ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จิตปภัสสร โดย พระอรหันต์และพระอริยะเจ้า(เอาแค่ 3 องค์ก่อน)  (อ่าน 13772 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

phonsak

  • บุคคลทั่วไป
0
จิตปภัสสร โดย พระอรหันต์และพระอริยะเจ้า(เอาแค่ 3 องค์ก่อน)   ถ้ายังปราบมารในเว็บนี้ไม่ได้  จะอัญเชิญคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้ามาปราบมารต่อไป


จิตปภัสสร โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

 จิต ปภสฺสรมิทํ จิตฺตํ ตญฺจ โข อาคนฺตุ เกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฐํ จิตเป็นของประสัสสร คือมันผ่องใสสะอาดอยู่ตลอดเวลา อาคันตุกกิเลสต่างหาก มันเศร้าหมองเพราะกิเลสที่จรมา นี่พูดเรื่อง จิต ให้คิดดูว่า หากจิตเดิมเป็นของเศร้าหมองแล้ว ใครจะทำให้บริสุทธิ์ได้ ไม่มี เลย

เหตุนั้นท่านจึงว่า ปภสฺสรมิทํ จิตฺตํ จิตเป็นของประภัสสรตลอดเวลา ทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าจิตประภัสสร จิตกับใจเข้ามารวมกันแล้ว คราวนี้มารวมกันเข้าเป็นใจ เมื่อมันเป็นประภัสสรมันรวมกันเป็นใจ ประภัสสรนั้นหมายความถึงจิตไม่คิดไม่นึกไม่ปรุงไม่แต่ง จึงจะเห็นจิต เรียกว่าใจ ถ้าหากยังคิดนึกปรุงแต่งอยู่มันเศร้าหมอง ถ้าจิตผ่องใสแท้มันต้องสะอาดปราศจากความคิดความนึกความปรุงความแต่งจึงเรียกว่าใจ

จิตของคนเราเป็นของใสสะอาดมาแต่เดิม เหตุนั้นขัดเกลากิเลส ออกหมด มันจึงเห็นความใสสะอาด จึงเรียก ปภสฺสรมิทํ จิตฺตํ คราวนี้จะไม่เรียกว่าจิต จะเรียกว่าใจ เราเรียกธรรมชาติของที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ว่าใจ
ในขณะที่เราทำความเพียรภาวนา ทำใจให้เป็น กลางๆ เฉยๆ สบาย มันก็ถึงใจ ความสบาย นั่นแหละเป็นใจ ความเฉยๆ นั่นแหละ เป็นใจ ไม่มีอดีตอนาคต ไม่มีบาปไม่มีบุญ ตัวเฉยๆ นั่นแหละ ไม่มีอะไรทั้งหมด ความคิดความนึกความปรุงความแต่ง มัน ออกไปจากใจ เรียกว่าจิต จิตคือผู้คิดนึก ปรุงแต่ง จิตเป็นคนสั่ง สารพัดทุกอย่างในโลก ส่วนใจสงบคงที่


จิตปภัสสร โดย หลวงปู่มั่น ในมุตโตทัย


๑๐. จิตเดิมเป็นธรรมชาติใสสว่าง แต่มืดมัวไปเพราะอุปกิเลส

             ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ ตญฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฐํ
 ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้เสื่อมปภัสสรแจ้งสว่างมาเดิม แต่อาศัยอุปกิเลสเครื่องเศร้าหมองเป็นอาคันตุกะสัญจรมาปกคลุมหุ้มห่อ จึงทำให้จิตมิส่องแสงสว่างได้


......กิเลสทั้งหลายไม่ใช่ของจริง เป็นสิ่งสัญจรเข้ามาในทวารทั้ง ๖ นับร้อยนับพัน มิใช่แต่เท่านั้น กิเลสทั้งหลายที่ยังไม่เกิดขึ้นก็จะทวียิ่งๆ ขึ้นทุกๆ วัน ในเมื่อไม่แสวงหาทางแก้

ธรรมชาติของจิตเป็นของผ่องใสยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด แต่อาศัยของปลอม กล่าวคืออุปกิเลสที่สัญจรเข้ามาปกคลุมจึงทำให้หมดรัศมี ดุจพระอาทิตย์เมื่อเมฆบดบังฉะนั้น อย่าพึงเข้าใจว่าพระอาทิตย์เข้าไปหาเมฆ เมฆไหลมาบดบังพระอาทิตย์ต่างหาก


จิตปภัสสร โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


และจิตนี้ก็ได้มีพระพุทธภาษิตตรัสไว้ว่าเป็นธรรมชาติปภัสสร ที่แปลว่าผุดผ่อง แต่เศร้าหมองไปด้วยเครื่องเศร้าหมองที่จรเข้ามา อันเรียกว่าอุปกิเลส คือเครื่องเศร้าหมองที่จรเข้ามา แต่ว่าจิตนี้เมื่อได้ปฏิบัติทำจิตตภาวนา คืออบรมจิต ตามคำสั่งสอนของพระองค์ ก็วิมุติหลุดพ้นจากเครื่องเศร้าหมองที่จรเข้ามานี้ได้ เมื่อเป็นดั่งนี้จิตจึงกลับเป็นธรรมชาติที่ปภัสสรคือผุดผ่อง ปรากฏตามธรรมชาติของจิต จิตที่ผุดผ่องนี้เอง เมื่อขอยืมเอาคำของดอกบัวมาใช้ คือบาน ก็คือจิตที่บาน และเพื่อให้ได้คำที่สละสลวย จึงได้ใช้คำว่าเบิกบาน ก็คือจิตที่เบิกบานนั้นเอง เพราะฉะนั้น จิตที่ปภัสสรคือผุดผ่อง ก็คือจิตที่เบิกบาน หรือจิตที่เบิกบาน ก็คือจิตที่ปภัสสรคือผุดผ่อง
เพราะฉะนั้น ทุกคนจึงควรทำความเข้าใจว่า พระจิตของพระพุทธเจ้านั้น วิมุติหลุดพ้น จากกิเลสเครื่องเศร้าหมองที่จรเข้ามาทั้งหมด

ตลอดจนถึงกิเลสอย่างละเอียดที่เป็นอาสวะอนุสัยนอนจมหมักหมมอยู่ในจิต ทรงได้วิมุติคือความหลุดพ้นจากกิเลสเหล่านี้ทั้งสิ้น ไม่มีกิเลสเหลืออยู่แม้แต่น้อย เพราะฉะนั้น พระองค์จึงทรงเป็นเหมือนดอกบัวที่เบิกบานเต็มที่แล้ว ด้วยต้องแสงอาทิตย์คือแสงธรรม คือพระปัญญาที่ตรัสรู้พระธรรมนั้นเอง เพราะฉะนั้น จิตของพระองค์จึงเป็นจิตที่ผุดผ่องเต็มที่ เบิกบานเต็มที่ เป็นจิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วด้วยประการทั้งปวง ไม่มีเครื่องเศร้าหมองเหลืออยู่แม้แต่น้อย เพราะฉะนั้น พระองค์จึงทรงเป็นผู้ที่เบิกบานแล้ว


สรุปด้วยพระสูตรบทนี้


"ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ ตญฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิปฺปมุตฺติ" ความว่า "ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ประภัสสร ก็จิตนั้นแล หลุดพ้นแล้วจากอุปกิเลสทั้งหลายที่จรมา "

ทวนข้อสำคัญอีกครั้ง

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี - จิตเป็นของประสัสสร คือมันผ่องใสสะอาด  หากจิตเดิมเป็นของเศร้าหมองแล้ว ใครจะทำให้บริสุทธิ์ได้ ไม่มี เลย

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต- ธรรมชาติของจิตเป็นของผ่องใสยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ดุจพระอาทิตย์  กิเลสที่ปกคลุมคือ เมฆที่มาบดบัง

สมเด็จพระสังฆราช -  จิตที่เบิกบาน ก็คือจิตที่ปภัสสรคือผุดผ่อง พระจิตของพระพุทธเจ้านั้น วิมุติหลุดพ้น จากกิเลสเครื่องเศร้าหมองที่จรเข้ามาทั้งหมด จึงเป็นจิตที่ผุดผ่องเต็มที่ เบิกบานเต็มที่





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 11, 2010, 07:40:03 pm โดย phonsak »
บันทึกการเข้า

sumboon

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 108
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
บอกให้พักผ่อนมากๆ กินยาตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัดด้วย

จาก พญามาร
บันทึกการเข้า
ศิษย์ วัดหนองบัวหิ่ง ปากท่อ ราชบุรี

กิจกรรมของวัด http://nbh2550.com/forum/

phonsak

  • บุคคลทั่วไป
0
มารตัวแรก ชื่อ sumboon
บันทึกการเข้า

เจมส์บอนด์

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 186
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ้างถึง
ถ้ายังปราบมารในเว็บนี้ไม่ได้  จะอัญเชิญคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้ามาปราบมารต่อไป

สะใจจริง ๆ ลุง ปราบที่บ้าน หมด หรือยัง จะมาปราบที่เว็บนี้ อรหันต์ปราบมาร ภาคพิเศษ

นิสัยยังเสียอยู่



บันทึกการเข้า
ps2 psx nds n64 rom nes play1 play2 gamepc xbox wii castlevania finalfantasy nds ps1 sega
ผมชอบเล่นเกมส์ แต่ ก็แบ่งเวลานั่ง กรรมฐาน ครับ คนรุ่นใหม่ไม่กลัวกรรมฐาน

นาตยา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 136
  • ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตร
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้ายังปราบมารในเว็บนี้ไม่ได้  จะอัญเชิญคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้ามาปราบมารต่อไป

มารตัวแรก ก็คือ พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เพราะการแสดงธรรมเพียงเพื่อความสะใจ ไม่ได้เข้าใจจิตใจของคนที่รับ

พญามาร ตัวใหญ่ จริง ก็คือ Tuenum phonsak phonsak1

ไม่ได้เป็นพระอรหันต์ ไม่ได้เป็นพระโพธิสัตว์ แล้วยังกล่าวว่า คนอื่นเป็น มาร เป็น มาร

ถ้าเมื่อไรแสดงธรรม ให้เกรียติแก่ผู้ฟัง ผู้อ่าน เมื่อไร แสดงธรรมด้วยเมตตา จริง ๆ

   สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อน ทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมด ทั้งสิ้น

   จงเป็นสุข เป็นสุข เถิืด อย่าได้มีเวร แก่ กัน และ กันเลย


   
บันทึกการเข้า

phonsak

  • บุคคลทั่วไป
0


นิสัยยังเสียอยู่

ผมมาเพื่อชนมารครับ  แต่มารมันรวมหัวจับกลุมเปนฝูงเพื่อสร้างมติมหาชนจอมปลอม  จึงต้องกำหราบด้วยคำสอนของพระอรหันต์เสียบ้าง  ถ้ายังกำหราบไม่อยู่  เดี๋ยวได้เจอพุทธดำรัสของพระพุทธเจ้าของแท้แน่นอนเลย 

บันทึกการเข้า

phonsak

  • บุคคลทั่วไป
0
สาเหตุที่ต้องยกคำสอนของพระอรหันต์และพระอริยะเจ้ามาลง  เพราะผมอธิบายว่า จิตปภัสสรคือ นิพพานจิต  แต่คุณlastmanแย้งว่าไม่ใช่:


ปภัสสะระ มิทธัีง ภิกขะเว จิตตัง ภาเวถะ

 ดูก่อนภิกษุ ทั้งหลาย จิตของคนเป็น ปภัสสร

อ้างถึง
จิต(ปภัสสร)หรือนิพพานจิต ที่เป็นผู้สร้าง

 กรุณาขยายความว่า ปภัสสร หน่อยครับ ว่ามีความหมายอย่างไร ที่ คุณเทียบว่าคือ นิพพาน

ตอบ

คุณตามผมมา  ในทุกขณะ ก็ดูที่จิตของคุณขณะนั้นไปด้วย  แล้วคุณจะรู้  จิตคุณตอนนี้สกปรกเพราะกิเลสตัณหาทิฏฐิฯลฯ มันมาบดบัง แต่เดิมจิตคุณนั้นหาได้สกปรกไม่

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “จิตนี้ประภัสสร (ผุดผ่อง ผ่องใส บริสุทธิ์) แต่เศร้าหมองเพราะอุปกิเลสที่จรมา”

มีความหมายว่า จิตนี้โดยธรรมชาติของมันเอง มิใช่เป็นสภาวะที่แปดเปื้อนสกปรก หรือมีสิ่งเศร้าหมองเจือปนอยู่ แต่สภาพเศร้าหมองนั้นเป็นของแปลกปลอมเข้ามา ฉะนั้น การชำระจิตให้สะอาดหมดจดจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ = ก็เอาผงซักฟอกความสกปรกออกไปจากจิต ภวังค์จิตมันก็จะค่อยๆขาวบริสุทธิ์ขึ้นมาเอง 

ผงซักฟอก ในทางพุทธศาสนา คือ สมถะ(สมาธิ)+วิปัสสนา

จิตปภัสสร, จิตนี้ผุดผ่อง

อรรถว่า ปภัสฺสรํ ได้แก่ ขาวคือบริสุทธิ์. บทว่า จิตฺตํ
ได้แก่ ภวังคจิต

 จิตปภัสสร =  จิตนี้แต่เดิมเป็นจิตบริสุทธิ์ คือ ภวังคจิตมันบริสุทธิ์.  จิตนี้ชื่อว่า บริสุทธิ์ เพราะปราศจากอุปกิเลส เหตุนั้น จึงชื่อว่า ปภัสสร.

ภวังคจิต แม้จะบริสุทธิ์ตามปกติ ก็ชื่อว่าเศร้าหมองเพราะอุปกิเลสที่จรมา อันเกิดขึ้นด้วยอำนาจที่เกิดพร้อมด้วยโลภะ โทสะ และโมหะ

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ โทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่ง นิพพานธาตุ ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่า อมตภาพ"

สรุป

จิตปภัสสร = ภวังคจิตบริสุทธิ์ = ภวังคจิต ไม่มีโลภะ โทสะ และโมหะ = นิพพานธาตุ(จิต) นี่แหละที่ผมบอกว่า

อ้างถึง
จิต(ปภัสสร)หรือนิพพานจิต ที่เป็นผู้สร้าง

พระพุทธเจ้าจะเกิดขึ้น หรือ ไม่เกิดขึ้น ก็ตาม "ธาตุนั้นก็ตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว" (ฐิตา ว สา ธาตุ) ธาตุนั้นคือ "จิต"  ถ้าไม่บริสุทธิ์ = จิตสังขาร หรือจิตในปฏิจจสมุปบาท  ถ้าจิตนั้นบริสุทธิ์ เป็นปภัสสร  สิ้นราคะ สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ  พระพุทธองค์เรียกมันในชื่อต่างๆกัน เช่น จิตหลุดพ้น จิตพ้นวิเศษ นิพพานจิต




แย้งต่อว่า

ปภัสสร มาจาก สนธิศัพท์ สอง คำ คือว่า ปภา + ภัสสะระ  =ปภัสสะระ แปลว่า จิตที่สร้านออก
   
   ปภัสสร ถ้าจะแปลต้องแปล่า ยกศัพท์ จิตตัง อันว่า จิต ปภัสสะระ สร้านออกแล้ว หรือ แปลโดยอรรถว่า

      จิต ที่สร้านออก 

ดังนั้นอย่าให้ความหมาย ว่า จิตประภัสสร เป็น จิตนิพพาน อีก หรือ เทียบว่า

   ปภัสสะระ จิตตัง = นิพพานัง ( แปล และ ให้ความหมาย ไม่ถูก )

  ย้ำ จิตปภัสสร  ไม่ใช่ จิตนิพพาน


   สร้านออก ด้วยอะไร   ด้วย ราคะ ด้วย โทสะ ด้วย โมหะ  ดังนั้นจิตของคนเป็น ปภัสสร อย่างนี้

  จิต ที่ประภัสสร ไม่ใช่ แปลว่า จิตที่บริสุทธิ์ หรือ จิต ที่เป็นนิพพาน


สัญญาเวทยิตนิโรธ = นิพพาน  พระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็นจิตแท้  ซึ่งก็คือจิตปภัสสร  ผมจึงนำเข้าคำสอนของพระอริยะและพระอริยะสงฆ์มาลงยืนยัน

กามภูสูตรที่ ๒ 

[๕๖๓] กา. ดูกรคฤหบดี ภิกษุเมื่อจะเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ไม่ได้คิด
อย่างนี้ว่า เราจักเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง เรากำลังเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง
เราเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธแล้วบ้าง โดยที่ถูกก่อนแต่จะเข้า ท่านได้อบรมจิตที่
จะน้อมไปเพื่อความเป็นจิตแท้ (จิตดั้งเดิม)
บันทึกการเข้า

sumboon

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 108
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เออ พญามารตัวแม่รู้ไว้ด้วย

จะตามราวีพวกบ้า สติฟั่นเฟือน อย่าง phonsak
บันทึกการเข้า
ศิษย์ วัดหนองบัวหิ่ง ปากท่อ ราชบุรี

กิจกรรมของวัด http://nbh2550.com/forum/

แมนแมน

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 86
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
การกระทำของ ผู้บรรลุธรรมอันโสมม
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2010, 08:56:45 pm »
0
ผมเป็นปุถุชน ยังไม่ได้ บรรลุธรรมอะไรหรอกครับ

  แต่การกระทำของผู้บรรลุธรรม น่าเกลียดมาก

  เหมือนพวกผมทำกันในหมู่เพื่อน ด้วยการตบหัว แล้วบอกว่า "มึงอ่านหนังสือนี่ซะ จะได้ฉลาด"

 ผมว่าชาวเว็บที่นี่ ก็ยังเป็นผู้ปฏิบัติอยู่ ก็ยังเป็น ปุถุชน เป็นส่วนใหญ่

  คุณจะให้เรายอมรับ ก็หยุด พฤติกรรม อันโสมม เสีย


  ถาม จริง ๆ  พ่อ แม่  พี่ น้อง ของคุณ ลูก หลาน ญาต มิตร ยอมรับคุณเป็น พระเมตตรัย หรือยัง

 ผมว่า พี่คุณที่ป่วย อยู่ ก็จะยังคงไม่ยอมรับ หรอก ครับ

   ถ้าวิธีการที่คุณยังแบบนี้ ต่อให้หนังสือนั้นดีอย่างไร ก็ไม่มีใครสนที่จะอ่าน

  เพราะอะไร หรือ ครับ เพราะทุกคน มีทางเลือก เหมือนคุณเลือก ว่าที่นี่ โต้ตอบคุณ

  คุณก็ไปที่อื่น

  หยุดนิสัยที่เสีย ซะเถิด แล้ว มาพูดกันอย่างชาวธรรม

  ผมอยากคุย กับ คุณ ซึ่ง ๆ หน้า โต้ กันตรงหน้า ไม่ต้องผ่านเว็บ

  msn กันเลยดีไหมติดกล้อง ติดไมค์ pivate ทั้งกลุ่ม สด ๆ

  จะได้ดูสีหน้า ด้วย รู้จักกันด้วย

   :021: :021: :021:

 
บันทึกการเข้า

phonsak

  • บุคคลทั่วไป
0
ถ้ายังปราบมารในเว็บนี้ไม่ได้  จะอัญเชิญคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้ามาปราบมารต่อไป

มารตัวแรก ก็คือ พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เพราะการแสดงธรรมเพียงเพื่อความสะใจ ไม่ได้เข้าใจจิตใจของคนที่รับ

พญามาร ตัวใหญ่ จริง ก็คือ Tuenum phonsak phonsak1

ไม่ได้เป็นพระอรหันต์ ไม่ได้เป็นพระโพธิสัตว์ แล้วยังกล่าวว่า คนอื่นเป็น มาร เป็น มาร

ถ้าเมื่อไรแสดงธรรม ให้เกรียติแก่ผู้ฟัง ผู้อ่าน เมื่อไร แสดงธรรมด้วยเมตตา จริง ๆ


แสดงธรรมให้ฝูงชนที่ถูกหมู่มารสิงอยู่ฟัง จะไปพูดแบบนิ่มนวลไม่ได้ มันไม่เหมาะสม และไม่ถูกกาละเทศะ  เหมือนพระยายมจะส่งคนบาปหนาลงนรก  จะไปพูดว่า

"คุณพี่ขอรับ  กระผมพระยายม ใคร่ขออนุญาตส่งคุณพี่ลงกระทะทองแดง  อาบน้ำร้อนๆฟอกสิ่งโสโครกออกจากใจให้หมดนะขอรับ  ไม่นานหรอกขอรับ แค่ 1000 ปีเท่านั้นเอง  กรุณาอนุญาตกระผมด้วยเถิดขอรับ"

อย่างนี้มันใช้ได้ไหมขอรับ 
บันทึกการเข้า

บุญสม

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 94
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ้างถึง
เดี๋ยวได้เจอพุทธดำรัสของพระพุทธเจ้าของแท้แน่นอนเลย

ยังมี แท้ และ เทียม อีกหรือ ครับ โธ่เอ๊ย ผมตามอ่านมาตั้งนาน นึกว่าเป็นของแท้

โดนหลอกอีกแล้ว ไม่น่าเลย .......


เอาเลย ครับ พระพุทธวจนะ ที่แท้จริงเราชาวพุทธ ผู้เลื่อมใสใน พระรัตนตรัย ถึุงจะเป็นปุถุชน อยู่ ก็ไม่เสียหาย

นี่ครับ ว่าแต่ พระพุทธเจ้าจริง ๆ นะ ไม่ใช่ วจนะของคนที่เรียกคนอื่นว่ามารเสมอ......

   
บันทึกการเข้า

phonsak

  • บุคคลทั่วไป
0
คุณแมนแมนครับ


ข้อชี้แนะของผม  ไม่ใช่เพื่อคนในยุคนี้เท่านั้น  แต่เพื่อคนไทยในอนาคต  และเพื่อพระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์อีกองค์ในอีก 500 ปีข้างหน้า  นอกจากนี้ ยังเพื่อพระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้าซึ่งจะมาในปีพศ. 7650  ท่านจะได้มีข้อมูลเดิมไว้ค้นคว้าบ้างในช่วงต้นๆ
บันทึกการเข้า

phonsak

  • บุคคลทั่วไป
0
อ้างถึง
เดี๋ยวได้เจอพุทธดำรัสของพระพุทธเจ้าของแท้แน่นอนเลย

ยังมี แท้ และ เทียม อีกหรือ ครับ โธ่เอ๊ย ผมตามอ่านมาตั้งนาน นึกว่าเป็นของแท้

 

ไม่ใช่อย่างนั้น  ฟังจากพระโอษฏ์ของพระพุทธเจ้า กับฟังจากสาวกมันได้อรรถรสต่างกัน   
บันทึกการเข้า

sumboon

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 108
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สิ่งที่นายพลศักดิ์แสดง มันเป็นความคิดของคนบ้าชัดๆ

ดังนั้นท่านทั้งหลายอย่าไปใช้คำว่า"แสดงธรรม" กับสิ่งนายพลศักดิ์ สำรอกออกมา
บันทึกการเข้า
ศิษย์ วัดหนองบัวหิ่ง ปากท่อ ราชบุรี

กิจกรรมของวัด http://nbh2550.com/forum/

มานพ

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 86
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
พระยามาร ดัดจริต เป็นด้วย
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2010, 09:17:25 pm »
0
อ้างถึง
"คุณพี่ขอรับ  กระผมพระยายม ใคร่ขออนุญาตส่งคุณพี่ลงกระทะทองแดง  อาบน้ำร้อนๆฟอกสิ่งโสโครกออกจากใจให้หมดนะขอรับ  ไม่นานหรอกขอรับ แค่ 1000 ปีเท่านั้นเอง  กรุณาอนุญาตกระผมด้วยเถิดขอรับ"

ดัดจริต มาก ๆ ผมเอง ก็ปุถุชน เหมือนกัน ผมว่า คนอ่านเขาเข้าใจว่า

ต้องการให้แสดงธรรม ไม่ต้องไปอ้างอิง ใส่บุคคล ใด ๆ ก็เท่านั้น  ยังไม่เข้าใจอีก เป็น พระอริยะแบบไหนนี่

  แสดงธรรม ล้วน ๆ ก็น่าจะพอ

  ไม่ต้องกระทบ กระเทียบใครทั้งนั้น มันจะเป็นนิสัย

  สันดาน คนขุดยาก แก้ยาก ถ้าคุณต้องกล่าวธรรม นะที่ชุมนุม ที่คุณต้องไปแสดงธรรม

  ระวัง จะโดนสวน นะครับ

  คุณสถาปนา ตัวเองว่าเป็น พระเจ้า พระโพธิสัตว์ นั้น นี้ พระอริยะ ผู้บรรลุธรรม เป็นต้น

  และเรียกคนอื่นว่าเป็นมาร ใครที่พูดขัดฉันหน่อยก็เป็นมาร

  ตลก สิ้นดี

  ถ้าคุณต้องการพูดอย่างไม่มีนี้ มา Pivate เป็นส่วนตัว ออนไลน์ กล้อง กันเลย จะ ๆ ผมจะพูดกับคุณแบบ

  ปุถุชน นี้แหละ


   อีกอย่าง การสถาปนา ตัวเอง เป็นนั้น เป็นนี้ ไมใช่วิสัยของผู้ประพฤติธรรม หรือ มีธรรม

   :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

prachabeodee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 135
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ป้าแนะนำให้ไปอ่านในวิสุทธิมรรค (ฉบับที่แปลโดย พระอริยสังคุณาธาร(เส็ง ปฺสโส) ยังไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับศาสนาอื่นๆทั้งนั้น และก็ไม่ต้องเอาตัวในมาตัดสินบทความในวิสุทธิมรรคด้วย.....
นั่นก็เป็น พระศรีอริยเมตตรัยโพธิสัตว์มาแปลให้อ่านเหมือนกัน............................
ในเมื่อคุณมีญาณแห่งพระศรีอริยเมตตรัยได้ เราก็มีอยู่เช่นกัน...แต่เจ้ายังไม่สามารถควบคุมได้..จึงไม่ควรออกมาป่าวประกาศ........ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อศรีอริยเมตตรัยญาณเลย กลับไปฝึกตนใหม่เถิด..
บันทึกการเข้า

tuenum

  • บุคคลทั่วไป
0
ป้าแนะนำให้ไปอ่านในวิสุทธิมรรค (ฉบับที่แปลโดย พระอริยสังคุณาธาร(เส็ง ปฺสโส) ยังไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับศาสนาอื่นๆทั้งนั้น และก็ไม่ต้องเอาตัวในมาตัดสินบทความในวิสุทธิมรรคด้วย.....
นั่นก็เป็น พระศรีอริยเมตตรัยโพธิสัตว์มาแปลให้อ่านเหมือนกัน............................
ในเมื่อคุณมีญาณแห่งพระศรีอริยเมตตรัยได้ เราก็มีอยู่เช่นกัน...แต่เจ้ายังไม่สามารถควบคุมได้..จึงไม่ควรออกมาป่าวประกาศ........ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อศรีอริยเมตตรัยญาณเลย กลับไปฝึกตนใหม่เถิด..

เมื่อ 3 วัน พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ ชื่อเดิมคือ อชิตะ  ท่านก็บอกผมแบบคุณป้าเลยว่า "อย่าบอกใคร"  พระโพธิสัตว์กวนอิมก็บอกผมหลายครั้งว่าให้เชื่อที่แม่พูดนะว่า "อย่าบอกใคร" 

แต่ผมรู้ตัวเองว่า  ผมมาเพื่อปฏิรูปพุทธศาสนาให้เป็นของแท้ๆของพระพุทธเจ้า  ผมจึงไม่เชื่อพวกท่าน  ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุผม 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 12, 2010, 11:57:44 pm โดย tuenum »
บันทึกการเข้า

sumboon

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 108
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

เมื่อ 3 วัน พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ ชื่อเดิมคือ อชิตะ  ท่านก็บอกผมแบบคุณป้าเลยว่า "อย่าบอกใคร"  พระโพธิสัตว์กวนอิมก็บอกผมหลายครั้งว่าให้เชื่อที่แม่พูดนะว่า "อย่าบอกใคร" 

แต่ผมรู้ตัวเองว่า  ผมมาเพื่อปฏิรูปพุทธศาสนาให้เป็นของแท้ๆของพระพุทธเจ้า  ผมจึงไม่เชื่อพวกท่าน  ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุผม 


มันฟั่นเฟือนเกินเยียวยาจริงๆ
** กินยาให้ตรงเวลานะ อย่าลืมไปพบแพทย์ตามนัด **

บันทึกการเข้า
ศิษย์ วัดหนองบัวหิ่ง ปากท่อ ราชบุรี

กิจกรรมของวัด http://nbh2550.com/forum/

prachabeodee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 135
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ป้าแนะนำให้ไปอ่านในวิสุทธิมรรค (ฉบับที่แปลโดย พระอริยสังคุณาธาร(เส็ง ปฺสโส) ยังไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับศาสนาอื่นๆทั้งนั้น และก็ไม่ต้องเอาตัวในมาตัดสินบทความในวิสุทธิมรรคด้วย.....
นั่นก็เป็น พระศรีอริยเมตตรัยโพธิสัตว์มาแปลให้อ่านเหมือนกัน............................
ในเมื่อคุณมีญาณแห่งพระศรีอริยเมตตรัยได้ เราก็มีอยู่เช่นกัน...แต่เจ้ายังไม่สามารถควบคุมได้..จึงไม่ควรออกมาป่าวประกาศ........ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อศรีอริยเมตตรัยญาณเลย กลับไปฝึกตนใหม่เถิด..

เมื่อ 3 วัน พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ ชื่อเดิมคือ อชิตะ  ท่านก็บอกผมแบบคุณป้าเลยว่า "อย่าบอกใคร"  พระโพธิสัตว์กวนอิมก็บอกผมหลายครั้งว่าให้เชื่อที่แม่พูดนะว่า "อย่าบอกใคร" 

แต่ผมรู้ตัวเองว่า  ผมมาเพื่อปฏิรูปพุทธศาสนาให้เป็นของแท้ๆของพระพุทธเจ้า  ผมจึงไม่เชื่อพวกท่าน  ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุผม
นี่...คุณรู้ไหมว่าถ้าคุณจะปฎิรูปพุทธศาสนาก็ต้องแก้พระไตรปิฎกด้วยน๊ะ...เพราะพุทธศาสนาเรายึดตามหลักในพระไตรปิฎก..
ทีนี้ก็จะได้เป็นพระไตรปิฎกฉบับ inter ฉบับคุณ พลศักดิ์และtuenumอุบัติ...เสีบเลยเป็นไง??.ก็คงดี..แต่จะมีคนเห็นด้วยหรือไม่ก็ไม่รู้น๊ะ....ส่วนคุณและผองเพื่อนก็เป็นsuperพระมหาพุทธผู้เป็นเจ้าอนันต์ไพบูลย์ไพรทูรย์วงศ์..มีนิวาสสถานอยู ณ.แดนธัญญาลักษณ์มหาวิมาน .....................
นิมนต์ไปข้างหน้าก่อนน๊ะ.......
การที่บอกว่ามีญาณโน่นมีญาณนี่ก็แล้วแต่เขาเพราะเป็นเรื่องเฉพาะตนรู้เฉพาะตนเขาไม่มาอวดศักดาแบบฐิทิสุดโต่งแบบคุณทั้งสองหรอกน๊ะ....ที่คุณกระทำอยู่นี่เขาเรียกว่า ความบรรเจิดทางความคิด(ปรุงแต่งฟุ้งซ้านรำคาญใจ)...จับแพะชนแกะ(ใช้ Momational method).....
อย่าเอาผลหรือผลิตผลแห่การเห็นแจ้งของเหล่าอรหันต์ขีนาสพทั้งหลายมาเป็นเครื่องปรุงแต่งทางจิต...ที่ถูกแล้วควรปฎิบัติให้รู้เองเห็นเองเป็นเองจึงจะถูก(เอาผลที่ตนได้ตนเป็นแจ้งเอง)...........นี่อะไรก็ยังไม่เป็นอะไรก็ยังไม่เกิด...เอาแต่ผลสำเร็จในแต่ละความเห็นแจ้ง แต่ละศาสนามารวบรวมเรียบเรียงแบบคิดเอาปรุงเอา.......นี่เรียกว่าผลอันไม่มีที่สุดหยุดไม่ลงปลงไม่เป็น.....อนาคตคือ เครียด..โรคทางจิตประสาท...........
..........น๊ะท่าน "Superพระมหาพุทธผู้เป็นเจ้าอนันต์ไพบูลย์ไพทูรย์วงศ์ "..................................
...........ไปสู่ที่ชอบ.ทีชอบเถิด......อามิตาพุทธ..อาเมน..อัลล่าห์..อาริงาโตะ..ซาดังเงโย...เข่ป๊ง....
บันทึกการเข้า

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


 :25:
ป้าแนะนำให้ไปอ่านในวิสุทธิมรรค (ฉบับที่แปลโดย พระอริยสังคุณาธาร(เส็ง ปฺสโส) ยังไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับศาสนาอื่นๆทั้งนั้น และก็ไม่ต้องเอาตัวในมาตัดสินบทความในวิสุทธิมรรคด้วย.....
นั่นก็เป็น พระศรีอริยเมตตรัยโพธิสัตว์มาแปลให้อ่านเหมือนกัน............................
ในเมื่อคุณมีญาณแห่งพระศรีอริยเมตตรัยได้ เราก็มีอยู่เช่นกัน...แต่เจ้ายังไม่สามารถควบคุมได้..จึงไม่ควรออกมาป่าวประกาศ........ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อศรีอริยเมตตรัยญาณเลย กลับไปฝึกตนใหม่เถิด..

เมื่อ 3 วัน พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ ชื่อเดิมคือ อชิตะ  ท่านก็บอกผมแบบคุณป้าเลยว่า "อย่าบอกใคร"  พระโพธิสัตว์กวนอิมก็บอกผมหลายครั้งว่าให้เชื่อที่แม่พูดนะว่า "อย่าบอกใคร" 

แต่ผมรู้ตัวเองว่า  ผมมาเพื่อปฏิรูปพุทธศาสนาให้เป็นของแท้ๆของพระพุทธเจ้า  ผมจึงไม่เชื่อพวกท่าน  ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุผม
นี่...คุณรู้ไหมว่าถ้าคุณจะปฎิรูปพุทธศาสนาก็ต้องแก้พระไตรปิฎกด้วยน๊ะ...เพราะพุทธศาสนาเรายึดตามหลักในพระไตรปิฎก..
ทีนี้ก็จะได้เป็นพระไตรปิฎกฉบับ inter ฉบับคุณ พลศักดิ์และtuenumอุบัติ...เสีบเลยเป็นไง??.ก็คงดี..แต่จะมีคนเห็นด้วยหรือไม่ก็ไม่รู้น๊ะ....ส่วนคุณและผองเพื่อนก็เป็นsuperพระมหาพุทธผู้เป็นเจ้าอนันต์ไพบูลย์ไพรทูรย์วงศ์..มีนิวาสสถานอยู ณ.แดนธัญญาลักษณ์มหาวิมาน .....................
นิมนต์ไปข้างหน้าก่อนน๊ะ.......
การที่บอกว่ามีญาณโน่นมีญาณนี่ก็แล้วแต่เขาเพราะเป็นเรื่องเฉพาะตนรู้เฉพาะตนเขาไม่มาอวดศักดาแบบฐิทิสุดโต่งแบบคุณทั้งสองหรอกน๊ะ....ที่คุณกระทำอยู่นี่เขาเรียกว่า ความบรรเจิดทางความคิด(ปรุงแต่งฟุ้งซ้านรำคาญใจ)...จับแพะชนแกะ(ใช้ Momational method).....
อย่าเอาผลหรือผลิตผลแห่การเห็นแจ้งของเหล่าอรหันต์ขีนาสพทั้งหลายมาเป็นเครื่องปรุงแต่งทางจิต...ที่ถูกแล้วควรปฎิบัติให้รู้เองเห็นเองเป็นเองจึงจะถูก(เอาผลที่ตนได้ตนเป็นแจ้งเอง)...........นี่อะไรก็ยังไม่เป็นอะไรก็ยังไม่เกิด...เอาแต่ผลสำเร็จในแต่ละความเห็นแจ้ง แต่ละศาสนามารวบรวมเรียบเรียงแบบคิดเอาปรุงเอา.......นี่เรียกว่าผลอันไม่มีที่สุดหยุดไม่ลงปลงไม่เป็น.....อนาคตคือ เครียด..โรคทางจิตประสาท...........
..........น๊ะท่าน "Superพระมหาพุทธผู้เป็นเจ้าอนันต์ไพบูลย์ไพทูรย์วงศ์ "..................................
...........ไปสู่ที่ชอบ.ทีชอบเถิด......อามิตาพุทธ..อาเมน..อัลล่าห์..อาริงาโตะ..ซาดังเงโย...เข่ป๊ง....

คุณป้า ใช้เหตุผลดี ไม่ผิดหวังจริง ๆ คะ
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 
ทุกท่านครับ ไม่อยากเห็นการใช้วาจาส่อเสียด

ขอให้ทุกท่านทบทวนข้อความของตัวเองก่อนที่จะโพสต์

ให้ "อภัยเป็นทาน" กันเถิดครับ

ส่วนการแสดงความเห็นที่เกินเลย ทีมงานมัชฌิมาจะพิจารณาแก้ไขหรือลบต่อไป
 :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

ทุกท่านครับ ไม่อยากเห็นการใช้วาจาส่อเสียด

ขอให้ทุกท่านทบทวนข้อความของตัวเองก่อนที่จะโพสต์

ให้ "อภัยเป็นทาน" กันเถิดครับ

ส่วนการแสดงความเห็นที่เกินเลย ทีมงานมัชฌิมาจะพิจารณาแก้ไขหรือลบต่อไป
 :25:


รับทราบคะ คุณ Nathposon หายไปนานเลยนะคะ
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน

tuenum

  • บุคคลทั่วไป
0

 
นี่...คุณรู้ไหมว่าถ้าคุณจะปฎิรูปพุทธศาสนาก็ต้องแก้พระไตรปิฎกด้วยน๊ะ...เพราะพุทธศาสนาเรายึดตามหลักในพระไตรปิฎก..

ทำไมคุณป้าฉลาดน้อยอย่างนี้ล่ะครับ  พระไตรปิฎกไม่ผิด และไม่เกี่ยวเลย ไม่ต้องปฏิรูป  แต่ที่ต้องปฏิรูปศาสนาพุทธ คือ ปฎิรูปคำสอนของไอ้พวกมารศาสนา ที่เรียกว่า พวกปริยัติ  พวกนี้ไม่ปฏิบัติ  จึงไม่ได้ปัญญาทางศาสนา  เมื่อไม่ได้ปัญญาทางพุทธศาสนา  พวกนี้จึงตีความพระไตรปิฎกผิดๆ แล้วทะลึ่งเอาการตีความพระไตรปิฎกขั้นหายนะของพวกมัน  เอาไปเผยแพร่ให้คนไทยและชาวโลกรับรู้ =  ทำลายพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า

มันใช้ไม่ได้ครับ  เราต้องปฏิรูปยกเครื่อง  ยกคำสอนโหลยโท่ยในพุทธเถรวาทของสมมุติสงฆ์ ที่บิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์ออกไป เพราะมารมันคุมฝ่ายปริยัติ  ทำให้เกิดของปลอมที่เรียกว่า สัทธรรมปฏิรูปพุทธศาสนาขึ้น

ผมตัวอย่าง 3 เรื่องที่ต้องยกเครื่องคำสอน ที่บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า ออกไป



1.  นิพพานเป็นธรรมกาย และธรรมกายเป็นอัตตา แก๊งค์มารผ้าเหลือง ดันทะลึ่งสอนว่า  นิพพานเป็นอนัตตา  ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าพูดถึงสิ่งที่เป็นอนัตตา คือ ขันธ์ 5 หรือสังขตธาตุ หรือจิต(สังขาร) เท่านั้น  อย่างนี้มันใช้ไม่ได้ครับ   มีอย่างที่ไหน
 
  - ไปบอกว่า นิพพานเป็นอนัตตา แล้วเราจะไปนิพพานหาพระแสงอะไรล่ะ เพราะมันก็ยังทุกข์ และเกิดแก่เจ็บตายอยู่  แล้วคำนิยาม อัตตา ของพระพุทธเจ้าในอนัตตลักขณะสูตร ก็ชัดเจ้นอยู่แล้วว่า อัตตา = สิ่งที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา = ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย = อสังขตธาตุ(นิพพาน) 

 
2.  นอกจากไปทะลึ่งสอนว่า นิพพานเป็นอนัตตาแล้ว ยังอวดฉลาด เอาคำสอนซื่อบื่อของตน ไปบอกชาวโลกว่า ศาสนาพุทธไม่เชื่อในเรื่องพระเจ้า และไม่มีพระเจ้า และศาสนาพุทธเป็นอเทวนิยม  ทั้งๆที่ศาสนาพุทธเป็นเทวนิยม ชนิดที่สมบูรณที่สุด เพราะบอกถึงวิธีการเข้าไปเป็นเทวะในทุกชั้น  รวมถึงชั้นพระเจ้า(วิสุทธิเทพ)

 เก่งจริงๆเลยนะเรื่องฉลาดน้อยอย่างนี้   ไม่มีความรู้เลยว่า พระเจ้าที่แท้ก็คืออสังขตธาตุ  หรือพุทธะ หรือพระอรหันต์    แต่เรื่องเหล่านี้ไว้ค่อยถกกันในกระทู้อื่น

 
3. พระพุทธเจ้าไม่ได้หายไปไหน ยังคงอยู่  ผมได้แสดงพระสูตรในพระไตรปิฏกแลปิฎกมหายานไปล้ว  ที่ชัดเจนเลยคือ พรหมชาลสูตรที่ ๑.

" ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่"

แต่พวกปริยัติ  ปฏิบัติไม่ถึงขั้น  จึงโดนมนตราของมาร ให้อ่านเท่าไร ก็ตีความพุทธพจน์นี้ไม่ได้  มันเป็นควมผิดของพระไตรปิฎก หรือความผิดของสมมุติสงฆ์ล่ะครับ

สรุป

ปฎิรูปพุทธศาสนาไม่ต้องแก้พระไตรปิฎก  แต่ต้องแก้คนตีความพระไตรปิฎก  ผมขอเสนอตัวเองเป็นแกนนำฝ่ายฆราวาสในการปฎิรูปพุทธศาสนา  ขอผู้รับรองด้วครับ 

อ้อ!  ไม่มีเลยหรือ?  ก็อย่างว่าล่ะครับ  มารมันคุมใจของพุทธศาสนิกชนไว้หมดแล้ว  แม้แต่คนที่เห็นด้วยกับผม  ก็หดตัว ไม่กล้าให้เห็น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 13, 2010, 12:36:02 pm โดย tuenum »
บันทึกการเข้า

sumboon

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 108
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ท่านผู้อ่านทั้งหลายครับ

ผู้ใดอยากรู้ธรรม  อยากเห็นธรรมะของจริงของพระพุทธเจ้า  ก็ต้องแหวกขี้ไป  แต่ถ้าติดอยู่ในกองขี้ .... ก็ย่อมไม่เห็นธรรม

โปรดหลีกเลี่ยงการกล่าววาจากระทบกระเทียบ
ธรรมะเขาแหวกขี้ออกมา พวกเราอย่าไปเกลือกกลั้ว กับสิ่งโสมมเลย
บันทึกการเข้า
ศิษย์ วัดหนองบัวหิ่ง ปากท่อ ราชบุรี

กิจกรรมของวัด http://nbh2550.com/forum/

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
จะเป็นแกนนำ แล้วมีใครตามหรือยัง  ได้กี่คนแล้ว แล้วถ้าจะร่วมด้วยต้องทำไงงะ  มีเว็ปไซต์ปะ!
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ที่ว่ามาใช่ในพระไตรปิฏกปะ  เก่งจัง
เค้าไปอ่านกันที่ไหนอะ  อยากจะอ่านมั่ง
คุณ Tuenum ไปอ่านที่ไหนอะ
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม