สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

ธรรมะสาระ => สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน => ข้อความที่เริ่มโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 02:50:55 am



หัวข้อ: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 02:50:55 am
                    (http://www.madchima.net/forum/gallery/70_19_07_15_3_20_02.jpeg)



ผู้ถาม      :  “มีคนเขาถามผมมาอย่างนี้ครับหลวงพ่อ แต่ผมไม่รู้จะตอบเขาว่าอย่างไร เขาถามว่าท่าน (ขอสงวนนาม) เป็นพระอริยะหรือเปล่าครับ…?”

หลวงพ่อ  : “ก็ตอบไม่ยากนี่คุณ ให้ไปถามท่านเองซิ คนอื่นจะรู้เรื่องของตัวเองได้อย่างไรล่ะ มันเป็น ปัจจัตตัง แล้วพระอริยะองค์ไหนท่านจะบอกเป็นอริยะ ไม่มีพระอริยะองค์ไหนบอกตนเองว่าเป็นพระอริยะ และก็ไม่มีพระที่ไม่ใช่พระอริยะองค์ไหนที่ไม่บอกตัวเองว่าเป็นพระอริยะ ใช่ไหม...ไอ้คนมีสตางค์มาก ๆ ทำจ๋อง ไอ้คนไม่ค่อยจะพอค่าก๋วยเตี๋ยวละเบ่ง อันนี้ไปพยากรณ์ไม่ได้หรอก เราจะพยากรณ์เขาได้อย่างไร เราไม่รู้จิตใจเขานี่ ใช่ไหม...

   พระอริยะน่ะเขาดูจริยาไม่ได้ พระอริยะนี่ถ้าดูที่จริยาภายนอกผิดหมด เพราะพระอริยนี่เป็นคนใจเปิด ถ้าเป็นพระอรหันต์เมื่อใดก็ดูเหมือนเด็ก ๆ ตอนเด็ก ๆ หรือก่อนบวชเป็นยังไงท่านจะใช้จริยานั้น เพราะเป็นพระไม่มีการผูกต่อไป จึงไม่มีมายา นิสัยเดิม ๆ เป็นอย่างไรพระอริยะก็ใช้นิสัยนั้น ท่านปล่อยตามสบาย เพราะจิตท่านไม่มีอะไร

   อย่าง พระสารีบุตร ท่านไปกับพระพุทธเจ้ากับพระสงฆ์ พอถึงลำราง พระองค์อื่น ๆ ค่อย ๆ ย่องไป พระสารีบุตรขัดเขมรโดดแพล้บ นั่นพระอัครสาวกเบื้องขวานะ ภายหลังมีพระถามพระพุทธเจ้าว่า “ทำไมพระอัครสาวกเบื้องขวาจึงขัดเขมรโดด” พระพุทธเจ้าบอก “อย่าไปว่าท่านเลย ลูกตถาคตไม่มีอะรไหรอกก็มาจากลิง”

   ที่นี้ที่คุณถามว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระองค์นั้นองค์นี้เป็นพระอริยะ ถามคนอื่นมันจะถูกรึ ถ้าหากว่าคุณกินแกง แล้วถามคนอื่นว่า เค็มไหม...เขาจะรู้ไหม...?”

   “เรื่องของความเป็นอริยะ เรื่องของฌานสมาบัติก็เหมือนกัน มันเป็นเรื่องของจิตใจ ในเมื่อท่านไม่บอก เราก็รู้ไม่ได้ ไอ้เรื่องที่จะรู้ได้ต้องเป็นเรื่องของสัพพัญญู แปลว่ารู้ทั้งหมด รู้ทุกอย่างก็มีพระพุทธเจ้าองค์เดียว พระสาวกไม่มีสิทธิ์จะตอบ”




หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 02:54:20 am
                                        (http://www.madchima.net/forum/gallery/70_19_07_15_2_32_15.jpeg)

ผู้ถาม       : “แล้วอย่างมีคนเขาถามว่า ควรจะไปไหว้พระองค์ไหนดี เราควรจะแนะนำเขาว่าอย่างไรครับ...?”

หลวงพ่อ   : “ก็ต้องเป็นไปตามศรัทธา เขาศรัทธาที่ไหนไปที่นั่น ปล่อยให้เป็นเรื่องของจิตใจของเขา ถ้าคุณไปขัดคอเขาดีไม่ดีปากคอเยิน”

ผู้ถาม       : “ถ้าเขาถามถึงสำนักปฏิบัติ แล้วให้เลือกเล่าครับ...?”

หลวงพ่อ   : “เราก็เล่าเรื่องประวัติต่าง ๆ เท่าที่เราพอใจให้เลือก เอาจะเอาวัดไหน การปฏิบัตินี้องเป็นไปตามภูมิเดิมหรือภูมิเก่าคือต้องเป็นไปตามสาย สายของใครของมัน และต้องบำเพ็ญบารมีร่วมกันมานับเป็นอสงไขยกัปนะ เขาถึงจะพอใจกัน ถ้าไม่งั้นมีอารมณ์สะกิดหน่อยเดียว เดี๋ยวก็สะดุด เพราะฉะนั้นให้เขาย่อง ๆ ไปดูก่อน เขาชอบที่ไหนก็เลือกที่นั่น อันนี้เป็นความจริงนะ

   อย่างคุณพอใจสำนักใด คุณไปชวนคืนอื่น ถ้าคนอื่นเขาไม่มา คุณไปว่าเขาไม่ดีไม่ได้ เพราะพูดให้เขาฟังรู้เรื่องไม่ได้ คุณฟังอย่างนี้รู้เรื่องแต่เขาไม่รู้ แต่ถ้าเขาไปหาอีกองค์หนึ่งเขาจะพอใจมาก เพราะว่าเป็นสายเดียวกัน อันนี้เป็นเรื่องธรรมดาบางครั้งเราอาจคิดว่า แหม...ไอ้หมอนี่ เดี๋ยวไปที่นี่ เดี๋ยวไปที่โน่น เดี๋ยวไปทีนั่น ที่เขายังต้องไปหลายจุด เพราะยังหาพวกไม่พบ ถ้าเขาหาพวกของเขาพบเมื่อไรก็จอด ดีไม่ดีบางคืนไปหาพระไม่สบายไม่สนุกไปเจอะเจ้าของเหล้า ร้องฮ้อ...ใช้ได้...”




หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 03:09:57 am
                    (http://www.madchima.net/forum/gallery/70_19_07_15_3_16_45.jpeg)


ผู้ถาม       : “ถ้ามีคนเขาบอกว่า หลวงพ่อเป็นพระอรหันต์หลวงพ่อเป็นพระปฏิสัมภิทาญาณ อย่างนี้คนพูดจะบาปไหมครับ...?”

หลวงพ่อ   : “จะบาปอย่างไงล่ะ เป็นเรื่องของเขา เขาคิดในแง่ดี ไม่บาป เขาจะเข้าใจว่าเป็นสุกขวิปัสสโก เตวิชโช ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิทาญาณ ไม่ใช่ของชั่วนี่ อารมณ์จิตเป็นกุศลต่างหาก ถ้ามาถามฉัน ฉันบอกเป็น พระหลวงตา เอาที่ไหนมาเป็นอรหันต์ หน้าก็ย่น ตาก็สั้น ไม่เป็นเรื่อง ถ้าหันซ้ายหันขวาล่ะก็ได้

   อย่าไปคิดยังงั้นเลยนะ ถ้านึกอย่างนั้น ถ้าผิดเข้าลำบากที่ว่าลำบากน่ะ ไม่ใช่ตกนรกนะ เรานึกว่าเราพบพระสงฆืเพื่อต้องการธรรมะดีกว่า คือว่าเราศึกษานี่เราศึกษาธรรมะตรงต่อพระพุทธ ไม่ใช่อาตามเป็นพระพุทธเจ้านะ ในเมื่อเรานึกถึงธรรมะเมื่อใดก็ได้ชื่อว่าเรานึกถึงพระพุทธเจ้าเมื่อนั้น ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะพระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ในวันปรินิพานว่า

   “อานนท์ จะเสียใจไปทำไม เมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว คำสอนหรือพระธรรมวินัยนี่แหละจะเป็นศาสดาสอนเธอ”


ลูกหลานของหลวงพ่อควรจะจดจำประโยคนี้ไว้ เพราะชีวิตเป็นของไม่แน่นอน



หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: sinjai ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 07:08:53 am
 st11 st12 st12


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: DANAPOL ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 10:28:53 am
 st11 st12 st12


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 11:44:01 am


 :welcome: :s_good: :welcome: :s_good:

ยินดีที่ คุณดนัย มาช่วยโพสต์ครับ

 st11 st11 st11 st11


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 01:26:56 pm
(http://www.phuketvegetarian.com/borad/data/2/pic/617-18.jpg)

ปุถุชนทุกวันนี้แสวงหาพระอรหันต์ ซึ่งที่จริงแสวงหาให้ตายก็ไม่มีทางพบ ด้วยพินิจพิเคราะห์ไม่เป็น จึงสรุปเอาว่าอรหันต์ไม่มีในโลก ธรรมะเป็นเพียงปรัชญาไม่ใช่ศาสตร์หลุดพ้น พระสงฆ์ต้องสงเคราะห์สังคมเพราะอาศัยข้าวปลาชาวบ้าน ทุกวันนี้ใครกล่าวอ้างข้าเป็นอรหันต์อลัชชีลูกเดียว เที่ยงแท้แล้วต้องโทษกรรมที่เจ้าตัวไม่สั่งสมวาสนาสละทานอุปัฏฐากสงฆ์ครูอาจารย์จึงอคติละอัตตาไม่ได้อาศัยสถาบันสงฆ์สร้างชื่อลวงโลกหาผลประโยชน์มืดมลอยู่ด้วยโลกธรรม กรรมสร้างใส่ตัวแท้ๆ คุณคุณทั้งหลายเชื่อไหม อรหันต์มีจริง


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 02:58:38 pm

           ขออนุโมทนาสาธุ


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 03:35:24 pm
   ขออนุโมทนา สาธุ คุณ raponsan กับ ธุลีธวัช เช่นกัน ที่มีมุทิตาจิต คือ มีจิตอ่อนโยน ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นทำความดี
   ช่วงนี้เข้ามาศึกษาคำสอนของพระอาจารย์ รวมถึงที่คนอื่น ๆ ที่โพสไว้ อ่านแล้วก็ประทับใจ เลยอยากแชร์ส่วนที่ผมศึกษาเองให้คนอื่น ๆ บ้าง แต่ก็แค่บางช่วงที่เจอข้อมูลที่น่าสนใจและอยากบอกต่อ คงไม่ได้มาลงตลอด เหมือนคุณ raponsan กับ ธุลีธวัช และคนอื่น ๆ

 st11 st12 st12
   
   


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: komol ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 04:20:14 pm
เว็บที่นี่ คนโพสต์ น้อยนะครับ ผมก็ถนัดอ่านมากกว่า โพสต์ครับ
แต่เนื้อหา ทางธรรม ที่นี่ นับว่าไม่น้อยเลยครับ

 อนุโมทนา สาธุ แก่ ท่านผู้แจกธรรม กันด้วยครับ

  st11 st12 st12


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 04:31:46 pm
 st11 st12 st12


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ กรกฎาคม 20, 2015, 01:48:26 am
 st11 st12 :25:


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: kittisak ที่ กรกฎาคม 20, 2015, 08:04:02 am
 st11 st12 st12 กับท่าน จขกท. ด้วย แสดงให้เห็นน้ำใจ ในการ ทัศนะพระอรหันต์

  :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Hero ที่ กรกฎาคม 20, 2015, 09:20:05 am
อยากเห็น ท่าน ดนัย มาโพสต์ ให้อ่านต่อไปอีกครับ
ดูจากเนื้อหา แล้ว เชื่อว่า ท่านใกล้ จะสำเร็จธรรม แล้ว แน่ ๆ

  st11 st12 st12


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Roj khonkaen ที่ กรกฎาคม 20, 2015, 09:54:34 am
 st11  st12  st12  thk56

 :25:  :25:  :25:


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: tcarisa ที่ กรกฎาคม 20, 2015, 03:48:31 pm
 st11 st12 st12 st12
 ต้องบอกว่า ได้อ่านแล้ว มุมมอง ของ พระอรหันต์ ไม่ได้อย่างที่คิด เลยคะ

  :49:


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ กรกฎาคม 20, 2015, 03:51:59 pm
เรียนถาม คุณ danai_siriangkawoot

   ถ้าถามว่า ถ้าจะดู พระอาจารย์สนธยา ธัมมะวังโส ว่าเป็นเพระอรหันต์หรือไม่ ?
 ควรจะดูแบบไหนดีคะ หรือทำความเข้าใจอย่างไรดีคะ
 หรือว่าไม่เชื่อว่าเป็นพระอรหันต์
    คือ อยากทราบหลักการดูพระอรหันต์ จริง ๆ แล้วควรพิจารณา อะไร คะ

   thk56 ที่มาโพสต์ และ ตอบคะ

  :49: :58:


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ กรกฎาคม 20, 2015, 03:53:39 pm
เรียน คุณธุลีธวัช ตอนนี้เจอพระอรหันต์หรือยังคะ
และถ้าเจอพระอรหันต์ ท่านปฏิบัติแบบไหนคะ ถึงได้เป็นพระอรหันต์

    :58: thk56 ที่จะตอบให้ หมวยนีย์ เข้า ใจ คร้า


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ISSARAPAP ที่ กรกฎาคม 20, 2015, 09:53:47 pm
ผมมีความคิดว่า ไม่มีพระอรหันต์ นะครับ ในยุคนี้ และเชื่อว่า ไม่มีเลยครับ
  :49:


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 20, 2015, 10:12:38 pm
ขอบคุณทุกท่าน ที่ร่วมอนุโมทนาสาธุกับข้อความที่ผมโพส


 st11 st12 st12


ออกเดินทางมานานแสนนานแล้ว ยังไม่ถึงจุดหมายเลยครับคุณ Hero

เมื่อก่อนเที่ยวไปเสาะหา ผู้บอกทางหลายท่าน

หลาย ๆ ท่านบอกได้แค่ทางไปเที่ยวป่า เที่ยวเขา ชมนก ชมไม้ ชมน้ำตก ให้ความรื่นเริงบรรเทิงใจ เต็มไปด้วยผู้คนที่ไปพักผ่อนหย่อนใจ สนุกสนาน คุยกันตลกโปกฮา มีความสุขใจ

หลาย ๆ ท่านบอกได้แค่ทางไปเที่ยวถ้ำ เที่ยวสถานที่คนรู้จักน้อย มีความสงบร่มเย็น น่าชื่นใจ สุขใจ

บางท่านบอกทางที่น่าจะเป็นจุดหมายที่เราต้องการ แต่ก็น่าเสียดายที่พบท่านช้าไป เพราะท่านไม่อยู่เสียแล้ว ถามท่านก็ไม่ได้ ถึงท่านทิ้งแผนที่ไว้ แต่ผมเป็นคนโง่ ดูแผนที่ของท่านไม่เป็น ทำให้เดินหลงทาง วนไปวนมา

แต่สุดท้ายผมก็พบผู้บอกทาง ที่ผมเชื่ออย่างไม่มีความสงสัยว่าท่านเคยไปที่ ๆ ผมอยากไป มาแล้วแน่ ๆ ตอนนี้ก็แค่เดินตามทางที่ท่านบอกเท่านั้น ถึงช้า ถึงเร็ว ก็ไม่เป็นไร ขอแค่อยู่ในเส้นทางเป็นใช้ได้ เดินไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึงเอง วันไหนขี้เกิยจก็เดินช้า วันไหนขยันก็เดินเร็ว


ผมไม่ทราบคนอื่นมีวิธีดูยังไง แต่ถ้าถามผม ผมใช้ใจดูครับ คุณ หมวยจ้า


พระพุทธเจ้าตรัสสอนเรื่อง อริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

ชาติ,ชรา,มรณะ,โสกะ,ปริเทวะฯ เป็นทุกข์

สมุทัย คือ กิเลส ตัณหา เป็นต้น


ถ้าเราปฏิบัติธรรม โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ พระนิพพาน คือ การไม่กลับมาเกิดอีก สิ้นภพ สิ้นชาติ ก็ต้องดับสมุทัย (นิโรธ)

ถ้าเราปฏิบัติตามพระองค์ไหน แล้ว กิเลส ตัณหา ไม่ลด แต่กลับเพิ่มพูน คุณต้องถามใจตัวเองว่าถูกทางหรือไม่

ถ้าเราปฏิบัติตามพระองค์ไหน แล้ว ดับกิเลส ตัณหา ชั่วครั้ง ชั่วคราว พอออกจากวัด ออกจากที่ปฏิบัติธรรม ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม ด่าคนนี้ ว่าคนโน้น นินทาคนนั้น ปฏิบัติมา 10 ปี 20 ปี 30 ปี ก็ยังดับได้ชั่วครั้ง ชั่วคราว คุณต้องถามใจตัวเองว่าถูกทางหรือไม่ ถ้ายังปฏิบัติตามท่านอีกจะดีหรือไม่ ถามใจคุณดู

ถ้าเราปฏิบัติตามพระองค์ไหน(มรรค) แล้วใจดีขึ้น พัฒนาขึ้น
มีศึลบริสุทธิ์ขึ้น เพราะใจตนเองเห็นโทษของการเป็นผู้ทุศีล
ใจตนเองปรารถนาการเจริญสมาธิ เพราะเห็นโทษของนิวรณธรรม
ใจ
มีความศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง
ใจเรามีความเชื่อมั่นในการตรัสรู้ธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง
ใจรู้ว่ารูปขันธ์ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในรูปขันธ์ รูปขันธ์ไม่มีในเรา
ถ้าคุณปฏิบัติแล้วได้ผลอย่างนี้คุณลองถามใจตัวเองว่าควรปฏิบัติตามท่านอีกจะดีหรือไม่



ถ้าคุณ หมวยจ้า ปรารถนาพบพระอรหันต์ เพื่อให้ท่านบอกทางไปพระนิพพาน

คุณ หมวยจ้า ทราบหรือยังครับ ว่าจะเอาอะไรไปพระนิพพาน

ตัวเราคืออะไร อะไรที่เป็นตัวเรา และอะไรที่เราจะเอาไปพระนิพพาน?





ทั้งหมดนี่เป็นความเห็นจากใจของผมนะครับ ไม่ทราบว่าเห็นถูกหรือไม่

แต่ตั้งแต่ที่มีความเห็นแบบนี้ ก็รู้สึกว่าใจดีขึ้น

มีความมั่นคงในพระรัตนตรัย

เชื่อมั่นใน มรรค ผล นิพพาน

และก็เชื่อว่าเดินตามทางนี้ต่อไปต้องถึงจุดหมายที่ต้องการแน่



หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กรกฎาคม 21, 2015, 01:36:52 am

       สาธุ สาธุ อย่าเอาพระอรหันต์ มาเดาเทียบเคียง ว่าใช่ ไม่ใช่เลยครับ

        มันเป็นกรรมหนัก เหมือนเล่นของสูง ถ้าเกิดว่า กาย วาจา ใจ เกิดปรามาส ลำบาก  แก้กับใครก็ไม่ได้

        ก็ต้องหาแก้กับพระอรหันต์



              ผู้ที่จะดูพระอรหันต์ ได้  ต้องเป็นพระอรหันต์ เหมือนกันครับ

        ครูอาจารย์ท่านสอนสั่งมาอย่างนั้น


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กรกฎาคม 21, 2015, 11:01:26 am
เรียน คุณธุลีธวัช ตอนนี้เจอพระอรหันต์หรือยังคะ
และถ้าเจอพระอรหันต์ ท่านปฏิบัติแบบไหนคะ ถึงได้เป็นพระอรหันต์

    :58: thk56 ที่จะตอบให้ หมวยนีย์ เข้า ใจ คร้า

พระอรหันต์มีอยู่จริงหรือไม่ จะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี นะ เอาอะไรมาพิสูจน์กันเล่าในความเชื่อนี้ ถ้าเราใช้สิทธิ์ที่จะไม่ขอเชื่อก็เท่ากับเราไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์ แต่เพราะเราท่านทุกคนเชื่อว่ามีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นจริง สิ่งที่ตามมาคือเราจะหากราบหาโอกาสฟังธรรมจากท่านนั้นได้อย่างไร? ที่ไหน? สำหรับผมต้องขอบอกก่อนเลยนะครับว่า ผมศึกษาหาอ่านอัตตะชีวประวัติครูบาอาจารย์หลากหลายท่านมาตั้งแต่ยังเยาว์เรียกว่ารู้จำความได้ก็ใฝ่ใส่ใจในเรื่องของพระพุทธเจ้าพระอริยะสงฆเจ้าอย่างหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน,หลวงปู่มั่น,ศิษย์สงฆ์ครูอาจารย์ อีกทั้งฤทธิ์อภิญญา วัตรธุดงค์ อื่นอีกมากมาย สิ่งหนึ่งสิ่งนั้นที่สำคัญคือ ผมได้ตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาจักขอดำเนินตามรอยบาทเยื่องครูบาอาจารย์ทั้งหลายอย่างนั้น สิ่งหนึ่งประการแรกผมอธิษฐานขอให้ได้เจอะเจอพระอริยะสงฆ์สุปฏิปันโนครับ และเท่าที่ผมมีโอกาสได้ไปกราบจริงๆก็มีเพียงสี่รูปที่ผมคิดว่าไม่ผิดหรือพลาดจากความปรารถนานั้น

       1.พระวรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่) ซึ่งพระท่านนี้เป็นศิษย์หลวงปู่ดู่ พรหมฺปญฺโญ วัดสระแก จ.อยุธยา เป็นครูอาจารย์ในสายพุทธภูมิเป็นอริยะสงฆ์ยังมิใช่พระอริยะสงฆ์สาวก

       2.พระเจษฎา โชติปญฺโญ (ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ณ ลานธรรมอรหันตาหน่อแก้วฟ้าโพธิญาณ อ.คง จ.นครราชสีมา) ซึ่งพระรูปนี้เป็นศิษย์พระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วีระ ถาวโร วัดจันทาราม (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี เป็นอริยะสงฆ์สาวกครูอาจารย์ที่ผมไปกราบหลายครั้งคราท่านถูกชะตาด้วยอย่างมากกับผมถึงกับกล่าวว่าให้หาโอกาสมาเยี่ยมเยือนท่านบ่อยๆ

       3.พระพิพัฒน์ วชิรมโน (ครูบาเจ้าเพชร ณ อัญญาวิโมกข์โพธิรังษี/วัดป่ากล้วยไม้ดิน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา) ซึ่งพระรูปนี้เป็นศิษย์เดิมในสายวัดพลับนับแต่แรกเริ่มภาวนา เคารพอย่างยิ่งในท่านพระธรรมวิสุทธิมงคล หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เป็นพระสงฆ์ที่ผมได้มีโอกาสไปขมากราบเยี่ยมฟังธรรมจากท่านทุกปี

       4.พระครูสิทธิสังวร วีระ ฐานวีโร / พระอาจารย์สนธยา ธมฺมวํโส สงฆ์สองรูปสำคัญที่ผมมีวาสนาด้วยมากที่สุด มีโอกาสได้ฟังธรรมอันพิศดารมากที่สุดที่มิได้เคยฟังจากพระสงฆ์อื่นรูปใดเลยมาก่อน สิ่งที่เรียนรู้หาอ่านมาก่อนหน้าสรุปจบได้ที่สงฆ์สองรูปนี้ ผมนำท่านกล่าวไว้ด้วยกันด้วยท่านเนื่องมาแต่ครูอาจารย์รูปสำคัญองค์เดียวกันคือพระราหุลพุทธชิโนรส และ สมเด็จพระอริยะวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช ญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) หากแม้นเราท่านจักจำเริญดำเนินไปสู่ธรรมอันยิ่งวาสนามาได้เริ่มที่คณะ ๕ วัดพลับ นับว่าวาสนามหาศาลแล้ว จงเนื่องนับต่อไปจากก้าวที่จะก้าวในวันนี้ เถอะครับ

พระสงฆ์อื่นมีไปกราบบ้างก็แค่ทำบุญ ในสายอรัญวาสีพระอยู่ป่าสิ้นเพียงได้ไปกราบกล่าวอธิษฐานต่อหน้าสรีระขันธ์หลวงตามหาบัวเท่านั้น ครับ! คุยคีร์มายาวขนาดนี้ใช่ว่าผมจะสรุปให้ท่านไปกราบแล้วกล่าวว่าท่านเหล่านั้นเป็นอรหันต์ แต่นี่เป็นด้วยผมกล่าวอธิษฐานไว้ให้ได้เป็นทุนกำลังแก่ตนในหนทางที่จะก้าวไปในวิถีภาวนาเพื่อความสิ้นสุดวัฏฏะเบื้องหน้าเท่านั้น
 
หากเราจะเชื่ออะไรก็ตั้งสัตย์นั้นในใจตน แล้วค้นควานคว้าโอกาสไป วาสนามีอยู่ที่ใดใครหนึ่งนั้นคงเจอเอง ครับ!


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: modtanoy ที่ กรกฎาคม 21, 2015, 11:14:40 am
เอหิปัสสิโก
   ควรแก่การพิสูจน์

  ยุคนี้ พระอรหันต์ มีมาก แค่เพียง ละกิเลส  ไม่เสก ไม่สวด ไม่ยิ้ม ไม่หัวร่อ ไม่พูดเล่น เดินระมัดระวัง สำรวม ไม่สะสม ไม่ยุ่งกับชาวโลก

    ยุคที่น่าเสียดาย คือ ยุค หลวงพ่อพุทธทาส หลวงพ่อปัญญา พระญาณสังวร

    พวกเสก พวกสวด พวกไร้สาระ ใช้พุทธศาสนา เป็นเครื่องมือหาเงิน หลอกลวงคนด้วย ความงมงาย เหล่านี้ไม่ใช่ พระอรหันต์ พวกสะสมรถ ซื้อบ้าน มีเงินฝากกันเป็นกะตัก พวกนี้ก็ไม่ใช่พระอรหันต์

   พระอรหันต์ ท่านจะแมนมาก ไม่อ้วน หุ่นงาม พูดจาไพเราะ สำรวมระวัง ไม่หัวร่อ ไม่ร้องไห้ ไม่พูดเล่น เดินช้า ๆ นิ่มนวล มองเห็นปุ๊บ ก็ศรัทธาปั๊บ ทันที
    ดูไม่อยากหรอก คะ

 :coffee2:


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: บุญเอก ที่ กรกฎาคม 22, 2015, 12:43:35 am
 like1 like1 like1
  st11 st12 st12 st12


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: naka-54 ที่ กรกฎาคม 22, 2015, 07:00:39 am
พระอรหันต์ อยู่ที่ บ้าน 2 คน
 :49: thk56 st11 st12


หัวข้อ: Re: พระอริยะเขาดูกันอย่างไร? (โดย พระราชพรหมยาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 01:39:59 am
 st11 st12 st12 NAKA-54