ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชี้หลวงพ่อพิมพ์ ไม่น่าเข้าข่ายอวดอุตริ  (อ่าน 1216 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28418
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ชี้หลวงพ่อพิมพ์ ไม่น่าเข้าข่ายอวดอุตริ

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เชื่อหลวงพ่อพิมพ์พระนักปฏิบัติดี แต่อาจติดวิปัสสนูปกิเลส ชี้ พวกอวดอุตริส่วนใหญ่หวังลาภสักการะ

วันนี้( 11 ก.ย.) สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) กล่าวถึงกรณีหลวงพ่อพิมพ์ หรือพระครูเวฬุวัน จันทรังษี เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ที่ประกาศละสังขารล่วงหน้าว่า เท่าที่ทราบหลวงพ่อพิมพ์เป็นพระนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานรูปหนึ่ง ขณะนี้อาพาธด้วยหลายโรค แต่ไม่ทราบว่า วิธีการปฏิบัติของท่านเป็นเช่นไร ซึ่งเมื่อปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมาถึงขั้นหนึ่ง อาจจะทำให้สำคัญผิดได้ว่า ได้บรรลุธรรม เนื่องจากไปติดในวิปัสสนูปกิเลส หมายถึง อุปกิเลสแห่งวิปัสสนา เป็นธรรมารมณ์ที่เกิดแก่ผู้ได้วิปัสสนาอ่อนๆ สภาพน่าชื่นชมแต่ที่แท้เป็นโทษเครื่องเศร้าหมองแห่งวิปัสสนา ทำให้เข้าใจผิดว่าตนบรรลุมรรคผลแล้ว เป็นเหตุขัดขวางไม่ให้ก้าวหน้าต่อไปในวิปัสสนาญาณ

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อถามว่าหลวงพ่อพิมพ์อวดอุตตริมนุสสธรรมหรือไม่ ตอบได้ว่า ไม่น่าจะเข้าข่ายอวดอุตตริมนุสสธรรม เพราะหลวงพ่อพิมพ์ เป็นพระนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน และปฏิบัติดีมาโดยตลอด ซึ่งการที่เข้าข่ายอวดอุตริได้ คือ ผู้ไม่มีวิชาอะไรเลยแล้วไปอวดอ้างคุณวิเศษที่ไม่มีในตัวตน เพื่อหวังลาภสักการะ บริวาร ดังนั้น พระพุทธองค์ จึงต้องมีการบัญญัติ ห้ามพระภิกษุอวดอ้างคุณวิเศษที่ไม่มีในตัวตน ในการป้องกันพระสงฆ์ประพฤติไม่เหมาะสม


 :96: :96: :96: :96:

ด้าน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า หลังจากที่หลวงพ่อพิมพ์อาการอาพาธดีขึ้น ทางเจ้าคณะปกครองในพื้นที่ต้องไปตรวจสอบและสอบถามหลวงพ่อพิมพ์กรณีการประกาศละสังขาร ส่วนประเด็นการเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของทางวัดนั้น พศ.คงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้เพราะวัดเป็นนิติบุคคล และตามระเบียบมหาเถรสมาคม(มส.)กำหนดให้เจ้าอาวาสต้องดูแลการใช้จ่ายภายในวัดและต้องมีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย แต่หากจะให้เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ จะต้องเป็นไปตามขั้นตอน เช่น มีการขออำนาจจากศาลที่จะสั่งให้ พศ.ไปตรวจสอบ เป็นต้น เบื้องต้นเจ้าคณะปกครองได้เข้าไปดูแลเรื่องบัญชีการใช้จ่ายทางการเงินของวัดว่าเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่

“ การที่หลวงพ่อพิมพ์ประกาศละสังขารด้วยการนอนในโลงศพ ก็มีการสันนิษฐานไปต่าง ๆ นานา บางคนก็ว่า เป็นการโอ้อวดอุตริ แต่เราก็มองว่าท่านอาจจะมีความเชื่อฝังอยู่ ในเรื่องของการตาย แต่ทั้งหมดนี้ยังคงไม่สามารถสรุปอะไรได้ต้องรอให้อาการอาพาธดีขึ้นก่อนจึงไปสอบถามจากหลวงพ่อได้” ผอ.พศ. กล่าว


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/education/266014/ชี้+หลวงพ่อพิมพ์ไม่น่าเข้าข่ายอวดอุตริ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

pongsatorn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ชี้หลวงพ่อพิมพ์ ไม่น่าเข้าข่ายอวดอุตริ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 12, 2014, 01:05:19 am »
0
การละสังขาร นั้น เป็นประกาศคุณธรรมของพระอริยะเจ้า ที่สามารถล่วงรู้วันเวลาที่ตนเอง จะหมดอายุสังขารตามอำนาจกรรมฐาน เช่นกรรมฐานทางตรงก็คืออานาปานสติ แต่การประกาศละสังขาร ก็มีนัยให้ศิษย์นิมนต์อยู่ต่อด้วย เช่นพระพุทธเจ้า ประกาศให้พระอานนท์ แต่พระอานนท์ ไม่มีสตินิมนต์พระพุทธเจ้าไว้ ในขณะนั้น

  ดังนั้นการประกาศ เช่นนี้เรียกว่า เป็นการแสดงญาณเจตนาล่วงหน้า เรียกว่า อนาคตังสญาณ ถ้าภิกษุรูปนั้นไม่ได้รู้ในการละสังขารแต่ประกาศออกไป ก็เท่าฆ่าตัวตายเอง การแสดงเช่นนี้ เป็นการอวดอุตรมนุสสธรรมโดยตรง ที่สำคัญมีการประกาศบอกออกสื่อให้รับทราบ มีการจัดทำของที่ระลึกแจกจ่าย แต่ขณะเดียวกัน ก็เหมือนมีการเตี้ยมเรื่องราว กันไว้ 

  จากทีี่สังเกตมาตอนแรก ก็คิดไว้แล้วว่าเป็นอย่างนั้น .... ใครจะคิดอย่างไร ก็ช่าง แต่ผมว่าเป็นเรื่องแปลก ๆ อยู่ตามความคิด

    :49: :welcome: :67:
บันทึกการเข้า