ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระอาจารย์ ถูกชาวเฟคด่า กันมากหรือคะ เห็นเป็นหัวข้อโพสต์หนักในเฟคเรื่องนี้  (อ่าน 4313 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

SRIYA

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 199
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
https://www.facebook.com/Dhammawangso

หลายคน เข้ามาเฟค แชทถามว่า ทำไมถึงใช้หัวข้อว่าด่า
คืออย่างนี้ ข้อความมันยาว ถ้าไม่ใช่คำว่าด่า ก็ต้องบอกว่าใช้คำพูดหยาบคาย เช่นเขาใช้คำเรียกตัวเขาว่า กู ส่วนเรียกพระอาจารย์ ว่า มึง ไอ้สัตว์ ไอ้ควาย ไอ้โล้น ไอ้ส้นตีน เป็นตัน ถ้าไม่ใช่คำว่าด่า ก็ต้องใช้คำว่า หยาบคาย ถามว่าคนพวกนี้มีมากไหม ? พระอาจารย์เก็บประวัติไว้ พอสมควร บางครั้งสาวไป ถึงต้นตอก็ทราบว่าไม่ใช่ชาวพุทธ อีก ก็มีหลายท่าน ให้เพื่อนที่ทำงาน ติดตาม ไอพี ไปเลยจนรู้ต้นตอ ( บางคนนะ ) แต่ทำไมไม่นำข้อความทั้งหมดมาลง ก็เพราะว่า ไม่อยากให้เฟคธรรมะ เลอะเทอะด้วยเรื่องราวสกปรกเหล่านี้ ถามว่าคนที่มันด่าพระอาจารย์นี่ พระอาจารย์ไปทำอะไรเขา คำตอบก็คือ ฉันก็ไม่รู้นะ เพราะฉันใช้เฟคบุ๊คก็จริง แต่ไม่เคยไปโพสต์ข้อความในเฟคในใคร นอกจากลูกศิษย์โดยตรงสองสามคนเท่านั้น พวกนี้พอเขาเข้ามาขอเป็นเพื่อน พอฉันนตอบรับไปสักวันสองวัน ก็มีการโพสต์ในที่ส่วนตัวของอาจารย์ ด้วยข้อความหยาบคาย ประมาณว่า เก็บกด อีกพวกหนึ่ง คือ เคาะแชทเข้ามา
ถามว่า อยู่ไหม
ฉันก็ตอบว่า มีธุระอะไร
เขาก็โพสต์ต่อ ว่า ไอ้ควาย มีงจะเล่นเฟค ทำไมไม่สึกไปเล่น มาอยู่รกศาสนา ทำไม
ฉันก็เงียบเฉยๆ และก็อบปี้ข้อความ ที่เขากระหน่ำเข้ามาไว้ เป็นชุดแบบเหมือนพิมพ์เตรียมไว้เลย วิ ต่อ วิ ฉันนั่งอ่าน ก็พิจารณา ถึงความจัญไร ของปัญญาชน ที่ใช้สื่อปัญญาชน ทำเรื่องราว ของสัตว์นรก

เมื่อฉันอ่านเสร็จแล้วก็ให้เพื่อนที่รู้จักกัน ตาม ip ไป (เฉพาะบางคน) จนรู้ว่า มาจาก host ไหน เน็ตไหน และ ก็ให้เพื่อนที่สอบถาม กลับไปยัง host ว่า ไอพีนี้ ใช้ที่ไหน ซึ่งเพื่อน คนนี้ทำงานส่วนราชการที่ติดตามเรื่องพวกนี้โดยตรง จึงหาที่อยู่ของคนเหล่านี้ได้ไม่ยาก มีที่หนัก ๆ ให้ติดตามไป จนรู้ว่า ไม่ใช่ชาวพุทธ ก็มีอยู่ 5 คน ถามว่าจะทำอะไรต่อ

สิ่งแรก ยกเลิกความเป็นเพื่อน
สิ่งที่สอง คือ เก็บหลักฐาน การหมิ่นประมาทด้วยข้อความการแชททั้งหมดเป็นรูปแคปเจอร์ วันเวลาเดือนปี เตรียมไว้ส่งแจ้งความ
สามดูพฤติกรรม หากไม่มีการกระหน่ำเข้ามาอีก เรื่องก็จะจบ แต่ถ้ามีกระหน่ำเข้ามาอีก เป็นคนเดิมอีก ก็จะส่งเรื่องให้เพื่อนดำเนินการ แจ้งความตามระบบกฏหมาย ( แต่ตอนนี้ไม่มี พฤติกรรมซ้ำซ้อน เพราะว่า เราไม่รับใครเป็นเพื่อน ๆ ง่าย แบบเมื่อก่อน คือ คนขอเป็นเพื่อนในเว็บตอนนี้ พระอาจารย์ เดือนหนึ่งอาจจะเข้าไปอ่านรับ สักครั้ง หรือสองเดือน ครั้งที่ ขอ ดังนั้นคนที่ขอ จึงอาจจะเบื่อไปก่อนกับความล่าช้า )ซึ่งเป็นเจตนาของเราเองอยู่แล้ว เพราะว่า เรามาโพสต์ในเว็บเพื่อเผยแผ่พระธรรม แบบปิดทองหลังพระ ดังนั้นไม่ได้มาสนใจว่า ใครจะมายอ หรือ ชม ถ้าไม่ด่ากันหนัก ๆ มาก ก็จะเฉย ๆ ไปนะ

 :smiley_confused1: :smiley_confused1: :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกชีวิต มีความอบอุ่น

pongsatorn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 :smiley_confused1: :smiley_confused1: :smiley_confused1:

ไม่น่าจะมีคนว่า ก็มีเนาะ โลกนี้ไม่มีใครไม่ถูก คนอื่นด่า หรือ นินทา จริง ๆ
ดี แสนดีขนาดไหน ก็ไม่พ้น

 :34: :bedtime2: :c017:
บันทึกการเข้า

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ประสานงาน กับ ท่าน หมวดนาวิน จนได้ที่อยู่กันแล้วนะครับ ความคืบหน้า ได้รายงานให้พระอาจารย์ในเฟคแล้วนะครับ พวกจัญไร ผมเห็นด้วย ต้องจัดการบ้างครับ เพราะเป็นพวกบ่อนทำลายศาสนา ทีั้งตรงและอ้อม ครับ

    :32: :96: :character0029:
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


"เฮ้ย! เกลอมึงคิดยังไง.?"          "กูงี้! อายแทนพวกเดียวกันจริงๆ"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 25, 2014, 08:25:20 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
อธิบายความจริงเรื่อง บิณฑบาตร 10000 รูป ของสระบุรี คนส่งมาว่า พระอาจารย์ ว่าพระในประเทศไทย มีเกิน 2 ล้าน พระอาจารย์เลยให้ข้อมูลกลับไปว่า ทั้งประเทศ มีอยู่ แค่ 200000 รวมทั้งสามเณรด้วย  ไม่เยอะนะ

 
;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
- การเผยแพร่พระพุทธศาสนามิใช่เรื่องง่าย สมัยนี้พระก็มีเฟสกันเยอะแยะ อยู่ที่เจตนาของพระครับ บางท่านก็เผยแพร่ธรรม ตั้งแต่ขั้นต้น ขั้นกลาง จนถึงขั้นสุด บางท่านก็มีเฟสตั้งแต่สมัยเป็นโยม พอบวชก็เลยอัพขึ้นไป แล้วแต่เจตนาของแต่ละคน ส่วนตัวผมเห็นพระว่าพระอาจารย์สนธนานี้ ท่านได้เพียรปฏิบัติมาดีแล้ว ผมให้ความเคารพศรัทธาท่านมากองค์หนึ่งดุจอุปัชฌาย์ที่สอนสั่งผมไม่ได้ต่างจาก หลวงปู่นิล มหันตปัญโญ วัดป่าสุมนามัยและวัดป่าคุ้มจัดสรรค์ และ พระอาจารย์สุจินต์ ธรรมวิมล วัดป่าอาสภาวาส ซึ่งเป็นครูอุปัชฌาย์ผู้บวชและสอนกรรมฐานให้แก่ผมเลย

- ผมขอเป็นลูกศิษย์ท่าน ท่านก็ไม่ยอมเพราะไม่ขึ้นกรรมฐานอาจจะไม่ปฏิบัติจริงจัง ดูอย่างสมัยพุทธกาลนี้พระพุทธเจ้ากว่าจะเผยแพร่พำระพุทธศาสนาได้ยากเย็นเพียงไร เป็นถึงพระพุทธเจ้าก็ยังไม่สวายมีคนด่าว่ากล่าว นับประสาอะไรกับอย่างเราๆได้เล่า

- เหตุการณ์อย่างนี้ๆไม่ใช่แค่พระอาจารย์สนทยาหรอกที่เจอ ผมเองเป็นปุถุชนคนธรรมดา เล่นเฟส เล่นกูเกิลพลัส โพสท์กระทู้ธรรมเผยแพร่บ้าง ไปตามเวบที่เขามีปัญหาชีวิตมาปรึกษาบ้าง ก็ยังโดนเขาด่าเขาว่าเลย ที่ผมทำไปนั้นเพราะผมเคยสาบานกับพระพุทธเจ้าว่า..ขอให้ผมได้เห็นทางพ้นทุกข์เห็นธรรมของพระพุทธเจ้า เข้าถึงอริยะสัจ๔ ผมจะเผยแพร่พระพุทธศาสนาของพระตถาคตเจ้าไปจนถึงวันที่ร่างกายทรุดโทรมไม่ไหวหรือหมดลมหายใจ เมื่อผมเห็นในทางออกจากทุกข์ของผม ได้เห็นตามจริงใน "พระอริยะสัจ ๔ กรรมฐาน"  ผมก็มีความทำไว้ในใจ คือ เจตนาที่จะเผยแพร่มาเป็น 5-7 ปี แล้ว ทั้งๆที่ถูกด่าว่ากล่าวก็ตามแม้จะเป็นโยมแท้ๆยังโดนเลย แล้วจะถ้าเป็นพระมันก็ยิ่งจะยากเย็นขึ้นไปอีก คนมันมีเจตนาจะหาเรื่อง จะเป็นใครมันไม่สนหรอก คิดเสียว่ามารไม่มีบารมีไม่เกิด เมื่อเราถูกลิขิจตให้ต้องเผยแพร่สิ่งประเสริฐอันสูงสุดใน 3 โลก ก็ย่อมมีมารเบียดเบียน มารที่ว่านี้ คือ อุปสรรค และ การทานกิเลสตน ถ้าผมไปโกรธเขาตอบ..เขาก็ชนะ ถ้าผมเจริญกรรมฐานขึ้นแล้วละโกรธเขาได้..แถมทรงเมตตาต่อเขาขึ้นได้อีก..อันนี้แสดงว่าผมชนะแล้ว ที่ชนะนี้ คือ ชนะโทสะตน และผมนั้นจะระลึกถึงใน "ปุณโณวาทะสูตร" ว่า..
สมัยหนึ่งท่านจะไปเผยแพร่ในชนบทที่ห่างไกลผู้คนดุร้าย ได้ขอพระธรรมโดยย่อจากพระพุทธเจ้า แลพระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสสอนโดยย่อว่า..
   ดูกร ปุณณะ !!..เมื่อรู้ผัสสะ รูปนามไรๆก็สักแต่รู้โดยความไม่ตั้งความพอใจยินดี ไม่มีนันทิความติดใจเพลิดเพลิน ไม่รู้ผัสสะด้วยความน่าใคร่น่าปารถนา ไม่รู้ผัสสะด้วยความฝักใฝ่หมกมุ่นปารถนาในความเพลิดเพลินจากผัสสะัน้ๆ ก็จะไม่มีทุกข์
ท่านพระปุณณะเถระท่านมี ทมะ ความข่มใจจากกิเลส โดยความคิดดีคิดขอบเป็นสัมมาสังกัปปะ ได้แก่กุศลวิตก ๓ จนเข้าถึงความสงบใจอันมีจิตที่ฝักใฝ่ในสันติคือความสงบไม่มีโทษ จนถึงอุเบกขานั่นเอง เขาด่ายังดีกว่าเขาทุบตี เขาทุบตียังดีกว่าเขาฆ่า เขาฆ่าก็เห็นว่าภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมแสวงหาความหลุดพ้นไปจากสังขารธรรมอันไม่เที่ยงนี้แอยู่แล้ว เป็นต้น ความเร่าร้อนก็จะไม่มี ความทุกข์ก็จะไม่มี มีแต่ความสงบกายใจ


- เราชาวพุทธทั้งหลายย่อมศรัทธาซึ่งพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรก็เรื่องของเขาเราห้ามเขาไม่ได้ ห้ามตนเองไม่ให้โกรธเขายังไม่ได้ทั้งๆที่เกิดที่กายใจเรานี้แท้ๆ ดังนั้นแล้ว ขอท่านทั้งหลายให้ความศรัทธาซึ่ง "พระอาจารย์สนธยา" ที่หมายจะเผยแพร่กรรมฐานทั้งปวงนี้เทอญ

สาธุ สาธุ สาธุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 26, 2014, 10:15:25 pm โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าอ่านในเฟค รู้สึกมันส์ ดี ผู้กองวิน ยอดมาก

สำหรับส่วนตัว ผมทราบวัตถุประสงค์ ที่พระอาจารย์ ท่านโพสต์เรื่องนี้ ถึงแม้ผมจะไม่ได้เป็นศิษย์ ท่าน

 ผมเข้าใจว่า ท่านต้องการแสดงให้เห็นว่า การเผยแผ่พระธรรม นั้น ไม่ใช่ไม่มีอุปสรรค ไม่ใข่จะมีคนมาสรรเสริญ ไม่ใช่ว่าใครจะมีบุญวาสนา เข้าใจในพระธรรมกรรมฐาน ได้ง่าย ๆ หากไม่ศึกษา ด้วยความศรัทธา

 สำหรับพระอาจารย์ เท่าที่ผมติดตามท่านมาตั้งแต่เริ่มมีเว็บ ก็ 7 ปีแล้ว นับว่าเป็นพระที่ ควรแก่การนับถือ มาก โดยเฉพาะเรื่องการวิเวกปฏิบัติ และยังคงเส้นคงวา ในการรักษางานเผยแผ่พระกรรมฐาน ไว้ทั้ง ๆที่ ท่านก็อยู่ อย่างอัคคัต แต่ผมเชื่อว่า ศิษย์ท่านที่ดูแลท่านอยู่ตอนนีี้ นับว่าเป็นศิษย์ที่มีความเข้มแข็ง มาก

   อนุโมทนา กุศล งานปิดทองหลังพระ ด้วยครับ


   st11 st12
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

MICRONE

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 310
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
อบอุ่นใจด้วยคุณธรรม จุดเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม