นางพราหมณีถวายอาหารให้พรหม แต่ไม่ถวายให้อรหันต์ผู้เป็นบุตร
ก็มารดาของเขาพอเห็นบุตรก็ออกจากเรือนพาเข้าไปภายในที่อยู่ ให้นั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้.
บทว่า อาหุตึ นิจฺจํ ปคฺคณฺหาติ ความว่า รับของบูชาคือบิณฑะก้อนข้าวในกาลเป็นนิจ.
ก็ในวันนั้นมีพลีกรรมเพื่อภูตในเรือนนั้น. ทุกเรือนทาสีเขียวมีข้าวตอกเกลื่อนกลาด แวดล้อมด้วยทรัพย์และดอกไม้ ยกธงชัยธงปฏาก ขึ้นตั้งหม้อน้ำมีน้ำเต็มไว้ในที่นั้นๆ จุดประทีปสว่าง ประดับด้วยผงของหอมและดอกไม้เป็นต้น. ได้มีแว่นเวียนเทียนถือส่งต่อกันไปโดยรอบ.
นางพราหมณี แม้นั้นลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ อาบน้ำหอม ๑๖ หม้อ ตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับพร้อมสรรพ.
สมัยนั้น นางให้พระมหาขีณาสพนั่งแล้ว มิได้ถวายแม้เพียงข้าวยาคูกระบวยหนึ่ง
คิดว่า เราจักให้มหาพรหมบริโภค บรรจุข้าวปายาสเต็มถาดทอง ปรุงด้วยเนยใสน้ำผึ้งและน้ำตาลกรวดเป็นต้น ที่หลังบ้านมีพื้นที่ที่ประดับด้วยของทาสีเขียวเป็นต้น นางถือถาดนั้นไปที่นั้น วางก้อนข้าวปายาสตรงที่ ๔ มุมและตรงกลางแห่งละก้อน ถือไปก้อนหนึ่ง มีเนยใสไหลลงถึงข้อศอก คุกเข่าบนแผ่นดิน กล่าวเชิญพรหมให้บริโภคว่า
ขอท่านมหาพรหมจงบริโภค ขอท่านมหาพรหมจงนำไป ขอมหาพรหมจงอิ่มหนำ ดังนี้. กลิ่นศีลของอรหันต์ฟุ้งไปถึงพรหมโลก
บทว่า เอตทโหสิ ความว่า ความคิดนี้ได้มีแก่ ท้าวสหัมบดีพรหมผู้สูดกลิ่นศีลของพระมหาขีณาสพ ซึ่งท่วมเทวโลกฟุ้งไปถึงพรหมโลก.
บทว่า สํเวเชยฺยํ ได้แก่ พึงตักเตือน คือพึงให้ประกอบในสัมมาปฏิบัติ.
อธิบายว่า จริงอยู่ นางพราหมณีนั้นให้พระมหาขีณาสพผู้เป็นอัครทักขิไณยบุคคลเห็นปานนี้ นั่งแล้ว มิได้ถวายอาหารแม้เพียงข้าวยาคูกระบวยหนึ่ง คิดว่า เราจักให้มหาพรหมบริโภค ดุจทิ้งตาชั่งเสียแล้วใช้มือชั่ง ดุจทิ้งกลองเสียแล้วประโคมท้อง ดุจทิ้งไฟเสียแล้วเป่าหิ่งห้อย เที่ยวทำพลีแก่ภูต เราจักไปทำลายมิจฉาทิฏฐิของนาง ยกนางขึ้นจากทางแห่งอบาย จะกระทำโดยวิธีให้นางหว่านทรัพย์ ๘๐ โกฏิลงในพระพุทธศาสนาแล้วขึ้นสู่ทางสวรรค์.จากพรหมโลกถึงโลกมนุษย์มีระยะทาง ๔๘,๐๐๐ โยชน์
บทว่า ทูเร อิโต ความว่า ไกลจากที่นี้.
จริงอยู่ ก้อนศิลาขนาดเท่าเรือนยอดตกจากพรหมโลก วันหนึ่งคืนหนึ่งสิ้นระยะทาง ๔๘,๐๐๐ โยชน์ ใช้เวลาถึง ๔ เดือน โดยทำนองนี้ จึงตกถึงแผ่นดิน พรหมโลกชั้นที่ต่ำกว่าเขาหมดอยู่ไกลอย่างนี้.
บทว่า ยสฺสาหุตึ ความว่า โลกของพรหมที่นางพราหมณีบูชาด้วยก้อนข้าว อยู่ไกล. อาหารของพรหม คือ 'ปิติ' จากฌาน ๔
ในบทว่า พฺรหฺมปถํ นี้ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้
ท้าวมหาพรหมกล่าวว่า ชื่อว่าทางของพรหม ได้แก่กุศลฌาน ๔ ส่วนวิบากฌาน ๔ ชื่อว่าเป็นทางชีวิตของพรหมเหล่านั้น เธอไม่รู้ทางของพรหมนั้น กระซิบอยู่ทำไม เพ้ออยู่ทำไม.
จริงอยู่ พรหมทั้งหลายย่อมยังอัตภาพให้เป็นไปด้วยฌานที่มีปีติ หาได้ใส่ข้าวสารแห่งข้าวสาลีและเคี้ยวกินน้ำนมที่เคี่ยวแล้วไม่ ท่านอย่าลำบาก เพราะสิ่งที่ไม่ใช่เหตุเลย
ครั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว จึงประคองอัญชลี แล้วย่อตัวเข้าไปชี้พระเถระอีกกล่าวว่า
ดูก่อนนางพราหมณี ก็ท่านพระพรหมเทวะของท่านนี้ ดังนี้เป็นต้น. อ้างอิง :- อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค พรหมสังยุต ปฐมวรรคที่ ๑ พรหมเทวสูตรที่ ๓
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=563ขอบคุณภาพจาก
http://images.trvl-media.com/