ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฟังแล้วยังไม่ค่อยจะเข้าใจ กับคำว่า อปราปรเจตนา เป็นบุญแบบไหนคะ  (อ่าน 2215 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

วิชชุดา

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 275
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
วันก่อนฟังรายการ RDN บรรยายเรื่อง บุญ กล่าวถึงบุญ ที่เป็น อปราปรเจตนา นั้นเป็นบุญ หรือ ไม่เป็นบุญ ฟังแล้วก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจ ขอคำอธิบาย จากท่านผู้รู้ ทุกท่าน ด้วยคะ


  :25: :c017:
บันทึกการเข้า
ขอให้ทุกท่าน จงเป็นผู้มีความสุข กันทุกคนนะจ๊ะ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28409
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

การให้ผลของกามาวจรกุศลกรรม

อุกกัฏฐกุศล คือ กุศลชั้นสูง  หมายความว่า ในการกระทำกุศลใดๆก็ตามย่อมมีความตั้งใจในการกระทำเสมอ เจตนา อาจแบ่งออกได้เป็น  ๓  ระยะ  คือ
               บุพเจตนา    ได้แก่    ความตั้งใจก่อนทำ
               มุญจเจตนา  ได้แก่    ความตั้งใจขณะกระทำ
               อปรเจตนา   ได้แก่    ความตั้งใจเมื่อได้กระทำแล้ว


    ถ้ากุศลมีความบริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา ไม่มีอกุศลเข้าเจือปนจัดว่าเป็น อุกกัฏฐกุศล คือกุศลชั้นสูง จะเป็นติเหตุกกุศล หรือทวิเหตุกกุศล ก็ตาม ก็จัดเป็นกุศลชนิด อุกกัฏฐะ

โอมกกุศล  คือ กุศลชั้นต่ำ  ได้แก่การกระทำกุศลที่มีอกุศลเจือปน เช่น ก่อนลงมือกระทำ มีความตั้งใจและเต็มใจกระทำ หากแต่ว่ากระทำไปด้วยความจำเป็นบังคับ  หรือทำแข่งกันกับเขา  หรือทำเพื่อหวังผลประโยชน์   เช่น ก่อนทำ คือ บุพเจตนา เป็นไปโดยไม่บริสุทธิ์

    เมื่อทำไปแล้ว ก็ไม่เกิดโสมนัสใด กลับกลุ้มใจคิดเสียดายทรัพย์ หรือคิดถึงความต้องเหนื่อยยากลำบากต่างๆ ไม่ว่าทาน ศีล ภาวนา จะเป็นติเหตุกกุศลก็ตาม  หรือทวิเหตุกกุศลก็ตาม  ล้วนจัดเป็นกุศลชั้นต่ำ ชนิด โอมกะ



   ตามเหตุผลจะเห็นว่า สำคัญอยู่ที่เจตนาในการกระทำ ๒ ประการ คือ
   บุพเจตนา และอปรเจตนา จะเป็นเครื่องวินิจฉัยว่ากุศลนั้นๆ จัดเป็น อุกกัฏฐกุศล หรือ โอมกกุศล   
   และในเจตนาทั้ง ๒ ประการนี้ "อปรเจตนา" มีความสำคัญมากกว่า
   เพราะ อปรเจตนา เป็นเจตนาที่เกิดภายหลังการกระทำกุศล  อาจเกิดได้เป็นเวลานาน


   อปรเจตนานี้ ยังจำแนกออกไปเป็น "อปราปรเจตนา" ได้อีก หมายความว่า
   เมื่อทำกุศลเสร็จใหม่ๆ จัดเป็นอปรเจตนา และแม้การกระทำล่วงมาเป็นเวลานานหลายเดือน  หรือหลายปี  ก็ยังปีติโสมนัสอยู่ เช่นนี้ อปราปรเจตนา เป็นกุศลชนิด อุกกัฏฐ



ที่มา http://www.abhidhamonline.org/boss_files/sangaha/104.htm
ขอบคุณภาพจาก http://www.safety-stou.com/,http://lampatao.files.wordpress.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2012, 12:30:44 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ