ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "เชื่อมบุญ" ให้ค้าขายได้คล่อง  (อ่าน 2645 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
"เชื่อมบุญ" ให้ค้าขายได้คล่อง
« เมื่อ: ธันวาคม 14, 2011, 12:17:03 pm »
0


"เชื่อมบุญ" ให้ค้าขายได้คล่อง
โดย ธ. ธรรมรักษ์

สำหรับคนที่ทำการค้าขาย ขอยกตัวอย่างสักตัวอย่างหนึ่ง นักธุรกิจคนหนึ่งที่รู้จักกันดี เขามีความต้องการที่จะทำการติดต่อการค้ากับคนๆ หนึ่ง เพื่ออยากจะให้เข้ามาซื้อสินค้าของบริษัท เพื่อจะทำให้เกิดสภาพคล่องในเรื่องเงิน มีเงินมาหมุนเวียนใช้จ่ายอย่างเร่งด่วน

และเขาได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์ให้รู้จักการเชื่อมบุญเป็นครั้งแรกของชีวิต เมื่อเขามีความศรัทธาเชื่อว่ามันจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยเขาได้ เขาก็เกิดศรัทธาและตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ซึ่งมันไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย

การเชื่อมบุญของเขานั้น หลังจากที่เขาได้เริ่มต้นสร้างบุญด้วยการทำทาน สวดมนต์ และตั้งสัจจะอธิษฐานอุทิศบุญ เชื่อมบุญถึงคนๆ นั้นที่อยากจะค้าขายด้วย รวมถึงเทวดาที่รักษาตัวของคนนั้นด้วย และเรื่องสินค้าที่ต้องการจะขายให้กับเขา ขอให้บุญกุศลที่ทำนั้นเป็นการเชื่อมบุญระหว่างกันและกัน เป็นการเสริมบุญเก่าที่เคยทำมาด้วยกันและเพิ่มบุญใหม่เข้าไปช่วย

อีกทั้งมีการกล่าวขออโหสิกรรมและให้อโหสิกรรมไว้เลย เพื่อให้กรรมที่อาจจะมีต่อกันนั้นบรรเทาลง และรักษาศีล ๕ ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้ สำหรับรายนี้ถือศีล ๕ อย่างเคร่งครัดในเวลา ๑๐ วัน และทำบุญแบบง่ายๆ ติดต่อกันไปด้วย ๑๐ วัน เขาทำอย่างนี้ ปฏิบัติอย่างนี้ แบบไม่บกพร่องหรือตกหล่นข้อใดข้อหนึ่ง

เวลาผ่านไปไม่ถึง ๑๐ วัน เขาก็สามารถติดต่อกับลูกค้ารายนั้นได้และเกิดการซื้อขายกันเกิดขึ้น เรื่องทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาต้องการทุกประการ

และอยากจะแนะนำท่านที่เป็นพ่อค้าแม่ขาย จะขายอะไรก็ตาม ลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายซื้อของนั้นเขาก็คือ เจ้ากรรมนายเวรของเราแบบมีชีวิตด้วยเหมือนกัน เมื่อเขาเอาเงิน เอาบุญมาส่งให้ ก็ควรจะทำการอุทิศบุญให้เขาด้วย เป็นการเชื่อมบุญ เสริมบุญให้เขามีมากขึ้น ให้เขาเอาบุญใหม่มาให้เราอีก มาเป็นขาประจำอุดหนุนกันไปตลอด การค้าของเราก็รุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมา



สำหรับท่านที่มีกรรม ต้องค้าขายกับสิ่งที่มีชีวิต หรือต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เช่น ขายหมู ขายปลา แม้ไม่ได้เป็นผู้ฆ่าโดยตรง ก็ยังถือว่าเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในกรรมนั้น ควรจะเร่งทำบุญอุทิศบุญกุศลไปให้ชีวิตที่สูญเสียไป ทั้งขออโหสิกรรมเขาเท่าที่จะทำได้ ทำได้ทุกวันและวันละหลายๆ ครั้งได้

ตอนที่ผมยังเด็กๆ เกือบห้าสิบปีที่แล้ว ผมรู้จักคนขายปลาอยู่คนหนึ่ง ที่ขายทั้ง ปลาช่อน ปลาดุก ปลาไหลและปลาต่างๆ ที่ตลาดสดบางลำพูและกบด้วย เป็นสาววัยกลางคนชื่อ พี่แหนง

ในทุกๆ วันพี่แหนงคนนี้นั้นต้องฆ่าปลาเป็นจำนวนมาก เพื่อส่งให้ลูกค้าขาประจำที่สั่งเอาไว้ ใครเคยไปตลาดและเคยซื้อปลาที่แผงและให้แม่ค้าทำปลาให้ คงเคยเห็นกรรมวิธีทำปลาเหล่านั้น

คือ ต้องมีการทุบหัวปลาเสียก่อนเพื่อให้ทำปลาได้ง่าย ปลาเมื่อมันโดนทุบหัวมันจะดิ้นพราดๆ สั่นเร่าๆ ไปทั้งตัว ก่อนที่จะโดนมีดคมๆ เชือดที่คอและลำตัว และหั่นเป็นท่อนๆ พี่แหนงก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน

รวมถึงกับกบด้วย ที่ต้องมีการจับขาหลังของมันสองข้าง แล้วฟาดลงกับพื้นอย่างแรง เพื่อให้มันหยุดเคลื่อนไหว หยุดไม่ให้มันกระโดดโลดเต้นได้อีก เพื่อที่จะทำการเชือดและหั่นเป็นชิ้นๆ ให้สะดวก

พี่แหนงในแต่ละวันจึงฆ่าปลา ฆ่ากบมากมาย แต่เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงตัว เลี้ยงพ่อแม่ มีคนเคยถามว่า แกกลัวบาปไหม แกตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า

กลัว แล้วก็กลัวมากเสียด้วย!!! แต่จะทำอย่างไรได้ แกไม่มีความรู้ และอาชีพที่แกทำ แกก็เลือกไม่ได้คิดว่าดีที่สุดแล้วสำหรับชีวิตของแกและครอบครัว


พี่แหนงจึงพยายามทำบุญทำทานตลอดเวลา และใส่บาตรให้สัตว์และขออโหสิกรรมที่โดนฆ่านั้นทุกวัน การค้าของแกก็เจริญรุ่งเรือง แผงขายปลาของพี่แหนงขายดีที่สุดในตลาดนี้ อย่างที่บอกว่าบุญก็อยู่ส่วนบุญ พี่แหนงมีชีวิตที่สุขสบาย ครอบครัวมีกิน มีใช้ มีเงินทองมากมาย ถือว่าประสบความสำเร็จในอาชีพนี้มากคนหนึ่ง

แต่ท้ายสุด ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พี่แหนงก็เลิกขายปลาไปทำมาหากินอย่างอื่นแทน มีคนมาเล่าให้ฟังในตอนหลังว่า พี่แหนงนั้นป่วยเดินไม่ได้ เป็นอัมพาตเวลาไปไหนมาไหนต้องคลานกระเสือกกระสนไป เหมือนปลาที่แถกตัวไปตามแผงในตลาด เหมือนกบที่ขาหลังหัก และรับกรรมนั้นไปหลายปี จนกระทั่งตายหมดกรรมไป

อีกเรื่องหนึ่ง มีเรื่องเล่ากันในหมู่ผู้มีบุญบารมีว่า อดีตผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของเมืองไทยที่ต้องวิบากกรรมไม่มีแผ่นดินจะอยู่ในขณะนี้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการฆ่าสัตว์เป็นจำนวนมาก บาปกรรมที่ท่านได้ทำลงไปก็เพราะความจำเป็นของบ้านเมือง ถ้าท่านไม่ทำแบบนั้นก็จะมีคนต้องตายและประเทศชาติบ้านเมือง ต้องมีการสูญเสียโอกาสการค้าขายที่ส่งผลไปหลายธุรกิจการค้าของประเทศไปมากกว่านั้น



แต่อย่าลืมบุญก็อยู่ส่วนบุญ กรรมก็อยู่ส่วนกรรม บุญนั้นไปรอท่าอยู่แล้ว บุญที่ท่านทำให้กับบ้านเมืองเพื่อส่วนรวม ก็จะยิ่งไปช่วยเสริมให้ท่านมีอำนาจ วาสนา เงินทองมากมาย เรียกได้ว่า กินอีกร้อยชาติก็ไม่มีวันหมดสิ้น

แต่กรรมที่ท่านทำนั้นมันหนักเหลือเกิน ไปฆ่าเขา ไปพลัดพรากสิ่งที่รักไปจากเขา ไปทำลายชีวิตเขา บุญที่เคยทำมันไปลบล้างไม่หมด อย่างเก่งก็ แค่บรรเทาให้เบาบางหรือรับผลกรรมนั้นช้าลงอีกนิด

กรรมนั้นบอกแล้วว่าไม่มีใครเก่งเกินกรรม ยิ่งกรรมที่เจ้ากรรมนายเวร เขาไม่อโหสิกรรมหรือไม่มีโอกาสแม้จะให้อโหสิกรรมนั้น น่าจะหนักหน่อย

โดยที่เขาเป็นผู้บริสุทธิ์แม้เขาจะเกิดเป็นสัตว์มาชดใช้กรรมของเขา ต้องเป็นเป็ด เป็นไก่ในชาตินี้ก็ตาม กรรมฆ่าสัตว์ตัดชีวิตและทำให้เขาพลัดพรากจากสิ่งที่เขารักนั้นแรงมาก

เพราะในเวลาที่ไม่นานนัก เมื่อบุญเก่าของท่านผู้มีอำนาจนี้ลดลง กรรมหนักๆ มันจึงแทรกมาไล่ท่านทัน แม้ว่าท่านจะทำการสารพัดที่จะเพิ่มฐานบุญให้ใหญ่ ให้เพียงพอไปขอลดหย่อนหนี้กรรมนั้น ทั้งปล่อยสัตว์ สร้างบ้านเรือนไทยถวายวัด สร้างพระพุทธรูป แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ


ทุกวันนี้ท่านจึงต้องเดินทางไปมา ไม่มีแผ่นดินที่จะหลับตาลงแบบมีความสุขได้เลย จนกว่ากรรมที่ท่านทำจะหมดลงไป ทรัพย์สมบัติของท่านก็ยังไม่มีโอกาสได้ใช้ เพราะเจ้ากรรมนายเวรเขาบังไว้หมด เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ได้ดี ในเรื่องของบุญและกรรม



ที่มา http://torthammarak.wordpress.com/
ขอบคุณภาพจาก http://meditation.dmc.tv/,http://www.lesla.com/,http://1.bp.blogspot.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ