ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อ 'ถ้ำนาคา' จ.บึงกาฬ ปลุกความเชื่อ 'พญานาค' กลับมาอีกครั้ง  (อ่าน 838 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



เมื่อ 'ถ้ำนาคา' จ.บึงกาฬ ปลุกความเชื่อ 'พญานาค' กลับมาอีกครั้ง

เจาะลึก "ถ้ำนาคา" ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.บึงกาฬ แห่งนี้ กำลังเป็นกระแสมาแรงในโลกโซเชียล จนปลุกความเชื่อ 'พญานาค' กลับมาอีกครั้ง แม้จะเพิ่งค้นพบแต่ก็น่าจะกลายเป็น "ที่เที่ยว" แห่งใหม่ของไทยได้ไม่ยาก

ความเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับผูกพันแนบแน่นกับสังคมไทยมาช้านาน ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะไม่กี่วันที่ผ่านมาพบว่ามีการแชร์ภาพถ่าย "ถ้ำนาคา" กันกระหึ่มโลกโซเชียล ผู้คนในสื่อสังคมออนไลน์ต่างก็พูดถึงถ้ำหินรูปร่างแปลกแห่งนี้ และสอบถามว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่หรือไม่? และตามมาด้วยคำถามที่ผูกโยงกับความเชื่อที่ว่า ..นี่เป็นงูยักษ์(พญานาค) ที่กลายเป็นหินหรือเปล่า?

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อมีทีมนักสำรวจกลุ่มหนึ่งเพิ่งค้นพบ "ถ้ำนาคา" ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ แล้วได้บันทึกภาพกลุ่มหินที่สวยงามแปลกตา และโพสต์รูปภาพเหล่านั้นขึ้นบนสื่อโซเชียล จนมีผู้คนแห่แชร์ต่อๆ กันอย่างล้นหลาม จนปลุกความเชื่อเก่าแก่เรื่อง  "พญานาค" ให้กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง

แต่ไม่ว่าจะมีความผูกโยงกับตำนานของ "พญานาค" หรือไม่ก็ตาม แต่ที่แน่ๆ "ถ้ำนาคา" จ.บึงกาฬ แห่งนี้กำลังเป็นที่น่าจับตามองในฐานะแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของบึงกาฬ ที่ขาเที่ยวหลายคนอยากจะแบกเป้ตามรอยไปชมกันเต็มแก่แล้ว ว่าแต่.. "ถ้ำนาคา" แห่งนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง? ผูกโยงกับความเชื่อและสิ่งลี้ลับอย่างไร? และเปิดให้ท่องเที่ยวได้หรือยัง? ตามมาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย..

@@@@@@

1. "ถ้ำนาคา" ถูกค้นพบที่ไหน.?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ถ้ำนาคา" ถูกสำรวจพบบริเวณ "วัดถ้ำชัยมงคล" ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ โดยมีนักสำรวจกลุ่มหนึ่งเดินทางไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา เข้าใจว่าเป็นการสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ จึงได้ไปค้นพบ "ถ้ำนาคา" แห่งนี้เข้า และได้ทำการบันทึกภาพในถ้ำ นอกถ้ำ และสภาพภูมิประเทศโดยรอบไว้

2. กลุ่มหินขนาดใหญ่มีเกล็ดเหมือนงู
ด้วยลักษณะทางกายภาพของกลุ่มหินที่พบภายในถ้ำพบว่ามีรูปร่างเหมือนลำตัวงูขดเลื้อยไปมา พร้อมทั้งมีผิวด้านนอกที่มีลักษณะเหมือนเกล็ดงูอีกด้วย จนทำให้หลายคนที่เห็นรูปภาพเหล่านี้ต่างก็จินตนาการไปว่าสิ่งนี้มองดูแล้วเหมือนกับ "งูยักษ์ที่กลายเป็นหิน" และมีข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งระบุด้วยว่า

"..ขนลุก  หินที่เหมือนงูที่สุด  สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่เพิ่งถูกค้นพบ "ถ้ำนาคา" และ "น้ำตกตาดวิมานทิพย์" ณ อุทยานแห่งชาติภูลังกา ตำนานเมืองลี้ลับปู่อือลือพญานาคผู้ถูกสาปไว้บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ"



ที่มาภาพ: I-tong Naparn, Ord Srikaew

3. ความเชื่อโบราณที่ผูกโยงกับ "ถ้ำนาคา"
ตามความเชื่อคนโบราณเล่าขานต่อๆ กันมาว่า ในพื้นที่ของ "ภูลังกา" โดยเฉพาะจุดที่พบกลุ่มหินรูปงูใน "ถ้ำนาคา" แห่งนี้ อาจจะเป็นงูยักษ์ตายแล้วกลายเป็นหิน เมื่อหลายร้อยล้านปีมาแล้ว งูยักษ์พอตายลงยังไม่เน่าเปื่อยก็โดยทับถมด้วยดินหินมานับล้านปี จนแร่ธาตุจับเกาะในตัวงูกลายเป็นหิน พอนานเข้าน้ำได้เซาะดินลงมาเผยซากงูหินให้คนเห็น

มีตำนานเล่าว่าสถานที่แห่งนี้มี "องค์อือลือ" อาศัยอยู่ เป็นราชาผู้ถูกสาปให้เป็นพญานาค ทำให้เมืองล่มสลายกลายเป็นบึงโขงหลง องค์อือลือจะพ้นคำสาปก็ต่อเมื่อบังเกิดเมืองขึ้นใหม่ (ในอดีตพื้นที่นี้ขึ้นกับจังหวัดหนองคาย แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดใหม่ คือ บึงกาฬ)

4. "ภูลังกา" ที่ตั้งของ "ถ้ำนาคา" มีลักษณะอย่างไร.?
ภูลังกา เป็นเทือกเขา 5 ลูก เกาะกลุ่มกันอยู่ใกล้กับบึงโขงโหลงและภูวัว ในปัจจุบันเป็นพื้นที่ของอำเภอบึงโขงโหลง จ.บึงกาฬ โดยภูลังกามีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องแหล่งท่องเที่ยวและเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานพญานาค พุทธศาสนา และคติความเชื่อปรัมปรา ผู้คนในพื้นที่ต่างก็มีความเชื่อว่าที่นี่มีความลี้ลับอาถรรพ์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ภูลังกาในอดีตเมื่อ 50 ปีก่อนเป็นดงป่าหนาทึบกินพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ชุกชุมไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง แรด และโขลงช้าง แต่ในปัจจุบันนี้ป่าใหญ่หายไปหมดสิ้น กลายเป็นทุ่งโล่งรกร้างและไร่นา จะพอมีป่าเหลืออยู่รอบๆ ภูลังกาบ้างเล็กน้อย และบริเวณรอบๆ ภูลังกามีวัดป่าตั้งอยู่ประมาณ 10 วัด มีทั้งฝ่ายมหานิกายและธรรมยุติ



5. ตำนานพระเจ้าห้าพระองค์
ภูลังกามีความเกี่ยวโยงกับตำนานเรื่อง พระเจ้าห้าพระองค์ ตามตำนานพระเจ้าห้าพระองค์นั้นกล่าวว่า กาเผือกได้ตกไข่ 5 ฟองที่ภูลังกา วันหนึ่งเกิดลมพายุใหญ่หอบเอาไข่ปลิวไปตามลม ไข่นั้นได้ตกกระจัดกระจายไปในสถานที่หลายแห่ง ต่อมาไข่นั้นได้ฟักออกมาเป็น พระพุทธเจ้ากกุสันโธ, พระพุทธเจ้าโกนาคโม, พระพุทธเจ้ากัสสโป, พระพุทธเจ้าโคตโม, และองค์ต่อไปได้แก่ พระศรีอาริยเมตรัยโย ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคตอีกประมาณ 750 ล้านปี เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ 5 ในภัทรกัปนี้

6. แหล่งธุดงค์ของพระสายปฏิบัติ
อีกความเชื่อหนึ่งเกี่ยวกับ ภูลังกา ก็คือ เชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของชาวลับแล อันมีเมืองพญานาครวมอยู่ด้วย และยังเป็นสนามรบของ "กองทัพกิเลส" ต่อสู้กับ "กองทัพธรรม" ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ที่ส่งศิษยานุศิษย์ที่เป็นพระธุดงค์ให้ไปปฏิบัติกรรมฐานอยู่ ณ ที่แห่งนี้ทุกรุ่นทุกสมัย


7. สิ่งลี้ลับที่ "ภูลังกา" จากปากพระนักปฏิบัติ
ครั้งหนึ่ง หลวงปู่ตอง พระนักปฏิบัติแห่งถ้ำชัยมงคลภูลังกา ได้เล่าเรื่องราวสิ่งลี้ลับเกี่ยวกับภูลังกาเอาไว้ว่า มีพระธุดงค์คณะหนึ่งมาจากทางขอนแก่น ขึ้นไปแสวงวิเวกอยู่บนภูลังกา ใกล้กับถ้ำชัยมงคล เป็นพวกไม่รู้ประสีประสา มีวิทยุทรานซิสเตอร์ไปด้วย เปิดเพลงเปิดเทปกันดังลั่นสนุกสนาน ครองจีวรก็ไม่มีสังฆาฏิเพราะไม่ได้เอาสังฆาฏิมาด้วย หลวงปู่ตองเห็นแล้วได้แต่นึกในใจว่า “พระผีบ้าพวกนี้ ไม่ได้ฉันข้าวเช้าแน่ๆ พรุ่งนี้”

และแล้วก็เป็นจริง เมื่อจู่ๆ เสียงเพลงจากทรานซิสเตอร์ที่ดังลั่นสนั่นหวั่นไหวอยู่นั้นก็เงียบไป เปลี่ยนเป็นเสียงร้องตกใจ เสียงตะโกน ทะเลาะวิวาท แล้วก็พากันแตกตื่นวิ่งหนีลงจากภูลังกาไปคนละทิศละทางอย่างกับคนเสียสติ เข้าป่าเข้าดงหลงทางอยู่ในป่าและไม่ได้ฉันข้าวในวันต่อมาจริงๆ ว่ากันว่าพระธุดงค์กลุ่มนั้นอาจพบเจออาถรรพ์ของป่าแห่งนี้

8. "ถ้ำนาคา" พบหินเหมือนตัวงู แต่ไม่มีหัวงู
ก่อนหน้านี้ในสื่อสังคมออนไลน์ พบว่ามีการแชร์รูปกลุ่มหินดังกล่าวแบบผิดๆ ออกไป โดยนำรูปกลุ่มหินจากแหล่งอื่นมาผสมปนเปเข้าไปด้วยกันแล้วเข้าใจผิดไปว่าคือกลุ่มหินจากแหล่งเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่! จริงๆ แล้ว กลุ่มหินที่พบใน "ถ้ำนาคา" มีเฉพาะกลุ่มหินที่มีลักษณะเหมือนลำตัวงูขนาดใหญ่เท่านั้น ไม่มีส่วนหัวงู



9. หินลักษณะเหมือน "หัวงู" พบที่ สปป.ลาว
สำหรับรูปก้อนหินที่มีลักษณะเหมือน "หัวงู" นั้น แท้จริงแล้วเป็น "หินหัวงู" ถูกค้นพบที่แขวงอุดมไซย สปป.ลาว โดยมีการแชร์รูปภาพหินหัวงูดังกล่าวผ่านเพจเฟซบุ๊คของ ABC Laos news

10. ล่าสุด! "ถ้ำนาคา" ยังไม่เปิดให้ท่องเที่ยว
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 28 พ.ค. 2563 ทางเฟซบุ๊ค สวท.บึงกาฬ กรมประชาสัมพันธ์  ได้โพสต์ข้อความว่า "จากกระแสการค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ ภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ได้รับความสนใจจากหลายท่านสอบถามเข้ามาว่าสามารถขึ้นไปเที่ยวได้หรือไม่ ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้ออกมาชี้แจง ดังนี้

ขอเรียนว่า ช่วงนี้อุทยานปิดการท่องเที่ยวฯ เนื่องจากการแพร่ระบาด COVID-19 และบริเวณที่พบหินฯตามภาพ อยู่ในจุดที่ยากต่อการเข้าถึงและเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ซึ่งต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวก จึงขอประชาสัมพันธ์ ในเบื้องต้นนี้ว่า ช่วงนี้ทางอุทยานแห่งชาติภูลังกา ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยว "ทุกจุด" ในเขตอุทยานแห่งชาติ จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID -19 จะคลี่คลาย

ซึ่งหลังจากทางอุทยาน ได้มีประกาศเปิดการท่องเที่ยวเมื่อใดแล้ว ทางอุทยานจะจัดระเบียบการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ต่อไป ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จึงเรียนประชาสัมพันธ์มาเพื่อโปรดทราบ.."




ที่มาภาพ : I-tong Naparn, Ord Srikaew
อ้างอิง : http://www.bungkan.net ,https://web.facebook.com/pg/RADIOBUENGKAN104.25MHZ ,https://web.facebook.com/ABClaos
ขอบคุณ : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/882663
28 พฤษภาคม 2563 | โดย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ