิตข้าพเจ้าลอยออกมาจากปากถ้ำ...ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ ตี๑-ตี๒ เราจะลอยขึ้นไปสุงมากเบามาก...พอเวลาชาย-หญิงเสพสังวาสกัน..มันจะมีแรงดึงดุดที่สุงมากๆ...ดึงดุดให้เราตกลงมาชนิดที่ต้านไม่ได้...รถ้สึกตัวอีกที...ก็มาเกิดแล้ว....
โปรดใช้วิจารณญาณในหารรับฟังด้วยจร้า...
3  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ภัทเทกรัตตคาถา คาถาที่ทำให้ชีวิตปัจจุบันมีความสุข เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2017, 01:03:39 am
 ;) ;) ;)
4  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สากลสัญลักษณ์แห่ง...พุทธ เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2017, 12:52:36 am
 ;) ;) ;)
5  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า "ตำแหน่งพระสังฆราช" มีมาตั้งแต่ "กรุงสุโขทัย" เมื่อ: มีนาคม 22, 2016, 10:13:48 am
สาธุ.....อยากทราบเรื่องเกี่ยวกับพระร่วงจร้า....
6  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: การถอดจิต นั้นต้องฝึกกรรมฐานถึงขั้นไหนคะ เมื่อ: เมษายน 23, 2015, 10:51:38 pm
แล้วภาวะที่ไม้มีตัวตนแต่มีแต่ตาไปอย่างเดียว...ไปรู้ไปเห็น.....เรียกว่าภาวะอะไร??,กับอีกสภาวะหนึ่งที่มีแสงลักษณะเหมือนแสงไฟฉายที่ส่องไปในที่ๆมืดสนิทเห็นเพียงวงแสงจากไฟฉายพาเราไปดูที่ต่างๆ...เรียกสภาวะนี้ว่าอะไร??....ท่านผู้ใดทราบช่วยตอบข้องสงสัยให้เข้าใจที...จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง...
7  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เว็บกรรมฐาน เป็นเว็บที่มีเนื้อหา ด้านการภาวนามาก คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบ เมื่อ: มีนาคม 20, 2015, 11:56:18 pm
สาธุ. สาธุ. สาธุ.  .......ป้าก็ไม่ได้เดินสายมัชฌิมาโดยลำดับ....แต่ป้าก็ยังติดตามอ่านทุกๆคำถามและคำตอบที่น่าสนใจ....จริงแล้วสายนี้เป็นสายที่ทำแล้วได้จริงมีผลจริง แต่คนที่ทำได้น่ะมีน้อยต่อน้อนนัก.  ยิ่งกว่ารายการ "หนึ่งในร้อยอีกน๊ะ.     และคนสมัยนี้ชอบอะไรที่ง่ายๆอยุ่ด้วย...มันก็ยิ่งน้อนลงไปอีก.......สายนี้ถ้ามีคนปฎิบัติแล้วได้ผลของการปฎิบัติแม้ว่าจะน้อย(ไม่กี่คน)   ก็สาธุด้วยแล้ว.....อย่าไปน้อยอกน้อยใจเลย
และสมาชิกทุกๆท่านที่ให้ความเห็นมาก็ดีๆทั้งน้าน. ป้าขอขอบคุณจากใจจริง..ทุกๆท่าน.  ขอให้ตั้งใจปฎิบัติจริงๆเถอะ. ผลย่อมเกิดจริง ไม่มากก็น้อยตามแต่ผลแห่การปฎิบัตินั้นๆจะมีผลอย่างไร :s_hi:
8  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หัวเลี้ยว หัวต่อ ระหว่าง สมถะ และ วิปัสสนา สำหรับสายเจโตวิมุตติ เมื่อ: ตุลาคม 20, 2014, 09:48:29 am
ฉันสับสนหลายครั้ง เพราะเรียนมาผิดจากครูอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ด้วยความเคารพพอจะเข้าวิปัสสนาขั้นที่ 13 ก็ถอยออกจากฌาน อย่างที่ครูอาจารย์ทั้งหลายสอนกัน พอฉันถอยออก สมาธินิมิตก็ดับ สุขก็เกิดแทน ขณะนั้นฉันไม่สามารถเห็นอะไรเลยนอกจากสุข มันสบาย ๆ อยู่อย่างนั้นจนผ่านไปนานก็ยังไม่สามารถเข้าขั้นที่ 13 ได้ ฉันเลยถอยจิตออกไปยังฌานที่ 2 ปีติ ก็เกิดอย่างโลดโผน กายฉันโยกไป โยกมา สติพยายามพิจารณาความไม่เที่ยงตามขั้นที่ 13 แต่มันเหมือนเป็นคำพุดเข้าไปสะกดไม่เป็นธรรมชาติ สุดท้ายก็สูญเสียเวลาอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งครูฉันเข้ามาบอกว่า ไม่ต้องถอยให้ปฏบัติตามท่านดังนี้...."
..................
ข้าพเจ้าไม่ได้ปฎิบัติตามแนงทาง มัชชิมา...แต่ก็ขอสาธุ...ด้วยกับท่านพระคุณเจ้าที่มีสติที่ละเอียด...มากพอที่จะจับได้ถึงสิ่งที่ปกติบุคคลทั่วไปสังเกตุไม่เหพบ(ในสภาวะนั้น..) ......
9  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หัวเลี้ยว หัวต่อ ระหว่าง สมถะ และ วิปัสสนา สำหรับสายเจโตวิมุตติ เมื่อ: ตุลาคม 16, 2014, 10:39:03 am
โมทนาสาธุ...ด้วยเด๊อ
10  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: คุยกับ...สมาธิ เมื่อ: ตุลาคม 08, 2014, 03:49:51 pm
ส่วนที่เป็น ทฤฎีก็รู้แล้ว(อย่างแตกฉาน)ซึ่งมีให้อ่านมีให้จำมากมายหลายวิธี...
ส่วนการที่ทำสมาธิไม่ได้...น่าจะเนื่องมาจากบุคคลนั้นไม่รู้จักการรวมจิต,ยังไม่รู้ว่าตนเอง ณ.ขณะนั้น ตนเองกำลังอยู่ที่ตรงไหน??....(สติไม่ได้รวมตัวกับจิต,มรรคไม่ สมังคี).....ไม่ฉลาด(และไม่เฉลียวใจ)ในการตามจิตหรือไม่เข้าใจตนของตนเอง
.....เมื่อขยับ...มันก็เขยือน...เมื่อเขยื่อน มันก็เปลี่ยนแปงไป......เดี๋ยวก็ไป...เดี๋ยวก็มา...เดี๋ยวก็มี...เดี๋ยวก็หาย.....เพราะขยับจึงเข้าใจความสงบ เมื่อสงบ ก็เห็นความเคลื่อนไหว.....
ผู้ปฎิบัติทุกคน...ถ้ามีความแน่วแน่... มีความพยายามอยู่อย่างพอเพียง...มีสติที่มากพอ....มีความฉลาดเฉลียว...สมาธิก็มีเองไม่ต้องอยากได้...มันก็เกิด.....ข้าพเจ้าขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่มีเจตนาดีต้งใจในการทำสมาธิ....และขอให้มีความเฉลียวใจซักนิด การพัฒนาทางจิตเราก็จะเกิดเอง....โดยไม่ต้องสงสัย
11  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เราอยู่ในระบบสังคม..ที่มอมเมาให้กินเนื้อสัตว์ : วิปัสสนาบนหน้าข่าว เมื่อ: กันยายน 26, 2014, 02:35:11 pm
แฮะ แฮะ.....
            ชอบใจตรงคำว่า  "วิปัสสนาบนหน้าข่าว"........ที่สุดเลย
       
12  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ตามอ่านบทความ พระอาจารย์ ไม่เห็นมีเรื่องใหม่เข้ามาเลยคะ เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2014, 08:42:15 pm
จริงๆแล้ว.....ข้าพเจ้าต้องขออภัยด้วยหรือขออนุญาติกับพระคุณเจ้าด้วยเด๊อ....เหตุก็เพราะว่า....ข้าพเจ้าได้กอ๊ปปี้ เอา คำคม,ภาพสวยๆที่มีธรรมมะติดอยู่ด้วย...เอาไป โพสต์ในเฟสบุคค์ของดิฉัน...หลายๆครั้งแล้ว..เพราะเห็นว่าสวยดี,และก็มีประโยชน์มากๆ.......สาธุ
 :25: :25: :25:
13  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เหตุที่ไม่ได้ ตอบ และ บทความไม่ออก อีกส่วนหนึ่ง เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2014, 11:07:14 am
อาเมน...........
ไม่ไช่ศิษย์...ก็ต้องขอโมทนาสาธุด้วยคน.....
ไม่ไช่ศิษย์...ก็ได้ประโยชน์จาก "มัชฌิมาธรรม"นี้.....
อาเมน....อาเมน...อาเมน....
 :25: :25: :25:
14  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ตามอ่านบทความ พระอาจารย์ ไม่เห็นมีเรื่องใหม่เข้ามาเลยคะ เมื่อ: เมษายน 28, 2014, 03:09:23 pm
อนิจจังไม่เที่ยง..ธรรมดาโลกเป็นอย่างนี้......มีทั้งชมและติ,ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์...
อยู่ที่ผู้เลือกรับผลอันนั้น....จะรับหรือไม่รับก็อย่าให้ตนเองเป็ทุกข์หรือปริวิตกหรือขุ่นมัวเพราะสิ่งเหล่านี้.....และทำต่อไปให่เต็มกำลังความสามารถ
ผลก็จะบังเกิดเอง...สาธุ เป็นกำลังใจให้ด้วยคนเด๊อ...พระคุณเจ้า... :25:. :) :34: :bedtime2:
15  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การตกอยู่ใต้อำนาจการควบคุมโดยพลังจิต(โดยวิชาใดวิชาหนึ่ง,เดรัชฉานวิชา) เมื่อ: เมษายน 03, 2014, 10:15:59 pm
ดิฉันต้องขอขอบคุณคุณ " รภณสร" เป็นอย่างยิ่งที่กรุณาให้ความกระจ่างและมุมมองที่หลากหลายแก่ข้าพเจ้า...ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นเรื่องปัจจัตตังไม่ควรนำมาเปิดเผย...ซึ่งจริงๆแล้ว มนุษย์เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับตนเองแล้วตนเองก็มักมีคำตอบอยู่ในใจอยู่บ้างแล้วตามประสพการณ์และตามกำลังสติปัญญาที่ตนเองมีอยู่...ข้าพเจ้าก็เช่นกัน...ซึ่งดิฉันก็คิดว่าเป็นผลของแรงอธิฐานของพระองค์นี้ซึ่งจะถือเป็นกุศลก็ไม่ไช่จะเป็นอกุศลก็ไม่เชิง เป็นแบบไม่ขาวไม่ดำแต่เป็นเทาๆ...อะไรประมาณนั้น  st11 thk56
ส่วนคุณ "ธวัชชัย๑๗๓" ดิฉันต้องขอโมทนาสาธุการกับปฎิปทา(ปนิธาน)หรือทิฐืในภูมิธรรมภูมิจิตแห่งท่าน....ซึ่งเป็นทางที่เดินออกจากกิเลสโดยแท้จริง ที่ดิฉันไม่ได้เข้ามาโพสต์ก็เพราะบางครั้งการอ่านโพสต์ที่ท่านอื่นๆโพสต์ไว้จะมีประโยชน์มากกว่า...ซึ่งจริงๆแล้วดิฉันยังคงติดตามเว็บบอร์ดนี้อยู่เป็นประจำเจ้าค่ะ....ส่วนเรื่อที่ดิฉันโพสต์เรื่องนื้ออกมาก็แค่ต้องการฟังมุมมองที่แตกต่างออกไปตามแต่ล่ะท่านแต่ละภูมิธรรมของผู้ตอบคำถาม....ส่วนที่ว่าทำไมดิฉันถึงต้องมายุ่งเรื่องอะไรต่อมิอะไรที่ไม่เป็นแก่นสารไม่ไช่ทางสู่ความหลุดพ้น...เหตุก็เพราะดิฉันอยู่ทางเหนือเป็นที่ๆพระธุดงค์จาริกมาเยี่ยมเยียนบ่อยมากเป็นปกติ...ซึ่ก็มีหลายๆลักษณะทั้งพระที่มาท่องเที่ยว,พระที่ต้องการประสพการณ์แปลกๆ,พระที่ต้องการที่สงบ,และอื่นๆอีกมากมาย...ทำให้ดิฉันได้พบพระมากมายหลายลักษณะทำให้ได้ประสพการณแปลกมากมาย เรื่องนี้ก็เป็นลักษณะหนึ่งที่ดิฉันได้พบ...
คงแค่นี้ก่อนน๊ะเจ้าค่ะ :25: :25: :25:
16  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การตกอยู่ใต้อำนาจการควบคุมโดยพลังจิต(โดยวิชาใดวิชาหนึ่ง,เดรัชฉานวิชา) เมื่อ: เมษายน 01, 2014, 09:23:14 pm
เรื่องของเรื่อมีอยู่ว่า ดิฉัน....ได้พบพระธุดงค์รูปหนึ่ง...ซึ่งแกสามารถทำให้บุคคล๓คนอยู่ด้วยกันได้(ทั้งๆที่ทั้งสามคนมีลักษณะนิสัยและพื้นฐานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง)....ซึ่งแปลกมากเวลาไม่ได้ไปพบแกก็จะหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ไม่เป็นสุข..พอไปอยู่ต่อหน้าแกก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง..ซึ่งแกก็มักจะขอบริจาคปัจจัยเพื่อสร้างถาวรวัตถุเช่นศาลาหรืออื่นๆ....ซึ่งดิฉันก็นึกว่ามีอาการอย่างที่เล่ามาคนเดียว....คนอื่นๆก็มีลักษณะอาการเหมือนๆกัน...ดิฉันจึงสงสัยว่า นี่เป็นแรงอธิฐาน(เพราะแกชอบอ้างว่า-แกอธิฐานต่อพระพุทธรูปเพื่อให้กิจกรรมนั้นเป็นไปเพื่อดำรงหรือสืบต่อศาสนา)หรือเป็นการผูกจิต,ครอบงำจิตหรือว่าเป็นเมมตามหานิยมกันแน่....แต่ก็ไม่ไช่เป็นแบบงมงายจนไม่รู้สึกตัวหรอกเจ้าค่ะ.....พระคุณเจ้าที่ว่านี้อายุมากแล้วเจ้าค่ะ ๗๐กว่าๆแล้วค่ะ คงตัดเรื่องสิเน่ห์หาเรื่องชู้สาวไปได้เลยเจ้าค่ะ....ซึ่งดิฉันสัมผัสได้ถึงแรงนี้แต่ดิฉันก็ไม่สามารถหลุดไปจากแรงเหล่านี้ได้พระคุณเจ้าว่าดิฉันเป็นอุปทาน ฤเปล่าเจ้าค่ะ??? ขอความกระจ่างด้วยเถิดเจ้าค่ะ จักเป็นพระคุณอย่างยิ่งเจ้าค่ะ....และยังมีอีกหลายเรื่องซึ่งเกิดกับลูกศิษย์คนอื่นๆเช่นกันแต่ไมขอเล่าเพราะไม่ไช่เกิดกับตนเองเจ้าค่ะ????
17  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / การตกอยู่ใต้อำนาจการควบคุมโดยพลังจิต(โดยวิชาใดวิชาหนึ่ง,เดรัชฉานวิชา) เมื่อ: มีนาคม 28, 2014, 05:36:02 am
การที่เราตกอยู่ใต้การครอบงำหรือใต้การควบคุมโดยพลังจิต(ด้วยวิชาไสยศาตร์,เดรัชฉานวิชา)โดยบุคคลอื่น...มีลักษณะแตกต่างกับการที่เราตกอยู่ภายใต้แรงอธิษฐานของบุคคลอื่นที่มีต่อเรา...อย่างไร?,และต่างกันอย่างไร?ระหว่างเมตตามหานิยมกับการถูกทำเสน่ห์ยาแฝด(ในมุมที่ผู้ถูทำ)
 ask1
18  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: การปฏิบัติธรรม "ด้วยการปฏิเสธฌานสมาธิ" จะสำเร็จได้อย่างไร.? เมื่อ: มกราคม 02, 2013, 11:08:55 pm
" ขอเพียงอย่างพึงด่วนสรุปว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เท่านั้นก็พอ".......
ดิฉันขออนุโมทนาด้วยกับประโยคนี้เจ้าข้า.......เพราะเป็นการแสดงถึงการปรับมุมมองได้กว้างขวางและครอบคลุม.........ส่วนที่จะต้องได้ฌาณด้วยหรือไม่นั้น ก็ต้องแล้วแต่ วาสนาบารมีของผู้ปฎิบัติแต่ละคนที่เคยสั่งสมมารวมทั้งในปัจจุบันกรรมด้วย.... แม้แต่ผู้ที่ได้ฌาณเองก็เถอะถ้าไม่ยกจิตขึ้นสู่วิปัสสนาจนเกิดปัญญารู้แจ้งห็นจริงแล้ว ฌาณที่เกิดที่ได้นั้นก็เป็นเพียงโลกีย์ฌาณเช่นกัน ซึ่งก็ต่างกันที่มุมมองทั้งสิ้น......ส่วนสายที่ปฎิเสธฌาณนั้นเล่า.....เมื่อปฎิบัติเข้าๆมองไปเห็นไปรู้ไปเมื่อถึงจุดหนึ่งปฎิบัติไป,ดำเนินจิตไป...ถูกส่วน...ฌาณก็เกิดโดยตัวมันเองอยู่เช่นนั้นเอง....จะไม่เอาจะไม่เป็น....ฤก็ไม่ไช่ เพระจะถือว่าเป็นการหรอกตัวเองไปเท่านั้น.....

19  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สุกขวิปัสสก กับ อภิญญา และ วิชชา เกี่ยวข้องกันอย่างไรคะ เมื่อ: ตุลาคม 19, 2012, 10:29:13 pm
ถ้าปารถนาบ้านหลังใหญ่ๆโตๆ.....ก็ต้องทำงานหนักทำงานมาก เพื่อจะได้ทำความปารถนาให้เป็นจริง....พวกนี้ต้องทำให้แจ้งให้อิ่มก่อนจึงจะพอแก่ใจจึงจะทิ้งได้(เรียกว่าพวก ฌาณ,อภิญญา วิสัย)..........
ถ้าต้องการบ้านเพียงแค่ที่หลับนอนก็เพียงพอแล้ว(หลังเล็กๆ)......ก็ไม่ต้องดิ้นรนมากก็อยู่ได้แล้ว(เป็นพวก สุขวิปัสโก)............
ผลทั้งสอง ก็เป็นวิมุตติทั้งสิ้น..แต่นิสัยต่างกัน,เวลาต่างกัน,ผลแห่งการปฎิบัติก็ต่างกัน....ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด...เพียงแต่ขึ้นอยู่กับเจตนาและหรือบารมีที่สั่งสมมา...แต่อดีตชาติและนิสัยของผู้ปฎิบัติเองว่าชอบ(ถนัด)ไปในทางไหน................
20  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การบูชา ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเรื่องผิด หรือ ไม่ คะ เมื่อ: ตุลาคม 19, 2012, 10:14:23 pm
ไม่ไช่เฉพาะ ท้าวเวสสุวรรณอย่างเดียวหรอก....แม้แต่ พระพรหม,พระอินทร์,หรือเทพต่างๆ....ก็มีเยอะแยะ.....ที่ได้รับการบูชาการยกย่อง....ซึ่งก็มีอยู่ดาษดื่นทั่วไป....
แล้ว...ยังมีพระภูมิเจ้าที่อีก...ที่ยังได้รับความนิยมในประเทศไทยอย่างกว้างขวาง...
ซึ่งก็แล้วแต่จุดประสงค์ที่บูชามากกว่า.....
และก็อีกปัจจัยหนึ่งคือผู้ที่บูชามีความเชื่อถือหรือจำเป็นมากน้อยแค่ไหน...ถ้าเรามีที่พึ่งที่ดีแล้ว....อะไรๆก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพา....แต่ถ้าเราเองยังไม่มีกำลังพอที่จะมีที่พึ่งทางใจได้แล้ว...ก็ต้องทำไปบูชาไป.....หรือพูดง่ายๆคือถ้าผู้ที่มีภูมิจิตภูมิธรรมสูงๆแล้วก็อาจไม่ต้องบูชาก็ได้หรือถ้าจะบูชา ก็เข้าใจในเหตุผลที่ต้องบูชา
..............................................................
การพูดว่า "การบูชากราบไหว้เป็นเรื่องงมงายนั้น"...ไม่ถูกต้องเลย....ควรดูที่เจตนาและหรือความจำเป็นมากกว่า......ดังคำว่า "ไม่เชื่อไม่ศัทธาก็ไม่ควรลบหลู่"...........และการมองการกระทำนั้นๆ เราก็ต้องเข้าใจผู้กระทำนั้นๆด้วย....เราก็จะเข้าใจเหตุผลได้อย่างลึกซึ้งและถูกต้องตามความเป็นจริงที่สุดอย่างรอบด้าน......
อาเมน...................
21  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ขอคำอธิบาย เรื่อง การลาพุทธภูมิ ด้วยคะ เมื่อ: ตุลาคม 19, 2012, 09:47:28 pm
อิอิ อิอิ อิอิ......
เบื่อๆ....อยากๆ......เข้าๆออกๆ...นี่น่าจะเป็งกิเลสเป็นควาอยากมากกว่ามั๊ง...คงไม่มากพอที่จะเป็น ความปารถนาอันแรงกล้าจนเป็นปนิธานในการปารถนาพุทธภูมิ.......????
22  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: รู้ไว้สู้ภัยพิบัติ;ร่วมอธิษฐานจิตสลายภัยพิบัติด้วยเทคนิคเต๋า เมื่อ: กันยายน 20, 2012, 09:15:11 pm
บ้างก็สวดมนต์ช่วยโลกไม่ให้เกิดภัยภิบัติ,บ้างก็ช่วยกันปิดไฟประหยัดพลังงาน,บ้างก็ปลูกป่าเพื่อลดโลกร้อน.......ไม่เคยได้ยินใครพูดเลยว่ามนุษย์นี่...เกิดมากเกินไปแล้ว,หรือบอกว่ามันเป็นธรรมดาของวัฎฎจักหรือดุลยภาพของโลกที่กำลังเปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัยของมันเอง.....ซึ่งทุกๆเรื่องก็มักจะเอามนุษย์เองเป็นตัวตั้งเป็นศูนย์กลางซึ่งไม่ค่อยยอมรับซักเท่าไหร่เลยว่า มนุษย์เองก็เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติของโลกนี้.......อยู่บนจุดหนึ่งของเส้นแห่งกาลเวลา....(จุดที่มีความแปรเลี่ยนของธรรมชาติน้อยจนทำให้เราเห็นว่าไม่เปลี่ยนแปลง)..ถ้าเรามองให้กว้างใกลออกไปกว่านี่(ซึ่งอาจมองผ่านอดีตโดยการศึกษาประวัติศาสตร์และมองไปในอนาคตโดยการใช้ญาณ(วิชชาแห่งเหตุและผล)ซึ่งรวมทั้งการพยากรณ์,การศึกษา,การคาดการณ์โดยใช้สรรพเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน-หรือรวมทั้งการรู้ด้วยฌานในสมาธิ....ก็ตามที....
มุมมองเราก็จะกว้างไกลออกไปอีกมากเห็นถึงช่วงชีวิตหนึ่งของความเป็นมนุษย์นั้นเป็นเพียงช่วงหนึ่งที่สั้นมากๆ...ซึ่งอาจเป็นช่วงหนึ่งของกาลเวลาที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านของโลกในช่วงหนึ่งก็ได้.......การสวดมนต์ภาวนาเพื่อให้ภัยภิบัติลดลงหรือเลื่อนไปผัดไป.....ก็ได้เพียงหนึ่ง(ซึ่งอาจเลื่อนได้ซัก ๑๐๐๐ปีหรือมากกว่านั้น)แต่วัฎฎจักรของความเป็นอย่างนี้ก็เป็นของมันอยู่......เพราะนั้นทางที่ดีที่สุดคือเข้าใจสภาวะและปรับตัวให้อยู่กับสภาวะนั้นๆให้ได้....ซึ่งการสวดมนต์ภาวนาให้โลกพ้นภัยก็ไม่ผิด เพราะเป็นลักษณะหนึ่งของโลกนี้อยู่เอง.......อาเมน...ไม่ได้ติ,ไม่ได้ว่าและก็ไม่ได้ชมหรือไม่ได้โมทนา....และก็ไม่ได้เฉยด้วย....
23  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หลายท่าน บอกว่า ปีติและสุข เป็นธรรมขวาง พระนิพพาน เมื่อ: กันยายน 18, 2012, 08:09:50 pm
สา า าธุ....สาธุ....สาธุ........แล้วก็..สาธุ...สาธุ...สาธุ.........ด้วยเด๊อข้า.......
24  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หลายท่าน บอกว่า ปีติและสุข เป็นธรรมขวาง พระนิพพาน เมื่อ: กันยายน 17, 2012, 09:10:09 pm
การที่จะบอกว่า เป็นธรรมขวางหรือไม่ขวางนั้น....ป้าว่ายากที่จะตัดสินได้....ป้าว่าต้องดูที่ใจตนเองเท่านั้น..ถ้ามีแล้วหรือเป็นสภาวะนั้นแล้วไม่ยึดไม่ติดในอารมณ์นั้นๆและ/หรือก้าวข้ามผ่านไปได้.....(อาจจะด้วยปัญญา,ด้วยองค์สมาธิด้วยความอะไรก็แล้วแต่)...ก็ไม่น่าจะถือว่าขวางทางนิพพานกลับเป็นองค์หรืออารมณ์ให้พิจารณาก้าวข้าม(เป็นการทดสอบจิตของตนเองได้ระดับหนึ่ง)ได้....
แต่ถ้าจิตเราเองไปหลงในอารมณ์นั้นๆหรือไปแช่ไปติดกับอารมณ์นั้นๆ(ไม่จำเป็นต้องเป็นปิติธรรมอย่างเดียวหรอกอย่างอื่นๆก็มีเช่นสุข,ความเงียบ,ความเป็นอิสระ เป็นต้น)....อย่างนี้ก็เรียกว่า "ธรรมปิติเป็นเตรื่องขวางกันพระนิพพาน.....
"ผู้ใดกล่าวเสียเช่นนี้แล้ว ต้องเรียกว่าหมดวาสนาเจโต อภิญญา เข้าข่ายจักเป็นเสีย วิปัสสก เท่านั้น ซึ่งพิจารณาแล้วก็

เหมาะควรแก่ผู้คนในยุคนี้ หรือสังเกตจะพบว่ากลุ่มพวกที่ชอบฤทธิ์ อภิญญา อย่างเก่งก็อาศัยเครื่องราง ขมังคาถา บ้า

มงคลวัตถุ ประมูลเช่า แค่นั้นจริงๆ ผู้ที่จะใฝ่ภาวนาจริงจังถึงสุขเอาสุขเป็นบาทฐานภาวนามีน้อยหายากแล้ว เว้นเสีย

แต่ครูอาจารย์ที่ลี้เร้นร้างสังคมมีอยู่บ้าง แต่ก็ยากจะเจอ ครับ!"
...........................................................................
ปิติในที่นี้ คงเป็นองค์ธรรมในสมาธิ ไช่หรือไม่......???
แต่ป้าว่ายังมีปีติอีกประเภทหนึ่งที่ไม่ไช่ในองค์สมาธิ แต่เป็นธรรมมะปีติที่เกิดในขั้นตอนวิปัสสนา(ไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร...ป้าไม่ถนัดในข้อธรรมะที่เป็นตัวหนัวสือ)ปิตินี้ จะเป็นลักษณะเบาตัวเบาตน ไปก็ง่ายมาก็คร่องละเอียดมากๆไม่ต้องแสวงหาก็ไม่เดือดร้อนกำลังเต็มเปียม.......ซึ่งลักษณะนี้ก็ไม่เที่ยงเช่นกัน...ถ้าใครไปยึดหรือก้าวร่วงไม่ได้ก็ เป็นธรรมขวางพระนิพพานเช่นกัน....
25  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สำหรับคนที่หากินบนผ้าเหลืองจะได้รับผลกรรมอย่างไรค่ะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 02:03:30 pm
จากประสพการณ์...เราก็รู้เพิ่มขึ้นมาว่า...
         "การตั้งคำถามโดยไม่สมบูรณ์ด้วยประการทั้งปวง...ก็ก่อให้เกิดความขัดเคืองใจเกิดขึ้นได้อย่างหนึ่งเหมือนกัน"
.............................อาเมน................
                              :58: :58: :58:
26  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: "จับหลับ" หลับอย่างมีสติ เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 02:55:24 pm
ขอบคุณมาก...ที่ให้ความกระจ่างเรื่อง ภวังค์...กับการออกมารับอารมณ์...
เพราะป้าเป็นอยู่ตรงนี้บ่อยมากๆ...แล้วป้าก็ขอถามต่ออีกเรื่อง..เรื่องการตกภวังค์นี่...บางครั้งนานมากๆ(เป็นชั่วโมงเลยก็มี)...เราจะทำอย่างไรให้มันออกมารับอารมณ์ได้มั่งล่ะ...ซึ่งน่าจะเรียกว่าป้าติดอยู่ในนี้นานมาก...แล้วนานๆมันจะโพล่ออกมารับข้างนอกซักทีอ่ะ...(สังเกตุได้ว่าเวลาไปอยู่ในนั้นมันนิ่งมากเหมือนเวลามันวิ่งช้ามาก,ไม่ต้องมีธุระมากในการรับรู้หรือคิดปรุงแต่ง....ไม่สว่างไม่มืดแต่มันเบาใจดี-แต่เวลามันออกมารับอารมณ์ ดูเหมือนว่าเวลามันจะเดินไปเร็วมากและเหมือนว่าใจเราจะต้องรับธุระมากมาย)............
ส่วนในข้อแรกที่จิตเราไปรู้ข้างนอกน่ะป้าไม่ไช่หมายถึงฝัน..(เพราะป้าเข้าใจ..ในลักษณะที่เราฝันก็จะมี...การที่ฝันแล้วเราสามารถจำความฝันออกมาได้และบางครั้งรู้ว่าฝันแต่จำเอาออกมาไม่ได้)
27  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: "จับหลับ" หลับอย่างมีสติ เมื่อ: ธันวาคม 16, 2011, 02:28:42 pm
สบายๆ ตามฐานะทางธรรมแห่งตนจ้ะ.....ที่ป้าไม่ได้เข้ามาโพสต์ก็เพราะสายปฎิบัติป้าไม่เหมือนกับสายมัชฌิมา,ปัญหาที่ป้าพบก็ไม่เหมือนกันจึงไม่ค่อยมีประโยชน์ซักเท่าไหร่......แต่ป้าก็ติตามกระทู้ต่างๆอยู่เสมอ.ๆ....น๊ะ...
แล้วหนู "หน่ออ่อน"(ไม่ยอมแก่)...ล่ะสบายดีอยู่เหรอ??..แล้วก้าวหน้าทางธรรมไปถึงไหนแล้ว.....???
ส่วนที่หนูให้คำตอบ มาน่ะ ป้าไม่ค่อยเข้าใจซักเท่าไหร่...เพราะป้าไม่ได้ศึกษาจากหนังสือหรือพระไตรปิฎก...มากนัก(รวมทั้งไม่ได้ปฎิบัติตามขั้นตอนเหมือนสายมัชฌิมาด้วย)..จะดีมากถ้ากรุณาช่วยอธิบายให้เข้าใจง่ายๆและเห้นได้ปฎิบัติได้จริงๆ....สาธุไว้ร่วงหน้าน๊ะจ๊ะ... ??? :34: :bedtime2: :015: :043: :043: :043:
28  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: "จับหลับ" หลับอย่างมีสติ เมื่อ: ธันวาคม 15, 2011, 10:05:46 am
"การจับหลับ" .....
ตามที่หลวงพ่อจรัญ ได้กล่าวมานั้น......ป้ายังมีข้อสงสัยอยู่บางประการ...ดังนี้
      ๑. ในกรณีที่รู้ตัวอยู่ตลอด..แม้ขณะหลับก็ตาม...แล้วเผอิญไปรับรู้ในสิ่งต่างๆรอบข้างโดยบังเอิญ(ไม่ไช่ฝันน๊ะ)แล้วเราก็รู้ตามไปในเรื่องนั้นๆ จะเรียกว่ามีสติอยู่หรือไม่(หมายถึงว่าเข้าใจความหมายในสิ่งที่เข้าไปรู้นั้น)..
       ๒. แล้วในขณะเวลาที่เริ่มจะตื่น (ลำดับการตื่นขึ้นมารับรู้)มีขั้นตอนหรือไม่???เพราะ ป้าเคยมีประสพการณ์ที่ค่อยๆตื่นออกมาทีละน้อยๆ...ก่อนที่จะมีการปรุงแต่งความคิดเต็มตัว(เพราะบางที-ขั้นการตื่นมาแล้วป้าไม่รู้เลยว่า ป้าเป็นใคร,ชื่ออะไร,มีสถานะเป็นอย่างไร-แล้วจึงค่อยออกมารับรู้ได้เต็มๆ..)
       ๓. อันนี้อาจไม่เกี่ยวกับสติหรือการ"จับหลับ"ซักเท่าไหร่-คือการฝันซ้อนฝัน..?? มันเป็นการปรุงสัญญาซ้อนสัญญาหรือไม่??...
29  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: การฝืนธรรมชาติ จะเข้าถึงธรรมชาติ ได้อย่างไร ? เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2011, 10:13:20 am
คำว่าธรรมชาติ นี่ ค่อนข้างกว้างและก็จำกัดความได้ลำบาก เพราะ จริงๆแล้ว แม้คำว่า "ผิดธรรมชาติ"ก็ยังถือเป็นลักษณะของธรรมชาติอย่างหนึ่งได้เช่นกัน....เพียงแต่อาจเป็นลักษณะที่ไม่เกิดขึ้นได้บ่อยนัก(ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยปรุงแต่งในขณะนั้น..) .........ซึ่งก็ขึ้นอยู่กันมุมมองหรือหลักในการใช้แยกหรือเจตนาในการแยกสิ่งนั้นๆ...ทั้งหมดทั้งมวลแล้วก็เป็นสิ่งที่กำหนดขึ้นเท่านั้น......
ดังนั้น....น่าจะใช้ คำว่า มัชฌิมาปฎิปทาน่าจะดีกว่า .....เช่น ผู้ที่มีปิติอันเกิดแต่ใจ,ผู้อยู่ในฌาณหรือผู้เป็นพระอริยะเจ้า......ก็ไม่หิว.........แต่ก็ต้องกิน เพราะโลกนี้,กายนี้ยังต้องเป็นไปตามกฎ(ธรรมชาติ)ที่เป็นไปในโลกนี้...โลกนี้ดำเนินไปได้ด้วยลักษณะอย่างนี้..........(เหตุปัจจัยเขาเป็นอย่างนี้)
30  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ไม่เข้าใจ กับคำว่า "มีแต่จิตล้วน ๆ " เมื่อ: เมษายน 18, 2011, 08:27:22 pm
ง่ายนิดเดียว.....ก็ทำให้ได้,ทำให้ถึงซิ....แล้วจะเข้าใจได้ด้วยตัวของตัวเอง.....
         :13: :hee20hee20hee: :hee20hee20hee: :hee20hee20hee: :13:
31  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: กาละเทศะ ในการภาวนา กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เมื่อ: เมษายน 15, 2011, 07:49:02 pm
ดิฉันเป็นคนนอก(ไม่ได้ปฎิบัติตามแนวมัชฌิมาฯ..)แต่ดิฉันก็เข้าใจแนวปฎิบัตินี้พอสมควร.......
ดังนั้นพระคุณเจ้าอย่าเพิ่งถอดใจในการสอนแนวปฎิบัตินี้........ของเป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ.....
เหตุที่การปฎิบัติแนวสติปัฎฐาน๔ได้รับความนอยมอย่างแพร่หลายประการหนึ่งที่มีผลก็คงเป็นเพราะมนุษย์สมัยนี้เน้นไปในทางพัฒนาสมองกันมาก(บางครั้งมากจนเครียดโดยไม่รู้ตัว)..การเน้นการคิดมากๆก็คือการเอาความปรุงแต่งมาด้วยนั่นเอง.ทำให้การได้สมาธินั้นน้อยยิ่งนักแล้วยิ่งไม่เน้นการปฎิบัติด้วยแล้วยิ่งยากส์ กันไปใหญ่เลย........และก็ด้วยเหตุนี้แหละทำให้แนวสติปัฎฐาน๔ได้รับความนิยมมาก(น่าจะเป็นยุคของแนวปฎิบัติสติปัฎฐาน๔)
......อย่างไรก็ดี แนวมัชฌิมาแบบลำดับก็ยังคงมีอยู่...(แต่อาจน้อยเต็มทีเพราะได้สมาธิกันน้อยมากๆ)..
                                         :58: ;)
32  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: จัดให้มีวัดหรือสำนักสงฆ์ สำหรับเพศที่สาม,ตุ๊ด,เกย์...!!!..??? เมื่อ: มีนาคม 30, 2011, 09:31:16 am
ปกติ ถ้าเป็นพระตุ๊ดพระเกย์(บัณเฑาะ)ในพระไตรปิฎกก็ห้ามบวชอยู่แล้ว.....
ทีนี้ พระที่เป็นแบบแอบแฝง......หรือค้นพบทีหลัง...(หลังบวชแล้ว)...ก็ควรจะจับสึกให้หมดโดยอาจใช้กฎหรือข้อบังคับทางสงฆ์(เถรสมาคม).....เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง...
...................................................................
                                     :34: :bedtime2: :015:
33  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อย่ามุ่งภาวนา ด้วยการวัดที่เวลา หรือการเห็นสภาวะ เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 10:45:04 am
ต้องขอแย้งพระคุณเจ้าหน่อยแล้วล่ะเจ้าค่ะ....
ในสายปฎิบัติภาวนาเพื่อดูทุกข์หรือดูเวทนากับไม่เป็นดั่งพระคุณเจ้าพูด เพราะสานนี้จงใจนั่งให้นานเป็นหลายชั่วโมง(๓-๔ชั่วโมง)เพื่อจุดประสงค์ให้เกิดทุกข์เวทนาแล้วพิจารณาจิตโดยไม่ไห้จิตหลบเข้าไปนิ่งหรือหลบเข้าไปในฌาณเพื่อดูการดีดดิ้นของจิต,ดูการปรุงแต่งของจิต,ดูการไม่ยอมรับความจริงของจิต.......
...............................................
ส่วนการนั่งเพื่อไม่ให้เห็นสภาวะนั่น ดิฉันเห็นด้วย.......เพราะถ้าเห็นสภาวะนั่นคือการตกไปสู่การปรุงแต่งเสียแล้ว(สติไม่ไวพอทำให้ตกอยู่ภายใต้การปรุงแต่งของกิเสลแล้ว)..........
                                         :34: :bedtime2: :015:
34  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: คุณว่านี่...!!!...เป็นคำสอนศาสนาพุทธหรือเปล่า??? เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 10:27:55 am
นี่.....คงไม่ไช่คำสอนในพุทธศาสนามั๊ง....แต่คงเป็นความรู้ที่เห็นกันทั่วไปในทุกๆศาสนาหรือในกลุ่มคนที่สามารถสัมผัสได้แล้วรวบรวมกันขึ้นมา..........ซึ่งก็ไม่เหมือนกันจึงทำให้แบ่งกันเป็นชั้นเป็นก๊กเป็นเหล่า......
...............................................................................................
ซึ่งป้าเท่าที่เห็นหรือสัมผัสได้ก็ไม่ไช่ลักษณะนี้ (ที่ป้าเห็นก็เป็นเพียงรูปคนธรรมดา-แต่มีผิวพรรณวรรณะที่ผ่องกว่าคนทั่วๆไป-ซึ่งอาจเป็นเพียงเทวดาชั้นต่ำๆก็เป็นได้..กับอีกจำพวกหนึ่งที่ใส่ชุดขาวทั้งหมด,ที่มักไปชุมนุมกันในศาลาที่กว้างขวางมากๆและมีพระอริยะเจ้ามาแสดงธรรมเป็นปกติ....ซึ่งไม่มีอาทิตย์แต่มีสว่างนวลตาเย็นใจ..ก็เท่านั้น....ซึ่งป้าก็ไม่ว่าที่เขาว่าเห็นเป็นแบบนั้นหรือป้าเห็นผิดไป,ก็ไม่ว่า..เพราะเทวดามีหลายลักษณะแล้วแต่จะปรุงแต่งของจิตและบารมีที่เคยสั่งสมมา...ไม่เหมือนกัน.....
..................................................................................................
ส่วนธรรมที่พุทธองค์สั่วสอนนั้นไม่ไช่ทางเหล่านี้,ที่ท่านสอนจริงๆแล้วหลักๆแล้วก็คือหลักแห่งความจริง(อริสัจจ์๔)และทางพ้นทุกข์ทางแห่งความดับสนิทแห่งทุกข์ เท่านั้นนั่นคือนิพพานนั่นเอง....ส่วนอื่นๆคือส่วนประกอบหรือเป็นเพียงข้อธรรมประกอบเท่านั้น....หรือถ้าเอากันจริงๆแล้ว.....เรื่องที่เอามาให้วิจารณ์นี้กลับเป็นธรรมเมาหรือเป็นการหลงทางนิพานเสียมากกว่า...... :34: :bedtime2: :015:
35  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: การฝึกสมาธิ ให้สำเร็จโดยอาศัยการถ่ายพลังจิต เป็นไปได้หรือไม่ครับ เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 10:09:48 am
จริงแล้วการได้สมาธิหรือเห็นธรรมหรือเกิดปัญญาขึ้น....ต้องอาศัยกาลังของตนเองทั้งสิ้น..ดังพุทธพจน์ที่ว่า......
"ตถาคตเป็นเพียงผู้ชี้ทางเดินให้เท่านั้น....ส่วนที่เธอจะเดินตามทางหรือไม่และจะเดินถึงหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเธอเองทั้งสิ้น"
.................................................................................................
แต่อย่างไรก็ตาม......การได้อาจารย์ที่มีภูมิปัญญาที่สามารถแนะนำหรือชี้ทางที่ถูกต้องได้ก็นับว่าดีเหมือนเรามีกัลยาณมิตรที่คอยแนะนำหรือประคับประคองให้เดินไปตามทางทีถูต้อง......ไอ้ที่สามารถถ่ายพลังให้กันได้นั้นป้าว่าก็มีอยู่(เป็นความเห็นส่วนตัว-โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล)แต่ไม่สามารถอธิบายให้เป็นคำพูดได้(เหมือนกับการแผ่เมตตา),ในโลกแห่งความเป็นจริง(ที่จับต้องได้)...อย่างน้อยๆทางด้านจิตวิทยาก็เป็นการให้กำลังใจในการปฎิบัติธรรมแก่ผู้เป็นศิษย์(คล้ายการน้อมนำ-เหนี่ยวนำให้รู้ให้เห็น)..........
ส่วนในด้านส่วนตัวเราเองแล้วก็ควรใช้ความสามารถของตนเองจะดีกว่าถึงแม้ว่าจะมีการถ่ายถอดพลังได้จริงก็ตามเพราะไม่เป็นการพึ่งจมูกคนอื่นหายใจ......และเกิดขึ้นจริงเป็นปัจจัตตังผลย่อมแน่นอนกว่า......
36  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ภรรยา ๗ คน !!! ท่านหญิงอยากเป็นภรรยาคนไหน ??? เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 09:47:44 am
สงสัยคงมีพระขุนแผนเป็นสรณะแน่ๆเลย.........
................เรื่องในโลกๆก็เป็นไปอย่างโลกๆ........เห็นไม่เหมือนกัน....แต่ถ้ามีหลายๆคนแล้วอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข....ก็ถือว่าเก่งในการบริหารจัดการ(เพราะปกติในโลกปัจจุบันป้าก็เห็นมีแต่การหย่าร้างหรือไม่ก็เป็นแค่กิ๊กกัน)............
ส่วนพวกที่รักความเป็นโสดก็ไม่แปลกอีก เพราะเห็นไม่เหมือนกันชอบ(ยินดี)ในสิ่งที่ไม่เหมือนกัน....แต่อย่างไรก็ตาม...ทั้งสถานะภาพโสดและมีครอบครัวก็ขอให้มีความสุขตามอัตภาพของตนและเข้าใจเหตุปัจจัยของตนเองอย่างถ่องแท้......แล้วเราก็จะไม่เกิดทุกข์จากการตัดสินใจของเรา....... :) :s_good: :86: :72: :93: :08:
37  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ธรรมกายหมกเม็ดชำระพระไตรปิฎก (เป็นเพียงข้อกล่าวหา) เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 09:35:23 am
ธรรมมะเป็นของกลาง.......ใครเห็นอย่างไรก็ไปอย่างนั้น.......ปรมัตถ,กับบัญญัติไม่เหมือนกัน......
............อาจเป็นเพราะเหตุนี้กระมังจึงทำให้เกิดเป็นนิกายใหม่ๆเกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็มีหลายๆนิกาย........และนี่ก็อาจเป็นเหตุให้เกิดนิกายใหม่ต่อๆไปในอนาคตกาลข้างหน้า..............
.................ป้าไม่มีความเห็น..........เพราะอีกไม่ช้าไม่นานก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่านี้ก็ได้.......
                                            :34: :bedtime2: :015:
38  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ควรใช้ธรรมะอะไรดีครับ ถ้าเพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน เมื่อ: มีนาคม 22, 2011, 10:06:07 am
ง่ายนิดเดียว....ก็ต้องเข้าใจให้ถูกต้องเท่านั้นเอง.....ว่ากล้าที่จะให้ยืมก็ต้องกล้าที่จะรับผลอันนั้นทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจ.......บางครั้งผู้ยืมเงินมีนิสัยอย่างนั้น...ก็ต้องเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้นทีนี้วิธีแก้ก็มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับแต่ละคนไม่เหมือนกัน.....
สำหรับป้าถ้าพบคนประเภทนี้ ก็จะให้ยืมแต่ให้ไม่มาก....แล้วก็ต้องทำใจด้วยว่าไม่ได้คืนก็ไม่เป็นไร แต่จะไม่ให้ยืมเพิ่มอีกเพราะถือเป็นเงื่อนไขที่เราตั้งขึ้นถ้าไม่ยอมคืนหนี้เก่า..เราก็จะไม่ได้ยืมอีก,หรืออาจจะเอาสิ่งของไว้เป็นประกันก็ได้...หรือเราเองก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นมากจนเกินไป....การยืมเงินก็ไม่เกิดขึ้น...... :34: :bedtime2: :015:
39  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ภิกษุณีนิรามิสา เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 09:36:25 am
นี่ก็เป็นความเห็นที่มีจุดยืนต่างกันขึ้นอยู่กัยหลักที่นำมาใช้.....ว่ายึดหลักใดหรือยืนอยู่ ณ.จุดไหน......
......................................
เป็นกฎ,เป็นระเบียบ,เป็นความเชื่อเป็นหลักยึดที่แตกต่างกัน.......
..........................................
ในสมัยพุทธกาลไม่มีบัตรเครดิต,ไม่มีโทรศัพท์,ไม่มีทีวี,ไม่มีเน็ต,ไม่มีแม้แต่รถยนต์.......ถ้ายึดเอาสมัยพุทธกาลเป็นหลัก....สิ่งเหล่านี้ก็ผิดหมดเป็นข้อห้ามหมด...แต่ในโลกความเป็นจริงแล้ว..ก็ยังใช้ได้อยู่,เป็นอยู่,เพราะเหตุว่าเราผู้ปฎิบัติเราได้ยึดเอาหลัก ทางสายกลาง(มัชฌิมาปฎิปทา)เป็นแนวปฎิบัติหลือเป็นตัวกำหนด............
...........................................
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เกิดข้อแตกต่างขึ้น....... :34: :bedtime2: :015:
40  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: นั่งกรรมฐาน แล้วปวดขา ทำอย่างไรดีคะ เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 09:22:45 am
นี่เป็นการนั่งแค่ 20 นาทีก็ปวดเข่าเสียแล้ว.....
ในสายปฎิบัติบางสาย....(สายหลวงพ่อธี,แม่วิ-วัดถ้ำวัว,เชียงใหม่)....เขานั่งกันเป็น3-4ชั่วโมงโน่นแน่ะ...ไม่ให้หลบเข้าไปในฌาณด้วยอีกต่างหาก...เขาให้ดู,เจ็บดูปวด,ดูใจดีดดิ้นดูการปรุงแต่งเพื่อหนีความทุกข์,ดูจนเห็นและเข้าใจการเกิดความทุกข์.....คือเผชิญกับมันตรงๆโดยไม่ปรุงโดยไม่แต่ง(ยากน๊ะ..เพราะอย่างไรเสียก็มักจะมีปรุงแต่งไม่มากก็น้อย,ไม่หลบไม่ซ่อนก็คิดเข้าข้างอัตตาอยู่บ้าง).......3-4 ชั่วโมง...
...........................................................................................
เพราะทน-อด...จึงได้ชื่อว่าอดทน.........ทุกๆความพยายามย่อมมีผลทั้งสิ้น....ตราบใดที่เหตุสมบูรณ์แล้ว(สมควรแก่เหตุ)....ผลย่อมเกิดขึ้นเสมอ.............พยายามต่อไป...........(ซาดังเงโย----) :08:
หน้า: [1] 2 3 4