ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - ISSARAPAP
หน้า: 1 [2] 3 4
41  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เราสามารถ ฝึกสมาธิ โดยไม่ใช้คำภาวนา ได้หรือ ไม่ เมื่อ: ธันวาคม 16, 2010, 10:51:06 pm
ผมก็เคยคิดเช่นนี้ มาเหมือนกัน ว่าทำไม ต้องใช้ สมมุติบัญญัติ มาเป็นตัวกำหนดภาวนา

แท้ที่จริง สมมุติบัญญัติ ไม่ใช่สัจจะ สัจจะแท้ไม่มี สมมุติบัญญัติ ในเมื่อจะฝึกวิปัสสนาขั้นสูง

ก็ไ่ม่จำเป็นต้องใช้ สมมุติบัญญัติ ให้ยุ่งยาก


   แต่พอเอาเข้าจริง ๆ สมมุติบัญญัติ ก็ยังไม่หายไปไหน เพราะสมมุติ บัญญัติ อยู่กับเรามาตั้งแต่จำความได้

ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด ล้วนแล้วก็เป็นสมมุติบัญญัติ หากไม่มีสมมุติบัญญัติ  แล้วก็ไม่มีทาง

ที่เราจะเข้าใจอะไรได้เลย ดังนั้น

   สมมุติบัญญัติ จึงยังมีความจำเป็นกับการภาวนา หากจิตเรายังไม่เข้าสู่ สภาะปรมัตถ์ ได้ เพราะั ปรมัตถ์ นั้น

ไม่มีอะไรมาแทนค่า หรือ อธิบายได้ครับ

   :25:
42  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: จำแนกปลอม จำแนกจริง จำแนกอย่างไร ? เมื่อ: ธันวาคม 05, 2010, 07:50:21 am
ปลอมจริง นั้นดูที่การภาวนา ครับ

 ถ้าเรา ภาวนาแล้ว ไม่มีภาวะทางจิต ที่เปลี่ยนสละกิเลสออกเลย ก็ให้รู้ว่า ปลอม ครับ

 :08:
43  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ่จะ.......ทำไม ? เรื่องประจำเมื่อฉันขึ้นรถ Taxi เมื่อ: ธันวาคม 05, 2010, 07:48:42 am
อย่างที่พระอาจารย์ บอก ละครับ รู้สึกเป็นเรื่องธรรมดา แล้ว ครับสมัยนี้

เพราะ Taxi ที่มีการศึกษาจริง ๆ นั้นมีน้อยครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นชาว อิสาณ

แถมชอบปฏิบัติผิดกฏ รูป ก็ไม่ตรง บางคนก็แกล้งวิ่งวนไป วนมา

 นาน ๆ จะเจอ คนดีครับ เมื่อไรจะมีหน่วยงานใด มาเคาะสนิมอารมณ์ ให้พวกนี้เสียที

 :smiley_confused1:
44  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ต้องการให้พระทำอย่างไร ? เมื่อ: ธันวาคม 05, 2010, 07:46:21 am
นานาจิตตัง จริง กับคนยุคนี้

พระดี ๆ ท่านจึงไม่ค่อยออกมาช่วยสังคม อยู่เพียงเอาตัวท่านรอด

 :smiley_confused1:
45  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: แม่ กับ เจ้านาย เรื่องที่ลูก ๆ ทั้งหลาย ควรอ่านจ้า เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 11:40:22 pm
เรื่องนี้ สื่อคำพูด และ จุดประสงค์ชัดเจนครับ

ผมเองยังมองกลับมาที่ตัวผมเลยครับ ว่า

ผมนับถือ พ่อ แม่ น้อยกว่า เจ้านาย หรือ เจ้านาย น้อยกว่า พ่อ และ แม่

 :25: :25: :25:
46  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สมัยพุทธกาล "อรหันต์ประเภทไหนมีมากที่สุด" เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 11:37:02 pm
ถ้าไม่ยึดติด กับ ส่วนคำว่า ปัญญาวิมุตติ และ เจโตวิมุตติ แล้ว

มองให้เข้าใจใน สัจจะ คือความจริง ก็เป็นเพียงสมมุติเท่านั้น

ซึ่งพระอาจารย์เคยอธิบายไว้ว่า

   1. จริง โดย ความเป็นจริง เป็นไปตามความเป็นจริง

   2. จริง โดย สมมุติ ให้เป็นจริง และ ดำเนินไปตามสมมุติที่เป็นจริง

 การที่จะเป็น ผู้ที่หลุดพ้นจากสังสารวัฏฏ์ แบบเจโต หรือ ปัญญา แล้วก็ยังเป็นเพียงหลักการที่แบ่งกัน
ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง ของผู้ปฏิบัติจริง ๆ เพราะเป็นเพียงสมมุติที่แบ่งกลุ่มขึ้นมา

หากใจเข้าถึงสัจจะด้วยภาวนาแล้ว จะเป็น เจโต ก็ไม่ใช่ จะเป็น ปัญญา ก็ไม่ใช่
เพราะไม่มีตัวตน เพราะไม่เป็นอะไรด้วย ข้ามสมมุติสัจจะ

กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นมุ่งสอนให้เข้าใจใน ปรมัตถ์สัจจะด้วยปัญญาก่อน
แต่เป็นปัญญาที่ต้องใช้ สมาธิ ในระดับที่เหมาะสมคือ อุปจาระฌาน และใช้วิปััสสนา

ใน กาย เวทนา จิต ธรรม อย่างสมบูรณ์

 ที่ผมเห็นด้วยคือ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีประวัติชัดเจนและสอดคล้องกับพระสูตร
พระไตรปิฏก ทั้งสามส่วน ไม่ได้เป็นวิชาที่บัญญัติขึ้นมาใหม่ ควรแก่การสืบต่อ และ บอกเล่า
กล่าวสอน แนะนำ

 เนื่องด้วยคนส่วนใหญ่ ก็คุ้นเคยกับการภาวนา พุทโธ เป็นหลักอยู่แล้ว
อาจจะเป็นเพราะว่า มีการสอน กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับอย่างแพร่หลายในเมื่อก่อน
จึงมีคนภาวนา พุทโธ เยอะมาก ในปัจจุบันเป็นเพราะิวิชาที่ถูกสอนนั้นขาดผู้สอนให้เข้าใจ
คนทั่วไปก็เลยภาวนา พุทโธ กันด้วยความเข้าใจคนละแบบ จากกรรมฐานเดิม

เชื่อว่า ประติด ประต่อ ในมรรคให้สมบูรณ์ ได้ง่ายกว่า กรรมฐานอื่นๆ
เนื่องด้วย กรรมฐานอื่น ๆ และสำนักทั่วไปมักเน้นสอน สมาธิ ๆ ก็คือ สมาธิ จึงทำให้ภาพ
ของกรรมฐาน สันโดด นั้นเป็นเรื่องยาก และผู้ที่มาสอนก็เป็นเพียงนักสอนจึงไม่สามารถ
ทำให้ผู้่ปฏิบัติก้าวหน้าไปได้

 กรรมฐาน มัชฌิมา นั้น ควรสนับสนุน เพื่อการสืบต่ออายุพระศาสนา

  :34:

 
47  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / การละกิเลส เป็นการอ้อนขอ หรือป่าวครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 08:07:26 am
ผมอยู่ที่สิงคโปร์ พักหนึ่งพึ่งกลับมาที่ประเทศไทย เพื่อน ๆ ได้ชวนกันไปเข้าธรรม

ด้วยการรับ ธรรม หลังจากที่ผมตามไปก็เข้าร่วมพิธีกับเขาด้วยครับ

แต่ธรรม นั้นจะได้ด้วยการรับไม่ใช่ภาวนา และ คำสอนก็เป็นแนวทางแห่งการอ้อนวอน

ซึ่งผมดูแล้วขาดหลักการภาวนา ที่แท้จริงอย่างระบบเซ้น จากที่ผมไปเรียนที่วัดเสียวลิ้มยี่ จีน

การเข้าถึงสภาวะ เป็นประดุจ ตำแหน่งที่จะประทานให้ใครก็ได้ ถ้าคิดว่าเห็นสมควร ผมว่าการสอน

ธรรมแม้ การเป็นพระอรหันต์ ก็เป็นเพียงตำแหน่งที่จะให้ และ ปลดออกได้ ( ก็งงอยู่เหมือนกัน )

ดังนั้น อยากเรียนถาม พระอาจารย์ ว่า การสละกิเลสนั้น ในพระพุทธศาสนา ใช้วิธีอ้อนวอนและร้องขอหรือ

ป่าวครับ
 :25:
48  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ประกาศ อนุโมทนา บุญกุศลเรื่อง กิจกรรมการเผยแผ่เว็บ www.madchima.org เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 08:02:37 am
ยินดีด้วยครับ ครบปีแล้ว ผมเองก็ว่าไวนะครับ นึกถึง สมัยที่เข้ามาแรก ๆ อยู่ ๆ เหมือนกันครับ

 :25:
49  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เห็นอย่างไร ถึงจะชื่อว่าเห็นตามเป็นจริง คร้า... เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 07:58:08 am
ผมอ่าน แล้ว ก็ยัง งง กับบัญญัติ ที่ใช้อธิบาย สำนวน พระไตรปิฏก พอสมควร

แต่ก็พยายาม ทำใจในการอ่าน ว่า บัญญัติ ส่วนนี้คงทำให้เราได้ดวงตาเห็นธรรม สักอย่าง

สุดท้าย ที่ผมเข้าใจ จริง ๆ ตอนนี้ ก็คือ สัจจะ 4 ประการในการมองเห็นความจริง

   คือ 1. ทุกข์ มีใน สัจจะ

       2. กิจที่ต้องทำ คือ นำออก ซึ่งทุกข์ ในสัจจะ

           แต่พออ่านไป กลับเข้าใจว่า ทุกข์ ในสัจจะนั้น ไม่สามารถนำออกได้ เพราะเป็นกฏตายตัว

           คือ มี อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

           ผมก็เลยได้ปัญญา ขึ้นว่า นั้นทุกข์ คือการยอมรับ ความจริงว่ามันเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

           พอผมนำจิตอย่างนี้ ก็มองเห็นความจริง ขึ้นอีกชั้นหนึ่งว่า ทุกข์ ไม่จำเป็นต้องยอมรับว่าเป็นอย่างนั้น

          เพราะว่าเรา จะยอมรับ หรือ ไม่ยอมรับ ทุกข์ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น และอีกอย่างการยอมรับ ก็ใช่ว่า

          เราจะพ้นทุกข์จาก กาย และ ใจ ได้ สมมุติ นะครับว่า ทุกข์ เกิดเพราะการเจ็บป่วย เรายอมรับว่า

          เจ็บป่วย ทุกข์ ก็ไม่ได้หมดไป มันเหมือนคำท่องว่ายอมรับชะตากรรม ถ้าเป็นอย่างนี้ ธรรม ที่

          พระพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ชอบนั้น ก็หาได้ดับทุกข์ จริงไม่ ซึ่งเราจะไปเอาความคิดอย่างนี้ใส่ไป ใน

          โพธิญาณ ของพระธรรม ผมก็ยังมีความคิดว่าผิดอยู่ ดังนั้นการยอมรับความจริงนั้นก็ยังไม่สามารถ

          ดับกิเลสลงได้  ผมจึงหันกลับไปภาวนากรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มากขึ้นและเมื่อจิตเป็นสมาธิ

         แล้ว ก็เข้าิวิปัสสนา อีกหลายครั้ง หลายหน แต่ที่ลำบากมาก ๆ คือ ใจที่หน่วงกับสภาวะ เมื่อก่อนที่ผม

         สะสมมาจากเมืองจีน คือใจที่เข้าเห็นว่า สมมุติ เป็นสิ่งที่สร้าง ยึดถือ ออกจาก สมมุติ คือความว่าง

         ความว่าง คือ สุญญตา การภาวนารู้สึกว่าตีกัน ในด้่านสมมุิติ กับ บัญญัติ อย่างมาก ๆ

           ดังนั้น ผมเห็นอะไรตอนนี้ ผมก็ตอบว่ายังไม่เห็น สิ่งที่ผมรู้ก็ คือ สมาธิ ผมยังแกร่งไม่พอ ที่จะรู้แจ้ง

        ซึ่ง โพธิ อันนี้ ดังนั้นอุปสรรค ที่เกิดในเรื่องของความว่าง มักจะทำให้ผมถอยจาก สมาธิ ทุกครั้ง

         อันนี้ ผมรู้ได้เลยว่า เป็นข้อเสีย อย่างมาก ๆ  ที่เราไปเรียน วิปัสสนา มาก่อน โดยเฉพาะ วิปัสสนา สาย

        เซ็น เป็นอุปสรรคในการภาวนาจริง ๆ

        แต่อย่างไร  ผมก็จะพยายามอ่าน ทบทวน ให้มากขึ้น ในพระสูตรบทนี้

                เพราะผมยังตั้งความหวังไว้ในใจว่า

                  เมื่อใด บุคคล เห็นด้วยปัญญาว่า ธรรม ทั้งปวง เป็นอนัตตา เมื่อนั้นเราย่อมเหนื่อยหน่าย

               ย่อมเป็นทางแห่งพระนิพพาน


 :c017:
50  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ใกล้ เกลือ กิน ด่าง ภาษิตบ้านเราเองครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 07:43:53 am
สัจจะแท้ ปรมัตถ์ นั้นเป็นสิ่งทีอยู่ในใจ

แต่ใจ อยู่ตรงไหน ? สำหรับ บุคคล ที่ไม่ภาวนา ก็ไม่สามารถตอบได้

สำหรับ ผู้ำภาวนา จริง ๆ แล้วก็จะสามารถตอบได้แน่นอน !

 ความจริง กับ สมมุติ หรือ สมมุติ เป็น ความจริง

 สัจจะคือเห็นความจริง ก็ต้องเห็นด้วยใจ

 คุณ หมวยจ้า กล่าวไว้ได้ดีมาก ๆ ครับ
51  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: จะศึกษาวิปัสสนา ต้องทำอย่างไร คะ เมื่อ: ตุลาคม 24, 2010, 08:54:14 am
ผู้ศึกษาธรรม เท่าที่ผมสังเกต จากเพื่อน ๆ กันนะครับ ส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าบรรลุธรรม แล้วก็พากันกล่าว

แต่ปรมัตถ์ ปฏิเสธสมมุติ การภาวนาเป็นเรื่องด้านใน เป็นปรมัตถ์ แต่ด้านนอกก็ต้องอยู่กับสมมุติ และใช้สมมุติ

อย่างยึดติดในสมมุติ

 ดังนั้นความสมบูรณ์ ก็มีศีล สมาธิ ปัญญา ในกระบวนการ ๆ ภาวนา อันนี้ถึงจะกล่าวได้ว่าสมบูรณ์

ในกรรมฐานส่วนวิปัสสนา นั้นก็เริ่มจากการจิตให้ บริสุทธิ์ จากกิเลส เริ่มตั้งแต่ ศีลวิสุทธิ เป็นต้นไป

จิตวิสุทธิ >>>>>

 การปรับเปลี่ยนอุปนิสัยธรรม เป็นสิ่งที่ต้องอยู่บนพื้นฐาน ทาน ศีล ภาวนา

 :25: :25: :25:
52  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน / Re: เอกสารที่ใช้ในการฝึกมัชฌิมา กรรมฐาน เมื่อ: ตุลาคม 24, 2010, 08:48:46 am
มีเอกสารให้อ่าน จำนวนมากเลยครับ

เมื่อก่อนไม่รู้ว่า มีให้ดาวน์โหลดครับ

อนุโมทนากับ เว็บมาสเตอร์ ด้วยครับ

ที่นำมาให้อ่านกัน

 :25: :25:
53  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นามผู้สร้างหนังสือพระกรรมฐานห้อง ๔ เมื่อ: ตุลาคม 24, 2010, 08:47:25 am
มีให้ดาวน์โหลด หรือ ป่าวครับ

 :25:
54  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ในพรรษา พระอาจารย์ภาวนาอะไร คะ เมื่อ: ตุลาคม 24, 2010, 08:46:39 am
อนุโมทนา กับพระอาจารย์ด้วยครับ

 :25:
55  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เทพเจ้าอมตะที่ชาวโลกเรียกว่า "พระเจ้า" มีหรือไม่? เมื่อ: ตุลาคม 03, 2010, 10:42:50 pm
ที่จริง เรื่อง สมมุติ บัญญัติ ผมเคยเข้าใจผิด มาจาก การศึกษาฝ่ายมหายาน มาแล้ว พึ่งจะมาเข้าใจตอน

พบพระอาจารย์

  เชิงบัญญัติ นั้น มีกล่าวไปได้เรื่อย ๆ ครับ ไม่สิ้นสุด

  เชิงปรมัตถ์นั้น สิ้นสุด ไม่มีคำกล่าว

  นิกายเซ็น เป็นนิกายที่ผมปลื้มมาก เพราะว่าง จากบัญญัติ

   พระพุทธศาสนา นั้นไม่ใช่ เทวนิยม ครับ และไม่ใช่ อเทวนิยม

   

   แก่นแท้ ไม่ได้อยู่ที่การชี้นำใคร แต่อยู่ที่การชี้นำใจของตน มีสัมมาทิฏฐิเป็นที่ตั้ง


   การเข้าสู่ความเป็นพุทธะ อยู่ การกำหนดวิปัสสนา

    ตั้งแต่การเรียน นาม และ รูป

   อธิบายกันได้ไปเรื่อย แต่ ถ้าอธิบายในการภาวนาแล้ว แม้อย่างที่ผมอธิบาย พระอาจารย์ ก็ยังกล่าวว่าไม่ผ่าน

  ถ้าจะผ่านทำอย่างไร กับไปเริ่มต้นตั้งฐานจิต ภาวนาพุทธานุสสติใหม่ จนกว่าจะแจ่มชัด และรู้เห็นตามความเป็น

  จริงด้วยใจ ไม่ใช่ด้วย อรรถะ หรือ พัยญชนะ


   ในส่วนตัวผมนั้น การที่ยกพระสูตร 2 ฝ่ายมาผนวกกัน และใส่ความคิดเห็นแบบที่เรารู้ลงไปนั้น อันนี้เป็น

อันตรายครับเพราะทำให้ สัทธรรม ของ

  พระพุทธเจ้าที่ถูกรักษาไว้ ถูกบิดเบือนได้ ด้วยอรรถกถา ต่าง ๆ ตามแต่ภูมิธรรมใครจะยกอธิบาย ดังนั้น

   ผมขอร้องคุณ Tuenum ครับ อย่าได้ผสมผสาน คัมภีร์ต่าง ให้เป็นหนึ่งเดียวเลยครับ

   
     เพราะพระสูตรบางสูตร ก็ไม่ได้เหมาะกับผู้ปฏิบัติทุกคนทุกท่าน บางธรรมก็ปฏิบัติตามไม่ได้ เพราะไม่สอด

คล้องกับจริต การหยิบยกธรรมะคือพระสูตรควรยกมาทั้งเรื่อง นอกจากพระพุทธภาษิต ที่เป็นคาถานั้นไม่ต้อง

เพราะเป็นกลาง

     ผู้ศึกษาธรรม มีระดับการศึกษา เหมือนบัวสี่เหล่า พึงจำแนกวิธีการภาวนาดีกว่าครับ


     ที่ผมอยากทราบวิธีการภาวนา วิธีแก้อารมณ์ในการภาวนา วิธีรับมือกับกิเลสที่หลอกล่อให้เราอยู่กับสังสารวัีฏ

สิ่งเหล่านี้ผมต้องการเห็นมาก และต้องการรู้มากกว่า เรื่องเทพทั้งหลายทั้งปวง โดยเฉพาะวิธีการภาวนา

    ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ คือสิ่งที่ผมติดตาม


     :25: :25:

 
   
56  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เทพเจ้าอมตะที่ชาวโลกเรียกว่า "พระเจ้า" มีหรือไม่? เมื่อ: ตุลาคม 03, 2010, 10:27:07 pm
ขันธสังยุตต์ - มัชฌิมปัณณาสก์ - ขัชชนิยวรรค - ๖. สีหสูตร

[พระไตรปิฎก ฉบับธรรมทาน]

    ๖. สีหสูตร

    ว่าด้วยอุปมาพระพุทธเจ้ากับพญาราชสีห์

    [๑๕๕] พระนครสาวัตถี ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พญาสีหมฤคราช เวลาเย็นออกจากที่

อาศัยแล้ว เหยียดกายแล้ว. เหลียวแลดูทิศทั้ง ๔ โดยรอบแล้ว บันลือสีหนาท ๓ ครั้ง แล้วออก

เดินไปเพื่อหากิน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกสัตว์ดิรัจฉานทุกหมู่เหล่าได้ยินเสียงพญาสีหมฤคราช

บันลือสีหนาทอยู่ โดยมากย่อมถึงความกลัว ความตกใจ และความสะดุ้ง จำพวกที่อาศัยอยู่

ในรู ย่อมเข้ารู จำพวกที่อาศัยอยู่ในน้ำ ย่อมดำน้ำ จำพวกที่อาศัยอยู่ในป่า ย่อมเข้าป่า

จำพวกปักษี ย่อมบินขึ้นสู่อากาศ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถึงพระยาช้างทั้งหลายของพระมหากษัตริย์

ซึ่งถูกผูกด้วยเครื่องผูก คือ เชือกหนังอันมั่นคง ในคามนิคมและราชธานี ก็สลัดทำลายเครื่อง

ผูกเหล่านั้นจนขาด กลัวจนมูตรคูถไหล หนีเตลิดไป. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พญาสีหมฤคราช

มีฤทธิ์ศักดานุภาพยิ่งใหญ่กว่าสัตว์ดิรัจฉานทั้งหลาย เช่นนี้แล.

    [๑๕๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน เมื่อพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้ง ซึ่งโลก ทรงเป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควร

ฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า ทรงเป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทรงเบิกบานแล้ว เป็นผู้

จำแนกธรรม เสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์ทรงแสดงธรรมว่า รูปเป็นดังนี้ เหตุเกิดขึ้นแห่งรูป

เป็นดังนี้ ความดับแห่งรูปเป็นดังนี้ เวทนาเป็นดังนี้ ฯลฯ สัญญาเป็นดังนี้ ฯลฯ สังขารเป็น

ดังนี้ ฯลฯ วิญญาณเป็นดังนี้ เหตุเกิดขึ้นแห่งวิญญาณเป็นดังนี้ ความดับแห่งวิญญาณเป็นดังนี้.

ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เทวดาทั้งหลายที่มีอายุยืน มีวรรณะมากด้วยความสุข ซึ่งดำรงอยู่ได้นาน

ในวิมานสูง ได้สดับธรรมเทศนาของพระตถาคตแล้ว โดยมากต่างก็ถึงความกลัว ความสังเวช

ความสะดุ้งว่า ผู้เจริญทั้งหลาย ได้ยินว่า เราทั้งหลาย เป็นผู้ไม่เที่ยงแท้ แต่ได้เข้าใจว่าเที่ยง

เราทั้งหลายเป็นผู้ไม่ยั่งยืนเลย แต่ได้เข้าใจว่ายั่งยืน เราทั้งหลายเป็นผู้ไม่แน่นอนเลย แต่

ได้เข้าใจว่าแน่นอน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ได้ยินว่า ถึงพวกเราก็เป็นผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน

ไม่แน่นอน นับเนื่องแล้วในกายตน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคต มีฤทธิ์ศักดานุภาพ

ยิ่งใหญ่กว่าโลก กับทั้งเทวโลกเช่นนี้แล.

    พระผู้มีพระภาค ผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้ จบแล้ว จึงได้ตรัส

คาถาประพันธ์ต่อไปว่า

    [๑๕๗] เมื่อใด พระพุทธเจ้า ผู้เป็นศาสดา หาบุคคลเปรียบมิได้

    ตรัสรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว ทรงประกาศธรรมจักร คือ ความเกิดพร้อม

    แห่งกายตน ความดับแห่งกายตน และอัฏฐังคิกมรรคอันประเสริฐ

    อันให้ถึงความสงบทุกข์ แก่โลกกับทั้งเทวโลก. เมื่อนั้น แม้ถึงเทวดา

    ทั้งหลาย ผู้มีอายุยืน มีวรรณะ มียศก็กลัว ถึงความสะดุ้งว่า ท่านผู้

    เจริญทั้งหลาย ได้ยินว่า พวกเราไม่เที่ยง ไม่ล่วงพ้นกายตนไปได้ ดังนี้

    เพราะได้สดับถ้อยคำของพระอรหันต์ผู้หลุดพ้น ผู้คงที่ เหมือนหมู่มฤค

    สะดุ้งต่อพญาสีหมฤคราชฉะนั้น.

    จบ สูตรที่ ๖.
57  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เทพเจ้าอมตะที่ชาวโลกเรียกว่า "พระเจ้า" มีหรือไม่? เมื่อ: ตุลาคม 03, 2010, 10:26:55 pm
อันนี้เป็นข้อความ ทั้งหมดครับ ควรจะยกมาอ่านทั้งหมดครับ



ทรงขนานนามพระองค์เองว่า "พุทธะ"

(การสนทนากับโทณพราหมณ์, เริ่มในที่นี้ด้วยพราหมณ์ทูลถาม)

"ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นเทวดาหรือ ?"

พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นเทวดาดอก.

"ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นคนธรรพ์หรือ ?"

พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นคนธรรพ์ดอก.

"ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นยักษ์หรือ ?"

พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นยักษ์ดอก.

"ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นมนุษย์หรือ ?"

พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นมนุษย์ดอก.

"ท่านผู้เจริญของเรา ! เราถามอย่างไรๆ ท่านก็ตอบว่ามิได้เป็นอย่างนั้นๆ, ถ้าเช่นนั้นท่านเป็นอะไรเล่า ?"

พราหมณ์เอย ! อาสวะ เหล่าใด ที่จะทำให้เราเป็น เทวดา เพราะยังละมันไม่ได้, อาสวะเหล่านั้นเราละได้ขาด ถอนขึ้นทั้งรากแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้น อีกต่อไปแล้ว, พราหมณ์เอย ! อาสวะเหล่าใดที่จะทำให้เราเป็น คนธรรพ์ เป็น ยักษ์ เป็น มนุษย์ เพราะยังละมันไม่ได้, อาสวะเหล่านั้น เราละได้ขาด ถอนขึ้นทั้งรากแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มีไม่ให้เกิดขึ้น อีกต่อไปแล้ว.

พราหมณ์ ! เปรียบเหมือนดอกบัวเขียว บัวหลวง หรือบัวขาว, มันเกิดในน้ำเจริญในน้ำโผล่ ขึ้นพ้นน้ำตั้งอยู่ น้ำไม่เปียกติดมันได้ ฉันใดก็ฉันนั้นนะพราหมณ์ ! เรานี้เกิดในโลก เจริญในโลก ก็จริง แต่เราครอบงำโลกเสียได้แล้ว และอยู่ในโลก โลกไม่ฉาบทาแปดเปื้อน เราได้.

พราหมณ์ ! ท่านจงจำเราไว้ว่า เป็น "พุทธะ" ดังนี้เถิด.

บาลี จตุกฺก. อํ. ๒๑/๔๙/๓๖.
ตรัสแก่โทณพราหมณ์ ที่โคนไม้ระหว่างทางแห่งหนึ่ง.




ผมได้เข้าศึกษา หลักธรรมฝ่ายมหายาน ที่วัดเสียวลิ้มยี่ ประเทศจีนมาครับ ที่มีการบรรยายเรื่องเทพไว้ครับ

แต่ ฝ่ายหินยาน เถรวาทยังคง กล่าวแค่ พระอริยบุคคล 4 จำพวก 8 ประเภท ครับ

58  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถ้าเราปฏิบัติ พระกรรมฐาน โดยไม่อธิษฐาน กรรมฐาน ได้หรือป่าวคะ เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 07:56:38 pm
อ้างถึง
ทำไมจึงกล่าวว่าเป็นการปรามาส ละัคะ

ผมว่าคุณอริสา อ่านตรงนี้ไม่ดีว่าพระอาจารย์พูดถึงเฉพาะ ศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นะครับ

พระพุทธเจ้า พระองค์ไม่ได้ตรัสให้เราเคารพแต่พระพุทธเจ้า นะครับ

ขนาดพระพุทธเจ้าทรงเสด็จเข้าไปในอาราม ในขณะที่พระใหม่กำลังแสดงธรรม พระองค์ยังหยุดเสด็จเข้าไปเลย

ครับ นั่นก็คือ พระพุทธเจ้านั้นให้ความเคารพในธรรม

ผมแปลกใจอยู่เหมือนกันว่า ลูกศิษย์พระอาจารย์ทำไมจึงเงียบกันหมดในส่วนนี้

ผมขอแยกตอบคำถามนี้เป็นประเด็นนะครับ

 1. ลูกศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มาขึ้นกรรมฐาน และปฏิบัติอยู่กับพระอาจารย์ แต่ไม่ได้ปฏิบัติตาม

    ขั้นตอน ส่วนนี้ก็ถือว่าเป็นการไม่ให้ความเคารพต่อครูอาจารย์ จึงไม่ปฏิบัติตาม ส่วนนี้มองอย่างไรก็

    เป็นการปรามาส แน่นอน ย่อมเรียนกรรมฐานไม่ผ่านครับ

 2.ลูกศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ไม่ปฏิเสธว่ากรรมฐานที่เรียนนั้นไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า เพราะกรรมฐาน

   เบื้องต้นคือ พระพุทธานุสสติ ก็คือให้ความสำคัญกับพระพุทธเจ้าเป็นอันดับแรกเลยครับ และลูกศิษย์กรรมฐาน

   ทุกคนเข้าใจครับว่า กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เป็นกรรมฐาน ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน สมบูรณ์ทั้ง

   สมถะ มีกรรมฐาน ถึง 40 กองกรรมฐาน และ วิปัสสนา จนถึงครอบคลุม โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ

   อย่าลืมว่า มหาสติปัฏฐานที่อ้างนั้น ก็เป็นหนึ่งใน โพธิปักขิยธรรม 37

   ดังนั้น ลูกศิษย์ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ไม่สร้างกรรมล่วงเกินพระรัตนตรัย มีแต่ต้องกล่าวคำขอขมา

   พระรัตนตรัย การปรามาสพระอาจารย์ผู้บอกกรรมฐาน นั้นจึงไม่ใช่มารยาทของลูกศิษย์ครับ

 3.การที่กล่าวว่า คุณมาเรียนกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ แต่กลับไปปฏิบัติ มหาสติปัฏฐานอยู่นั้น จะเป็นการ

   ปรามาสได้อย่างไรในเมื่อปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ ไม่ใช่ปฏิบัติตามพระสาวกหรือพระสงฆ์

   อันนี้ผมว่า กรรม ซ้อน กรรม ไปกันใหญ่แล้วครับ เพราะว่า ตกลงคุณต้องการปฏิบัติในแนวทางไหน ใช้

   หลัก ปัญญาธิกะ หรือ วิริยาธิกะ หรือ สัทธาธิกะ ปัญญามาก วิจิกิจฉา ก็มากตามดังนั้นคุณก็ควรเลือก

   กรรมฐานให้เหมาะกับจริตของตนก่อน อย่าเอามาปนเปกันในเรื่องของความเคารพในขณะนั้น ซึ่งเป็นสภาวะ

  ทางใจของคุณ

 4.ขี้นตอนตามสถานที่ การฝึกกรรมฐานนั้น อาจจะแตกต่างกันไป แต่ใน สัปปุริสธรรม 7 นั้น

    กล่าวไว้ว่า รู้เหตุ รู้ผล รู้ตน รู้ประมาณ รู้กาล รู้สังคม รู้บุรุษบุคคล

   ยกตัวอย่าง เขานั่งกรรมฐานกันอยู่ คุณก็สวดมนต์ส่งเสียงดังในขณะนั้น

      ถามว่า นั่งกรรมฐานก็เป็นกุศล  สวดมนต์ก็เป็นกุศลครับ บอกว่าทั้งสองอย่างก็ปฏิบัติตามคำสอนของ

      พระพุทธเจ้า  เหตุก็ได้ ผลก็ได้ ตนก็ได้ ประมาณก็ได้ สิ่งที่หายไป กาลไม่ได้ สังคมไม่ได้ บุรุษบุคคลไม่ได้

    ที่จริงผมเองก็ไม่อยากตอบอย่างนี้ เพราะ คุณ อลิสา นั้นกำลังมีความศรัทธาในพระกรรมฐาน

    ผมก็จักเสียกัลยาณมิตร หากพูดแรงไป แต่ที่ผมเป็นห่วงด้วยใจจริงคือ

    ตอนนี้คุณกำลังปรามาส พระอาจารย์ ซึ่งมีผลในการภาวนาของคุณด้วย

    การปรามาสพระรัตนตรัยนั้น ถามว่า พระพุทธเจ้า ก็ดี พระัธรรมก็ดี พระสงฆ์ ก็ตาม นั้น

   จักถือสาผู้ปรามาส หรือไม่ ผมว่า คุณตอบในหัวใจคุณได้ครับส่วนนี้ .......

    แต่ผลของการปรามาสนั้น มีกรรมอยู่ครับ ....... ควรหลีกเลี่ยง  ครับ


    เมื่อก่อนผมไม่ค่อยได้สนใจในส่วนนี้ เพราะผมเรียนธรรมะในสาย มหายาน เป็นส่วนใหญ่

 คำพูดก็ดี จัดเป็นสิ่งที่เรียกว่า บัญญัติ หรือ สมมุติ แต่ผมได้รู้ความจริงก็คือ ปรมัตถสัจจะเป็นเรื่อง

 ที่อยู่ด้านใน สมมุติบัญญัติ เป็นเรื่องที่อยู่ด้านนอก ...

    ควรทำให้ถูก ใช้ให้ถูก ภาวนาให้ถูก

   และผมอยากให้ทบทวนในสิ่งที่พระอาจารย์กล่าวแนะนำใหม่อีกครั้งนะครับ

     
อ้างถึง
1.ท่านเข้าใจอะไรในสังสารวัฏฏ์
     
        ( โทษของสังสารวัฏฏ์ คือ ความทุกข์ ความสุข ความไม่สุขไม่ทุกข์ )

    2.ท่านจะทำอย่างไรในการออกจากสังสารวัฏฏ์
   
        ( นิพพิทา คือความหน่าย ต่อ สังสารวัฏฏ์ การเกิดขึ้นอีกเป็นทุกข์ ร่ำไป )
             
    3.ท่านจะเริ่มต้นที่ไหนในการออกจากสังสารวัฏฏ์
 
        ( ทั้งหมดเริ่ม ที่ขันธ์ 5 ของเรา ไม่ใช่ของใคร )

    4.ท่านศรัทธาอย่างไรในการดำเนินอริยมรรค

        ( ควรเชื่อมั่น ต่อ พระรัตนตรัย มี พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์ )



59  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถามเรื่องการเดินจงกรม คะ เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 07:27:34 pm
อ้างถึง
ดิฉันอาจจะ ไม่เข้าใจเรื่องสัทธรรมปฏิรูป ที่พระอาจารย์อธิบายไว้ก็เป็นได้ แต่ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบอ้างอิงกับพระไตรปิฏก เนื่องด้วยพระอาจารย์ที่สอนดิฉันอยู่ในปัจจุบัน ท่านได้แย้งไว้่ว่าสิ่งที่สอนไม่ปรากฏในพระไตรปิฏก ไม่ควรเชื่อถือ ไม่ควรส่งเสริม เพราะสิ่งนั้นเป็นสัทธรรมปฏิรูป มีคณะพระอาจารย์ในเชียงใหม่ให้ความเห็นว่า ควรปฏิบัติตามหลัก มหาสติปัฏฐาน 4 เป็นหลักเพราะเป็นคำสอนของ พระพุทธเจ้า โดยตรงไม่ใ่ช่ของพระอริยะสาวก )


ผมพอจะเข้าใจ ในเรื่องนี้อยู่บ้างครับ ตอนที่ผมเริ่มเข้ามาเว็บนี้ใหม่ ๆ

 และก็ไปถามพระอาจารย์ต่าง  ๆ  ที่นับถือกัน ส่วนใหญ่ก็จะแนะนำแบบที่คุณกล่าว

  ซึ่งคุณอาจจะน้อมจิตค้อมตามไป  ตามความเห็นบ้างด้วยเพราะเราก็เคารพและศรัทธาในพระอาจารย์

   ทั้งหลายเหล่านั้น ในตอนนั้นผมบอกตรง ๆ ครับผมได้คุยสนทนากับพระอาจารย์ ชั้นแนวหน้า ด้วยครับ

  ขอสงวนนาม พระอาจารย์เหล่านั้น ครับไม่อยากกล่าวพาดพิง

   โดยรวมก็แนะนำผมว่า ให้เชื่อใน มหาสติป้ฏฐาน 4 ครับ

    ผมก็อาศัยเวลาช่วงนั้นฝึกมหาสติปัฏฐาน 4 กับพวกท่านพระอาจารย์เหล่านั้น ทั้งอานาปานสติ ด้วย

  เป็นเวลา 3 เดือนกว่า ๆ แต่ผมก็ได้คำตอบคือ ไม่มีความก้าวหน้าในการภาวนานอกจากมีความรู้เพิ่ม

  แต่กิเลสไม่ได้ดับได้จริง  ส่วนสมาธิไม่ได้เข้าแม้แต่อุปจาระสมาธิ นั่งนิ่งได้เป็นชั่วโมง แต่ผมก็รู้ในใจว่า

  มันนิ่งเหมือนคนหลับมากกว่า ไม่มีความผ่องใส แค่นั่งนิ่ง ๆ ได้เป็นชั่วโมง ผมฟุ้งซ่านก็รู้อยู่ภายใน


    จนกระทั่งผมตัดสินใจส่งเมล มาปรึกษาพระอาจารย์ พระอาจารย์ก็ให้คำแนะนำซึ่งผม นั่งฟังในรายการ

 RDN ช่วง 19.00 น. ปฏิบัติตามในวันนั้น ผมสามารถเข้าปีติธรรมได้ และ นั่งกรรมฐานปรากฏพุทโธที่ ฐานจิต

ผมจึงตัดสินใจติดต่อพระอาจารย์เพื่อเรียนกรรมฐาน แต่ท่านก็ให้ไปขึ้นกรรมฐานที่วัดราชสิทธาราม ผมเองก็ยังไม่

ได้ขึ้นกรรมฐาน กับพระอาจารย์สนธยาครับ
แต่ผมศรัทธาในสิ่งที่ท่านแนะนำและสอน เพราะผมปฏิบัติตามได้ผล

จริงในการภาวนา ที่เล่าส่วนนี้ให้ฟังเพื่อให้คุณเปิดใจเรียนกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ใช้หลักกาลามสูตรแบบ

คุณปุ้มแนะนำก็ได้ครับ ว่าภาวนาก่อน อย่าตั้งอคติ เดี๋ยวจะพลาด สิ่งที่ผมไม่อยากให้คุณอริศา กระทำต่อไป

  ในเรื่องของกระทู้ ก็คือการกล่าวคำถา่ม ในลักษณะปรามาสพระอาจารย์ นะครับ

  ผมว่าไม่ควรทำ นะครับ ....

  เพราะอ่านดูแล้ว คนที่ไม่สนใจ บัญญัติ อย่างผมยังคิดว่า ไม่งามเลยครับ

  ยกตัวอย่างที่กล่าวว่า

   ริดรอนสิทธิสตรี หรือคะ ( อย่างนี้เป็นต้น ) ผมว่าควรระมัดระวังดีกว่า นะครับ

   :25: :25: :25:
60  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถามเรื่องการเดินจงกรม คะ เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 07:15:10 pm
อ้างถึง
จตุธาตุววัตถานธาตุ  ( ธาตุจตุรภูติ )

          ปัญจมะธาุตุ  ( ธาตุอรูป )

          อายตนะธาตุ  ( ธาตุสมาบัติ )

          โพชฌงคธาตุ  ( ธาตุพระอริยะ )

          อริยะธาตุ  ( ธาตุพระอรหันต์ )

          นวโลกุตรธาตุ ( ธาตุโลกอุดร

ผมอ่านแล้วผมยัง ทึ่งกับความรู้ส่วนนี้เลยครับ แม้เพียงขั้นที่ 1 ผมก็ได้น้อมนำมาฝึกในเมื่อวานแล้ว น้บว่าเป็น

ประสพการณ์ ที่หายากจริง ๆ แต่ผมก็อาจจะได้มีความรู้สึกส่วนตัวว่า พระอาจารย์เป็น บุคคลากร ที่ควรจะเข้าไปศึกษา

ด้วยจริง ๆ เพราะผมก็ยังไม่ได้ยินที่ไหนสอนแบบนี้ และการสอนถ้าตอบว่าไม่มีในพระไตรปิฏก ผมหาคำตามที่ให้

มาแล้ว ตั้งแต่ จตุธาตุววัตถาน ก็มีนะครับ ปัญจมะธาตุ ก็มี อายตนะธาตุ ก็มี โพชฌงคธาตุ ก็มี อริยะธาตุ ก็มี

นวโลกุตรธาตุก็มี 

    ส่วนคำในวงเล็บ นั้นผมว่าเป็นคำแปล เสียมากว่าในภาษาไทยเรา หรือคุณต้องการภาษาบาลี ก็อย่าไปอ่านใน

วงเล็บ สิครับผมว่าลักษณะที่คุณกล่าวนั้น ผมนั่งอ่านมาแต่เช้าแล้ว ที่จริงน่าจะเป็นผมเป็นคนเขียนอย่างนี้แต่

เพราะว่าผมได้รู้จักพระอาจารย์ จึงบอกตรง ๆ ว่าไม่ผมไม่กล้าปรามาสพระอาจารย์เลยครับ เพราะผมรู้ส่วนคุณ

ธรรมที่ท่านแสดงไว้

   ผมว่าถ้าคุณ Tcarisa ไม่เปิดใจเพียงแต่ยันคำถามที่เป็นคำชี้บอกลักษณะคนไม่ศรัทธา ต่อพระอาจารย์ผม

ว่าไม่ควรครับ เพราะเท่ากับปิดประตูที่คุณจะทราบแล้วว่า ปัญจมธาตุ ปฏิบัติอย่างไร ? อายตะนะธาตุ ปฏิบัติ

อย่างไร ? โพชฌงคธาตุ ปฏิบัติอย่างไร ? เป็นต้นผมลอง แค่ จตุธาตุววัตถานธาตุ แล้วผมยังชอบฝึก

  บอกตรง ๆ เลยนะครับ ผมรู้สึกว่า ปฏิบัติได้ดีกว่า การฝึก ย่างซ้ายหนอ ยางขวาหนอ อีกนะครับ


  อีกอย่างการกำหนดหนอ ๆ ใน สติปัฏฐาน 4 ก็ไม่มี ไม่สงสัยบ้างหรือครับ ที่ผมเห็นคนฝึกกันทั่วประเทศ

มีแต่ สติ สัมปชัญญะ อิริยาปถบรรพะ ก็ไม่ได้กำหนดคำว่าหนอ ๆ ๆ นะครับ
61  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นิมิต ที่เกิดในธรรม เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 07:01:02 pm
อ้างถึง
ชอบคำถามของแม่หญิงอริสาจังเลย ดูเหมือนว่า


ดูเหมือนว่า อะไรครับ คุณปุ้ม ....


 :)
62  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นิมิต ที่เกิดในธรรม เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 06:46:26 pm
อ้างถึง
จากประสพการณ์ ภาวนา มาจุดหนึ่ง มีนิมิตเกิดในขณะสัมปยุตธาตุ ( ไม่ได้มีเหมือนกันทุกคน )

ข้อความตรงนี้ผมว่า ชัดเจนนะครับ ว่าเป็นนิมิต ซึ่งเป็นเรื่องของจินตภาพด้านในเป็นส่วนบุคคล

เป็นการกล่าวถึงประสพการณ์ทางจิต ของพระอาจารย์

แล้วหลักการปฏิบบัตินะครับ ว่าคุณไม่ได้เทียบเคียงกับพระสูตร หรือป่าวครับ

เท่าที่ผมทราบ นะครับถึงแม้จะเรียนแบบมหายานเป็นส่วนใหญ่นะครับ

 การสัมปยุตธาตุ 4 นั้น เป็นหลักภาวนาทั้งใน มหาสติปัฏฐาน 4 คือหมวด ธาตุบรรพะ และ การพิจารณา

อาการ32 นั้น เป็น อาทีนวบรรพด้วย ส่วนในกองกรรมฐานนั้น เป็น กายคตาสติ และ อาการปริวัฏ32 ด้วย

เป็น จตุูธาตุววัตถาน ด้วย ผมว่ามองอย่างไรก็ยังไม่ออกจากหลักธรรม และไม่ใช่ สัทธรรมปฏิรูป เพราะในเรื่อง

ของนิมิต และ นั้นปรากฏทั้งในส่วนของ บริกรรมนิมิต อุคคหนิมิต ปฏิภาคนิมิต ซึ่งแต่ละคนที่ภาวนานั้น

ทั้งเหมือนและไม่เหมือนกัน ส่วนนี้เป็นส่วนที่ไม่พึงเข้าไปกล่าว

  หากจะกล่าวไปแล้ว ถ้าบอกว่าสมัยครั้งพุทธกาล ผู้คนนุ่งห่มแบบผ้าสาหรีมาภาวนา ตามพระไตรปิฏก

แ่ต่มายุคนี้ นุ่งกางเกงมา มันจะเหมือนกันได้อย่างไร ภาพรวมที่ควรจะมองนะครัีบ

   ถึงแม้ส่วนตัวผมจะไม่ค่อยสนใจเรื่องบัญญัติ แต่ผมก็ไม่เคยเสียมารยาทในการฟังนะครับ

   1.ควรอ่านแล้ว โยนิโสมนสิการเข้ามาว่า ธรรมนี้ ดับกิเลสได้หรือไม่ เทียบเคียงในศีล สมาธิ ปัญญา

อ้างถึง
ทำการสัมปยุต ธาตุดิน แจ่มชัด ว่า นี้คือ เอ็น และ กระดูก อันชื่อว่าเป็น กาย ของเรา เป็นตัว เป็นตนของ

เรา แต่เราหาควบคุมดูกายนี้ได้ไม่ เอ็น และ กระดูก นี้จึง ว่างเปล่าจากเรา จากของเรา จากตัว จากตนของเรา

แม้จิตนี้ ก็ไม่ครอบครอง จากสิ่งที่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา จนเอ็น และ กระดูก เห็นเด่นชัด

ว่า ไม่ได้เกิดจากเรา จากตัว จากตนของเรา เป็นเพียงธาตุที่เกิดขึ้น เป็นเพียงธาตุที่ตั้งอยู่ เป็นเพียงธาตุที่ดับ

ไม่อยู่ในการบังคับบัญชาของเรา จึงไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เป็นสักว่าูธาตุ ตามธรรมชาติ

ผมอ่านหลายรอบ ตรงนี้ เพราะผมเห็นและพิจารณาได้ว่า พระอาจารย์กล่าวถึงธรรมะในจิต ของเราล้วน ๆ

ในหลักการวิปัสสนา คือการสละกิเลสเบื้องต้น คือ การเห็นว่าสิ่งนี้เป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา

โดยเน้น อาการ32 ในกายคตาสติ คือ เอ็น และ กระดูก เป็นเพียงธาตุ สักว่าธาตุ เป็นไปตามธรรมชาติ


63  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระโมคคัลลานะตายแล้วฟื้น หรือยังไม่ได้ตายกันแน่ เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 11:24:13 pm
 ;) ;) สาูธุ
64  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นิมิต ที่เกิดในธรรม เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 11:13:49 pm
ได้อ่านที่พระอาจารย์ตอบคำถาม วันนี้แล้ว อึ้งเลยครับวันนี้

อ่านแล้ว ก็พอทราบว่าคุณธรรมของพระอาจารย์ ที่เมตตา

และปลีิกจากโลกไปภาวนาส่วนตัวแล้ว .....

  สังเกตบรรดาศิษย์วันนี้ ไม่มีใครกล้าโพสต์ กันเลย

ผมเอง อ่านแล้วก็เกิดปีติในธรรม ก็ไม่กล้าโพสต์ในตอนแรกเหมือนกัน

อนุโมทนา กับพระอาจารย์ ที่ถ่ายทอดประสพการณ์ ภาวนาให้เป็นแนวทางครับ

 :25: :25:
65  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถามเรื่องการเดินจงกรม คะ เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 11:09:43 pm
 :25: :25:
66  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / แก่นธรรม ที่ควรสนใจ มาก ๆ เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 07:40:34 am
ตัดข้อความมาจากกระทู้นี้
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=429.msg1598#msg1598

คาถา โอวาทปาฏิโมกข์ มีดังนี้ (โอวาทปาติโมกข์ ก็เขียน)
สพฺพปาปสฺส อกรณํกุสลสฺสูปสมฺปทา
สจิตฺตปริ โยทปนํเอตํ พุทธาน สาสนํฯ
แปล : การไม่ทำความชั่วทั้งปวง ๑ การบำเพ็ญแต่ความดี ๑ การทำจิตของตนให้ผ่องใส ๑ นี้เป็นคำสอนของ
พระพุทธเจ้าทั้งหลาย

3 ข้อ เบื้องต้นมาตรฐาน ใหญ่ของชาวพุทธ


1.ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา
2.นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา
3.น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี
4.สมโณ โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโตฯ
แปล : ขันติ คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง, พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่านิพพาน เป็นบรมธรรม, ผู้ทำร้ายคนอื่น
ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต,ผู้เบียดเบียนคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ

4 ข้อนี้เพื่อธรรม 2 ข้อแรก คือ ไม่เบียด เบียน การทำกุศลให้ถึงพร้อม

5.อนูป วาโท อนูปฆาโต ปาติโมกฺเข จ สํวโร
6.มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ ปนฺตญฺจ สยนาสนํ
   อธิจิตฺเต จ อาโยโค เอตํ พุทฺธาน สาสนํฯ
แปล : การ ไม่กล่าวร้าย ๑ การไม่ทำร้าย ๑ ความสำรวมในปาฏิโมกข์ ๑ ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร ๑ ที่นั่ง
นอนอันสงัด ๑ ความเพียรในอธิจิต ๑ นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

2 ข้อหลัีง เพื่อข้อที่ 3 คือการชำระจิตของตนให้ผ่องใส สอนให้รักสันโดษ กินอยู่ แต่พอเพียง

ที่เข้าใจกัน โดยทั่วไป และจำกันได้มาก ก็คือ ความในคาถาแรกที่ว่า ไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส


ถ้าเป็นชาวพุทธ จะเป็น นิกายใด ๆ ก็ต้องยึดหลักทั้ง 3 ประการนี้
67  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ไำฟทั้งสี่ ผู้ปฏิบัติ พึงสังวร ครั้นเมื่อจะตายจักเป็นที่พึ่ง เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 07:31:55 am
เมื่อใจถึงปรมัตถ์ ว่างเปล่า จากบัญญัติ ก็ไม่น่าจะต้องสนใจ

เรื่องของไฟ

โดยส่วนตัวผม ไม่ได้สนเรื่องไฟ

แต่สนเรื่องของใจ ที่ว่างจากกิเลส ปราศจากกิเลส

ใจเข้าถึงปรมัตถ์ เห็นบัญญัติ เป็นเพียง บัญญัติ เมื่อไร้ บัญญัติ ก็ไร้ สิ่งซึ่ง ....

คงเหลือ แต่ธรรม ที่แปรปรวนไปตาม วัฏฏจักร ไม่เีที่ยง เป็นทุกข์ และว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัว

เป็นตน เป็นเราเป็นของเรา

( ไม่ทราบอารมณ์ผม ผิดหรือป่าว )

ถ้าผิดจะได้ปรับปรุง ครับ เพราะตอนนี้ใจน้อมรับ กรรมฐาน ไปฝึกครับ

 :25: :bedtime2:
68  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หลักปฏิบัติง่าย ๆ ที่สุด ในการเดินจิตไว เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 07:27:59 am
เคล็ดหายใจ ปฏิภาค คล้ายกับเคล็ดกับหายใจปฏิภาค วิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น

ของวัดเสียวลิ้มยี่ มาก ซึ่งมีการอัดนิ่ง ลมไว้ภายในพร้อมบริกรรรมฟังการเคาะ ปลาไม้ ด้วย

ในขณะเดียวกันก็มีบริกรรมลูกประคำมือ 37 เม็ด


ผมพึ่งรู้ความหมายเทียบเคียง กับตอนที่ผมไปฝึกที่เสียวลิ้มยี่ ที่แท้เป็นการฝึก

อานาปานสติ ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับด้วย

 :25: :25:
69  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ทำไม ต้องเน้นกรรมฐานในห้องพระธรรมปีติ คะ เมื่อ: กันยายน 08, 2010, 07:27:02 am
ผมว่า ห้องพระธรรมปีติ นั้นมีอานุภาพ และเป็นพื้นฐาน มั้งครับ

เหมือนการหัดเขียนหนังสือ ต้องหัดเขียนกันหลายปี ตั้งแต่เด็กเล็ก ถึง ประถมหก นะ

 :25: :25:
70  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / เมื่อภรรยาที่หย่ากันแล้ว นำลูกสามีใหม่มาให้เลี้ยง เมื่อ: กันยายน 08, 2010, 07:23:44 am
คนงานที่บ้านผม ได้นำปัญหาเข้ามาปรึกษาเจ้านายอย่างผมว่า

ตอนนี้ภรรยาเก่า ที่เลิกร้างกันไปตั้งนานนั้น หลายปี ตอนนี้ได้อุ้มลูมาสองคน

เพื่อที่จะนำมาให้อุปการะ โดยที่เธอนั้นก็ไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันเข่นสามีภรรยา

เพียงแต่มาบอกว่า ต้องการให้อุปการะเด็กทั้งสองคน คนหนึ่ง 5 ขวบ อีกคน 3 ขวบ

เป็นหญิงชาย เธอเพียงแต่บอกอดีตสามีว่า ไม่รู้จะไปพึ่งใคร เพราะเธอจะไปทำงานต่างประเทศ

อดีตสามีก็อึ้งอยู่หลายวัน มาปรึกษาผม ๆ ก็บอกแต่เพียงว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ภาระ เป็นสิ่งที่เราไม่ควรจะมี

คือผมออกความคิด ว่าอย่าไปแบกภาระ

แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ คนงานผมก็รับอุปถัมภ์เด็กทั้งสองไว้
( ในโลกยังมีคนที่โง่อย่างนี้อยู่อีกหรือนี่ ผมคิดในใจ )

หลังจากอุปถัมภ์เด็กไว้หลายเดือน วันนั้นก็มีโอกาสไปซื้อต้นไม้กับผมที่จตุจักร

โลกนี้จะว่ากว้าง ก็ กว้าง จะว่าแคบ ก็ ว่าแคบ

เจ้าลูกน้องผมดันไปเจอ อดีตภรรยาที่บอกว่าจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ที่สวนจตุจักร

โดยแม่คุณก็เปิดร้านขายต้นไม้ กับสามีใหม่ ผมได้เจอตัวจริงครั้งแรก เธอจัดว่าสวยครับ

อายุแค่ 32 ปี ถ้าเจ้าลูกน้องผมไม่บอกว่านี่เป็นอดีตภรรยาเขา ละก็ ผมคงไม่มองแบบติดลบแน่

เจ้าลูกน้องผม เจอตัวแล้วก็รีบเข้าไปคุย แต่ก็สงวนท่าที เพราะผู้หญิงทำเป็นไม่รู้จัก บอกว่าทักคนผิด

ก็เลยทึกทักเอามากไม่ได้ เจ้าลูกน้องผมก็มานอนกลุ้มอยู่หลายวันก่อนที่จะอนุญาตพาเด็กทั้งสองไปหาแม่

ในอีกอาทิตย์ต่อมา แล้วทั้งหมดก็กลับมาด้วยความเศร้าสร้อย

เพราะผู้หญิงที่พบปฏิเสธว่าไม่รู้จักเด็กทั้งสอง

  แต่เด็กทั้งสองก็ยืนยันว่าเป็นแม่ของตนจริง ๆ เพราะแม่มีปานที่ข้อศอก

เจ้าลูกน้องผม ช่วงนี้ไม่เป็นอันจะทำงาน คอยจะลาไปที่สวนจตุจักร จนในที่สุด

 ก็โดนสามีผู้หญิงสั่งลูกน้อง ่จัดการ

 หน้าตาบวมปูดกลับมา

 คราวนี้เหมือนไม่มีทางออก ก็เลยมาปรึกษาผม ว่าจะทำอย่างไรดีครับเจ้านาย เ้รื่องมันเป็นอย่างนี้

 ส่วนผมเองก็ไม่สันถัดชีวิตแบบนี้ เพราะเห็นว่าผิดตั้งแต่ไปรับเด็กมาแล้ว หรือ จะเป็นบุญของเด็ก

 ก็ไม่ทราบ เพราะเจ้าลูกน้องผมคนนี้ก็เป็นคนใฝ่ธรรมะ ชอบนั่งกรรมฐานกับผมอยู่เหมือนกัน

 เล่าให้เพื่อนสมาชิก แสดงความเห็น เสนอทางออกหน่อยครับ

ผมเมล์ไปหาพระอาจารย์ พระอาจารย์ท่านตอบมาสั้น ๆ ว่้า

  "เดิมโลกไม่มีเรื่อง คนโง่หามาเอง ปัญหาที่ไม่มีทางออก ก็ให้ออกตรงทางที่เข้า"

 ผมอ่านแล้วก็ยังมึน ๆ อยู่ครับ

 :25: :25:
71  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: พระพุทธเจ้าทรงตรัสวิธี การเห็นรูปทิพย์ และ เสียงทิพย์ ( ในพระไตรปิฏก ) เมื่อ: สิงหาคม 20, 2010, 12:00:40 am
ในส่วนของการเห็นกายทิพย์ นั้นถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ขัดจาก เป้าหมายพระกรรมฐาน

แต่เบื้องต้นผมเอง ก็ยังมีความต้องการจะได้เห็น กายทิพย์

ซึ่งทางฝ่ายมหายานมีเืรื่อง ของพุทธเกษตร ที่ผมสนใจอยู่

การบรรลุ วางจากสิ่งสมมุติ ได้ ก็น่าจะต้องเห็นเรื่องกายทิพย์ อย่างดีก่อน

 :25: :25:
72  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ผู้ฝึกสมาธิย่อมมี ญาณ 5 ประการ เมื่อ: สิงหาคม 19, 2010, 11:51:41 pm
อนุโมทนาครับ

 :25:
73  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: สมาธิสูตร ว่าด้วยเรื่อง สัมมาสมาธิ เมื่อ: สิงหาคม 19, 2010, 11:51:16 pm
อ่านได้ง่ายขึ้น จิรง ๆ ครับ

อนุโมทนา ครับ

ตอนแรกผมอ่าน ก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจครับ

 :25: :25:
74  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อานิสงค์ การเดิน จงกรม ...... ที่ควรทราบ เมื่อ: สิงหาคม 19, 2010, 11:50:01 pm
อ้างถึง
เดินจงกรม ธาตุ

มีวิธี เดินกันอย่างไร ครับ

 :25:
75  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ปรากฏการณ์ เมื่อจิตเป็นสมาธิ เมื่อ: สิงหาคม 19, 2010, 11:43:44 pm
หลังจากได้ ไปวัดราชสิทธาราม แล้วก็ได้ปฏิบัติและปฏิบัติ ตามเสียงพระอาจารย์ในช่วง หนึ่งทุ่ม

ผมรู้สึกว่า สมาธิผมเปลี่ยนไปอีกแบบครับ พอจะสรุปได้ดดังนี้ครับ เลยนำมาเล่าไว้ให้เพื่อน  ๆ ฟัง

เพราะเห็นว่า ศิษย์กรรมฐานนั้น พูดอารมณ์หรือเล่าให้ฟังซึ่งกันและกันไม่ได้ แต่ผมยังไม่ได้ขึ้นกรรมฐาน

ครับ น่าจะยกเว้น

1.เมื่อเริ่มนั่งกรรมฐาน รู้สึกำหนด ฐานจิตตามได้ แบบรู้สึกไว

2.ไม่มีอาการที่เรียกว่า วูบ ๆ ไม่มี ๆ แต่สติ อยู่กับ พุทโธ และ ฐานจิต

3.เกิดอาการ หนาว สั่น น้ำตาไหล

4.ใจดิ่งอยู่ในอาการ เหมือนรู้สึกตัวอยู่ ตลอดการนั่งกรรมฐาน

5.กำหนดเสียงพระอาจารย์ ได้เป็นเสียงเดียว พร้อมฐานจิต และ พุทโธ คือเสียงอื่น ดับหมด เหลือแต่เสียง

  พระอาจารย์สอนกรรมฐาน

6.รู้สึกแปลก ๆ ตรงที่ว่า เรียนกรรมฐานนั้นชอบเรียนตอนนั่งกรรมฐาน ซึ่ง

7.มีความรู้สึกที่นั่งกรรมฐานไปจนจบรายการเสียงนั้น รู้สึกเหมือนนั่งแค่ 10 นาที

ก็อนุโมทนากับเพื่อน ๆ ด้วยนะครับที่ปฏิบัติได้จริง

ผมจึงมีความเห็นว่า เป็นกรรมฐาน ที่่ปฏิบัติ ได้จริง ๆ ครับตั้งใจจะปฏิบัติต่อไปครับ

ลักษณะ ของ กรรมฐาน ต่างจากกรรฐานในฝ่ายพระจีนบ้างครับ

ตอนที่ผมฝึกนั้น มีการใช้อุปกรณ์่ช่วยเช่น การเคาะไม้ และ การนับประคำ และสวด

ส่วนเมื่อก่อนผมนั่งไปแล้วจะมีอาการวูบ ๆ

การนั่งก็จะนั่งบนเบาะหนา และ เชิดหัวเข่าขึ้น

การภาวนา ไม่ได้พิจารณา อะไรเลย ๆ แต่ก็ติดออกไปทาง นิ่ง ๆ  มากกว่า

ซึ่งการฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นเห็นความแตกต่างได้ตั้งแต่ครั้งแรก เลยครับ

 :25: :25: :25: :25:
76  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การปล่อยปลา ปล่อยชีวิตสัตว์ เป็นบุญจริง หรือ การเลิกทำนั้นเป็น โลกาภิวัฒน์ เมื่อ: สิงหาคม 05, 2010, 10:45:16 pm
มองต่างมุมสักนิด นะครับ คุณ fasai

ผมว่าลองมองลูกโซ่ ความจำเป็น ด้วยเหตุปัจจัย ได้หรือป่าวครับ

เพราะผมเคยถามพระจีนที่ทานเจ ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ มาแล้ว

ด้วยคำถามว่า

สมมุติ ว่าเราเลิกซื้อ เนื้อสัตว์ทั่วโลก คนที่จะต้องตกงาน การจากการขายเนื้อสัตว์ น่าจะมีมากโข

ธุรกิจเรื่อง เนื้อสัตว์ ไม่ว่า ปศุสัตว์ ฟาร์มวัว ควาย ไก่ เป็ด ห่าน นก ปลา หมู เป็นต้น

คนเหล่านี้มีจำนวนมาก จะไปทำอะไรกิน ถ้าไม่มีที่นา ที่ไร่ บ่วงแห่งชีวิต จะต้องกระเทือน

ถ้าพิจารณา ให้ดี

วัว ควาย กิน หญ้าได้

เสือ สิงห์โต จะกินได้ไหม

งู กิน กบ กิน เขียด

ทั้งหมดนี้เรียกว่า บ่วงโซ่แห่งชีวิต ถ้าเปลี่ยนมีผลกระทบกับความเป็นอยู่

ผมยังยกอีกยาวครับ


   พระ ท่านตอบว่า บ่วง ที่คุณกล่าวนั้นกว้างไป  เพราะการหยุด อยู่ที่ตัวคุณ

 ผมเอง อึ้งกิ่มกี่ เลยครับเพราะ ผมฟังเข้าใจว่า

  ที่จริง ผมกล่าวอ้างเหตุผล วุ่นวายไปหมด ซึ่งผมจะเกี่ยว หรือ ไม่เกี่ยว กับบ่วงนั้น

 แต่ถ้าวันนี้ผมทานเจ ในวัด ผมก็จะหยุด ได้ 1 มื้อ ครับ


ดังนั้น การปล่อยปลา ปล่อยนก ปล่อยเต่า ปล่อยสารพัดปล่อย

ผมว่า ถ้า ศรัทธา ที่จะทำก็ทำครับ เพราะถ้าไม่ทำก็ไม่มีใครทำ

บ่วงที่กล่าวมา บางทีก็เป็นเหตุ และ ผล

เหมือนหมอ ที่คนไข้ ที่ปางตาย หรือ รู้ว่าตายแน่ ๆ คุณหมอ พยาบาล จะหยุด ช่วยชีวิตคนพวกนั้นก็หามิได้

กับพยายามช่วย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าช่วยไม่ได้



ในเมื่อคุณ fasai นั้นมีศรัทธา ด้วยกำลังทรัพย์ ขนาดนั้น ต้องการช่วยชีวิตสัตว์

ถ้ามัวแต่ ไปนึกถึงเหตุ ตรงนั้นมาก ก็สะดุดครับ

ทุกสิ่ง ทุกอย่าง มีเหตุ ปัจจัย ในตัว เป็นสิ่งที่ต้องปรากฏรู้ได้ด้วยใจ ครับ


77  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: "ไก่กับไข่" อันไหนเกิดก่อนกัน เมื่อ: สิงหาคม 05, 2010, 10:35:08 pm
ชอบเรื่องนี้ จริง ๆ ครับเพราะผมเคยไปได้รับคำตอบ ที่วัดเสียมลิ้มยี่

เรียกว่าตอบรู้่อย่างฉับพลัน

ผมเอง ไก่ กับ ไข่ อะไรเกิดก่อนกัน ?

พระ ควาสงสัยเกิดขึ้นเมื่อใด ไก่ กับ ไข่ ก็เกิดเมื่อนั้น

ผมเอง ทำหน้างง ๆ  สรุปว่า ความสงสัย เป็นตัวเกิด ของ ไก่ และ ไข่

พระ ความไม่รู้ คือ ความสงสัย

ผมเอง ยิ่งงงมากขึ้น  ตกลง ความไม่รู้ คือ ตัว เกิด ไก่ และ ไข่

พระ อามิตาภ

ผมเอง หยุดนิ่งคิด และ รู้โดยฉับพลัน ทันที ( รู้อะไรก็ไม่รู้ บอกไม่ได้)



ไม่เคย ได้ฟังเพลงแหล่ ของไทยเรื่องดาวลูกไก่ จนหลงลืมไปว่า เราไม่ใช่คนไทย เพราะคลายสมมุติเรื่องชาติ

แต่พอลองไปเปิดฟังตามลิงก์ แล้วรู้สึกว่า เราลืมตัวว่าเราเป็นคนไทยนะนี่ ไม่ได้ฟังเพลงนี้มาร่วม 20 กว่าปีแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

ช่วงนี้ผมเริ่มจะใจอ่อน เรื่องการบวชพระที่ประเทศไทยแล้ว ยิ่งตามเข้ามาอ่านเว็บ และฟัง RDN ด้วยแล้ว

รู้สึกว่า พระไทย มีดีเยอะเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่เลิกล้มเรื่องบวชที่วัดเสียวลิ้มยี่ ครับ

 :25:
78  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: วัตถุมงคล เช่น พระสมเด็จ และ ตะกุด จะช่วยป้องกันภัย ได้จริงหรือครับ เมื่อ: สิงหาคม 05, 2010, 10:20:18 pm
สำหรับผม วัตถุมงคล ก็เป็น วัตถุชิ้นหนึ่งครับ เป็นสิ่งที่ระลึก

ในบัญญัติ แล้ว ไม่มีรูปร่าง ควรเชื่อมั่นปัญญาก่อนครับ

การน้อมใจไปศรัทธา อาจทำให้หลงทางได้ เพราะสัทธา ที่ขาดปัญญา นั้นเป็น อุบาย หลอกล่อ ของกิเลส

การมีสิ่งที่ระลึก บุคคลแล้ว ที่จริงในทางพระพุทธศาสนา น่าจะถือว่าเป็นเรื่องงมงาย เพราะเป็นเรื่องไร้สาระ

เป็นที่พึ่งคนที่ขาดปัญญา

มีพระสูตรบทหนึ่ง มีข้อความว่า

มนุษย์เป็นอันมาก อาศัย ภูเขาบ้าง ป่าไม้ อาราม และ รุกขเจดีย์บ้างเป็น สรณะ

นั่นมิใช่ สรณะอันเกษม นั่นมิใช่ สรณะ อันสูงสุด เขาอาศัย สรณะนั้นแล้ว ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

ดังนั้น พุทธศาสน์เป็นเรื่องคนที่ปัญญา ย่อมไม่มุ่งที่ศรัทธา เป็นหลัก


พึงตรอง ด้วยกาลามสูตร อย่าหลงเชื่อในสิ่ง ที่เป็นวัตถุ  เพราะไม่ทำให้เราพ้นจากสภาพแห่งทุกข์ได้จริง

ในบัญญัติ สมมุติ ผู้ขลาด ผู้กลัว ย่อมประสพกับความทุกข์ และความเดือดร้อนว่า

นี่เป็นเรา นี่เป็นของเรา นี่เป็นตัวเป็นตนของเรา ดังนี้


ดังนั้น องค์ พระศาสดา จึงทรงตรัสว่า ธรรม และ วินัย จักเป็นศาสดา ของพวกเธอทั้งหลาย

โปรดใช้ วิจารณญาณ ด้วยนะครับเรื่องนี้ อย่าหลงงมงาย กับวัตถุเป็นดิน เป็นหิน เป็นทองเหลือง

ไหว้พระพุทธ ระวังสะดุดทองคำ

ไหว้พระธรรม ระวังสะดุดใบลาน

ไหว้พระสงฆ์ ระวังสะดุดเรื่องชาวบ้าน


วันนี้ผมได้ฟัง ท่านพระอาจารย์พูดถึง คำภาษิตบทหนึ่งผมฟังแล้ว ในตอนกลับแล้วยังจำมาบัดนี้เลยครับ

 "ซื้อทองข้างทางก็เสี่ยง ฟังพระสมมุติแสดงธรรมก็เสี่ยง รับกรรมฐานแล้วไม่ภาวนาก็เสี่ยง ฟังธรรมเอาแต่จับผิดก็เสี่ยง"

สาธุ ครับ สาธุ ครับ

 :25: :25:
79  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: RDN ( Radio net online ) ทดสอบสถานีวิทยุ มัชฌิมา อาร์ดีเอ็น เมื่อ: สิงหาคม 05, 2010, 10:09:11 pm
รายการตอนนี้ฟัง ดีครับ ผมชอบฟัง ธรรมะคลายทุกข์ ครับ

และ เปิดใกล้เคียงเวลา และ ผมก็มักจะเลือกเปิดในเวลาด้วยครับ ไม่ได้ฟังทั้งวัน

 :25:
80  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ขึ้นพระกรรมฐาน ใหญ่ ครั้งที่ ๒๒๘ ณ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เมื่อ: สิงหาคม 05, 2010, 10:07:38 pm
วันนี้ผมได้ไปวัดราชสิทธาราม และ ได้เข้าร่วมพิธี พุทธาภิเษก ตั้งแต่ 9.00 น. มาถึง 13.30 น.

พบ พระอาจารย์ ที่คณะ 5 เข้าไปกราบท่าน แต่ไม่มีเวลาสนทนากับท่าน เพราะมีการขึ้นกรรมฐาน ในช่วงบ่าย

สถานที่วันนี้ ที่คณะ รู้สึกจะแคบไปเลยครับ คนเยอะพอสมควรครับ แต่ผมก็กลับก่อน ยังไม่ได้ขึ้นกรรมฐาน

เนื่องด้วยญาติ ที่ไปมากันแต่เช้า แล้วรับวัตถุมงคลแล้วก็อยากกลับก่อน

สาธุ สาธุ

น่าจะมีรูปใ้ห้ชมอยู่นะครับ

หน้า: 1 [2] 3 4