ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - เมตตา
หน้า: [1] 2 3
1  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอความร่วมมือ สมาชิก เพื่อสำรวจสถานะ ของสมาชิก เพื่อ ธรรมวิจยะ ให้เหมาะสม เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2016, 12:56:22 pm
นับถือศาสนาพุทธ แต่ไปเรียน โรงเรียน คริสต์ เนื่องด้วยทางบ้านเชื่อมั่นว่า การเรียนการสอน ดีกว่าโรงเรียนรัฐคะ ก็เลยร่วมพิธีกรรมทางศาสนาเขาไปด้วยคะ

  แต่เรื่องสมาธิ รูปแบบนั้น ทำไม่ได้คะ แต่ชอบนั่งห้อยขา ภาวนาพุทโธ อยู่คะ

 :58: :58: like1 :25:
2  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญร่วมส่ง ส.ค.ส. 2558 แบ่งปันความสุข ซึ่งกัน และกัน กันเถิด เมื่อ: ธันวาคม 03, 2014, 08:58:52 am



  งานปิดทองหลังพระ ของพระธัมมะวังโส ภิกขุ

  นี้นับว่า หลายปีแล้ว ที่ข้าพเจ้า ได้ติดตามมาตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ กับครูนภา จนกระทั่งวันนี้จบการศึกษาออกมาแล้วกำลังศึกษาต่อ ป.ตรี ที่นี่ยังมีหัวข้อธรรม ที่บรรดา ลุงป้า น้าอา เพื่อน ๆ มาเสริมความรู้ทางธรรมกรรมฐาน นับว่ามีประโยชน์มาก เดิมทีไม่ค่อยได้คิดว่า หลักธรรม จะมีประโยชน์เท่าใด แต่ต่อเมื่อข้าพเจ้า เติบโตมา อยู่ในสังคมหมู่มาก ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ ก็ยิ่งเห็นความสำคัญของพระธรรม มากขึ้น โดยเฉพาะ วิชากรรมฐาน มันทำให้ข้าพเจ้า มีใจสงบ ประณีต ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่สับสน ไม่ทรมาน แม้บางครั้ง ต้องประสบกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่นำมาซึ่งความทุกข์ ดังนั้น จึงขอเป็นกำลังใจ แด่ ครูอาจารย์ ที่ทำงานปิดทองหลังพระ ให้ทำงานอยู่ได้ตลอดไป

   ด้วยความเคารพ และขอบคุณ

   จาก น.ส. เมตตา  บุญมาพิทักษ์ เชียงใหม่
3  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับ กองผ้าป่า ช่วยเหลือ สำนักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน ปี 2557 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2014, 09:16:07 am
 st11 st12
4  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / การให้ธรรม เป็น ทาน ชนะการให้ทั้่งปวง เพราะอะไร ? เมื่อ: กันยายน 26, 2014, 07:53:26 pm
 ask1 ask1 ask1

การให้ธรรม เป็น ทาน ชนะการให้ทั้่งปวง เพราะอะไร ?
ตกลง คน เรา ต้องการ ธรรม หรือ ต้องการ สุข หรือ ต้องการอะไร ?

 นาน ๆ จะถามที ไม่ ถาม ถี่ อย่างเมื่อก่อน

  :bedtime2: :58: :88:
 
5  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่ง พระธรรม อาจจะเปิดดาวน์โหลด เป็น PDF เมื่อ: กันยายน 26, 2014, 07:43:42 pm
เพื่อน ๆ รอบตัวบอกว่า เสนอ PDF ก่อน เราไม่มีเงินทำบุญ ให้เสนอแบบนั้น เพราะถ้าเสนอ ทำหนังสือ แล้วไม่ทำบุญจะโดนว่า ได้ ส่วนตัวมาคิดแล้วว่า ไม่ถูกต้อง การเสนอ ให้ทำเป็นหนังสือนั้น สมควร คะ แต่ การจะทำบุญร่วมหรือ ไม่ คิดว่า เว็บนี้คงไม่ได้บังคับ คนที่โหวต ให้ทำด้วยนะคะ

  ดังนั้น ส่วนตัวคิดว่า ทำเป็นหนังสือ นะ ได้บุญกับผู้รับ หนังสือ ด้วยคะ

   st12
6  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปณิธาน ในการภาวนา และการเผยแผ่ พระธรรม เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2014, 09:54:34 am
 st11 st12
7  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เรียนเชิญ ส่งภาพ ส.ค.ส. ดิจิตอล ส่งความสุข ส่งท้ายปี 2555 ต้อนรับปี 2556 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2012, 06:03:06 pm


อันวาระ สขุดิถี มาถึงนี้  ขอท่านมี ความสุข และหรรษา
ให้รวยสุข พอกพูน ทุกทิวา  ให้เวลาผ่านไป อย่างรวดเร็ว
8  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับผู้สนับสนุน notebook ให้แก่ สนง.ส่งเสริมกรรมฐาน 15 ก.ค.55 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2012, 02:12:34 pm
อนุโมทนา ด้วยคะ ขอให้คณะคุณตันติกร โชคดี โชคดี นะคะที่สนับสนุนธรรมทานในครั้งนี้ คะ

 :s_hi: :c017:
9  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ล้มแล้วเหยียบ ( สะใจ ใคร ) รับมืออย่างไร ? เมื่อ: เมษายน 24, 2012, 09:37:33 am



ล้มแล้วเหยียบ


ฝรั่งมีสำนวนประโยคหนึ่งว่า “Add insult to injury” หมายถึงการเหยียบซ้ำ 

พลาดแล้วถูกซ้ำเติมเป็นเรื่องเราต้องเคยเจอสักครั้งหนึ่ง

เคยไหมที่คุณขับรถฝ่าไฟแดง แล้วไม่ถูกตำรวจจับ และคนข้างๆ บอกประชดว่า “ขับรถเก่งจัง”

แต่ครั้นทำอย่างเดียวกันอีกครั้ง แล้วถูกตำรวจจับ จะได้รับคำซ้ำเติมว่า  “บอกว่าอย่าฝ่าไฟแดง แล้วไง โดนใบสั่งจนได้”

ความผิดพลาดอาจเป็นความเสียหาย แต่ก็เป็นความเสียหายในระดับหนึ่ง การซ้ำเติมทำให้ความเสียหายนั้นสูงขึ้นกว่าเดิม และทำให้ปัญหานั้นแก้ไขยากขึ้น

มีตัวอย่างมากมายที่เมื่อเด็กสอบตก พ่อแม่ก็ดุด่าเด็กจนเด็กกลัว ทำอะไรก็ผิดพลาดไปหมด เสียอนาคตไปเลย 

บางเหตุการณ์เกิดมานานหลายสิบปี ยังรื้อฟื้นขึ้นมา และยังสามารถโกรธเป็นฟืนเป็นไฟในเรื่องที่จบไปนานแล้ว

บางคนติดนิสัยด่าคนที่ทำพลาด ตอกย้ำทุกครั้งที่ทำผิด และทุกครั้งที่คิดการใหม่ ด้วยประโยค “ทำไปทำไม เดี๋ยวก็คงผิดอย่างเดิมอีก”

ด้วย ‘กำลังใจ’ แบบนี้ ถึงไม่ทำผิด ก็คงต้องผิดสักวัน

ประโยคยอดนิยมคือ : 
"บอกแล้วว่าอย่าทำๆ"
"เห็นมั้ย ฉันว่าแล้ว ผิดซะเมื่อไหร่"
"นึกแล้วเชียว"
"สมน้ำหน้า เตือนแล้วไม่ฟัง"

การกระหน่ำซ้ำคนที่ทำผิดพลาดไม่ใช่กุศโลบายที่ดี โดยเฉพาะในฐานะของผู้นำ 

ด่าไปแล้วก็ไม่ช่วยให้ความผิดพลาดกลับคืนสู่สภาพเดิมได้

มองโลกในแง่ดีว่า ไม่มีใครอยากทำผิด ไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี

ภาษิตฝรั่งว่า “Don't cry over spilt milk.”

ทำน้ำนมหกไปแล้วก็อย่าเสียเวลาคร่ำครวญกับมัน เสียเวลาเปล่า เพราะไม่มีทางที่จะนั่งยานเวลาย้อนกลับไปป้องกันเหตุการณ์นั้นได้

การเหยียบซ้ำก็เหมือนการถูกมีดบาดแล้วโรยเกลือซ้ำ บางครั้งอาจทำให้คนทำผิดพาลไม่ยอมเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น หรือแสดงออกด้วยการประชด ตั้งใจทำผิดซ้ำสองอีก

คนทำผิดส่วนใหญ่เรียนรู้จากความละอายใจมากกว่าจากคำด่า 

มองโลกในแง่ดีคือเมื่อรู้จักให้อภัย เมื่อนั้นความผิดพลาดนั้นๆ ก็อาจคุ้มค่ากับความเสียหาย เพราะต่างคนต่างได้รับบทเรียน


บทความโดย....วินทร์ เลียววาริณ 

ขอบคุณบทความจากทำดดอทเน็ต
10  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ถ้ามีคนมาทำร้าย เรา และ ทำร้ายคนที่เรารัก เช่น มารดา บิดา บุตร ภรรยา เราควร. เมื่อ: เมษายน 24, 2012, 09:23:41 am
เราคงจะยอมให้ใครทำร้าย บุพพการี เราอย่างนั้นไม่ได้ แน่ ๆ เพราะเราไม่ใช่พระอรหันต์
คงต้องขัดขวางก่อน ผิดถูกอย่างไร ก็ควรจะให้เป็นระบบของกฏหมาย เป็นผู้จัดการต่อ
ตรงนั้น ไม่ใช่ให้มาทำร้าย อย่างบ้านป่า เมืองเถื่อน เพราะบ้านเมืองมีกฏหมาย คะ

 ส่วนเรื่องการทำใจ หรือ แผ่เมตตา นั้นเป็นเรื่องภายใน คะ ... รู้เห็นได้เฉพาะเรา คะ

 :08: :character0029: :character0029:
11  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / O ทุกชีวิตมีความตายเป็นเบื้องหน้า เมื่อ: เมษายน 19, 2012, 07:41:54 am
ทุกชีวิตมีความตายเป็นเบื้องหน้า

O ทุกชีวิตมีความตายเป็นเบื้องหน้า

มีพระพุทธศาสนาสุภาษิตว่า “ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนพาล ทั้งบัณฑิต ล้วนไปสู่อำนาจแห่งความตาย ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า”

แทบทุกคน เคยได้รับรู้ความหมายของข้อความนี้อยู่ตลอดมาแล้ว แทบทุกคนเคยพูดออกจากปากตนเองมาแล้วนับครั้งไม่ได้ แม้จะไม่ตรงเป็นคำคำ แต่ก็มีความหมายตรงกัน

O ไม่มีสักคนเดียว ที่จะหนีความตายพ้น

ทุกคนมีความรู้แก่ใจ ว่าทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย ไม่มีสักคนเดียวที่จะหนีความตายพ้น แล้วทุกคนมีความได้เปรียบอยู่ประการหนึ่ง ที่มีความรู้นี้ติดตัวติดใจอยู่

แต่แทบทุกคนก็มีความเสียเปรียบอยู่ประการหนึ่ง ที่ไม่เห็นค่า ไม่เห็นประโยชน์ของความรู้นี้ จึงมิได้ใส่ใจเท่าที่ควร ปล่อยปละละเลย รู้จึงเหมือนไม่รู้ สิ่งที่เป็นคุณประโยชน์จึงเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่มีค่า

O ความรู้ว่าตัวตาย เป็นคุณประโยชนิ์ยิ่งใหญ่

ความรู้ว่าทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย เป็นสิ่งเป็นคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่ แม้ใส่ใจในความรู้นี้ให้เท่าที่ควร ก็จะสามารถนำให้เกิดคุณเกิดประโยชน์แก่ตนเองได้มหาศาล ยากจะหาประโยชน์ใดอาจเปรียบได้

O ปราชญ์ทางพระพุทธศาสนา สอนให้หัดตายก่อนถึงเวลาตายจริง

ปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาทั้งหลาย สอนให้หัดตายก่อนถึงเวลาตายจริง ท่านสอนให้หัดตายไว้เสมอ อย่างน้อยก็ควรวันละครั้ง ครั้งละ ๕ นาที ๑๐ นาที เป็นอย่างน้อย

การหัดตายนั้นบางผู้บางพวกน่าจะเริ่มหัดคิดถึงสภาพเมื่อตนกำลังจะถูกประหัตประหารให้ถึงตาย คิดให้ลึกซึ้งถึงความกลัวตายของตนในขณะนั้น แล้วก็คิดจนถึงเมื่อต้องถูกประหัตประหารถึงตายจนได้ แม้จะกลัวแสนกลัว แม้จะพยายามกระ:-)ระสนช่วยตนเองให้รอดพ้นอย่างไร ก็หารอดพ้นไม่ต้องตายด้วยความทรมานทั้งกายทั้งใจ

O การหัดตาย มีคุณเป็นพิเศษแก่จิตใจอย่างยิ่ง

การหัดตาย ด้วยเริ่มตั้งแต่ความกลัวตายอย่างทารุณโหดร้ายเช่นนี้ มีคุณเป็นพิเศษแก่จิตใจ จะสามารถอบรมบ่มนิสัยที่แม้เหี้ยมโหดอำมหิต ปราศจากเมตตากรุณาต่อชีวิตร่างกายผู้อื่น สัตว์อื่นให้เปลี่ยนแปลงได้ ความคิดที่จะประหัตประหารเขา เพื่อผลได้ของตนก็จะเกิดได้ยาก หรือจะเกิดไม่ได้เลย

การพยายามหัดตายให้รู้สึกหวาดกลัวการถูกประหัตประหารผลาญชีวิตตนนั้น เมื่อทำไว้เสมอ ก็จะเกิดผลเป็นความเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้อื่นที่จะต้องหวั่นกลัว เช่นเดียวกัน

ความเมตตาปรานีชีวิตผู้อื่น สัตว์อื่น ก็จะเกิดได้แม้จะไม่เคยเกิดมาก่อน ซึ่งก็เป็นการเมตตาปรานีชีวิตตนเองพร้อมกันไปด้วยอย่างแน่นอน

O กรรม..... ให้ผลเหมือนยาพิษร้าย และสัตย์ซื่อยิ่งนัก

ผู้ประหัตประหารเขา แม้จะได้สิ่งที่มุ่งได้ แต่ผลที่แท้จริงอันจะเกิดจากกรรม คือ การประหัตประหารที่ได้ประกอบกระทำลงไปนั้น จะเป็นทุกข์โทษแก่ผู้กระทำ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กรรมนั้นให้ผลสัตย์ซื่อยิ่งนัก เหมือนผลของยาพิษร้าย กรรมนั้นเมื่อทำแล้ว ก็เหมือนดื่มยาพิษร้ายแรงเข้าไป จักไม่เกิดผลแก่ชีวิตและร่างกายไม่มี ถ้าเป็นกรรมดี ก็จักให้ผลดี ถ้าเป็นกรรมชั่ว ก็จักให้ผลชั่ว

O พุทธศาสนิกชนถึงมีปัญญาเชื่อเรื่องกรรมให้ถูกต้อง

เราเป็นพุทธศาสนิกชนนับถือพระพุทธศาสนา พึงมีปัญญาเชื่อให้จริงจังถูกต้องในเรื่องกรรม และการให้ผลของกรรม จักเป็นสิริมงคล เป็นความสวัสดีแก่ตนเอง

ยุคสมัยนี้น่าจะง่ายพอสมควร สำหรับจะนึกให้กลัวการถูกประหัตประหารถึงชีวิต เพราะเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นแก่ใครต่อใครไม่ว่างเว้น อาจจะเกิดแก่เราเองวินาทีใดวินาทีหนึ่งก็ได้ หัดคิดไว้ก่อนจึงเป็นการเตรียมพร้อมที่ไม่ปราศจากเหตุผล แต่เป็นความไม่ประมาท

O ทุกชีวิต..... จะถูกมฤตยูรุกรานเมื่อไร ไม่มีใครรู้ได้

ความตายเกิดขึ้นได้แก่ทุกคน ทุกแห่ง ทุกเวลา พุทธศาสนสุภาษิตกล่าวว่า เมื่อสัตว์จะตาย ไม่มีผู้ป้องกัน จะอยู่ในอากาศ อยู่กลางสมุทร เข้าไปสู่หลืบเขา ก็ไม่พ้นจากมฤตยูได้ ประเทศคือ ดินแดนที่มฤตยูจะไม่รุกรานผู้อยู่..... ไม่มี

เราจะถูกมฤตยูรุกรานเมื่อไร ที่ไหน..... เราไม่รู้ หายใจออกครั้งนี้แล้ว อาจจะไม่หายใจเข้าอีก เมื่อถึงเวลาจะต้องตายไม่มี ผู้ใดผัดเพี้ยนได้ ไม่มีผู้ใดจะช่วยได้ เพราะเมื่อสัตว์จะตายไม่มีผู้ป้องกัน และความผัดเพี้ยนกับมฤตยูอันมีกองทัพใหญ่นั้นไม่ได้เลย

O ทุกย่างก้าวของทุกคน นำไปถึงมือมฤตยูได้

ทุกย่างก้าวของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่แห่งหนตำบลใด นำไปถึงมือมฤตยูได้ ผู้ร้ายก็เคยตกอยู่ในมือมฤตยู ทั้งที่ถุงใส่เงินแสนเงินล้านที่ไปปล้นจี้เขามายังอยู่ในมือ ไม่ทันได้ใช้ ไม่ทันได้เก็บเข้าบัญชีสะสมเพื่อความสมปรารถนาของตน

นักการเมืองไม่ว่าเล็กไม่ว่าใหญ่ ก็เคยตกอยู่ในมืองมฤตยู ในขณะกำลังเหนื่อยกายเหนื่อยใจ ใช้หัวคิดทุ่มเทเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายสูงสุดของตน ผู้ที่กำลังยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขกับครอบครัว เคี้ยวข้าวอยู่ในปากแท้ๆ ก็เคยตกอยู่ในมือมฤตยูโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ผู้เหินฟ้าอยู่บนเครื่องบินใหญ่โตมโหฬารราวกับตึก ก็เคยอยู่ในมือมฤตยูโดยไม่คาดคิด
ผู้โดยสารเรือเดินสมุทรใหญ่ ก็เคยตกอยู่ในมือมฤตยูพร้อมกันมากมายหลายร้อยชีวิต
นักไต่เขาผู้สามารถ ก็เคยหายสาบสูญในขณะกำลังไต่เขา โดยตกเข้าไปอยู่ในมือมฤตยู 
 

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11321
12  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ของขวัญจากใจ การให้ธรรม ชนะการให้ทั้งปวง เมื่อ: เมษายน 19, 2012, 07:39:19 am
ของขวัญจากใจ
การให้ธรรม ชนะการให้ทั้งปวง


พระนิพนธ์
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

พ ร ะ นิ พ น ธ์ เ พื่ อ ค ว า ม ส วั ส ดี
 แ ห่ ง ชี วิ ตแ ล ะ พ ร ะ ค ติ ธ ร ร ม
เ พื่ อ เ ป็ น แ ส ง ส่ อ ง ใจ


พระคติธรรม

หน้าที่ของคนเราที่จะพึงปฏิบัติต่อชีวิตร่างกาย คือ การบริหารรักษาร่างกายให้ปราศจากโรค ให้มีสมรรถภาพ และประกอบประโยชน์เพื่อให้เป็นชีวิตดี ชีวิตที่อุดม ไม่ให้เป็นชีวิตชั่ว ชีวิตเปล่าประโยชน์ และในขณะเดียวกัน ก็ให้กำหนดรู้คติธรรมดาของชีวิต เพื่อความไม่ประมาท

พระพุทธเจ้าตรัสห้ามมิให้ทำลายชีวิตร่างกาย ถ้าจะเกิดความอยาก ความโกรธ ความเกลียด ในอันที่จะทำลายชีวิตร่างกายก็ให้ทำลายความอยาก ทำลายความโกรธ ทำลายความเกลียดนั้นแหละเสีย

อีกอย่างหนึ่ง ธรรมคือคุณงามความดี ตรงกันข้ามกับอธรรม คือ ความชั่ว ซึ่งโดยมากก็รู้กันอยู่ ฉะนั้น เมื่อเคารพในความรู้หมายความว่า เมื่อรู้ว่าไม่ดี ก็ตั้งใจเว้นไว้ เมื่อรู้ว่าดี ก็ตั้งใจทำ ดังนี้เรียกว่า เคารพในธรรมที่รู้โดยตรง ซึ่งทำคนให้เป็นคน กล่าวคือเป็นมนุษย์โดยธรรม

สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

               O การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง

      พุทธศาสนาสุภาษิตบทหนึ่ง ซึ่งเป็นที่คุ้นหูคุ้นใจคนจำนวนมาก
           คือบทที่ว่า..... “สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”
          แปลความว่า “การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง”
เพราะพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อย มีศรัทธาเชื่อให้คุณแห่งการให้ธรรมเป็นทาน จึงแม้สามารถก็จะพากันพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน ซึ่งเชื่อว่าเหนือการให้ทั้งปวง ซึ่งจักเป็นบุญเป็นกุศล ยิ่งกว่าบุญกุศลที่เกิดจากการให้ทานอื่นทั้งปวง

นี้เป็นการถูก เป็นการดี เพราะการเผยแพร่ธรรมของ พระพุทธเจ้าเป็นความความดีอย่างยิ่ง ยิ่งผู้ได้รับนำไปปฏิบัติก็จะยิ่งเป็นการดีที่สุด เพราะการปฏิบัติธรรม ทรงธรรม ตั้งอยู่ในธรรม เป็นการนำให้ถึงความสวัสดีอย่างแท้จริง และไม่เพียงเป็นความสวัสดีเฉพาะตนเองเท่านั้น ยังสามารถแผ่ความสวัสดีให้กว้างไกลไปถึงผู้เกี่ยวข้องได้มากมาย

กล่าวได้ว่า ผู้มีธรรมเพียงคนเดียว ย่อมยังความเย็น ความสุข ให้เกิดได้เป็นอันมาก ตรงกันข้ามกับผู้ไม่มีธรรม.....แม้เพียงคนเดียว ก็ย่อมยังความร้อนความทุกข์ให้เกิดได้เป็นอันมาก

                   O การให้ธรรมที่แท้จริง
         หมายถึงการทำตนเองของทุกคนให้มีธรรม

พิจารณาจากความจริง ที่ว่าผู้มีธรรมเป็นผู้ให้ความเย็น ความสุขแก้ผู้อื่นได้ เช่นเดียวกันกับที่ให้ความเย็นความสุขแก่ตนเอง อาจเห็นได้ว่า การให้ธรรมไม่หมายถึงเพียงการพิมพ์หนังสือธรรมแจก หรือการอบรมสั่งสอนด้วยวาจา ให้รู้ให้เห็นธรรมเท่านั้น

แต่การให้ธรรมที่แท้จริง ย่อมหมายถึงการทำตนเองของทุกคนให้มีธรรม ให้ธรรมในตนปรากฏแก่คนทั้งหลายโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีการแสดงออกเป็นการสั่งสอนด้วยวาจา หรือเช่นด้วยการแสดงธรรมแบบพระธรรมเทศนาของพระ

การสั่งสอนธรรมหรือให้ธรรมด้วยความประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองนั้น มีความสำคัญเหนือกว่าการแจกหนังสือธรรมเป็นอันมากด้วยซ้ำ เพราะการประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ จนธรรมนั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายกับใจ นั่นแหละเป็นการแสดงธรรมให้ปรากฏแก่ผู้รู้ผู้เห็นทั้งหลายทั้งปวง และจะต้องได้ผลมากกว่าการให้ธรรมที่เป็นข้อเขียนในหน้าหนังสือ

        O ความสูงต่ำ ห่างไกลของธรรมที่ดีและชั่วนั้นมีมากมายยิ่งนัก

อันคำว่าธรรมนั้น ที่แท้จริงมีความหมายเป็นสองอย่าง คือทั้งที่ดีและที่ชั่ว หนังสือธรรมมิได้แสดงแต่ธรรมที่ดี แต่แสดงธรรมที่ชั่วด้วย เพียงแต่แสดงธรรมที่ดีว่าให้ประพฤติปฏิบัติ แสดงธรรมที่ชั่วว่าไม่ควรประพฤติปฏิบัติ และผู้ประพฤติธรรมหรือผู้มีธรรมนั้นก็คือ ผู้ประพฤติธรรมที่ดี ไม่ประพฤติธรรมที่ชั่ว

ผู้ประพฤติธรรมที่ดีเรียกได้ว่าเป็นสัตบุรุษ ผู้ประพฤติธรรมที่ชั่ว เรียกว่าได้เป็นอสัตบุรุษ ความสูงต่ำห่างไกลของธรรมที่ดีและที่ชั่วนั้นมากมายนัก

มีพุทธสุภาษิตกว่าไว้ว่า “ฟ้ากับดินไกลกัน และฝั่งทะเลก็ไกลกัน แต่นักปราชญ์กล่าวว่า ธรรมของสัตบุรุษกับของอสัตบุรุษไกลกันยิ่งกว่านั้น”

           O การทำตนที่ชั่ว ให้เป็นตนที่ดีได้ เป็นกุศลที่สูงที่สุด

ผู้ให้ธรรมทั้งด้วยการให้หนังสือธรรม และทั้งการปฏิบัติด้วยตนเองให้ปรากฏเป็นแบบอย่างที่ดีงาม เป็นแบบอย่างของสัตบุรุษ กล่าวว่าเป็นผู้ให้เหนือการให้ทั้งปวง เพราะการพยายามช่วยให้คนเป็นผู้มีธรรมของสัตบุรุษ ละธรรมของอสัตบุรุษนั้น ก็เท่ากับพยายามช่วยให้คนบนดินคือต่ำเตี้ยได้เข้าใกล้ฟ้าคือสูงส่ง หรือช่วยให้คนชั่วเป็นคนดีนั่นเอง

การช่วยให้คนชั่วเป็นคนดีนั้น ผู้ใดทำได้จักได้กุศลสูงยิ่ง การช่วยตนเองที่ประพฤติไม่ดีให้เป็นประพฤติดีนั้น ก็เป็นการช่วยคนชั่วให้เป็นคนดีเช่นกัน และจะเป็นกุศลที่สูงที่สุดเสียด้วยซ้ำ เพราะนอกจากตนเองจะช่วยตนเองแล้ว คนอื่นยากจักช่วยได้

นี่หมายความว่า อย่างน้อยตนเองต้องยอมรับฟังการแนะนำช่วยเหลือของผู้อื่น ยอมปฏิบัติตามผู้อื่นที่ปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีให้ปรากฏอยู่ คือทำตนเองให้เป็นผู้ประพฤติธรรมของสัตบุรุษ ละการประพฤติปฏิบัติธรรมของอสัตบุรุษให้หมดสิ้น

             O พึงอบรมปัญญา เพื่อเป็นแสงสว่างขับไล่โมหะ

ผู้มาบริหารจิตทั้งนั้น พึงดูจิตตนเองให้เห็นชัดเจนว่า มีความปรารถนาต้องการจะก่อทุกข์โทษภัยให้แก่ตนเองหรือไม่

ถ้าไม่มีความปรารถนานั้น ก็ถึงรู้ว่าจำเป็นต้องอบรมปัญญาเพื่อให้ปัญญาเป็นแสงสว่างขับไล่ความมืดมิดของโมหะ ให้บรรเทาเบาบางถึงหมดสิ้นไป ปัญญาจะช่วยให้เห็นถูกเห็นผิดตามความเป็นจริง และเมื่อเห็นตรงตามความเป็นจริงแล้ว การปฏิบัติย่อมไม่เป็นเหตุแห่งทุกข์โทษภัยของตนเองและของผู้ใดทั้งสิ้น

ทุกข์โทษภัยย่อมไม่มีแก่ตน อาจมีปัญหาว่าแม้ตนเองไม่ก่อทุกข์โทษภัยแก่ตนเองด้วยกระทำที่ไม่ถูกไม่ชอบทั้งหลาย แต่เมื่อยังมีผู้อื่นอีกเป็นอันมากที่ก่อทุกข์โทษภัยอยู่ แล้วเราจะพ้นจากทุกข์โทษภัยนั้นได้อย่างไร

ปัญหานี้แม้พิจารณาเพียงผิวเผิน ก็น่าจะเป็นปัญหาที่ต้องยอมจำนน คือต้องรับว่าถูกต้อง แต่ถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้ง อย่าประกอบด้วยปัญญาแท้จริง ย่อมจะได้รับคำตอบแก้ปัญหาให้ตนไปได้อย่างสิ้นเชิง

เพราะผู้มีความเห็นชอบ ปราศจากโมหะ ย่อมเห็นได้ว่าไม่มีทุกข์โทษภัยใดจะเกิดแก่ตน ถ้าตนสามารถวางความคิดไว้ได้ชอบ เพราะความทุกข์ทั้งปวงเกิดจากความคิด

          O ผู้มุ่งปฏิบัติธรรม ต้องรู้จักพิจารณาเลือกเฟ้นธรรม

ผู้มุ่งมาบริหารจิต มุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นจากกิเลส ต้องพิจารณาใจตนในขณะอ่านหนังสือหรือฟัง เรียกว่าเป็นการเลือกเฟ้นธรรม ธรรมใดกระทบใจว่า ตรงกับที่ตนเป็นอยู่ พึงปฏิบัติน้อมนำธรรมนั้นเข้าสู่ใจตน

เพื่อแก้ไขให้เรียบร้อย ที่ท่านกล่าวว่า “เห็นบัณฑิตใด ผู้มีปกติชี้ความผิดให้ ดุจผู้บอกขุมทรัพย์ให้ ซึ่งมีปกติกล่าวกำราบ มีปัญญา พึงคบบัณฑิตเช่นนั้น เมื่อคบท่านเช่นนั้น ย่อมประเสริฐ ไม่เลวเลย”

“บัณฑิต” นั้นคือ “คนดีผู้มีธรรม หรือผู้รู้ธรรมปฏิบัติธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนนั่นเอง” การกล่าวธรรมของบัณฑิต คือ การกล่าวตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ และบัณฑิตนั้นมีพุทธภาษิตกล่าวไว้ด้วยว่า.....

“บุรุษจะเป็นบัณฑิตในที่ทั้งปวงก็หาไม่ แม้สตรีมีปัญญาเฉียบแหลมในที่นั้น ๆ ก็เป็นบัณฑิตได้เหมือนกัน”

           O สามารถหนีไกลจากกิเลสได้มากเพียงไร
           ก็สามารถแลเห็นพระพุทธเจ้าได้ใกล้ชิดเพียงนั้น

คนดีมีปัญญา คือคนมีกิเลสบางเบา โลภน้อย โกรธน้อย หลงน้อย กิเลสนั้นมีมากเพียงไร ก็ทำให้เหลือน้อยได้ ทำให้หมดจดอย่างสิ้นเชิงก็ได้ สำคัญที่ผู้มีกิเลสต้องมีปัญญา แม้พอสมควรที่จะทำให้เชื่อว่า กิเลสเป็นโทษอย่างยิ่ง ควรหนีให้ไกล สามารถหนีไกลกิเลสได้มากเพียงไร ก็สามารถเป็นคนดี เป็นบัณฑิตได้เพียงนั้น ทั้งยังจะสามารถแลเห็นพระพุทธเจ้าได้ใกล้ชิดเพียงนั้นด้วย

อ่านต่อได้ที่นี้ครับ

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11321[/b][/size][/size][/b]
13  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ด่วน "ประกาศถึงสมาชิก ทุกท่าน เกี่ยวกับการใช้งานบอร์ด" โปรดอ่านกันด้วย เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2012, 12:04:38 pm
ชอบ่อ่าน มากคะ ที่เว็บมีสาระ จะปฏิบัติตามระเบียบ เจ้าคะ

ขอบคุณทีมงาน ผู้ดูแล ที่ประกาศ ใส่ใจ ในเรื่องนี้ด้วยคะ

  :c017: :s_good:
14  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ปีใหม่ นี้ เพื่อน ๆ สมาชิก อยากทำอะไรกันบ้างครับ ? เมื่อ: ธันวาคม 13, 2011, 09:48:49 am


ไปเที่ยวเมืองกาญจนบุรี คะ

 :s_good: :s_good:
15  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ทำบุญที่วัดศรีชุม ลำปาง คะ เมื่อ: ตุลาคม 12, 2011, 10:33:06 am




ภาพวัดสวย หื้อ ผ่อ กั๋น

http://www.lampangclub.com/board/index.php?topic=6189.0
16  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สภาพทางรถไฟที่ ขุนตาล คะ เมื่อ: ตุลาคม 12, 2011, 10:30:14 am



ภาพรางรถไฟที่ขุนตาลโดนน้ป่าเซาะ เป็นทางยาว
หลายสิบเมครจนใช้การไม่ได้ เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2554

ที่ถามว่า รถไฟวิ่งได้หรือยัง ก็ตอบว่า ยังเจ๊า คะ
17  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ขนะใจตน กับ ชนะใจผู้อื่น เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 09:33:54 am
อ้างถึง
อัตตวรรค - หมวดตน

อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย    ชนะตนนั่นแหละ เป็นดี

อตฺตา สุทนฺโต ปุริสสฺส โชติ     ตนที่ฝึกดีแล้วเป็นแสงสว่างของบุรุษ

อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ     ตนทำบาปเองย่อมเศร้าหมองเอง

อตฺตตฺถปัญฺญา อสุจี มนุสฺสา     มนุษย์ผู้เห็นแก่ประโยชน์ตน เป็นคนไม่สะอาด

อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา     รกฺเขยฺย นํ สุรกฺขิตํ            อตฺตานญฺเจ ตถา กยิรา    ยถญฺญมนุสาสติ
ถ้ารู้ว่าตนเป็นที่รัก ก็ควรรักษาตนนั้นให้ดี ถ้าพร่ำสอนผู้อื่นฉันใด ก็ควรทำตนฉันนั้น

สุทนฺโต วต ทเมถ     อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม
ผู้ฝึกตนดี ควรฝึกผู้อื่น ได้ยินว่าตนแลฝึกยาก

อตฺตานํ ทมยนฺติ สุพฺพตา     ผู้ประพฤติดี ย่อมฝึกตน

ทุคฺคา อุทฺธรถตฺตานํ     ปงฺเก สนฺโนว กุญฺชโร
จงถอนตนขึ้นจากหล่ม เหมือนช้างตกหล่มถอนตนขึ้นฉะนั้น

อตฺตานเมว ปฐมํ     ปฏิรูเป นิเวสเย            อถญฺญมนุสาเสยฺย    น กิลิสฺเสยฺย ปณฺฑิโต
บัณฑิตพึงตั้งตนไว้ในคุณอันสมควรก่อน สอนผู้อื่นภายหลัง จึงไม่มัวหมอง


โดนใจ กระทบกิเลสของตน มาก   ๆ เลยคะ


 :25: :25: :25:
18  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ตะลึง แก้วมงคลหยดน้ำค้าง มีรอยตัวเลขชัด เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 10:21:45 am
หลังมีการลูกแก้วขาวที่ทางวัดน้ำตกแม่สา ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ขุดพบจากซากเจดีย์โบราณหน้าวัดหลังจากขุดพระพุทธรูปโบราณได้ถึง 4 องค์....
จากกรณี วัดน้ำตกแม่สา หมู่ 1 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่  ทำการขุดพบซากพระเจดีย์โบราณหน้าวัด  พบพระพุทธรูปโบราณอายุกว่า 500 ปีจำนวน 4 องค์ และพระเครื่องสิบสอง ตระกูลลำพูนอายุ 1,200 ปี พร้อมพระโกฐบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 3 องค์ สร้างความแตกตื่นโดยก่อนที่ขุดต่อได้มีงูกันปล้องดำเหลืองโผล่ขึ้นมาต่อหน้า ผู้คนจำนวนมากก่อนที่จะเลื้อยหาย แต่เมื่อขุดต่อไปพบลูกแก้วใสกลมขนาดเท่าผลมะนาว เชื่อว่าเป็นลูกแก้วปลายยอดพระเจดีย์โบราณ จึงได้นำมาเก็บไว้และการขุดยังดำเนินต่อไป  ภายในการควบคุมของทางกรมศิลปากร ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบริเวณที่ทำการขุดซากเจดีย์โบราณ หน้าวัดน้ำตกแม่สา  พระครูฐานปนพงศ์ หรือ หลวงพ่อใจ เจ้าอาวาสวัด พร้อมทั้งนายสายกลาง จินดาสุ เจ้าหน้าที่หน่วยศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ได้มาดูแลการขุด  พบว่าแนวอิฐดินปรากฎเด่นชัดว่า เป็นซากพระเจดีย์โบราณ อย่างแน่นอนเพราะก่อนหน้านี้มีการถกเถียงกันต่างๆนานา ว่า น่าจะเป็นวิหารหรือ พระอุโบสถ ทำให้การขุดค้นเป็นไปอย่างระมัดระวัง ในขณะนี้ คณะกรรมการการขุดค้นของวัด ได้พบว่ามีเสียงคล้ายมีช่องว่างอยู่ภายในดิน จึงให้ยุติการขุดในบริเวณที่น่าเชื่อว่าจะเป็นช่องว่างอาจจะเป็นไหใส่โบราณ วัตถุเช่นพระเครื่องและพระพุทธรูปโบราณอีกจึงขอให้รอไว้ก่อนเพื่อจะมีการ ประชุมกันอีกครั้ง



พระ ครูฐานปนพงศ์ กล่าวว่าในวันที่ 18 ก.พ.นี้เวลา 09.00 น. วัดจะได้จัดพิธีล้างพระพุทธรูปโบราณที่ค้นพบชุดแรก โดยจะมีการเชิญเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร นักวิชาการด้านโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และคณะกรรมวัดและหมู่บ้าน มาร่วมเป็นพยานในการล้างพระพุทธรูป มีดินห่อหุ้มไว้จนแข็งใกล้จะเป็นหิน เพื่อจะได้ตรวจสอบว่าเป็นพระพุทธรูปเนื้อข้างในเป็นอะไรบ้างและสร้างในสมัย ใด ในวันนั้นก็อาจจะให้ขุดบริเวณที่ต้องสงสัยว่า จะมีพระพุทธรูปฝั่งอยู่ อีกก็ขอให้ทางสื่อมวลชนเข้ามาร่วมในการเป็นพยาน ทั้งด้านพิธีล้างพระพุทธรูป และการขุดค้นต่อ

ขณะเดียวกัน พระครูฐาปนพงศ์ ได้นำลูกแก้ว ออกมาให้ทางคณะกรรมการวัดตรวจสอบเพื่อจะทำความสะอาด กำหนดจะทำพิธีล้างพระ พุทธรูปโบราณทั้งหมดที่ขุดพบและลูกแก้ว ปรากฏว่าเมื่อนำออกมาพบว่า ลูกแก้วมีรอยคล้ายถูกกระแทกด้วยของแข็งในวันที่ ขุดพบ ทำให้ชาวบ้านที่มามุงดูต่างระบุว่า รอยขุดขีดนั้นเหมือนกับตัวเลข จึงได้ตีความต่างๆนาๆเพราะในวันที่ 16 ก.พ.เป็นวันลอตเตอรี่ออก จึงสร้างความฮือฮาจึงพากันขอดูรอยขุดขีดที่ลูกแก้ว

เบื้องต้นพบว่า ลักษณะเป็นเลข 1 กับเลข 9 บางกลุ่มระบุว่า ลูกแก้วใสกลมเป็นเลข 0 และแก้วระบุชัดว่ามีเลข 9 อยู่  พระครูฐาปนพงศ์ เห็นเช่นนั้นจึงได้เก็บลูกแก้วไว้ เพราะไม่อยากให้ชาวบ้านนำไปตีเลขเด็ดจนงมงาย  พร้อมทั้งได้กล่าวห้ามปรามเตือนสติว่าเป็นเพียงร่องรอยของแข็งไปกระทบในวัน ที่ขุดพบไม่ได้สังเกตเห็น

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากหลังมีการลูกแก้วขาวที่ทางวัดน้ำตกแม่สา ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ขุดพบจากซากเจดีย์โบราณหน้าวัดหลังจากขุดพระพุทธรูปโบราณได้ถึง 4 องค์....

จากกรณี วัดน้ำตกแม่สา หมู่ 1 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่  ทำการขุดพบซากพระเจดีย์โบราณหน้าวัด  พบพระพุทธรูปโบราณอายุกว่า 500 ปีจำนวน 4 องค์ และพระเครื่องสิบสอง ตระกูลลำพูนอายุ 1,200 ปี พร้อมพระโกฐบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 3 องค์ สร้างความแตกตื่นโดยก่อนที่ขุดต่อได้มีงูกันปล้องดำเหลืองโผล่ขึ้นมาต่อหน้า ผู้คนจำนวนมากก่อนที่จะเลื้อยหาย แต่เมื่อขุดต่อไปพบลูกแก้วใสกลมขนาดเท่าผลมะนาว เชื่อว่าเป็นลูกแก้วปลายยอดพระเจดีย์โบราณ จึงได้นำมาเก็บไว้และการขุดยังดำเนินต่อไป  ภายในการควบคุมของทางกรมศิลปากร ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบริเวณที่ทำการขุดซากเจดีย์โบราณ หน้าวัดน้ำตกแม่สา  พระครูฐานปนพงศ์ หรือ หลวงพ่อใจ เจ้าอาวาสวัด พร้อมทั้งนายสายกลาง จินดาสุ เจ้าหน้าที่หน่วยศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ได้มาดูแลการขุด  พบว่าแนวอิฐดินปรากฎเด่นชัดว่า เป็นซากพระเจดีย์โบราณ อย่างแน่นอนเพราะก่อนหน้านี้มีการถกเถียงกันต่างๆนานา ว่า น่าจะเป็นวิหารหรือ พระอุโบสถ ทำให้การขุดค้นเป็นไปอย่างระมัดระวัง ในขณะนี้ คณะกรรมการการขุดค้นของวัด ได้พบว่ามีเสียงคล้ายมีช่องว่างอยู่ภายในดิน จึงให้ยุติการขุดในบริเวณที่น่าเชื่อว่าจะเป็นช่องว่างอาจจะเป็นไหใส่โบราณ วัตถุเช่นพระเครื่องและพระพุทธรูปโบราณอีกจึงขอให้รอไว้ก่อนเพื่อจะมีการ ประชุมกันอีกครั้ง



พระ ครูฐานปนพงศ์ กล่าวว่าในวันที่ 18 ก.พ.นี้เวลา 09.00 น. วัดจะได้จัดพิธีล้างพระพุทธรูปโบราณที่ค้นพบชุดแรก โดยจะมีการเชิญเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร นักวิชาการด้านโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และคณะกรรมวัดและหมู่บ้าน มาร่วมเป็นพยานในการล้างพระพุทธรูป มีดินห่อหุ้มไว้จนแข็งใกล้จะเป็นหิน เพื่อจะได้ตรวจสอบว่าเป็นพระพุทธรูปเนื้อข้างในเป็นอะไรบ้างและสร้างในสมัย ใด ในวันนั้นก็อาจจะให้ขุดบริเวณที่ต้องสงสัยว่า จะมีพระพุทธรูปฝั่งอยู่ อีกก็ขอให้ทางสื่อมวลชนเข้ามาร่วมในการเป็นพยาน ทั้งด้านพิธีล้างพระพุทธรูป และการขุดค้นต่อ

ขณะเดียวกัน พระครูฐาปนพงศ์ ได้นำลูกแก้ว ออกมาให้ทางคณะกรรมการวัดตรวจสอบเพื่อจะทำความสะอาด กำหนดจะทำพิธีล้างพระ พุทธรูปโบราณทั้งหมดที่ขุดพบและลูกแก้ว ปรากฏว่าเมื่อนำออกมาพบว่า ลูกแก้วมีรอยคล้ายถูกกระแทกด้วยของแข็งในวันที่ ขุดพบ ทำให้ชาวบ้านที่มามุงดูต่างระบุว่า รอยขุดขีดนั้นเหมือนกับตัวเลข จึงได้ตีความต่างๆนาๆเพราะในวันที่ 16 ก.พ.เป็นวันลอตเตอรี่ออก จึงสร้างความฮือฮาจึงพากันขอดูรอยขุดขีดที่ลูกแก้ว

เบื้องต้นพบว่า ลักษณะเป็นเลข 1 กับเลข 9 บางกลุ่มระบุว่า ลูกแก้วใสกลมเป็นเลข 0 และแก้วระบุชัดว่ามีเลข 9 อยู่  พระครูฐาปนพงศ์ เห็นเช่นนั้นจึงได้เก็บลูกแก้วไว้ เพราะไม่อยากให้ชาวบ้านนำไปตีเลขเด็ดจนงมงาย  พร้อมทั้งได้กล่าวห้ามปรามเตือนสติว่าเป็นเพียงร่องรอยของแข็งไปกระทบในวัน ที่ขุดพบไม่ได้สังเกตเห็น

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
http://www.dektube.com/action/viewarticle/8130/___________________________________________/?vpkey=74770928c1

19  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เรียนรู้ตัวละครจากซี่รี่ย์ดัง เมื่อ: สิงหาคม 30, 2011, 09:08:17 am
ขอบดูคะ ชอบมาก คะ

 :88: :88: :58:
20  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / การทำสมาธิ ( แนวหลวงพ่อวิริยังค์ ) เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 12:23:24 pm
คำแนะนำการฝึกสมาธิจากหลวงพ่อวิริยังค์ เจ้าของหลักสูตรครูสมาธิ...แนะนำให้เดินจงกรมครึ่งชม.และนั่งสมาธิครึ่งชม.จะได้ผลเร็วขึ้น 

วัตถุประสงค์ของการทำ สมาธิ  คือการสร้างพลังจิต พลังจิตที่ได้จากการทำสมาธิมี ๒ ประเภท คือพลังหลัก และพลังเฉลี่ย
พลัง หลัก - จะถูกเก็บสะสมไว้ในจิต ไม่มีการแตกสลายตามกายเนื้อแต่สะสมข้ามภพ-ชาติ พลังเฉลี่ย - จะถูกใช้ไปในชีวิตประจำวัน การทำสมาธิ เริ่มจากการบริกรรม กำจัดความคิดและอารมณ์ต่าง ๆ ออกไป จนกว่าจิตจะสงบเบา   สมาธิต้องอยู่บนพื้นฐานที่ไม่มีอารมณ์ กำจัดได้มากเท่าไรก็เป็นสมาธิได้ลึกเท่านั้น เพราะ การทำสมาธิเป็นการกะเทาะอารมณ์ออกจากจิต เปรียบดังกะเทาะสนิมออกจากเนื้อเหล็ก ความนึกคิด การเคร่งเครียดต่อการงานทุกวัน ทำให้สมองต้องทำงานตลอดเวลาไม่มีเวลาพัก   ยิ่งคิดหรือ  เคร่งเครียด มากก็ยิ่งเป็นเหตุให้สมองมีความเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่ากำหนด   การว่างจากความคิดเสียบ้าง จึงเป็นวิธีที่ทำให้สมองได้รับการพักผ่อน การทำสมาธิจึงเป็นการหยุดพักที่มีประสิทธิภาพ เปรียบเหมือนคนเดินทางไกลหลังจากการหยุดพักสักวัน ชั่วโมงหรือไม่กี่นาที ก็ย่อมได้เรี่ยวแรงกลับมา

การทำสมาธิ มี   ๒  แบบคือ สมถะ และวิปัสสนา
สมถะ ต้องการให้ทรงสติสัมปชัญญะ ได้ความสงบ สุขสบาย
วิปัสสนา เพื่อการรู้แจ้งเห็นจริง ใช้ปัญญาเป็นเครื่องภาวนาตามความเป็นจริงของขันธ์ ๕
การ ทำสมาธิเบื้องต้นจำต้องมีสมถะ คือ ควบคุมอารมณ์จิตให้ทรงอยู่   ถ้าอารมณ์ไม่ทรงตัว วิปัสสนาจะไม่มีผล เป็นวิปัสสนาตะครุบเงา หรือวิปัสสนาตกน้ำ

วิปัสสนา ตกน้ำ                    คำพังเพย
เหมือนเงาเพชรใต้น้ำเอย        บอกให้
งมเอาเพชรเลย                   งมเปล่า    แลนา
วิปัสสนาขาดสมาธิไซร้          ผิดแล้ว    ทางกลาง   
         
   
การ ทำสมาธิต้องมีขั้นตอน การทำสมาธิขั้นต้นจึงต้องปูรากฐานด้วยความระมัดระวัง ควรจะมีผู้รู้คอยแนะนำ เปรียบเหมือนขั้นตอนของหมอรักษาโรคภัยไข้เจ็บ คนที่ไม่ไปหาหมอ แต่ซื้อยามารับประทานเองตามคำแนะนำ ของบางคน อาจจะเป็นอันตรายหรือไม่ปลอดภัย เช่นเดียวกับผู้ฝึกสมาธิที่ไม่มีครูอาจารย์แนะนำ คลำ ๆ ทำไป ก็คงจะได้ผลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่แน่นอน เหมือนกับคนไข้รับประทานยากลางบ้านไม่มีหมอสั่งให้
สมาธิมีคุณสมบัติ : ซึมซาบ อ่อนละมุน นุ่มนวลแต่เหนียวแน่น เหมือนลมละเอียดชนิดหนึ่งที่ถูกกลั่นกรองแล้วคล้ายปุยนุน เพียงแต่ปุยนุ่นไม่แกร่ง แต่สมาธิแกร่ง

ขั้นตอนของ การเดินจงกรม
๑. กำหนดเส้นทางจงกรม
๒. ยืนตรงจุดเริ่มต้นทางเดินจงกรม พนมมือระหว่างอกแล้ว หลับตากล่าว คำอธิษฐานเดินจงกรม ว่า
" เมตตา  กรุณา  มุทิตา  อุเบกขา "
ขอให้ใจของข้าพเจ้าาจงสงบเป็นสมาธิ
ยกมือที่พนมสูงขึ้นระหว่างคิ้ว กล่าวในใจว่า "สาธุ"
๓. เอามือลง ใช้มือขวาจับมือซ้าย ห้อยมือพอสบายไม่เกร็ง
๔. กำหนดจิตไว้ที่หน้าผาก ไม่ต้องหลับตา ตามองทางเดินจงกรมไกลว่าตัวประมาณ ๑.๕ - ๒ เมตร
๕. เริ่มบริกรรมคำว่า " พุทโธ ๆ " อยู่ในใจ พร้อมก้าวเท้าขวาเดินตามด้วยเท้าซ้าย ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป เดินในลักษณะเดินปกติ
๖. เมื่อเดินสุดทางจงกรม ให้ค่อย ๆ หมุนตัวกลับทางขวา ยืนทรงตัวตรง แล้วจึงเริ่มก้าวด้วยเท้าขวาเหมือนตอนเริ่มต้น
๗. เมื่อครบตามเวลาทำกำหนด ให้ยืนตรงจุดเริ่มต้นเดิน พนมมือระหว่างอก กล่าวในใจว่า
" สัพเพ  สัตตา  สุขิตา  โหนตุ "
ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุข  ๆ  เถิด
แล้วยกมือที่พนมขึ้นระหว่างคิ้วแล้วกล่าวในใจว่า  " สาธุ " เป็นอันจบพิธีการเดินจงกรม


วิธีนั่งสมาธิ
นั่งขัดสมาธิ ขาขวาทับขาซ้าย ตั้งกายตรง ยกมือพนมระหว่างอก กล่าวคำอธิษฐานสมาธิ
" ข้าพเจ้า ระลึกถึง คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดา มารดา คุณครูบาอาจารย์ จงมาดลบันดาล ให้เจ้าของข้าพเจ้า จงรวมลงเป็นสมาธิ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ... พุทโธ ธัมโม สังโฆ ... พุทโธ ธัมโม สังโฆ ... พุทโธ ๆ  ๆ
เอามือลง วางบนตัก  มือขวาทับมือซ้าย  หลับตาเบา ๆ บริกรรม พุทโธ ๆ ๆ   ........ ในใจจนกว่าจะเลิก ตามเวลาที่กำหนด
หลังจากนั้นให้ตั้งใจสวดแผ่เมตตาพิเศษ  ดังนี้

สัพเพ  สัตตา  สะทา โหนตุ,  อะเวรา  สุขะชีวิโน
ขอให้สัตว์ทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่มีเวรต่อกันและกัน จงเป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเถิด
กะตัง ปุญญัง ผะลัง มัยหัง, สัพเพ ภาคี ภะวันตุ เต
ขอให้สัตว์ทั้งสิ้นนั้น จงเป็นผู้มีส่วนได้เสวยผลบุญ อันที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนั้นเทอญ

หมั่นศึกษาเพิ่มเติมฟังธรรม หา พระอาจารย์บ้างตามสมควร แล้วท่านจะประสบความสำเร็จครับ
ขออนุโทสาธุด้วยครับ

จากคุณ    : มันตรัย2009
21  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: รวมปฏิบัติธรรม วันแม่ สำหรับ ผู้สนใจ ตั้งแต่ 1 - 14 ส.ค.54 ( มีหลายแห่ง ) เมื่อ: สิงหาคม 08, 2011, 11:34:17 am


สำนักปฏิบัติธรรมธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ ม.10 บ้านไร่สมบูรณ์ ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ๓๑๑๑๐ โทร. ๐๘-๑๐๗๑-๙๓๒๖, ๐๘-๔๔๑๑-๘๘๕๒ (พระอาจารย์เมธชนัน) “ขอแบ่งปันน้ำใจจากผู้ศรัทธาทุก ๆ ท่าน ด้วยการร่วมโครงการ–หยอดออมสินแทนใจสู่เด็กน้อยและผู้ป่วยยากไร้–ซึ่งปัจจัย ตรงนี้จะนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมอบรมธรรมะ อบรมกรรมฐานอบรมค่ายคุณธรรม สำหรับเด็ก ๆ ที่

ขาดโอกาส และยากไร้ รักษาผู้ป่วยยากไร้–ผู้ป่วยระยะสุดท้าย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซื้อยาสมุนไพร อุปกรณ์การผลิตยาสมุนไพร ค่าส่งยา ฯลฯในวันที่ ๑๒ ส.ค. ๕๔ จะมีการทำบุญตักบาตรเนื่องในวันแม่แห่งชาติ และจะมีพิธีรับมอบปัจจัยก้อนแรกเพื่อนำเข้าบัญชีของกลุ่ม ถือเป็นการเปิดกลุ่มอย่างเป็นทางการ นอกจากนั้นในวันงานพระอาจารย์เมธชนัน อนาลโย (ครูบาไตรภพ) จะออกจากสมาบัติ (หลังจากที่เข้าสมาบัติมาแล้ว ๗ วัน) โดยจะมีพระสงฆ์

สายพระป่ากรรมฐานมาร่วมในพิธีนี้ด้วย” ร่วมบุญที่ : บัญชีกลางสงฆ์ “หยอดออมสินแทนใจสู่เด็กน้อยและผู้ป่วยยากไร้” ธนาคารออมสิน สาขาหนองกี่ เลขที่ ๐๖-๔๙๐๘-๒๐-๐๒๓๑๓๗-๓


ชนินทร อีเมล : chdhorn@gmail.com
โทรสาร : 0-2790-1092


22  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / หลังจากนั่งกรรมฐาน แล้ว เกิดโรคอย่างหนึ่งแก่ดิฉันคะ.... เมื่อ: สิงหาคม 04, 2011, 09:54:06 am
หลังจากที่ดิฉันได้นั่งกรรมฐาน มาเป็นเวลา 1 ปี เมื่อวานคืนก่อนก็นั่งตามปกติ อีกประมาณ 2 ชั่วโมง
ก็เป็นเวลา 22.40 น. โดยประมาณ ปรากฏว่า มีโรคเกิดขึ้นคะ คือ โรคนอนไม่หลับ ก็เลยหลับตา
ตั้ง จิตไว้ ที่ กลางหน้าอก แล้วภาวนา พุทโธ ไปเรื่อย ๆ คะ ก็ไม่หลับ จนกระทั่ง ถึงตี 5 เลยหลับได้
แต่ก็ต้องตื่น 6 โมง คะเพราะเตรียมตัวไปทำงานคะ

  คือว่า ทีแปลกใจคือ ไปทำงานก็คิดว่าต้องง่วง แน่ ๆ คะแต่ก็ไม่ง่วง นะคะ พอกลับจากทำงานมาก็
คิดว่า วันนี้จะนอนให้อิ่มเลย ก็ปรากฏว่ามีอาการเิดิมอีกคะ คือ นอนไม่หลับ มาหลับเอาตอนที่ 4 อีก
เป็นอย่างนี้มา 2 วันแล้วคะ

  เกรงว่าจะมีผลต่อการทำงาน คะ ใครมีวิธีแก้ไขบ้างคะ

  :c017: :41:
23  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ข้อความส่วนนี้ มีอยู่ในพระไตรปิฏก ตอนไหน ใครรู้บ้างคะ เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2011, 10:01:39 am
ครั้นกาลล่วงนานมาในห้าพันปี พระบรมธาตุทั้งหลายนี้เสด็จไปสู่ลังกาเกาะ เพื่อที่จะทรงสงเคราะห์ชาวสิงหฬ ให้เกิดสวัสดิมงคลด้วยกระทำสักการบูชาพระคุณ เมื่อถึงกาลพระพุทธศาสนาใกล้จะสิ้นสูญครบจำนวนถ้วนห้าพันปี พระบรมธาตุทั้งหลายนี้จะเสด็จไปสู่ที่พระเจดีย์ฐานดำรงอยู่โดยจำเนียรกาลบ่ มิได้คลาด ครั้นถึงพระพุทธศักราชล่วงได้สี่พันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าพรรษาเศษ สังขยาเดือนล่วงได้สิบเอ็ดเดือนกับยี่สิบสองวัน วันพฤหัสบดีเดือนหกขึ้นเก้าค่ำ คิมหันตฤดูปีชวดนักษัตรอัฐศก เวลารุ่งอรุโณทัย พระบรมสารีริกธาตุทั้งหลายนี้ไซร้ จะเสด็จไปสู่สถานที่สันนิบาตมิทันนาน ทรงทำยมกปาฏิหาริย์ด้วยพุทธฤทธิ์อันพิเศษ บังเกิดเป็นพุทธนิเวศน์ แลพระพุทธวรกายสูงได้สิบแปดศอก เปล่งพระรัศมีออกสิบหกประการ มีพระบวรสัณฐานวิจิตรจำรัสศรีสุนทโรภาส ทรงพระสิริวิลาศอันเพริศแพร้ว ดวงพระพักตร์ผุดผ่องแผ้ว ดังสีสุวรรณทองแท่งธรรมชาติ พระรูปองค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ เสด็จขึ้นสถิตนั่งเหนือรัตนบัลลังก์อาสน์ทรงพระสมาธิมั่นในควงต้นไม้พระศรี มหาโพธิ์ ทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์ โปรดสัตว์คนธรรพ์เทวะนิกรอมรฤษีสิทธิ์พิทยาธรกินนรนาคราช ทั้งหมู่อสุระเดียรดาษนั่งแน่นเหนือพื้นแผ่นพสุธา สตฺตาห ทรงตรัสพระธรรมเทศนาโปรดสัตว์อีกเจ็ดวัน ในครั้งนั้นได้สี่อสงไขยสองล้านสามแสนหกสิบเจ็ดพันโกฏิแล้ว พระเตโชธาตุก็พวยพุ่งรุ่งโรจน์โชตนาการ สังหารพระบวรพุทธสริรธาตุให้สิ้นสุดในวันพุธเดือนหกขึ้นสิบ(ห้า)ค่ำ ปีชวดนักษัตรอัฐศก พระพุทธศาสนาก็บรรจบครบจำนวนถ้วนห้าพันพรรษา
อหํ วนฺทามิ ธาตุโย ข้าพเจ้าขอน้อมนมัสการพระบรมสารีริกธาตุทั้งหลาย ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น, อหํ วนฺทามิ สพฺพโส ข้าพเจ้า ขอนมัสการองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ด้วยประการทั้งปวง


ที่มา
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=18144
24  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.watkhaowong.com/ วัดเขาวง ( ถ้าำนารายณ์ ) สระบุรี เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2011, 12:56:21 pm


http://www.watkhaowong.com/

เคยไปทำบุญและปฏิบัติธรรมที่นี่ คะ อากาศดี วัดสะอาดมากคะ

ปฏิบัติ มโนมยิทธิ ในสายวัดท่าซุงคะ



แนะนำอีกทีนะคะ

 :25:

25  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สุดทึ่ง!พระชราขาขาด2ข้าง อดีตทหารกรมสรรพาวุธขี่"เอทีวี"จากอ่างทองธุดงค์ เมื่อ: เมษายน 23, 2011, 05:21:31 pm
กรรมของลุงแกนะนี่ สรุปแล้วไม่ได้เป็นพระจริง ๆ เพียงแต่เอาจีวรพระมาห่ม แล้วทำอย่างนี้

ผิดกฏหมายหรือไม่คะนี่ ทำไปได้ลุง ยิ่งได้รับกรรมอย่างนี้แล้ว ยังสร้างกรรมขึ้นมาอีก

 :'(
26  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ในโลกนี้ มีใครไม่มีุทุกข์ บ้างครับ เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 03:59:48 pm
มีอธิบายเรื่อง ทุกข์ในอริยสัจจะ 4 ที่นี่คะ

เมื่อไฟไหม้หัวตัวเอง คุณจะทำอะไรก่อน
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3659.0

เครดิตลุงปุ้มคะ

อ่านแล้วมาวิเคราะห์กันต่อ นะคะ

 :014:
27  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สงกรานต์ คนเยอะจริง ๆ วันสุดท้าย เมื่อ: เมษายน 16, 2011, 09:48:59 am
สงกรานต์เริงร่าประชาชนแห่รวมตัวเล่นน้ำวันสุดท้ายคึกคัก  ขณะประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยกลับเมืองหลวงหลังหยุดยาว

เมื่อ วันที่ 15 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการ เล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ถนนสีลม เป็นไปอย่างคึกคัก ขณะจนท. คอยรักษาความปลอดภัย ส่วนที่ถนนข้าวสาร โชคชัย 4 ดอนเมืองและอีกหลายพื้นที่ยังคงมีประชาชนออกมาเล่นกันอย่างคึกคัก เช่นเดียวกับทั่วทุกจังหวัดที่มีประชาชนทยอยออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางการรักษความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่

ส่วนถนนสีลม เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ต่างทยอยกันออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานอย่างไม่ขาดสาย โดยบริเวณหน้า ถนนคอนแวนต์ได้มีการนำรถฉีดน้ำฉีดดับเพลิงขนาดใหญ่ ของ อปพร.เขตบางรัก นำมาเติมน้ำบริการประชาชน ในพื้นที่ และมีการนำเครื่องเสียงมาเปิดเพื่อสร้างความคึกคักกันอยู่เป็นจุดๆ  แต่อย่างถึงไรตามยังพบการจำหน่ายแป้งดินสอฟองและเครื่องดื่มแอลกฮอล์ เช่น เบียร์ สุรา ให้กับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18  ปี อยู่ทั่วไป โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูและในพื้นที่เลยแม้แต่หน่วยงานเดียว

ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนและกลุ่มวัยรุ่นนับหมื่นคนเดินทางไปรวมตัวเล่นสาดน้ำที่บริเวณถนนอู่ ทอง ต.หอรัตนไชย ช่วงใต้สะพานปรีดี-สามแยกสาธารณสุข ความยาวกว่า 2  กม.ด้วยการเดินเล่นสาดน้ำ และใช้รถบรรทุกน้ำเข้าไปเล่น ซึ่งจุดนี้ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นำถังน้ำขนาดใหญ่แล้วเปิดน้ำใส่ตลอดเวลา ให้เล่นกันอย่างเต็มที่  มีกลุ่มวัยรุ่นหญิงบางคนแต่งชุดไม่สุภาพด้วยการนุ่งกางเกงขาสั้น ใส่เสื้อบิกินี่   ขึ้นเต้นแบบโคโยตี้บนรถปิกอัพติดเครื่องเสียง  ด้วยท่าทางลีลาเย้ายวน  สร้างความสนุกสนานให้กับกลุ่มวัยรุ่นชาย   แบบสุดเหวี่ยง เป็นการทิ้งทวนในวันมหาสงกรานต์ชาวกรุงเก่า  โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาอำนวยความสะดวกการจราจร  นอกจากนี้ยังมีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันจำนวนมาก     นอกจากนี้ยังมีกลุ่มวัยรุ่นบางคนร้อนจัดถึงกับลงไปกระโดดน้ำเล่นบริเวณท่า น้ำใต้สะพานปรีดีด้วย



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประชาชนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา และในนช่วงสายของวันที่นี้ ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มทยอยเดินทางกลับกรุงเทพแล้วบางส่วนทำให้การจราจรติดขัด บางช่วงโดยเฉพาะในตัวเมืองนครสวรรค์เริ่มแออัดตามจุดแยกต่างๆที่มีสัญญานไฟ จราจร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เปิดสัญญาณไฟจราจรให้รถยนต์วิ่งใช้เส้นทางตามปกติ   ส่วนรถยนต์ที่มาจากสายพิษณุโลก-นครสวรรค์ ต้องวิ่งผ่านสี่แยกพหลโยธินเข้าสามแยกอุทยานสวรรค์ เข้าสี่แยกเดชาติวงศ์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จราจรได้พยายามแก้ไขปัญหาด้วยการคุมสัญญานไฟให้รถทางตรง วิ่งยาวตลอดเข้ากรุงเทพได้มากกว่าปกติ ทำให้สภาพการจราจรเริ่มคล่องตัวขึ้น แต่ก็ยังมีรถยนต์ที่เดินทางกลับเข้ากรุงเทพวิ่งมาตามถนนสาย พิษณุโลก-นครสวรรค์ อย่างต่อเนื่อง

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=132981
28  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ผู้ที่ชอบสติปัฏฐานควรมาเรียนธาตุวิตกก่อน..แล้วค่อยไปกําหนดรู้แบบสุขวิปัสสกจะมีผล เมื่อ: เมษายน 16, 2011, 09:32:41 am
อ่านแล้วรู้สึก ดีขึ้นกับการจะภาวนากรรมฐาน บ้างคะ

ขอบคุณคะ
 ;)
29  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ทำบุญ โดยเขียนชื่อ พ่อ แม่ ลงไป ท่านจะได้บุญหรือไม่ คะ เมื่อ: มีนาคม 20, 2011, 10:18:54 am
ผลของทานในบุคคลต่างๆ

พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๑๕ อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต - หน้าที่ 315-317

เวลามสูตร

[๒๒๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่าน
อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้าพระ
ผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า ดูกรคฤหบดีในตระกูลของท่าน ยังให้ทานอยู่บ้างหรือหนอ ฯ

ท่านอนาถ บิณฑิกคฤหบดีกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในตระกูลของข้าพระองค์ยังให้ทานอยู่ แต่ท่านนั้นเป็นของเศร้าหมอง เป็นปลายข้าว มีน้ำผักดองเป็นที่สอง ฯ

พ. ดูกรคฤหบดี คนให้ทานอันเศร้าหมองหรือประณีตก็ตาม แต่ให้ทานนั้นโดยไม่เคารพ ไม่ทำความนอบน้อมให้ ไม่ให้ด้วยมือตนเอง ให้ของที่เหลือไม่เชื่อกรรมและผลของกรรมให้ทาน ทานนั้นๆ ย่อมบังเกิดผลในตระกูลใดๆในตระกูลนั้นๆ จิตของผู้ให้ทานย่อมไม่น้อมไปเพื่อบริโภคอาหารอย่างดี ย่อมไม่น้อมไปเพื่อบริโภคผ้าอย่างดี ย่อมไม่น้อมไปเพื่อบริโภคยานอย่างดี ย่อมไม่น้อมไปเพื่อบริโภคกามคุณ ๕ อย่างดี แม้บริวารชนของผู้ให้ทานนั้น คือ บุตร ภรรยา ทาส คนใช้ คนทำงาน ก็ไม่เชื่อฟัง ไม่เงี่ยหูฟัง ส่งจิตไปที่อื่นเสีย ข้อนั้นเพราะเหตุไร ทั้งนี้เป็นเพราะผลแห่งกรรมที่ตนกระทำโดยไม่เคารพ ฯ

ดูกรคฤหบดี บุคคลให้ทานอันเศร้าหมองหรือประณีตก็ตาม แต่ให้ทานนั้นโดยเคารพ ทำความนอบน้อมให้ ให้ด้วยมือตนเอง ให้ของที่ไม่เหลือ เชื่อกรรมและผลของกรรมให้ทาน ทานนั้นๆ บังเกิดผลในตระกูลใดๆ ในตระกูลนั้นๆ จิตของผู้ให้ทานย่อมน้อมไปเพื่อบริโภคอาหารอย่างดี ย่อมน้อมไปเพื่อบริโภคผ้าอย่างดี ย่อมน้อมไปเพื่อบริโภคยานอย่างดี ย่อมน้อมไปเพื่อบริโภคกามคุณ ๕ อย่างดี แม้บริวารชนของผู้ให้ทานนั้น คือ บุตร ภรรยา ทาส คนใช้ คนทำงาน ก็เชื่อฟังดี เงี่ยหูฟัง ไม่ส่งจิตไปที่อื่น ข้อนั้นเพราะเหตุไรทั้งนี้เป็นเพราะผลของกรรมที่ตนกระทำโดยเคารพ ฯ

ดูกร คฤหบดี เรื่องเคยมีมาแล้ว มีพราหมณ์ชื่อเวลามะ พราหมณ์ผู้นั้นได้ให้ทานเป็นมหาทานอย่างนี้ คือ ได้ให้ถาดทองเต็มด้วยรูปิยะ ๘๔,๐๐๐ ถาดถาดรูปิยะเต็มด้วยทอง ๘๔,๐๐๐ถาด ถาดสำริดเต็มด้วยเงิน ๘๔,๐๐๐ ถาด ให้ช้าง ๘๔,๐๐๐ เชือก มีเครื่องประดับล้วนเป็นทอง มีธงทอง คลุมด้วยข่ายทองให้รถ ๘๔,๐๐๐ คัน หุ้มด้วยหนังราชสีห์ หนังเสือโคร่ง หนังเสือเหลือง ผ้ากัมพลเหลือง มีเครื่องประดับล้วนเป็นทอง มีธงทอง คลุมด้วยข่ายทอง ให้แม่โคนม๘๔,๐๐๐ ตัว มีน้ำนมไหลสะดวก ใช้ภาชนะเงินรองน้ำนม ให้หญิงสาว ๘๔,๐๐๐ คน ประดับด้วยแก้วมณีและแก้วกุณฑล ให้บัลลังก์ ๘๔,๐๐๐ ที่ ลาดด้วยผ้าโกเชาว์ ลาดด้วยขนแกะสีขาว เครื่องลาดมีสัณฐานเป็นช่อดอกไม้ มีเครื่องลาดอย่างดีทำด้วยหนังชมด มีเครื่องลาดเพดาน มีหมอนข้างแดงทั้งสอง ให้ผ้า๘๔,๐๐๐ โกฏิ เป็นผ้าเปลือกไม้ ผ้าแพร ผ้าฝ้าย เนื้อละเอียด จะป่วยกล่าวไปไยถึงข้าว น้ำ ของเคี้ยว ของบริโภค เครื่องลูบไล้ ที่นอน ไหลไปเหมือนแม่น้ำ

ดูกร คฤหบดี ก็ท่านพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า สมัยนั้น ผู้อื่นไม่ใช่เวลามพราหมณ์ผู้ที่ให้ทานเป็นมหาทานนั้น ดูกรคฤหบดี แต่ท่านไม่ควรเห็นอย่างนี้ สมัยนั้น เราเป็นเวลามพราหมณ์ เราได้ให้ทานนั้นเป็นมหาทาน ก็ในทานนั้นไม่มีใครเป็นพระทักขิเณยยบุคคล ใครๆ ไม่ชำระทักขิณานั้นให้หมดจด ดูกรคฤหบดี

ทานที่บุคคลเชื้อเชิญท่านผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิผู้เดียวบริโภค มีผลมากกว่าทานที่เวลามพราหมณ์ให้แล้ว

ทาน ที่บุคคลเชื้อเชิญให้ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิร้อยทานบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิผู้เดียวบริโภค

ทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้พระสกทาคามีผู้เดียวบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลเชื้อเชิญ ให้ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิร้อยท่านบริโภค

ทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้พระสกทาคามีร้อยท่านบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้พระสกทาคามีผู้เดียวบริโภค

ทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้พระอนาคามีผู้เดียวบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้พระสกทาคามีร้อยท่านบริโภค

ทานที่บุคคลเชื้อเชิญพระอนาคามีร้อยท่านบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลเชื้อเชิญพระอนาคามีผู้เดียวบริโภค

ทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันต์ผู้เดียวบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้พระอนาคามีร้อยท่านบริโภค

ทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันต์ร้อยท่านบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันต์ผู้เดียวบริโภค

ทานที่บุคคลถวายให้พระปัจเจกพุทธเจ้ารูปเดียวบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันต์ร้อยรูปบริโภค

ทานที่บุคคลถวายให้พระปัจเจกพุทธเจ้าร้อยรูปบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลถวายให้พระปัจเจกพุทธเจ้ารูปเดียวบริโภค

ทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลถวายให้พระปัจเจกพุทธเจ้าร้อยรูปบริโภค

ทานที่บุคคลถวายให้ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าบริโภค

การที่บุคคลสร้างวิหารถวายสงฆ์ผู้มาจากจาตุรทิศ มีผลมากกว่าทานที่บุคคลถวายให้ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขบริโภค

การที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะ มีผลมากกว่าทานที่บุคคลสร้างวิหารถวายสงฆ์อันมาจากจาตุรทิศ

การ ที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสสมาทานสิกขาบท คือ งดเว้นจากปาณาติบาต ฯลฯ จากการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นฐานะแห่งความประมาท มีผลมากกว่าการที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะ

การที่บุคคลเจริญเมตตาจิตโดยที่สุดแม้ เพียงเวลาสูดดมของหอม มีผลมากกว่าการที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสสมาทานสิกขาบท คือ งดเว้นจากปาณาติบาต ฯลฯ

ดูกรคฤหบดีทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้ท่าน ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิผู้เดียวบริโภค มีผลมากกว่ามหาทานที่เวลามพราหมณ์ให้แล้ว ... การที่บุคคลเจริญเมตตาจิตโดยที่สุดแม้เพียงเวลาสูดดมของหอม มีผลมากกว่าการที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสสมาทานสิกขาบท คือ งดเว้นจากปาณาติบาต ... และการที่บุคคลเจริญอนิจจสัญญาแม้เพียงเวลาลัดนิ้วมือ มีผลมากกว่าการที่บุคคลเจริญเมตตาจิตโดยที่สุดแม้เพียงเวลาสูดดมของหอม ฯ

จบสูตรที่ ๑๐
30  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เพื่อนสมาชิก มีความคิดอย่างไร กับวัดติดทีวี ในห้องส้วม จ๊ะ เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 11:46:22 am
เข้าทำนอง ตัณหา ล่้อ ตัณหา

  นำ ตัณหา เพื่อ ให้ออกจาก ตัณหา

  งง เหมือนกัน ยิ่งดูภาพ คุณธรรมธวัช แล้ว ก็งง อีก ว่าสื่อ อะไร

 :smiley_confused1:
31  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: สะพานธรรม สะพานใจ เมื่อ: มีนาคม 07, 2011, 11:44:58 am
สนใจ หนังสือ เล่มนี้ด้วยคะ

 :25:
32  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นำไตเติ้ล ตัวอย่าง วีดีโอ กรรมฐาน ชุดพิเศษ จะจัดทำเดือน ก.พ. หรือ มี.ค. เมื่อ: มีนาคม 07, 2011, 11:44:29 am
นมัสการถามพระอาจารย์ว่าได้จัดทำ วีดีโอ ชุดนี้ เสร็จหรือยังคะ

มีความคืบหน้าเท่าไหร่คะ

สนใจมากคะ ชุดนี้

ยิ่งตอนนี้เห็น พระอาจารย์กำลังเขียนหนังสือ สุด สะพานธรรม สะพานใจ ชุดนี้ตีพิมพ์หรือยังคะ


 :25: :25: :25: :25: :25:
33  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / กรรมของใคร บาปหรือไม่ อย่างนี้ เมื่อ: มีนาคม 03, 2011, 09:28:51 am
กรรมของใคร บาปหรือไม่ อย่างนี้






 :smiley_confused1:
34  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / การดูกีฬา เหล่านี้เป็นบุญหรือบาป คะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2011, 03:36:44 pm
เห็นคุณพ่อ เป็นคนชอบดูคะ

 มีรายการ มวยไทย มวยปล้ำ เป็นต้นคะ

 เห็นดูแล้วออกอาการเชียร์นอกจอด้วยคะ

ไม่ทราบการดูอย่างนี้เป็นบาปมากหรือไม่คะ

  :smiley_confused1:
35  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / สวดมนต์ จำเป็นต้องขึ้น นะโม หรือไม่ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2011, 03:34:10 pm
แบบว่า สวดแค่ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วนอนเลยได้หรือไม่ ?

เพราะเห็นบทสวดวางรูปแบบไว้ หลายบทมาก

สวดเท่านี้ พอหรือไม่คะ

 :25:
36  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / สิ่งปิดบัง พระไตรลักษณ์ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2011, 03:31:47 pm
ที่เราไม่อาจเห็นพระไตรลักษณ์ได้ชัดนั้น  ก็เพราะมีสิ่งปิดบังพระไตรลักษณ์อยู่ 3 ชนิด
1. สันตติ  ความสืบต่อ  เป็นตัวปิดบัง อนิจจัง เอาไว้
2. อิริยาบถ  เป็นตัวปิดบัง ทุกขัง เอาไว้
3. ความเป็นก้อน  เป็นตัวปิดบัง  อนัตตา  เอาไว้

ไม่ค่อยจะเข้าใจ จากหนังสือ วิปัสสนาเล่มหนึ่งกล่าวไว้อย่างนี้
ขอท่านผู้รู้ช่วยอธิบายเพิ่มด้วยคะ

 :c017:
37  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น...... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:44:44 am
หลักธรรม ในทางพระพุทธศาสนา ที่เรานับถือกันในเมืองไทย ส่วนใหญ่ก็เป็นแนวเถรวาท

นึกภาพออกแล้ว จะเห็นพระพุทธเจ้า มากกว่า เพราะพระสงฆ์จะเน้นธรรมวินัย เหมือนครั้ง

พุทธกาล อยู่จึงทำให้ภาพพระสงฆ์ ในเมืองไทยนั้นเป็นที่เคารพศรัทธา มาก ๆ ของชาวต่างชาติ

 หากแต่ว่า เราพูดถึงวัดเส้าหลิน ทุกคนไม่มีใครพูดถึงหลักธรรม กับ นึกออกแต่ วิทยายุทธของพระจีนมากกว่า

 ดังนั้นจะเห็นว่า สื่อ และ เสียงที่กระจายออกไปของวัดเส้าหลิน นั้นคือวิทยายุทธ


แต่ถ้ามาเปรียบกับ วัดราชสิทธาราม แล้ว เราคงจะนึกถึง กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ หรือ สมเด็จปู่

พระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน เห็นไหมคะว่า เราจะนึกภาพทางออกเลยว่าเรานึกถึงธรรม หรือคุณของพระสงฆ์ได้

ก่อน ไม่ได้นึกถึงวิทยายุทธ อะไร
 :08:
38  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / นอนไม่หลับ เวลาใจสับสน กำหนดกรรมฐาน อย่างไรคะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 01:33:36 am
คืนนี้นอนไม่หลับ เพราะมีความทุกข์ กำหนดกรรมฐานไม่ได้
ทำอย่างไรดีคะ ที่จะกำหนดกรรมฐาน ให้ได้ในระหว่างที่ใจมีความทุกข์

มีความรู้สึก ร้อนรุ่ม กระวน  กระวาย ( ปัญหาก็จากเรื่องความรัก คะ )
ช่วยด้วยคะ ถ้าใครไม่หลับตอนนี้ โปรดแนะนำด้วยคะ ว่าทำอย่างไรดีคะ

 :73: :03: :73:
39  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: 8 วิธีเห็นผี ! 8 วิธีเห็นผี ! จากผู้ทดลอง50คน ( คิดได้ยังงัย ) เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 02:33:06 pm
เป็น 8 วิธีที่แนะนำมีระบบมาก ๆ คะ

ไม่อยากเห็นผี คะ กล้ว แค่ ผี ตัวเองก็ต้อง ล้าง ถู อาบ ขัด เช็ด ดูแล ทุกวันแล้วคะ

 :character0029: :character0029: :character0029:
40  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / Re: โผล่อีกวัด จิตรกรรม"โดเรมอน" ที่พนมสารคาม-ศิลปินเดียวกัน ทีวีญี่ปุ่นบุกสุพรรณทำสารคด เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 06:05:35 pm




โดเรม่อนอยู่บนเพดานห้องนี้คะ

ความเห็นมันส์ ๆ ต้องไปอ่านที่นี่แล้วคะ
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A10136788/A10136788.html

 :25:
หน้า: [1] 2 3