ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุใดจึงทุกข์ใจ.? เพราะโพสต์ข้อความใน facebook แล้วไม่มีใครมา "กดไลค์"  (อ่าน 781 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




เหตุใดจึงทุกข์ใจ.? เพราะโพสต์ข้อความใน facebook แล้วไม่มีใครมา "กดไลค์"

มีความคาดหวังมาก ย่อมทำให้ทุกข์มากเป็นธรรมดา ความทุกข์จากการคาดหวังเรียกว่า“ทุกข์เพราะมโน” เราคิดไปก่อนแล้วว่าต้องเป็นที่ถูกใจ ต้องดีต้องเด็ด และมีผู้ กดไลค์ facebook

ถาม : เหตุใดจึงทุกข์ ใจเพราะโพสต์ข้อความในfacebookแล้วไม่มีใครมา กดไลค์ มาสนใจครับ

ตอบ : มีความคาดหวังมาก ย่อมทำให้ทุกข์มากเป็นธรรมดา ความ ทุกข์ จากการคาดหวังเรียกว่า“ทุกข์เพราะมโน” เราคิดไปก่อนแล้วว่าต้องเป็นที่ถูกใจ ต้องดี ต้องเด็ด และมีผู้มากดไลค์จำนวนมาก แต่ทุกด้านของชีวิตคือ “ความไม่แน่นอน” เมื่อไม่เป็นตามที่มโนก็ผิดหวังทุกข์ใจเพราะเราจะตั้งคำถามว่าทำไม ทำไมไม่เป็นอย่างนั้น ทำไมไม่เป็นอย่างนี้ แล้วมักจะมโนคำตอบไปทางลบ เช่น เราไม่ดีหรือ เราไม่หล่อไม่สวย เราอย่างนั้นเราอย่างนี้หรือ

หยุดตั้งคำถามและคิดเสียว่าได้มอบสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่นก็พอใจ พอเพียงแล้วที่ได้โพสต์ไปอย่าตั้งคำถามจนเกิดทุกข์ไม่จบสิ้น หากปล่อยความคิดให้วิ่งตามเทคโนโลยีไปไกลเกินความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน เราจะ “อยู่ยาก” มากขึ้น เพราะสภาวะจิตใจไม่ได้รับการขัดเกลา

ลองปล่อยวางมากขึ้นแล้วหันไปทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกับคนรอบตัวให้มากขึ้น จะพบว่าความสุขไม่ได้มีอยู่แค่ในโลกออนไลน์ “อย่าทุกข์ใจเพราะความมโนของเราเอง อย่าฝากความสุขไว้ที่การกดถูกใจจากใครบางคน”

พระครูธรรมธร ดร.สาคร สุวทฺฒโน : พระอาจารย์ผู้ไขปัญหา


 ask1 ans1 ask1 ans1

ถาม : ติด facebook/Line มากจนละเลยความสัมพันธ์กับคนรอบข้างและห้ามตัวเองให้หยุดเล่นไม่ได้ จะทำอย่างไรดีคะ

ตอบ : หลักธรรมที่ฆราวาสควรนำไปปฏิบัติเพื่อมิให้ละเลยความสัมพันธ์ในครอบครัวและคนรอบข้างคือ ฆราวาสธรรม 4 ประกอบด้วย 
     1. สัจจะ  คือความซื่อสัตย์ต่อกัน 
     2. ทมะ คือการรู้จักข่มจิตของตน
     3. ขันติ คือความอดทนอดกลั้น  
     4. จาคะ คือความเสียสละ

การติด facebook/Line เป็นเพราะขาดทมะ (การรู้จักข่มจิตของตนเอง) จงรู้จักฝึกข่มจิตให้รู้จักแยกแยะและอดกลั้นที่จะไม่เปิดโซเชียลมีเดีย หากเราปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามอารมณ์หรือความต้องการ สนองความรู้สึกผ่านตัวอักษรหรือภาพโดยไม่สามารถแบ่งเวลาที่ถูกต้องเหมาะสมได้ เราจะสูญเสียเวลาและโอกาสใช้ชีวิตกับคนในครอบครัวหรือคนรอบตัว อย่าให้คนสำคัญกลายเป็นคนอื่นและอย่าให้ความสำคัญกับคนอื่นที่อยู่ในโซเชียลมีเดียมากเกินไป “จงรู้จักข่มจิตจงรู้จักอดทน จงเป็นคนไม่ลืมตน และไม่ลืมคนที่รักเรา”

พระครูธรรมธร ดร.สาคร สุวทฺฒโน : พระอาจารย์ผู้ไขปัญหา



Secret Magazine (Thailand)
Photo by Tim Bennett on Unsplash
ขอบคุณที่มา : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/29960.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
จากประสบการณ์ การใช้ เฟสบุ๊ก เรื่องของจำนวนการ ไลค์ ไม่ได้วัด เรื่องจำนวนการอ่าน

จากการใช้ Application ติตามการอ่าน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ นั้น เฟสส่วนตัวที่ได้โพสต์ นั้นมีคนอ่านเกิน 500 ครั้งแต่ คนกดไลค์ มีจำนวนน้อยมาก คือ 10 กว่าคน ประมาณนี้

สาเหตุ สันนิษฐาน มาจาก

1. ไม่ต้องการแสดงตน ว่ามีสัมพันธ์ ชื่นชมกับผู้โพสต์
2. ต้องการอ่านแต่ไม่อยากผูกพัน เพราะการผูกพัน จะนำมาซึ่งปัญหา หลายอย่าง อาทิ การขอความช่วยเหลือ ต่า ๆ ดังนั้น การสงวนท่าที ของผู้อ่านที่ไม่กดไลค์ จึงเป็นเรื่องปกติ
3. การสอดแนม ความเป็นส่วนตัว บางท่านก็เพียงต้องการมาสอดแนมเท่านั้น

3 เหตุผลหลัก ๆ นี้เป็นเหตุที่ทำให้ ถึงแม้จะชอบใจอย่างไร ก็กดไลค์ให้ไม่ได้

ดังนั้น ส่วนตัวไม่เคยสนใจเรื่องการกดไลค์ หรือ ไลค์เลย เพราะว่าใช้ Application ติดตามคนที่เข้ามาอ่าน เรียกว่า Application counter ไว้อยู่แล้ว เหตุเพราะว่า เฟสทุกอันที่ ธัมมะวังโส โพสต์เป็น การโพสต์ แบบปิดทองหลังพระ คนจะอ่านหรือไม่อ่าน จะไลค์ หรือไม่ไลค์ ก็โพสต์ไปตามปกติ

นี่อาจจะเป็นเพราะว่า เฟสส่วนตัวเป็น เฟสแสดงข้อความธรรม ไม่ใช่แสดงเรื่องส่วนตัว นั่นเอง

เจริญธรรม / เจริญพร
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ