ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากพ้นทุกข์ ปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า ร่วมปฏิบัติธรรม 29 ก.พ.- 7 มี.ค พ.ศ 2555  (อ่าน 1807 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

paitong

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 103
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อย่าปฎิเสธสิ่งที่คุณยังไม่รู้ เพราะสิ่งนั้นเอาจเป็นสิ่งที่คุณค้นหามาทั้งชีวิต

สนใจการปฏิบัติธรรม, อยากพ้นทุกข์, ปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า 

 ร่วมปฏิบัติธรรม 29 ก.พ.- 7 มี.ค พ.ศ 2555

ที่สถานปฎิบัติธรรมศิริอาริโย (ดงยางเดี่ยว) อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

ติดต่อที่ อ.แปลง  สุวรรณกาญจน์  โทร.086-8548018

มีหัวข้อดังนี้ เนื้อหาหลักสูตร  7  วัน

วันแรก… ปัญหาชีวิต  รู้จักตน  รู้จักธรรมจึงจักทำชีวิตให้มีสุขได้

วันที่ 2  กิเลสวัฏฏะ  กรรมวัฏฏะ  วิบากวัฏฏะ  กฎแห่งกรรม  วิธีแก้กรรม

วันที่ 3  ภพภูมิอันเป็นที่อยู่ของจิตวิญญาณ  26  ชั้นฟ้า  5  ชั้นดิน

วันที่ 4  ทาน  ศีล  สวรรค์  อาทีนพ  เนกขัมมะ

วันที่ 5  ศีล  สมาธิ  ปัญญา  อานิสงส์เลิศ  ทำได้อย่างไร

วันที่ 6  มหาสติ  มหาปัญญา  พารู้ธรรม  เห็นธรรม  บรรลุมรรคผลนิพพาน

วันที่ 7  อาสวักขยญาณและจิตบริสุทธิ์

ปรัชญาสถาบัน

…หาตนให้เห็น…บริโภคให้เป็น..ดำรงตนให้สมควร…จะมีสุขเป็นนิรันดร์

ประสบการณ์ อ.แปลง  สุวรรณกาญจน์

- ถือศีลปฏิบัติธรรม  44  ปี
- โล่เกียรติยศ  ผู้มีผลงานด้านจริยศึกษา    ดีเด่น  กระทรวงศึกษาธิการ  ปี 2536
- รางวัลเสมาทองคำ  สาขา  การแต่งหนังสือพุทธศาสนาดีเด่น  ปื 2542

ผู้เขียนหนังสือ  ตายแล้วไปไหน  อยู่บ้านนิพพานได้  รู้ทันกรรมนำสุขพ้นทุกข์  อุโบสถศีล  พัฒนาจิต
- วิทยากรบรรยาย  แนวทางปฏิบัติธรรม  อย่างฆราวาส 25 ปี
- ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติธรรม ศิริอาริโย (ดงยางเดี่ยว)  มีกิจกรรมฟังธรรม  รักษาศีลแปด เดินจงกรม  นั่งสมาธิ  ทุกวันพระ
ข้อความชวนคิด
… ทำจริงจึงได้ผล… ทุกคนมีโอกาส… อย่าประมาทนอนใจ…หาโอกาสให้แก่ตัว… อย่ามัวเมาจนเกินไป… ไม่เอาไปสักสิ่งอัน… สุขเลิศนั้น  คือ  จิตสงบ

ภารกิจประจำวัน

04.00-05.00  ตื่นทำความเพียร/ธรรมรับอรุณ  05.00-06.00  ทำวัตรสวดมนต์เช้า

06.00-08.00  กิจส่วนตัว  ทำอาหาร

08.00-10.00  ทานอาหาร  เก็บล้าง  ทำความสะอาด

10.00-12.00  ทำความเพียร/เดินจงกรม

12.00-14.00  พักผ่อนตามอัธยาศัย

14.00-15.00  ดื่มน้ำปานะ  ปานะมัตถ์

15.00-16.00  สนทนาธรรม  ซักถามปัญหา

16.00-18.00  ทำความสะอาดบริเวณอาคารที่พัก

18.00-19.00  เดินจงกรม/นั่งสมาธิ

19.00-20.30  ทำวัตร  สวดมนต์เย็น

20.30-23.00  บรรยายเนื้อหาหลักสูตร

23.00-24.00  เดินจงกรม  นั่งสมาธิ

24.00-04.00  ปฏิบัติตามอัธยาศัย  พักนอน

หลายคนอยากมีความสุขตลอดไป ไม่อยากพบกับความทุกข์ยากลำบาก
หลายคนอยากพ้นทุกข์เพราะเห็นว่าชีวิตนี้มีแต่ความทุกข์ยากลำบาก แต่จะมีความสุขตลอดไปได้อย่างไร
จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร คิดไม่ออกบอกไม่ได้ มองไม่เห็นแนวทาง เนื่องจากอวิชชาปิดบังเอาไว้ ทำให้มืดบอดอยู่เช่นนั้น
ใครๆก็คิดว่าความคิดของตนเองถูก ต่างคนต่างก็ดำเนินชีวิตไปตามแนวคิดที่เป็นความเชื่อของตนเอง
ซึ่งบางทีก็ผิดบางทีก็ถูก ไม่เป็นสัมมาทิฐิตามที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ทั้งหมด ชีวิตก็เลยเป็นไปต่างๆ ตามกรรมวัฏฏะ
หลายคนคิดว่าการออกบวชเท่านั้น จึงจะรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพานได้ หลายคนคิดว่านิพพานเป็นเรื่องใหญ่
เป็นเรื่องยากเย็นเกินกว่าฆราวาสผู้ไม่ได้บวชจะรู้ได้เห็นได้เข้าใจได้
หลายคนคิดว่ามรรคผลนิพพานเป็นเรื่องหมดเขตหมดสมัยแล้ว
นักบวชในสมัยนี้ไม่สามารถบรรลุเป็นพระอริยะเจ้าได้ ยิ่งคนไม่ได้บวชยิ่งหมดโอกาสรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพาน
ความ คิดเหล่านี้เป็นความคิดของคนที่ไม่เจริญในไตรสิกขา คือไม่เจริญในศีล สมาธิ ปัญญา หรือไม่ได้ปฏิบัติภาวนา
หรือปฏิบัติภาวนาแต่ไม่ถึงขนาดที่จะรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพาน อาจเนื่องมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน เป็นต้นว่า

ไม่พบครูอาจารย์ที่รู้จริงเห็นจริงปฏิบัติได้จริง ซึ่งแม้มีอยู่ก็ไม่รู้จักท่านเนื่องจากไม่ได้ทำบุญร่วมกับท่านมาแต่ปางก่อน
หรือสะสมบุญบารมียังไม่เต็มรอบ 1 อสงไขย หรือยังไม่พอที่จะบรรลุมรรคผล หรือมีกรรมประมาทต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ หรือครูบาอาจารย์นั้นๆ ในอดีตชาติหรือปัจจุบันชาติ
ทำให้ปิดโอกาสในการคบหาสมาคม แม้รู้จักกันเห็นกันอยู่ก็ไม่รู้ว่าท่านบรรลุคุณธรรมชั้นไหน ยิ่งอริยบุคคลที่เป็นฆราวาส
ยิ่งเป็นการยากยิ่งขึ้นในการที่จะรู้ว่า ท่านบรรลุคุณธรรมชั้นไหน มีคุณศีลคุณธรรมเพียงใด เนื่องจากผู้มีศีลจะรู้ได้เมื่อได้อยู่ร่วมกัน ผู้มีคุณธรรมจะรู้ได้เมื่อได้สนทนากัน
อนึ่ง ผู้ทรงศีลทรงธรรมทรงปัญญาบรรลุมรรคผลนิพพาน ท่านชอบความสงบวิเวกเกื้อกูลต่อการปฏิบัติบำเพ็ญรักษาศีลภาวนา
ทำความเพียร เดินจงกรม นั่งสมาธิ ท่านจะมุ่งมั่นปฏิบัติบำเพ็ญของท่านอยู่เช่นนั้นตามป่า ตามเขา หรือตามบ้านตามเรือน
อันเป็นที่อยู่เฉพาะของท่าน โดยไม่ค่อยสนใจเรื่องของทางโลกมากนัก
หลายท่านหลายองค์คนจะรู้จักฮือฮาก็ต่อเมื่อท่านละสังขารเสียแล้ว
เราหมดโอกาสที่จะได้รับคำแนะนำสั่งสอนเพื่อการบรรลุมรรคผลนิพพานจากท่านเสียแล้วจึงรู้
ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับผู้ไม่มีโอกาสได้พบเห็นท่านนานๆ จะมีผู้รู้จริงเห็นจริงเปิดเผยตัวให้เรารู้จักสักครั้งหนึ่ง
ผลงานอันยิ่งใหญ่มักจะเป็นเครื่องชี้ถึงบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ กวีนิพนธ์ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ท่านจะเปิดเผยให้เราเห็น
ผู้ฉลาดน่าจะไม่ปล่อยโอกาสทองให้ผ่านไป การศึกษาบทประพันธ์ที่น่าศึกษาในโอกาสต่างๆ
อาจทำให้เรารู้จักผู้รู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุธรรมก็ได้ ถ้ามานะทิฐิไม่สูงจนเกินไป
การได้เห็นได้รู้ได้พบในครั้งนั้นๆ อาจเป็นบุญมหาศาลสำหรับเรา โอกาสดีมักชักนำให้มีโชคดี
ขอให้โอกาสดีโชคดีจงมีแก่ทุกตนทุกคนเทอญ

อย่าปฎิเสธสิ่งที่คุณยังไม่รู้ เพราะสิ่งนั้นเอาจเป็นสิ่งที่คุณค้นหามาทั้งชีวิต

ติดต่อสอบถาม ได้ที่ท่านอาจารย์แปลง สุวรรณกาญจน์ ที่เบอร์ (086-854-8018)
หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ที่ คุณอั้ม  โทร.08-5196-5925

http://www.tourwat.com/4378/
บันทึกการเข้า