ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่เคารพในสมาธิ นำความเสื่อมมาให้ภิกษุได้.!?!  (อ่าน 2130 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
    • ดูรายละเอียด





ไม่เคารพในสมาธิ นำความเสื่อมมาให้ภิกษุได้.!?!

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต ๔. เทวตาวรรค ๑. อัปปมาทคารวสูตร


[๓๒] ครั้งนั้น เมื่อราตรีผ่านไป(๑-) เทวดาองค์หนึ่งมีวรรณะงดงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีให้สว่างไปทั่วพระเชตวัน เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วยืนอยู่ ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม ๗ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุ ธรรม ๗ ประการ อะไรบ้าง คือ
      ๑. ความเป็นผู้มีความเคารพในพระศาสดา
      ๒. ความเป็นผู้มีความเคารพในพระธรรม
      ๓. ความเป็นผู้มีความเคารพในพระสงฆ์
      ๔. ความเป็นผู้มีความเคารพในสิกขา
      ๕. ความเป็นผู้มีความเคารพในสมาธิ
      ๖. ความเป็นผู้มีความเคารพในความไม่ประมาท
      ๗. ความเป็นผู้มีความเคารพในปฏิสันถาร(๒-)
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม ๗ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุ”

เมื่อเทวดานั้นได้กราบทูลดังนี้แล้ว พระศาสดาทรงพอพระทัย ครั้นเทวดานั้นรู้ว่า ‘พระศาสดาทรงพอพระทัยเรา’ จึงถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค ทำประทักษิณ(๓-) แล้วหายไป ณ ที่นั้นแล


 :25: :25: :25: :25:

ครั้นคืนนั้นผ่านไป พระผู้มีพระภาคได้รับสั่งเรียกภิกษุทั้งหลายมาตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย เมื่อคืนนี้ เมื่อราตรีผ่านไป เทวดาองค์หนึ่งมีวรรณะงดงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีให้สว่างไปทั่วพระเชตวัน เข้ามาหาเราถึงที่อยู่ ไหว้เราแล้วยืนอยู่ ณ
ที่สมควร ได้กล่าวกับเรา ดังนี้ว่า

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม ๗ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุธรรม ๗ ประการ อะไรบ้าง คือ
     ๑. ความเป็นผู้มีความเคารพในพระศาสดา
     ๒. ความเป็นผู้มีความเคารพในพระธรรม
     ๓. ความเป็นผู้มีความเคารพในพระสงฆ์
     ๔. ความเป็นผู้มีความเคารพในสิกขา
     ๕. ความเป็นผู้มีความเคารพในสมาธิ
     ๖. ความเป็นผู้มีความเคารพในความไม่ประมาท
     ๗. ความเป็นผู้มีความเคารพในปฏิสันถาร
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม ๗ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุ"

ภิกษุทั้งหลาย เทวดานั้นครั้นกล่าวดังนี้แล้ว จึงไหว้เรา ทำประทักษิณแล้วหายไป ณ ที่นั้นแล

      ans1 ans1 ans1 ans1

     ภิกษุมีความเคารพในศาสดา
     มีความเคารพในธรรม
     มีความเคารพอย่างแรงกล้าในสงฆ์
     มีความเคารพในสมาธิ มีความเพียร
     มีความเคารพอย่างแรงกล้าในสิกขา
     มีความเคารพในความไม่ประมาท
     มีความเคารพในปฏิสันถาร
     เป็นผู้ไม่ควรเสื่อม ดำรงอยู่ใกล้นิพพานทีเดียว


          อัปปมาทคารวสูตรที่ ๑ จบ



ขอบคุณที่มา : http://www.84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=23&siri=29
เชิงอรรถ :-
(๑-) ราตรีผ่านไป ในที่นี้หมายถึงปฐมยาม (ยามแรก) กำหนดเวลา ๔ ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา ๑๘ นาฬิกา ถึง ๒๒
นาฬิกาแห่งราตรีผ่านไป กำลังอยู่ในช่วงมัชฌิมยาม (ยามท่ามกลาง) คือ กำลังอยู่ในช่วงเวลา ๒๒ นาฬิกา ถึง ๒ นาฬิกาของวันใหม่ (องฺ.ฉกฺก.อ. ๓/๒๑-๒๒/๑๐๘) และดู องฺ.ฉกฺก. (แปล) ๒๒/๓๒/๔๗๘
(๒-) ปฏิสันถาร ในที่นี้หมายถึงการต้อนรับ มี ๒ อย่าง คือ
        (๑) อามิสปฏิสันถาร (การต้อนรับด้วยอามิส)
        (๒) ธัมมปฏิสันถาร (การต้อนรับด้วยธรรม) (องฺ.ทุก. (แปล) ๒๐/๑๕๓/๑๒๓)
(๓-) ทำประทักษิณ หมายถึงเดินเวียนขวาโดยการประนมมือเวียนไปทางขวาตามเข็มนาฬิกา ๓ รอบ มีผู้ที่ตนเคารพอยู่ทางขวา เสร็จแล้วหันหน้าไปทางผู้ที่ตนเคารพ เดินถอยหลังจนสุดสายตา จนมองไม่เห็นผู้ที่ตนเคารพแล้วคุกเข่าลงกราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ (การกราบด้วยอวัยวะทั้ง ๕ อย่าง ลงกับพื้น คือ กราบเอาเข่าทั้งสอง มือทั้งสอง และศีรษะ(หน้าผาก)จรดลงกับพื้น) แล้วลุกขึ้นเดินจากไป(วิ.อ. ๑/๑๕/๑๗๖-๑๗๗)
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๓ หน้า : ๔๙-๕๐}
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ