สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ สิงหาคม 15, 2015, 09:54:28 pm



หัวข้อ: เรื่อง...กรรมคืนสนอง
เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ สิงหาคม 15, 2015, 09:54:28 pm
เรื่อง..กรรมคืนสนอง
ทุกคืนที่ท้ายตลาดสดแห่งหนึ่งผู้คนที่เดินผ่านจะเห็นชายชราวัย 70 กว่า ร่างกายซูบผอม เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยบาดแผล บางแห่งตกสะเก็ด มีแมลงหวี่ตอม เสื้อผ้าเก่าขาดสกปรก บางแห่งขาดแต่ไร้การปะชุน
 
มือหยาบกร้าน เล็บยาวแข็งเกาลงบนเนื้อแห้งเป็นขุย จนเกิดรอยขาวเป็นทางยาว ใบหน้าแห้งตอบบิดเบี้ยว เมื่อแกหาว ภายในปากมีฟันแทบจะนับซี่ได้ ศีรษะของแกมีเส้นผมขึ้นเพียงหร็อมแหร็ม ทว่าเต็มไปด้วยสีขาวโพลน บางเส้นร่วงหล่นลงไปกองอยู่บนหมอนที่เก่าและดำจนออกมันเพราะความสกปรก
 
เสียงกรนดังเบาๆ สลับกับมือที่เกาเนื้อตัวเพราะถูกยุงกัด ตุ่มผื่นขึ้นเป็นปุ่มปม คนที่เห็นมีความรู้สึกต่างกันออกไป
 
บางคนเวทนาสงสารในความขัดสนไม่มีแม้แต่บ้านที่อยู่อาศัย อีกคนไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้ รังเกียจในความสกปรกจนถึงขั้นกินอาหารไม่ลง ความรู้สึกประการหลังลุงทมรู้ดี พยายามที่จะไม่เข้าใกล้ใคร เว้นเสียแต่หิว จะต้องเดินไปหาแม่ค้าในตลาด ขอทำงาน เอาแรงเข้าสู้เพื่อแลกกับอาหารแค่พออยู่รอดไปมื้อๆ หนึ่ง
 
บางคนเมตตา นอกจากให้อาหารยังแถมเงิน เสื้อผ้า อุปกรณ์ในการดำรงชีวิต แต่ไม่บ่อยนักที่จะเจอคนใจดี เมื่อมีคนให้ลุงทมจะยกมือไหว้ กล่าวสรรเสริญในความมีน้ำใจตามด้วยน้ำตาคลอด้วยความเศร้า หลายคนรับรู้เรื่องราวแต่หนหลังของชายชราผู้ยากไร้เพราะแกจะเล่าให้แก่ผู้ที่สนใจ อยากทราบความเป็นมาเป็นไปทำไมถึงมานอนอยู่ท้ายตลาด ใช้ชีวิตโดดเดี่ยว ไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีลูกหลานคอยดูแล
 
?เพราะความใจดำ ไม่มีน้ำใจ รังเกียจคนแก่ ทำให้ลุงต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ จำเอาไว้นะลูกหลานเอ๊ย อย่าทำตนเหมือนลุง ไม่อย่างนั้นจะเสียใจ เพราะกรรมที่ทำเอาไว้ มันไม่สามารถที่จะล้างออกได้เหมือนคราบโคลน?
 
แทบไม่เชื่อหูเลยว่านี่คือคำสอนของชายผู้ยากไร้ แต่น้อยคนนักที่จะรับฟังเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ได้แต่หัวเราะเยาะแล้วเดินหนี แต่ก็มีคนคนหนึ่งยังนั่งอยู่ในท่าเดิม สายตาจับจ้องมองตลอดทั่วเรือนร่างด้วยความสนใจพร้อมกับหยิบสมุด ปากกาออกมาเพื่อจดข้อความสำคัญเอาไว้กันลืม รู้โดยสัญชาตญาณว่าผู้เฒ่ารายนี้มีอะไรบางอย่างน่าสนใจไม่น้อย
 
?เรื่องของลุงอาจจะไม่น่าสนใจก็ได้เพราะมันไม่สนุก มีแต่ความเลวที่กระทำต่อผู้อื่น สุดท้ายก็ต้องมีสภาพเหมือนคนที่เราเคยรังเกียจ อย่างที่เขาบอกว่ากงกรรมกงเกวียนนั่นแหละ เรื่องของลุงเกิดขึ้นเมื่ออายุ 20 กว่าๆ?
 
เรื่องของลุงทมถูกเปิดเผยขึ้นด้วยเสียงที่สั่นๆ เพราะความชรา แกบอกว่าเป็นลูกชายคนสุดท้องของเศรษฐีที่นาแถบอยุธยา พ่อแม่มีที่เยอะ นออกจากทำกินกันแล้วยังแบ่งที่ให้คนอื่นเช่าด้วย วัว-ควายก็มีมาก 
 
คนงานมีแบบมาทำงานเช้าไปเย็นกลับ และมานอนค้างที่บ้านโดยสร้างเพิงให้อยู่ พวกลูกจ้างจะหุงหาอาหารกินกันเอง มีทั้งคนหนุ่มสาว มีครอบครัวและคนแก่ โดยจะแบ่งหน้าที่กันทำงานตามความเหมาะสม
 
ลุงทมไม่ค่อยสนใจช่วยงานสักเท่าไหร่ทำแค่เพียงคุมคนงาน โดยจะแกล้งให้ทำงานนานๆ เกินเวลาบ้าง หรือใช้งานหนักแต่จ่ายเงินน้อย ไม่สนใจว่าใครจะได้รับความเดือดร้อน เหนื่อย ยากลำบากสักแค่ไหน แกมีความสุขที่ได้กระทำแบบนี้คนงานไม่ชอบพยายามเลี่ยง ไม่กล้าเข้าใกล้เพราะกลัวถูกใช้ทำงาน
 
เมื่อไม่มีคนงานเข้ามา ลุงทมเป็นฝ่ายเข้าไปหาเอง คนหนุ่มสาวมีเรี่ยวแรงพากันวิ่งหลบหนี จะมีแต่เพียงคนแก่หูตาฝ้าฟาง ส่วนใหญ่จะให้ทำหน้าที่ฝัดข้าวที่นวดเสร็จแล้ว ถือว่าเป็นงานเบาแต่ลุงทมกลับให้ทำงานหนักๆ บังคับคนแก่ไปไถนากลางแดดร้อนๆ แกล้งไม่ให้พักบางคนเหนื่อยจนหมดแรงเป็นลมล้มคว่ำ บางคนถูกใช้ให้ไปหาบน้ำจากคลองมาใส่ตุ่มให้แกอาบ แต่ไม่ยอมให้เงินหรือว่าให้นิดหน่อยไม่คุ้มกับแรงที่เสียไป
 
ถ้าหากว่าใครทำงานได้ไม่ทันใจจะด่าให้อับอาย ไล่ออกไปอยู่ที่อื่น คนแก่บางคนร้องไห้เพราะความคับแค้นใจ แต่ไม่กล้าบอกพ่อแม่ลุงทม เพราะแกขู่เอาไว้ถ้าหากใครบอกพ่อแม่จะถูกลงโทษอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีคนแก่เข้ามาทำงานที่บ้าน ลุงทมชอบใจเพราะไม่ต้องแบกรับภาระ ถ้าหากว่ามีคนแก่เข้ามาของาน แกจะไล่ตะเพิดทันที
 
วันหนึ่งขณะที่ลุงทมกำลังนอนเป่าขลุ่ยอย่างอารมณ์ดี มีเสียงคนเรียกอยู่ใกล้ๆ เมื่อมองดู อารมณ์เสียทันที คนแก่อายุ 70 กว่า หลังงองุ้ม ถือไม้เท้าเดินเข้ามายกมือไหว้ ขอข้าวกิน ลุงทมบอกว่าไม่ให้พร้อมกับไล่เสียงดัง ด่าว่าสาดเสียเทเสียคนแก่นั่งยองๆ ยกมือไหว้ ไม่ยอมไป ลุงทมเห็นดังนั้น ผลักเต็มแรงจนร่างชายแก่ล้มลงไปนอนกับพื้น
 
เท่านั้นยังไม่พอ แกคว้าไม้ได้ทำท่าจะตี ถ้าพ่อแม่ไม่เข้ามาห้ามเอาไว้ ลุงทมคงทำร้ายคนแก่คนนั้น ทุกคนที่เห็นพากันตำหนิในความใจร้ายใจดำที่มีต่อคนแก่อดอยาก ไม่สนใจ ทำตัวแบบนี้เรื่อยมมา กระทั่งพ่อแม่แบ่งที่นาให้ ลุงทมไม่สนใจทำ เอาไปขาย ติดการพนันและเสียท่าผู้หญิงที่เป็นหางเครื่องวงดนตรี หลอกจนเสียเงินเสียทอง
 
ไร่นาที่มีขายจนหมดเกลี้ยง พี่น้องไม่ช่วยเหลือ เพราะถือว่าได้มรดกไปแล้วไม่รู้จักรักษา เวลานั้นเริ่มแก่เฒ่าลงทุกทีแกออกหางานทำ ค่ำไหนนอนนั่น เร่ร่อนไปเรื่อย เมื่อหิวไปขอข้าวคนกินแต่ไม่มีใครให้ แถมยังไล่และด่าเหมือนที่แกเคยทำกับคนแก่
 
แกบอกว่าที่เป็นแบบนี้เพราะบาปที่เคยทำเอาไว้นั่นเอง ตอนนี้มันคืนสนองอย่างเต็มที่
 
 
โดย : นิลราตรี ขอขอบคุณ นิตยสาร รวมกฎแห่งกรรม
www.pstip.com (http://www.pstip.com)