ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กรรมฐาน กับ การเล่นเกมส์ เล่นเน็ต จะไปด้วยกันได้หรือครับ  (อ่าน 3062 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

mongkol

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 95
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คือผมไม่ค่อยจะเข้าใจ กับภาพของผู้ฝึกกรรมฐาน ไม่ว่าจะเป็นพระ หรือ ชาวบ้านที่ฝึกกรรมฐานแล้ว
ยังสมควรที่จะใช้ internet หรือเล่น เกมส์ อยู่อีกได้หรือไม่ครับ ผมเองที่ยังไม่ฝึกกรรมฐาน ก็เพราะยังชอบ
เล่น อินเตอร์เนต และ เกมส์ อยู่ครับ

  ผมดูแล้ว เว็บกรรมฐาน นั้น ๆ จะสวนทางกับ เทคโนโลยี นะครับ

 ใครเห็นด้วย หรือ ต้องการให้ความรู้ผม ก็ิิเชิญนะครับ ผมอาจจะไม่เข้าใจจริง ๆ ในภาพรวมของกรรมฐาน ครับ

  :25: :smiley_confused1: :c017:
บันทึกการเข้า

pimpa

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 138
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
น่าจะไปด้วยกันไม่ได้ คะ เพราะคนที่ภาวนา ส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยใช้เน็ต คะ
ยิ่งเล่นเกมส์ ด้วยยิ่งเห็นว่าไม่สมควร เลยคะ

  :91:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ผมเคยคุยกับพระรูปหนึ่ง ที่ผ่านการอบรมวิปัสสนาจารย์ ได้ประกาศนียบัตรมาแล้ว
 ท่านชอบดูหนัง ดูตลก เล่นเกมส์(ขณะเป็นพระ) แต่ท่านก็ยังปฏิบัติกรรมฐานอยู่

 ครั้งต่อมาได้พบท่านอีก ท่านบอกว่าเลิกเล่นเกมส์แล้ว แต่ยังดูหนังอยู่
 ผมไม่รู้ว่า ท่านปรารถนาพุทธภูมิหรือเปล่า เวลาท่านดูหนังเล่นเกมส์ ท่านเจริญสติไปด้วยรึเปล่า
 สิ่งเหล่านี้อาจเป็นจริตวาสนาที่ติดมาจากชาติก่อนๆก็เป็นได้


ความเห็นส่วนตัว คิดว่า คนทีี่่เดินอยู่ในมรรค พอถึงจุดหนึ่ง น่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมทางโลกได้
 อาจเกิดหิริและโอปตัปปะขึ้นมา มีความละอาย มีสติ สำรวมอินทรีย์มากขึ้น

 ที่สำคัญก็คือ การยึดมั่นกับสิ่งนั้นๆรึเปล่า
 บางคนอาจมีหน้าที่การงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ หลีกเลี่ยงไม่ได้
 การกระทำต่างๆทำไปโดยหน้าที่ เป็นกิริยาสักแต่ว่าทำ แต่ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งนั้นก็ได้


     อยากให้เข้าใจว่า การศึกษาข้อธรรมในพุทธศาสนา มีลักษณะเป็นไปโดยลำดับ ไม่มีการข้ามขั้นตอน
ที่ธรรมชาติได้กำหนดไว้  อนุสัยที่เนืองนองอยู่ในกมลสันดานจะค่อยๆถูกล้างไปด้วยอริยมรรค

     ผู้รู้กล่าวว่า ขอให้ดูกระบวนการทำน้ำให้บริสุทธิ์ ต้องนำเอาสิ่งปฏิกูลหยาบๆออกก่อน
จากนั้นนำไปใส่สารส้มรอให้น้ำตกตะกอน แยกเอาตะกอนออก สุดท้ายก็นำไปกลั่นจนได้น้ำบริสุทธิ์ออกมา

     การปฏิบัติธรรมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
:25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
นั่นสินะครับ ยิ่งถ้าเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ถึงมิได้ปรารถนา สาวกภูมิ แต่ด้วยจรรยา จริยา ข้อวัตรแล้วก็ไม่ควรที่จะต้องเล่น หรือ ดู อันเป็นสิ่งที่เรียกว่า ข้าศึกต่อกุศล

  ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ครับ .....

  ดังนั้น การภาวนาพึงเว้น หรือปฏิบัติใน ศีล มาตรฐาน ของ สามเณร อย่างน้อยก็ ศีล 10

  :s_hi: :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
พระวิปัสสนาจารย์ ถึงจะไม่เพื่อละกิเลสโดยตรง โดย สมณสารูป ก็ไม่ควร เสพการละเล่นอันเป็นข้าศึกต่อกุศล

พึงสำรวมระวังในอินทรีย์ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ ในฐานะของ สมณะ หรือ บรรพชิต

เจริญธรรม

  ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ