ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาเถรฯได้ข้อยุติ "ธมฺมชโย" ไม่ปาราชิก  (อ่าน 2629 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
มหาเถรฯได้ข้อยุติ "ธมฺมชโย" ไม่ปาราชิก
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2015, 06:36:03 pm »
0

มหาเถรฯได้ข้อยุติ "ธมฺมชโย"ไม่ปาราชิก

มหาเถรสมาคมได้ข้อยุติ "ธมฺมชโย" ไม่ปาราชิก เพราะไม่ฝ่าฝืนพระลิขิตสังฆราช และคืนทรัพย์สินให้วัดไปแล้ว ในขณะที่คดีอาญาก็ยุติเพราะโจทก์ถอนฟ้องไปแล้ว โฆษกมหาเถรฯ วอนประชาชนพิจาณาการรับข้อมูลข่าวสาร ชี้รวดเร็วแต่อาจผิดพลาดได้

จากกรณีที่ นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเปิดเผยถึงการประชุมของคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานว่า ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เข้าชี้แจงในที่ประชุมว่า ตามลิขิตสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งมีพระลิขิตลงวันที่ 26 เมษายน 2542 ชี้ชัดว่า พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย และประธานมูลนิธิธรรมกาย ต้องอาบัติปาราชิก พ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัตินั้น


 :96: :96: :96: :96:

วันนี้(20 ก.พ.)ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม  มีการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ครั้งที่ 5/2558 โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน ซึ่งภายหลังการประชุม พระพรหมเมธี(จำนงค์ ธมฺมจารี) กรรมการและโฆษกมส. เปิดเผยว่า

ที่ประชุมมส.ได้มีมติรับทราบกรณีนายสมเกียรติ ธงศรี ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม(มส.) เป็นผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ไปชี้แจงกับคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สปช. กรณีพระเทพญาณมหามุนี หรือหลวงพ่อธมฺมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายได้มีการละเมิดพระลิขิตสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในปี 2542 หรือไม่

 ans1 ans1 ans1 ans1

จากนั้น มส.ได้พิจารณาถึงเจตนาของหลวงพ่อธมฺมชโย ประกอบด้วย
    1.ฝ่าฝืนพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่ ซึ่งที่ประชุมมส.ได้ยกมติมส.ในปี 2549 ขึ้นมาพิจารณาแล้วเห็นว่า หลวงพ่อธมฺมชโย ยอมรับและปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังราชในการคืนที่ดินทุกประการ
    พระพรหมเมธี กล่าวต่อไปว่า   
    สำหรับประเด็นที่ 2 มีเจตนาฉ้อโกงหรือไม่ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาแล้วเห็นว่าหลวงพ่อธมฺมชโย ได้ทยอยคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่วัดพระธรรมกาย ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการฝ่ายสงฆ์ ซึ่งประกอบด้วยเจ้าคณะปกครอง ได้ดำเนินการสอบสวนความผิดของหลวงพ่อธมฺมชโยและได้มีผลสรุปออกมาว่า  ไม่มีเจตนาฉ้อโกง ไม่ผิดพระวินัย ไม่ถือเป็นความผิด จึงถือเป็นอันยุติ  และ
    ประเด็นที่ 3. เมื่อไม่มีเจตนาฉ้อโกง ไม่ได้ฝ่าฝืนพระลิขิต ไม่ถือว่ามีความผิด และพ้นมลทิน รวมทั้งยึดตามมติมส.ปี 2549 โดยได้คืนตำแหน่งเจ้าอาวาส และได้ขอพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ให้ ดังนั้นสถานภาพปัจจุบันของหลวงพ่อธมฺมชโย ยังคงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดและดำรงสมณศักดิ์เช่นเดิม


 :91: :91: :91: :91:

โฆษกมส. กล่าวอีกว่า  สำหรับกรณีที่มีนายสมพร เทพสิทธา และนายมาณพ พลไพรินทร์ เป็นฝ่ายโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาว่า หลวงพ่อธมฺมชโย ยักยอกทรัพย์ของวัดพระธรรมกาย ต่อมานายมาณพ หนึ่งในโจทย์ร่วมได้ถอนฟ้อง ซึ่งทางอัยการได้พิจาณาถอนฟ้องคดีดังกล่าว จึงถือว่า หลวงพ่อธมฺมชโยได้พ้นมลทินแล้ว

“จากกรณีปัญหาดังกล่าว อาตมาอยากจะวิงวอนพุทธศาสนิกชนในการพิจารณารับข่าวสารจากสื่อที่มีความรวดเร็ว ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดได้ โดยเฉพาะขณะนี้รัฐบาลเน้นสร้างความปรองดองของคนในชาติ จึงไม่อยากให้นำเรื่องที่ยุติไปแล้วมาพูดซ้ำ อย่างไรก็ตามมหาเถรสมาคมถือเป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ เมื่อมีปัญหาของคณะสงฆ์เกิดขึ้น ก็ได้พิจารณาตามกระบวนการปกครองสงฆ์ สำหรับพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชในปี 2542 ถือเป็นข้อแนะนำที่คณะสงฆ์ทั้งประเทศควรยึดถือปฏิบัติ”กรรมการและโฆษกมส. กล่าว


 :25: :25: :25: :25:

พระพรหมเมธี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมมส.ยังมีมติตั้งคณะทำงานติดตามข่าวสารทางโลกขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วย พระพรหมเมธี พระพรหมบัณฑิต พระพรหมสิทธิ พระธรรมบัณฑิต นายจำนง สวมประคำ อดีตเลขาธิการวุฒิสภา และนายพิสิฐ เจริญสุข อดีตข้าราชการกรมการศาสนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม นายประจิณ ฐานังกรณ์ ประธานกลุ่มธรรมาธิปไตย ได้มายื่นหนังสือถึง ผอ.พศ. ผ่านทางฝ่ายสารบัญ เพื่อติดตามทวงถามความคืบหน้ากรณีเคยยื่นให้มีการตรวจสอบ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อวดอุตริมนุสธรรม เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2542 ทั้งนี้นายประจิณ กล่าวว่า ตนต้องการมาติดตามเรื่องดังกล่าว เพราะเห็นว่า มส.มีการพิจารณาเรื่องของวัดธรรมกาย ซึ่งตนเคยยื่นเรื่องร้องเรียนไว้เช่นกัน แต่เรื่องกลับเงียบหาย จึงมายื่นเรื่องทวงถามความคืบหน้าอีกครั้ง


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/education/302569/มหาเถรฯได้ข้อยุติ+_ธมฺมชโย_ไม่ปาราชิก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 20, 2015, 06:54:08 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


ที่จริงพระลิขิตนี้มีมาตั้งแต่ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๒ แต่เพราะอำนาจการเมือง อำนาจเงิน อำนาจประชาธิปไตยแบบพวกกูมาก ใครกล้าหือ เลยทำให้อลัชชีภัยร้ายอย่างธรรมชัยกลายเป็นอมตะยืนยง ยังคงทำร้ายพระพุทธศาสนาได้อยู่ทุกวันนี้ หากจะถามฉันว่า ธรรมกายผิดอย่างไร

- ผิดที่ทำลายศรัทธาพุทธศาสนิกชน ที่มีความเคารพยอมรับในพระไตรปิฎกมาอย่างยาวนาน โดยสำนักธรรมกายมีคำสอนว่า เนื้อหาที่ปรากฏในพระไตรปิฎกผิดเพี้ยน ไม่ตรงต่อพุทธวจนะ ทั้งที่พระไตรปิฎกเป็นหลักการเดียวที่พระอรหันต์ขีณาสพเป็นผู้รวบรวม เรียบเรียงเอาไว้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษาของพุทธบริษัท และส่งมอบต่อๆ กันมาเป็นเวลา ๒,๐๐๐ กว่าปี ซึ่งมีทั้งภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต ภาษาเยอรมัน และภาษาอื่นๆ จนแพร่หลายไปทั่วโลก ผู้คนพากันปฏิบัติตามจนได้รับผลสมควรแก่ผู้ปฏิบัติ เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าเนื้อหาในพระไตรปิฎกเป็นของจริง แต่สำนักธรรมกายกลับสอนว่า พระไตรปิฎกผิดเพี้ยน

- ยกตนอยู่เหนือพระบรมศาสดา สำนักนี้มีคำสอนที่สังคมพุทธผู้มีปัญญายอมรับไม่ได้ เช่น สอนว่าพระพุทธเจ้าสมณโคดม แย่งพระศรีอริยเมตไตรยลงมาตรัสรู้ โดยอ้างว่าทั้งสององค์เป็นพี่น้องกัน เรียกว่าน้องชายซุกซน อยากใหญ่ใฝ่สูง เลยแย่งพี่ลงมาเกิดเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อน อันนี้ถ้าใครอยากรู้ ให้ไปเปิดดูคำสอนเก่าๆ ที่พ่อยอดชาย นายธัมมชโยเค้าสอนไว้

- พระนิพพานเป็นอัตตา นายธัมมชโย สอนว่านิพพานเป็นอัตตา มิใช่อนัตตาอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน คือพระพุทธองค์ทรงสอนว่า หากผู้มีดวงตาเห็นทุกข์ เห็นเหตุแห่งการเกิดทุกข์ ว่าทุกข์ทั้งหลายล้วนได้มาจากอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ชาติ ภพ หากจะดับทุกข์ ต้องดับความโง่ ต้องรู้ว่าตัณหา ความทะยานอยาก ทำให้เราต้องขวนขวายแสวงหาสิ่งที่ตนอยาก เมื่อได้มาก็ต้องหวงแหน ผูกพัน ยึดถือ เรียกว่าอุปาทาน โดยอาศัยความตระหนี่ ความอิจฉา ความไม่รู้จริง ความหลง เป็นเหตุทำให้ตนต้องตกอยู่ในวังวนแห่งภพ ชาติ ชรา มรณะ พยาธิ นี่เรียกว่าทางดับทุกข์ เมื่อใดที่มีสติปัญญาทำให้พันธนาการทั้งหลายทั้งในฝ่ายกุศล อกุศล หมดไป เป็นการทำลายเหตุปัจจัยของทุกข์จากการเกิด เมื่อไม่มีเหตุปัจจัยใดๆ มาครอบงำปรุงแต่ง ทั้งภายในและภายนอกซึ่งล้วนมีสภาพไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน เช่นนี้เรียกว่าข้อปฏิบัติให้ทุกข์ดับ ความหลุดพ้นดับเย็นจักพึงบังเกิดขึ้น เช่นนี้จึงเรียกว่านิพพานที่เป็นคำอธิบายแบบย่อ ฉะนั้นนิพพานจึงเป็นสภาวะอนัตตาธรรม มิใช่อัตตาธรรมอย่างที่สำนักธรรมกายสั่งสอนกัน

- ที่ใดๆ ก็ไม่สามารถถวายข้าวและอาหารพระพุทธเจ้าได้ นอกจากที่วัดธรรมกาย และยอดชายนายธัมมชโยเท่านั้น ที่สามารถถวายข้าวได้แต่เพียงผู้เดียว ตามด้วยจัดให้มีการทำอีเว้นท์ถวายข้าวพระพุทธเจ้า หาเงินเข้ากระเป๋ากันเป็นล่ำเป็นสัน

- บุญดิลิเวอลี่ บริการรีดไถ เช่นเอาบุญ เอาความกลัว ความโลภของผู้คนมาเป็นเครื่องมือ โดยให้บริวารโทรไปรีดไถบรรดาผู้ศรัทธาให้บริจาคเงินต่อยอดบุญเป็นรายเดือน หากเดือนไหนไม่ได้จ่าย จะมีลิ่วล้อบริวารของสำนักนี้โทรไปทวงว่า “คุณพี่ครับ เดือนนี้ยังไม่บริจาคต่อยอดบุญเลย หากขาดตอนเดี๋ยวเสียประโยชน์ที่ควรจะได้ และอาจมีเหตุการณ์เลวร้ายไม่ดีใดๆ เกิดขึ้น” เอาล่ะสิ ขี้ขึ้นสมองแล้ว กลัวจน กลัวเจ็บ กลัวตาย แม้ไม่มีก็ต้องลงทุนไปหยิบยืมเขามาบริจาค จนบางรายต้องหมดเนื้อหมดตัว แถมตามมาด้วยเป็นหนี้บุญที่ต้องพยายามหาเงินมาผ่อนบุญให้สำนักนี้อีก บางรายเป็นหนี้บุญจนเครียดฆ่าตัวตาย หรือไม่ก็สิ้นเนื้อประดาตัว ผัวเมียทะเลาะกัน พ่อแม่ลูกต้องแยกทาง เพราะสมาชิกในครอบครัวลุ่มหลงมัวเมาในลัทธิของอลัชชีนี้ จนถึงขนาดขายบ้านขายช่องเพื่อนำเงินมาบริจาค

- เมื่อได้เงินมา พ่อยอดชาย นายธัมมชโยก็นำไปซื้อที่ดิน ซื้อหุ้น ซื้อทอง และธนบัตรในชื่อของตนอย่างมหาศาล ด้วยเจตนายักยอกเงินวัด จนนำมาซึ่งพระลิขิตเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้คืนทรัพย์สินทั้งหมดแก่วัด และให้พ้นจากความเป็นพระ เพราะต้องอาบัติปาราชิกด้วยข้อหายักยอกทรัพย์

- ใช้เงินที่ชาวบ้านบริจาคด้วยจิตศรัทธา นำไปซื้อตำแหน่ง ยศศักดิ์ และลบล้างความผิดของตน ด้วยการทุ่มเงินซื้อบุคคลในคณะกรรมการมหาเถระสมาคม ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ จนนำมาซึ่งตนพ้นผิด แม้จะมีลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชค้ำคอยืนยันว่าพ้นจากความเป็นพระแล้วก็ตาม

เหล่านี้คือข้อหาความผิดพลาดของสำนักวัดพระธรรมกาย ซึ่งกระทำโดยนายธัมมชโยและพวก จำเป็นที่สังคมควรจะต้องรู้ พร้อมกันช่วยแก้ไขเปลี่ยนแปลง เริ่มจากความผิดของมหาเถระสมาคมที่ละเลย ละเว้น ไม่ปฏิบัติตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ทั้งที่เป็นกฎหมาย เป็นอำนาจที่มีกฎหมายรองรับ เมื่อมีพระลิขิตหรือคำสั่งออกมาให้จัดการกับนายธัมมชโย ว่าพ้นจากความเป็นพระเพราะต้องอาบัติปาราชิกไปแล้ว แทนที่มหาเถระสมาคมมจะใช้อำนาจบังคับจับนายธัมมชโยสึก กลับปล่อยปละละเลย ละเว้น นอกจากจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งสมเด็จพระสังฆราชแล้ว แถมด้วยยังสนับสนุน ส่งเสริมให้นายธัมมชโยและสำนักนี้ยิ่งใหญ่ ได้รับยศถาบรรดาศักดิ์สูงขึ้นอีกต่างหาก งานนี้ถ้ามหาเถระสมาคมยังนิ่งเฉย ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน คงจะต้องหันมาพิจารณาโทษของบรรดากรรมการมหาเถระสมาคมกันหน่อยแล้ว อาจจะมีคนตามเฮียเหนาะแห่งวัดสระเกศไปกันบ้าง ๑๕ ปีแล้วนะ ที่มหาเถระสมาคมทำตัวเป็นสากกะเบือไม่รู้รสพริก หากงานนี้รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเขาตั้งใจจะชำระสังฆมณฑลให้สะอาดปราศจากสิ่งปฏิกูลแล้วองค์กรปกครองสงฆ์ยังจะทำมัวเมาปกป้องกันอยู่ เดี๋ยวได้เห็นพุทธะอิสระออกไปถือป้ายประท้วงหน้ามหาเถระสมาคม เพื่อกล่าวโทษมหาเถระเสียเองในฐานความผิดที่ว่า

ความผิดฐานละเมิดจรรยาบรรณพระสังฆาธิการ
ความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ความผิดฐานไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย
ความผิดฐานทำลายศรัทธาไทยที่มีต่อมหาเถระสมาคม
ทั้งหมดนี้คือความผิดของกรรมมการมหาเถระสมาคมที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน

พุทธะอิสระ


http://pantip.com/topic/33265613
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มหาเถรฯได้ข้อยุติ "ธมฺมชโย" ไม่ปาราชิก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2015, 08:59:07 pm »
0
คิดแล้วไม่ผิด

   น่าผิดหวังจริง ๆ กับ กลุ่ม มส.

  แต่ มติ มส. ดูจะหมดความน่าเชื่อถือ ลง เสีย แล้ว ละ การณ์ นี้


 :smiley_confused1: :13:

 
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

fan

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มหาเถรฯได้ข้อยุติ "ธมฺมชโย" ไม่ปาราชิก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2015, 09:16:51 pm »
0
ดู หลวงปู่ พุทธอิสสระ ทำอย่างไร ต่อไป ตอนนี้ คสช. ยังประกาศกฏอัยการศึก อยู่นะคะ ประกาศให้ไปทำบุญที่วัดปากน้ำ ที่นั่นก็ยินดี สิคะ

  :014: :014: :49:
บันทึกการเข้า

modtanoy

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-5
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 213
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มหาเถรฯได้ข้อยุติ "ธมฺมชโย" ไม่ปาราชิก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2015, 09:37:15 pm »
0
ภายหลังการประชุมของมหาเถรสมาคม ที่พุทธมณฑล เพื่อพิจารณาวาระมติของมหาเถรสมาคมเมื่อปี 2549 ในกรณีที่มหาเถรสมาคมมีมติว่าพระธัมมชโย หรือ พระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ไม่อาบัติปาราชิก และมีการถวายคืนสมณะศักดิ์

พระพรหมเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม โฆษกมหาเถรสมาคม เปิดเผยว่า
ที่ประชุมได้รับทราบเรื่องดังกล่าวและยืนยันว่ามติเมื่อปี 2549 ถูกต้องแล้ว
ทั้งนี้เรื่องเดิมคือในปี 2542 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระลิขิตให้พระธัมมชโย หรือ พระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ต้องอาบัติปาราชิก เนื่องจากยักยอกทรัพย์ของวัดพระธรรมกาย ซึ่งมหาเถรสมาคมสมัยนั้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการให้เป็นไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ แม้มีโจทย์ 2คน คือ นายสมพร เทพสิทธา และนายมานพ พรไพลิน ได้ฟ้องร้องพระธัมมชโยต่อศาล แต่ภายหลังนายมานพได้ถอนฟ้อง เนื่องจากพระธัมมชโยดำเนินการตามพระลิขิต โดยยอมคืนทรัพย์สินแก่วัดพระธรรมกายมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท อัยการจึงยกฟ้องคดีดังกล่าว

มหาเถรสมาคมเห็นว่า พระธัมมชโย ไม่มีเจตนาขัดพระลิขิต และไม่มีเจตนาฉ้อโกง จึงถือว่าพ้นมลทิน และในปี 2549 ได้มีมติถวายคืนสมณศักดิ์ให้กับพระธัมมชโย อีกทั้งในปี 2554 ยังได้เลื่อนสมมศักดิ์จากยศพระราชภาวนาวิสุทธิ์เป็น พระเทพญาณมหามุนี

พระพรหมเมธีอธิบายว่า หลักการพิจารณาทางสงฆ์ว่าความผิดยักยอกทรัพย์สำเร็จหรือไม่นั้น จะดูที่เจตนาเป็นหลัก ซึ่งในกรณีนี้ มีที่มาของทรัพย์สินถูกต้องคือมาจากพุทธศาสนิกชน และเมื่อมีพระลิขิต ก็ได้มีการทยอยคืนทรัพย์สินแก่วัดทันที จึงถือว่ามีเจตนาไม่ฉ้อโกง

พระพรหมเมธี กล่าวด้วยว่าเรื่องนี้ผ่านมาแล้วกว่า 17 ปี และประเทศกำลังอยู่ในช่วงสร้างความปรองดอง อีกทั้งเป็นยุคที่ล่อแหลมต่อสื่อ ประเทศไทยถูกจับตามองจากต่างชาติเพราะเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงไม่อยากให้นำเรื่องเก่ามาพูดถึง

https://www.youtube.com/watch?v=08T8gPD7kSE

ท่านทั้งหลาย โปรดให้ความเคารพ พระผู้ใหญ่ ด้วยนะคะ กรุณา อย่าปรามาส นะคะ เพราะมันเป็นบาป

บันทึกการเข้า

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มหาเถรฯได้ข้อยุติ "ธมฺมชโย" ไม่ปาราชิก
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2015, 07:52:54 am »
0
ท่านทั้งหลาย โปรดให้ความเคารพ พระผู้ใหญ่ ด้วยนะคะ กรุณา อย่าปรามาส นะคะ เพราะมันเป็นบาป

 :d030: :d030: :d030:
อ๋อ งั้น หรือ ?
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มหาเถรฯได้ข้อยุติ "ธมฺมชโย" ไม่ปาราชิก
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2015, 11:34:11 am »
0
ผมว่า กระทู้เรื่อง ธรรมกาย สำหรับที่นี่ น่าจะเพียงพอให้ทราบ ก็พอนะ ครับ ไม่ควรต่อความคิดเห็น ในเว็บนี้ เพราะไม่ใช่วัตถุประสงค์ ของ เว็บนี้ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะครับ

  เพราะเรื่องราว ของ วัดธรรมกาย ตอนนี้แม้คำตัดสิน ของ มส. ออกมาแล้ว ก็ตาม ก็ไม่ทำให้ยุติได้ง่าย ๆ นะครับ ยังมีต่อไปอีก นั่นแหละครับ ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นว่า ชาวพุทธต้องทะเลาะกัน และ เลือกฟากกันด้วยแล้วนะครับ

  ทางที่ดี ไม่ควรแสดงความเห็นเรื่องนี้ ในเว็บ นี้นะครับ หรือยุติโพสต์ เรื่องของธรรมกาย ไปจากเว็บนี้เลยก็ดีนะครับ

  แค่แสดงความคิดเห็น ควรไม่ควร แล้วแต่ ทีมงาน นะครับ เพราะผมไม่ทราบเจตนา ของผู้โพสต์ นำมาโพสต์ที่นี่เพื่ออะไร นะครับ

  thk56
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา