ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระบรมสารีริกธาตุ ที่บรมบรรพต ภูเขาทอง วัดสระเกศ  (อ่าน 2754 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ฟ้าใหม่แจ่มใส

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 226
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


พระบรมสารีริกธาตุ ที่บรมบรรพต ภูเขาทอง วัดสระเกศ
ที่ทางรัฐบาลอินเดีย ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย รัชกาลที่ 5 ของเรานั้น

เป็น “พระอัฐิและอังคาร” ที่นาย วิลเลียม แคลกตันซ์ เปปเป ชาวอังกฤษ ขุดพบในต้น ร.ศ. ๑๑๖
ใต้พื้นดินในบริเวณที่เรียกว่า ปิปราห์วะ โกต (Piparahawa Kot) แคว้นบัสติ (ในอดีตเป็นเขตกรุงกบิลพัสดุ์)
และมีการพิสูจน์จากรัฐบาลอินเดียและอังกฤษ ซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมของอินเดีย
แล้วว่าเป็น “อัฐิของสมเด็จพระผู้ทรงพระภาคสัมมาสัมพุทธเจ้า”

การรับมอบในสมัยนั้น ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่โต และน่าหนักใจมากทีเดียวครับ

เป็นเรื่องใหญ่ตรงที่ว่า รัฐบาลอินเดีย มอบให้ไทยเพราะ
เห็นว่ามี กษัตริย์แห่งกรุงสยามเท่านั้นในโลก ที่ทรงนับถือศาสนาพุทธ มีเพียงสยามประเทศที่คู่ควร

แต่กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ก็สงสัยว่าเป็นของจริง หรือ ของปลอมกันแน่
เราควรจะรับมอบจากรัฐบาลอินเดียหรือไม่ คือ ถ้าไม่ใช่ แล้วนำมาสักการะ
หากภายหลังถูกพิสูจน์ว่าเป็นของปลอม ก็จะเสื่อมเสียพระเกียรติว่าศรัทธาในของเท็จ
ถ้าจะรับ ก็ต้องพิสูจน์กันว่าเป็นของจริงให้แจ้ง (ดังในจดหมายเหตุของกรมพระยาดำรงฯแสดงไว้)

เอกสารประวัติสาสตร์ ในหอจดหมายเหตุแห่งชาติ แสดงให้เห็นว่า
ราชสำนักสยามนั้น พิจารณากันอย่างสุดละเอียดเลยครับ

ไม่เพียงพิจารณาหลักฐานเอกสารที่รัฐบาลอินเดียทำสำเนาส่งมา
(ซึ่งทางอินเดียและอังกฤษเองก็มีกระบวนการพิสูจน์ที่ละเอียดยิ่ง)

รัชกาลที่ 5 ยังโปรดเกล้าฯ ให้มีพระชินวรวงศ์ ภิกษุ (อดีตพระองค์เจ้าปฤษฎางค์)
ซึ่งจาริกแสวงบุญอยู่แถบประเทศศรีลังกาและอินเดียในขณะนั้น
เดินทางไปตรวจสอบหลักฐานถึงถิ่นที่ค้นพบ โดยเฉพาะจารึกโบราณ อันเป็นหลักฐานสำคัญ
ที่ระบุว่า พระอัฐิธาตุที่พบเป็นของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

แล้วก็นำหลักฐานทุกอย่าง ทั้งที่ได้รับจากรัฐบาลอินเดีย และจากพระชินวรวงษ์
เข้าสู่ที่ประชุมเสนาบดี ซึ่งหลายท่านเชี่ยวชาญทั้งทางพุทธประวัติ ภาษาอังกฤษ
ภาษาบาลี รวมไปถึงความสามารถในการวิเคราะห์อักษรพราหมี ซึ่งเป็นอักษรโบราณ
สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช นำโดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
และสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ถกเถียง แลกเปลี่ยนความเห็น
และตรวจสอบหลักฐานร่วมกันอย่างละเอียด

จนสรุปความทุกด้านแล้วว่า เป็นพระบรมสารีริกธาตุพระองค์จริง

แต่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ก็ยังคงคลางแคลงใจนะครับ
เพราะเห็นเป็นกระดูกมนุษย์ธรรมดานี่เอง
เราจะมาไหว้กระดูกแขกให้เสียท่ากันแล้วกระมัง

ท่านเก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ จนกระทั่งคืนก่อนวันรอฤกษ์
เคลื่อนไปประดิษฐานที่บรมบรรพต พระเจดีย์กะไหล่ทองคำที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ก็เสมือนจะแสดงคำตอบให้สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้หายสงสัย
ในขณะที่ท่านเดินเข้าไปดูอีกครั้ง

ด้วยการเปล่งแสงสว่างจ้าไปทั่วห้องนั้น ให้ประจักษ์กับดวงตา

อนุโมทนาสาธุการ

................................................................

อะหัง วันทามิ ทูระโต / อะหัง วันทามิ ธาตุโย / อะหัง วันทามิ สัพพะโส
ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้านมัสการ พระบรมสารีริกธาตุ แห่งองค์สมเด็จพระบรมโลกนาถสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่ประดิษฐานในที่ทุกสถาน ด้วยเศียรเกล้า แม้บาปทั้งปวง ที่เคยล่วงเกินด้วยใหลหลง ข้าพระองค์ขอขมาโทษ
ได้ทรงโปรดงดโทษนั้น ให้มีอันวินาศสิ้นสูญไป ด้วยเดชะกุศลผลบุญ ที่ข้าพระพุทธเจ้าได้น้อมเกล้านมัสการ
พระบรมสารีริกธาตุในกาลครั้งนี้ แม้สรรพอันตรายทั้งปวง จงอย่างได้บังเกิดแก่ข้าพระพุทธเจ้าในกาลทุกเมื่อ เทอญ


Solo356
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ ถ้าไม่ถูกใจก็ต้องว่า ยายกบ เพราะชวนมาศึกษาธรรมะ