ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มีเหตุผล ดี ๆ ที่จะแนะนำให้เพื่อนปฏิบัติ สมาธิ กันบ้างหรือไม่ครับ  (อ่าน 5701 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ลูกคิด

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 117
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คือ ชักชวนเพื่อนให้นั่งสมาธิ

  เพื่อน ย้อนถามว่า มีเหตุผลดี ๆ สัก 10 ข้อ ของสมาธิบ้างหรือไม่ ?

  ผมก็ตอบไปตามเรื่อง แต่ รู้สึกว่า เพื่อน ๆ จะไม่สนใจกับคำตอบครับ

  ดังนั้น เพื่อมาเตรียมตัวในการซักซ้อมคำตอบ อยากได้คำแนะนำกับเพื่อน สมาชิกธรรม

  ช่วยแนะนำเหตุผล ในการชักชวนเพื่อนนั่งสมาธิกันหน่อยครับ

  :c017:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 
10 ข้อ ประโยชน์ที่ได้จากการนั่งสมาธิ (เด็กไทยควรอ่านมากๆ)


เจ้าของกระทู้เคยลองนั่งสมาธิติดต่อกันเป็นเวลา 1 อาทิตย์ ผลลัพธ์ที่ได้น่าประหลาดใจมาก ข้าพเจ้ารู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เป็นมาก่อน

     ตอนนี้ข้าพเจ้ารู้ว่าการนั่งสมาธิให้ผลดีอย่างมากมหาศาล สิ่งที่ได้คุ้มค่ามาก โดยที่ไม่ต้องเสียเงินทองเลย แต่ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ถ้าเรามีความอดทนที่จะนั่งสมาธิ เราก็จะได้ประโยชน์อย่างมากจากการนั่งสมาธินั่นเอง


10 ข้อ ประโยชน์ที่ได้จากการนั่งสมาธิ

1. ได้รับพลังบุญมาก การนั่งสมาธิถือเป็นบุญใหญ่ ส่งผลช่วยให้เรามีความทุกข์น้อยลง

เช่น เมื่อเรามีความทุกข์มากในระดับขั้นที่เราอาจจะต้องร้องไห้ พลังบุญจากการนั่งสมาธิจะช่วยให้เรามีความทุกข์น้อยลงได้ โดยอาจไม่ถึงกับต้องร้องไห้


2. วาระจิตอยู่ในระดับที่สูงขึ้น สภาวะจิตสูงขึ้น หมายความว่า มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

เช่น กล้าพูด กล้าคิด กล้าทำ (ในสิ่งที่ถูกต้องตามหลักศีลธรรม) มากขึ้น

3. ภาวะผู้นำเพิ่มสูงขึ้น การนั่งสมาธิจะทำให้มีจิตใจหนักแน่นมากขึ้น

4. มีสติสัมปชัญญะมากขึ้น คือ รู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาว่ากำลังทำสิ่งใด
มีความรอบคอบมากขึ้น คิดก่อนทำมากขึ้น ทำงานไม่ผิดพลาด ไม่ประมาท


5. มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองมาก เจ้ากรรมนายเวรทำอะไรเราไม่ได้

หลังจากนั่งสมาธิแล้วให้ถวายบุญกุศลให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เช่น พระพุทธเจ้า หลวงพ่อโสธร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องคุ้มครองดูแลข้าพเจ้า นำจิตมาไว้ที่ลิ้นปี่ แล้วนึกถวายบุญกุศลแด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น

ท่านจะปกป้องคุ้มครองเราให้พ้นจากภัยอันตรายต่างๆ
การงานสิ่งใดที่คิดไม่ออก สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะดลบันดาลใจให้เราคิดออก
สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคอยติดตามตัวเราไปทุกหนทาง เพื่อปกป้องคุ้มครองเรา


6. เรียนเก่งขึ้น สามารถเข้าใจการเรียนวิชาต่างๆมากขึ้น เพราะการมีสมาธิที่ดีในการเรียน ทำให้จิตไม่ฟุ้งซ่านคิดเรื่องไร้สาระต่างๆ มีสติปัญญาเฉียบแหลมมากขึ้น ส่งผลให้การเรียนดียิ่งขึ้น

7. มีกระบวนการคิดที่เป็นระบบมากขึ้น สามารถเรียงลำดับการคิดได้อย่างเป็นระเบียบ สิ่งใดมากก่อนหลัง จัดลำดับความสำคัญ ว่าสิ่งใดควรจะทำก่อน สามารถคิดแก้ปัญหาหรือสิ่งต่างๆออกได้โดยใช้เวลาไม่นาน

8. พูดภาษาต่างประเทศได้ คนที่คิดว่าเราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ภาษาเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน การนั่งสมาธิสามารถช่วยได้ ทำให้เรามีสติ คิดออกได้มากขึ้น มีกระบวนการคิดที่ดีขึ้น รวมถึงการกล้าคิด กล้าพูด จนเราสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้

9. ฝึกขันติบารมี การนั่งสมาธิต้องใช้ความอดทนในเรื่องทุกขเวทนา อาจต้องมีการปวดเมื่อยตามร่างกายบ้าง คันตรงนู้นตรงนี้บ้าง การนั่งสมาธิเป็นการฝึกความอดทนที่ดีเยี่ยม

10. พ้นจากวิบากกรรม กรรมในอดีตชาติ กรรมในปัจจุบันชาติ ย่อมหมุนเวียนเป็นกงกรรมกงเกวียน กลับมาตามสนองเราอยู่เรื่อยไป การนั่งสมาธิสามารถช่วยให้พ้นวิบากกรรมได้ หรือลดวิบากกรรมให้เบาบางลง ทำให้ชีวิตเรามีความทุกข์น้อยลง และมีความสุขมากขึ้น

แต่เราเคยทำกรรมสิ่งใดแล้ว กรรมสิ่งนั้นไม่สามารถลบล้างได้
แม้ว่าเราจะทำบุญมากแค่ไหนก็ตาม

ก่อนการนั่งสมาธิควร สวดมนตร์ระลึกถึงพระพุทธเจ้า
และ เดินจงกรม เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่การนั่งสมาธิที่ดีขึ้น


การนั่งสมาธิให้กำหนดจิต พุท - โธ หรือ ยุบหนอ - พองหนอ หรืออย่างไรก็ได้แล้วแต่เรา
กำหนดจิตที่ท้อง อย่าคิดฟุ้งซ่าน เพราะจะไม่ได้ผล

การนั่งสมาธิที่ได้ผล บรรลุตามเป้าประสงค์ คือ เมื่อขณะนั่งสมาธิ จะรู้สึกมีความสุขมาก จิตใจเป็นปิติ หัวใจพองโต รู้สึกปลาบปลื้มอยู่ในใจ ถือว่าเป็นความสุขอย่างที่สุด


ขอเชิญชวนให้เราทุกคนนั่งสมาธิกัน เพื่อประโยชน์สุขในชีวิตของเรามากขึ้น

อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1364719#ixzz1Mtdmngsu
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
   
ประโยชน์ของการนั่งสมาธิ


ประโยชน์ของสมาธิ พูดได้หลายอย่าง เช่น ประโยชน์ทางด้านอภิญญา ประโยชน์ทางด้านศาสนา ประโยชน์ทางด้านบุคลิกภาพ ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

1.ประโยชน์ทางด้านอภิญญา เช่น ฝึกสมาธิแล้วได้อภิญญา(ความสามารถพิเศษเหนือสามัญชน) ได้แก่ หูทิพย์ ตาทิพย์ ทายใจคนอื่นได้ แสดงอิทธิฤทธิ์ต่างๆ ได้ ประโยชน์ด้านนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพระศาสนาโดยตรง

2.ประโยชน์ที่เป็นจุดหมายทางพุทธศาสนาแบ่งเป็น ๒ ระดับ คือ

     (1)ประโยชน์ระดับต้น ฝึกสมาธิไประยะหนึ่ง จิตจะหายฟุ้งซ่าน จนถึงระดับได้ฌาน สามารถใช้สมาธิที่ได้ระงับ หรือข่มกิเลสได้ชั่วคราว แค่นี้ก็เรียกได้ว่าได้ "วิมุตติ"(หลุดพ้น)ระดับหนึ่งแล้ว เรียกว่า วิกขัมภมวิมุติ (หลุดพ้นด้วยข่มไว้)ตราบใดที่ยังข่มได้อยู่ เจ้ากิเลสมันก็ไม่ฟุ้งดอกครับ อย่าเผลอก็แล้วกันเผลอเมื่อได เดี๋ยว "จะเป็นเรื่อง"

เมื่อท่านเจ้าประคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันโท จันทร์) เทศน์สองธรรมาสน์กับ สมเด็จวัดเทพศิรินทร์ เจ้าคุณอุบาลีฯท่านอธิบายเรื่องกิเลส โลภ โกรธ หลง ยกศัพท์ยกแสงขึ้นมาอธิบายอย่างละเอียด สมเด็จท่านทักขึ้นว่า"แหม ว่าละเอียดเชียวนะ โลภมาจากธาตุนั้นปัจจัยนี้… ไหนลองบอกดูวิว่า ลาว มาจากธาตุอะไร"

(ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯท่านเป็นชาวอีสาน ที่คนภาคกลางมักจะเรียกเหยียดๆว่า "ลาว")

ท่านเจ้าคูณอุบาลีฯ ตอบว่า ลาว ภาษาบาลีว่า ลาโว แปลว่า "ผู้ตัด" มาจาก ลุ ธาตุ วิเคราะห์ว่า ลุนาตีติ ลาโว = ผู้ใดย่อมตัดผู้นั้นชื่อว่าลาว" "ตัดอะไร" สมเด็จซัก "ตัดหางเปียเจ็ก" เจ้าคุณอุบาลีฯสวนขึ้นทันที(สมเด็จท่านมีเชื้อสายจีนชาวชลบุรีครับ) สมเด็จไม่ทันระวังตัว เพราะมัวไปแขวะคนอื่นเพื่อความมันส์โกรธหน้าแดงเลย นี่แหละครับ กิเลสที่มันสงบอยู่ดุจหญ้าถูกหินทับ พอถูกสะกิดเท่านั้นมันก็ฟุ้งขึ้นมาได้ ยกเรื่องจริงในยุทธจักรดงขมิ้นมาเล่าประดับความรู้ครับ

     (2)ประโยชน์ระดับสูงสุด ก็คือสมาธิอันเป็นบาทฐานวิปัสนาพิจารณาสภาวธรรมทั้งหลายรู้แจ้งไตรลักษณ์ กำจัดกิเลสได้โดยสิ้นเชิง พูดอีกในหนึ่งก็คือสมาธินำไปสู่ความเป็นพระอรหันต์นั้นแหละครับ

3.ประโยชน์สมาธิในด้านพัฒนาบุคลิกภาพ ผู้ที่ฝึกสมาธิประจำ ย่อมมีบุคลิกภาพที่พึงปรารถนาหลายประการเช่น

     (1)มีบุคลิกหนักแน่น เข้มแข็ง
     (2)มีความสงบเยือกเย็น ไม่ฉุนเฉียวเกรี้ยวโกรธ
     (3)มีความสุภาพ นิ่มนวล ท่าทีมีเมตตากรุณา
     (4)สดใส สดชื่น เบิกบาน
     (5)สง่า องอาจ น่าเกรงขาม
     (6)มีความมั่นคงทางอารมณ์
     (7)กระฉับกระเฉง ไม่เซื่องซึม
(เจ๋งพร้อมเผชิญเหตุการณ์ต่างๆ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ฉับไว ไม่ต้องอธิบาย เพียงเอ่ยถึง ก็คงเข้าใจแล้วนะครับ)


4.ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน คนมักถามว่าฝึกสมาธิแล้วได้ประโยชน์อะไรในชีวิตประจำวัน ฝึกแล้วบรรลุมรรคผลนิพพานน่ะ รู้แล้วว่าพระคัมภีร์พูดไว้จริง แต่ได้จริงหรือเปล่า ยังไม่เคยเห็น ถ้าจะให้ทำเองก็ไม่ทราบว่าเมื่อไรจะเห็นผล เอาในชีวิตประจำวันเห็นๆกันนี้ดีกว่าว่าฝึกแล้วได้อะไร ได้มากมายทีเดียวกันเช่น

     (1) ทำให้ใจสบาย ไม่เครียด มีความสุข ผ่องใส
     (2) หายหวาดกลัว หายกระวนกระวายโดยไม่จำเป็น
     (3) นอนหลับง่าย ไม่ฝันร้าย สั่งตัวเองได้(เช่น สั่งให้หลับหรือตื่นตามเวลาที่กำหนดไว้ได้)
     (4) กระฉับกระเฉง ว่องไว รู้จักเลือกและตัดสินใจเหมาะแก่สถานการณ์
     (5) มีความแน่วแน่ในจุดหมาย มีความใฝ่สัมฤทธิ์สูง
     (6) มีสติสัมปชัญญะดี รู้เท่าปรากฏการณ์ และยับยั้งใจได้ดีเยี่ยม
     (7) มีประสิทธิภาพในการทำงาน ทำกิจกรรมสำเร็จด้วยดี
     (เจ๋ง ส่งเสริมสมรรถภาพมันสมอง เรียนหนังสือเก่ง ความจำดีเยี่ยม
     (9) เกื้อกูลต่อสุขภาพร่างกาย เช่นชะลอความแก่ หรืออ่อนกว่าวัย
     (10)รักษาโรคบางอย่าง เช่น โรคเครียด โรคท้องผูก โรคความดันโลหิต โรคหืด หรือโรคกายจิตอย่างอื่น
โรคกายจิต(อ่านว่าโรค กา-ยะ-จิต ) หมายถึง ไม่เป็นโรค แต่ใจคิดว่าเป็น คิดบ่อยๆเข้าก็เลยเป็นจริงๆ อาการอย่างนี้ฝึกสมาธิสักพักเดียวก็หาย



ลองฝึกสมาธิดูสิครับ วันละเล็กละน้อย ทำบ่อยๆเป็นกิจวัตร ไม่ช้าไม่นานเราจะรู้ตัวว่าเรากลายเป็นคนละคนกับคนเก่า-ปานนั้นเชียว

ที่มา  http://www.dhammakid.com/board/eaoo-cone1oaaao1/adaaa1iioa1neeaoo/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 20, 2011, 08:04:25 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

VongoleX

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา เลยครับ ว่าข้อมูลสมบูรณ์ มาก อยู่แต่ผู้ชักชวนแล้ว ว่า จะชักแม่น้ำทั้งห้าอย่างไร ?

แต่ผมว่า การชักชวน เพื่อน ให้ภาวนาก็เป็นการดี นะครับ แต่ถ้าจะให้ดี คือ ผู้ชักชวนควรปฏิบัติได้สัก 10 เปอร์เซ็น

ของสมาธิ ด้วยจะดีนะครับ เพราะจะดูน่าเชื่อถือมากกว่า ครับ

 :49:
บันทึกการเข้า
ผู้พิทักษ์รุ่นที่ 10 แห่ง Vongole จับมือกับ แก็งค์ อ๊บ อ๊บ