สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 05:32:20 pm



หัวข้อ: อนิสงค์ของศีล
เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 05:32:20 pm
เรื่องอนิสงค์ของศีล เป็นเรื่องที่เขียนมาจากความเข้าใจและความจำล้วนไม่ได้อิงหนังสือเล่มใด ดังนั้นอาจยังมีข้อผิดพลาดจึงขออภัย ณ. ที่นี้ด้วย
     ศีล ในความหมายคือ การละ หรือการงดเว้น ถ้าแปลตามสถานะแล้วเป็นคำกลาง หมายถึงบัญญัติขึ้นมาไม่บังคับแต่แนะนำให้ปฏิบัติตาม ต่างกับคำว่า กฎ คือต้องกระทำตามนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ดังนั้นคำว่ากฏจะใช้กับผู้มีอำนาจออกระเบียบบังคับกับบริวาร หรือกฎหมาย หรือกฎธรรมชาติ มากล่าวถึงศีลต่อ ศีลตามที่พุทธศาสนาบัญญัติมีเป็นระดับดังนี้คือ ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 แยกแยะได้ดังนี้
     ศีล 5 สำหรับบุคคลทั่วๆไป มีรายละเอียดดังนี้
          1.ห้ามฆ่าสัตว์
          2.ห้ามลักทรัพย์
          3.ห้ามพูดเท็จ
          4.ห้ามผิดลูกเมีย(สามี)ผู้อื่น(กระทำผิดทางกาม)
          5.ห้ามดื่มสุราสิ่งมึนเมา
     ศีล 8 สำหรับชีพราหมณ์ แม่ชี ชีปะขาว ฤษี หรือนักพรต มี    รายละเอียดดั้งนี้
          1.ห้ามฆ่าสัตว์
          2.ห้ามลักทรัพย์
          3.ห้ามพูดเท็จ พูดจ่อเสียด
          4.อพราหมณ์จาริยา คือไม่ผิดพรหมจันท์ ไม่ถูกต้องเพศตรงกันข้าม และไม่สำเสร็จความใคร่ด้วยตัวเอง  หรือผู้อื่นทำให้
          5.ห้ามดื่มสุราสิ่งมึนเมา
          6.ห้ามรับทานอาหารหลังยามวิกาล คือหลังเทียงวัน
          7.ห้ามลูบไล่ร่างกายด้วยของหอม ห้ามทัดดอกไม้และ ฟ้อนรำทำเพลง
          8.ห้ามนั่งนอนในที่เตียงสูงหรือเบาะหรือฟูกสูง
     ศีล 10 สำหรับสามเณร มีรายละเอียดเพิ่มจาก ศีล 8 ดังนี้
           9.ห้ามดูมโหรสพการฟ้อนรำทำเพลงหรือสิ่งที่แสดง ที่เป็นภัยต่อพรหมจรรย์
          10.ห้าม จับต้องเงินทอง (ตามความหมายที่แท้และเคร่งครัดสมัยโบราณ คือห้ามชื้อขายสินค้าหรืออาหารให้ดำรงสถานะอย่างผู้ขอหรือบิณฑบาต ไม่ว่าจะเป็นพระหรือสามเณร)
     ศีล 227สำหรับพระภิกษุ ซึ่งมีรายละเอียดเพิ่มจากศีล 10 แต่ไม่ขอกล่าวในที่นี้เพราะมีเยอะเกินไป
ท่านผู้อ่านคงได้ทราบเรื่องศีลมาบ้างแล้วเพราะเป็นพุทธศาสนาเหมือนกัน คราวนี้จะเข้าสู่ผลของศีลเริ่มจากศีล 5
      ผลหรืออานิสงส์ของศีล 5 ที่เป็นปัจจุบัน คือ
          1.ทำให้เป็นผู้มีศตรูน้อย
          2.ทำให้เป็นผู้ไม่มีคดีมาติดพัน(ยกเว้นผู้มีกรรมเก่าส่งผล)
          3.เป็นผู้ที่ผู้อื่นไว้เนื้อเชื่อใจ
          4.ทำให้ครอบครัวอบอุ่น
          5.ทำให้เป็นผู้ไม่ขาดสติแล้วไปทำความผิดร้ายแรง
      ผลของผู้ผิดศีล 5 ที่เห็นในปัจจุบัน คือ
          1.มีศตรูมากมีบางท่านโดนฆ่าตายเพราะไปฆ่าผู้อื่น
          2.มีคดีติดพันหรือติดคุกเพราะลักทรัพย์หรือฆ่าผู้อื่น
          3.ไม่มีผู้ไว้เนื้อชื่อใจ
          4.ครอบครัวหาความสุขไม่ได้ติดโรคติดต่อหรือแยกทางกัน
          5.ทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือทะเราะวิวาทกัน
      ผลหรืออานิสงส์ของศีล 5 แบบข้ามชาติตามตำรา
          1.เมื่อตายแล้วก็เกิดเป็นเทวดาหรือเกิดเป็นมนุษย์เป็น อย่างต่ำ
          2.เมื่อเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์จะไม่พิการ มีอาการและร่างกายครบทุกอย่าง  ส่วนลักษณะเด่นดีอย่างอื่นจะขึ้นอยู่ กับกุศลที่ทำพิเศษออกไป
     ตัวอย่างของผู้ผิดศีล 5 ที่ส่งผลปัจจุบันมีตัวอย่างให้เห็นไห้รู้กันมากมายในปัจจุบันนี้ เช่นตามข่าวหนังสือพิมพ์ อยู่ในคุกในตาราง หรืออาจจะคนเป็นรอบข้างที่มีความทุกข์เผารนอยู่ แล้วแสดงออกทางกายวาจาให้เห็น หรืออาจจะเป็นตัวเราเองทีทำผิดที่จิตใจกำลังทุกข์รนอยู่ก็ได้ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นกันมากเลย ถ้าเป็นผู้เข้าใจกรรมและเข้าใจธรรม คงไม่ต้องทุกข์และหลีกเลี่ยงไม่กระทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดความทุกข์อันมากมาย
     ตัวอย่างของผู้ผิดศีล 5 แบบข้ามภพข้ามชาติตามตำรา
     เรื่องที่ 1.
          พ่อค้าฆ่าสุกร มีคนฆ่าสุกรคนหนึ่งเป็นทั้งคนฆ่าสุกรเองและชำละเนื้อสุกรขาย เป็นคนที่ไม่เคยทำบุญตักบาตรหรือฟังธรรมเลยและมีความคิดว่าฆ่าสัตว์ผิดที่ตรงใหน ฆ่าสุกรมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่แล้วไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น บาปกรรมไม่มี ซ้ำยังสอนให้ลูกหลานเข้าใจตามนี้จะได้ยึดอาชีพนี้ต่อไป อย่างนี้เรียกว่าผิดศีลแล้วยังเห็นผิดนับว่ามีฐิติมั่น ส่วนผู้ที่ประกอบอาชีพในการฆ่าสัตว์แต่ไม่ผิดกฎหมาย และมีความเห็นถูกว่าบาปบุญมีจริง ด้วยความจำเป็นจึงต้องประกอบอาชีพอยู่ยังดีกว่าเป็น ไหนๆ เพราะเมื่อมีโอกาศเปลี่ยนอาชีพที่ดีในแง่ของการไม่ผิดศีลเขาก็สามารถค่อยๆ เปลี่ยน หรือเปลี่ยนทันที่โดยไม่ลังเล โดยที่ไม่ทำให้ฐานะครอบครัวต่ำลงมากนัก มากล่าวถึงพ่อค้าฆ่าสุกรคนนี้ต่อ เมื่อมีฐิติผิดอย่างนี้แม้จะมีอายุมากแล้วก็ยังลงมือฆ่าสุกรด้วยตัวเอง และด้วยมีกำลังน้อยลงเวลาฆ่าสุกร ก็ทำให้สุกรทรมานมากกว่าจะสิ้นชีวิต มาถึงคราวกรรมอันเป็นอกุศลที่จะส่งผลพ่อค้าฆ่าสุกรคนนี้ ขณะที่กำลังใช้มีดช่วงแทงลำคอสุกรแต่ไม่ตรงจุดสำคัญทำให้สุกรตัวนั้นดิ้น ขาหน้าของสุกรถีบพ่อค้าฆ่าสุกรกระเด็นไปโดนถังน้ำร้อนลวกตนเองตั้งตัว แต่ไม่ตายในทันทีร้องครวญครางอยู่ จนลูกๆต้องเอาไปรักษาบนบ้าน ด้วยพิษความร้อนและบาดแผลทำให้มีอาการไข้และเพ้อ แสดงอาการร้องออกมาเหมือนหมูร้องเมื่อโดนเชือดทุรนทุรายเหมือนหมู รักษาอย่างไรก็ไม่หายมีอาการทรุดลงทุกวันๆ แสดงอาการอย่างนี้อยู่หลายวัน ผู้ที่มาเห็นแล้วรู้สึกสังเวชแทน พอขาดใจตายก็ลงนรกทันที่
     เรื่องที่ 2.
          พระภิกษุผู้ผิดศีล 5 ในสมัยพระพุทธเจ้าองค์ก่อนหรือสมัยพระกัสสปะพุทธเจ้าได้มีพระภิกษุ 2 พี่น้อง พระภิกษุที่เป็นพี่เมื่อเข้ามาบวชก็ศึกษาข้อวัตรและข้อปฏิบัติต่างๆ แล้วเข้าสู่ที่วิเวกปฏิบัติกรรมฐานอยู่รูปเดียว ด้วยความอดทนและมีขันติ จึงสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ส่วนพระภิกษุผู้เป็นน้องเมื่อศึกษาข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ แล้ว ก็ไม่ยอมที่จะปฏิบัติกรรมฐาน และยังไปมาหาสู่กับมารดาเป็นประจำ ซ้ำมีความเห็นผิดว่าพระอริยะนั้นไม่มีจริง จึงพูดจาบจ้วงในพระธรรมและพระสงฆ์ต่างๆ และมีพฤติกรรมที่ไม่ดีคือเอาของสงฆ์มาเป็นของตน และเมื่อติดพันกับทางบ้านก็ยักย้ายถ่ายเทของสงฆ์ไปให้กับทางบ้านเป็นประจำ ฝ่ายพระอรหันต์ผู้เป็นพี่ก็ได้มาเตือนน้องและมารดาของท่านเอง ก็ยังถูกพระผู้น้องและมารดาว่ากล่าวกลับมาเสียอีก เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง จนพระอรหันต์ผู้ที่เป็นพี่พิจารณาเห็นว่าฐิติของพระผู้น้องและมารดาไม่สามารถแก้ไขได้ จึงได้ถอยออกไป พอพระผู้น้องและมารดาสิ้นอายุไขก็มุ่งหน้าตกนรกทันที่ ฝ่ายพระผู้พี่ก็นิพพานในชาตินั้น ฝ่ายพระผู้น้องตกนรกทรมานอย่างแสนสาหัส เป็นเวลาลวงเลยถึง 1 พุทธันดร คือถึงในสมัยของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ก็ได้มาเกิดเป็นปลาพันธุ์หนึ่งมีเกล็ดเป็นสีทองสวยงามมาก เผอิญวันหนึ่งคนหาปลาได้จับปลาตัวนี้ได้และเอาขึ้นฝั่งคนก็มามุงดูกันใหญ่ เพราะความสวยงามของปลา แต่พอปลาตัวนี้อ้าปาก  จะมีกลิ่นเหม็นคละฟุ้งกระจายไปหมดน่าสะอิดสะเอียน ขณะนั้นพระพุทธองค์ดำเนินผ่านมาและเห็นเหตุการณ์ จึงมีพระที่ติดตามมาด้วยกราบทูลพระพุทธองค์ว่า ทำไม่ปลาตัวนี้จึงมีลักษณะอย่างนี้ พระพุทธองค์จึงตรัสเล่าให้ฟังตามที่กล่าวมาข้างตน และการที่ปลาตัวนี้มีสีทองสวยงาม เพราะอานิสงส์ของการได้บวชถือศีลและการที่เมื่อปลาอ้าปากแล้วมีกลิ่นเหม็นนั้นเป็นเพราะเศษกรรมที่ กล่าวจาบจ้วงพระธรรมและพระสงฆ์ในชาติที่เป็นพระ ส่วนกรรมหนักจริงได้รับไปแล้วในนรก
      มากล่าวถึงผลหรืออานิสงส์ของศีล 8 หรืออุโบสถศีล
      ผลหรืออานิสงส์ของศีล 8 ที่เป็นปัจจุบัน คือ
          1.ทำให้เป็นผู้มีศตรูน้อย
          2.ทำให้เป็นผู้ไม่มีคดีมาติดพัน(ยกเว้นผู้มีกรรมเก่าส่งผล)
          3.เป็นที่นับถือของผู้อื่น
          4.ทำให้มีชีวิตอย่างสงบภาระในการเป็นอยู่น้อย
          5.ทำให้เป็นผู้ไม่ขาดสติแล้วไปทำความผิดอย่างร้ายแรง
      ผลหรืออานิสงส์ของศีล 8 แบบข้ามชาติตามตำรา
          1.เมื่อตายแล้วก็เกิดเป็นเทวดาหรือเกิดเป็นมนุษย์เป็นอย่างต่ำ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์เมื่อกุศลมีความพร้อมมีโอกาศเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์
          2.เมื่อเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์จะมีรูปร่างสวยงามและไม่พิการ มีอาการและร่างกายครบทุกอย่าง ส่วน ลักษณะเด่นดีอย่างอื่นจะขึ้นอยู่กับกุศลที่ทำพิเศษออกไป
    ตัวอย่างผลของศีล 8 ชั่วคืนเดียวแบบข้ามชาติตามตำรา
          เรื่องมีอยู่ว่ามีเศรษฐีท่านหนึ่งเป็นคนใจบุญ และทุกวันพระจะอยู่อุโบสถศีล คือถือศีล 8 ฝ่ายข้าทาสบริวารก็ถือศีล 8 ตามท่านเศรษฐีไปด้วย และอยู่มาวันหนึ่งมีมานพคนหนึ่งได้มาขอรับจ้างเป็นคนทำสวนในบ้านเศรษฐี ท่านเศรษฐีก็รับไว้และให้ไปอยู่รวมกับพนักงานทำสวน พอวันที่ 3 ของการทำงาน เนื่องจากเป็นคนงานใหม่จึงมุทำงาน แล้วกะว่าจะไปทานข้าวในมื้อเที่ยงทีเดียว และพอดีวันนั้นเป็นวันพระ แต่มานพคนนี้ไม่รู้ความเป็นไปในบ้านเศรษฐีจึงเผลอทำงานเลยเที่ยงไป พอเข้าไปในโรงครัวก็แปลกใจเห็นมีการล้างภาชนะอาหารต่างๆ เก็บไว้อย่างเป็นระเบียบ มานพจึงเข้าไปสอบถามคนครัว คนครัวเลยบอกว่า "ท่านไม่รู้เหรอ? วันนี้เป็นวันพระ ซึ่งตามประเพณีของบ้านนี้ทุกคนจะถือศีลแปดไม่ทานอาหารหลังเทียงวัน และงานต่างๆ ก็ให้หยุดพักผ่อนเพื่อฟังเทศฟังธรรม แต่ถ้าท่านหิวมากข้าพเจ้าจะหาอาหารมาให้ท่าน" ฝ่ายมานพเมื่อทราบดังนั้นจึงบอกกับคนครัวว่า "ท่านไม่ต้องหาอาหารมาให้ข้า ในเมื่อทุกคนในบ้านท่านเศรษฐี ปฏิบัติกันดังนี้ ข้าพเจ้าปฏิบัติตามและขอถือศีล 8 ตั้งแต่บัดนี้จนถึงพรุ่งนี้เช้า" เมื่อมานพกล่าวเสร็จก็ไปอาบน้ำชำระร่างกาย ตกค่ำก็ฟังเทศฟังธรรม พอถึงกลางดึกก็เริ่มมีอาการปวดท้อง ปวดจนต้องร้องโอดครวญขึ้นมา จนพนักงานที่นอนพักด้วยกันตื่นขึ้นมาแล้วกล่าวว่า "ท่านทานอาหารเถอะ ข้าพเจ้าจะหามาให้" ฝ่ายมานพกล่าวด้วยความอดทนว่า "ท่านอย่าลำบากเพราะข้าเลย ข้าตั้งใจรักษาศีล 8 จนถึงพรุ่งนี้เช้า" ดังนั้นทุกคนก็นอนกันต่อ ยกเว้นมานพผู้นี้กัดฟันทนความเจ็บปวดจนถึงรุ้งเช้าจนไม่สามารถเดินเหินได้และเพือนร่วมห้องนอนก็หามออกมาข้างนอก ซึ่งอยู่ใกล้กับถนนใหญ่ และพอดีกับราชากับราชินีผู้ปกครองเมืองนั้นทรงช้างพร้อมทั้งข้าราชบริวาร กำลังเสด็จอยู่บนถนนใหญ่ ฝ่ายมานพคนนั้นกำลังทนความเจ็บปวดไม่ไหว บังเกิดได้ยินเสียงมโหรีและเห็นกระบวนของพระราชาทำให้มานพคนนี้เกิดมีจิตใจปารถนายากเป็นพระราชา หลังจากนั้นก็ขาดใจตายพร้อมทั้งจุติในครรภ์ของราชินีทันที (หมายเหตุบางคนอาจจะแย้งว่าจะไปเกิดได้อย่างไร? เพราะราชาและราชินีกำลังทรงช้างอยู่ ท่านอย่าลืมว่าทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันเขาได้วิเคราะห์มาแล้วว่า เชื้ออสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ในช่องคลอดได้เป็นเวลา 48 ชั่วโมงถ้ายังไม่สามารถผสมกับไข ดังนั้นการจุติของมานพคนนี้จึงไม่ขัดแย้งกับหลักวิทยาศาสตร์) เมื่อโอรสประสูติออกมาและเจริญวัยขึ้นและได้ครองราชสมบัติแต่ยังทรงจำชีวิตเมื่อชาติก่อนได้ จึงได้เล่าประวัติของตนเองให้พระพุทธเจ้าทรงทราบ

     ตัวอย่างผล(อานิสงส์)ของศีล 8 ในอดีตชาติที่สัมพันธ์กับปัจจุบัน    เป็นเรื่องของพระพุทธเจ้า ตอนสมัยที่เป็นพระโพธิสัตว์ ในสมัยอดีตนั้นพระโพธิสัตว์ได้ละทิ้งครอบครัวและทรัพย์สิน ออกบวชเป็นดาบส ถือศีล 8 จนมรณะภาพก็ได้ไปเกิดเป็นพรหมเป็นเทวดาตามลำดับ และได้มาเกิดเป็นพระราชาในเมืองมนุษย์ ครั้งหนึ่งได้รับศีล 8 จากฤาษี ให้อยู่อุโบสถศีลในวันพระ พอออกจากอุโบสถศีล ก็มีจักรแก้ว มเหสีแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว เสนาแก้ว และได้ปกครองโลกโดยธรรมโดยที่ไม่เสียเลือดเนื้อแม้แต่นิดเดียว เป็นจักรพรรดิองค์หนึ่ง (หมายเหตุ คำว่าจักรพรรดิในความหมายของศาสนาพุทธ หมายถึงการได้ปกครองโดยธรรม ไม่ใช่รบลาฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงดินแดนหรืออำนาจ ต่างกับความหมายปัจจุบัน)
     ส่วนอานิสงส์ของศีล 10 ศีล 227    จะไม่ขอกล่าวในที่นี้

      อันศีลนั้นควรรักษาเป็นอาจิณ        ไม่ควรหมิ่นแม้จะเล็กน้อย
ผลของศีลมีมากจนเป็นร้อย                   ยังประกองถอยห่างจากอบาย
ศีลรักษากายวาจาไม่ให้ผิด                     แล้วมองจิตสร้างสติปัญญาไว้
สอนตนวางอัตตาให้วางวาย                ให้มันตายเสียก่อน ตายจริงเอย

ที่มา www.vichadham.com (http://www.vichadham.com)


หัวข้อ: Re: อนิสงค์ของศีล
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 06:49:07 pm

         ขออนุโมทนาสาธุ ครับ


หัวข้อ: Re: อนิสงค์ของศีล
เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 07:45:12 pm
 st11 st12 st12


หัวข้อ: Re: อนิสงค์ของศีล
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 10:14:38 pm
(http://www.ebooks.in.th/covers/26443/page3l.jpg)

เมื่อพูดถึงการรักษาศีล หลายคนอาจเบนหน้าหนีชนิดคิดในใจว่า(อย่าไปคุยกับมัน "บ้า") ในเมื่อคนมีศีลเป็นคนบ้าไปในสายตาคนอื่นๆ คนมีศีลเลยกลายเป็นคนไร้เพื่อนอย่างเช่นผมทุกวันนี้(เพื่อนน้อยครับ) แม้คิดดีมีบ้างที่ชักชวนเพื่อนๆที่พิจารณาแล้วว่าน่าจะพอพูดคุยกันได้สร้างกุศล(หล่อสร้างพระ,สร้างอักขรไตรปิฏก,หล่อรูปเคารพครูอาจารย์) มีเพื่อนหลายคนทำแบบขอไปที มีบ้างบางคนที่เราอยากผูกวาสนาด้วยก็พาลแสดงอาการประมาณว่ารำคาญไม่พูดด้วย(โดยเฉพาะอิตถีสาวๆ) มองผมเหมือนไส้เดือนกิ้งกือแล้วไปสนิทกับด้วยคนทุศีล(สุรา,นารี,การพนัน)ว่าเป็นคนน่าเชื่อถือเคารพได้ ไว้ใจ ผมนี้เศร้าเลย ทำไมโลกมันหมุนกลับตาลปัตรเป็นไปเสียเช่นนั้นได้ ผมนั้นกลับมาพิจารณาตนเองว่านับแต่จำความได้ผมนั้นก็ใฝ่ใจศึกษาธรรมรักษาศีลมาตลอดนี่เราเลวหรือนี่ ทุกวันนี้พยายามวางตัววางตนเสงี่ยมไม่พูดเรื่องธรรมะกับใครๆคนไม่มีศีลทำบุญแบบชนิดภาษีสังคมเขาไม่ใส่ใจเรื่องธรรม,มรรค,ผล,นิพพานใดใด ในเมื่อเขาปิดประตูเสียเช่นนี้ก็วัวควายดีดีนี้เอง ราตรีสวัสดิ์ครับ!


หัวข้อ: Re: อนิสงค์ของศีล
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 03:34:15 pm
 st11
              เมื่อเรารักษาศิล  ศิลจะรักษาเรา


หัวข้อ: Re: อนิสงค์ของศีล
เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 04:14:21 pm
 st12 st12 st12


หัวข้อ: Re: อนิสงค์ของศีล
เริ่มหัวข้อโดย: บุญเอก ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 02:53:15 am
 st12 st12 st12