ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - ISSARAPAP
หน้า: [1]
1  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / เรียนถาม เรื่อง การขัดแย้ง ของครูอาจารย์ กรรมฐาน มีจริงหรือ ครับ ? เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2015, 02:25:01 pm
 ask1
เรียนถาม เรื่อง การขัดแย้ง ของครูอาจารย์ กรรมฐาน มีจริงหรือ ครับ ?
ไม่ทราบมีหลักฐาน ใด ๆ หรือ ไม่ ครับ .....


  :smiley_confused1: thk56
2  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เรื่อง ช่วยแม่ งู หรือ ช่วย แม่ กบ เฉลยหรือยังครับ เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2015, 09:52:43 pm
 ask1
เรื่อง ช่วยแม่ งู หรือ ช่วย แม่ กบ เฉลยหรือยังครับ

 เรื่องนี้เป็นคำถามค้างคาใจผม มา เป็นเวลา 7 ปีนี้แล้วนะครับ ไม่ทราบว่าเฉลย หรือยังครับ
ถ้าเฉลยแล้ว อยู่กระทู้ไหน แนะนำหน่อย ครับ


  :41: :41: :41: thk56
3  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ระหว่าง สติ กับ สมาธิ ธรรมอันใด ใช้มากที่สุดใน การภาวนาครับ เมื่อ: ตุลาคม 30, 2012, 06:05:31 pm
ระหว่าง สติ กับ สมาธิ ธรรมอันใด ใช้มากที่สุดใน การภาวนาครับ
  คือ ไม่อยากให้สับสน กับการใช้ในการภาวนาครับ ในระหว่างที่ เดินภาวนา สติ ง่ายกว่า หรือ สมาธิ ง่ายกว่าครับ และ หรือ ระหว่าง นั่งอยู่ ใช้ สติ ง่ายกว่า หรือ สมาธิ ง่ายกว่าครับ
 
  สติ กับ สมาธิ เป็นคนละส่วน หรือ เป็นส่วนเดียวกันครับ
  การเจริญภาวนา เพื่อการไม่กลับมาเกิด ควรจะอาศัย สติ ให้มาก หรือ สมาธิ ให้มากครับ


  :c017: :49:
4  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ถ้าเรียนธรรมเพื่อความหลุดพ้น ระหว่าง สุญญตา กับ อนัตตา ควรทำความเข้าใจเรื่องใด.. เมื่อ: เมษายน 22, 2012, 11:15:58 pm
ถ้าเรียนธรรมเพื่อความหลุดพ้น ระหว่าง สุญญตา กับ อนัตตา ควรทำความเข้าใจเรื่องใดก่อนครับ คือถ้าเรามีความมุ่งหมายในการภาวนาเพื่อการไม่กลับมาเกิดอีกในชาติต่อไป ธรรมที่ควรจะเรียนเป็นเรื่องใด แบบเร่งด่วน การเข้าใจเรื่อง สุญญตา คือ ความว่าง และ ความไม่มี เป็นเหมือนกันหรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ ที่ตอบคำถาม

  :c017: :25:
5  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ฝากพุทธภาษิต ที่พระอาจารย์ ส่งมาให้อ่านทางเมล ดีมากครับ เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2011, 07:44:38 pm
สารญฺจ สารโต ญตฺวา
อาสารญฺจ อสารโต
เต สารํ อธิคจฺฉนฺติ
สมฺมาสงฺกปฺปโคจรา ฯ ๑๒ ฯ

ผู้ที่เข้าใจสิ่งที่เป็นสาระ ว่าเป็นสาระ
และสิ่งที่ไร้สาระว่าไร้สาระ
มีความคิดเห็นชอบ
ย่อมประสบสิ่งที่เป็นสาระ

Knowing the essential as the essential,
And the unessential as the unessential,
They who feed on right thoughts as such
Achieve the essential.


6  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / การละกิเลส เป็นการอ้อนขอ หรือป่าวครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 08:07:26 am
ผมอยู่ที่สิงคโปร์ พักหนึ่งพึ่งกลับมาที่ประเทศไทย เพื่อน ๆ ได้ชวนกันไปเข้าธรรม

ด้วยการรับ ธรรม หลังจากที่ผมตามไปก็เข้าร่วมพิธีกับเขาด้วยครับ

แต่ธรรม นั้นจะได้ด้วยการรับไม่ใช่ภาวนา และ คำสอนก็เป็นแนวทางแห่งการอ้อนวอน

ซึ่งผมดูแล้วขาดหลักการภาวนา ที่แท้จริงอย่างระบบเซ้น จากที่ผมไปเรียนที่วัดเสียวลิ้มยี่ จีน

การเข้าถึงสภาวะ เป็นประดุจ ตำแหน่งที่จะประทานให้ใครก็ได้ ถ้าคิดว่าเห็นสมควร ผมว่าการสอน

ธรรมแม้ การเป็นพระอรหันต์ ก็เป็นเพียงตำแหน่งที่จะให้ และ ปลดออกได้ ( ก็งงอยู่เหมือนกัน )

ดังนั้น อยากเรียนถาม พระอาจารย์ ว่า การสละกิเลสนั้น ในพระพุทธศาสนา ใช้วิธีอ้อนวอนและร้องขอหรือ

ป่าวครับ
 :25:
7  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / แก่นธรรม ที่ควรสนใจ มาก ๆ เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 07:40:34 am
ตัดข้อความมาจากกระทู้นี้
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=429.msg1598#msg1598

คาถา โอวาทปาฏิโมกข์ มีดังนี้ (โอวาทปาติโมกข์ ก็เขียน)
สพฺพปาปสฺส อกรณํกุสลสฺสูปสมฺปทา
สจิตฺตปริ โยทปนํเอตํ พุทธาน สาสนํฯ
แปล : การไม่ทำความชั่วทั้งปวง ๑ การบำเพ็ญแต่ความดี ๑ การทำจิตของตนให้ผ่องใส ๑ นี้เป็นคำสอนของ
พระพุทธเจ้าทั้งหลาย

3 ข้อ เบื้องต้นมาตรฐาน ใหญ่ของชาวพุทธ


1.ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา
2.นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา
3.น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี
4.สมโณ โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโตฯ
แปล : ขันติ คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง, พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่านิพพาน เป็นบรมธรรม, ผู้ทำร้ายคนอื่น
ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต,ผู้เบียดเบียนคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ

4 ข้อนี้เพื่อธรรม 2 ข้อแรก คือ ไม่เบียด เบียน การทำกุศลให้ถึงพร้อม

5.อนูป วาโท อนูปฆาโต ปาติโมกฺเข จ สํวโร
6.มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ ปนฺตญฺจ สยนาสนํ
   อธิจิตฺเต จ อาโยโค เอตํ พุทฺธาน สาสนํฯ
แปล : การ ไม่กล่าวร้าย ๑ การไม่ทำร้าย ๑ ความสำรวมในปาฏิโมกข์ ๑ ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร ๑ ที่นั่ง
นอนอันสงัด ๑ ความเพียรในอธิจิต ๑ นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

2 ข้อหลัีง เพื่อข้อที่ 3 คือการชำระจิตของตนให้ผ่องใส สอนให้รักสันโดษ กินอยู่ แต่พอเพียง

ที่เข้าใจกัน โดยทั่วไป และจำกันได้มาก ก็คือ ความในคาถาแรกที่ว่า ไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส


ถ้าเป็นชาวพุทธ จะเป็น นิกายใด ๆ ก็ต้องยึดหลักทั้ง 3 ประการนี้
8  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / เมื่อภรรยาที่หย่ากันแล้ว นำลูกสามีใหม่มาให้เลี้ยง เมื่อ: กันยายน 08, 2010, 07:23:44 am
คนงานที่บ้านผม ได้นำปัญหาเข้ามาปรึกษาเจ้านายอย่างผมว่า

ตอนนี้ภรรยาเก่า ที่เลิกร้างกันไปตั้งนานนั้น หลายปี ตอนนี้ได้อุ้มลูมาสองคน

เพื่อที่จะนำมาให้อุปการะ โดยที่เธอนั้นก็ไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันเข่นสามีภรรยา

เพียงแต่มาบอกว่า ต้องการให้อุปการะเด็กทั้งสองคน คนหนึ่ง 5 ขวบ อีกคน 3 ขวบ

เป็นหญิงชาย เธอเพียงแต่บอกอดีตสามีว่า ไม่รู้จะไปพึ่งใคร เพราะเธอจะไปทำงานต่างประเทศ

อดีตสามีก็อึ้งอยู่หลายวัน มาปรึกษาผม ๆ ก็บอกแต่เพียงว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ภาระ เป็นสิ่งที่เราไม่ควรจะมี

คือผมออกความคิด ว่าอย่าไปแบกภาระ

แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ คนงานผมก็รับอุปถัมภ์เด็กทั้งสองไว้
( ในโลกยังมีคนที่โง่อย่างนี้อยู่อีกหรือนี่ ผมคิดในใจ )

หลังจากอุปถัมภ์เด็กไว้หลายเดือน วันนั้นก็มีโอกาสไปซื้อต้นไม้กับผมที่จตุจักร

โลกนี้จะว่ากว้าง ก็ กว้าง จะว่าแคบ ก็ ว่าแคบ

เจ้าลูกน้องผมดันไปเจอ อดีตภรรยาที่บอกว่าจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ที่สวนจตุจักร

โดยแม่คุณก็เปิดร้านขายต้นไม้ กับสามีใหม่ ผมได้เจอตัวจริงครั้งแรก เธอจัดว่าสวยครับ

อายุแค่ 32 ปี ถ้าเจ้าลูกน้องผมไม่บอกว่านี่เป็นอดีตภรรยาเขา ละก็ ผมคงไม่มองแบบติดลบแน่

เจ้าลูกน้องผม เจอตัวแล้วก็รีบเข้าไปคุย แต่ก็สงวนท่าที เพราะผู้หญิงทำเป็นไม่รู้จัก บอกว่าทักคนผิด

ก็เลยทึกทักเอามากไม่ได้ เจ้าลูกน้องผมก็มานอนกลุ้มอยู่หลายวันก่อนที่จะอนุญาตพาเด็กทั้งสองไปหาแม่

ในอีกอาทิตย์ต่อมา แล้วทั้งหมดก็กลับมาด้วยความเศร้าสร้อย

เพราะผู้หญิงที่พบปฏิเสธว่าไม่รู้จักเด็กทั้งสอง

  แต่เด็กทั้งสองก็ยืนยันว่าเป็นแม่ของตนจริง ๆ เพราะแม่มีปานที่ข้อศอก

เจ้าลูกน้องผม ช่วงนี้ไม่เป็นอันจะทำงาน คอยจะลาไปที่สวนจตุจักร จนในที่สุด

 ก็โดนสามีผู้หญิงสั่งลูกน้อง ่จัดการ

 หน้าตาบวมปูดกลับมา

 คราวนี้เหมือนไม่มีทางออก ก็เลยมาปรึกษาผม ว่าจะทำอย่างไรดีครับเจ้านาย เ้รื่องมันเป็นอย่างนี้

 ส่วนผมเองก็ไม่สันถัดชีวิตแบบนี้ เพราะเห็นว่าผิดตั้งแต่ไปรับเด็กมาแล้ว หรือ จะเป็นบุญของเด็ก

 ก็ไม่ทราบ เพราะเจ้าลูกน้องผมคนนี้ก็เป็นคนใฝ่ธรรมะ ชอบนั่งกรรมฐานกับผมอยู่เหมือนกัน

 เล่าให้เพื่อนสมาชิก แสดงความเห็น เสนอทางออกหน่อยครับ

ผมเมล์ไปหาพระอาจารย์ พระอาจารย์ท่านตอบมาสั้น ๆ ว่้า

  "เดิมโลกไม่มีเรื่อง คนโง่หามาเอง ปัญหาที่ไม่มีทางออก ก็ให้ออกตรงทางที่เข้า"

 ผมอ่านแล้วก็ยังมึน ๆ อยู่ครับ

 :25: :25:
9  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ปรากฏการณ์ เมื่อจิตเป็นสมาธิ เมื่อ: สิงหาคม 19, 2010, 11:43:44 pm
หลังจากได้ ไปวัดราชสิทธาราม แล้วก็ได้ปฏิบัติและปฏิบัติ ตามเสียงพระอาจารย์ในช่วง หนึ่งทุ่ม

ผมรู้สึกว่า สมาธิผมเปลี่ยนไปอีกแบบครับ พอจะสรุปได้ดดังนี้ครับ เลยนำมาเล่าไว้ให้เพื่อน  ๆ ฟัง

เพราะเห็นว่า ศิษย์กรรมฐานนั้น พูดอารมณ์หรือเล่าให้ฟังซึ่งกันและกันไม่ได้ แต่ผมยังไม่ได้ขึ้นกรรมฐาน

ครับ น่าจะยกเว้น

1.เมื่อเริ่มนั่งกรรมฐาน รู้สึกำหนด ฐานจิตตามได้ แบบรู้สึกไว

2.ไม่มีอาการที่เรียกว่า วูบ ๆ ไม่มี ๆ แต่สติ อยู่กับ พุทโธ และ ฐานจิต

3.เกิดอาการ หนาว สั่น น้ำตาไหล

4.ใจดิ่งอยู่ในอาการ เหมือนรู้สึกตัวอยู่ ตลอดการนั่งกรรมฐาน

5.กำหนดเสียงพระอาจารย์ ได้เป็นเสียงเดียว พร้อมฐานจิต และ พุทโธ คือเสียงอื่น ดับหมด เหลือแต่เสียง

  พระอาจารย์สอนกรรมฐาน

6.รู้สึกแปลก ๆ ตรงที่ว่า เรียนกรรมฐานนั้นชอบเรียนตอนนั่งกรรมฐาน ซึ่ง

7.มีความรู้สึกที่นั่งกรรมฐานไปจนจบรายการเสียงนั้น รู้สึกเหมือนนั่งแค่ 10 นาที

ก็อนุโมทนากับเพื่อน ๆ ด้วยนะครับที่ปฏิบัติได้จริง

ผมจึงมีความเห็นว่า เป็นกรรมฐาน ที่่ปฏิบัติ ได้จริง ๆ ครับตั้งใจจะปฏิบัติต่อไปครับ

ลักษณะ ของ กรรมฐาน ต่างจากกรรฐานในฝ่ายพระจีนบ้างครับ

ตอนที่ผมฝึกนั้น มีการใช้อุปกรณ์่ช่วยเช่น การเคาะไม้ และ การนับประคำ และสวด

ส่วนเมื่อก่อนผมนั่งไปแล้วจะมีอาการวูบ ๆ

การนั่งก็จะนั่งบนเบาะหนา และ เชิดหัวเข่าขึ้น

การภาวนา ไม่ได้พิจารณา อะไรเลย ๆ แต่ก็ติดออกไปทาง นิ่ง ๆ  มากกว่า

ซึ่งการฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นเห็นความแตกต่างได้ตั้งแต่ครั้งแรก เลยครับ

 :25: :25: :25: :25:
10  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เป็นพุทธมามกะ แล้วไม่กราบไหว้ พวก ผี เจ้าที่ พระภูมิ มีความผิดด้วยหรือ ? เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2010, 03:04:07 am
ผมเ็ป็นผู้กล่าว ถึงพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่ง

คือ ถือเอา พระพุทธเ้จ้่า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง

นอกจาก เคารพ ในพระรัตนตรัย และ ผมก็ให้ความเคารพ ต่อ ผู้ใหญ่ เสมอ

แต่ที่บ้านผม มีธรรมเนียม ทุกปี จะมีการไหว้ศาลพระภูมิ เจ้าที่ หรือบางครั้ง ก็พากันไปกราบ ต้นไม้ เจ้าพ่อ เจ้าแม่

แต่ทุกครั้ง ผมก็ไปร่วมงานด้วย แต่ไม่เคยแสดงความเคารพ ด้วยการกราบไหว้ สิ่งเหล่านี้

จนทำให้ บรรดาคนในครอบครัว และ บรรดาญาติ ทั้งหลาย กล่าวหาผมว่าเป็นคนขวางโลก




เพื่อน สมาชิก มีความเห็นอย่างไร กับเรื่องนี้ครับ

ที่จริง ผมมองเห็นเรื่องนี้เป็น สมมุติ ไม่ใช่ ของแท้

ถ้าจะพูดให้หนัก ๆ ก็มองเห็นเป็นเรื่อง หลอกลวง ใจตนเองเท่านั้น ขาดเหตุผล เป็นเรื่องงมงาย


 :25: :25:
11  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / พระอรหันต์ ไม่ตั้งอยู่ในเพศคฤหัสถ์ เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2010, 02:58:24 am
ผมได้ฟัง ได้อ่าน และศึกษา แม้ผู้รู้หลายท่าน

ก็มักจะพูดขึ้นว่า

   พระอรหันต์ อยู่ในเพศคฤหัสถ์ ได้ไม่เกิน 7 วัน

อยากทราบมีพระพุทธพจน์ กล่าวถึงเรื่องนี้บางหรือป่าวในพระไตรปิฏก ?
12  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เป็นผู้ชาย บวชทดแทนคุณ และ เป็นผู้หญิง ทำยังไง ? เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2010, 02:56:44 am
ผมเป็นคนหนึ่ง ที่ต้องการบวช แต่วัดที่ผมเลือกไปบวช เป็นวัดเสียวลิ้มยี่ ที่ประเทศจีน

คุณพ่อ คุณแม่ ผมเป็นคนไทย ผมเองก็เป็นคนไทย ทั้งสองท่านเลือกวัดให้ผมบวชก็คือวัดสามพระยา ใกล้บ้านครับ

แต่ผมก็ไม่ทำตามความต้องการ

จนกระทั่งน้องสาวผมคงรำคาญ มาก จึงพูดขึ้นว่า

"เป็นผู้ชายถึงบวชทดแทนคุณได้ ถ้าเป็นผู้ชายบวชให้พ่อกับแม่ ไปตั้งนานแล้ว"

ผมก็เลยมาคิดว่า นั่นสินะ

การทดแทนคุณพ่อแม่ด้วยการบวช ของผู้ชายมีได้

แล้วผู้หญิงละ ไม่มีวิธีหรือครับ ?
13  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / คนต่างลัทธิ ศาสนา สามารถ สำเร็จเป็นพระอริยะบุคคลได้หรือไม่ เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2010, 02:51:59 am
เพื่อนผมคนหนึ่ง ตอนผมไปอยู่ที่สิงค์โปร์ เป็นเพื่อนรักกันมากคบเป็นเพื่อนกันมาประมาณ 10 กว่าปี
ตั้งแต่เรียน มัธยมจนจบ ปริญญาตรี

เพื่อนผมคนนี้ เป็น คริสต์ศาสนิกชน จะไปที่โบสถ์ทุกว้ันเสาร์ และวันอาทิตย์
คุณพ่อที่โบสถ์ ก็สนับสนุนจนกระทั่งเขาตัดสินใจเป็น บาทหลวง

ส่วนผมเป็นพุทธ นับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง แต่เวลาเพื่อนชวนไปโบสถ์ ก็ไปแต่ไม่ร่วมกิืจกรรม กับเขาเพียง
แต่นั่งเล่น เดินเล่น เพื่อนผมคนนี้ก็พยายามเอาทั้งหนังสือ และ แผ่นซึดี เกี่ยวกับคริสต์มาให้ผม บางครั้ง

ก็เชิญผมไปนั่งดู วีดีทัศน์ ในห้องโสต ( ลงทุนพยายามทำให้ผมเ้ปลี่ยนศาสนาให้ได้ )

ในขณะเดียวกัน ก็มีการโต้ วาทะ ด้วยหลักธรรมกัน

แต่ก็จนแต้ม ด้วยวาทะผม เพราะหลักการของ พระพุทธศาสนาเป็น อิสระจากพระเจ้า เป็นหลักการ วิถีจิต

ด้วยความเป็นเพื่อน ก็ไม่มีปัญหาในด้านศาสนา เพราะศาสนาสอนให้เราเป็นคนดี

จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมได้เห็น และ ได้ยิน ด้วยการไปแอบมองเพื่อนผม สอนนักเรียนในวันหนึ่ง

ซึ่งหลักการสอนทำให้จิตสงบนั้น กับเป็นการสอนแบบอานาปานสติ แบบของพุทธ แต่ไม่ใช้คำว่า พุทโธ

เพียงแต่ใช้ สติ ตามลม และผมก็ได้ยินการสอน ออกไปทางพุทธ แต่ไม่กล่าวนาม พระรัตนตรัย

เกริ่นเรื่องพอแค่นี้ นะครับ


คำถามเพื่อช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ

1.คนต่างลัทธิ ศาสนา สามารถ สำเร็จเป็นพระอริยะบุคคลได้หรือไม่

2.การนำคำสอนของศาสนาอื่น เข้าไปประสานกับหลักศาสนาของตน ถือว่าเป็นการปฏิรูปศาสนาหรือไม่

3.ผมควรเตือน เพื่อนผมคนนี้ในเรื่อง หลักศาสนาหรือไม่

 ??? ??? :17: :17:
14  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / พระอรหันต์ ที่เลิศทางฤทธิ์ ทำไมจึงป้องกันตัวเองไม่ได้ เมื่อ: มิถุนายน 24, 2010, 11:12:01 pm
ผมได้ศึกษา ประวัติ พระอนุพุทธ แล้ว

ก็เกิดความสงสัย กับ พระที่เลิศทางฤทธิ์ ว่าทำไม ? why ?

ยกตัวอย่าง

1. ทำไม  ? พระโมคคัลลานะเถระ เป็นผู้เลิศด้วยฤทธิ์ สามารถกำหราบได้ พญานาค ยักษ์ อสูร

     แต่ต้องมาพ่ายแก่โจรธรรมดา

2. ทำไม ? พระสารีบุตร ที่มีฤทธิ์ ต้องกระโดดข้ามคูด้วย ทำไมไม่ใช้ฤทธิ์ เดินข้ามไป

3. ทำไม ? พระอุบลวรรณาเถรี นั้น ก็เลิศทางฤทธิ์ กับโดนมานพข่มขืน

และ อีก หลาย ๆ ทำไม ?

 :smiley_confused1:
15  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2010, 01:44:09 pm
ผมเองเป็นไม่ได้เป็นศิษย์ ในสายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

แต่กำลังเริ่มมีความสนใจ ในการภาวนา ตามแบบนี้

วันนี้ได้ไปอ่านที่หน้าข่าวสารครั้งแรก และได้เจอหน้าข่าวสารตรงนี้

เพื่อน ๆ สมาชิก คลิ๊กไปอ่านดูได้

http://www.madchima.org/madchima/index2.php?name=news&file=readnews&id=13


อ้างถึง
ความ คิดเห็นที่ 1
พุธ ที่ 12 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2553 เวลา 21:53:10
เท่าที่ทราบที่วัดพลับมีการสอนและสอบอารมณ์และมีการยืนยัน
ว่าไค รผ่านขั้นไหนๆลองย้อนกลับไปถามว่าที่นี่มีไครสอบผ่านบ้าง
จะได้มั่นใจว่า สามารถส่งอารมณ์เราได้ เรื่องพวกนี้อย่าหลงเชื่อไคร
ง่ายๆ ในพระไตรปิฏกไม่มีกล่าวอย่าเพิ่งเชื่อนะครับ
โดย : อ    ไอพี : 125.26.7.88

ความคิดเห็นที่ 2
เสาร์ ที่ 29 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2553 เวลา 20:40:42
คห.ที่ 1 มันเกี่ยวกับอะไรกับหัวข้อ ด้านบน
โพสต์ให้มันถูกห้อง ด้วย
โดย : ฮ    ไอพี : 222.123.221.234

ความคิดเห็นที่ 3
อาทิตย์ ที่ 30 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2553 เวลา 09:31:47
เรา ว่า คห.ที่ 1 น่าจะไปโพสต์ในบอร์ด เลยนะจะได้ร่วมแสดงความจริงใจ ของจริง ไม่ต้องโฆษณา ของแท้ไม่ต้องกลัวโดนต้ม ไม่มีในพระไตรปิฏก ยิ่งโง่ใหญ่ เราเห็นหนังสือเล่มสีน้ำเงิน ที่หลวงพ่อพระครู ท่านพิมพ์มาให้อ่าน ล้วนอ้างกับพระไตรปิฏกทั้งเล่ม
โดย : ก    ไอพี : 222.123.204.198

แต่เกรงว่า เพื่อน ๆ สมาชิก จะไม่ได้อ่าน ก็ขอนำวางไว้ให้อ่านกันก่อนเดี๋ยวผมจะเข้ามาวิจารณ์ให้ฟัง
ในฐานะที่ไม่ได้เป็นศิษย์ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ


16  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / การปฏิบัติธรรม ทำไมต้องแบ่งว่าเป็นกรรมฐาน นั้น กรรมฐานนี้ ครับ เมื่อ: มีนาคม 10, 2010, 11:13:46 pm
การปฏิบัติธรรม ทำไมต้องแบ่งว่าเป็นกรรมฐาน นั้น กรรมฐานนี้ ครับ

การภาวนานั้น ไม่น่าจะต้องมีรูปแบบอะไร ?
ยิ่งเราภาวนา ก็ควรอยู่ในท่าไหน ๆ ก็ได้ ไม่ใ่ช่หรือครับ ?
ทำไมต้องนั่งหลับตา ภาวนาครับ ?
ความสำคัญของการภาวนา อยู่ที่การวิป้สสนา ไม่ใช่หรือครับ ?
การวิปัสสนา ก็คือ พิจารณา ความจริง ใน กาย ใน จิต ใน เวทนา ในธรรม ไม่ใช่ หรือครับ ?

ผมว่า ทุกวันนี้ เราติดเพียงรูปแบบภายนอก ไม่ได้พิจารณา ในธรรม ตามความเป็นจริง หรือป่าว
ยังติด สมมุติ เรื่อง สำนัก โน้น สำนัก นี้
แท้ที่จริง เป็นสำนักอะไรครับ ?

พระพุทธเจ้า สอนให้เราพิจารณาตามความจริงไม่ใช่หรือครับ ?
มัวแต่มานั่งหลับตา แล้วเมื่อไร จะเข้าถึง ธรรมชาติ ล่ะครับ ?

ลองพิจารณา สติปัฏฐาน 4 ให้ดีนะครับ จะได้ไม่เสียเวลา..... ;)
17  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / ภรรยา 4 คน เมื่อ: มีนาคม 10, 2010, 11:06:38 pm
เรื่องนี้ เพื่อนผมส่งเมล์ มาให้ผมอ่านแล้วเห็นว่าดี เลยขอโพสต์บ้างครับ
===========================================
ภรรยา 4 คน

ชายคนหนึ่งมีภรรยา อยู่ 4 คน

ภรรยาคนที่ 1 เขารักที่สุด ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตามใจตลอดอยากได้อะไร 
เขาหาให้ทุกอย่าง 

ภรรยาคนที่ 2 เขารักมาก เขาจะทำทุกสิ่ง
ทุกอย่างเพื่อภรรยาคนนี้ 
และจะไปหาภรรยาคนนี้เสมอ 

ภรรยาคนที่ 3 เขารักรองลงมา ดูแลเอาใจใส่พอควร แวะไปหาบางเป็นครั้งคราว 

ภรรยาคนที่ 4 เขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยดูแลเอาใจใส่ ไม่เคยไปหา ไม่คิดถึงเลย ด้วยซ้ำ

ต่อมาชาย คนนี้ไปกระทำความผิดร้ายแรง
และถูกจับ ต้องถูกประหารชีวิต ก่อนที่จะถูกประหาร เขาขอร้องว่า เขาขอกลับบ้าน
เพื่อไปร่ำลาภรรยาสุดที่รักซักครั้ง 
ผู้คุมเห็นใจจึงอนุญาต 
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขารีบตรงไปหาภรรยาคนที่ 1 
เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้ฟัง 
และถามภรรยา คน ที่ 1 ว่า

" ถ้าเขาต้องตายภรรยาคนที่ 1 
จะทำอย่าง ไร? " 

ภรรยาคนที่ 1 ตอบน้ำเสียงที่เย็นชาว่า 
“ถ้าเธอตาย เราก็จบกัน” 
คำตอบที่ได้รับ 
เหมือนสายฟ้าที่ผ่าเปรี้ยง!! ลงมาที่เขาอย่างจัง 
เขารู้สึกเจ็บปวด และเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
นึกเสียดาย ว่าเขาไม่ควรทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เลย

จากนั้นเขาก็ ไปหา ภรรยาคนที่ 2 
ด้วยอาการเศร้าโศก เล่า เรื่องราวต่างๆ ให้ ฟัง 
และถามคำถามเดิมกับภรรยาคนที่ 2 ว่า 


" ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน ที่ 2 
จะทำอย่างไร? "

ภรรยาคนที่ 2 ก็ ตอบอย่างหน้าตาเฉย ว่า 
" ถ้าเธอตาย ฉันจะมีใหม่ " 
เหมือนสายฟ้า!! ผ่าลงมาซ้ำที่เขา อย่างจัง 
เขารู้สึกเสียใจมาก และนึกเสียดายว่าที่ผ่านมา
เขาไม่ควร ทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เช่นกัน 

เขาเดินคอตกมาหาภรรยาคนที่ 3 
เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ ฟัง 
และถาม ภรรยา คนที่ 3 ว่า 

"ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน ที่ 3 
จะทำอย่างไร? "

ภรรยาคนที่ 3 ตอบว่า 
"ถ้าเธอตาย ฉันจะไปส่ง " 
ทำให้เขาคลายความ เศร้าโศกขึ้นมาได้บ้าง 
อย่างน้อยก็ ยังมีภรรยาที่จริงใจกับเขา 

ก่อนกลับไปรับโทษ
เขานึกขึ้นมาได้ว่ามีภรรยาอีกคน ซึ่งไม่เคยไปหาเลย จึงไปหา ภรรยาคนที่ 4 และถามว่า 

" ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคนที่ 4 
จะทำอย่าง ไร?" 

ภรรยาคนที่ 4 ตอบว่า 
" ถ้าเธอตาย ฉันจะตามไป ด้วย " 
แทนที่เขาจะดีใจกลับนึกเสียใจหนักขึ้นไปอีก 
เพราะ...มัน สายเกินไปเสียแล้ว ช่วงที่เขามีชีวิตอยู่
เขาไม่เคยเห็นค่าของภรรยาคนนี้ แต่ภรรยาคนนี้ไม่คิดที่จะทิ้งเขา จะติดตามเขาไปอยู่ด้วย 
แล้วชายคนนี้ก็กลับไปรับโทษประหาร
และเมื่อเขาตาย ภรรยาคนที่ 4 ก็ตายตามไป ด้วย.....

เราทุกคนก็ มีภรรยา 4 คน นี้

มีคำถามว่า ภรรยาทั้ง 4 คนเป็นใคร? คิดกันก่อนนะ แล้วค่อยเฉลย...

ทีนี้เรามาดูกันว่า 
ภรรยาคน ที่ 1, 2, 3 และ 4 
เป็นใครกันบ้าง

ภรรยาคน ที่ 1 

ร่างกายของเรา เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่ 
เราจะบำรุงบำเรอด้วยของสิ่งทุกอย่าง 
อยากได้อะไรก็หาให้ 
แต่พอเราตายมันกลับไม่ไปกับเรา 
เมื่อเราตาย ร่างกายมันก็มีค่าเท่ากับท่อนไม้
ท่อนหนึ่งเท่านั้น

ภรรยาคน ที่ 2 

ทรัพย์สมบัติ เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่ 
เราจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้มันมา 
แต่พอเราตาย มันกลับไม่ไปกับเรา 
แต่ไปเป็นของคนอื่น 

ภรรยาคนที่ 3 

พ่อแม่ ลูกเมีย ญาติ พี่น้อง เพราะพอเราตาย 
เขาจะทำศพให้เรา ทำบุญไปให้
แปลว่า เขาแค่ไปส่งเราเท่านั้น 

ภรรยาคนที่ 4 

บุญกับบาป เมื่อเราตายไป 
เราไม่สามารถเอาอะไรไปด้วยได้ 
มีเพียงแค่บุญกับบาปเท่านั้น
ที่จะตามเราไป ..... 

ความเห็นผู้ส่ง
เห็นไหมว่าเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชีวิต
แต่เดี๋ยวก่อนอย่าพึ่งคิดว่าเงินไม่สำคัญ 
สำคัญ … แต่
ไม่สำคัญที่สุดเท่านั้นเอง
อย่าลืม…ยังมีเรื่องอื่น
ที่สำคัญกว่าเงินอีกเยอะ 
18  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เข้าถึงธรรม...อย่างนี้ถูกหรือป่าวครับ ? เมื่อ: มีนาคม 10, 2010, 11:01:40 pm
ผม เป็นผู้ปฏิบัติภาวนา ก็ยังไม่นานไม่กี่ปี

แต่ทุกครั้งที่ปฏิบัติ ก็จะเข้าถึงความจริง นั่นคือธรรมะ สำหรับ ผมคือธรรมชาติ.....

หลักปฏิบัติของผมง่าย ๆ ครับ

ง่วงก็นอน หิวก็กิน ปวดถ่าย ก็ถ่าย จน พ่อ แม่ ผมเริ่มมองผมกลายเป็นคนขี้เกียจไปแ้ล้ว
เพราะอะไร หรือครับ เพราะผมมองเห็นแต่ทุกเรื่องเป็นเรื่องสมมุติ ทำไมจะต้องไปร่ำไปรวย
ทำไมเราต้องไปแข่งกับคนโน้น คนนี้ พระก็อยู่ที่ใจ ไม่เห็นจะต้องไปแขวน หรือไปกราบ ไปไหว้ เลย

มันมีแต่สมมุติ ใจมันรู้อย่างนี้ ยึดมั่น ถือมั่นไม่ได้ มีแต่บัญญัติ แล้วก็ บัญญัติ

ผมถูกใจคำว่า ไหว้พระพุทธระวังสะดุดทองคำ ไหว้พระธรรมระวังสะดุดใบลาน ไหว้พระสงฆ์ระวังจะสะดุดลูกชาวบ้าน อ่านแล้วผมชอบใจมาก ๆ เพราะคนสมมุติขึ้นมาต้องกราบต้องไหว้ ต้องไหว้ ต้องปฏิบัติ ต้องอย่างโน้น ต้องอย่างนี้ พ่อ แม่ ผมอยากให้ผมบวช จนป่านนี้ ผมอายุไป 35 ปีแล้ว ยังไม่บวชเลยครับ ผมบอกกับพ่อ แม่ผม ว่าทำไมต้องไปบวช การเป็นพระนั้นอยู่ที่ใจ พ่อ แม่ ผมก็ส่ายหน้าทุกครั้่ง

แท้ที่จริงแล้วมีแต่สมมุติ บัญญัติ กันขึ้นมาว่าเป็น พระ เป็น ธรรม แท้ที่จริงไม่มีอะไรเลย

ผมนั่งนึกอยู่เมื่อตอนผมเริ่มจับหนังสือธรรมะ ของหลวงพ่อพุทธทาส อ่านครั้งแรก

แท้ที่จริงแล้ว ความเป็นพระอยู่ที่ใจ คนเรามัวแต่หลงรูปภายนอก
มัวแต่บ้าสวรรค์ มัวแต่นิพพาน แท้ที่จริง อยู่ที่การเข้าถึงธรรมชาติ คือความไม่มี อะไรยึดมั่น ถือมั่น ไม่ต้องหลงบัญญัิต มีแต่สมมุติ ขึ้นมาอย่างนั้น อย่างนี้

ดังนั้นผมจึงไม่ได้ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน นั่ง นอน กิน อยู่ ที่บ้าน บนกองสมบัติ ที่พ่อ แม่ผมมีเหลือใช้
ผมอยากกิน ก็กิน ผมอยากเที่ยวก็เที่ยว อยากนอนก็นอน ประมาณนี้ครับ

คำถามครับ
==========================
1.ทำไม พ่อ แม่ จึงไม่เข้าใจ อะไรกับผมเลยครับ
2.การเข้าถึงธรรม บรรลุธรรม คือการกลมกลืินกับธรรมชาติ ข้ามพ้นบัญญัติ สมมุติ ใช่หรือป่าวครับ
3.การที่ผมมองเรื่องการยบวช นั้นไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา อะไร ?เพราะ พ่อ แม่นั้น อยากให้ผมบวชให้เขาครับ
  แต่ผมก็บอกว่า พ่อ แม่ ว่าไม่ต้องบวชหรอก ตอนนี้ผมบวชใจ
4.ผมถือ การปฏิบัติ ตามสติปัฏฐาน ครับ ในส่วนของ อิริยาปถปัพพะ ผมไม่ชอบการนั่งสมาธิ ผมไม่ชอบถือศีล
  เพราะมันหนัก ผมทานข้าววันละมื้อ สองมื้อบ้างครับ ตามอารมณ์ครับ บางครั้งก็ตอน เที่ยง บางครั้งก็ตอนทุ่ม   บางครั้งก็ดึก ๆ ครับ อย่างนี้ชื่อว่ามีศีลแล้วใช่ไหมครับ
5.การพิจารณาเรื่องสมมุติ บัญญัติ ต่าง ๆ การทำตัวให้กลมกลืน กับธรรมชาติ นั้นเป็น วิปัสสนา ใ่ช่หรือป่าวครับ
หน้า: [1]