พิมพ์

[colo]

คือสงสัยที่พระท่านสอน ว่า ระวังบุญ หมดนะ ถ้าไม่ทำบุญ

 อาการบุญหมด นี้หมายถึงอย่างไรครับ และวัดกันอย่างไร ว่า เรามีบุญอยู่ หรือ บุญหมด

 มีวิธีตรวจสอบ อย่างไรครับ

  ส่วน หมดบุญ นี้ หมายถึงตาย  ใช่หรือไม่ครับ

 ขอความรู้ด้วยนะครับ

 

[raponsan]

   เจ้าของกระทู้ถามเรื่อง"อจินไตย" ผมเริ่มปวดหัว แต่จะคุยเป็นเพื่อนครับ
   จริงๆแล้วผมไม่ทราบว่า พระที่คุณกล่าวถึง มีเจตนาให้ความหมายคำว่า"บุญหมด"อย่างไร 

  คนทั่วไปมักกล่าวว่า การตายของคนๆหนึ่ง เป็นการหมดบุญ หรือ สิ้นบุญ
   คติทางพุทธเชื่อว่า จิตดวงหนึ่งๆ เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏนี้ นับชาติไม่ถ้วน
   ส่วนตัวเชื่อว่า บุญไม่น่าจะหมด โดยเฉพาะผู่ที่เกิดมาพบพุทธศาสนา เราเกิดมาแล้วหลายภพหลายชาติ
   จนนับไม่ได้ บุญก็ไม่ควรจะหมด
   แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เราไม่ไดทำบุญอย่างเดียว เรามักทำบาปไปพร้อมๆกับบุญ

   สมมุติว่า เรามีตาทิพย์  เราเห็นคนตายแล้วไปเกิดบนสวรรค์
   กรณีนี้ เราไม่น่าเรียกว่า หมดบุญ เพราะหมดบุญ ก็ควรจะลงนรก ใช่ไหมครับ

   การไม่ได้มีอัตภาพเป็นมนุษย์ไม่ได้หมายว่า หมดบุญ การไปสู่สุคติ หรือทุคตินั้น
   หากเราพิจารณาเรื่องกรรมเท่าที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ก็จะพอสรุปได้ว่า

  สภาวะจิตก่อนตายจะเป็นตัวกำหนด กล่าวคือ จิตผ่องใสจะไปสุคติ จิตเศร้าหมองจะลงอบาย
   หรือเรียกเป็นทางการว่า ชนกกรรม(กรรมนำเกิด)

   การที่จิตดวงหนึ่งไปเกิดในอบายภูมิ มีระยะเวลากำหนดไว้แล้ว ไม่ได้อยู่อย่างนั้นตลอดไป
   เมื่อถึงเวลาหนึ่ง จิตดวงนั้นชดใช้กรรมหมดแล้ว ก็จะไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้น
   ในทางตรงกันข้ามผู้ที่ขึ้นสวรรค์ไป ก็มีระยะเวลาที่แน่นอนเช่นกัน เมื่อถึงเวลาที่จะไปเกิดในภพอื่น
   ก็อาจจะลงอบายหรือไม่ก็เกิดในสุคติต่อไป

   ขอให้รู้ว่า ผู้ที่ลงอบายไม่มีสิทธิ์สร้างบุญ ผิดกับผู้ที่อยู่สุคติภูมิ สามารถสร้างบุญบารมีต่อได้
   แต่ที่น่าสนใจก็คือ ผู้ที่เิป็นพรหม(ที่ไม่ได้สุทธาวาส)เมื่อหมดอายุ ส่วนใหญ่จะลงอบาย

   เอาละครับ คุยมาก็พอสมควร ขอตอบคำถาม
   คำว่า "หมดบุญ" น่าจะหมายถึง การสิ้นอัตภาพความเป็นมนุษย์ แต่ไม่ได้หมายถึง การลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ แต่อย่างใด
   การจะตรวจสอบว่า เราจะหมดบุญเมื่อไหร่ ได้อย่างไร ?
   คนที่จะรู้วันตายของตัวเองได้ ส่วนใหญ่จะเป็นอริยบุคคลที่เชียวชาญอานาปาณสติ(มีตาทิพย์)