ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - แพนด้า
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 7
41  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / พิธีสวดมงคลจักรวาฬใหญ่ 2609 จบ ต่อเนื่อง ที่วัดตรีวิสุทธิธรรม 19-23 ธ.ค.55 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 06:55:48 pm


พิธีสวดมงคลจักรวาฬใหญ่ 2609 จบ ต่อเนื่อง ที่วัดตรีวิสุทธิธรรม สวดด้วยความเมตตา ด้วยใจที่ปรารถนาดีต่อโลกและจักรวาล และต่อสรรพสัตว์เพื่อนร่วมทุกข์ทั้งหลาย  เพิ่งเคยมี หนนี้หนเดียว


หลวงพ่อบอกว่า "อนาคต มีไว้ทำใจ  ปัจจุบัน มีไว้ให้ ใส่ใจ"  ทำอะไรไม่ได้ก็ชวนกันสวดมนต์ก็แล้วกันค่ะ


ไม่มาวัดก็สวดเองที่บ้านได้

กลัวภัยพิบัติ ก็มาสวดได้

ไม่กลัวภัยพิบัติ ก็มาสวดได้



เรามันเป็นคนหมดที่พึ่งซะแล้ว...เหลือพึ่งได้สิ่งเดียว แต่มีองค์สาม..


ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระพุทธเจ้า เป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า
ด้วยการกล่าวสัจจะวาจานี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน

ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระธรรม เป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า
ด้วยการกล่าวสัจจะวาจานี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน

ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระสงฆ์ เป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า
ด้วยการกล่าวสัจจะวาจานี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน

จากคุณ    : chaosy
42  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เตือนภัยพิบัติ 3 มกราคม 56 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 06:50:22 pm
3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน อาจจะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะทุกชนิด และ อาจไม่มีการทำงาน และ ไม่มีการประกอบอาชีพใดๆบนโลกใบนี้ก็อาจเป็นได้ หากทุกคนไม่สามารถยืนทรงตัว และ ไม่สามารถเดินได้ด้วยสองขาของตนในช่วงเวลาดังกล่าว

พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐานที่สำคัญในยุคปัจจุบันท่านหนึ่ง ในสายสมาธิหมุน (หมุนพระธรรมจักร) ท่านศึกษารายละเอียดเชิงลึกจากสาส์นของชาวมายัน และจารึกโบราณจากสโตนเฮ้นจ์ ที่ประเทศอังกฤษ และ ทำกรรมฐานเชิงลึกขั้นถอดจิตออกจากกายได้ โดยให้ลูกศิษย์ทำการตรวจสอบ เป็นข้อมูลคู่ขนาน คือ พระชัยวัฒน์ พนมยงค์ หลานฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ และ ดร.สรัญฯ อาจารย์คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า ได้ข้อมูลตรงกัน

เนื่องจากข้าพเจ้า นายมงคล กริชติทายาวุธ ซึ่งได้เข้ารับการอบรมการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เป็นครั้งแรกจากพระอาจารย์รัตน์ฯ และ พระอาจารย์รัตน์ฯ แจ้งว่า การอบรมการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในครั้งนี้ จะเป็นการจัดอบรมเป็นครั้งสุดท้ายของปี 2555 ในระหว่างวันที่ 8-9 ธันวาคม 2555 ณ ห้องกาหลา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต โดยได้แจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป ท่านจะกลับขึ้นเขาไปที่แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อทำกิจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไป ใครจะนินทาให้ร้ายอย่างไร จะเชื่อหรือไม่เชื่อในเรื่องที่ท่านนำมาเตือนภัยนี้ ก็สุดแต่จะพิจารณากันเอาเอง

ขออนุญาตเรียนย้ำว่า ท่านพระอาจารย์รัตน์ฯ ได้องค์ความรู้ฯ จากการศึกษาค้นคว้าในศาสตร์โบราณ และ จารึกโบราณ ว่าด้วยการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ และ เสริมด้วยองค์ความรู้ฯ ที่ได้มาจากการศึกษาทาง “จิต” ที่สงบนิ่งได้องค์ฌาน เป็นญาณทัศนะ ถอดจิตออกจากกายไปรับรู้เรื่องราวในอดีต และ ทราบเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้พระอาจารย์รัตน์ฯ รู้ถึงเหตุและผล ของแต่ละปรากฏการณ์ ในความเชื่อมโยงของแต่ละเหตุการณ์ ได้ด้วยการใช้ แรงสืบต่อ หรือ แรงสันตติ สาวหาเหตุและผล ของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ สลาย ของสรรพสัตว์ ปรากฏการณ์ สุริยจักรวาล กาแลคซี่ และจักรวาล ฯลฯ

ทำให้ได้เห็นความจริงที่ผูกโยงเป็นเงื่อนไขว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนั้นย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนั้นจึงเกิด เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนั้นย่อมไม่มี เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนั้นจึงดับไป ซึ่งเป็นความรู้ที่ไม่ได้เกิดมาจากการทำงานของสมองและใจ ตามปกติที่สามัญชนกระทำกัน จึง
ไม่ใช่การพยากรณ์ มิใช่การทำนาย แต่เป็นการบอกแจ้งให้ทราบว่า หรือ เพียงแจ้งให้ท่านทราบว่า ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว อะไรจะเกิดตามมาในลำดับต่อไป

ตามเงื่อนไขที่ผูกโยงไว้อย่างเป็นเหตุและผลต่อกัน ส่วนท่านใดจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้น หาใช่สิ่งสำคัญไม่ เพียงแต่ว่า หากมีปัจจัยนี้เกิดขึ้นแล้ว พระอาจารย์รัตน์ฯท่านจึงออกมาเตือนให้ทราบว่า จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นต่อไป เพื่อให้การช่วยเหลือมนุษยชาติให้ได้มากที่สุด

ในส่วนของการได้เรียนรู้ เกี่ยวกับการทำวิปัสสนา การตรวจหาสิ่งที่มีชีวิต สิ่งที่ไร้ชีวิต และ การรักษาโรคนั้น ขออนุญาตไม่กล่าวถึงในวันนี้ แต่ขอกล่าวถึงในส่วนที่ท่านพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ได้มาเตือนเรื่องภัยพิบัติใหญ่ที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ โดยสรุปดังนี้

“ในระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน จะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะใดๆทุกชนิดในโลก ไม่ว่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยานถีบด้วยเท้า ไม่มีเรือบิน หรือ การเดินทางในทางน้ำ ระบบการสื่อสารคมนาคมล่มในทุกระบบ และ ผู้คนทั้งหลายจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานในสถานที่ต่างๆได้ แม้จะเป็น Home office ก็ลุกจากที่นอนมาทำงานไม่ได้ หมายความว่า ในช่วงเวลา 42 วันดังกล่าว จะไม่มีการประกอบอาชีพใดๆบนโลกใบนี้ เป็นช่วงที่ไม่มีโจรขโมย เพราะ ทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ ไม่สามารถยืนทรงตัวได้ และ ไม่สามารถเดินได้ด้วยสองขาของตนในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากถูกพลังงานอันมหาศาลกดทับร่างของทุกคนบนโลก ไม่ให้ทรงตัวยืนได้ ต้องล้มลงนอนทุกคน จะกินอาหาร จะดื่มน้ำ ก็จะต้องนอนกินนอนดื่ม รวมทั้งนอนขับถ่ายด้วย”
ทั้งนี้ ท่านแจ้งว่ามีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่นั่นเอง

เพราะทุกๆรอบ 13,000 ปี สุริยจักรวาล กาแลคซี่ทางช้างเผือก และ กาแลคซี่ไตรแองกุลัม จะโคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ซึ่งจะมีผลให้ โลก และสุริยจักรวาล จะเปลี่ยนเข้าสู่แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม ทางทิศตะวันออก

เดิมนั้น พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ได้เปิดสอนหลักวิปัสสนากรรมฐาน โดยการเคลื่อนที่ของจิต ด้วยอุบายหลัก 2 วิธี คือ การเจริญสติ เพื่อฝึกจิตให้เห็น การเกิด – ดับ ของการกระทบที่เกิดขึ้น เป็นปัจจุบันขณะ และ

อุบายของการหมุนธรรมจักร เพื่อฝึกจิตไม่ให้ติดในการกระทบที่เกิดขึ้นทั้งสองส่วน คือ ที่อายตนะภายนอก และ อายตนะภายใน อีกทั้งยังได้ประยุกต์ หลักการเคลื่อนที่ของจิต มาเป็นการเคลื่อนที่ของพลังจิต ของพลังงาน โดยใช้ศาสตร์พีระมิด ของชาวแอตแลนตีส เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้าง ฟื้นฟู บำบัด รักษาร่างกายด้วยตนเองให้แก่ผู้สนใจมานาน


พระอาจารย์ฯ ท่านว่า เรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลกของเราในเร็วๆนี้นั้น แท้ที่จริงแล้ว กล่าวได้ว่า เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และ ไม่เลื่อนเวลาอีกแล้ว

เพราะโลกของเราเคยเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มาแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น ตามความรู้ที่ได้จาก สโตนเฮนจ์ (Stone Henge) ซึ่งบ่งชี้ว่า ทุกๆ 13,000 ปี จะมีการสลับเปลี่ยนขั้วของแรงดึงดูด ที่มีอิทธิพลต่อโลก สุริยจักรวาล เนื่องจากกาแลคซี่ ที่มีอิทธิพลต่อสุริยจักรวาลมีด้วยกันถึง 3 กาแลคซี่ ได้แก่

1. กาแลคซี่ทางช้างเผือก (Milky Way Galaxy) มีศูนย์กลางของแรงดึงดูดอยู่ทางทิศเหนือในปัจจุบัน โลก สุริยจักรวาล ตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่นี้

2. กาแลคซี่ไตรแองกุลัม (Triangulum Galaxy) มี ศูนย์กลางของแรงดึงดูดอยู่ทางทิศตะวันออก มีขนาดเล็กกว่ากาแลคซี่ทางช้างเผือก ในอนาคตโลก สุริยจักรวาล จะถูกดึงเข้าสู่แรงดึงดูดของกาแลคซี่นี้ ตามวาระการวนครบรอบอีกครั้ง

3. กาแลคซี่อันโดรเมดา (Andromeda Galaxy) เป็นกาแลคซี่ที่มีขนาดใหญ่มาก แผ่อิทธิพลควบคุมทั้ง 2 กาแลคซี่ ไม่ส่งผลกับโลกโดยตรง

ดังนั้น จึงพอสรุปได้ว่า ใน 1 รอบใหญ่ คือประมาณ 26,000 ปี ตามปฏิทินดาราศาสตร์ที่สโตนเฮนจ์ โลก สุริยจักรวาล จะตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ทางช้าง เผือก 13,000 ปี และสลับไปอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม อีก 13,000 ปี

การประสบกับภัยพิบัติอย่างรุนแรง ถึงกับมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของพื้นผิวโลก นั่นคือ จะมีการเปลี่ยนพื้นที่ตั้งของภูเขา ไปเป็นมหาสมุทร จากป่าฝนไปเป็นทะเลทราย จากเขตร้อนกลายเป็นเขตหนาว ฯลฯ นอกเหนือจากเป็นการทำงานตามวาระของธรรมชาติแล้ว ยังมีองค์ประกอบที่ส่งผลร่วมอย่างร้ายแรง คือ การกระทำของมนุษย์ในแต่ละยุคสมัยด้วย

เมื่อประมาณ 26,000 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงวาระที่โลก สุริยจักรวาล อยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม ที่สมบูรณ์ไปด้วยพลังงานที่ดี เช่น กระแสลมปราณ และ มโนธาตุ ส่งผลให้มหาอาณาจักรแอตแลนตีส เจริญสูงสุดในทุกด้าน

แต่จุดเสื่อมย่อมเพาะเชื้อก่อกำเนิดมาจากจุดสูงสุดเสมอ เมื่อคนเรามีความรู้มาก เก่งมาก จึงนำไปสู่การผลิตอาวุธสงครามที่ร้ายแรง เรียกว่า “อาวุธเส้นแสง”

เมื่อ อาวุธเส้นแสง ถูกนำมาใช้ในการทำสงคราม สิ่งที่เกิดตามมา คือ เกิดแรงอัดกระแทกอย่างมหาศาลลงสู่พื้นดิน พร้อมๆ กับการโคจรมาเรียงตัวเป็นเส้นตรงของ สุริยจักรวาล กาแลคซี่ทางช้างเผือก และกาแลคซี่ไตรแองกุลัม

ด้วยขนาดของกาแลคซี่ทางช้างเผือกที่ใหญ่กว่า จึงทำให้แกนขั้วโลกจากทิศตะวันออก พลิกเปลี่ยนชี้ไปทางทิศเหนือ มหาอาณาจักรแอตแลนตีส จึงจมลง เปลี่ยนสภาพจากแผ่นดิน กลายเป็นมหาสมุทรในชั่วข้ามคืน เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพ บนพื้นผิวโลกอย่างมโหฬารไปทั่วทุกส่วนของ โลก ตามอัตราส่วนของการมีพื้นน้ำ 3 ส่วน และพื้นดิน 1 ส่วน มนุษย์เสียชีวิตมากมายเหลือคณานับ เป็นการสิ้นสุดของยุคทองแห่งแอตแลนตีส

ชาวแอตแลนตีสกลุ่มหนึ่ง มี ผู้นำเป็นนักบวชที่มีพลังจิตสูง ได้ลงเรือเดินทางออกจาก มหาอาณาจักรแอตแลนตีส ก่อนจะเกิดเหตุภัยพิบัติอย่างรุนแรง ล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน ขึ้นฝั่งในแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ ประเทศอียิปต์ในปัจจุบันนี้ การถ่ายทอดอารยธรรมแอตแลนตีส จึงได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง สัญลักษณ์ สิ่งแรกที่ยิ่งใหญ่แสนมหัศจรรย์ที่นักบวชได้สร้างขึ้นด้วยพลังจิต และอาศัยความช่วยเหลือจากชาวดาวอังคาร คือ การสร้างสฟิงซ์ (Sphinx) ด้วย เทคนิคการใช้พลังจิต เปลี่ยนวัตถุเป็นพลังงานแสง และเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นวัตถุ เป็นรูปสิงโตหมอบ เหยียดขาหน้าทั้งคู่ไปด้านหน้า ลำตัวทอดยาวไปตามแนวทิศตะวันออก และทิศตะวันตก เพื่อเป็นสิ่งบ่งบอกว่า ในอนาคตข้างหน้า เมื่อถึงวาระครบ 13,000 ปีอีกครั้ง

ณ ที่ตั้งสฟิงซ์แห่งนี้ จะกลายเป็นตำแหน่งของขั้วโลกใหม่ และ ขั้วโลกจะชี้ไปทางทิศตะวันออก อยู่ในอิทธิพลแรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม อีกครั้ง โดยใช้เวลารอบใหม่เป็นเวลานานอีกประมาณ 13,000 ปี

ชาวแอตแลนตีส มีความชำนาญในการใช้พลังพีระมิดอย่างหลากหลาย และได้ถ่ายทอดสู่ชาวอียิปต์จากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งอีกหลายพันปีต่อมา จึงได้มีมหาพีระมิดเกิดขึ้น

เชื้อสายชาวแอตแลนตีสรุ่นต่อๆมา มีการย้ายถิ่นฐาน สร้างเมือง สร้างประเทศใหม่ อารยธรรมแอตแลนตีสจึงกระจายออกไปหลายส่วนของโลก ที่รู้จักกันดี คือ ชนเผ่ามายา หรือ มายัน ผลงานชิ้นสำคัญของพวกเขา คือ การจัดวางเสาหิน แท่งหิน ขนาดมหึมาเป็นรูปวงกลมซ้อนกันอยู่ 3 วง เรียกว่า สโตนเฮนจ์ (Stone Henge) อยู่ที่เมือง ซาลเบอรี่ (Salisbury) ประเทศอังกฤษ มีเทคนิคการสร้างเหมือนกับการสร้างสฟิงซ์ คือ

การใช้พลังจิต เปลี่ยนวัตถุเป็นพลังงานแสงก่อน และ เมื่อนำไปจัดวางได้เรียบร้อยแล้ว จึงเปลี่ยนพลังงานแสง คืนกลับเป็นวัตถุอีกครั้ง

สโตนเฮนจ์ เป็นปฏิทินดาราศาสตร์ ใช้หลักคำนวณจากการโคจรของกาแลคซี่ ทั้ง 3 ใน 1 รอบ คือ 26,000 ปี โดยสามารถถอดรหัสได้ว่า ในช่วงระยะเวลา 26,000 ปี สุริยจักรวาล จะตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ทางช้างเผือก 13,000 ปี และ อีก 13,000 ปี จะสลับมาอยู่ในอิทธิพลของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม

ฉะนั้น การสร้างสโตนเฮนจ์ มีจุดมุ่งหมาย เพื่อเตือนภัยแก่ชาวโลก เมื่อถึงวาระของการสลับเปลี่ยนขั้วของแรงดึงดูดอีกครั้ง

การเกิดภัยพิบัติในอนาคตอันใกล้นี้ เป็นความสัมพันธ์ เชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน และอนาคต ระหว่างกาแลคซี่ทั้ง 3 กับสฟิงซ์ สโตนเฮนจ์ และ แกนพลังงานโลก โดยมีทั้งมนุษย์ และธรรมชาติเป็นพลังงานขับเคลื่อน

แกนพลังงานโลก เป็นแกนพลังงานที่ทอดยาวควบคู่ไปกับแกนสสาร ที่ปัจจุบันชี้ไปทางขั้วโลกเหนือและใต้ แกนพลังงานประกอบด้วยพลังงานสำคัญ 3 ประการ คือ

1. พลังงานแม่เหล็กโลก หรือ พลังงานแรงดึงดูดจากศูนย์กลางกาแลคซี่ทางช้างเผือก เป็นแรงร้อยรัดที่ดึงโลก ให้อยู่กับสุริยจักรวาล และ กาแลคซี่ ตามลำดับ เป็นพลังงานที่มีคุณสมบัติที่ร้อนและหนัก มีสีเข้ม คล้ายสีเทา เกือบดำ และอยู่นอกสุดของแกนพลังงาน

2. พลังงานกระแสลมปราณ มีสีออกเหลือง ออกส้ม เป็นพลังงานที่โลกเราได้รับมาจากดวงอาทิตย์ เป็นพลังงานที่ดี มีประโยชน์ เป็นเสมือนภูมิต้านทานร่างกาย ที่มนุษย์ทุกคนได้รับอย่างเท่าเทียมกัน โดยลมหายใจเข้า

3. พลังงานมโนธาตุ มีสีออกขาว อยู่ชั้นในสุดของแกนพลังงาน เป็นพลังงานดี ช่วยเสริมจิตใจให้มีคุณธรรม

เทคโนโลยี ที่เกิดจากการผลิตอุตสาหกรรมหนัก ทำให้เกิดสารตกค้าง CFC หรือ สาร คลอโรฟลูออโรคาร์บอน และยังไม่มีวิธีการใดที่สามารถทำลายสาร CFC นี้ได้สำเร็จ

สาร CFC มีคุณสมบัติ “เบา กว่าธาตุอื่นๆทุกชนิด” จึง สามารถแทรกเข้าไปทำลายแกนพลังงานโลก เริ่มขบวนการทำลายมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2540-2544 จนกระทั่งแกนพลังงานโลกตัน ทำให้แรงร้อยรัด หรือ พลังงานแม่เหล็กโลก ที่ส่งออกมาจากกาแลคซี่ทุกวินาที ไม่สามารถไหลทะลุผ่านขั้วโลกเหนือ-ใต้ได้ พลังงานจึงแผ่กระจายไปทั่วทุกส่วนของโลก ทั้งพื้นน้ำ มหาสมุทร พื้นแผ่นดิน แผ่นหิน เปลือกโลก ร่างกายมนุษย์ สัตว์ และ พืช ฯลฯ

ความร้อนและหนัก จึงฝังตัวติดแน่น สะสมเป็นเชื้อร้ายแฝงอยู่ และเพิ่มอันตรายมากทวีคูณ เกินกว่าจะพรรณนาได้ กล่าวได้เพียงว่า
พลังงานแม่เหล็กโลก จากกาแลคซี่ทางช้างเผือกในปัจจุบัน คือ พลังงานสำคัญที่ทำลายมนุษย์ และเปลี่ยนโลกใบนี้ในอนาคต

ผู้คนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ คือ ผู้ปล่อยยักษ์ใจร้ายตนนี้ออกมาเอง และหากสมมุติว่า จะเนื่องด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทำให้ภัยพิบัติจากการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ไม่เกิดขึ้น มนุษย์ สัตว์ และ พืช ทั้งหลาย ก็อาจถูกทำลายอย่างรุนแรง ด้วยพลังงานแม่เหล็กโลก และ พลังกระแสไฟฟ้าลบ อาจสิ้นชีวิตลงเกือบ 3 ใน 4 ส่วนของประชากรโลก ภายใน 14 กุมภาพันธ์ 2556 โดยประเทศไทย จะเป็นประเทศที่มีประชากรเหลือมากกว่าประเทศอื่นๆ และ พุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองสูงใน 2,500 ปีต่อจากนี้

พลังงานกระแสลมปราณ และ พลังมโนธาตุ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ได้ลอยสูงขึ้นๆ ไปอยู่ในบรรยากาศชั้นบนสูง เกินกว่ามนุษย์จะนำเข้าสู่ร่างกายได้ ด้วยลมหายใจ เข้า ดังนั้น ด้วยองค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ จึงได้นำพลังพีระมิดมาใช้เพื่อช่วยมนุษยชาติในการแก้ปัญหาดังกล่าว

พลังงานกระแสแม่เหล็กขั้วลบ จากกาแล็กซี่ทางช้างเผือก และ พลังงานไฟฟ้าขั้วลบจากกาแล็กซี่อัลโดรมีด้า ได้แผ่กระจายเข้ามาในโลกอย่างรุนแรงหนาแน่นมาก ในทุกพื้นที่บนโลก โดยจะเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงของแผ่นเปลือกโลก จะเกิดการเคลื่อนที่สับเปลี่ยนของผืนแผ่นดิน แผ่นน้ำ จะเกิดลมพายุ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่มากกว่าปรากฏการณ์ในปี 2554 หลายสิบเท่าตัว จะเกิดการหล่นกระจายของแผ่นฝ้าน้ำแข็ง เพดานโลกที่เกิดจากการสะสมของควันน้ำมัน บางก้อนมีน้ำหนักถึง 40 กิโลกรัม ฯลฯ

สิ่งที่จะยืนยันว่าจะมีเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นนั้น จะเริ่มเห็นชัดมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป ถ้า

1. การยืน หรือ เดินของตัวเรา ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา ลูกหลาน หากเริ่มปรากฏอาการโครงเคลงตอนลุกขึ้นยืน หรือ ในเวลาเดิน หรือ มีอาการสะดุดคล้ายตกหลุมอากาศ ภูมิต้านทานโรคลดต่ำลง มีอาการป่วยง่าย มีอาการอ่อนเพลียมาก และ/หรือ

2. มีแผ่นดินไหวในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

3. มีภูเขาไฟระเบิดในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

4. มีแผ่นดินยุบตัวลงในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

5. ระบบนำร่องของเรือเดินทะเลมีปัญหา เกิดอุบัติเหตุทางเรือในสถานที่ต่างๆ ถี่ขึ้น และ/หรือ

6. ระบบนำร่องของเครื่องบินมีปัญหา ทำให้เกิดเครื่องบินตก เครื่องบินชนกัน ในสถานที่ต่างๆถี่ขึ้น และ/หรือ

7. ระบบสื่อสารคมนาคมมีปัญหา ไม่ว่าทีวี โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ท ไอแผ็ด ไอโฟน หรือ ระบบไฟฟ้าสายเมนใต้น้ำ ใต้ดินระเบิด จะมีการขัดข้องบ่อย สะดุดบ่อย สายหลุดบ่อยกว่าที่เคยปรากฏ โดยปรากฏในสถานที่ต่างๆ ถี่ขึ้น และ/หรือ

8. ระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียมทั่วโลกมีปัญหา

หากมีเหตุต่างๆหลายประการเกิดขึ้น และต่อมา ในช่วงตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป ถ้า มีแรงดันที่ท้องของแต่ละคนมากขึ้น จนรู้สึกอยากโค้งตัวลง หรือ งอตัวลง จึงจะรู้สึกสบาย คือ เกิดสภาวะการยืดตัวตรงลำบาก ซึ่งจะเห็นได้จากคนอื่นๆ และ ตัวของเราเอง มีการหายใจติดขัด ไม่คล่องจมูกมากขึ้น และ สิ่งบอกเหตุ 8 ประการก็มีมากขึ้น ท่านทั้งหลายที่อยู่ในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตก ขอให้ท่านรีบเดินทางไปหาที่พักในเขตภาคเหนือ และ ภาคอิสาณโดยเร็ว น่าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ท่านอยู่อาศัยในปัจจุบันโดยเร็ว (ชายทะเลใหม่อาจไปอยู่ที่สระบุรี ลพบุรี และ นครสวรรค์ สำหรับพื้นที่ภาคกลาง จะมีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่าปี 2554 ได้)

นั่นคือ จะมีการเปลี่ยนสัณฐานของโลกครั้งใหญ่ พื้นดินในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตกนั้น อาจยุบจมหายไปได้

ความรุนแรงมากที่สุด น่าจะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน ที่อาจไม่มีการทำงาน และ ไม่มีการประกอบอาชีพใดๆได้ นั่นคือ จะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะทุกชนิด หากอยู่ระหว่างการเดินทาง ต้องหยุดการเดินทางทั้งหมด เพราะพลังงานของกระแสแม่เหล็กโลก และ พลังงานกระแสไฟฟ้าลบ เข้ามาในโลกอย่างรุนแรงหนาแน่น จนไม่เหลือช่องว่าง และ ทุกคนอาจไม่สามารถทรงตัวยืน เดิน ตามปกติได้ และ อาจต้องเคลื่อนไหวโดยการคลานสี่เท้า รวมทั้งต้องนอนตะแคงใบหน้ากินอาหาร หรือ กรอกน้ำใส่ปากในช่วง 42 วันดังกล่าวนี้ก็อาจเป็นได้

ก่อนหน้าวิกฤติช่วง 42 วันนี้ ท่านต้องรีบเตรียมสำรองอาหาร ที่รับประทานได้ง่ายที่สุด หากเป็นแคปซูลได้ยิ่งดี อาหารที่ไม่ต้องเสียเวลาปรุง ไม่ต้องสนใจในรสชาติ ขอให้ท้องอิ่ม เพื่อให้มีลมหายใจอยู่ให้รอด 42 วันที่ยืนเดินไม่ได้ ท่านต้องเตรียมอาหารและน้ำดื่มบนพื้นห้องนอน

อาหารที่ท่านต้องรีบเตรียมการโดยด่วน อาทิ อาหารที่ใช้รับประทานในอวกาศต่างๆ เช่น อาหารที่ผลิตใส่ในแคปซูลเม็ด หากหาไม่ได้ ก็ต้องเป็นประเภทนำใส่ปากรับประทานได้เลย เพราะช่วง 42 วันดังกล่าว จะไม่มีไฟฟ้าใช้ ผู้ที่อยู่คอนโดมิเนียมทั้งหลายจะเดือดร้อน อาหารแห้งที่ต้องเตรียมพร้อม เช่น สาหร่ายประเภทต่างๆ ไมโล โอวัลติน ถั่วต่างๆ เมล็ดทานตะวัน เม็ดมะม่วง ข้าวเม่า ข้าวตัง กล้วยอบแห้ง ผลไม้อบแห้ง ฯลฯ ต้องหาอาหารที่ไม่ต้องขับถ่ายมากมารับประทาน
น้ำดื่มสะอาดจำนวนมาก พร้อมหลอดดูด ต้องเตรียมไว้ให้มากพอ

ท่านต้องนอนกับพื้น และ มองหาที่พอคลานไปขับถ่ายได้ อย่าลืม จะทรงตัวยืนไม่ได้ในช่วงระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน สำหรับเรื่องอาบน้ำนั้น ไม่ต้องสนใจ

หลังจาก 14 กุมภาพันธ์ 2556 ไปแล้ว ในช่วง 7 วันแรก ไม่ควรออกมานอกบ้าน เพราะพลังงานในโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ยังปรับสมดุลไม่ได้ดี ร่างกายของมนุษย์อาจมีอันตราย

หลังจาก 21 กุมภาพันธ์ 2556 ไปแล้ว ต่อไปในประเทศไทยจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-24 องศาเซลเชียส มีอุณหภูมิใกล้เคียงกับเกาหลี และ ญึ่ปุ่น ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2556 ประเทศไทยจะมีอากาศเย็นสบาย พระอาจารย์รัตน์ฯ ให้ติดตามดูต่อไป

สำหรับผู้ที่อยู่ภาคอิสาณนั้น พื้นที่ริมฝั่งโขงทั้งหมด จะได้รับอันตรายจากเขื่อนใหญ่หลายแห่งในประเทศจีนแตก ภูเขาหิมาลัยจะทรุดตัวลง ปริมาณน้ำแข็งจะละลายเป็นปริมาณน้ำมหาศาล ย่อมท่วมเข้ามาในพื้นดินริมโขงทุกจังหวัดของไทย และ ลาว

ช้าที่สุด คือ ต้องอพยพออกจากพื้นที่ในเขตภาคใต้ ภาคกลาง(กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงครม ฯลฯ) ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตก โดยรีบเดินทางไปเข้าที่พักในเขตภาคเหนือ และ ภาคอิสาณก่อน 24 นาฬิกาของวันที่ 2 มกราคม 55 จะปลอดภัยมากกว่า

มนุษย์เรานั้น ประกอบด้วย จิตและกาย หากยังมีความคิดว่า “ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า ควรรักษาไว้” จึงควรแสวงหาทางรอด ตามวิถีความเชื่อของแต่ละบุคคล สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการฝึกจิต ควรเข้าใจให้ชัดเจนว่า พลังงานแม่เหล็กโลกที่ไม่ได้อยู่ในแกนพลังงานโลก เป็นพลังงานกั้นบัง ฉุดรั้ง เป็นเสมือน ตัณหาที่ฉาบทาโลก ส่งผลให้การฝึกจิต ทำได้ยากยิ่งขึ้น หากโลกเราได้แกนพลังงานใหม่ เปลี่ยนเป็นขั้วโลกตะวันออก เป็นกาแลคซี่ใหม่ที่ สมบูรณ์ด้วยพลังงานกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุ ซึ่งเหมาะแก่การฝึกจิตเป็นอย่างยิ่งในช่วงหลังจากปรากฏการณ์ครั้งสำคัญนี้แล้ว ในช่วงเวลานี้ พีระมิดแปดเหลี่ยมเท่านั้น ที่ช่วยพอประทังให้ประคับประคองความเป็นอยู่ได้บ้าง ด้วยการถอดจิต หรือ กายละเอียดไปพักนอกกาแล็คซี่ทั้งสาม ที่ขอบอนันตจักรวาล ซึ่งบรรดาศิษย์จำนวนหนึ่งของพระอาจารย์รัตน์ฯก็ต้องเร่งฝึกทุกวัน นับแต่วันนี้ (ที่ 9 ธันวา 55) เพื่อให้ทันภายใน 3 มกรา 56

ในที่สุด คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ ก็จะสำเร็จตามจิตประสงค์ มหาอาณาจักรแอตแลนตีส ที่เคยจมหายไปร่วม 13,000 ปี จะได้มีโอกาสโผล่ขึ้นมาอวดโฉมอีกครั้ง พื้นที่มหาสมุทรแอตแลนติค จะกลายเป็นพื้นดินขึ้นมาใหม่ ส่วนที่เคยเป็นพื้นดินในทวีปอเมริกา อัฟริกา ยุโรป และ เอเชียหลายส่วน จะกลายเป็นผืนน้ำที่ถาวรใน 13,000 ปีต่อจากนี้ไป

สิ่งเตือนใจ คือ อายุขัยของมนุษย์ และ สัตว์ นั้นแสนจะสั้น มีอายุได้อย่างมากเฉลี่ยแล้วประมาณ 100 ปีเป็นอย่างมาก หากยังดับกิเลสได้ไม่หมดสิ้น ท่านย่อมจุติ หรือ ตายไป แล้วไปปฏิสนธิ หรือ ไปเกิด หรือ อุบัติบังเกิดในภพภูมิต่างๆ เวียนว่ายตายเกิดต่างภพ ต่างภูมิ ตามผลกรรมของตน หรือ ผลของการกระทำที่เคยสร้างไว้ในครั้งยังมีชีวิตอยู่ และถ้าหากไม่เคยฝึกจิต คงไม่สามารถรู้ถึงเหตุและผล ของการตกอยู่ในสังสารวัฏ และการวนรอบของปรากฏการณ์ทุกอย่างได้ จึงมักจะเชื่อเฉพาะสิ่งที่รู้ได้ด้วยสมอง และ สัมผัสต่างๆด้วยตนเองเท่านั้น

ทั้งๆที่ความจริงที่มีอยู่ในโลกของเรานั้น ทุกคนเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ก็เชื่ออย่างสนิทใจว่ามี เช่น มีลม มีอากาศ มีคลื่นวิทยุ มีคลื่นโทรทัศน์ มีคลื่นโทรศัพท์ มีรังสีเอ็กซเรย์ มีรังสีแกรมม่า มีรังสีแอลฟ่า มีแสงอุลตราไวโอเล็ต ฯลฯ แต่ ถามจริงๆเถอะว่า มีใครมองเห็นสิ่งต่างๆตามตัวอย่างเหล่านี้บ้าง แม้จะมองไม่เห็น ทุกคนที่มีความรู้ ก็ย่อมเชื่ออย่างสนิทใจว่ามีอยู่จริง แต่ ในเรื่องพลังจิต กับถูกปฏิเสธว่า ไม่มีอยู่ จริง

เรื่องของจิต และ พลังจิตของแต่ละท่านนั้น เป็นเรื่องที่มีอยู่จริง แต่มีมากน้อยแตกต่างกันเท่านั้น ท่านที่ไม่เคยมีพลังจิต หรือ มีเพียงน้อยนิด โปรดอย่าปรามาส หรือ สบประมาทครูบาอาจารย์ที่ท่านมีพลังจิตที่เหนือกว่า เข้าทำนองว่า “ไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่" แต่ ก็มิได้บังคับให้ท่านต้องเชื่ออย่างงมงาย

เพียงแต่เรื่องใดที่ท่านไม่มีฐานความรู้ หรือ ไม่มีองค์ความรู้ในเรื่องนั้นๆมาก่อน ก็อย่าด่วนปฏิเสธทันที หรือ ดูหมิ่นความรู้ของผู้อื่น ที่นำเรื่องราวมาบอกกล่าวตักเตือน โปรดทำการศึกษาและติดตาม ทดลองและลงมือปฏิบัติ สักวันหนึ่งในอนาคต ท่านอาจได้พบความจริง เพียงแต่ หากลังเล หรือ ล่าช้าในการลงมือปฏิบัติ ในวันที่ท่านยอมรับความจริงนั้น อาจเป็นวันสุดท้ายของชีวิตท่านก็ได้ เข้าทำนองว่า “ไม่เห็นโลงศพ ก็ไม่หลั่งน้ำตา”

ขอให้ท่าน และ ครอบครัวของท่าน มีสติในทุกสถานการณ์ มีความปลอดภัย รอดพ้นจากความทุกข์ยากลำบากในช่วง 42 วันดังกล่าว เพื่อจะได้มีชีวิตในยุคพลังงานใหม่ที่ดี ที่ผู้คนมีจิตใจที่ดีงาม มีศีลธรรมสูง และ ขั้วโลกได้เปลี่ยนเป็นขั้วตะวันออก-ตะวันตก แทนขั้วเหนือ-ใต้

***********************************************
ด้วยความปรารถนาดี จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ
อดีต Senior Vice President บมจ.ธนาคารกรุงไทย และ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิปัสสนากรรมฐาน เจ้าของเว็บไซต์ mongkoldham.com และ ที่ปรึกษาสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ ผู้รวบรวม และเรียบเรียงอย่างกระทันหัน

จากคุณ    : ไฟไฟ
เขียนเมื่อ    : 12 ธ.ค

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y13057792/Y13057792.html
43  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เตรียมบันทึกสถิติโลก "ธุดงค์ธรรมชัย 450 ก.ม."...ผ่าน 7 จังหวัด เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 06:40:05 pm
เรียนคุณ tiger18

เป็นแค่ความเห็นต่างในแนวทางปฏิบัติต่อพระ

การชี้หลักชี้ทาง กับการปฏิบัติก็คนละเรื่องกัน
โดยส่วนตัวถ้าเป็นพระวัดธรรมกายส่วนใหญ่ผมก็ยังใหว้นะครับ
เพราะท่านก็ถือศีลมากกว่าผมอยู่ดี และหลายท่านก็ปฏิบัติในทางภาวนาได้ดี...

แต่ส่วนที่ไหว้ ก็ยังไหว้ ส่วนที่เห็นถึงความไม่เหมาะ...  ก็แสดงความเห็นไป
ไม่ใช่ว่าไหว้แล้วต้องเชื่อ หรือถ้าเชื่อทั้งหมดไม่สงสัยแล้วจึงค่อยไหว้

เว้นแต่เรื่องสนับสนุนปัจจัย ผมไม่เอาด้วย ผมไปถวายวัดอื่นๆ (เข้าใจว่าจะช่วยรักษาพุทธศาสนาใว้ได้ดีกว่า)
คือยังเคารพในฐานะที่ท่านทรงศีลนะ... แต่ไม่สนับสนุน
ไม่ได้มีอำนาจอะไรไปห้ามโดยตรง และผมก็เห็นประโยชน์บางส่วนเช่นกัน...
อย่างน้อยรักษาและเพิ่มพูนศรัทธา(ของคนศรัทธาจริตบางกลุ่ม) ใว้ได้

เพียงแต่ผมเห็นว่าได้ไม่คุ้มเสีย...
ที่สำคัญคือ...

เอาเรื่องของพระวิปัสสนาธุระมาอิง แต่กิจกรรมแบบนี้แย้งกับวิธีปฏิบัติธุดงค์ตามพระไตรปิฏกหลายข้อ
วิเวกตรงไหน?
สัปปายะตรงไหน?

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 18:15:35

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 18:14:36

จากคุณ    : BlueDelphi


เป็นตัวอย่าง ครับ อ่านให้มันส์ สะใจกิเลส(ใคร ) ก็ต้องไปอ่านที่นี่ครับ
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y13063725/Y13063725.html
44  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เตรียมบันทึกสถิติโลก "ธุดงค์ธรรมชัย 450 ก.ม."...ผ่าน 7 จังหวัด เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 06:39:36 pm
พวกเราเหล่าหัวดำ
พากันมาชี้ถูกชี้ผิดแม้กระทั่งมหาเถรสมาคม
ผมก็ไม่รู้จะสวดมนต์บทไหนแล้วละครับ

เอาแบบนี้
ถ้าพวกคุณแน่จริง ก็ละทิ้งบ้านเรือนลูกเมียผัว
ออกบวชแล้วตั้งสำนักเผยแผ่เลยสิ
จะเอาให้ถูกต้องตามธรรมวินัยเป๊ะขนาดไหนก็ว่าไป
เพราะที่วัดหรือพระท่านกำลังทำอยู่
พวกคุณก็ฟันธงแล้วว่า ไม่ดีไม่ถูกต้องไม่ได้เรื่อง

กล้าหรือเปล่า
หากไม่กล้าก็ช่วยสงบปากสงบคำบ้าง
อย่างน้อยท่านก็พยายามลงมือทำ
และท่านคงมองเห็นส่วนดีอยู่บ้างจึงได้ทำ....

จากคุณ    : tiger18
45  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เตรียมบันทึกสถิติโลก "ธุดงค์ธรรมชัย 450 ก.ม."...ผ่าน 7 จังหวัด เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 06:38:11 pm
ธุดงค์วัตร ทำสมาธิ และอีกหลายๆบทในการปฏิบัติ ในการฝึกตนของพระ..
ต้องอาศัยวิเวก สัปปายะที่พอเหมาะ

ถ้าพระที่เดิน บรรลุไปเยอะแล้ว หรือทรงอุปจารสมาธิได้ตลอดเวลา...เตรียมขึ้นชั้นประถมแล้ว.. ก็ว่าไปอย่าง..ออกมาลองวิชากันเป็นครั้งคราว..แล้วกลับไปซุ่มฝึกใหม่

แต่ถ้าเป็นพระบวชใหม่เยอะๆ..โอกาสที่จะฝึกให้ได้แบบนั้นยังมีน้อยราย อนุบาลเสียส่วนใหญ่..
ยังต้องอาศัย สัปปายะที่พอเหมาะ.. และอาศัยวิเวก

การเดินในเมือง..มีแต่จุกจิกจอแจด้วยเรื่องทางโลก... วิเวกตรงไหน..
การเดินบนถนน.. มีแต่สิ่งล่อตาล่อใจปุถุชน... สัปปายะตรงไหน..

เบื้องต้น .. คนที่ทำบุญ ศรัทธา..จะมากน้อย ก็ได้กุศลไป..
แต่ลงท้ายสำหรับธรรมกาย...เป็นการพยายามสร้างประเพณีใหม่ๆขึ้นมาแล้วยึดใว้... แค่นั้นเอง..

ถ้าเอาประเพณี(ของชาวบ้านที่เนื่องด้วยพระ)มาโปรโมท..เช่นทอดกฐิน ฝ้าป่า..ก็ยังดูไม่ดีเลย
(พระไม่ควรไปเป็นโต้โผจัดเสียเอง)

แต่ธรรมกายเอาวัตรปฏิบัติของพระมาโปรโมท เช่น การเดินธุดงค์ ...
ซึ่งต้องอาศัยวิเวก สัปปายะ .. ไม่ใช่อาศัยการประสานงาน ทำให้ไปกระทบสังคมคนนั้นคนนี้วุ่นวาย

จัดว่าเข้าข่าย...
ปฏิบัติเพื่อโอ้อวด..

หลักฐานคือการโฆษณา แจ้งต่อประชาชนล่วงหน้า.. ก็ยิ่งชัด..

การต้องประสานงาน ต้องทำเรื่องราวให้ใหญ่โต คนนั้นคนนี้ต้องรับรู้ ต้องจัดเตรียมกันวุ่นวาย
ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ แต่เป็นทางก่อทุกข์เสียมากกว่า

ถ้าพระเดินธุดงค์ เห็นสภาพแวดล้อมเฉพาะหน้าตามความเป็นจริง.. เห็นแค่ไหน ก็พิจารณาไปแค่นั้น..
จะในเมืองหรือที่ไหนๆ ใครจะปรุงจะแต่งก็ดึงความสนใจท่านไม่ได้ ..แบบนี้ไม่มีปัญหา

แต่พระส่วนใหญ่ ระดับอนุบาล..เห็นสิ่งปรุงแต่งที่เขาทำใว้ล่วงหน้า..แถมตัวเองก็มีส่วนจัดทำใว้เองล่วงหน้า. แล้วจะพิจารณาอะไร...มีแต่เตลิดไปไกลพ้นเสียมากกว่า

พระที่มองข้ามช๊อต ฝึกตนไปวันต่อวัน..ทิ้งอดีตปัจจุบันอนาคตไปเสีย..จนตั้งสติได้ทัน..อาจผ่านไปได้ด้วยดี ก็คงมีอยู่บ้าง..
แต่พระส่วนใหญ่.. ไม่รอดแน่ๆ..

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 12:53:14

จากคุณ    : BlueDelphi
46  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอเสนอให้ พระอาจารย์ พบลูกศิษย์ ทาง MSN อาทิตย์ ละครั้ง เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 09:26:01 am
จะเริ่มเมื่อไหร่ คะ
  :25: :s_good:

 :49: :25:
47  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / Re: http://xn--5-zwf9bcfr6d3byb4cdpb9f.com/sec_mclass.php สำนักงานกองกลางวิปัสสนา เมื่อ: ธันวาคม 13, 2012, 03:01:08 pm




ตอนนี้ ลิงก์เดิมใช้ไม่ได้แล้วนะครับ น่าจะเปลี่ยน เป็น FB

www.facebook.com/pages/สำนักงานกลางกองการวิปัสสนาธุระ-วัดมหาธาตุ-คณะ-5/207387492638136
48  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 08:08:30 pm
สาธุ เล่าด้วยภาพ ชุดนี้ทำให้ยากไป วัดหลวงปู่ดู่ ทันที

 :c017: :25: :25: :25:
49  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ขอเชิญร่วมหล่อ "พระประธานฯ ปางจักรพรรดิ"...องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จ.อยุธยา เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 08:05:42 pm
อนุโมทนา สาธุ ครับ
 :25: :25: :25:
50  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: คำไทยคติคำคม "เก่งแค่ไหน ก็แพ้ สังขาร" เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 01:53:24 pm
อนุโมทนา สาธุ ครับ นาน ๆได้อ่านที ก็มีเรื่องสะกิด เดือนใจ กันทุกครั้งครับ

  :c017: :25:
51  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: วันธงไชย ปี พ.ศ. 2556 เมื่อ: ธันวาคม 08, 2012, 03:52:48 pm


   นับว่าเป็นปฏิทินทีุ่ลุงออก อย่าง พิเศษ นะครับ

   ผมขอทบทวน นะครับ

   ร= ร้าย
  ห หรือ รม= ห้าม หรือ ร้ายมาก
   ป =ปานกลาง ( หมายความว่า มีทั้งดี และ ร้าย )
   ด = ดี
   ดม = ดีมาก

   ในความเห็นผมว่า ลุง ออกปฏิทินแบบเก่า ก็ดีนะครับ โดยส่วนตัวผมนั้น ต้องการรู้แต่แบบเก่า อย่างนี้ผมว่าจะละเอียดไป เหมือนต้องเรียน วิธีการอ่านไปด้วยนะครับ

   ขอบคุณ ถ้ารับฟังความคิดเห็นผมนะครับ

   :25: :c017:
52  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: จีนมึน "ฮวงซุ้ย" ตั้งโดดเดี่ยว ขวางไซต์งานสร้างตึก เมื่อ: ธันวาคม 08, 2012, 03:47:04 pm
ไม่น่าเชื่อ ว่าจะมีเรื่อง อย่างนี้

   :25: :c017:
53  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: วิวัฒนาการ..สิ่งบรรจุน้ำมนต์ 'ขวด-สระ' เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2012, 12:15:41 pm




 น้ำมนต์ วัดพระปฐมเจดีย์
54  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: เกี่ยวกับ การรับฟัง รายการจาก สถานี madchimaRDN แจก Code ติดเว็บ เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2012, 12:07:34 pm
ขอบคุณ ทีมงานทุกท่าน ครับที่จัดทำรายการต่าง ๆ ครับ

 :c017: :25:
55  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: วันธงไชย ปี พ.ศ. 2556 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2012, 11:47:48 am
ขอบคุณ ลุงมากครับ ที่มาปูพื้นฐาน เรื่อง วิธีการ ออกปฏิทิน แต่ส่วนตัวผมเคารพ ในลุงนะครับ คิดว่า ดูปฏิทินเลยน่าจะดีกว่า มานั่งคิดคำนวณเอง ครับ ผมว่าพวกที่ชอบคำนวณเอง น่าจะมีน้อยกว่า นะครับ ดังนั้น ผมยังรอคอยปฏิทิน จากลุงอยู่นะครับ

  ขอบคุณมากครับ

  :c017: :25: :welcome:
56  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญร่วมปฏิบัตธรรมประจำเดือน ธันวาคม 1-5,31 ธ.ค.-1 ม.ค.56 ณ คณะ 5 วัดราชสิทธาราม เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2012, 11:44:58 am
อนุโมทนา กับข่าวสาร ครับ คุณ Sawwalak ไม่ทำภาพ Banner เดือน นี้หรือครับ ผมชอบคุณออกแบบ สวยดี

 สาธุ สาธุ สาธุ

 :25: :c017:
57  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปาฏิหาริย์ แห่งลมหาย เป็น เสียงธรรมที่ฟังดี คะ เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2012, 11:40:38 am
อนุโมทนา ด้วยครับ

   ขอเสริม นิดครับ ในช่วงท้าย

     ได้กล่าวถึงเรื่อง ถูกต้อง คือ อริยะมรรค ถูกใจ ก็ไม่ใช่ มรรค นะครับ
 
     แล้วพูดถึงเรื่องการแบก โลกธรรม ของคนด้วยครับ ที่เป็นเหตุให้ทุกข์

    :25: :c017: :25: :c017:
58  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: คืนวัน "ลอยกระทง" ประเพณี-ค่านิยมโจ๋..ที่น่าตกใจ.!.? เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2012, 12:39:54 pm
ขาโจ๋ นี้ คือ อะไรคะ .......
ไม่เข้าใจ คะ อย่างเราเป็นขาโจ๋ ต้องทำอย่างไร คะ

  ขาโจ๋ กับ พวก กร่าง กุ๋ย นักเลง นี้เหมือนกันหรือไม่คะ

   :s_hi: :smiley_confused1:

  ความหมาย ของ ขาโจ๋ ตาม พจนานุกรรมฉบับโจ๋ หมายถึง บุคคลที่เป็นที่ยอมรับของกลุ่มว่า เจ๋ง แน่ สุดยอด ของกลุ่ม ครับ แต่บางครั้งนำไปใช้ผิด ชอบเบี่ยงเบนไปใช้กับการเรียกว่า วัยรุ่น ทั้งหมด ขาโจ๋ ดังนั้นขาโจ๋ หมายถึง ทุกอายุ ก็เป็นขาโจ๋ได้ ครับ

 

   ชินจัง เป็นขาโจ๋ นิรันดร์กาลสำหรับ ผมครับ
59  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: 'นิวัฒน์ธำรง' รับปาก..ดันคลอด 'ธนาคารพระพุทธศาสนา' เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2012, 12:37:07 pm
อยากให้มีเร็ว ๆ ครับ ผมอยากรู้ว่า กองทุนธนาคาร จะช่วยชาติ ช่วยคนได้อย่างไร ครับ

  :25: :c017: :s_good: :49:
60  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: 'ว.วชิรเมธี' วืด.! "สมณศักดิ์..อีกปี" เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2012, 12:36:19 pm
ผมว่าไม่มี ก็ดี นะครับ
แต่ถ้ามี ก็จะดี อีกเช่นกันครับ

   เพราะสังคม ยังต้องใช้ ส่วนนี้  ถ้าภาวนาส่วนตัว ก็ไม่ต้องใช้

   :s_good: :c017: :25:
61  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ประมวลภาพ ปฏิบัติธรรม คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2012, 12:35:19 pm
อนุโมทนา ครับ ผมเองยังไม่เคยได้ไป ก็ได้ชมภาพกันไปก่อนครับ

 สาธุ สาธุ

  :25:
62  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พุทธวจน (BuddhaWord) สะสมภาพ >> สะสมบุญ เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2012, 10:36:58 am
อนุโมทนา สาธุ กับคุณ สาสมบูรณ์ ด้วยนะครับ ที่นำภาพ และ พุทธวจนะ มาฝากกันถ้าทำได้ทุกวัน จะอนุโมทนามากครับ


  เป็นกำลังใจครับ

   :c017: :25:
63  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ชมภาพ วัดตะโก หลวงพ่อรวย อ.ภาชี จ.อยุธยา เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2012, 10:35:32 am
คิดว่า ทีมงาน มัชฌิมา ควรติดตามนำภาพ ร่องรอย วัดท่าข่อย มาฝากกันบ้างนะครับ

ขอบคุณล่วงหน้า ครับ

  :25: :25: :c017: :c017:
64  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ปาฏิหาริย์.! หลวงพ่อศิลา.."บนของหายได้คืน" เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2012, 10:34:18 am
อ่านประวัติ หลวงพ่อศิลา แล้วรู้สึก อึ้งในปาฏิหาริย์ และความพยายามของคนไทย ที่ได้พยายามทวงวัตถุแห่งชาติกลับมายังประเทศไทยได้ เหมือนประหนึ่งได้ ทวงนารายณ์บรรทมศิลป์คืน คาดว่างานนี้ ทีมงานที่ได้ติดตามทวงคืนกลับมานั้น ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว สู้ความกันอย่างลำบาก .. นับว่าเป็นชัยชนะ ที่ควรจดจำไว้

    มีคำพูดกล่าวว่า พระศิลา จัดสร้างใหม่ด้วยงบ ไม่กี่บาท แต่การทวงคืน นั้นใช้งบประมาณมากกว่า จะเอาอะไรมาก ก็แค่สิ่งสมมุติ เป็นหิน เป็นทราย ไม่ใช่พระพุทธเจ้า


   อะไรเป็นสาระ ของเรื่องนี้ หลวงพ่อศิลา หรือ ความศรัทธา หรือ ความเป็นไทย

   ทั้งหมด นั้นผมรู้สึกขอบคุณ เพื่อนพี่น้องที่ดำเนินการติดตามหลวงพ่อศิลากลับมาสู่เมืองไทยอีกครั้ง

   :c017: :25: :13: :13:

65  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: วัดสระเกศฯ ห่มผ้าแดง 'ภูเขาทอง' จัดงานใหญ่ไหว้พระธาตุ..สมโภชพุทธชยันตี เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2012, 10:14:00 am
อนุโมทนา ครับสำหรับชาว พุทธ กทม. ถ้าไม่รู้จักวัน สระเกศ ( ภูเขาทอง ) และ วัดพระแก้ว ( วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ) แล้ว ละก็ตอบ ได้เลย เชย มาก ๆ ครับ

   ขอบคุณ สำหรับข่าวสาร งานบุญในครั้งนี้ครับ

   :c017: :25:
66  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: 'กรุงเก่า' พบหลายวัด 'ทรงคุณค่า'...ถูกทิ้งร้างเสียหาย เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2012, 10:10:54 am
พออ่านเรื่องนี้ แล้ว ทำให้ผมสะดุดใจ นึกถึง วัดท่าข่อย ( วัดท่าหอย ) ซึ่งเป็นวัดที่ เจ้าพระคุณสมเด็จหลวงปู่สุก เป็นเจ้าอาวาส ในสมัยนั้น น่าจะมีประวัติ หรือ การตามรอย เรื่องนี้กันบ้างนะครับ เมื่อไร ทีมงานลงสำรวจ ก็นำภาพมาให้ชมกันบ้างนะครับ

   ขอบคุณเนื้อหา สำหรับ เช้าวันเสาร์นี้มากครับ

    :c017: :25:
67  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ฮือฮา.! เจ้าของแพปลาใจบุญ..แต่งลูกชาย "แจกหมวกกันน็อก 4,500 ใบ" คนแห่แน่นงาน เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 12:36:02 pm
โอว มีผู้สนอง นโยบายรัฐ แล้วด้วยการส่งเสริม หมวกนิรภัย อย่างน้อย ก็มีคนได้หมวกไปแล้ว 4500 ใบในจังหวัดระนอง ดังนั้นถึงแม้มิได้จะทำได้ทั้งหมด แต่ก็นับว่าช่วยเหลือคนได้มหาศาล สำหรับนักบิดทุกท่าน ที่ได้สวมหมวกนิรภัย อันนี้

  :c017: :49: :25:
68  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เมื่อหลวงพ่อถูกถามว่า “ศาสนาพุทธ สอนอะไร?” เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 12:34:07 pm
เป็นคำตอบที่ไม่ตรง แต่เป็นคำเตือนสติ ว่า อย่าส่งจิตออกไปนอกเรื่องมาก

  :s_hi: :c017:
69  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / บวชพระอ่ย่างไร จึงจะได้บุญมาก ครับ โปรดแนะนำกันด้วยนะครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2012, 12:53:47 pm
ตอนนี้ บรรดาเพื่อน ๆ ผม พยายามพูดถึงเรื่องการบวช โดยการลางานบ้าง หยุดงานบ้าง เพื่อไปบวช ถวายในหลวงกัน มีบางคนตั้งใจบวช เข้าไปหาวัดใน กทม. ดัง ๆ เช่น ..... เพื่อจะได้เรียนกรรมฐาน แต่ก็โดนปฏิเสธ กับมาและพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด ว่า วันนี้ผมไปขอบวช อยู่ที่วัด ...... 1 อาทิตย์ แต่ถูกพระปฏิเสธมา อย่างนี้ จนกระทั่งมีความเห็นเปลี่ยนไป กับเรื่องการบวช เลยนะครับ

   เลยคิดว่า การบวช ที่จะได้บุญจริง ๆ นั้น กับความตั้งใจ ทีไปสวนทางกัน อย่างนี้จะได้บุญอย่างไร ครับ

  เพื่อน ๆ ช่วยชี้ทางสว่างให้ด้วยครับ

   :49: :c017:
70  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ชาวบ้านกรุงเก่าฮือฮา.! "พระครูมรณภาพ 3 เดือนไม่เน่า" เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2012, 12:29:03 pm
แน่นอนครับ บรรดาลูกศิษย์ก็จะแตกตื่น กันในยามนี้ และ ก็จะเก็บศพท่านใส่โลงแก้ว เพื่อรอคนมาทำบุญ กันซึ่งภาพเหล่านี้เราก็เห็นกันเป็นประจำ นะครับ สำหรับพระสงฆ์ ที่มรณะภาพไปแล้ว สังขารของท่านไม่เน่า ไม่เปื่อย สิ่งสำคัญ ที่เราควรมองเจริญอนุสสติ ตามด้วยนะครับ

    เรามีความแก่ ความเจ็บ และ ความตายเป็นธรรมดา ด้วยนะครับ

   ชีวิตจะสำคัญ เมื่อยามหายใจครับผมเอง ยังอิน อยู่เรื่อง ปาฏิหาริย์แห่งลมหายใจอยู่ครับ จึงอยากให้ท่านทั้งหลายให้ความสำคัญกับครูอาจารย์ ที่ยังมีชีวิตอยู่กันด้วยนะครับ บำรุงดูแลท่านยามมีชีวิตน่าจะดีที่สุด

   อนุโมทนา ขอบคุณกับข่าวสารนะครับ ถ้ามีโอกาสผมก็จะไปกราบคารวะ สังขารท่านเช่นกันครับ

   :c017: :25:
 
71  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: พบ 'ปลาดุกย่าง'...มีสารก่อมะเร็งมากสุด.! เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2012, 12:25:14 pm
โอว ของโปรดเลยนะครับ ผมว่า อะไร ที่ย่าง ๆ ก็มีส่วนของสารก่อมะเร็งทั้งนั้นละครับ
หมูปิ้ง หมูย่างเกาหลี อะไรประมาณนี้ น่าจะมีสารก่อมะเร็งเช่นกัน

  อย่างนี้ แม่ค้า พ่อค้า หมูป้ิง ไก่ย่าง ปลาย่าง ปลาดุกย่าง ต้องร้องทุกข์เพราะขายไม่ออกนะครับ เหมือนเรื่องควันธูป เป็นสารก่อมะเร็ง พวกทำธูปขาย ขาดรายได้กันไปตาม ๆ กัน อย่างนี้......

  ดุลย์พินิจ กันด้วยนะครับ......

    :c017: :25:
72  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เชียงใหม่ เกจิอัศจรรย์.! "ร่างกายไม่เน่า"...ลูกศิษย์แห่ปิดทอง เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2012, 12:22:08 pm
กว่าจะรู้กัน ก็มรณะ ภาพกันไปแล้ว ผมว่าพระสงฆ์ไทยในยุคนี้ ที่เป็นพระอริยะบุคคล ยังมีอีก แต่ท่านไม่ค่อยแสดงตัวกัน นะครับ พวกเราไม่ควรแค่ไปกราบไหว้ แต่ควรน้อมเข้าไปเรียนธรรม กรรมฐาน จากท่านกันครับ

 อนุโมทนา ด้วยครับ

  :c017: :25:
73  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สกัดพวกนอกรีต.! ร่างเกณฑ์ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมใหม่..ต้องมีวิปัสสนาจารย์ประจำ เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2012, 12:20:15 pm
จะเหมือนวัด มหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ ในสมัยก่อนหรือเปล่า

ใช้อำนาจเรียกวิปัสสนาจารย์แนวต่างๆทั่วประเทศ มาอบรม

ตามแนววัดมหาธาตุฯทั้งหมด แล้วจึงจะถือว่าใช้ได้

จนป่านนี้ยังมีการเถียงกันไม่จบเลย


จากคุณ    : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่

ผมว่าส่วนนี้ คุณ สู่ฝัน แสดงข้อความสำคัญนะครับ
 ผมว่าช่วงนี้ได้ยินพระสงฆ์ ตามวัดต่าง ๆ กำลังกล่าวถึง มติคณะหนกลางให้ ทุกวัดสอนกรรมฐาน เหมือนกันทั้งหมดทั่วประเทศ โดยแนวที่สอนคือ แนวสติปัฏฐาน 4 ( ผมว่าเป็น แนวยุบหนอ พองหนอ ตามแบบวัดมหาธาตุ ซึ่งมีการสอนในสายพม่ามากกว่า ) ดังนั้นตามหัววัดต่าง ๆ จึงต้องเข้าไปอบรมการสอน วิปัสสนา ส่วนนี้กันซึ่ง มองตามรูปการณ์ ก็น่าจะดีเพราะ สติปัฏฐาน ก็ดี และมีหมวดธรรม อยู่หลายภาค แต่สำนักอื่น ๆ ที่ไม่ได้สอน สติปัฏฐาน โดยตรง เช่นการสอน พทธานุสสติ มโนมยิทธิ ธรรมเปิดโลก ธรรมกาย อานาปานสติ ต่าง ๆ เหล่านี้จะให้ควบคุมอย่างไร คำตอบที่ได้ฟังจากเจ้าออาวาส หลาย ๆ วัด ก็คือ ให้เลิกสอนแบบนั้น หรือ ไม่ต้องสอน ไม่ต้องนิมนต์มาสอน ไม่ต้องให้สอน

   ผมก็เลยเกิดความสงสัยขึ้นว่า ทางคณะสงฆ์ใหญ่ ได้ถามความเห็นของ มหาชน ที่อยากเรียนปฏิบัติกันบ้างหรือไม่ ดังนั้นเราชาวบ้าน ไม่อยากยุ่งกับเรื่องพระ ไม่ชอบวัดนี้ เราก็ไปวัดโน้น ใช่หรือไม่ครับ สุดท้าย ผมว่า ระเบียบไม่ได้แก้ปัญหา อะไรเลย

   ที่สำคัญที่สุด พระวิปัสนนาจารย์ ที่เก่ง ๆ ในประเทศมีถึง 1000 รูป หรือไม่ ผมว่าถ้ามีมากขนาดนั้น เราคงไม่ต้องเข้าป่า ไปหาหลวงปู่ หลวงพ่อ กันไกล ๆ ใช่หรือไม่ครับ

  ขออนูญาตนะครับ ถ้าอาจจะเห็นต่าง จากความคิดส่วนนี้ไปบ้าง

    :49: :c017: :25:
74  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ขอคำแนะนำ เพื่อน ๆ ในห้องนี้เรื่อง คุณลุงกิตติศักดิ์ ค่ะ เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 01:36:55 pm
ปัญหาคือไม่รู้จักตัวจริง ของลุงกิตติศักดิ์กันใช่หรือไม่ครับ ซึ่งมีแต่พระอาจารย์ที่รู้ดังนั้นผมคิดว่าน่าจะต้องสอบถามพระอาจารย์โดยตรงครับ สำหรับการสอบถามก็ เมลอย่างเดียวนะครับ ที่ผมใช้ประจำคือ teamsaraburi@madchima.org ครับ

ทุกคนน่าจะแสดงความเห็นได้ไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ นะครับ

  :s_hi: :49:
75  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นั่งสมาธิ แล้ว มีความรู้สึกรับรู้ในใจ ว่าตัวพอใหญ่ขึ้น เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2012, 12:03:48 pm
คุณ นินนินนิน ปฏิบัติกรรมฐาน อะไรอยู่ครับ อาการเป็นเหมือนผมนะครับ ผมเองกายโยกโคลงเคลงเหมือนนั่งในเรือ หลังจากแจ้งกรรมฐาน แล้วปฏิบัติตามวิธีการทีแก้ไขก็หายไปในสามวัน แต่ได้สุขสมาธิ มาแทนครับ คิดว่าน่าจะคล้ายๆกัน กับผมนะครับ

   ฝึกกรรมฐาน ต้องรู้สถานะ เราด้วยครับ ว่าเรา จิตแกร่ง อ่อน แข็ง อย่างไรครับ เพราะบางครั้งเราประเมินเราสูงเกินไปจะพลาดได้นะครับ

   เหมือนการปฏิบัติ สติปัฏฐาน ผมเคยโดดไปปฏิบัติใน ธรรม ใน จิต เลยแต่ก็เพลี่ยงพล้ำเพราะเราประเมินตัวเราจิตเราผิดนะครับ ดังนั้นหลังจากขึนกรรมฐาม มัชฌิมา แบบลำดับมา เหมือน รีไวซ์ จิตใหม่ครับมาปฏิบัติตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ มีครูอาจารย์ให้คำแนะนำ โดยเฉพาะครูที่ไม่เคยพบ อย่างพระอาจารย์สนธยา เพียงได้ปรึกษาทาง email ก็ได้กรรมฐานก้าวหน้ามากจรืง ๆ ครับ

  มาคุยเป็นเพื่อนกันเหงาก่อนนะครับ เพราะห้องนี้ศิษย์กรรมฐาน ตัวจริงไม่ค่อยมาคุยนะครับ ผมเองยังไม่ใช่ตัวจริง ก็เลยมาคุยแก้ขัดไปก่อนนะครับ

   :49:
76  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: อนุโมทนา กับ สมาชิกทุกท่าน ที่ร่วมสนับสนุน เว็บ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 (2556)นะจ๊ะ เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2012, 11:39:53 am
กลอนอ่านแล้วซึ้ง ครับ อนุโมทนา กุศลในครั้งนี้ด้วยครับ

  :25: :25: :25:
77  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / โยคี กสิณไฟ ครับ ดูแล้วก็ยังรู้สึก ว่าเขาทำได้อย่างไร อย่างนั้น เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2012, 11:35:00 am
!

โยคี กสิณไฟ ครับ
 ดูแล้วก็ยังรู้สึก ว่าเขาทำได้อย่างไร อย่างนั้น

 ยิ่งตอนที่กลิ้งบนกองไฟด้วย นาที 29.

78  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: มติสงฆ์จากจตุรทิศ เรื่อง ลงนิคคหกรรมคว่ำบาตรผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน กสทช. เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2012, 11:14:55 am
อยากทราบความเห็น โดยรวมมุมมอง ก็่อ่านได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ครับ
พระป่า2,200รูปสวดคว่ำบาตร'พ.อ.นที'
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12877664/Y12877664.html
มติสงฆ์จากจตุรทิศ เรื่อง ลงนิคคหกรรมคว่ำบาตรผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน กสทช.
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12874962/Y12874962.html

คิดต่าง ๆ ได้แต่ถ้าจะวิจารณ์อยากให้ไปวิจารณ์ที่เว็บนี้นะครับ ไม่อยากให้วิจารณ์ที่เว็บ มัชฌิมา
 :c017:
79  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: คบคนเช่นไร เป็นคนเช่นนั้น ทำไม ? ไม่มีใครเป็นเช่นเรา เลยคะ เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2012, 12:50:41 pm
คงต้องเติมคำให้อีก คำหนึ่ง  ครับ   น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ 

    คบคนเช่นไร ต้องเป็นเช่นคนนั้น  บางครั้ง ก็ไม่เสมอไป ครับ ดูเช่นคุณ คบคนอื่น แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนตามเขา นี่สิครับ ผมว่า ธรรม บุญ บารมีธรรม ต่าง ๆล้วนต้องมี วาสนา ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตร ร่วมขันกันด้วยนะครับ

   ที่ ๆ ผมอยู่มีพระคุณเจ้า ทรงการปฏิบัติ ก็มากมายในสายพ่อแม่ครูอาจารย์ แต่ผมเองก็ไม่ได้เคารพหรือทำตามที่สอนทุกรูป นะครับ ก็ยังเลือกปฏิบัติ ในแนวทาง หลวงพ่อพุธ เสียเป็นส่วนใหญ๋นะครับ

   ดังนั้นคิดว่า ความพยายามของคุณ อาจจะต้องขยายจากเราเพิ่มด้วยครับ ต้องมีพวกกลุ่มแนวทางเดียวกัน ร่วมขบวนการด้วยครับ ถ้าคิดจะทำอะไรเพื่อคนอื่น

    :s_hi: :49:
80  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: รู้สึก ท้อถอย เวลาปฏิบัติภาวนา คะ เมื่อไหร่จะปฏิบัติได้เสียที เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2012, 12:46:55 pm
ผมเคยถาม พระอาจารย์ไป เวลาท้อถอย นะครับ แล้วท่านก็แนะนำวิธี ก็คือ พุทโธ ดูลมหายใจเข้า ออก แล้วก็ พุทโธ ง่าย ๆ อย่างนี้ แต่เมื่อลองทำแล้ว รู้สึกดีขึ้นครับ แต่ก็ไม่นาน

 บางครั้ง เราอาจจะตั้งเป้าหมายในการภาวนาผิด จึงคิดว่าเราไม่ได้ นะครับ
 1 พรรษาที่ผ่านมาผมได้ทบทวน เป้าหมายในการภาวนา ให้ตรง... ขึ้น จึงรูสึก ได้ว่า วันนี้ไม่ใช่ปฏิบัตไม่ได้ ไม่ใช่ว่า ภาวนาไม่ได้แต่เป็นเพราะเรา ตั้งเป้าหมายในการภาวนา ผิด นะครับ

   ดังนั้น อยากจะให้ คุณ กลับไปดูเป้าหมาย ภาวนา ของตนเอง ด้วยครับ

  :s_hi: :49:
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 7