ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 ข้อคิด ปฏิบัติธรรมอย่างไร.? ไม่ให้หลงทาง.!!  (อ่าน 416 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


10 ข้อคิด ปฏิบัติธรรมอย่างไร.? ไม่ให้หลงทาง.!!

1. เราไม่ได้ปฏิบัติธรรมเพราะเราเป็นคนดี แต่เราปฏิบัติธรรมเพราะเรารู้ว่า เรายังมีความเลวอยู่ เมื่อปฏิบัติธรรมแล้ว เราจะยิ่งเห็นความเลวของตัวเองมากขึ้น ถ้าปฏิบัติธรรมแล้ว เห็นแต่ความดีของตนเอง ให้สันนิฐานเอาไว้เลยว่า เรากำลังปฏิบัติธรรมแบบผิด ๆ อยู่

2. ความดีของครูบาอาจารย์ไม่ใช่ความดีของเรา แม้เราเป็นลูกศิษย์ของพระอรหันต์ ก็ใช่ว่าเราจะมีคุณธรรมเหมือนท่าน อย่านำครูบาอาจารย์มาโอ้อวดกัน เราอาจมีครูบาอาจารย์ที่ประเสริฐที่สุด แต่เราอาจจะเป็นคนที่เลวที่สุดก็ได้

3. สุขและทุกข์เป็นสิ่งที่ควรละทั้งคู่ เราไม่ควรหลงประเด็นว่าจะละเพียงทุกข์ แต่จะกอดสุขไว้เพราะมันคือเหรียญสองด้าน จะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นไปไม่ได้

4. ถ้าจะมีความรัก ก็ขอให้รักด้วยเมตตา อย่ารักด้วยตัณหาราคะ รักแบบราคะตัณหามุ่งไปที่การครอบครอง ทำให้เกิดความเห็นแก่ตัว เป็นการใช้ความรักเพื่อประโยชน์ในการเสพสุขทางตา หู จมูก ลิ้น กายเป็นสำคัญ รักในลักษณะนี้เป็นรักแบบสัตว์ไม่ใช่ความรักแบบมนุษย์ผู้เจริญ

5. ลาภ ยศ สรรเสริญ และความสุขจากกามคุณห้า สิ่งเหล่านี้มีอำนาจสูงมากที่ทำให้เกิดความหลงเมื่อเราต้องอยู่ร่วมกับสิ่งเหล่านี้ ควรอยู่ร่วมอย่างมีสติ ขาดสติเมื่อไหร่ เราย่อมตกอยู่ใต้อำนาจของโลกธรรมแปด

@@@@@@

6. อย่านินทาใคร อย่าวิจารณ์ผู้อื่นในทางเสียหายหรือไม่เป็นประโยชน์ เขาเป็นอย่างไรก็เรื่องของเขา เราควรเพ่งมองความเลวของตนเอง ควรใช้เวลาไปกับการสำรวจความเลวของตนมากกว่าไปมองความไม่ดีของผู้อื่น

7. สิ่งที่สำคัญกว่าศีล คือพรหมวิหารสี่ ได้แก่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ถ้าเราสนใจแต่การถือศีลโดยไม่สนใจเจริญเมตตา ศีลจะกลายเป็นความดีที่ไล่กัดเรา สร้างความอึดอัดให้เรา ผู้ปฏิบัติธรรมควรยึดความเมตตาเป็นสำคัญ ผู้ใดที่มีใจอยู่ในพรหมวิหารธรรม ผู้นั้นย่อมถือศีลอยู่แล้วเป็นปกติ

8. ปฏิบัติธรรมแล้วจิตต้องเบิกบาน สติปัญญาในชีวิตต้องเพิ่มขึ้น ความอยากได้สิ่งต่างๆ ต้องลดลงสามสิ่งนี้คือเครื่องชี้วัดว่าการปฏิบัติธรรมของเราว่าได้ผลมากน้อยแค่ไหน

9. ความขี้เกียจ คือตัวการใหญ่ที่ทำให้เราปฏิบัติธรรมไปไม่ถึงไหน ถ้าเป็นฆราวาส เมื่อปฏิบัติธรรมแล้วจะต้องขยันทำงานมากขึ้น ไม่ใช่ยิ่งปฏิบัติธรรมยิ่งขี้เกียจ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ใช่การปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ ยังต้องมีความขยันในเรื่องการภาวนามากขึ้นด้วย การปฏิบัติธรรมในรูปแบบยังเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอยู่

10. กิเลสคือ สิ่งร้ายกาจฉลาดที่สุดในโลก ทุกสิ่งที่เรากระทำอยู่ โดยมากแล้วเป็นไปภายใต้การครอบงำของกิเลส บางครั้งกิเลสก็มาในนามความดี บางครั้งกิเลสก็มาในนามปัญญา กิเลสคือสิ่งครองโลกครองใจ มันมาทุกทิศทุกทาง ผู้ปฏิบัติธรรมไม่ควรประมาทคิดว่า “ตนเอาอยู่” ไม่เคยมีใครเอากิเลสอยู่นอกจากคนหมดกิเลส การสำรวมกายวาจาจึงเป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้เรายังฆ่ากิเลสไม่ได้ แต่เราก็อย่าทำให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อนเพราะกิเลสของเรา


ขอบคุณที่มา :-
https://today.line.me/th/pc/article/10+ข้อคิด+ปฏิบัติธรรมอย่างไรไม่ให้หลงทาง+พศิน+อินทรวงค์-7W2NVr 
บทความของ พศิน อินทรวงค์ ,เผยแพร่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 , เวลา 12.39 น.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 11, 2020, 07:34:25 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ