ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - นาตยา
หน้า: [1] 2
1  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / สร้างพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 01:16:16 pm
ด้วยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม

ได้มีดำริจัดสร้างพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์

ซึ่งจัดสร้างด้วยโลหะสำริด ความสูง 32 เมตร

ประดิษฐาน ณ วัดทิพย์สุคนธาราม ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี

ในห้วงระยะเวลา 4 ปี มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2557 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 และในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา

ในวันที่ 12 สิงหาคม 2555 โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับโครงการไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยในปี 2554 โครงการยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 700,000 บาท สมทบในโครงการนี้ด้วย





ติดตามข้อมูลเพิ่มเิติมได้ที่นี่

http://www.alittlebuddha.com/News%202011/July%202011/21%20July%202011.html
2  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.bunchuay.com เว็บพระมหาบุญช่วย เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2011, 11:21:11 am


http://www.bunchuay.com

เว็บพระมหาบุญช่วย


ท่านบรรยาย ดีมาก เข้าใจง่าย ตามหลักการของพระอภิธรรม คะ

3  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ขอคารวะและส่งใจช่วยวีระบุษผู้กล้าหาญอย่างแท้จริงชาวญี่ปุ่นที่กำลังเข้าไปแก้ไขเตา เมื่อ: มีนาคม 20, 2011, 10:29:40 am
ขอคารวะและส่งใจช่วยวีระบุษผู้กล้าหาญอย่างแท้จริงชาวญี่ปุ่นที่กำลังเข้าไปแก้ไขเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขณะนี้

...เพราะว่าอีกไม่นานเขาเหล่านี้ต้องละจากโลกนี้ไปหมด สิ้น  ในเวลาไม่กี่เดือนหลังจากนี่้ อย่างแน่นอน  ไม่ว่าจะใส่ชุดป้องกันหนากี่ชั้นก็ตาม  ทำนองเดียวกับพนักงานชาวรัสเซียหลายร้อยคนที่เข้าไปแก้ไขโรงงานนิวเคลียร์ เชอร์โนเบิลของรัสเซียเมื่อเกือบ ๓๐ ปีก่อน  เมื่อพวกเขาเหล่านั้นกลับออกมา  ก็อยู่ได้ไม่กี่เดือนก็ตายกันหมดไม่เหลือสักคนเดียว

...พนักงานชาว ญี่ปุ่นที่กำลังเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เตาปฏิกรณ์ฯอยู่ขณะนี้ก็เหมือนกัน  พวกเขาคงตระหนักเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ...  สำนักข่าว   CNBC  ของอเมริกา   สัมภาษณ์นายโดนัลด์  ทรั๊มฟ์ เมื่อไม่กี่นาทีมานี้  นายทรั๊มฟ์   บอกว่า  นี่คือปฏิบัติการฆ่าตัวตาย(suicide  mission)ที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง

 :25:
4  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ในโลกนี้ มีใครพูดจริง มาตลอดทุกวินาที เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 10:03:50 am
พูดถึงศีล ข้อ 4 โดยส่วนตัวก็มีความตั้งใจ สมาทาน และปฏิบัติมิให้ด่างพร้อย

แต่พอถึงสถานการณ์ จริง ๆ แล้วเราก็ยังต้องพูดโกหก อีกเช่น

 เมื่อวาน ไปงานศพพ่อเพื่อน ซึ่งมีอายุ 92 ปี ( ก็อายุมาก นะคะ )

  แต่เมื่อไปถึงเพื่อน ก็พูดปลอบใจ้เพื่อนกันให้สบายใจ

   คุณตา ไปดีแล้ว  ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่า คุณตาไปดีหรือป่าว

 แต่พูดแล้วเพื่อนสบายใจ


  เมื่อวานแม่ถามว่า น้องยังกินเหล้าอยู่หรือป่าวลูก แม่ถามมาด้วยความเป็นห่วง

  ตอบแม่ไปว่า เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นไปกินเหมือนเมื่อก่อน  ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานก็รู้ว่า น้องชวนพวกไปกินกันวันศุกร์

 นี่แหละหนา อยากจะรักษาศีล แต่ถ้าพูดไปแล้วขณะนั้น ทำให้คนอื่นไม่สบายใจ ก็เลยรักษาไม่ค่อยได้ข้อนี้


 อยากจะถามว่า ในโลกนี้ มีคนที่พูดความจริงทุกวินาทีหรือไม่

     :s_hi:
5  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / อ่านสักนิด " โรคกรรม " เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2011, 08:01:11 am
อ่านสักนิด " โรคกรรม "
ไปเยี่ยมเยียน หมอน้องชายเล่าเรื่องแปลกของคนไข้รายหนึ่งให้ฟัง 

ซึ่งน่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้คนละบาปได้ดีจึงขอเล่าสู่กันฟังต่อ  …….

การสนทนาตอนหนึ่งหมอน้องชายเล่าให้ฟังว่า 

ตั้งแต่เป็นหมอมาไม่เคยเห็นผู้ป่วยรายใดต้องผ่าตัดทุลักทุเลซ้ำซากอย่างนี้เลย 

สามปีต้องผ่าตัดห้าครั้งและหนักหนายิ่งขึ้นทุกครั้ง 

ผู้ป่วยรายนี้ชื่อบุญมาครั้งแรกที่เข้าโรงพยาบาลก็เพื่อมาทำแผลที่นิ้วก้อยที่ถูกตะพาบน้ำกัด 

หมอให้ทายากินยาแก้ปวดแก้อักเสบแล้วกลับบ้านดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอีก 

ครึ่งเดือนต่อมาบุญมากลับมาใหม่แผลเก่าอักเสบรุนแรงบวมใหญ่ 

หมอตรวจพบว่าเชื้อโรคกินเข้ากระดูก จะต้องตัดนิ้วเพื่อไม่ให้เน่าลุกลาม 

ซึ่งนิ้วเท้านั้นอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ 

หลังจากนั้นครึ่งปีบุญมาไปเที่ยวชายทะเลเขาถูกตะพาบน้ำกัดที่นิ้วเท้าอีก 

อะไรจะเจาะจงได้ถึงอย่างนั้นนิ้วเท้าของบุญมาที่ถูกตะพาบน้ำกัดครั้งที่สองอักเสบบวมใหญ่ 

ภายในเวลาสองวัน เมื่อมาฉายเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลก็ได้พบอีกว่า 

เชื้อโรคกินเข้าไปถึงกระดูกหมดจึงต้องตัดนิ้วเท้าของเขาไปอีกหนึ่งนิ้ว 

เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งปีบุญมากลับมาที่โรงพยาบาลอีก 

ครั้งนี้แผลเก่าทั้งสองแห่งเกิดอักเสบบวมใหญ่ขึ้นพร้อมกัน 

พอเอกซเรย์ก็พบว่าแย่แล้ว  !  เชื้อโรคแพร่เข้าไปกินกระดูกอย่างรุนแรง 

เชื้อโรคนั้นกำลังกลายเป็นมะเร็ง จะต้องผ่าตัดฝ่ามือฝ่าเท้าออกให้หมดก่อนที่จะลุกลามขึ้นไปอีก 

บุญมาต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึงยี่สิบกว่าวันด้วยสภาพของผู้ป่วยด้วน 

วันหนึ่งลูกชายของญาติอุปสมบทบุญมาไปช่วยงาน คืนนั้นผู้ร่วมงานบวชนอนค้างที่วัดกันสี่ห้าสิบคน 

เคราะห์หามยามร้ายของบุญมายังไม่จบสิ้นหนูตัวหนึ่งเจาะจงมา กัดตรงขาด้วนของบุญมาคนเดียว กัดแล้วก็หนีไป 

บุญมาสะดุ้งตื่นด้วยความเจ็บปวดคนที่นอนอยู่ด้วยกันตกใจกับเสียงร้องพากันตื่นหมด 

แผลที่หนูกัดไม่กว้างไม่ลึกนักมีเลือดซึมออกมาแต่ทุกคนพากันตกใจที่อยู่ดีๆ 

ทำไมจึงมีหนูมากัดคนนอนหลับเพราะหนูจะกัดกินก็เฉพาะศพเท่านั้น 

ไม่กัดกินคนเป็นๆบุญมาขวัญเสียถูกเคราะห์กรรมซ้ำเติมจนคิดว่าตนคงจะต้องตายในไม่ช้า 

มันทารุณจิตใจมากไม่นานต่อมาเกิดอาการเจ็บคันบริเวณแผลเก่าที่มือที่เท้าอีก

บุญมารีบมาหาหมอที่โรงพยาบาลโดยเร็ว 

ผลการฉายเอกซเรย์ปรากฏว่าเชื้อมะเร็งกินลึกเข้าไปมาก หมอจำเป็นต้องจัดการตัดแขนขาทั้งท่อนของบุญมาทิ้งไป 


หมอน้องชายซึ่งเป็นเจ้าของคนไข้แปลกใจในชะตากรรมของบุญมานัก 

จึงสอบถามประวัติอย่างละเอียดอีกครั้งไว้และได้ความว่า

บุญมาชายอายุยี่สิบสามปี อาชีพเกษตรกรรมและรับจ้างก่อสร้าง ชอบดื่มเหล้าเป็นประจำชอบแกล้มเหล้าด้วยปลาน้ำจืด
โดยเฉพาะชอบกินเต่ากินตะพาบ 

บุญมาเคยได้ยินมาว่าใครกินตะพาบน้ำได้สิบถึงยี่สิบตัวแล้ว 

ตลอดชีวิตจะไม่เป็นโรคไขข้ออักเสบอีกทั้งยังช่วยบำรุงไต 

บุญมาจึงเพียรหาตะพาบน้ำมาผัดเผ็ดแกล้มเหล้าขาว บุญมากินตะพาบน้ำมาแล้วเกือบยี่สิบปี นับไม่ได้แล้วว่ากินเข้าไป
ได้กี่ตัว วันหนึ่งบุญมาซื้อตะพาบน้ำตัวใหญ่จากตลาดมา 

ตะพาบน้ำตัวนี้น้ำหนักตั้งสิบกว่ากิโลกรัมเขาดีใจมาก ตัวใหญ่ขนาดนี้ฆ่ากินทีเดียวไม่หมดจะต้องค่อยๆกิน ที่บ้านไม่มีตู้เย็นให้แช่เก็บได้จึงต้องกินผ่อนทีละน้อย ตะพาบน้ำเป็นสัตว์อายุยืนอดทนไม่ตายง่ายๆ ไม่ว่าจะถูกกักขังอยู่ในสภาพใดก็อดทนมีชีวิตอยู่ได้เป็นปี 

บุญมาเห็นแก่กินไม่นึกถึงว่าตะพาบจะต้องทนทุกข์ทรมานนานเพียงไร ต้องเจ็บปวดแสนสาหัสครั้งแล้วครั้งอีก 

เขาตัดเฉือนเนื้อตะพาบส่วนต่างๆ ตามความพอใจมาปรุงอาหารทีละชิ้นๆ บาดแผลรอบตัวตะพาบเขาทาด้วยปูนแดงที่กินกับหมากเพื่อไม่ให้เนื้อตัวตะพาบ เน่า ตะพาบตัวนั้นต้องทนทุกข์ทรมานอยู่นานกว่าครึ่งเดือน 

จากนั้นบุญมาจึงประหารเอามากินเป็นมื้อสุดท้าย บุญมาพอใจกับวิธีที่จะได้กินเนื้อตะพาบสดๆ ทุกวันอย่างนี้เรื่อยมา 

ผลสรุปประวัติผู้ป่วยที่โรงพยาบาลบันทึกไว้ในตอนท้ายมีอยู่ประโยคหนึ่งว่า  …..

เป็นประวัติที่แสดงให้เห็นกรรมตามสนองอย่างไม่น่าเชื่อที่ไม่มีข้อสรุปชัดเจน ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ปัจจุบัน

ปล.คุณควรตระหนักถึงการกระทำที่คุณได้ทำอยู่ในทุกวันนี้ 

ถึงผลดีและผลร้ายที่คุณได้กระทำลงไป มันจะส่งผลกลับมาหาคุณเอง ที่เรียกกันว่า  '  กรรมตามสนอง '  นั้นเอง 

ขอขอบคุณหนังสือธรรมะทุกเล่มที่ให้ความรู้แก่ผู้คนทั้งหลายเรื่องดีๆ
6  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / การลดกรรม 45 อย่าง แบบที่เราท่านทั้งหลายทำกันได้ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 02:43:21 pm
การลดกรรม 45 อย่าง

1. กรรมที่ไม่มีลูก
กรรมจาก การทำร้ายลูกของสัตว์อื่น พรากสัตว์อื่นจากพ่อแม่หรือเคยข่มเหงลูกคนอื่น
ลดกรรม ด้วยการงดกินเนื้อสัตว์ทุกๆ 7 วัน ในทุกๆเดือนทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญบริจาคทานที่มูลนิธิสัตว์หรือ

2. เจ็บป่วยบ่อย หรือเป็นโรคร้าย
กรรมจาก เคยทำทารุณกรรมต่อสัตว์
ลดกรรม ด้วยการทำบุญทำทานกับสัตว์อนาถา ให้อาหารให้ความเมตตา ซื้อยาหรือบริจาคเงินที่โรงพยาบาลสงฆ์ ทำบุญปล่อยเต่า
งดกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต

3. ตาบอดหรือเป็นโรคตา
กรรมจาก เคยทำร้ายสัตว์ที่ดวงตา หรือไม่เคยทำบุญเติมน้ำมันตะเกียงในชาติก่อน หรือเคยทำลายไฟฟ้าของวัด ของที่สารธารณะ
ลดกรรม ซื้อโคมไฟ หลอดไฟถวายวัด ถวายเทียนห่อใหญ่ ถวายไฟฉาย เติมน้ำมันตะเกียงทุกวันพร! ะ บริจาคเงินในกล่อง
ซื้อน้ำมันเติมตะเกียงที่วัด

4. ถูกรถเฉี่ยวชน ถูกลูกหลง ถูกสัตว์กัดต่อย
กรรมจาก จากเคยเป็นคนพาลเกะกะเกเร หาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้อื่น มักรังแกและสาปแช่งผู้อื่นอยู่เสมอ
ลดกรรม หมั่นพูดดี มีวาจาไพเราะ

5. สูญเสียคนใกล้ชิด
กรรมจาก เคยยิงนกตกปลา
ลดกรรม ทำบุญไถ่ชีวิตโค กระบือ งดกินเนื้อสัตว์อย่างน้อยสัก 1 อย่างชั่วชีวิต หรือกินเจทุกๆ 3 เดือน ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

6.ถูกนินทา ถูกให้ร้าย
กรรมจาก เคยพูดจาให้เป็นเหตุให้คนอื่นเป็นทุกข์หรือเดือดร้อน
ลดกรรม พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี พูดดี พูดให้คนอื่นเกิดประโยชน์ พูดให้ผู้อื่นมีความสุข

7. มักเดือดร้อนเพราะไฟ ไฟไหม้บ้าน ไฟดูด
กรรมจาก เคยลบหลู่พระสงฆ์ และศาสนา
ลดกรรม ตักบาตรทุกวันพระ ทำบุญถวายสังฆทานทุกเดือน ฟังเทศน์ฟังธรรมทุกวันพระ หรือทุกๆเดือนในวันพระ ร่วมพิมพ์หนังสือ
ธรรมะแจกจ่ายฟรี

8. ขาดบารมี ไร้ญาติขาดมิตร
กรรมจาก ไม่เคยไปร่วมงานบุญงานศพ
ลดกรรม ร่วมทำบุญงานศพ บริจาคเงิน หรือร่วมด้วยแรงกายช่วยงานอื่นๆในงานศพ เช่นทำอาหาร จัดดอกไม้

9. ตั้งหลักปักฐานไม่ได้ โยกย้ายบ่อย
กรรมจาก ไม่เคยร่วมทำบุญสร้างโบสถ์สร้างวิหาร แก่วัดวาอารามต่างๆ
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างหลังคาวิหาร ร่วมทำบุญฝังลูกนิมิต หมั่นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ณ เมืองที่ตนอยู่อาศัย

10. มักถูกรังแก ถูกเบียดเบียน
กรรมจาก ไม่เคยบวช หรือทำบุญงานบวช
ลดกรรม บวช ด้วยจิตศรัทธาปวารถาอย่างบริสุทธิ์ไม่มีเจตนาอื่นแ! อบแฝงจะบวช 7 วัน หรือ 15 วัน 1 เดือน 1 พรรษา แล้วแต่
จิตศรัทธา ถ้าเป็นสตรีจะบวชชีพราหมณ์ หรือถือศีล 8 ตามเวลาที่สะดวกและตั้งจิตศรัทธา หรือร่วมทำบุญงานบวชอย่าง
สม่ำเสมอเท่าที่จะทำได้

 

11.ไม่มีคนชื่นชมเอ็นดู ขาดเสน่ห์
กรรมจาก ไม่เคยถวายของหอม
ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระทุกวันพระ ถวายธูปหอม เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย ทองคำเปลว ประน้ำอบน้ำปรุง ประพฤติดี
ปฏิบัติชอบต่อผู้อื่น คิดดี ทำดี พูดดี ให้ผู้อื่นได้ดี มิให้ร้ายผู้ใด

12. เป็นที่รังเกียจ มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว
กรรมจาก ทำติเตียนดูแคลน ผู้ที่ชอบทำบุญทำทาน
ลดกรรม หมั่นทำบุญทำทานอย่างสม่ำเสมอ ฟังเทศน์มหาชาติทุกๆปี ชักชวนผู้อื่นให้ร่วมทำบุญหรือบริจาคทานเป็นการบอกบุญผู้อื่น
พิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจกฟรี

13. ไปไหนมาไหนลำบาก มีแต่อุปสรรค
กรรมจาก เคยทำลายหนทางสัญจรของวัด หรือของชาวบ้าน หรือทำให้ทางสัญจรสาธารณะได้รับความไม่สะดวก
ลดกรรม บริจาคทรัพย์หรือแรงกายช่วงสร้างสะพาน สร้างทางอันเป็นประโยชน์แก่วัด หรือชุมชนเล็กๆ ช่วยผู้คนยากไร้ให้
ได้มียวดยานพาหนะหรือทางสัญจรที่สะดวก

14. เป็นคนรับใช้เขาร่ำไป

กรรมจาก เคยเนรคุณผู้ที่เคยมีพระคุณแก่ตน
ลดกรรม ตอบแทนผู้มีคุณด้วยความกตัญญู ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูป พระประธาน ทำทานทั้งกับคนและสัตว์

15. ขัดสน อดมื้อกินมื้อ
กรรมจาก เคยละเว้นการใส่บาตร ละเว้นการให้ทาน เมื่อมีคนยากไร้มาขอทานอาหารและน้ำ
ลดกรรม แบ่งปันอาหาร น้ำ เสื้อผ้า แก่คนยากไร้อนา! ถา แม้ไม่มีเงินก็แบ่งปันสิ่งของตามที่มี ตักบาตรทุกเช้าหรือทุกวันพระ

16. อาภัพคู่ ร้างคู่
กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขา
ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานคู่บ่าวสาวที่ยากจน ถวายของเป็นคู่ เช่น แจกันคู่
เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ เป็นต้น

17. ได้คู่ที่เลวร้าย ทำร้ายตนหรือทำให้เป็นทุกข์
กรรมจาก เคยข่มขืนเขาในชาติก่อน เคยทุบตีทำร้ายคู่
ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

18. อยู่โดดเดี่ยวยามบั้นปลาย
กรรมจาก เคยจับสัตว์ขัง
ลดกรรม ทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญทำทานแก่เด็กอนาถาและสัตว์อนาถา

19. รูปร่างหน้าไม่งดงาม
กรรมจาก ไม่เคยถวายดอกไม้ของหอม
ลดกรรม ถวายพวงมาลัยดอกไม้สด ดอกไม้หอม ทำบุญบริจาคดวงตา บริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล

20. มักถูกโกง ถูกเบี้ยวเงิน
กรรมจาก เคยคดโกงผู้อื่น!
ลดกรรม สละทรัพย์บริจาคร่วมการกุศลต่างๆ ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวรทุกๆเดือน

21. พิการ ร่างกายไม่สมประกอบ
กรรมจาก เคยทุบตีพ่อแม่ ด่าพ่อแม่ หรือทำร้ายพ่อแม่
ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระ ปล่อยนกปล่อยปลา ถือศีล 5 ศีล 8 เจริญภาวนา นั่งวิปัสสนากรรมฐาน

22. มีคดีความ
กรรมจาก เคยพบคนทุกข์ร้อนแล้วไม่ช่วยหรือพยายามหาทางช่วยเหลือ
ลดกรรม หมั่นทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา นั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือนๆละ 7 วัน

23. ไร้ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
กรรมจาก ไม่สงเคราะห์คนอนาถา ที่มาขออาหาร ขอชายคาหลบฝน ไม่มีน้ำใจช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก
ลดกรรม ร่วมทำบุญซื้อกระเบี้องหลังคาโบสถ์ หมั่นไปกราบไหว้บู! ชาศาลหลักเมือง ทำบุญทำทานแก่สัตว์พิการหรือสัตว์จรจัด

24. จิตใจขุ่นมัว ดุดัน ขี้โมโห
กรรมจาก มักตะหนี่ในการทำบุญ
ลดกรรม สวดมนต ์ไหว้พระ ทุกวันพระ ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 5 หรือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือน บริจาคทาน แบ่งปันเงินทองหรือ
สิ่งของแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือร่วมทำบุญบริจาคทานกับมูลนิธิสถานสงเคราะห์ และวัดวาอารามต่างๆ

25. ไม่มีชื่อเสียง
กรรมจาก เคยติฉินนินทาทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างหอระฆัง ร่วมทำบุญหล่อเทียนพรรษา ทำทานกับคนยากไร้ และสัตว์อนาถา

26. ไม่มีวาสนาบารมี
กรรมจาก ไม่เคยนับถือชื่นชมผู้นับถือธรรมมะ
ลดกรรม ทำบุญสร้างพระพุทธรูป ทำทานกับคน

27. มีลูกหลานไม่ดี เกเร ไม่เชื่อฟัง
กรรมจาก ทำแท้ง เคยทำร้ายคนใกล้ชิดมาก่อน และทำร้ายจิตใจครอบครัวในชาติก่อน
ลดกรรม บวชเณร โดยให้ลูกบวชหรือไปร่วมบวช จะทำให้กรรมน้อยลง ปฏิบัติธรรม อุทิศให้ลูกตนเอง

28. เจอแต่คนเอาเปรียบ
กรรมจาก เคยเบียดเบียนเงินพ่อแม่ไว้ในอดีตชาติ เคยโกงคนไว้ในอดีตชาติ ขโมยเงินครอบครัวมาใช้
ลดกรรม หมั่นยึดถือศีล 5 ให้มั่น ไม่ดื่มเหล้า ทำให้ขาดสติ โดนโกงง่าย หมั่นสวดมนต์ อธิษฐานบารมีด้านขอพรให้พบเจอคนดี ๆ
เข้ามาในชีวิต

29. เกิดในสกุลต้อยต่ำ
กรรมจาก โอหัง อวดดี จิตใจคับแคบ
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างวัด สร้างพระประธาน ทำบุญทำทานกับคนยากไร้ และสัตว์อนาถา พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี

30. ไร้สง่าราศี ขาดวาสนา
กรรมจาก เคยเมาสุระอาละวาด ระรานผู้อื่น!
ลดกรรม นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ทำทานกับคนอนาถา และสัตว์อนาถา ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี

31. ไม่เจริญก้าวหน้า จิตใจเป็นทุกข์
กรรมจาก เคยชักจูงคนทำชั่ว
ลดกรรม ถือศีล 8 เป็นเวลา 7 วัน ทุกๆ 3 เดือน หมั่นทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน

32. จิตใจฟุ้งซ่าน เป็นทุกข์
กรรมจาก เคยริษยาผู้อื่น
ลดกรรม ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ปล่อยปลาลงน้ำ นั่งสมาธิ สวดมนต์บทคาถาพระชินบัญชร

33. ชีวิตตกต่ำ ทำสิ่งใดไม่เจริญ
กรรมจาก เคยทำแท้ง
ลดกรรม ปล่อยปลาลงน้ำทุกๆเดือน จนครบ 9 เดือน หรือ 1 ปีเต็ม ถวายสังฆทาน ทำบุญใส่บาตรเสมอ

34. เป็นเมียน้อย เมียเก็บ
กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขามาก่อน ขืนใจเขาโดยไม่ยินยอม เคยอธิษฐานจิตร่วมกันมาว่ากี่ภพก็ขอให้ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
ลดกรรม ถวายธงคู่ ธูปคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ อย่างใดก็ได้ อธิษฐานจิตขอให้ชีวิตคู่ที่ดีขึ้น บวชชีพราหมณ์ ปีละ 1 ครั้ง 3 วัน อุทิศให้
เจ้ากรรมนายเวรที่เคยล่วงเกินให้ได้รับกุศลและเปิดทางให้ชีวิตคู่ดีขึ้น ร่วมเป็นเจ้าภาพงานแต่ง เพื่อชีวิตตนจะดีขึ้นและ
สมหวัง สวดมนต์ขอพรทุกวันเกิดด้านความรักให้สมหวังต่อไป ทำบุญสังฆทานสด ในวันเกิดตนเอง เดือนละครั้ง เพื่ออุทิศ
ให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติและวิญญาณที่ตามมาให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรม

35. เป็นทุกข์เพราะคนในครอบครัว
กรรมจาก เคยลำเอียง ไร้คุณธรรมในด้านครอบครัวไว้ก่อน เคยเอารัดเอาเปรียบคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดไว้ในชาติอดีตและ
ชาติปัจจุบัน เคยทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกในอดีตชาติ
ลดกรรม ต้องบวชชีพราหมณ์ เพราะเมื่อเกิดอีกภพชีวิตจะได้ดีมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะกุศลของการบวช ปฏิบัติธรรมทำให้เจ้ากรรมนายเวร
อโหสิกรรม และตนเองได้พบสิ่งที่มีกุศลมากขึ้น ยึดพรหมวิหาร 4 มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จะทำให้ชีวิตมีความเมตตา
และไม่ลำเอียงเอารัดเอาเปรียบคนใกล้ชิด ทำให้วิถีชีวิตมีคนนับถือและพ้นจากความทุกข์ในเรื่องญาติพี่น้องยุ่งเกี่ยวได้
นำพระคู่บ้านคู่เมืองเข้าสักการะที่บ้าน และสวดมนต์ขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข

36. เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต
กรรมจาก ฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ ทำร้ายคนไว้ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ
ลดกรรม ตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติ รวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ได้กุศลและอโหสิกรรมซึ่ง
กันและกัน ปล่อยสัตว์ลงน้ำในวันเกิดตนเอง กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรได้รับและอโหสิกรรม ถวายยาเข้าวัด
หรือช่วยเหลือคนป่วย

37. เป็นมะเร็ง
กรรมจาก รู้เห็นเป็นใจกับการทำแท้ง การทารุณสัตว์ หรือการทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่น
ลดกรรม ทำบุญใหญ่อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และบวชชีพราหมณ์ 1 เดือน เพื่อส่งกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม
ทำบุญสร้างพระพุทธรูป สร้างโบสถ์หรือสร้างศาลาวัด ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี หมั่นนั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน

38. ค้าขายขาดทุน ทำงานไม่ก้าวหน้า
กรรมจาก เคยลบหลู่เจ้าที่เจ้าทาง
ลดกรรม หมั่นทำบุญใส่บาตร ถวายสังฆทาน ถวายเครื่องเซ่นสังเวย เจ้าที่-เจ้าทาง หมั่นสวดมนต์บทคาถาพระชินบัญชร

39. ด้อยปัญญา
กรรมจาก ฝักใฝ่อบายมุขในชาติก่อน หรือชักชวนคนไปทำชั่ว ดูแคลนหลักธรรมมะ
ลดกรรม พิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจก ทำบุญทำทานกับโรงเรียนของเด็กพิการหรือตาม! ูลนิธิต่างๆ

40. ตกงาน
กรรมจาก เคยกลั่นแกล้งผู้อื่นในเรื่องงาน หรือแย่งงานผู้อื่น
ลดกรรม หมั่นทำบุญทำทาน ร่วมงานบุญต่างๆ ปล่อยนกปล่อยปลา

41. ไม่มีโชคลาภ
กรรมจาก ไม่เคยสวดมนต์ไหว้พระ
ลดกรรม หมั่นทำบุญสวดมนต์ไหว้พระ ถวายธูป เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย และทองคำเปลว

42. เรียนไม่จบ การเรียนมีอุปสรรค
กรรมจาก ชาติก่อนปฏิเสธการฟังเทศน์ฟังธรรม
ลดกรรม หมั่นเข้าวัด ร่วมงานบุญต่างๆ ฟังเทศน์ อ่านหนังสือธรรมะ

43. มีอาชีพต้อยต่ำที่ผู้คนดูแคลน
กรรมจาก ชาติก่อนเคยบวชด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ ไร้ความศรัทธา อาศัยผ้าเหลืองหากิน
ลดกรรม ถือศีล 5 ศีล 8 นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ถวายสังฆทานทุกเดือน หรือทุก 3 เดือน

44. ครอบครัวยากจน
กรรมจาก ชาติก่อนไม่เคยบริจาคทาน
ลดกรรม หมั่นทำบุญด้วยการบริจาคทาน ถ้ามีเงินไม่มากก็บริจาคเป็นสิ่งของ แรงกาย หรือน้ำใจ ต่อผู้ตกทุกข์ได้ยาก เช่น ไปช่วยอ่านหนังสือให้มูลนิธิคนตาบอด

45. เป็นทุกข์เพราะความรัก
กรรมจาก ชาติก่อนเจ้าชู้ หลอกผู้อื่นให้อกหัก
ลดกรรม ประพฤติดีปฏิบัติดีทั้งความคิด กาย วาจา ใจ ร่วมทำบุญงานแต่งงาน ทำสิ่งดีๆให้คนอื่นได้สมรักสม

ที่มาจากเว็บ

http://www.thaismarttips.com/board/index.php?topic=357.0
7  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 50 ข้อคิดดี ๆ ยามเช้านี้ คะ เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 08:48:56 am



1.คาดหวังให้สูงเข้าไว้และแน่นอนว่าต้องเตรียมใจที่จะพบกับความผิดหวังด้วย

2.ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง

3.ถ้าเชื่อว่าไม่แพ้ เราก็จะไม่แพ้

4.คนเข้มแข็งเท่านั้นที่จะอยู่บนโลกใบนี้ได้

5.อุปสรรคล้วนเป็นยาขม ไม่มีใครอยากลิ้มลอง แต่ขึ้นชื่อว่ายาขม ส่วนใหญ่มักเป็นยาดีเสมอ

6.ขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้ความสุขในคราวต่อมาเป็นความสุขที่แท้จริง

7.เพื่ออะไรกับการรอคอยที่ไม่มีความหมาย

8.ยิ่งบทเรียนยากขึ้นเท่าไหร่ ถ้าเราผ่านมันไปได้เราก็จะยิ่งเก่งขึ้นเท่านั้น

9.กุหลาบไร้หนามมีเพียงมิตรภาพเท่านั้น

10.อย่ากังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่ให้คำนึงถึงสิ่งที่กำลังทำ

11.แม้แต่นิ้วของคนเรายังยาวไม่เท่ากัน นับประสาอะไรกับความยั่งยืนของชีวิต

12.โลกใบนี้เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ถ้าไม่ออกเดินทางก็ไม่มีวันค้นพบ

13.ไม่มีใครสะดุดภูเขาล้ม มีแต่สะดุดก้อนหินล้ม

14.ไม่มีใครเข้มแข็งตลอดไปและไม่มีใครอ่อนแอตลอดกาล

15.บางครั้งเราก็เหมือนคนตาบอดมีวิธีเดียวที่จะพาเรามุ่งหน้าไปได้คือการคลำทางเดินหน้าต่อไป

16.อย่าเกลียดน้ำตาเพราะมันคือเพื่อนแท้ อย่าเกลียดความอ่อนแอเพียงเพราะมันไม่ใช่ความเข้มแข็ง

17.มีเพียงชีวิตที่ทำเพื่อคนอื่นเท่านั้นที่ควรค่าแก่การมีชีวิต

18.ทุกอย่างมีค่าเสมอ อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าไม่ควรจะทำมันอีก

19.คนฉลาดย่อมไม่นำแต่ตาม ย่อมไม่พูดแต่ฟัง

20.ทุกคนได้ยินในสิ่งที่คุณพูด ต่เพื่อนที่ดีที่สุดจะได้ยินแม้ในสิ่งที่คุณไม่ได้พูด

21.อวดโง่ดีกว่าอวดฉลาด

22.คนที่ว่าคนอื่นโง่ บุคคลนั้นโง่ยิ่งกว่า คนที่ว่าคนอื่นฉลาด บุคคลนั้นคือผู้ฉลาดอย่างแท้จริง

23.ฝันได้แต่อย่าหวัง

24.เรียนรู้ที่จะแพ้อย่างผู้ชนะ แล้วจะรู้จักกับคำว่าชัยชนะที่แท้จริง

25.นักปราชญ์ควรรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุด

26.ความยึดถือคือความเจ็บปวด

27.พระเจ้าไม่ได้รักเรามากกว่าคนอื่น และไม่ได้รักคนอื่นมากกว่าเรา

28.อุปสรรคคือแบบทดสอบของชีวิต

29.ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต

30.สิ่งร้ายๆจะมาพร้อมกับสิ่งดีๆเสมอ

31.โลกใบนี้ยังมีมุมดีๆให้มอง

32.ตัวเรายังไม่ได้ดั่งใจเรา แล้วคนอื่นจะเป็นได้อย่างไร

33.ถนนบางสายไกลหน่อยแต่ก็ยังมีวันถึง

34.แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง แต่งใจด้วยความดี

35.ความเจ็บปวดทำให้หัวใจแข็งแกร่ง

36.เดินคนเดียวอาจไม่รู้สึกดีอะไร แต่อย่างน้อยก็มีที่แกว่งแขนมากขึ้น

37.ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วทำวันพรุ่งนี้ให้ดีกว่าเดิม

38.ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เพราะทุกปัญหาแก้ไขได้

39.ถ้าไม่ลองก้าวจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองวิ่งได้

40.ตึกสูงระฟ้ามาจากก้อนอิฐ

41.ใช้ชีวิตอยู่กับความจริง ยอมรับสิ่งที่เป็น มองเห็นข้อดีคนอื่น หยัดยืนด้วยขาตัวเอง

42.เราจะรู้รสชาติของความสุขก็ต่อเมื่อเราผ่านความทุกข์มาก่อน

43.ปัญหามีไว้แก้ และต้องแก้ด้วยตัวเองไม่ใช่ยืมมือคนอื่นมาแก้

44.จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์คือความเชื่อใจ

45.ทุกคนมีคุณค่าเพียงแต่มีโอกาสแสดงคุณค่าไม่เท่ากัน

46.บางทีการได้เจอปัญหามันก็ดีเหมือนกัน

47.สิ่งที่ผ่านมาแล้วจะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก

48.ไม่ว่าใครจะตายหรือหายไป สุดท้ายโลกก็ยังหมุนต่ออยู่ดี

49.น้ำตาให้ได้แค่ความเห็นใจ

50.ในการที่จะเริ่มต้นทำสิ่งใดทุกครั้งควรคิดถึงจุดจบด้วย



 


--
โอ้ชีวิตมีอะไรตั้งเยอะแยะ
มีเกิดแก่เจ็บตายคล้ายๆ กัน
แต่สิ่งที่มีไม่เหมือนคือความฝัน
อยู่ที่ใครจะล่ามันให้อยู่มือ
8  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สวัสดียามเช้า วันสิ้นเดือน 31 ม.ค. 2554 เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 08:45:42 am
ผ่านปีไปอีก 1 เดืิอนแล้วนะคะ เอาภาพสวยๆ มาให้ดูยามเช้านี้คะ เซพเป็น สกรีนเซพเวอร์ได้คะ












ขอบคุณภาพ
http://fwmail.teenee.com
9  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สร้างสมาธิจากนิสัย เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 08:42:48 am


สมาธิเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำกิจกรรมต่างๆ
มีเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับการสร้างสมาธิพื้นฐาน จากชีวิตประจำวันมาฝาก

ซึ่งวัยเรียนและวัยทำงานสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้
เพื่อช่วยควบคุมความสนใจ การรับรู้
ให้จดจ่อต่อสิ่งที่กระทำอยู่อย่างต่อเนื่องจนติดเป็นนิสัย

สร้างความเต็มใจและจริงใจที่จะทำเรื่องนั้นๆ
จะช่วยให้เราสนใจในสิ่งเดียว ไม่วอกแวกสนใจเรื่องอื่น

สร้างนิสัย ‘ มุ่งมั่นลงมือทำทันที’
จะฝึกให้เราเป็นคนมีคุณลักษณะที่ดี คือ การควบคุมความสนใจ จดจ่อต่อสิ่งที่กระทำอยู่อย่างต่อเนื่องจนสำเร็จ
ซึ่งอีกด้านหนึ่ง การยืดเวลาหรือผัดวันประกันพรุ่ง จะทำให้เบื่อหน่ายกับงานเดิมๆ จนกลายเป็นความเกียจคร้าน
ซึ่งเป็นอุปสรรคของการเรียนและการทำงานด้วย

จัดลำดับเรื่องที่จะทำ
จะช่วยให้การทำสิ่งนั้นๆ เป็นระบบ และใช้เวลาน้อย
ตรงกันข้ามกับการสนใจหลายเรื่องในเวลาเดียวกันจะทำให้ไม่มีสมาธิ

รู้จักแบ่งเวลาพักผ่อน
เพื่อผ่อนคลายสมอง และรักษาสภาพจิตใจให้คลายความกังวลในงานนั้นๆ
เพราะถ้าเราคร่ำเครงกับสิ่งต่างๆ มากเกินไป จะเป็นอุปสรรคต่อสมาธิ

การหมั่นสร้างนิสัยในชีวิตประจำวันให้มีสมาธินั้น
นอกจากจะทำให้จิตใจสงบ มีสติในการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว
ยังเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยเตรียมความพร้อม เพื่อการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในทุกๆวันด้วย.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
10  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เรื่องของปลากปิละ ผู้มีอดีตเป็นผู้กล่าวแต่ พระธรรมอย่างเดียว ไม่ปฏิบัติ เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 12:45:13 pm
เสนอเนื้อหาไว้สองแบบคะ แบบพระสูตร กับ แบบเนื้อเรื่อง ชอบแบบไหน อ่านแบบนั้นนะคะ
 :93: :93: :93:

๑. เรื่องปลาชื่อกปิละ [๒๔๐]
               
ข้อความเบื้องต้น


   พระศาสดา  เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน   ทรงปรารภปลาชื่อกปิละ
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " มนุชสฺส "  เป็นต้น.
               
สองพี่น้องออกบวช

   ได้ยินว่า  ในอดีตกาล  ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนาม
ว่ากัสสป   ปรินิพพานแล้ว    กุลบุตรสองคนพี่น้องออกบวชในสำนักแห่ง
พระสาวกทั้งหลาย.
   บรรดากุลบุตรสองคนนั้น    คนพี่ได้ชื่อว่าโสธนะ,  คนน้องชื่อกปิละ.
ส่วนมารดาของคนทั้งสองนั้น    ชื่อว่าสาธนี,    น้องสาวชื่อตาปนา.    แม้
หญิงทั้งสองนั้น     ก็บวชแล้วใน  ( สำนัก ) ภิกษุณี.    เมื่อคนเหล่านั้นบวช
แล้วอย่างนั้น      พี่น้องทั้งสองทำวัตรและปฏิวัตรแก่พระอาจรรย์และพระ-
อุปัชฌายะอยู่    วันหนึ่ง    ถามว่า  " ท่านขอรับ   ธุระในพระศาสนานี้มี
เท่าไร ?"    ได้ยินว่า    " ธุระมี ๒ อย่าง    คือ  คันถธุระ  ๑   วิปัสสนา-
ธุระ  ๑,"   ภิกษุผู้เป็นพี่คิดว่า  " เราจักบำเพ็ญวิปัสสนาธุระ"  อยู่ในสำนัก
แห่งพระอาจารย์และพระอุปัชฌาย์  ๕ พรรษาแล้ว     เรียนกัมมัฏฐานจน
ถึงพระอรหัต   เข้าไปสู่ป่าพยายามอยู่   ก็บรรลุพระอรหัตผล.
           
น้องชายเมาในคันถธุระ

   ภิกษุน้องชายคิดว่า      " เรายังหนุ่มก่อน,    ในเวลาแก่จึงจักบำเพ็ญ

   

หน้าที่ 271

วิปัสสนาธุระ "   จึงเริ่มตั้งคันถธุระ   เรียนพระไตรปิฎก.   บริวารเป็นอัน   
มากได้เกิดขึ้น   เพราะอาศัยปริยัติของเธอ,   ลาภก็ได้เกิดขึ้น   เพราะอาศัย
บริวาร.   เธอเมาแล้วด้วยความเมาในความเป็นผู้สดับมาก  อันความทะยาน
อยากในลาภครอบงำแล้ว    เพราะเป็นผู้สำคัญตัวว่าฉลาดยิ่ง   ย่อมกล่าวแม้
สิ่งที่เป็นกัปปิยะ   อันคนเหล่าอื่นกล่าวแล้วว่า   " เป็นอกัปปิยะ,"    กล่าว
แม้สิ่งที่เป็นอกัปปิยะว่า     " เป็นกัปปิยะ,"    กล่าวแม้สิ่งที่มีโทษว่า  " ไม่มี
โทษ,"  กล่าวแม้สิ่งไม่มีโทษว่า " มีโทษ."   เธอแม้อันภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก
ทั้งหลายกล่าวว่า  " คุณกปิละ    คุณอย่าได้กล่าวอย่างนี้ "    แล้ว      แสดง
ธรรมและวินัยกล่าวสอนอยู่   ก็กล่าวว่า " พวกท่านจะรู้อะไร ?  พวกท่าน
เช่นกับกำมือเปล่า"  เป็นต้นแล้ว   ก็เที่ยวขู่ตวาดภิกษุทั้งหลายอยู่.
           
น้องชายไม่เชื่อพี่

   ครั้งนั้น  ภิกษุทั้งหลายบอกเนื้อความนั้นแม้แก่พระโสธนเถระผู้เป็น
พี่ชายของเธอแล้ว.     แม้พระโสธนะเถระเข้าไปหาเธอแล้ว     ตักเตือนว่า
" คุณกปิละ       ก็การปฏิบัติชอบของภิกษุทั้งหลายผู้เช่นเธอชื่อว่าเป็นอายุ
พระศาสนา;     เพราะฉะนั้น  เธออย่าได้ละการปฏิบัติชอบแล้ว      กล่าว
คัดค้านสิ่งที่เป็นกัปปิยะเป็นต้นอย่างนั้นเลย."      เธอมิได้เอื้อเฟื้อถ้อยคำแม้
ของท่าน.   แม้เมื่อเป็นเช่นนี้    พระเถระก็ตักเตือนเธอ ๒ - ๓ ครั้ง  ทราบ
เธอผู้ไม่รับคำตักเตือนว่า    " ภิกษุนี้ไม่ทำตามคำของเรา"     จึงกล่าวว่า
" คุณ  ถ้าดังนั้น  เธอจักปรากฏด้วยกรรมของตน   ดังนี้แล้ว  หลีกไป.
          
น้องชายเสียคนเพราะถูกทอดทิ้ง

   จำเดิมแต่นั้น   ภิกษุทั้งหลายผู้มีศีลเป็นที่รัก   แม้เหล่าอื่น  ทอดทิ้ง

   

หน้าที่ 272

เธอแล้ว.     เธอเป็นผู้มีความประพฤติชั่ว     อันพวกผู้มีความประพฤติชั่ว 
แวดล้อมอยู่   วันหนึ่ง   คิดว่า  " เราจักสวดปาติโมกข์ "   จึงถือพัดไปนั่ง
บนธรรมาสน์ในโรงอุโบสถแล้ว   ถามว่า   " ผู้มีอายุ  ปาติโมกข์ย่อมเป็นไป
เพื่อภิกษุทั้งหลายผู้ประชุมกันแล้วในที่นี้หรือ ?"   เห็นภิกษุทั้งหลายนิ่งเสีย
ด้วยคิดว่า  " ประโยชน์อะไร    ด้วยคำโต้ตอบที่เราให้แก่ภิกษุ ?"    จึง
กล่าวว่า    " ผู้มีอายุ    ธรรมก็ดี    วินัยก็ดี    ไม่มี,    ประโยชน์อะไรด้วย
ปาติโมกข์   ที่พวกท่านจะฟังหรือไม่ฟัง"  ดังนี้แล้ว    ก็ลุกไปจากอาสนะ.
เธอยังศาสนาคือปริยัติของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปให้
เสื่อมลงแล้วด้วยอาการอย่างนี้.    แม้พระโสธนเถระก็ปรินิพพานในวันนั้น
เอง.
   ในกาลสิ้นอายุ   ภิกษุกปิละเกิดในอเวจีมหานรก.   มารดาและน้อง-
สาวของเธอแม้นั้น    ถึงทิฏฐานุคติของเธอนั่นแล   ด่าบริภาษภิกษุทั้งหลาย
ผู้มีศีลเป็นที่รักแล้ว  ก็บังเกิดในอเวจีมหานรกนั้นเหมือนกัน.
           
โจรเกิดในเทวโลกด้วยอำนาจของศีล

   ก็ในกาลนั้น  บุรุษ  ๕๐๐ คนทำโจรกรรมมีการปล้นชาวบ้านเป็นต้น
เป็นอยู่ด้วยกิริยาของโจร   ถูกพวกมนุษย์ในชนบทตามจับแล้ว   หนีเข้าป่า
ไม่เห็นที่พึ่งอะไรในป่านั้น        เห็นภิกษุผู้อยู่ในป่าเป็นวัตรรูปใดรูปหนึ่ง
ไหว้แล้ว     กล่าวว่า  " ท่านผู้เจริญ    ขอท่านจงเป็นที่พึ่งของพวกข้าพเจ้า
เถิด."
   พระเถระกล่าวว่า   " ชื่อว่าที่พึ่งเช่นกับศีล  ย่อมไม่มีแก่ท่านทั้งหลาย,
พวกท่านแม้ทั้งหมดจงสมาทานศีล ๕  เถิด."
   โจรเหล่านั้นรับว่า   " ดีละ"   ดังนี้แล้ว   สมาทานศีลทั้งหลาย.

   

หน้าที่ 273

        ลำดับนั้น   พระเถระตักเตือนโจรเหล่านั้นว่า   " บัดนี้    พวกท่าน 
เป็นผู้มีศีล;     พวกท่านไม่ควรล่วงศีลแม้เพราะเหตุแห่งชีวิตเลย;     ความ
ประทุษร้ายทางใจ  ก็ไม่ควรทำ."   โจรเหล่านั้นรับว่า  " ดีละ "  แล้ว.
   ครั้งนั้น   ชาวชนบทเหล่านั้น (มา) ถึงที่นั้นแล้ว    ค้นหาข้างโน้น
ข้างนี้    พบโจรเหล่านั้นแล้ว    ก็ช่วยกันปลงชีวิตเสียทั้งหมด.    พวกโจร
เหล่านั้นทำกาละแล้ว     ก็บังเกิดในเทวโลก.    หัวหน้าโจรได้เป็นหัวหน้า
เทพบุตร.
           
เทพบุตรถือปฏิสนธิในตระกูลชาวประมง
 
   เทพบุตรเหล่านั้น  ท่องเที่ยวไปในเทวโลกสิ้นพุทธันดรหนึ่ง   ด้วย
อำนาจอนุโลมและปฏิโลม      ในพุทธุปบาทกาลนี้     บังเกิดแล้วในบ้าน
ชาวประมง ๕๐๐ ตระกูล   ใกล้ประตูพระนครสาวัตถี.   หัวหน้าเทพบุตร
ถือปฏิสนธิในเรือนของหัวหน้าชาวประมง,    พวกเทพบุตรนอกนี้    ถือ
ปฏิสนธิในเรือนชาวประมงนอกนี้.    การถือปฏิสนธิและการออกจากท้อง
มารดาแห่งชนเหล่านั้น  ได้มีแล้วในวันเดียวกันทั้งนั้น  ด้วยประการฉะนี้.
   หัวหน้าชาวประมงให้คนเที่ยวแสวงหาว่า  " พวกทารกแม้เหล่าอื่น
ในบ้านนี้   เกิดแล้วในวันนี้มีอยู่บ้างไหม ?"  ได้ยินความที่ทารกเหล่านั้น
เกิดแล้ว   จึงสั่งให้ ๆ ทรัพย์ค่าเลี้ยงดูแก่ชาวประมงเหล่านั้น     ด้วยตั้งใจว่า
" พวกทารกนั้น    จักเป็นสหายของบุตรเรา."    ทารกเหล่านั้นแม้ทุกคน
เป็นสหายเล่นฝุ่นร่วมกัน      ได้เป็นผู้เจริญวัยโดยลำดับแล้ว     บรรดาเด็ก
เหล่านั้น  บุตรของหัวหน้าชาวประมงได้เป็นผู้เยี่ยมโดยยศและอำนาจ.
              
กปิละเกิดเป็นปลาใหญ่

   แม้ภิกษุกปิละ     ไหม้ในนรกสิ้นพุทธันดรหนึ่งแล้ว      ในกาลนั้น

   

หน้าที่ 274

บังเกิดเป็นปลาใหญ่ในแม่น้ำอจิรวดี  มีสีเหมือนทองคำ  มีปากเหม็น  ด้วย 
เศษแห่งวิบาก.
   ต่อมาวันหนึ่ง   สหายเหล่านั้นปรึกษากันว่า   " เราจักจับปลา "   จึง
ถือเอาเครื่องจับสัตว์น้ำมีแหเป็นต้น     ทอดไปในแม่น้ำ.   ทีนั้นปลานั้นได้
เข้าไปสู่ภายในแหของคนเหล่านั้น.   ชาวบ้านประมงทั้งหมด   เห็นปลานั้น
แล้ว     ได้ส่งเสียงเอ็ดอึงว่า  " ลูกของพวกเราเมื่อจับปลาครั้งแรก     จับได้
ปลาทองแล้ว,   คราวนี้    พระราชาจักพระราชทานทรัพย์แก่เราเพียงพอ."
สหายแม้เหล่านั้นแล   เอาปลาใส่เรือ   ยกเรือขึ้นแล้วก็ไปสู่พระราชสำนัก.
   แม้เมื่อพระราชาทอดพระเนตรเห็นปลานั้น  ตรัสว่า     " นั่นอะไร ? "
พวกเขาได้กราบทูลว่า    " ปลา  พระเจ้าข้า."   พระราชาทอดพระเนตรเห็น
ปลามีสีเหมือนทองคำ  ทรงดำริว่า   " พระศาสดาจักทรงทราบเหตุที่ปลานั่น
เป็นทองคำ"  ดังนี้แล้ว  รับสั่งให้คนถือปลา  ได้เสด็จไปสู่สำนักพระผู้มี-
พระภาคเจ้า.   เมื่อปากอันปลาพออ้าเท่านั้น  พระเชตวันทั้งสิ้น  ได้มีกลิ่น
เหม็นเหลือเกิน.
   พระราชาทูลถามพระศาสดาว่า  " พระเจ้าข้า   เพราะเหตุไร   ปลา
จึงมีสีเหมือนทองคำ ?   และเพราะเหตุไร    กลิ่นเหม็นจึงฟุ้งออกจากปาก
ของมัน ? "
   พระศาสดา.  มหาบพิตร  ปลานี้ได้เป็นภิกษุชื่อกปิละ   เป็นพหูสูต
มีบริวารมาก   ในธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่ากัสสป,
ถูกความทะยานอยากในลาภครอบงำแล้ว     ด่าบริภาษพวกภิกษุผู้ไม่ถือคำ
ของตน   ยังพระศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่ากัสสป  ให้
เสื่อมลงแล้ว .     เขาบังเกิดในอเวจีด้วยกรรมนนั้นแล้ว      บัดนี้เกิดเป็นปลา

   

หน้าที่ 275

ด้วยเศษแห่งวิบาก;   ก็เพราะเธอบอกพระพุทธวจนะ   กล่าวสรรเสริญคุณ 
พระพุทธเจ้าสิ้นกาลนาน,   จึงได้อัตภาพมีสีเหมือนทองคำนี้    ด้วยผลแห่ง
กรรมนั้น.    เธอได้เป็นผู้บริภาษภิกษุทั้งหลาย    กลิ่นเหม็นจึงฟุ้งออกจาก
ปากของเธอ  ด้วยผลแห่งกรรมนั้น;  มหาบพิตร  อาตมภาพจะให้ปลานั้น
พูด.
   พระราชา.  ให้พูดเถิด  พระเจ้าข้า.
   ลำดับนั้น    พระศาสดาตรัสถามปลาว่า  " เจ้าชื่อกปิละหรือ  ? "
   ปลา.  พระเจ้าข้า   ข้าพระองค์ชื่อกปิละ.
   พระศาสดา.  เจ้ามาจากที่ไหน ?
   ปลา.   มาจากอเวจีมหานรก  พระเจ้าข้า.
   พระศาสดา.  พระโสธนะพี่ชายใหญ่ของเจ้าไปไหน ?
   ปลา.  ปรินิพพานแล้ว   พระเจ้าข้า.
   พระศาสดา.   ก็นางสาธนีมารดาของเจ้าเล่าไปไหน ?
   ปลา.  เกิดในนรก  พระเจ้าข้า.
   พระศาสดา.  นางตาปนาน้องสาวของเจ้าไปไหน ?
   ปลา.  เกิดในมหานรก   พระเจ้าข้า.
   พระศาสดา.  บัดนี้เจ้าจักไปที่ไหน ?
   ปลาชื่อกปิละกราบทูลว่า  " จักไปสู่อเวจีมหานรกดังเดิม พระเจ้าข้า "
ดังนี้แล้ว   อันความเดือดร้อนครอบงำแล้ว   เอาศีรษะฟาดเรือ    ทำกาละ
ในทันทีนั่นเอง   เกิดในนรกแล้ว.   มหาชนได้สลดใจมีโลมชาติชูชันแล้ว.
             พระศาสดาตรัสกปิลสูตร   
   ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรวจดูวาระจิตของบริษัทผู้ประชุม

   

หน้าที่ 276

กันในขณะนั้น       เพื่อจะทรงแสดงธรรมให้สมควรแก่ขณะนั้น  จึงตรัส 
กปิลสูตรในสุตตนิบาต๑ว่า     " นักปราชญ์ทั้งหลาย    ได้กล่าวการประพฤติ
ธรรม ๑   การประพฤติพรหมจรรย์ ๑   นั่น   ว่าเป็นแก้วอันสูงสุด"   ดังนี้
เป็นต้นแล้ว  ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า:-
          ๑.   มนุชสฺส  ปมตฺตจาริโน             
         ตณฺห  วฑฺฒติ  มาลุวา  วิย
         โส  ปลวตี  หุราหุรํ
         ผลมิจฺฉํว  วนสฺมึ  วานโร.
   ยํ  เอสา  สหตี  ชมฺมี                  ตณฺหา  โลเก   วิสตฺติกา
   โสกา  ตสฺส  ปวฑฺฒนฺติ             อภิวฑฺฒํว  พีรณํ.
   โย    เจ  ตํ    สหตี   ชมฺมึ             ตณฺหํ  โลเก  ทุรจฺจยํ
   โสกา  ตมฺหา  ปปตนฺติ                อุทพินฺทุว  โปกฺขรา.
   ตํ   โว   วทามิ  ภทฺทํ   โว             ยาวนฺเตตฺถ  สมาคตา
   ตณฺหาย   มูลํ    ขณถ                    อุสีรตฺโถว   พีรณํ.
   มา   โว   นฬํ  ว  โสโตว              มาโร   ภญฺชิ   ปุนปฺปุนํ.
      " ตัณหา   ดุจเถาย่านทราย  ย่อมเจริญแก่คนผู้มี
   ปกติประพฤติประมาท.   เขาย่อมเร่ร่อนไปสู่ภพน้อย
   ใหญ่   ดังวานรปรารถนาผลไม้เร่ร่อนไปในป่าฉะนั้น.
   ตัณหานี้เป็นธรรมชาติลามก  มักแผ่ซ่านไปในอารมณ์
   ต่าง ๆ ในโลก    ย่อมครอบงำบุคคลใด   ความโศก
   ทั้งหลายย่อมเจริญแก่บุคคลนั้น,  ดุจหญ้าคมบางอัน
๑.  ขุ.  สุ. ๒๕/ ข้อ ๓๒๑.  ธรรมจริยสูตร.
11  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สัตว์จำศีลคืออะไร เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 12:39:56 pm
      
สัตว์จำศีล (Hibernation)

         การจำศีลของสัตว์ หมายถึง ช่วงเวลาที่สัตว์หยุดพัก หยุดเคลื่อนที่ โดยเคลื่อนไหวน้อยที่สุด เพื่อถนอมพลังงานในร่างกายให้ถูกใช้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ และใช้พลังงานจากส่วนที่ถูกสะสมเอาไว้ เช่น จากไขมันบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย

การจำศีลเกิดขึ้นเมื่ออยู่ในช่วงที่สภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น หนาวเกินไป หรือแห้งเกินไป ซึ่งเมื่อก่อนจะถึงฤดูจำศีล สัตว์จะกินอาหารอย่างเต็มที่ เพื่อสะสมอาหารไว้ใช้ตลอดช่วงจำศีล

สถานที่และพฤติกรรมในการจำศีล แตกต่างกันออกไปตามชนิดของสัตว์ เช่น

นก          -        จำศีลชั่วคราวโดยการนอนหลับครั้งละหลาย ๆ วัน

เต่า , งู     -        นอนเบียดหรือทับกัน เพื่อให้อุณหภูมิสูงกว่าสิ่งแวดล้อม 1-2 องศาเซลเซียส

หอย        -        เข้าไปอยู่ใต้ขอนไม้ผุ ๆ หรือใต้ก้อนหิน สร้างเมือกเคลือบปิดฝาเอาไว้

กบ          -        จำศีลในรูดินที่มีความชื้น ส่วนกบป่าจำศีลใต้ก้อนหิน ท่อนไม้หรือตอไม้ในป่า

ปลาช่อน    -        จำศีลโดยการฝังตัวอยู่ในโคลนที่มีความชื้น พอฝนตกลงมา ดินอ่อนเป็นโคลนตมก็โผล่ขึ้นมาจากดิน

          การจำศีลจะสิ้นสุดลงเมื่อสิ้นฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ หรือในกรณีจำศีลหน้าร้อนจะสิ้นสุดลงเมื่อหมดฤดูร้อนเข้าฤดูฝน






เอกสารอ้างอิง

ปรีชา สุวรรณพินิจ,นงลักษณ์ สุวรรณพินิจ,ชีววิทยา 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2549, สัตววิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
12  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ‏ เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 12:36:48 pm



บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง
เขาเขียนขึ้นในวันที่ 11 กันยายน (ตึกเวิรด์เทรดถล่ม)
หลังจากที่ทราบว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตในตึกนั้นด้วย…… ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ
อยากให้ทุกคนได้อ่าน ข้อความนี้ มีความหมายดีนะ
ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า
แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น…..
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง
ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น …… จากนี้ไป …… ขอให้พวกเรา
อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ
เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ …… โอกาสที่พิเศษสุด…… แล้ว
จงแสวงหา การหยั่งรู้
จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความ….. อยาก …
จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น …….
กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป
ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด
เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย
น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้
เอาคำพูดที่ว่า ……. สักวันหนึ่ง …….. ออกไปเสียจากพจนานุกรม
บอกคนที่เรารักทุกคนว่าเรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง
ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น
ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย
เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง…
   :58:
13  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / หินสีช่วยคลายเครียดได้ เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 12:27:50 pm


คิดมาก นอนไม่หลับเลย : หินสีม่วงอะเมทิสต์จะช่วยคลายเครียด ลดอาการฟุ้งซ่าน ใส่หินสีม่วงไว้ใต้หมอนจะช่วยให้นอนหลับสนิทขึ้นไม่มั่นใจ

          เก็บกด อัดอั้นตันใจ : หินคาร์เนเลียนสีส้มที่ช่วยเรื่องปวดท้องรอบเดือน มีลูกยาก ยังช่วยให้เรารู้สึกมันใจและกล้าที่จะบอกความในใจที่อึดอัดอยู่ไม่แน่ใจ
 
          ลังเล ตัดสินใจไม่ถูก : ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องตัดสินใจอะไรบ่อยๆ ก็ต้องมีบ้างที่ลังเล แนะนำพกหยกหินสีเขียวนี่ล่ะไว้ติดตัว จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ ว่องไวและแน่วแน่ขึ้นหมดไฟ

          หัวทึบ คิดงานไม่ออก : หินสีแดงอย่างทับทิม หรือปะการังสีแดง จะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ ให้ไอเดียปรู๊ดปร๊าดได้
 
           โกรธแฟน แค้นจัด ไม่ให้อภัยซะที : หาหินสีชมพูโรสควอตซ์ มาใส่ไว้กับตัว เวลาที่น้อยใจโกรธแค้นขึ้นมาค่อยๆ กำมาไว้ใกล้ๆหัวใจ จะช่วยให้ใจเย็นขึ้น หายใจผ่อนคลายขึ้น ก็หินสีชมพูนี้เป็นหินแห่งความรัก การให้อภัย คนที่ทะเลาะกับแฟนบ่อยๆ ควรพกไว้ ทุกอย่างจะดีขึ้น

หินและอัญมณีบำบัด

คน โบราณเชื่อว่าอัญมณี พลอยและหินสีทั้งหลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ตามธรรมชาติ มีพลังอำนาจมนต์วิเศษอยู่ในตัวเอง ที่ธรรมชาติคอยเกื้อหนุนมนุษย์ชาติ อัญมณีและหินสีนอกจากจะใช้เป็นเครื่องประดับซึ่งบ่งบอกฐานะของผู้ครอบครอง แล้วยังสามารถช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยทางกายและทางจิตใจของคนเราได้ตามความ เชื่อของคนโบราณที่สืบทอดมานับพันปี

นับ เนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ ขณะที่เทคโนโลยีล้ำอนาคตมีมากขึ้น ผู้คนก็เริ่มจะคืนกลับไปแสวงหาธรรมชาติกันมากขึ้นโดยถือกันว่าการกลับคืนสู่ ธรรมชาติคือความสงบอันแท้จริงของจิตวิญญาณ

หิน และอัญมณีเกิดจากธาตุทั้งสี่และกาลเวลาซึ่งซึมซับรับพลังทุกสิ่งจากธรรมชาติ อันเป็นพลังงานบริสุทธิ์ ซึ่งเมื่อเราเข้าใจถึงคุณสมบัติพิเศษของหินหรืออัญมณีแต่ละชนิดก็จะทำให้เรา สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการบำบัด รักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและทางจิตใจ เสริมสร้างความมั่นคงกล้าหาญ ที่จะต่อสู้อุปสรรคในชีวิต ทั้งยังสามารถใช้เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลและความสวยงามตามแต่บุคลิก ลักษณะและฐานะของแต่ละคน
         
ที่มา http://variety.teenee.com/foodforbrain/14304.html
   
14  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 17 มกราคม 2554 ได้เกิดเหตเพลิงไหม้ที่วัดศรีชุม จังหวัดลำปาง เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 09:23:00 am


                    เมื่อกลางดึกวันที่ 17 มกราคม 2554 ได้เกิดเหตเพลิงไหม้ที่วัดศรีชุม จังหวัดลำปาง ทำให้กุฎิไม่สักเก่าแก่ ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบพม่าอายุกว่า 100 ปี วอดทั้งหลัง พระพุทธรูปเก่าแก่ถูกเพลิงไหม้ และมีพระภิกษุบาดเจ็บ2 รูป เนื่องจากถูกไฟลวก ขณะพยายามนำถังน้ำเข้าไปดับไฟ โดยวัดศรีชุมแห่งนี้ เป็นวัดที่กรมศิลปากร จัดให้เป็นโบราณสถานสำคัญ เละในเบื้องต้นประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน ขณะที่โบราณสถานและ พระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งมีความเก่าแก่นั้นประเมินค่ามิได้ 







เกิดเหตุเพลิงไหม้วัดศรีชุม อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ศิลปพม่า สร้างเมื่อ พ.ศ. 2433 อายุกว่า 120 ปี เปลวเพลิง ได้ไหม้โหมกระหน่ำ อาคารวิหารไม้เก่าแก่ 2 ชั้น เป็นแบบปูนและไม้ เสียหายเกือบทั้งหมด ส่วน พระไม้หอมแก่นจันทร์ ปางมารวิชัยขัดสมาธิ หน้าตักกว้าง 29 นิ้ว พร้อมแท่นไม้สักลาย 12 ราศี ซึ่งเป็นของสำคัญในวัดถูกไฟไหม้เสียหายอีกด้วย ซึ่งประเมินค่าไม้ได้

จากการสอบสวน พระจีรวัฒน์ อายุ 34 เป็นพระลูกวัดเล่าว่า กลางดึกที่ผ่านมาเห็นควันไฟลุกบนเพดานวิหารชั้น 2 ตนเอง พร้อมพระลูกวัด จึงนำน้ำมาช่วยกันดับ แต่พระลูกวัด 2 รูป ถูกไฟไหม้ร่างกายและแขน ได้รับบาดเจ็บ ถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัย นำส่ง ร.พ.ทันที ไม่นานนัก มีรถดับเพลิงมา กว่า 10 คัน เข้ามาระงับเหตุไว้ได้ โดยใช้เวลากว่า 40 นาที จึงควบคุมเพลิงได้

ทั้งนี้ วัดศรีชุม เป็นวัดที่ กรมศิลปากร ประกาศให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อปี 2524 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เอกลักษณ์ของวัดศรีชุม คือสถาปัตยกรรมเป็นแบบพม่า มีปูชนียวัตถุ คือ เจดีย์พระพุทธรูปจากพม่า วัดศรีชุม นั้นเคยถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่มาแล้ว เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2535 ส่วนในเกิดเหตุ คือ วันนี้ ครบรอบ 1 ปี กับอีก 3 วันพอดี มูลค่าความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานลำปาง กำลังเดินทางเข้าตรวจสอบแล้ว





ภาพข่าว
http://www.lampang108.com/wb/read.php?tid-6126.html
15  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สลด! แม่เล่นเฟซบุ๊กเพลิน ปล่อยลูกจมอ่างน้ำดับ เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 09:07:03 am

เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจรัฐโคโลราโด จับกุม แชนนอน จอห์นสัน คุณแม่วัย 34 ปี มาดำเนินคดี ฐานนั่งเล่นเกมในเฟซบุ๊กจนปล่อยให้ลูกวัย 1 ขวบ จมน้ำในอ่างน้ำเสียชีวิต

          เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2553 โดย แชนนอน จอห์นสัน ได้ให้การสารภาพว่า เธอปล่อยลูกชายวัย 13 เดือนไว้ในอ่างอาบน้ำ ส่วนตัวเองเดินออกจากห้องน้ำไปนั่งเล่นเกม  และตรวจสอบสถานะของเพื่อน ๆ ในเฟซบุ๊ก และหลังจากนั้นเธอก็ได้เข้ามาดูลูกในห้องน้ำอีกครั้ง แล้วพบว่าลูกชายกำลังเล่นน้ำในอ่างอยู่อย่างสนุกสนาน จึงเดินออกไปเล่นเกมต่อ หลังจากนั้น 10 นาที เธอก็ไม่ได้ยินเสียงลูกชายดังออกมาจากห้องน้ำอีกเลย จึงเข้าไปดูในห้องน้ำอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าลูกชายกำลังนอนคว่ำหน้าแน่นิ่งอยู่ในอ่างน้ำและมีฟองอากาศปุด ขึ้นมา เธอจึงรีบเรียกหน่วยฉุกเฉินทันที แต่ก็สายไปเสียแล้ว

         นอกจากนี้  แชนนอน จอห์นสัน ยังสารภาพอีกว่า ก่อนหน้านี้เธอก็มักจะปล่อยให้ลูกชายอยู่ลำพังคนเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากให้เขาเป็นอิสระ ไม่อยากให้ลูกชายติดแม่ และไม่อยากให้ลูกชายรู้ว่าเป็นลูกของแม่ด้วย เธอจึงคอยดูลูกชายอยู่ห่าง ๆ มาตลอด จนในที่สุด การละเลยของเธอก็ทำในลูกชายเสียชีวิตในที่สุด งานนี้  แชนนอน จอห์นสัน จึงได้รับโทษตามกฎหมาย ฐานทารุณกรรมเด็กจนถึงแก่ความตาย โดยอาจได้รับโทษจำคุกเป็นเวลากว่า 48 ปีเลยทีเดียว

16  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ฮือฮา หิมะตกหนักในพม่า เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 09:05:37 am
สาละวินโพสต์ เปิดเผยรายงาน เกิดหิมะตกอย่างหนักทางตอนเหนือของประเทศพม่า ในรัฐคะฉิ่น ใกล้กับชายแดนจีน ทำให้การเดินทางสัญจรไปมาเป็นไปอย่างยากลำบาก

ชาวบ้านคนหนึ่ง กล่าวว่า เราไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน หิมะตกอย่างกับฝนตกหนัก

ส่วนเมืองชีพวย เมืองที่อยู่ถัดไป การเดินทางสัญจรก็เป็นไปอย่างทุลักทุเลเช่นกัน เนื่องจากตามถนนเต็มไปด้วยหิมะและลูกเห็บ

กรมอุตุนิยมวิทยาในย่างกุ้ง รายงานว่า จะมีมวลอากาศเย็นปกคลุมทางตอนเหนือของรัฐคะฉิ่น อย่างต่อเนื่องระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม โดยอุณหภูมิในพื้นที่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ขึ้นอยู่กับความเร็วลมและทิศทาง ลมจากพื้นที่สูงในประเทศจีน

เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news



17  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / หญิงแปลก กินวันละ 60 มื้อแต่ไม่อ้วน เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 02:59:31 pm
หญิงแปลก กินวันละ 60 มื้อแต่ไม่อ้วน

เมื่อ วันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศต่างตีแผ่ถึงเรื่องราวของหญิงประหลาดคนหนึ่ง ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ที่ทานอาหารวันละกว่า 60 มื้อ แต่ไม่อ้วน

            โดยหญิงสาวรายนี้ มีชื่อว่า ลิซซี่ เวลาสเควซ วัย 21 ปี เป็นหญิงสาวที่มีความปกติทางพันธุกรรม คือ มี ภาวะการสูญเสียไขมันทั่วร่างกาย ซึ่งทำให้พลังงานที่เธอได้รับจากอาหารในแต่ละวัน ไม่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นไขมันหรือกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายเธอผ่ายผอม แม้จะทานอาหารเท่าไรก็ไม่อ้วนขึ้น และขณะนี้เธอก็มีน้ำหนักเพียง 24 กิโลกรัมเท่านั้น

          ทั้ง นี้ ลิซซี่ กล่าวว่า ในแต่ละวันเธอจะทานอาหารไม่ต่ำกว่าวันละ 60 มื้อ คือทานทุก 15 - 20 นาที เพื่อให้ร่างกายของเธอมีพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยอาหารที่เธอทานแต่ละอย่าง ล้วนแล้วแต่ทำให้คนปกติทั่วไปเป็นโรคอ้วนทั้งนั้น เช่น พิซซ่า เค้ก โดนัท ช็อคโกแลต มันฝรั่งทอด และขนมหวานต่าง ๆ แต่สำหรับเธอดูเหมือนว่าร่างกาย จะไม่มีปฏิกิริยาต่ออาหารพวกนี้เลย และยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่คนปกติต้องการพลังงานวันละไม่เกิน 2,000 แคลอรี่ แต่ พลังงานในตัวเธอจาก อาหารแต่ละวันเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 8,000 แคลอรี่ ถือว่ามากกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่าตัวเลยทีเดียว

ทุกวันนี้ ลิซซี่ใช้ชีวิตตามปกติ และกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเท็กซัส เธอบอกว่านอกจากความปกติทางร่างกายด้านนี้แล้ว ก็มีปัญหาทางการมองเห็น คือ เธอตาบอดข้างหนึ่งเท่านั้น ขณะที่สุขภาพโดยทั่วไปของเธอก็แข็งแรงดี

          อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ได้กล่าวว่า กรณีของลิซซี่นั้น ไม่ใช่โรคผอมแห้ง หรือ anorexic แต่อย่างใด แต่คาดว่าเป็นความผิดปกติร่างกาย ที่ไม่ได้ส่งผลอะไรมากนัก เพราะอวัยวะภายในของเธอปกติทุกอย่าง และเธอก็จะต้องทานอาหารวันละไม่ต่ำกว่า 60 มื้อแบบนี้ต่อไป เพื่อรักษาสุขภาพและรักษาน้ำหนักให้คงที่





18  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เรียนพระอภิธรรมทางไปรษณีย์ ฟรี!! เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 01:06:40 pm
เรียนพระอภิธรรมทางไปรษณีย์ ฟรี!!

เพื่อ เข้าใจในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาให้มากขึ้น มูลนิธิเผยแผ่พระสัทธรรม ขอเชิญบุคคลทั่วไป ไม่จำกัดเพศและวัย ร่วมศึกษาพระอภิธรรมทางไปรษณีย์ โดยจะเปิดสอนให้ฟรีตลอดหลักสูตร โดยผู้เรียนสามารถรับเอกสารการเรียนการสอนและส่งคำตอบข้อสอบได้ทางไปรษณีย์



ผู้สนใจสามารถสมัครเรียนหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

มูลนิธิเผยแผ่พระสัทธรรม

เลขที่ 5/108 ซ.บรมราชชนนี 13

ถ.บรมราชชนนี แขวง อรุณอมรินทร์

เขต บางกอกน้อย ก.ท.ม. 10700

โทร 0-2884-5091-2

ที่มา นิตยสาร Secret

Create Date : 07 มกราคม 2554
Last Update : 7 มกราคม 2554 16:43:10 น.
19  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ความรู้สึก..ของการถูกปฏิเสธ เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 12:59:24 pm
ความรู้สึก..ของการถูกปฏิเสธ





สวัสดีครับเพื่อนๆ





คง ไม่มีใครในโลกนี้ไม่เคยเจอกับความผิดหวัง ความล้มเหลว ไม่ได้ดั่งใจ โดนปฏิเสธ และก็เสียใจ.... เห้อๆ... เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะน่าเอามาพูดคุยกันสักเท่าไหร่ สำหรับช่วงเวลาดีๆ มีความสุข ในช่วงต้นปี...





ในวิชาชีพทางสายวิทยา ศาสตร์ หลายคนอาจจะไม่ทราบ ว่า การได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยที่ทุ่มเท ทำมานานปี ในวารสารวิทยาศาสตร์ ที่มีชื่อเสียง มีความหมายมากๆ.. เพราะมันแสดงถึงคุณภาพของงาน และการมีผลงานตีพิมพ์ในวารสารดีๆ มีชื่อเสียงเหล่านั้น ก็เหมือนเป็นการโรยกลีบกุหลาบในสายอาชีพ (ถึงแม้ว่า กว่าจะได้มาซึ่งผลงานวิจัยเหล่านั้นมันจะไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบก็ตาม)...... ผมเองก็เป็นคนหนึ่ง ที่หวังจะได้ตีพิมพ์งานของตัวเองในวารสารดีๆเช่นกัน...





เวลา ทำงานวิจัยเสร็จ เราก็จะมาเขียนผลงานวิจัยสำหรับตีพิมพ์ เป็นต้นฉบับ แล้วส่งไปให้กองบรรณาธิการเค้าพิจารณาครับ.. คงไม่ต่างจากเหล่าบรรดานักเขียนทั้งหลาย ที่ต้องเขียนต้นฉบับแล้วส่งไปตามโรงพิมพ์ สำหรับผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ก็จะมีนักวิจัยในสาขาที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 3 คน มาอ่านงานของเรา ให้ความเห็น ว่าจะรับเข้ามาตีพิมพ์หรือเปล่า... หลายต่อหลายครั้ง หลายๆงาน ถูกปฏิเสธ หลายต่อหลายงานได้รับให้เข้าตีพิมพ์ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องแก้ไข และหลายงาน ต้องแก้ไขตั้งหลายครั้งกว่าจะได้รับตีพิมพ์




ผม เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักวิทยาศาสตร์เต็มตัว เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมาครับ... ผลงานของผมที่ตรากตรำทำงานอย่างเต็มที่ ก็เพียงหวังว่าจะได้ตีพิมพ์ มีชื่อของตัวเอง และงานของตัวเองในฐานข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ..... และสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ ก็คือ ความรู้สึกของการถูกปฏิเสธ....... เสียใจครับ...ยอมรับว่าผิดหวัง เสียใจ และหมดแรง.... และมันเกิดขึ้นแบบนี้ 3 ครั้งแล้วหล่ะครับ..... แต่ครั้งที่สุดท้ายที่ได้รับการปฏิเสธ ก็เริ่มทำใจได้.... และก็พยายามสู้ต่อไป... แก้ไขงาน และส่งไปวารสารที่มีชื่อเสียงในอันดับที่ลดลงมา... และหวังว่าวันหนึ่งคงจะได้รับการตอบรับ







อาจารย์ ของผมให้กำลังใจ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ว่า ปีแรกของการกลับมาเป็นอาจารย์ มาเริ่มงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ในบ้านเรานั้น....อาจารย์ผมก็เคยถูกปฏิเสธเช่น เดียวกัน และอาจจะแย่กว่าด้วยซ้ำ.... แต่ตอนนี้อาจารย์เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของประเทศไทย.... และสิ่งที่ท่านบอกคือ...ต้องกัดไม่ปล่อย...สู้ๆให้เต็มที่.... ท่านบอกให้ผม จำความรู้สึกของการล้มเหลว และถูกปฏิเสธนี้ไว้ แล้วก็เก็บไว้เล่าให้ลูกศิษย์ หรือรุ่นน้องๆที่อาจจะท้อแท้ใจเหมือนผม.. ผมจำความรู้สึกนี้ได้ครับ และผมก็จะเก็บไว้เล่าให้น้องรุ่นหลังฟัง...
เอาหล่ะครับ..แค่มาบ่นให้ฟัง....ผมก็จะสู้ต่อไป..ไม่ถอยครับ





รักษาสุขภาพครับ



สิงห์นครพิงค์


Create Date : 09 มกราคม 2554
Last Update : 9 มกราคม 2554 11:15:41 น.
20  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ธาตุวิญญาณ คือ อะไรคะ เมื่อ: มกราคม 01, 2011, 08:17:43 pm
ธาตุวิญญาณ คือ อะไรคะ

สงสัยเรื่องธาตุ วิญญาณ
21  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / หมูออมสิน ทำจากลูกหมูจริง องค์กรสิทธิสัตว์ขอโวย เมื่อ: ธันวาคม 28, 2010, 04:49:27 pm
หมูออมสิน ทำจากลูกหมูจริง องค์กรสิทธิสัตว์ขอโวย
ร้านขายของขวัญออนไลน์ดีไซน์แปลกจากแวนคูเวอร์ที่มีชื่อว่า TheCheeky.com ได้เกิดไอเดียแผลงขึ้นมา โดยการจำหน่ายหมูออมสินที่เราคุ้นเคยกันมาแต่เด็กๆ นี่แหละ แต่ประเด็นมันเกิดเพราะหมูออมสินของร้านนี้ ทำจากลูกหมูจริงครับ นำมาเจาะรูสำหรับหยอดเหรียญตรงกลางหลัง และเจาะรูสำหรับอุดจุกไม้คอร์กตรงช่องท้อง ... คิดแล้วสยองจริงๆ
 
 
 
Hart บอกว่าออมสินหมู(จริง)ของเค้ามันเป็นมุกสุดเจ๋ง นั่นเป็นเหตุที่เจ้าหมูน้อยไส้ในกลวงตัวนี้ มีราคาถึงตัวละ 4,000 เหรียญเลยทีเดียว !!

ใครๆ ต่างก็ต้องการให้หยุดจำหน่ายเจ้าลูกหมูออมสินที่ว่ากันทั้งนั้นล่ะครับ มีผู้คนส่งข้อความก่อกวน, เกลียดชัง, ต่อว่า รวมถึงขู่ฆ่า Colin Hart ผู้เป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์ดังกล่าว แถมกลุ่มสิทธิสัตว์ยังออกมากล่าวว่าสินค้านี้คุกคามชีวิตและความตายของสัตว์ อีกด้วย แต่ Hart ได้พูดรับรองไว้ว่า ถ้าเกิดมีคนสั่งซื้อขึ้นมา เขาจะทำการจัดจำหน่ายให้โดยที่เขาจะเลือกใช้ลูกหมูที่ตายเองโดยจากสาเหตุจากธรรมชาติเท่านั้น

ถึงกระนั้น Winnipeg Humane Society ก็ยังไม่ปลื้มอยู่ดี ก็เลยโพสต์ข้อความไว้บนเว็บไซต์ของ Hart ขอให้เขานำสินค้าออกจากรายการจำหน่าย โดยกล่าวว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการแสวงหาประโยชน์จากศพของทารกสัตว์อย่างโจ่งแจ้ง นอกจากนี้ Winnipeg Humane Society ก็ได้เริ่มดำเนินการโฆษณารณรงค์เกี่ยวกับลูกหมูออมสินนี้ลงบน Vancouver Magazine แล้ว

แต่ถึงอย่างไร ณ ตอนนี้ TheCheeky.com ก็ยังไม่นำลูกหมูออมสินออกจากรายการขายอยู่ดี ... ไม่กลัวหมูซอมบี้กันบ้างเหรอครับเนี่ย
22  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / การปฏิบัติกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ กำจัดตัวรู้อย่างไรคะ เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 01:31:53 pm
การปฏิบัติกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ กำจัดตัวรู้อย่างไรคะ

ปกติเวลา โยมไปปฏิบัติ ที่วัดป่า พระสงฆ์จะแนะนำให้ปล่อยนิ่งกำหนดรู้อย่างเดียว

อยากทราบว่า การกำหนดรู้ในกรรมฐาน มัชฌิมา กำหนดอย่างไรคะ

 :25:
23  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อยากทราบว่า เวลาเราทำบุญใส่ตู้ บริจาค ตามวัดจะได้อานิสงค์อะไรคะ เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 03:22:31 pm
อยากทราบว่า เวลาเราทำบุญใส่ตู้ บริจาค ตามวัดจะได้อานิสงค์อะไรคะ

เพราะทุกครั้งไป ก็ได้ทำบุญทุกครั้ง

 :25:



แล้วในกรณี ที่ตู้บริจาคที่เราบริจาคนั้น ถูกโจรกรรม แล้ว ผู้ถูกโจรกรรมนั้นถูกจับได้ และก็สารภาพว่า

ได้นำเงินบริจาคของเรานั้น ไปเที่ยว กินสุรา เคล้านารี แล้ว กรณ๊อย่างนี้

เราจะได้บุญหรือป่าวคะ

เราจะได้บุญ ส่วนไหน คะ

 :25:
24  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ปัจจุบัน นี้มีตัวอย่าง ของฆราวาส ที่ปฏิบัติได้ธรรม บ้างหรือป่าวคะ เมื่อ: ธันวาคม 16, 2010, 03:58:29 pm
สงสัยอยู่เหมือนกัน ว่า ปัจจุบันนี้ ฆราวาส ที่ปฏิบัติธรรมแล้ว มีความก้าวหน้าทางธรรม

ที่คิดว่า บรรลุธรรม จริง ๆ มีอยู่หรือป่าวคะ ถ้ามีอยู่ พอจะยกให้ฟัง ได้บ้างหรือป่าวคะ

เพราัะหากถาม พระสงฆ์ แล้วคำตอบไม่ได้แน่

แต่ถ้าเป็น ฆราวาส แล้ว ไม่น่าจะผิดศีล นะคะ

 :25:
25  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ตำรายาไทย สมุนไพรที่ไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อ: ธันวาคม 13, 2010, 06:00:12 pm
ตำรับยาแก้ปวด แก้ไข้ แก้หวัด แก้ไอ

ขนานที่ ๑ ยาแก้ปวดหลังปวดเอว บำรุงร่างกาย แก้หวัด แก้เบาหวาน
บันทึกของแผ่นดิน ๑ หญ้า ยา สมุนไพร ใกล้ตัว : ลูกใต้ใบ
ใช้ลูกใต้ใบทั้งห้า ล้างน้ำสะอาด สับเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้ง ใส่หม้อดินต้ม ดิ่มน้ำยาต่างน้ำชา

ขนานที่ ๒ ยาแก้ปวดหลังปวดเอว
บันทึกของแผ่นดิน ๑ หญ้า ยา สมุนไพร ใกล้ตัว : เครือหมาน้อย
ใช้รากเครือหมาน้อย กรดน้ำทั้งห้า ลูกใต้ใบ ผสมน้ำประมาณ ๑ ลิตร ต้มกิน

ขนานที่ ๓ ยาแก้ปวด
บันทึกของแผ่นดิน ๑ หญ้า ยา สมุนไพร ใกล้ตัว : เดือย
ใช้รากเดือย ๑ กำมือ น้ำ ๓ แก้ว
วิธีทำ ต้มให้เหลือ ๑ แก้ว ดื่มครึ่งแก้ว วันละ ๓ เวลา

ขนานที่ ๔ ยาแก้หวัด ปวดหัว
บันทึกของแผ่นดิน ๑ หญ้า ยา สมุนไพร ใกล้ตัว : โด่ไม่รู้ล้ม
ใช้โด่ไม่รู้ล้มต้นแห้ง ๑๐-๑๕ กรัม ต้มน้ำกิน

ขนานที่ ๕ ยาแก้ไข้ตัวร้อน
บันทึกของแผ่นดิน ๑ หญ้า ยา สมุนไพร ใกล้ตัว : โด่ไม่รู้ล้ม
ใช้โด่ไม่รู้ล้มต้นแห้ง ๕๐ กรัมใส่น้ำ ๑ ลิตร ต้มกิน

ขนานที่ ๖ ยาแก้ไข้
บันทึกของแผ่นดิน ๑ หญ้า ยา สมุนไพร ใกล้ตัว : ปลาไหลเผือก
นำรากแห้งปลาไหลเผือกมาหั่น เป็นชิ้นเล็กๆ ๑ กำมือ ต้มน้ำดื่ม ก่อนอาหาร เช้า-เย็น

ขนานที่ ๗ ยาแก้ไอ
บันทึกของแผ่นดิน ๑ หญ้า ยา สมุนไพร ใกล้ตัว : โด่ไม่รู้ล้ม
ใช้รากแห้งของโด่ไม่รู้ล้ม ๑๐-๑๕ กรัม ต้มน้ำกินหรือจิบกินก็ได้

ขนานที่ ๘ ยาแก้ร้อนใน
บันทึกของแผ่นดิน ๑ หญ้า ยา สมุนไพร ใกล้ตัว : ผักกาดน้ำ
ผักกาดน้ำแห้งหรือสดก็ได้ประมาณ ๑ กำมือ ต้มกับน้ำตาลประมาณ ๑ ลิตร กินแก้ร้อนในและเจ็บคอ

ขนานที่ ๙ ยาแก้หวัดแก้ไอ
บันทึกของแผ่นดิน ๑ หญ้า ยา สมุนไพร ใกล้ตัว : ผักตาโก้ง ผักเบี้ยใหญ่
นำผักเบี้ยใหญ่ส่วนเหนือดิน (สด) ๑ กำมือ ล้างน้ำให้สะอาด โขลกคั้นเอาน้ำ กรองเอากากทิ้ง ผสมน้ำผึ้งลงไป ๑ ช้อนโต๊ะ จิบกินแก้หวัด ระงับอาการไอ

ขนานที่ ๑๐ ยาประคบ
บันทึกของแผ่นดิน ๑ หญ้า ยา สมุนไพร ใกล้ตัว : หนาด
ใบหนาด ใบชะพลู ไพล พริกไทย ดีปลี การบูร ผิวมะกรูด หนักสิ่งละพอควร ตำให้แหลกจนเข้ากันแล้วนำไปห่อ ใช้ประคบตามแข้งขาและตัว บรรเทาอาการปวดเมื่อย ช่วยให้ผ่อนคลาย

ขนานที่ ๑๑ ตำรับยาแก้ไข้แปลู
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : กระเจี๊ยบเขียว
ตำรับของแมะ จ.ยะลา
นำรากต้มผสมกับรากมะละกอตัวผู้ต้มกินแก้ไข้แปลู (ไข้แปลูคือไข้ที่ไม่ทราบสาเหตุ)

ขนานที่ ๑๒ แก้หวัด แก้ไอ
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : กระเจี๊ยบแดง
กลีบเลี้ยงกระเจี๊ยบ ๑๐ ดอก น้ำ ๒ แก้ว ต้มไปสักครู่ หลังจากเดือดแล้วหรี่ไฟลง ต้มต่อไปประมาณ ๕-๑๐ นาที กรองเอาแต่น้ำ ใส่น้ำตาล เติมเกลือสักน้อย จิบขณะอุ่นๆ

ขนานที่ ๑๓ ตำรับยาแก้ร้อนใน
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : ค้างคาวดำ
(ตำรับของหมอยาไทยใหญ่)
ใช้ใบค้างคาวดำอังไฟนวด กินกับน้ำร้อน

ขนานที่ ๑๔ ตำรับยาแก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้เจ็บท้อง
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : เท้ายายม่อม
ใช้รากเท้ายายม่อมฝนหรือต้มกินก็ได้

ขนานที่ ๑๕ ตำรับยาแก้ไข้ตัวร้อน
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : ผักก้านตง
ตำรับ ๑ นำใบผักก้านตงมาขยี้ในน้ำแล้วนำมาชโลมศีรษะแก้ไข้ตัวร้อน เพราะมีรสเย็น
(ตำรับของเซ็ง นาสูนา)
ตำรับ ๒ ใช้รากผักหวานบ้าน ผักก้านตง รากหมาก รากกล้วย รากพร้าว แล้วเอาตอกมัดวนทางซ้าย (เป็นความเชื่อของหมอยาต้องวนซ้าย) แล้วแช่น้ำยาซุมให้กิน
(ตำรับของหมอยาเมืองเลย)

ขนานที่ ๑๖ ตำรับยาแก้ปวดหัว
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : ผักกูด
ใช้ผักกูดทั้งต้นตำประคบหัว

ขนานที่ ๑๗ ตำรับยาแก้ไข้
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : ผักเชียงดา
ใช้รากผักเชียงดา รากเท้ายายม่อม รากโกฏจุฬาลัมพา รากหรือตาต้นไผ่ไร่ขนาดเท่ากัน สับ ตากบดเป็นผง ชงกินแก้ไข้

ขนานที่ ๑๘ ตำรับยาแก้ไข้ออกตุ่ม
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : ผักหวานบ้าน
เอารากผักหวานบ้าน ผักก้านตง มาต้มกิน

ขนานที่ ๑๙ ตำรับยาแก้ไอ ขับเสมหะ
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : เพกา
นำเมล็ดเพกาแก่ ประมาณครึ่งถึงหนึ่งกำมือ (๑.๕-๓ กรัม) ใส่ในหม้อ เติมน้ำ ๓๐๐ มิลลิลิตร ต้มไฟอ่อนๆ พอเดือดประมาณ ๑ ชั่วโมง ดื่มครั้งละ ๑ แก้ว วันละ ๓ ครั้ง จนอาการไอดีขึ้น

ขนานที่ ๒๐ ตำรับยาแก้ปวดเมื่อย
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : มะรุม
เอาเปลือกมะรุมมาต้มอาบ ก่อนอาบกินสามวัน แก้ปวดเมื่อย

ขนานที่ ๒๑ ตำรับยาแก้หอบ
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : มะรุม
พอเป็นหวัดแล้วมีอาการหอบเอาฝักมะรุมมาแกงกิน กินหลายๆ ครั้ง อาการค่อยๆ ทุเลาลงแล้วจะหายไปเอง

ขนานที่ ๒๒ ตำรับยาแก้ไข้ ออกตุ่มต่างๆ
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : ย่านาง
ตำรับ ๑ หัวย่านางเคี่ยวน้ำ ๓ ส่วน ให้เหลือ ๑ ส่วน ดื่มวันละ ๓-๔ ครั้ง ครั้งละครึ่งแก้ว
ตำรับ ๒ ใช้หัวย่านาง รากเครือหมาน้อย ฝนกิน หรือฝนทำเป็นน้ำกระสายยาให้กับยาตำรับแก้ไข้อื่นๆ เมื่อเป็นไข้ออกหัด ไข้ตัวร้อนไม่ถอย

ขนานที่ ๒๓ ตำรับยาแก้ไอ
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : ส้มป่อย
ตำรับ ๑ เอาเปลือกส้มป่อยแช่น้ำกิน ทำให้ชุ่มคอแก้ไอได้
ตำรับ ๒ นำฝักส้มป่อยปิ้งไฟให้เหลือง ชงน้ำกินแก้ไอ

ขนานที่ ๒๔ ตำรับยาแก้ไข้ ท้องอืด
บันทึกของแผ่นดิน ๒ ผัก เป็นยา รักษา ชีวิต : ส้มป่อย
ใช้ยอดส้มป่อยต้มกินกับข้าวต้ม



ข้อมูลเพิ่มเติม / สอบถามข้อมูล
มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
โทร (๐๓๗) ๒๑๑๒๘๙
อีเมลล์: spitiporn@yahoo.com

ศูนย์วิจัยสมุนไพรภาคเหนือ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
โทร (๐๕๓) ๙๔๔๓๔๒-๓
อีเมลล์: pmpti008@gmail.com
26  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ปฏิบัติกรรมฐาน แล้วน้ำตาไหล อยู่เรื่อย ๆ เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 09:25:05 pm
พอนั่งกรรมฐาน อธิษฐาน ที่พระขุททกาปีติแล้ว น้ำตาจะไหลออกมาเรื่อย ๆ เลยคะ

ควรทำอย่างไรดีคะ

 :25:
27  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พบดาวเพชรทั้งดวง!! น้ำหนักใหญ่โตมโหฬาร (ว่าไปนั่นคะ) เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 11:44:41 am
พบดาวเพชรทั้งดวง!! น้ำหนักใหญ่โตมโหฬาร

นักดาราศาสตร์ค้นพบดาวฤกษ์ซึ่งเป็นเพชรส่องแสงระยิบระยับทั้งดวง มีน้ำหนักถึง 10 พันล้าน ล้านล้าน ล้านล้านกะรัต

มัน เท่ากับเป็นก้อน โคตรผลึกคาร์บอนยักษ์ มีขนาดเส้นผ่า ศูนย์กลาง 4,000 กม. รวมอยู่ในกลุ่มดาวเวนทอรัส ห่างจากโลกเป็นระยะทางถึง 50 ปีแสง มันเป็นซากดาวฤกษ์เก่าที่เคยส่องแสงแรงกล้าทำนองดวงอาทิตย์ของเรา แต่ภายหลังได้หรี่แสงและหดตัวลง นักดาราศาสตร์ได้ตกลงตั้งชื่อให้มันว่า "ดาวลูซี่" ตามอย่างชื่อเพลงของวงดนตรีสี่เต่าทอง

นักดาราศาสตร์ทรา วิส เมตแคลฟ์ ของศูนย์ฟิสิกส์ดวงดาวฮาร์วาร์ด สมิธโซเนียน อธิบายว่า ดาว เพชรยักษ์ ที่จริงแล้วเป็นดาวแคระขาวที่ตกผลึก ดาวแคระขาวเป็นแก่นร้อนแรงของดาวฤกษ์ดวงหนึ่ง มันเท่ากับเป็นซากของดาวฤกษ์ที่ได้เผาผลาญเชื้อเพลิงนิวเคลียร์จนเกลี้ยงและ ตายลง กลายเป็นถ่านหมดทั้งดวง" เราเชื่อว่าแกนคาร์บอนของดาวแคระขาว จะแข็งตัวเป็นเพชรเม็ดยักษ์ของกลุ่มดาว

นักดาราศาสตร์ยังเชื่อว่า ดวง อาทิตย์ของเรา อีกสัก 5 พันล้านปี ก็จะต้องกลายเป็นดาวแคระขาวไปในที่สุด และต่อจากนั้นไปอีก 2 พันล้านปี แกนอำพันของดวงอาทิตย์ก็จะตกผลึก เหลือแต่ก้อนเพชรยักษ์อยู่ตรงกลางของสุริยจักรวาล "ดวงอาทิตย์ของเราจะกลายเป็นเพชรจริงๆไปชั่วนิรันดร์กาล"

  ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
28  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / แม่ กับ เจ้านาย เรื่องที่ลูก ๆ ทั้งหลาย ควรอ่านจ้า เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 11:42:47 am
แม่กับเจ้านาย ที่ลูกทุกคนควรอ่าน


แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉัน ......... ใคร เคยทำกับแม่แบบนี้บ้าง ?

ทุกวัน ฉันต้องตื่นเช้า เข้างานแปดโมง วันนี้..ก็เหมือนเคย
แต่เมื่อคืนฉันทำงานจนดึก
ตื่นสาย.. อารมณ์ตอนนั้น โมโหตัวเองมาก ที่ลืมตั้งนาฟิกาปลุก
( โดนเจ้านายด่าแน่ๆ )

แม่มาเคาะประตูห้อง ...
 “ ตื่นหรือยังลูก หกโมงแล้ว “
ฉันหงุดหงิดมาก ........... โธ่ !! แล้วทำไมแม่ไม่ปลุกหนูให้เร็วกว่านี้
เนี่ย..หนูไปทำงานไม่ทันแล้ว วันนี้..มีประชุมด้วย
“ แม่ทำข้าวต้มให้หนูอยู่ เมื่อคืนเห็นนอนดึก
อยากให้กินอะไรร้อนๆหน่อย “ ........
แม่ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่กง ไม่กินมันแล้ว
.... แม่จับแขนฉันเบาๆก่อนเดินออกจากห้อง
อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ลงมาข้างล่าง แม่นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“ กินข้าวต้มกับแม่ก่อนนะลูกนะ แม่รอหนูอยู่ “
หนูไม่กิน พูดโดยไม่มองหน้าแม่ เดินออกมาจากบ้านทันที

ถึงที่ทำงาน
“ ไม่รู้หรืองัย ว่าวันนี้มีประชุม แล้วรายงานอยู่ไหน “
ยกมือไหว้ .. ขอโทษค่ะพี่ ...รีบส่งรายงานให้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
“ พี่เลื่อนประชุมไปเป็น 10 โมงนะ เดี๋ยวช่วยไปหาอะไรให้พี่กินหน่อยสิ “

... ได้ค่ะพี่ ...
วิ่งเข้าห้องครัว หยิบโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป รีบ รีบ รีบ เติมน้ำร้อน ..
ว๊า !! น้ำร้อนลวกมือ ..
มาแล้วค่ะพี่ โจ๊กร้อนๆเลยค่ะ....

ออกจากห้องประชุมเกือบเที่ยง แม่โทรมาจากบ้าน
“ เมื่อเช้า.. หนูวางผ้าเช็ดหน้าไว้ตรงไหนลูก แม่หาในตะกร้าไม่เจอ
จะเอาไปซักน่ะ “
หาไม่เจอก็ไม่ต้องซักหรอก หนูจำไม่ได้ คงโยนไว้ที่ไหนน่ะแหละ

เมื่อเช้าหนูรีบ .......
“ ไม่เป็นไรลูก แล้วเย็นนี้..กลับกี่โมง มากินข้าวกับแม่นะ ”
ยังไม่รู้หรอกแม่ ว่างานเสร็จเมื่อไหร่
ยังงัย..แม่กินไปก่อนเลยแล้วกัน ไม่ต้องรอ .....
วางหูโทรศัพท์ ก้มหน้า ก้มตาทำงาน เอาใจเจ้านาย ....

“ เอ!! พี่วางบัญชีรายชื่อลูกค้าทิ้งไว้แถวนี้มั่งรึเปล่า

ไม่รู้ไปลืมไว้ที่ไหน หาไม่เจอ..
ไม่เป็นไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูช่วยหา
พี่ลงไปทานข้าวเถอะค่ะเที่ยงกว่าแล้วนะคะ
... หา หา หา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
โธ่..พี่ขา ก็พี่มาทำหล่นไว้ใต้เก้าอี้ในห้องประชุมนี่นา
โอย !! เที่ยงครึ่งแล้ว ลงไปกินข้าวไม่ทันแน่ๆ
ไม่เป็นไร..บะหมี่ซักห่อพออิ่มก็แล้วกัน

... พี่คะ
เจอแล้วนะคะ พี ่ทำหล่นไว้ที่ห้องประชุมค่ะ
“ อ้าว..เหรอ “ รับเอกสาร?ืน ไม่มีแม้แต่ขอบใจสักคำ
แต่ฉันกลับปลื้ม ที่ทำให้เจ้านายพอใจได้ ใกล้เลิกงานแล้ว.. รีบกลับบ้านไปนอนดีกว่า
“ ช่วยแก้งานตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ เสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะพี่เลย

พี่กลับก่อนล่ะ ว่าแต่ว่า เราน่ะมีธุระอะไรรึเปล่า คงต้องกลับช้านิดนึงนะวันนี้ “
.. ยิ้มรับ.. ไม่มีธุระอะไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูพิมพ์ให้เลยค่ะ
โทรหาเจ้านายตอนเกือบทุ่ม .. พี่ขา หนูแก้ไข

และตรวจทานเรียบร้อยแล้วค่ะ หนูวางไว้บนโต๊ะนะคะ

“ กลับดึกจังลูก จะอาบน้ำก่อน หรือ กินข้าวก่อนล่ะ ?? “
... เงียบไม่มีเสียงตอบ
ไม่มีรอยยิ้ม ...
“ มา มา แม่ช่วย “ แม่รวบของจากมือฉันไปวางบนโต๊ะ ..
หนูเหนื่อยมากเลยแม่
หนูอยากพักผ่อน
กำลังจะเดินขึ้นห้อง ..
ฮัลโหล..สวัสดีค่ะ...เจ้านายเหรอคะมีอะไรรึเปล่าคะ ..
อ๋อ !! ไม่ยุ่งค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้เลยค่ะ
กุลี กุจอ เปิดคอมพิวเตอร์ ... เจ้านายคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ

แม่..หายไปไหน ในครัวไม่มี ห้องนอนไม่มี
. . . แม่นั่งอยู่หลังบ้านเหงา ๆ คนเดียว . . .

แม่แอบร้องไห้ ... เ พราะฉันสินะ ฉันทำให้แม่ต้องร้องไห้
แม่..ดูแลฉันมาทั้งชีวิต
เป็นห่วงฉัน รักฉันมากกว่าใครๆ
แต่..ฉันตอบแทนได้สาสมเหลือเกิน
ฉันเริ่มทบทวน... เจ้านายคนที่ให้เงินเดือนฉัน

กับ แม่คนที่ให้ความเป็นคนแก่ฉัน
เพื่อประจบสอพลอเจ้านาย ฉันทำร้ายผู้ให้กำเนิดได้เพียงนี้เลยหรือ...

แม่ ...
หนูขอโทษ
ใคร ??? เคยเป็นแบบฉันบ้าง ......

..............................................................................

ใน ชั่วชีวิตของคุณ คุณอาจจะเปลี่ยนงานหลายๆ ครั้ง

คุณอาจจะมีเจ้านายนับไม่ถ้วน แต่ตลอดชีวิตของคุณ.....

คุณมีแม่มีเพียงคนเดียวค่ะ คนเดียวจริงๆ ทำดีกับท่านไว้เถอะค่ะ

อย่าทำให้ท่านต้องร้องไห้เพราะการกระทำของคุณเลย....

คุณอาจจะรักท่านน้อยลง ทุกๆ วัน แต่ท่านไม่เคยรักคุณลดลงเลย

ตรงกันข้ามท่านกลับรักและเป็นห่วงคุณมากขึ้นทุกๆ วัน....
29  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ขยะทางความคิดและอารมณ์ เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2010, 01:30:50 pm
ขยะทางความคิดและอารมณ์
 

สิ่งที่ไม่ดี... ไม่สวยงาม...
ที่เราใช้แล้ว...ชำรุด ... ทรุดโทรม... ใช้การไม่ได้อีกต่อไป...
เรียกว่า... "ขยะ"

ถ้าพูดถึงขยะ
หลายคนคงเข้าใจดีแล้วว่า...
ในขยะที่เหลือใช้แล้ว... ที่คนส่วนใหญ่นำไปทิ้ง
เพราะเห็นว่า "ไม่มีคุณค่า – ไม่มีประโยชน์"

แต่ในสิ่งที่เรามองเห็นว่า...
ไม่มีคุณค่า - ไม่มีประโยชน์ สำหรับเรา
อาจมีคุณค่า... สำหรับผู้เก็บของเก่า...
ซึ่งสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินได้...

แต่สำหรับขยะทางความคิด...
และขยะทางอารมณ์นั้น
…หามีประโยชน์แต่อย่างใดไม่
ยิ่งกลับจะเป็นอันตราย... ทั้งต่อตนเองและคนรอบข้างด้วย

เพราะผู้ที่ชอบเก็บสะสมขยะทางความคิด... ขยะทางอารมณ์
เมื่อเก็บสะสมไว้มากๆ
ก็จะทำให้เกิดมะเร็งร้ายในจิตใจ – ในอารมณ์ความรู้สึกได้

 

เราจึงไม่ควรที่จะเก็บหรือรักษาสิ่งเหล่านั้นไว้ในจิตใจเลย
…แต่สมควรอย่างยิ่ง
…ที่จะหมั่นตรวจ หมั่นเก็บกวาด
นำขยะทางความคิด - ขยะทางอารมณ์... ออกไปทิ้งเสียโดยพลัน

เพราะขยะทางความคิด
ได้แก่... ความคิดที่ไม่ดี... ไม่ถูกต้อง... ไม่ดีงาม
ผิดจากทำนองคลองธรรม... เป็นมิจฉาทิฎฐิ (เห็นผิด)
คิดในแง่ร้าย... ชอบมองแง่ลบ
มีความคิดเห็นเชิงลบ... ไม่สร้างสรรค์
คิดสิ่งที่ไม่ก่อประโยชน์... ให้โทษแก่ตนเองและผู้อื่น

 

สิ่งเหล่านี้ถือว่า...
เป็นขยะทางความคิด..
ซึ่งถ้าสะสมไว้มากๆ
ก็จะก่อตัวเป็นมะเร็งร้ายทางความคิดได้
และจะทำให้จิตใจขุ่นมัว... มืดมน
ทำลายสติปัญญา... เกิดความโง่เขลาทางจิตใจ

ส่วนขยะทางอารมณ์...
ได้แก่... อารมณ์โลภ โกรธ หลง อิจฉา - ริษยา
อารมณ์เบื่อ... อารมณ์เซ็ง...
อารมณ์เหงา... อารมณ์เศร้า... และอื่นๆ อีกมากมาย
ถือว่า... เป็นขยะทางอารมณ์

 

ถ้าใครมีมาก สะสมไว้มาก ไม่ยอมสละออก
ก็จะทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ตามมา
ที่เราเรียกว่า... "มะเร็งร้ายทางอารมณ์"
ที่จะค่อยๆ กัดกร่อนทำร้ายจิตใจของเราทุกๆ ขณะ
ที่อารมณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในจิตใจเรา

คนเรามีขยะทางความคิด – ทางอารมณ์เหมือนกันทุกคน
แต่แตกต่างกันที่ว่า...
เมื่อขยะทางความคิด – ขยะทางอารมณ์เกิดขึ้น
เราจะมีวิธีการนำขยะเหล่านั้นออกจากจิตใจได้อย่างไร ???

 

การเรียนรู้ที่จะนำขยะทางความคิด - ทางอารมณ์ออกจากจิตใจ
สามารถทำได้ง่ายๆ ก็คือ...
...ไม่ยอมเก็บ...
...ไม่ยอมสะสม...

ดังนั้น ทุกครั้งที่ขยะทางความคิด – ขยะทางอารมณ์เกิดขึ้น
เราต้องรีบปฏิเสธโต้กลับมันทันที
คือ... ไม่ยอมรับ ไม่สะสม ไม่เก็บ
และรู้เท่าทันมันอย่างเข้าใจ
ก็จะสามารถสละมันออกจากจิตใจได้
30  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / ทำอย่างไร ให้ แฟลชไดรว ปลอดภัยจากไวรัส เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2010, 01:29:51 pm
Flash Drive
ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นของนักคอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบัน เพราะอุปกรณ์เล็กๆ อันนี้ช่วยให้การทำงานเราง่ายขึ้น โดยเราสามารถพกพาข้อมูลต่างๆ ไปได้ทุกที่ มีน้ำหนักเบากว่าการถือแฟ้มเป็นไหนๆ ถึงแม้มันจะมีประโยชน์ให้กับเรามากมายแต่มันก็อาจจะสร้างปัญหาให้เราอย่าง มากมายเกินที่คุณจะนึกได้ นั้นคือการเผนแพร่ไวรัสผ่าน Flash Drive นั้นเอง


วิธีที่ไวรัสเข้าไปฝังตัวอยู่ใน Flash Drive ก็คือ
เมื่อเสียบ Flash Drive เข้ากับคอมพิวเตอร์ที่มีไวรัสอยู่ ไวรัสจะแพร่กระจายตัวเอง โดยการเขียนตัวเองพร้อมกับเขียนไฟล์ ที่มีชื่อว่า Autorun.int ลงบน Flash Drive ซึ่ง File นี้จะเป็นตัวบอกให้ Windows เรียกโปรแกรมทำงานอัตโนมัติและพร้อมที่จะแพร่กระจายตัวเอง เมื่อเรานำ Flash Drive ไปเสียบกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องต่อไป


เมื่อทราบดังนี้แล้ว เราจึงควรป้องกัน Flash Drive ให้ปลอดภัยจากไวรัสได้ดังนี้ครับ


1.เปิด My Computer เข้าสู่ Flash Drive ที่ปราศจากไวรัส

2.คลิกขวาพื้นที่ว่างๆ แล้วเลือก NEW ตามต่อด้วย Folder

3.พิมพ์ชื่อ Folder ว่า Autorun.inf ขอย้ำว่าชื่อ Folder ไม่ใช่ชื่อ File ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้ไวรัสรู้สึกหงุดหงิด เนื่องจากมันไม่สามารถสร้าง File ชื่อ autorun.inf ได้อีกต่อไป


นอกจากนี้เราต้องซ่อน Folder นี้ไว้ด้วย เพื่อไม่ให้เราเผลอลบทิ้งไป ซึ่งการซ่อนมีขั้นตอนดังนี้

1.คลิกขวาที่ Folder autorun.inf แล้วเลือก Properties

2.คลิกเลือก Hidder

3.คลิกปุ่ม OK


เท่านี้ Flash Drive ของเราก็ไม่มีไวรัสมากวนใจให้เสียเครดิตเจ้าของแล้วครับ


 


Credit :  ต้นปาล์ม
31  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / สถานการณ์ น้ำท่วมอยุธยา เมื่อ: ตุลาคม 25, 2010, 12:04:08 pm






พระนครศรีอยุธยาอ่วม น้ำท่วมหนัก 33 โรงเรียน ผอ.สั่งปิดแล้วโรงเรียน 7 แห่ง ระบุ มีบางโรงเรียนน้ำท่วมซ้ำซากติดต่อกัน 3 ปี ด้าน "คุณหญิงกษมา" เต้นชงของบกลางปี 52 จำวน 363 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมอาคารเรียนทรุดโทรมน้ำกัดเซาะ และช่วยเหลือนักเรียนที่ได้รับผลกระทบหนัก ด้านเขื่อนป่าสักยังไม่พ้นวิกฤตน้ำท่วมอยุธยา(6พ.ย.) นางปาลิดา กุลรุงโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) พระนครศรีอยุธยา เขต 2 เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานในพื้นที่สพท.พระนครศรีอยุธยาเขต 2 มีน้ำเหนือไหลผ่านมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้โรงเรียนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม 33 โรง จาก 208 โรงตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีโรงเรียนที่ได้รับความเดือดร้อนต้องปิดการเรียนการสอนไป 5 โรง ทั้งนี้ ในระหว่างนี้ทางโรงเรียนได้แก้ปัญหาด้วยการมอบการบ้านให้นักเรียนไปทำที่ บ้าน และเมื่อเปิดการเรียนการสอนได้แล้วจะมีการสอดชดเชยในวันเสาร์ อย่างไรก็ตาม ความเสียหายนั้นจะทราบได้เมื่อน้ำลดแล้ว“โรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมนั้นส่วนใหญ่ จะเป้นโรงเรียนในพื้นที่ราบลุ่ม และทุกปีจะมีน้ำท่วมโรงเรียนอยู่แล้ว โดยปีนี้เป็นครั้งที่สามและมีปริมาณน้ำมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา”นางปาลิดา กล่าวด้านนายธำรง แก้วเล็ก ผอ.สพท.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 กล่าวว่า ในส่วนของสพท.เขต 1 นั้น มีโรงเรียนได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม 7 โรง จากโรงเรียนทั้งหมด 212 โรง และขณะนี้ทางโรงเรียนขอปิดการเรียนการสอนแล้ว 2 โรง คือ โรงเรียนวัดกลางปากกราง ขอปิดเป็นเวลา 10 วัน และโรงเรียนวัดตาลเอน ขอปิดเป็นเวลา 5 วันโดยทั้ง 2 โรงจะ เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.เป็นต้นไป ส่วนอีก 5 โรงนั้น เนื่องจากน้ำท่วมบริเวณชั้นล่างของอาคารเรียนแต่ชั้นสองยังสามารถใช้สอน หนังสือได้คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เสนอของบกลางปี 2552 จำนวน 363 ล้านบาท เพื่อนำมาซ่อมแซมอาคารเรียนที่เสียหายจากน้ำท่วมและช่วยเหลือนักเรียนที่ได้ รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมใหญ่ช่วงเดือน กันยายน 2551 พบว่ามีโรงเรียนที่ประสบภัยน้ำท่วม อยู่ในพื้นที่ 47 จังหวัด ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)ถึง 135 สพท.นายอุกฤต ถาวรไกรกุล หัวหน้าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะแถมลุ่มน้ำป่าสัก ทำให้ระดับน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนมีจำนวนมาก แต่ขณะนี้ระดับฝนตกเริ่มลดลงมาบางแล้ว ทำให้น้ำที่ไหลเข้าสู่เขื่อนป่าสักเริ่มลดลง โดยในวันนี้ทางเขื่อนป่าสัก ต้องมีการปรับการระบายน้ำใหม่อย่างไรก็ตาม ในวันนี้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีน้ำก้อนใหญ่จากจังหวัดนครสวรรค์ ที่จะลงมาสู่เขื่อนเจ้าพระยาจำนวนมาก และหากทางเขื่อนป่าสักระบายน้ำออกจากเขื่อนจำนวนมาก ก็จะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบ จึงทำให้ทางเขื่อนป่าสัก ตัดสินใจที่จะลดปริมาณการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนป่าสัก เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบระหว่างน้ำป่าสักและน้ำเจ้าพระยานายอุกฤต กล่าวต่อไปว่า สำหรับการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักในวันนี้ จะระบายน้ำออกจากเขื่อนอยู่ที่ประมาณ 450-500 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที หรือวันละ40 ล้านลูกบาตรเมตรต่อวัน ซึ่งลดจากเมื่อวาน ซึ่งระบายน้ำอยู่ที่ 650 ลูกบาตรเมตร หรือวันละ 65 ล้านลูกบาตรเมตรต่อวัน ทำให้เขื่อนป่าสัก จะต้องมีการแบกรับน้ำที่สูงเกินการเก็บกักอยู่บ้าง เพื่อลดปัญหาไม่ให้น้ำทั้ง 2 ก้อนมาชนกันจนมีน้ำท่วมสูงขณะที่ระดับน้ำในเขื่อนป่าสักขณะนี้ก็เก็บอยู่ใน อ่างของเขื่อนป่าสักนั้นสูงกว่า 960ล้านลูกบาตรเมตรแล้ว ส่วนระรับนี่ไหลเข้าเขื่อนป่าสักในขณะนี้อยู่ที่ 500-600 ลูกบาตรเมตรต่อวินาทีหรือ 50-60ล้านลูกบาตรเมตรต่อวัน ซึ่งก็จะไม่มีปัญหากับตัวเขื่อนในช่วงระยะสั่นๆ เพราะหลังน้ำก้อนใหญ่ผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแล้วทางเขื่อนป่าสักก็สามารถระบาย น้ำออกจากเขื่อนได้ตามปกติสถานการณ์ก็จะคลีคลายลง

ขอบคุณที่มาแหล่งข่าว
http://news.buddyjob.com/world/show_news-10862-2.html

http://raiwan.com/2006/10/07/761/
32  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / แบตเตอรี่หัวใจ เมื่อ: ตุลาคม 12, 2010, 04:04:18 pm
   แบตเตอรี่หัวใจ




โทรศัพท์จะสวยงามเพียงไร
จะมีราคาแพงมากสักเท่าใด
หากแบตเตอรี่อ่อน..แบตเตอรี่เสื่อม..
ก็ไม่มีค่า..ไม่มีความหมายอะไร

เป็นเหมือนเศษเหล็ก..
เศษไม้ธรรมดา..
ที่ใช้ประโยชน์ในการสื่อสารไม่ได้

ชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน
หากหมดกำลังใจ
ก็ยากที่จะดำเนินชีวิต
ให้ประสบความสำเร็จได้

แบตเตอรี่..
หมดถ่าน..เราต้องชาร์ทไฟ

แบตเตอรี่หัวใจ..หมดไฟ
เราต้องชาร์ทพลังใจ..เสริมสร้างพลังงาน

พลังใจสร้างขึ้นได้
ด้วยการฝึกฝน..อบรมจิตใจ
เป็นการเติมเชื้อไฟให้กับตนเอง

ความสุข
จะบังเกิดขึ้นในจิตใจ
เพียงเพราะทำใจไม่ให้สับสนวุ่นวาย
ทำใจให้หยุดนิ่ง
มีสติรู้เท่าทัน
เมื่อนั้น..ความสงบจะบังเกิดขึ้นทันที

น้ำใส..จิตใจผ่องใส
จะมองอะไรก็ย่อมเห็น..ได้อย่างชัดเจน

น้ำขุ่น..จิตใจเศร้าหมอง
ย่อมมองอะไรก็ไม่เห็น..และไม่ชัดเจน

เรามาช่วยกันเติมเต็ม
ชาร์ทแบตเตอรี่หัวใจกันเถอะ
อย่างปล่อยให้หมดถ่าน..หมดไฟ
เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น
นานวันไป..แบตเตอรี่อาจจะเสื่อมคุณภาพ..
และใช้ประโยชน์ไม่ได้

สิ่งที่มีค่า
อาจจะไม่มีคุณค่า
ถ้าเราไม่ใส่ใจ..และขาดกำลังใจ

คนเรา..
จะขาดสิ่งใดก็ได้
แต่อย่าขาดกำลังใจ

จะเสียอะไรก็ได้
แต่อย่าเสียกำลังใจ

จะหมดอะไรก็ได้
แต่อย่าหมดกำลังใจ

กำลังใจสำคัญที่สุด
ต้องเพิ่มให้ปล่อย..ทำให้เต็ม
อย่าปล่อยให้ลดหรือหมดกำลังใจอย่างเด็ดขาด
33  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / โปรดระวังการใช้ไฟฉายจีนด้วยครับ เมื่อ: ตุลาคม 12, 2010, 03:40:49 pm
ไม่อยากไฟไหม้บ้านต้องอ่าน!!!!!

ผมเป็นคนชอบ”ไฟฉาย”มากๆ และตามท้องตลาดเดี๋ยวนี้ก็มี”ไฟฉาย”ที่ผลิตมาจาก”จีน”มากมาย  โดยเฉพาะชนิดที่ชาร์ทแบตเตอรี่กับไฟบ้านได้นั่นแหละผมชอบซื้อมาใช้จริงๆ ราคาก็ประมาณกระบอกละ 100-150 บาท

เช้าวันนั้นประมาณกลางเดือนตุลาคม 2552 นี้ที่ผ่านมา ผมตื่นขึ้นมาก็เอาไฟฉายไปเสียบชาร์ทแบตกับปลั๊กแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวแล้วก็กินกาแฟ  สักพักก็ได้กลิ่นไหม้โชยมาพร้อมกับเขม่าสีดำ  ในใจก็นึกไปว่า...คงเป็นการเผาขยะจากข้างบ้านเพราะเค้ามักจะเผาอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยิ่งแปลกใจเพราะว่าทำไม่มันกลิ่นแรงและมีเขม่าเข้ามามากอย่างนี้  และดูเหมือนเขม่าจะออกมาจากจุดที่ผมชาร์ไฟฉายเอาไว้ ผมเลยรีบเดินมาดูตรงจุดที่ชาร์ทไฟฉายเอาไว้ ...ปรากฏว่าเปลวไปกำลุกติดปลั๊ก ลามมาติดชั้นลิ้นชักพลาสติกอย่างน่ากลัว   ตอนนั้นรู้สึกตกใจมากแต่ก็พยายามคุมสติ แล้วก็รีบวิ่งไปเอาหม้อที่แขวนไว้ตักน้ำจากถังมาดับได้ทันที

หากผมเห็นช้ากว่านี้แค่ไม่กี่นาที ป่านนี้ผมคงไม่มีบ้านอยู่แล้ว เพราะจุดที่ผมชาร์ทไฟฉายมีทั้งลิ้นชักพลาสติก หนังสือ กระดาษต่างๆและเสื้อผ้าที่ล้วนแต่เป็นเชื้อไฟอย่างดี

 

ผมจึงอยากขอเตือนเพื่อนๆทุกคนที่ซื้อสินค้าจาก”จีน”  ชนิดที่ชาร์ทแบตเตอี่กับไฟบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็น ไฟฉาย.ไม้ตียุง.โคมไฟหรือแม้กระทั่งแบตฯมือถือ   ของพวกนี้มีอันตรายอย่างคาดไม่ถึง อาจทำให้ไฟไหม้บ้านง่ายๆ  ทางที่ดีอย่าไปซื้อมาใช้เลย หรือถ้าใครซื้อมาใช้แล้วถ้าจะชาร์ทไฟก็ขอให้นำมาชาร์ทตรงที่โล่ง ไม่มีสิ่งใดติดไปได้ และที่พลาดไม่ได้คือ......”ต้องนั่งเฝ้า อย่าให้คลาดสายตาในขณะที่เสียบชาร์ทไฟ”   แบตฯพวกนี้ชาร์ทประมาณ30นาทีก็เต็มแล้วเพราะเป็นแบตฯคุณภาพต่ำมากๆ

 

ช่วยfowordเมล์นี้ไปบอกเตือนเพื่อนๆให้ได้มากที่สุดนะครับ
อย่างน้อยก็เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟไหม้บ้านเพื่อนๆและยังได้บุญกุศลด้วยครับ

ขอบคุณครับ



34  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / !!! มูลค่าพ่อราคา 3.5แสน!!! เมื่อ: ตุลาคม 12, 2010, 03:36:51 pm


!!! มูลค่าพ่อราคา 3.5แสน!!!     

@==นึกถึงวันที่เอาเงิน 1 แสนบาทไปคืน ขอบคุณมากครับ คุณลุงอย่าเสียใจไปเลยครับ ==@   

ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้หลายปี เพื่อนบ้านก็ดี มีน้ำใจ ข้างบ้านรั้วติด  กัน มีคุณลุงคนหนึ่ง เป็นข้าราชการบำนาญ เกษียณมาหลายปีแล้ว ภรรยาเสีย ตั้งแต่เรายังไม่ย้ายเข้ามา ลูกๆ ทั้ง 3 คน ต่างก็แต่งงาน มีครอบครับ ไปอยู่ที่จังหวัดอื่นๆ กันหมด ลุงแกก็อยู่บ้านคนเดียวมาเกือบ 10ปี

เราได้รู้จักลุง ก็ได้เห็นในน้ำใจไมตรี เป็นคนใจดี อบอุ่น น่ารัก ..มีโรคประจำตัวตาม  ประสาคนแก่คือเบาหวาน ความดัน และเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ไปตามปกติ...  ด้วยความที่อยู่บ้านคนเดียว บางครั้งเจ็บป่วย ก็ลำบากหน่อย เพราะไม่มีลูกหลานคอยช่วย เหลือ                                                           

ช่วงเวลาหลายปี ที่ผ่านมา เราก็ได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือ พาไปหาหมอ พาไปทำธุระต่างๆ  และถ้าป่วยหนัก ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล ก็จะช่วยโทรตามลูกๆ ของแกให้ลูกๆ ก็จะมาเยี่ยมบ้าง ไม่มาบ้าง แล้วแต่โอกาส

       แต่ !!! เรารู้ว่า คุณลุงเหงา !!!!
                                         
บ่อยครั้งที่คุณลุงจะบ่นถึงคุณป้า ซึ่งเราไม่เคยเจอตัวจริง ได้เห็นแต่ในรูป เพราะ ท่านเสียไปหลายปีแล้ว ก่อนที่เราจะได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เมื่อบ้านอื่นๆ เขามีลูกๆ มาเยี่ยม เราเห็นคุณลุงนั่งเหงาเพียงลำพัง เราก็ซื้อของขวัญ ของกิน ของใช้ บางครั้งก็เป็นพวก ผลไม้บ้าง เครื่องดื่มบ้าง ไปไหว้  ลุงก็ดีใจ ให้ศีลให้พร กันยกใหญ่แล้ว!!! ท่านก็ได้แต่ รำพึง รำพัน ถึงลูกๆ จนน้ำตาไหล ท่านได้แต่เฝ้ารอ นั่งมองแต่ประตูหน้าบ้าน รอว่าเมื่อไร จะมีรถของลูกๆ กลับมาเยี่ยมบ้างในช่วงเทศกาล หลายปีมานี้ คุณลุงก็ได้แต่รอ...เจอเพียงแต่ความว่างเปล่า ไร้แม้แต่เงาข้างกายของคนที่เรียกลุงว่าพ่อเราก็ได้แค่ปลอบว่าลูกๆ เขาคงติดธุระ  วันไหนเขาว่าง ก็คงมาเยี่ยม ไม่ต้องคิดมาก เสียสุขภาพไปเปล่าๆ

ที่หลังบ้านคุณลุง มีต้นมะม่วงพันธุ์ดีอยู่หลายต้น มีต้นหนึ่งที่ลูกโต หวานอร่อยเป็นพิเศษ เราไปช่วยลุงเก็บเป็นประจำ และ  คุณลุงก็จะแบ่งมาให้ทุกครั้ง ลุงจะคัดลูกสวยๆ   เก็บใส่กล่องดูแลเป็นพิเศษ เก็บไว้รอลูกๆ อยากให้ลูกได้กินของดีๆ หลายครั้งหลายหน เราเห็นคุณลุง  รอลูกๆ จนมะม่วงเน่าเสียไป ไม่รู้กี่หน ต่อกี่หน หลายปี!!!!!  มานี้ ก็ไม่เคยเห็นลูกๆ กลับมากินมะม่วงที่พ่อบ่มไว้ด้วยใจรัก แม้แต่ครั้งเดียว

คุณลุงมีที่แปลงหนึ่ง ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คุณลุงบอกว่าอยากขาย ให้เราช่วยดำเนินการให้หน่อย เราก็เขียนป้ายไปติด แล้วลงประกาศให้ 5 เดือน เศษๆ หลังจากประกาศขาย ในที่สุดก็มีผู้สนใจและก็ขายได้ในที่สุด ในราคา 1 ล้านบาท เมื่อได้เงินมา สิ่งแรกที่คุณลุงพูดถึงคือ คิดถึงลูกๆ ถ้ารู้ว่าพ่อขายที่ได้คงดีใจ ลุงบอกว่าจะแบ่งเงินให้ลูกทั้ง 3 คน เท่าๆ กัน

วันรุ่งขึ้น ลุงก็มาหาเราแต่เช้า บอกว่าวันนี้ ขอแรงหน่อย ช่วยพาลุงไปธนาคารที จะไป  โอนเงินให้ลูกเราก็พาไป วันนั้นเป็นลูกค้ารายแรกของธนาคาร คุณลุงโอนเงิน ให้ลูกคนละ 3 แสนบาท เมื่อกลับมาจอดรถส่งลุงหน้าบ้าน ก่อนลงจากรถ

คุณลุงหยิบเงิน ในกระเป๋า 1 แสนบาท ยื่นส่งให้ บอกว่า “เอานี่ ลุงให้”

เรารีบปฏิเสธ บอกว่า "ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องให้ผม ลุงเก็บไว้ใช้เถอะ ให้ลูกๆ ไปเกือบหมดแล้ว"
ลุงบอกว่า "เอาไปเถอะ ลุงได้รับบำนาญทุกเดือน ไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่แปลงนี้ที่ขายได้ ก็เพราะเรา ต้องรับโทรศัพท์ และพาคนไปดูที่ หลายเดือนมานี้ ไม่รู้ขับรถไป-กลับกี่รอบแล้ว และอีกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลุงก็ได้แต่รบกวน ไม่เคยได้ให้อะไร ตอบแทนบ้างเลย พ่อหนุ่ม ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน แต่ก็ยังอุตส่าห์ เสียเวลา เป็นธุระจัดการเรื่องราวให้ สารพัดรับไว้เถอะ ลุงอยากให้จริงๆ ถ้าไม่รับลุงจะเสียใจนะ”
เราก็ไหว้ ขอบคุณครับลุง                                     

กลับมานอนคิด ไตร่ตรอง รู้สึกไม่สบายใจ ดึกๆ จึงหยิบเงินไปหาลุงอีกรอบ แต่ลุงไม่รับคืนและยืนยันว่า ตั้งใจจะให้เราจริงๆ

อีก 2 วันถัดมา มีรถยนต์ มาจอดที่บ้านลุง ลูกสองคน คนเล็ก และคนกลางมาเยี่ยมและทวงถามเราถึงเงิน 1 แสนบาท พูดจาประมาณว่า เราไปหลอกเอาเงินคนแก่ เรารีบเข้าไปในบ้าน หยิบเงิน 1 แสน เดินไปที่บ้านลุง แล้วคืนเงินให้ลุง ลุงปฏิเสธ และพยายามอธิบายให้ลูกๆ ฟัง แต่ทั้งสองคนไม่ยอม เราจึงวางเงินไว้แล้วเดินออกมา

ก่อนตะวันตกดิน ได้ยินเสียงรถขับออกไป สักพักลุงก็มาหา เล่าว่าสองคนนั้นแบ่งเงินกันคนละ 5 หมื่นแล้วก็ลากลับไปแล้ว คุณลุงกล่าวคำขอโทษอย่างที่สุด ลุงน้ำตาไหล บอกว่าเสียใจ ไม่คิดว่าลูกๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้ ลุงบอกว่าจะเอาเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือน มาทยอยคืนให้ จนกว่าจะครบ 1 แสนบาท เราบอก ว่าไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องทำอย่างนั้น
                             
อีก 3 วัน เกือบๆ เที่ยงคืน ลุงมาที่บ้าน พร้อมกับลูกชายคนโตเมื่อ 3 วันที่แล้ว พ่อโทรฯไปเล่าเรื่องให้ฟังไม่สบายใจ พอดีที่ทำงานส่งไปสัมมนาหลายวันออกมาไม่ได้ พอเสร็จธุระ ก็รีบขับรถมาเลย มาถึงซะดึก

“พี่ต้องขอโทษ แทนน้องๆ สองคนด้วย เสียมารยาทจริงๆ เดี๋ยวต้องคุยกันเป็นเรื่อง เป็นราวสักครั้ง อายุก็มากแล้ว แต่ก็ไม่รู้จักโต แย่จริงๆ เอาอย่างนี้ ขอเลขบัญชีธนาคารให้พี่ได้ไหมเดี๋ยวกลับไป พี่จะรีบโอนเงินมาคืนให้ ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร” เราปฏิเสธไป

วันถัดมาเมื่อลูกชายคนโตกลับไป ลุงเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ เจ้าใหญ่มันบอกว่าวางแผนไว้แล้วอีก 5 ปี จะย้ายมาทำงานที่บ้าน จะพาลูกมาเมียมาอยู่ที่นี่ เราสังเกต เห็นแววตาอันสดใสของคุณลุงบ่งบอกถึง ความปิติยินดี อย่างที่สุด ดีใจด้วยครับลุง ต่อไปลุงจะได้ไม่เหงาแล้ว ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปี แล้วซินะ ที่ลุงนับวันรอ ว่าจะมีลูกๆ กลับมาอยู่ด้วย เราเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงขีดฆ่า วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า และสุดท้าย
       
             ลุง ..... ลุง..... ลุง..... ลุง

น่าจะอดทนรออีกนิด อีกนิดเดียวเองครับลุง ความสุขที่ลุงเฝ้าฝันใฝ่หา มาตลอดจากลูกชายที่ลุงรักสุดหัวใจ                             

ในห้องไอซียู เรากับพี่ใหญ่ นั่งอยู่คนละข้างเตียงคนไข้ ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต  คุณลุงขยับนิ้วมือ เรากับพี่ใหญ่เอื้อมมือไปจับมือลุงดวงตาค่อยๆ ปิดลงช้าๆ  ชายชราที่เกิดมาเพื่อรอคอย ความอบอุ่นจากบุตร จากไปแล้ว อย่างไม่มีวันหวนกลับมา                 

หลังงานศพ เสร็จสิ้น ค่ำคืนนั้น พี่ใหญ่มาหาเราที่บ้าน ยื่นถุงกระดาษส่งให้  บอกว่า “พ่อฝากไว้ให้พ่อกำชับไว้ตั้งแต่ก่อนตาย ว่าต้องให้เรารับไว้ ไม่งั้นพ่อจะนอนตายตาไม่หลับ” เราแกะถุงเปิดดูข้างใน มีซองจดหมายทั้งหมด 10 ซอง         

จ่าหน้าว่า คืนเงิน    เดือนที่ 1-2-3 ไปจนถึง คืนเงินเดือนที่ 10 ในแต่ละซอง ข้างในมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท สิบใบ  ซองสุดท้าย มีข้อความว่า
                                             
ถึง                                                           
หลานที่ไม่ใช่สายเลือด แต่ก็เป็นหลานที่ดีกับลุงเหลือเกิน ลุงคืนเงินให้ตามที่เคยสัญญาขอบคุณที่ช่วยเหลือ เป็นธุระให้ ในทุกๆเรื่อง และเป็นเพื่อนคนแก่มาตลอด ป้ามารอลุงแล้ว ลุงต้องไปก่อน.

อีก 2 วันถัดมาที่บ้านคุณลุง มีคนเข้ามาทำความสะอาด เราสังเกตเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงใช้ขีดฆ่าเพื่อนับวันรอลูกๆ ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน เดินไปที่ถังขยะหน้าบ้านลุง มองไปที่ประตู มีป้ายประกาศติดไว้
                                    ขายบ้านด่วน !!!!!     
                                           
เราไปเก็บปฏิทินมาทำความสะอาด นึกถึงภาพคนแก่ที่หยิบดินสอขีดฆ่าตัวเลข บนปฏิทินด้วยอาการมือสั่นเทา แต่ใจแอบยิ้มเฝ้าฝันวันลูกชายที่รักกลับมาใกล้กาย ลูกๆ คงไม่รู้หรอกว่า ภายใต้ปฏิทินเก่าๆ ไร้ค่าใบนี้มันซ่อนความห่วงหาอาลัย ซ่อนความเงียบเหงา ว้าเหว่ ซ่อนความเจ็บปวด ร้าวลึก ของคนแก่คนหนึ่ง ที่ต้องใช้ชีวิต อยู่อย่างโดดเดียว เพียงลำพัง มานานกว่า 10 ปี

ความรู้สึกทั้งหมด คงซึมซับอยู่ในปลายปากกาที่ขีดเขียน ลงไปในแต่ละครั้ง
ในบางครั้งเรารอคนที่เรารักเพียง 1 วัน 1 ชั่วโมง 1 นาที ยังทนแทบไม่ได้ อยากเจอ ใจจะขาด

ส่วนลุงที่รอมาจาก 365 วัน เป็น 730 วัน เป็น 1095 วัน เป็น 1460 วัน

จนวันสุดท้ายของลมหายใจ สภาพจิตใจคงย่ำแย่ เกินกว่าใครคนใดจะรู้ได้ แต่ทำไมทุกครั้งที่เราเจอลุงยังยิ้มได้ตลอดเวลา เราตั้งใจจะเก็บปฏิทินนี้ไว้ เพื่อเป็นที่ระลึกตลอดไป                               
       
    *****ขอให้บุญกุศล และคุณงามความดี ทั้งหลายทั้งปวง ที่คุณลุงได้สั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต จงนำพาดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณลุง ไปสู่สุคติ ในดินแดน อันสงบ ร่มเย็น ชั่วนิรันดร์ รักคุณลุงครับ ***** 
     
เผื่อจะรักคนรอบตัวขึ้นมากกว่าเดิมค่ะ  สำหรับคนที่คุณเรียกว่า "พ่อ"  ขอให้ทุกคนที่อ่านจบ รักคนรอบข้างให้มากๆนะคะคนที่ใกล้ตัวเราที่สุดมักจะเป็นคนที่เราอาจจะละเลย มากที่สุดแต่ใครคนนั้น ไม่เคยละเลยต่อคุณเลย
35  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เวลาพระลาสิกขา ในพรรษา มีบาป หรือป่าวคะ เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 02:19:47 pm
สืบเนื่องจาก น้าชาย ได้เข้่าร่วมบวชพระโครงการบวชแสนรูป ทั่วประเทศวัดพระธรรมกาย

แต่ยังไม่ออกพรรษา แล้วสิกขาบถกันก่อน ซึ่งทางบ้านก็ไม่มีใครยินดี เพราะบอกว่าตาม

ธรรมเนียมควรอยู่ให้ครบพรรษา

  ถามคะ 1.การที่คนเราบวชแล้วไม่ครบพรรษา เป็นบาปหรือป่าวคะ

          2. การบวชเป็นบุญ ใช่หรือไม่ คะ แสดงว่าคนที่บวชได้บุญ

             แล้วคนที่อยู่รอบข้างจักได้บุญอย่างไร คะ

          3. การลาสิกขา ของพระที่ลาิสิกขาในพรรษา ควรอนุโมทนาด้วยหรือป่าวคะ

 :25: :25:
36  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อยากอ่านเรื่อง อุบาสิกา ที่บรรลุเป็นพระอนาคามี คะ เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 02:11:20 pm
หนูจำได้ว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว หนูได้อ่านประวัติ ของอุบาสิกา ที่บรรลุพระอนาคามี ผู้สวดสาธยาย สูตร

เป็นทำนองสรภัญญะประมาณ 200 คาถาขึ้นไป

หนูจำชื่อไม่ได้ ใครรู้จักเรื่องของอุบาสิกาท่านนี้ โปรดนำมาให้หนูได้อ่านด้วยคะ

ขอบคุณล่วงหน้า

( โพสต์ไม่ผิดห้องนะคะ )
 :25: :25: :25: :25: :25: :25: :25:
37  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / เงิน และ ทอง เครื่องประดับ เป็นดั่งเช่นอสรพิษ เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 01:59:42 pm
หนูได้อ่านพระสูตร บทหนึ่ง เป็นชาดกจำไม่ได้แล้ว ว่าเป็นเรื่องอะไร

พระพุทธเจ้า ทรง ตรัสว่า เงิน และ ทอง เครื่องประดับ อันชาวโลกสมมุติ ว่ามีค่า เป็นดั่งอสรพิษ

ภิกษุทั้งหลาย ไม่พึ่งยินดี ในอสรพิษนั้น

 คำถาม

   1.ในเมื่อ เงิน ทอง และ เครื่องประดับ ทั้งหลายเป็นดั่งอสรพิษ ดังนั้นเมื่อเราจะทำบุญทางวัด พระสงฆ์

อุบาสก อุบสิกา ทำไม จึงให้บริจาค อสรพิษเข้าไว้ในวัด ในเมื่อสิ่งเหล่านี้เป็นอสรพิษ จักมีอานิสงค์ในบุญได้

อย่างไร

   2. นอกจากพระพุทธเ้จ้า ทรงตรัสว่า ว่า เงิน และ ทอง เครื่องประดับ เป็นอสรพิษแล้ว พระพุทธเจ้าทรงตรัส

เรื่อง เงิน ทอง และ เครื่องประดับ ทั้งหลาย ว่าเลิศบ้างหรือป่าวคะ

   3. สืบเนื่องเรื่อง กระทู้ มหาลดาปสาธน์ นั้น ภรรยาของ พันธุลเสนาบดี ได้สวมใส่เครื่องประดับ มหาลดาปสาธน์ ให้กับพระศพของพระพุทธเจ้า ที่ดับขันธปรินิพพานไปแล้ว การถวายเช่นนั้น มีบุญหรือป่าวคะ หรือเป็น

การขัดพระดำรัสของพระพุทธเจ้า ด้วยการถวาย อสรพิษ แด่พระพุทธเจ้า

 :c017: :c017: :25: :25: :25:
 

     
38  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ทำบุญตักบาตร แล้ว ใครได้ บุญ มากน้อยกว่ากัน เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 01:51:30 pm
พอดี หนูเห็นการ์ตูน หลวงพี่เอี้ยง ที่คุณพรทิพย์ โพสต์ไว้ อ่านแล้วก็มานึกถึงตนเอง

คือที่บ้านหนู เป็นชาวพุทธ นับถือพุทธศาสนา

คุณพ่อเป็นคนทีต้องทำงานแต่เช้าออกไปทำงาน พร้อมคุณแม่ ตั้งแต่ ตี 4 อาชีพชาวสวน ส่งผัก คะ

คงเหลือ หนู และ ยาย และ น้อง กับ ตา สี่คนที่บ้าน

ทุกวัน คุณพ่อ และ คุณแม่ จะสั่งให้หนูใส่บาต และ ท่านจะเตรียมอาหาร และ ดอกไม้ ไว้ให้

โดยที่คุณพ่อ หนู เป็นคนให้เงิน คุณแม่หุงหา อาหาร และ กับข้าว

ส่วนหนูกับ น้อง เป็นผู้ใส่บาตร พระในตอนเช้า

ที่จริงเองหนู ก็ไม่มีศรัทธา ใส่ เพราะบางวันนั่งรอพระ แล้ว พระไม่มา ต้องไปโรงเรียนสาย

ทำให้เกิดเ้ถียง กับ พ่อแม่ เรื่องใส่บาตร บ้าง บางวัน ก็เลยแกล้งลืมไม่ใส่


  คำถามนะคะ

    1. ระหว่าง หนู คุณพ่อ คุณแม่ ใครได้บุญมากกว่ากันคะ

    2. วันไหนที่หนู ไม่ได้ใส่บาตร คุณพ่อ คุณแม่ ได้บุญหรือป่าวคะ

    3. ระหว่างที่หนูใส่บาตรพระ ในขณะที่ไม่มีศรัทธา (เป็นบางวัน) หนูได้บุญหรือป่าวคะ

    4. บุญของการใส่บาตร พระสงฆ์ มีอานิสงค์ อะไรบ้างคะ


 :c017: :25: :25:
39  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / เกี่ยวกับเพื่อน ๆ หนูที่ได้ไปฝึก มโนมยิทธิ ที่วัดท่าซุง เมื่อ: กันยายน 21, 2010, 03:36:14 pm
คือหนู ก็ไปกับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม มีัทั้งหมด 8 คน

แต่มีเพียงหนูคนเดียว ที่ฝึก มโนมยิทธิ ไม่สำเร็จ เพื่อน ๆ อีก 7คนนัยว่าจะสำเร็จ

เพราะเขามักจะคุยให้หนูฟังกันเวลานั่งคุยกัน ว่าเขาได้ไปเห็นตรงนั้น ตรงนี้ เห็นเทพ ที่เป็นญาติกัน

เหมือนขึ้นไปเจอกันบนสวรรค์ วิมานอะไร กันทำนองนี้ คะ

อยากถามว่า

  มโนมยิทธิ มีผลอย่างนี้หรือป่าวคะ

 ทำไมหนู จึงไม่สำเร็จ มโนมยิทธิ เหมือนเพื่อน ๆ คะ

40  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / การระลึกชาติ ได้ โดยที่ไม่ได้ฝึกกรรมฐาน นั้นเป็นไปได้หรือป่าวคะ เมื่อ: กันยายน 21, 2010, 03:33:20 pm
หนูชมรายการ มีรายการเรื่องของคนระลึกชาติ ได้เช่น หมู่บ้านที่ นครสวรรค์ เกือบทั้งหมู่บ้าน

การที่ระลึกชาติ ได้ นี้ไม่ได้เกิดจากการฝึกฝนเรื่องสมาธิ

  เพราะว่าด้วยเรื่อง ญาณ ในสมาธิ คือ การระลึกชาติ นั้นเป็น 1 ในญาณ 10

  ทำไมคนพวกนี้ ถึงระลึกชาติได้คะ


 :25: :25:
หน้า: [1] 2