ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 5 คำถาม ที่จะช่วยตอบตัวเองว่า เราควรรอคอยต่อไป หรือไม่.?  (อ่าน 376 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



5 คำถาม ที่จะช่วยตอบตัวเองว่า เราควรรอคอยต่อไป หรือไม่.?

‘รอ’ เป็นคำที่ได้ยินแล้วสามารถสร้างความรู้สึกต่อเราได้แบบหวานขม แปลว่า ขณะที่รอคอยอย่างมีความหวัง ในอีกด้านหนึ่งของความรู้สึกก็บรรจุความสิ้นหวังอยู่ด้วยเช่นกัน หลายครั้งที่เราต้องรอแบบไม่มีจุดหมาย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปลายทางของการรอคอยนี้จะจบที่ตรงไหนหรือเมื่อไหร่ แล้วควรรอต่อไปหรือไม่ ไม่มีใครให้คำตอบได้ดีไปกว่าตัวเราเองอย่างแน่นอน

นอกจากความคาดหวังแล้ว ส่วนประกอบของการรอคอยยังเต็มไปด้วย ความไม่แน่นอน, ความไม่มั่นใจ และความกลัว ซึ่งล้วนแต่เป็นความรู้สึกทางลบ ทำให้ตลอดเวลาที่เราต้องรอใครสักคน หรือรอบางสิ่งบางอย่าง มันทำให้เราค่อนข้างไม่สบายใจ หลาย ๆ ครั้งก็สร้างความทรมานใจอยู่เหมือนกันจริงไหมคะ

บางตำราบอกว่า หากตั้งใจจะรอคอยแล้ว ก็จงเข้าใจว่า การรอคอยเป็นเพียงการดีเลย์ของการมาถึงเท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่าจะต้องรู้สึกหมดหวังในการรอเสมอไป พูดง่าย ๆ ก็คือมาช้าแต่มานะนั่นแหละ เพราะฉะนั้นการรอคอยจึงเป็นการฝึกความอดทนในอีกแง่หนึ่ง แต่ถ้าเราต้องอดทนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสุดท้ายแล้วการรอคอยจะสมหวังหรือไม่ ก็ต้องดึงสติแล้วกลับมาทบทวนตัวเองบ้าง

ส่วนคำถามที่ว่า 'ฉันควรรอต่อไปหรือไม่' ก็คงไม่มีใครตอบได้ แต่ลองตั้งคำถามเหล่านี้กับตัวเองดูค่ะ ว่าคำตอบออกมาเป็นอย่างไร


@@@@@@@

1. ปลายทางที่รอมันคุ้มค่าแค่ไหน

ผลลัพธ์ของการรอคอยจะเป็นตัวกำหนดว่า การรอครั้งนี้มันคุ้มค่ามากแค่ไหน ถ้าสิ่งที่เรากำลังรออยู่มันคือการช่วยเติมเต็มชีวิตเราอย่างหาอะไรมาแทนไม่ได้ ก็จงอดทนรอต่อไป เพราะยังไงมันก็หอมหวานแน่นอน แต่หากถามตัวเองแล้วเริ่มลังเล ไม่แน่ใจว่ารอแล้วจะคุ้มไหม หรือว่ารอไม่รอก็มีค่าเท่ากัน ถ้าคำตอบออกมาเชิงนี้ก็อาจจะต้องรีเซตตัวเองใหม่ก่อนว่าจะเอายังไงต่อไปดี เช่น ควรจะหาเป้าหมายใหม่หรือไม่ หรือจะลดความคาดหวังลงแล้วรอต่อไปดี

2. ถ้ารอไปเรื่อย ๆ จะเสียโอกาสอะไรไปบ้างระหว่างทาง

บางครั้งเราใช้พลังงานไปกับการอดทนรอจนไม่เป็นอันทำอย่างอื่น หลายคนตั้งตารอจนเสียโอกาสที่โฉบผ่านไปผ่านมาแต่ไม่ได้สังเกต เพราะมัวแต่โฟกัสอยู่ที่จุด ๆ เดียว, คน ๆ เดียว จนหลงลืมรอบข้างไปหมด แบบนี้ไม่ใช่การรอคอยที่ดีแน่ ๆ ลำพังแค่การต้องรออนาคตก็ทำให้เหนื่อยแล้ว หากจะต้องรอแล้วสูญเสียหลายอย่างไปตลอดทาง แล้วมันคุ้มที่จะพาเศษซากตัวเองไปจนถึงฝั่งฝันหรือคะ

3. ตลอดเวลาการรอ ต้องลงทุนลงแรงจนเหนื่อยมากขึ้นหรือไม่

การรอคอยที่สวยงามไม่ควรทำให้เราต้องเหนื่อยมากขึ้น เพราะรอก็คือรอเฉย ๆ ไม่ใช่ทำทุกอย่างเพื่อรอ แบบนั้นเรียกตามแล้วล่ะ! ลองลิสต์ข้อดีข้อเสียที่ต้องใช้ไปในระหว่างการรอครั้งนี้ว่ามันสมดุลกันไหม หากรู้สึกว่าเหนื่อยมากที่จะต้องรอต่อไป ก็ควรพักดีกว่า แล้วย้อนกลับไปถามตัวเองในข้อ1,2 เสียใหม่ อาจจะทำให้เห็นอะไร ๆ ได้มากขึ้น

4. หากผลลัพธ์ไม่เป็นดั่งใจ จะยังรอต่อไปไหม

ลองจินตนาการมองข้ามขั้นตอนไปถึงตอนจบว่า ถ้าสุดท้ายแล้วปลายทางไม่เป็นดั่งฝันที่วาดไว้ เราจะรู้สึกอย่างไร จะเสียใจหรือไม่ ถ้าคำตอบคือไม่สนใจว่าปลายทางจะจบอย่างไร ก็รอต่อไป แต่อาจจะต้องลดคาวมคาดหวังลงสักนิด หรือยอมรับความจริงให้ได้มากขึ้น เผื่อใจไว้บ้าง แต่หากรับไม่ได้ที่จะต้องผิดหวัง ก็ต้องพิจารณาใหม่แล้วว่า กล้าที่จะรอต่อไปหรือไม่ แม้อาจจะเสียใจมาก ๆ ก็ตาม

5. ถ้ายุติการรอคอยในตอนนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ลองคิดในอีกแง่มุมหหนึ่งดูว่า ถ้าเราไม่รออีกต่อไปแล้วมันจะทำให้เกิดอะไรขึ้นในชีวิต เราจะได้รับโอกาสเพิ่มขึ้นไหม, เราจะมีความสุขเพิ่มหรือน้อยลง, เราจะมีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นใช่หรือไม่ ถ้าเราไม่ได้รับผลลัพธ์ที่กำลังรอ มันทำให้ชีวิตเราต้องเปลี่ยนไปสักแค่ไหน

@@@@@@@

หากคำตอบที่ได้รับ ยังเป็นไปในทางบวก อ่านแล้วยังรู้สึกว่า รอได้แม้ไม่เห็นปลายทาง ก็จงรอต่อไป เพราะยังไงเวลาก็เดินหน้าทุกวินาทีอยู่แล้ว ไม่แน่นะคะ ผลลัพธ์อาจมาถึงไวกว่าที่คาดไว้ก็ได้ และราคาของการรอคอยมันก็ช่างหอมหวาน แต่หากเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าการรอคอยมันช่างกัดกินหัวใจและทำลายคุณภาพความสุข ก็ลองเลิกรอดูค่ะ อาจทำให้เราตาสว่างขึ้นมาได้ บางทีการรอเครื่องบินที่ป้ายรถเมล์มันก็ไม่มีวันเป็นจริงขึ้นมาได้นะคะ เป็นกำลังใจให้กับทุกการรอคอยค่ะ




ขอบคุณ : https://today.line.me/th/v2/article/RzRRrY
LINE TODAY ORIGINAL ,เผยแพร่ 09 เม.ย. เวลา 00.00 น. • nawa.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ