ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระอุปคุต ผู้มีฤทธิ์มาก  (อ่าน 14272 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ลูกคิด

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 117
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
พระอุปคุต ผู้มีฤทธิ์มาก
« เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 03:03:16 pm »
0
พระอุปคุต" พระแห่ง...โชคลาภคุ้มกันภัยทั้งปวง

      พระอุปคุต เป็นรูปเคารพที่สร้างขึ้นแทนพระอรหันต์สาวกสำคัญรูปหนึ่ง ซึ่งได้รับการยกย่องว่า มีความเป็นเลิศทางอิทธิฤทธิ์ ในสมัยหลังพุทธกาล
เช่นเดียวกันกับที่ พระโมคคัลลาน์ ได้รับการยกย่องสมัยเมื่อครั้งพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์ชีพ
พระอุปคุต เป็นภาษาบาลี ในขณะที่ภาษาสันสกฤตเขียนว่า "อุปคุปต์" ซึ่งตรงกับภาษาที่พี่น้องชาวไตยบางท้องถิ่น ขานนามท่านว่า "ส่างอุปคุป"
โดยมีความหมายว่า "ผู้คุ้มครองมั่นคง" ชาวล้านนารู้จักพระอุปคุต ในนามผู้ปกป้องคุ้มครองภัย โดยเฉพาะการมีปอยหลวง งานพิธีกรรมของส่วนรวม
จะมีการอาราธนาพระอุปคุตขึ้นจากแม่น้ำ มาคุ้มครองการจัดงาน เพื่อมิให้เกิดเหตุเภทภัย และให้งานลุล่วงไปด้วยดี  นอกจากจะเรียกว่า "พระอุปคุต"
แล้วยังมีการเรียก "พระอุปคุตเถระ" หรือ "พระเถรอุปคุต" ชื่อนี้เรียกเป็นภาษาชาวบ้าน โดยนำเอาคำว่า เถระ อันเป็นสัญลักษณ์ที่ชี้บอกถึงความมั่นคง
ในพระธรรมวินัย หรือบวชพระครองเพศสมณะมาแล้วตั้งแต่ ๑๐ พรรษาขึ้นไป และยังมีชื่อเรียกอื่นๆ อีก ดังเช่น พระนาคอุปคุต พระกีสนาคอุปคุต ฯลฯ
ในบางท้องถิ่นล้านนา เชื่อว่า พระอุปคุตจะตะแหลง (แปลงร่าง) เป็น สามเณรน้อย ขึ้นมาบิณฑบาตใน วันเป็งปุ๊ด หรือ เพ็ญพุธ (วันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธพอดี)
 เริ่มตั้งแต่ตีหนึ่งของวันพุธ ผู้คนจึงมักเห็นสามเณรน้อยเดินบิณฑบาตไปตามถนน ทางสี่แพร่งสามแพร่ง ตลอดจนถนนหนทางตามริมน้ำท่าน้ำต่างๆ จนกระทั่ง
 ตี๋นฟ้ายก หรือแสงเงินแสงทองออกมา จึงเนรมิตกายหายไป
        เชื่อกันว่า หากผู้ใดมีบุญบารมีได้ใส่บาตรพระอุปคุต มักทำให้ร่ำรวยเงินทอง ปราศจากภัยทั้งปวง มีสมาธิจิตดี ไม่หลงลืม ชีวิตเป็นสุข
ด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้สร้าง พระอุปคุต ปางต่างๆ ที่นิยมกันมากได้แก่ ปางล้วงบาตร หมายถึง กิ๋นบ่เสี้ยง หรือกินไม่หมด ให้คุณทางทรัพย์สินเนืองนอง มากมาย ร่ำรวย   
พระอุปคุต ปางห้ามมาร ให้คุณในทางคุ้มครองป้องกันภัยต่างๆ ปางสมาธิ หรือ พระบัวเข็ม ให้คุณในด้านสติปัญญาดี จิตใจผ่องใส ดำเนินชีวิตเป็นสุข ด้วยปัญญาบารมี
ด้วยประวัติอันทรงฤทธิ์ดังกล่าว พุทธศาสนิกชนจึงสร้างรูปพระอุปคุตขึ้นบูชา โดยมีความเชื่อว่า จะสามารถปกป้องคุ้มครองภยันตรายต่างๆ อันอาจจะเกิดขึ้น
ดังจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบัน เมื่อจะจัดงานพิธีสำคัญต่างๆ ขึ้น มักจะมี พิธีอธิษฐานบูชาพระอุปคุต เป็นเบื้องต้น เพื่อให้ช่วยคุ้มครองให้งานนั้นๆ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
พระอุปคุต ผู้เป็นพระอรหันตสาวก ที่ทรงมหิทธานุภาพ ชอบความวิเวกวังเวง และอยู่ตามลำพังผู้เดียว ไม่ชอบเกี่ยวข้องกับผู้อื่น เป็นพระอรหันต์หลังสมัยพุทธกาล
เพราะไม่พบประวัติของท่านในพระไตรปิฎก แต่ปรากฏอยู่ใน จารึกพระเจ้าอโศก ซึ่งเขียนขึ้น เมื่อร้อยกว่าปีหลังพุทธปรินิพพาน และยังปรากฏอยู่ใน พระปฐมสมโพธิกถา
ซึ่งเป็นพระนิพนธ์ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส โดยอยู่ปริจเฉทที่ ๒๘ ที่มีชื่อว่า มารพันธ-ปริวรรต  ตามประวัติกล่าวว่า พระอุปคุต เกิดในตระกูลวานิช
บิดาประกอบอาชีพค้าเครื่องหอม อยู่ที่เมืองมถุรา มีพี่น้องทั้งหมดรวมทั้งตัวท่านเองสามคน  เดิมบิดาของท่านได้ให้คำสัญญากับ พระสาณวารี (สาณสัมภูติ) ไว้ว่า
หากมีบุตรชายจะให้อุปสมบทในพุทธศาสนา แต่ก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา โดยอ้างว่า จะต้องเอาไว้ช่วยกิจการของครอบครัว  จนกระทั่งมีบุตรคนที่สาม คือ ตัวท่าน
ซึ่งได้มีโอกาสฟังพระธรรมจากพระสาณวารี จนเกิดดวงตาเห็นธรรม ประสงค์จะอุปสมบท บิดาท่านจึงต้องจำยอมอนุญาต  เมื่อพระอุปคุตบวชแล้ว
ก็ได้เจริญวิปัสสนาญาณโดยลำดับ จนบรรลุพระอรหันต์ผล และได้เป็นอาจารย์สั่งสอนทางสมถกัมมัฏฐาน และวิปัสสนากัมมัฏฐาน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด
 ในสมัยนั้น ดังปรากฏมี พระอรหันต์ที่เป็นศิษย์ของพระอุปคุตถึง ๑๘,๐๐๐ รูป  นอกจากนี้แล้ว พระอุปคุตยังสำเร็จอภิญญาต่างๆ จนสามารถแสดงอภินิหาร
เป็นที่เล่าลือมาจนทุกวันนี้ มีปฏิปทาดำเนินไปในทางสันโดษ มักน้อย นัยว่า ท่านเนรมิตเรือนแก้ว (กุฏิแก้ว) ขึ้นในท้องทะเลหลวง (สะดือทะเล)
แล้วก็ลงไปอยู่ประจำที่กุฏิแก้วตลอดเวลา เมื่อมีเหตุเภทภัยเกิดขึ้นในพระศาสนา หรือเมื่อมีพิธีกรรมใหญ่ๆ หรือมีผู้นิมนต์ ท่านก็จะขึ้นมาช่วยเหลือ ด้วยความเต็มใจเสมอ
      คติความเชื่อเกี่ยวกับพุทธคุณ ของผู้ที่บูชา พระอุปคุต เชื่อว่า มีพุทธโดดเด่นด้านโชคลาภ และคุ้มกันภัยภิบัติอันตรายทั้งปวง วิธีสวดขอลาภ ให้จุดธูปเทียนบูชา
พร้อมกับดอกไม้หอม เครื่องหอม น้ำหอมต่างๆ เทหยดใส่ในขันน้ำมนต์ ณ ที่บูชาพระ ในร้านค้าขาย หรืออาคารสำนักงาน แล้วอธิษฐานขอให้กลิ่นควันธูปเทียน
ลมพัดไปทางไหน ขอให้ดลใจผู้คนเข้ามาอุดหนุนตลอด ขอให้ดำเนินกิจการด้วยความราบรื่น มีความสำเร็จสมปรารถนาทุกประการ  เมื่ออธิษฐานจุดธูปเทียนบูชาแล้ว
ให้สวดนะโม ๓ จบ และสวดคำบูชาขอลาภพระอุปคุต ๑ จบ แล้วทำน้ำมนต์สวดด้วยคำบูชาขอลาภพระมหาอุปคุต อีก ๑ จบ เสร็จแล้ว เอาน้ำมนต์ประพรมร้านค้า
และสินค้าในร้านค้า หรือทำธุรกิจ ให้เอาน้ำมนต์ประพรมภายในสำนักงาน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ในการทำธุรกิจนั้นทั้งหมด
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่  www.AUPAKUT.com
บันทึกการเข้า