ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อเราปฏิบัติ กรรมฐาน ภาวนาไป แล้ว รู้สึกว่า ใจหยุด กายหยุด และอยู่นิ่ง ๆ  (อ่าน 2739 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

แพนด้า

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1

เมื่อเราปฏิบัติ กรรมฐาน ภาวนาไป แล้ว รู้สึกว่า ใจหยุด กายหยุด และอยู่นิ่ง ๆ
  อาการอย่างนี้เรีัยกว่า วิมุตติ ใช่หรือไม่ครับ
  ถ้าใช่ก็หมายถึง ให้เราทรงอารมณ์ เช่นนี้ไว้ให้ได้ นาน ๆ ใช่หรือ ไม่ครับ

  st11 ที่ตอบคำถาม ให้ครับ



บันทึกการเข้า

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมว่าไม่ใช่ การบรรลุธรรม ครับ ส่วนนี้น่าจะเรียกว่า ติด อทุขมสุขเวทนา มากกว่า ครับ


 :49:
บันทึกการเข้า

nippan55

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อุปกิเลส (ธรรมเครื่องเศร้าหมอง, สิ่งที่ทำให้จิตขุ่นมัว) มีด้วยกัน ๑๖ ประการ คือ

๑.อภิชฌาวิสมโลภะ (คิดเพ่งเล็งอยากได้ โลภไม่สมควร, โลภกล้า จ้องจะเอา ไม่เลือกควรไม่ควร)

๒.พยาบาท (คิดร้ายเขา)                             

๓.โกธะ (ความโกรธ

๔.อุปนาหะ (ความผูกโกรธ)

๕.มักขะ (ความลบหลู่คุณท่าน, ความหลู่ความดีของผู้อื่น, การลบล้างปิดซ่อนคุณค่าความดีของผู้อื่น)

๖.ปลาสะ (ความตีเสมอ, ยกตัวเทียมท่าน, เอาตัวขึ้นตั้งขวางไว้ ไม่ยอมยกให้ใครดีกว่าตน)

๗.อิสสา (ความริษยา)

๘.มัจฉริยะ (ความตระหนี่)

๙.มายา (มารยา)

๑๐.สาเถยยะ (ความโอ้อวดหลอกเขา, หลอกด้วยคำโอ้อวด)

๑๑.ถัมภะ (ความหัวดื้อ, กระด้าง)

๑๒.สารัมภะ (ความแข่งดี, ไม่ยอมลดละ มุ่งแต่จะเอาชนะกัน)

๑๓.มานะ (ความถือตัว, ทะนงตน)

๑๔.อติมานะ (ความถือตัวว่ายิ่งกว่าเขา, ดูหมิ่นเขา)

๑๕.มทะ (ความมัวเมา)

๑๖.ปมาทะ (ความประมาท, ละเลย, เลินเล่อ)


 
บันทึกการเข้า

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ถ้าเป็น วิมุตติ แล้ว จะหลุดพ้น ทำได้ แบบไม่ห้วนกลับคืนอีก

    ก็แล้วท่านยังคงกลับมามีกิเลสอยู่อีกหรือไม่ ?

   เอาแบบ เข้าใจง่าย ๆ ว่า เราจะทำอย่างไร ไม่ให้กิเลส กลับมามีได้อีก อย่างตลอดไป  เป็นข้อ ๆ  สังโยช สิบ
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม