ธรรมะสาระ > สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน

ทำไม ผู้ฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ จึงไม่ประสพความสำเร็จในการภาวนา

(1/2) > >>

kittisak:
พวกผม เป็นคณะที่ไปขึ้นพระกรรมฐาน ที่วัดราชสิทธาราม มีไปประมาณ 30 กว่าคน
ไม่เคยไปวัดแก่งขนุน แต่หลังจากขึ้นพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มาตั้งแต่ ปี 2550 บัดนี้ผ่านไป 3 ปีกว่าแล้ว ทั้งผม และ บรรดาเพื่อน ๆ กับไม่มีความก้าวหน้า ในพระกรรมฐาน ทั้งที่ ไปพบหลวงพ่อจิ๋วก็บ่อย และ โทรศัพท์สนทนา กับ ท่าน สุดท้ายก็ยังอยู่ที่ พระขุททกาปีติ เป็นส่วนใหญ่ มีบางคนท่านบอกให้เลื่อนไปภาวนา ที่พระขณิกาปีติ

สาเหตุอันใด จึงทำให้ผู้ฝึก กรรมฐาน ไม่ก้าวหน้าครับ

noppadol:
ผมเองก็พยายาม บากบั่นอยู่ครับ

1.คงเพราะมัวแต่ทำงานมากกว่าภาวนา
2.ภาวนาแล้ว มัวแต่คิดถึงเรื่องฤทธิ์ กระมังครับ
3.สัทธา อาจจะไม่พอ
4.อาจจะไม่มีกัลยาณมิตร คอยช่วยเหลือ
5.กรรมฐาน อาจจะมีขั้นตอน ยุ่งยาก มากเกิน
6.กรรมฐานนี้ อาจจะเป็นการฝึกของพวกที่มีบุญบารมีด้วยครับ เพราะเท่าที่ผมพิจารณาแล้ว ละเอียดพิศดารครับ
7..........

raponsan:

คำถามของคุณกิติศักดิ์จากอีกกระทู้หนึ่่ง
"ผู้ฝึกปฏิบัติภาวนา ไม่ผ่าน ควรทำอย่างไร "
การฝึกภาวนา ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ถ้าภาวนาแล้วไม่สามารถผ่านไปได้ ควรทำอย่างไร
------------------------------------------------------

ปัญหาต่างๆที่ถามเอาไว้หลายๆกระทู้ ไม่ทราบว่า คุณกิติศักดิ์ได้เคย
ไปถามหลวงพ่อจิ๋วบ้างหรือยัง หากไปถามมาแล้วอยากให้คุณกิติศักดิ์
เผยแพร่เป็นวิทยาทานบ้าง

มาถึงการตอบคำถาม ขออนุญาตคุณกิติศักดิ์ตอบสองกระทู้พร้อมกัน
ปัญหาของคุณกิติศักดิ์ถามแบบคลุมๆไม่มีรายละเอียดอะไร
ที่สามารถยกมาเป็นประเด็นให้พิจารณาได้
มันติดตรงไหน อย่างไร ควรชี้ลงไปให้เห็นกันชัดๆ

อะไรคือ ผ่าน อะไรคือไม่ผ่าน
อะไรคือก้าวหน้า อะไรคือไม่ก้าวหน้า
เอาอะไรมาวัดว่า ผ่าน และเอาอะไรมาวัดว่า ก้าวหน้า
ช่วยชี้แจงรายละเอียดให้ทราบด้วยครับ

ขอโทษที่ต้องถามกันตรงๆ อยากจะให้เพื่อนสมาชิกได้รับ
ประโยชน์จากกระทู้นี้ จำเป็นต้องมีความชัดเจน เพื่อเอาไว้อ้างอิงได้
และขอให้ถือว่าเป็นการแบ่งประสบการณ์ให้กันนะครับ

ตัวผมเองเคยสอบถามผู้รู้ถึงอุปสรรคของการนั่งกรรมฐาน พอที่จะสรุปสาเหตุได้สองประเด็นใหญ่ๆ
๑.   การไม่ทำตามขั้นตอนของการนั่งกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ
๒.   การถูกนิวรณ์ และอุปกิเลส ครอบงำ

ผมขอเสนอขั้นตอนการนั่งกรรมฐาน พร้อมรายละเอียดของนิวรณ์และอุปกิเลส ดังนี้ครับ

ขั้นตอนการนั่งกรรมฐาน
๑. สมาทานศีล
๒. กล่าวคำขอขมาต่อพระรัตนตรัย
๓ .กล่าวคำอธิษฐานอาราธนากรรมฐาน
๔. การวางฐานจิต
   ๔.๑ การสัมปยุตธรรมลงศูนย์นาภี
   ๔.๒ การเลื่อนฐานจิตไปยังฐานจิตต่างๆ(ปัคคาหะนิมิต)
๕. การบริกรรม “พุทโธ” โดยใช้วิธีทีเรียกว่า “สมาธินิมิต”หรือ”บริกรรมนิมิต”
     หากมีนิวรณ์เข้าแทรก ให้แก้ไขโดยใช้วิธีที่เรียกว่า “อุเบกขานิมิต”
๖. การสัมปยุตธาตุ ตามองค์ธาตุของฐานจิตต่างๆ   
๗. เมื่อใกล้จะออกจากกรรมฐาน ให้อธิษฐานขอดูกาย
๘. อธิษฐานขอออกจากกรรมฐาน
๙. สวดคาถาพญาไก่เถื่อน อธิษฐานขอพรตามปรารถนา
๑๐. แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทุกตัวตน

ขอแนะนำให้อ่านเรื่องนี้ “ความสำคัญของ อธิษฐานบารมี”
http://www.madchima.org/madchima/index2.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=30

นิวรณ์ ๕ (สิ่งที่กั้นจิตไม่ให้ก้าวหน้าในคุณธรรม, ธรรมที่กั้นจิตไม่ให้บรรลุคุณความดี, อกุศลธรรมที่ทำจิตให้เศร้าหมองและทำปัญญาให้อ่อนกำลัง )
๑. กามฉันทะ (ความพอใจในกาม, ความต้องการกามคุณ)
๒. พยาบาท (ความคิดร้าย, ความขัดเคืองแค้นใจ)
๓. ถีนมิทธะ (ความหดหู่และเซื่องซึม)
๔. อุทธัจจกุกกุจจะ (ความฟุ้งซ่านและร้อนใจ, ความกระวนกระวายกลุ้มกังวล)
๕. วิจิกิจฉา (ความลังเลสงสัย)

อุปกิเลส  ๑๑  ประการ (เครื่องเศร้าหมองในการเจริญสมาธิ)
๑. วิจิกิจฉา  ความสงสัยในโอภาสนิมิต จิตคลาดเคลื่อนจากสมาธิ แสงสว่างจึงดับ
๒. อมนสิการ จิตไม่กำหนดนึก ว่านั้นอะไร นี่อะไร ทำให้จิตเลื่อนลอย จิต
     จึงเคลื่อนจากสมาธิ   แสงสว่างก็ดับ
๓. ถีนมิทธะ  จิตละเลยการกำหนดรูปนิมิต  จิตจึงง่วงเหง่าหาวนอน  จิต
     จึงเคลื่อน จากสมาธิ รูป จึงดับ แสงสว่างจึงดับ
๔. ฉมฺภิตตฺต ความไหวจิต ไหวกาย เพราะจิตเห็นรูปน่ากลัว จิตจึงเคลื่อน
     จากสมาธิ  แสงสว่าง รูปนิมิตจึงดับ
๕. อุพพิลวิตก ความที่จิต รวบรัด เพ่งเล็งดูรูปนิมิตมากมาย จิตกำเริบฟุ้งซ่าน
    จิตจึงเคลื่อนจาสมาธิรูปนิมิต และแสงสว่างจึงดับไป
๖. ทุฎฐุลล     ความกำหนดจิตดูรูปนิมิตมาก แต่กำหนดดูแต่ช้าๆ จิตคลาย
    ความเพียรลง เกิดความ กระวนกระวาย จิตจึงเคลื่อนจากสมาธิรูปนิมิต
   โอภาสนิมิตจึงดับ
๗. อจฺจารทฺธวิริย กำหนดความเพียรมากเกินไป จิตจึงคลาดเคลื่อนจากสมาธิ
รูป แสงสว่างจึงดับไป
๘. อติลีนวิริย   กำหนดความเพียรน้อยเกินไป อ่อนเกินไป จิตเคลื่อนจาก
    สมาธิ รูป  แสงสว่างจึงดับ
๙. อภิชปฺปา การกำหนดดูรูปปราณีต ตัณหาเกิด จิตจึงเคลื่อนจากสมาธิ รูป
    และแสง สว่างจึงดับไป
๑๐. นานตฺตสญฺญา การกำหนดดูรูปหยาบ รูปปราณีตพร้อมกัน จิตแยกเป็น
       สองฝ่าย จิต จึงเคลื่อน จากสมาธิรูปนิมิต และโอภาสนิมิตหายไป
๑๑. อตินิชฌายิตตฺต  การเพ่งเล่งรูปมนุษย์ อันปราณีต เกิดความยินดี จิต
       เคลื่อนจากสมาธิ รูป  แสงสว่างจึงดับ

เพื่อนๆสมาชิกทุกท่านมีความเห็นเป็นประการใด ช่วยออกมาแถลงกันหน่อยนะครับ

ขอให้ธรรมคุ้มครอง

kittisak:
อ้างถึง>>>>ขั้นตอนการนั่งกรรมฐาน
๑. สมาทานศีล
๒. กล่าวคำขอขมาต่อพระรัตนตรัย
๓ .กล่าวคำอธิษฐานอาราธนากรรมฐาน
๔. การวางฐานจิต
   ๔.๑ การสัมปยุตธรรมลงศูนย์นาภี
   ๔.๒ การเลื่อนฐานจิตไปยังฐานจิตต่างๆ(ปัคคาหะนิมิต)
๕. การบริกรรม “พุทโธ” โดยใช้วิธีทีเรียกว่า “สมาธินิมิต”หรือ”บริกรรมนิมิต”
     หากมีนิวรณ์เข้าแทรก ให้แก้ไขโดยใช้วิธีที่เรียกว่า “อุเบกขานิมิต”
๖. การสัมปยุตธาตุ ตามองค์ธาตุของฐานจิตต่างๆ   
๗. เมื่อใกล้จะออกจากกรรมฐาน ให้อธิษฐานขอดูกาย
๘. อธิษฐานขอออกจากกรรมฐาน
๙. สวดคาถาพญาไก่เถื่อน อธิษฐานขอพรตามปรารถนา
๑๐. แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทุกตัวตน<<<<
 ที่ผมปฏิบัติ กันอยู่ประจำ ก็มีเพียง ขอขมา และ อธิษฐาน กรรมฐานครับ
 ส่วนการสัมปยุตจิตลงศูนย์นาภี นั้นยังไม่รู้จักครับ นัยว่าขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนของ อนุโลม และ ปฏิโลม ถ้าจำไม่ผิด การสัมปยุตธาตุ ยิ่งไม่เข้าใจ มีแต่พิจารณาลักษณะใน ธาตุดิน 21 ธาตุ ( ก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ครับ )
ขอดูกายนั้น หลวงพ่อจิ๋ว ท่านให้อธิษฐาน อาโลกกสิณ ดูครับ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าดูกายอะไร ?
คาถาพญาไก่เถื่อน ไม่เคยสวดหลังนั่งกรรมฐาน เลยครับ สวดแต่ตอนที่ต้องการสวด

หมวยจ้า:
มีผู้วิจารณ์ น้อย อาจจะมีอีกหลายสาเหตุ ถ้าขัดติดขัด ตรงไหน รายงานด้วยนะคะ
จะได้ ปฏิบัติตามด้วยคะ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป