ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ลางบอกเหตุ "ก่อนจะเสียกรุงศรีอยุธยา" หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง "น้ำตาไหล"  (อ่าน 7837 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
    • ดูรายละเอียด



ญาติโยมขอพรให้พระองค์ท่าน พักการออกสัญจรจาริกธุดงค์
{จากหนังสือ พระประวัติสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร มหาเถรเจ้า(สุกไก่เถื่อน)}

    พระองค์ท่านกลับมาถึง วัดท่าข่อยก็เกือบใกล้ที่จะเข้าพรรษาแล้ว ปีต่อมาพวกญาติโยมบ้านท่าข่อยก็มาขอร้องอ้อนวอนพระองค์ท่านว่า ขอให้บ้านเมืองสงบดีกว่านี้ก่อน พระอาจารย์ค่อยออกสัญจรจาริกธุดงค์ออกไปใหม่ ชาวบ้านท่าข่อยเป็นห่วงพระองค์ท่าน อยากให้พระองค์ท่านอยู่เป็นหลัก เป็นขวัญ เป็นกำลังใจ พระองค์ท่านก็ทรงตกลง เพราะสงสารญาติโยม และยังเป็นห่วงญาติพี่น้องของพระองค์ท่านด้วย

     กาลต่อมาไม่นาน พระอาจารย์ของพระอาจารย์สุกคือ ท่านพระครูรักขิตญาณ(สี)วัดโรงช้าง และท่านพระธรรมภาวนาเถร (อิน) สำนักวัดราชาวาส ก็มาถึงแก่มรณะภาพลงด้วยโรคชรา ในเวลาใกล้ๆกันนั้นเองทั้งสองพระองค์เมื่อทำการปลงศพ ท่านพระครูรักขิตญาณ (สี) องค์พระอุปัชฌาย์ ที่วัดโรงช้างแล้ว พระอาจารย์สุก ได้ของที่ระลึก จากพระอาจารย์สี อย่างหนึ่งคือ ผ้าสังฆาฏิ

     ต่อมาทำการปลงศพ พระธรรมภาวนาเถร (อิน) ที่วัดราชาวาสแล้ว บรรดาศิษย์ ก็ได้ของที่ระลึก ของพระอาจารย์ไปคนละอย่าง พระอาจารย์สุก ได้ผ้ากราบพระ ของพระอาจารย์ ๑ ผืน ท่านได้เก็บไว้บูชาที่วัดท่าข่อย เพื่อระลึกถึง คุณของพระอาจารย์ทั้งสอง




     ด้วยอายุของกรุงศรีอยุธยา จะถึงกาลขาด ล่มสลาย จึงเกิดอาเพท
     เห็นประหลาดเป็นนิมิตอัศจรรย์ พระพุทธรูปประธานองค์ใหญ่ หรือหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง
     ที่สร้างมาแต่สมัยอโยธยา เป็นราชธานี มีน้ำพระเนตรไหลลงมาจดพระนาภี




        วัดพระศรีสรรเพชญ ในพระบรมมหาราชวังนั้น พระพุทธรูปบรมไตรโลกนาถหุ้มทองคำ สูงสี่ศอก ปางห้ามญาติ พระอุระแตกสลาย
     และพระพุทธรูปพระบรมไตรภพนาถ ปางขัดสมาธิเพชร ทองคำทั้งองค์สูงหนึ่งศอกเก้านิ้ว ดวงพระเนตรตกอยู่ที่พระเพลา (ตัก) เป็นอัศจรรย์
     พระปรางค์เจดีย์ ในวัดราชบูรณะนั้น กาบินตกลงมาเสียบตายอยู่บนปลายยอด โดยอาเพศ



ภาพอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรฯนี้ อยู่ในมหาวิทยาลัยนเรศวร

    พระบรมรูปทองสัมฤทธิ์ สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า ประดิษฐานตั้งบูชาไว้ในโรงพระแสงข้างใน เห็นเป็นประหนึ่งว่า ทรงกระทืบพระบาท ดังสนั่นหวั่นไสวเปรี้ยงๆไปทั่วทั้งจตุรทิศ อากาศก็วิปริตแปรปรวนเป็นไปต่างๆ บอกลางเป็นเหตุจะเสียกรุงศรีอยุธยา


อ้างอิง
หนังสือ พระประวัติสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร มหาเถรเจ้า (สุกไก่เถื่อน)
http://www.somdechsuk.org
ขอบคุณภาพจาก http://upload.wikimedia.org/,http://www.thairath.co.th/,http://www.moohin.com/,http://www.ad.nu.ac.th/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
    • ดูรายละเอียด

สำนักพุทธฯรุดสอบ 'หลวงพ่อโต' ยันไม่ได้ร้องไห้ ชี้รอยมูลนก

สำนักพุทธฯ รุดสอบ ยัน "หลวงพ่อโต" ไม่ได้ร้องไห้ตามที่เป็นข่าว เนื่องจากไม่พบร่องรอยน้ำไหลออกมาจากพระเนตรทั้งสองข้าง หรือส่วนใดของเศียรพระ คาดอาจเป็นรอยมูลนก ขณะที่รองเจ้าอาวาส ผู้แลวิหารหลวงพ่อโต ก็ยืนยันรอยดังกล่าวมีมาหลายปีแล้ว...

ภายหลังที่มีข่าว พระมหาพุทธพิมพ์ หรือ "หลวงพ่อโต" พระพุทธรูปเก่าแก่ พระประธานภายในวัดไชโยวรวิหาร ต.ไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง ร้องไห้ มีน้ำตาไหลออกมาจากพระเนตรทั้งสองข้าง จนชาวบ้านหวาดผวาและหวั่นวิตกว่า จะเป็นลางบอกเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น

ทำให้เจ้าคุณพระสิทธิพัฒนาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง และเจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร รวมทั้ง พระปลัดฟัก อภินันโท รองเจ้าอาวาส ที่เป็นผู้ดูแลวิหารที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต ออกมาโต้และตักเตือนญาติโยมให้มีเหตุผล อย่าเชื่ออย่างงมงายนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ม.ค. นางศศิพร ผึ้งเผือก หน.กลุ่มนโยบายและแผน สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปยังวัดไชโยวรวิหาร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้เข้านมัสการพระสิทธิพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาส และพระปลัดฟัก อภินันโท รองเจ้าอาวาส ผู้แลวิหารหลวงพ่อโต รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่รอบบริเวณวัด

จากนั้นจึงได้ทำการสำรวจบริเวณพระพักตร์และพระเนตรของหลวงพ่อโต เพื่อตรวจดูร่องรอยว่ามีน้ำไหลออกมาจริงหรือไม่ ก่อนจะตรวจหลังคาวิหารตรงเศียรพระโดยรอบ แต่ไม่พบรอยรั่วจนทำให้น้ำสามารถหยดลงมาได้

ด้านนายสมศักดิ์ เยี่ยมสวัสดิ์ ผอ.สำนักงานพุทธศาสนา จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า จากการที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชำนาญการเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเกรงว่าหากมีน้ำไหลเข้าไปในองค์พระ ซึ่งก่ออิฐถือปูนมานาน อาจจะทำให้องค์พระเกิดความเสียหายได้

หลังการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รายงานว่า หลวงพ่อโตไม่ได้ร้องไห้อย่างที่เป็นข่าว เนื่องจากไม่พบร่องรอยน้ำไหลออกมาจากพระเนตรทั้งสองข้าง หรือส่วนใดของเศียรพระ ส่วนรอยคราบที่พบ คาดว่าอาจจะเป็นรอยมูลนกที่ถ่ายแล้วไหลย้อยลงมาเป็นทาง หรืออาจจะเป็นรอยคราบน้ำฝนที่ไหลลงมาในช่วงที่มีการซ่อมแซมวิหารเมื่อปีก่อน

นอกจากนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่นมัสการสอบถามพระปลัดฟัก ที่ดูแลใกล้ชิดอยู่ทุกวัน และพระสิทธิพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาส รวมทั้งบรรดาผู้ค้าขายลอตเตอรี่ ต่างก็ยืนยันว่าพบเห็นรอยดังกล่าวมาตั้งหลายปีแล้วด้วย.



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/region/229467


บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
    • ดูรายละเอียด
ลางบอกเหตุ

         ก่อนเสียกรุง
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา