ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - หมิว
หน้า: 1 2 [3] 4
81  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / นิพพานคือไม่... ไม่สุขและไม่ทุกข์ ไม่เกิดและไม่ดับ เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 09:48:19 am
พระพุทธเจ้าตรัสว่า “สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี” อาตมาคิดว่านี่แหละใช่เลย คนสมัยนี้ชอบแสวงหาความสุข แต่ไม่พบสักที เพราะไม่รู้จักความสุขที่แท้ รู้จักแต่ความสุขแบบหยาบ ๆ แต่ได้รับความสุขแบบนี้มากมายเพียงใด ๆ ก็ไม่รู้สึกพอใจหรือเต็มอิ่ม เพราะในส่วนลึกต้องการความสงบในจิตใจ ตราบใดที่ไม่พบความสงบเย็นในจิตใจ ก็จะไม่หยุดแสวงหา ดังนั้นเราจึงควรหันมาให้ความสำคัญกับความสงบทางใจ โดยเฉพาะความสงบที่เรียกว่านิพพาน อย่าลืมว่าแม้จะมีทรัพย์อื่นมากเท่าไรแต่เราก็ยังทุกข์ เช่น ลูกตาย คนรักตีจาก ถูกติวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเรายังมีความยึดติดถือมั่นในตัวกูของกู ต่อเมื่อละความยึดติดถือมั่นในตัวตนได้นั่นแหละจึงจะได้พบความสุงบเย็นอัน เป็นความสุขที่แท้ คือนิพพาน

เป็นธรรมดาที่เมื่อพูดว่านิพพาน คนฟังอาจตกใจ เพราะรู้สึกว่าไกลตัว เป็นไปไม่ได้ และไม่ใช่สิ่งจำเป็น แต่พอพูดเรื่องความสุขสงบจากการปล่อยวาง หลายคนอาจจะฉุกคิดว่า “อืม... มันอยู่ในวิสัยที่สามารถจะทำได้นะ” ชีวิตเราสามารถเข้าถึงความสุขที่ไม่ขึ้นกับสิ่งภายนอก เราสุขใจได้แม้ภายนอกวุ่นวาย แม้ผู้คนรอบจะทำตัวไม่น่ารัก แม้กายเจ็บป่วย แม้การงานจะไม่ประสบความสำเร็จ...แต่เราก็สุขได้

ชีวิตฆราวาสนั้น เหมือนชีวิตในที่โล่ง ต้องเผชิญกับฝนตก แดดร้อน พายุกระหน่ำ แต่เราไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนเพราะความแปรปรวนเหล่านั้น ขอเพียงแต่เรามี “ร่ม” กันแดดกันฝน ฝนตกก็ไม่ต้อง แดดร้อนก็มิอาจแผดเผาได้ “ร่ม”ที่ว่าก็คือร่มแห่งธรรมซึ่งสามารถรักษาใจให้สงบเย็นและเป็นสุข ปลอดพ้นจากการรบกวนของสิ่งรอบตัว ทำให้อิสระจากสิ่งภายนอกได้ นั่นเองที่เรียกว่า “นิพพานชั่วขณะ” หรือ “นิพพานที่นี่และเดี๋ยวนี้”

นิพพาน ชั่วขณะคือความสงบเย็นและเป็นอิสระ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตเราตั้งแต่วินาทีนี้ โดยไม่ต้องรอนิพพานขั้นสมบูรณ์ที่เกิดจากการดับกิเลสสิ้นเชิง ชีวิตฆราวาสทีวุ่นวาย รุ่มร้อน เร่งรีบ... ก็สามารถสงบเย็นและเป็นอิสระ... สามารถสัมผัสนิพพานชั่วขณะได้

นิพพานคือไม่... ไม่สุขและไม่ทุกข์ ไม่เกิดและไม่ดับ ฯลฯ


   
 
 

จากคุณ    : โชติช่วงชัชวาล
82  ธรรมะสาระ / บทสวดมนต์ มนต์พิธี / พาหุงมหากา นำสวดโดย หลวงพ่อจรัญ เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 10:04:51 am
83  ธรรมะสาระ / บทสวดมนต์ มนต์พิธี / อาการะวัตตาสูตร เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 10:02:42 am
84  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / เมตตาใหญ่ เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 10:00:37 am
!
85  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / พระอรหันต์ โวยวาย ใส่อารมณ์ ทำลายข้าวของ มีหรือไม่ ในครั้งพุทธกาล เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 11:41:52 am
พระอรหันต์ โวยวาย ใส่อารมณ์ ทำลายข้าวของ มีหรือไม่ ในครั้งพุทธกาล

ช่วงนี้ ดูรายการทีวี เรื่องข่าว พระโวยวาย จึงไม่ค่อยจะรู้เพราะเพื่อน ๆ บอกว่าเป็นพระอรหันต์

จริง ๆ หรือไม่คะ

 ในครั้งพุทธกาล มีกรณีอย่างนี้หรือไม่คะ

  :25: :smiley_confused1:
86  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / มูลนิธิบ้านอารีย์เชิญท่านร่วมฝึกสมาธิเบื้องต้น วันเสาร์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๔ เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 10:15:10 am
มูลนิธิบ้านอารีย์เชิญท่านร่วมฝึกสมาธิเบื้องต้น
วันเสาร์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๔ เวลา ๑๓.๐๐-๑๕.๐๐ น.
โดย พระอาจารย์อาทิตย์ อาธิปุญโญ จากสถาบันพลังจิตตานุภาพ 
มูลนิธิหลวงพ่อวิริยงค์ วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ

วัตถุประสงค์ของการทำสมาธิ : 
คือการสร้างพลังจิต พลังจิตที่ได้จากการ

สถานที่: ศาลาปันมี บ้านอารีย์
กิจกรรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงโปรดสอบถามรายละเอียด
๐๒ ๒๗๙ ๗๘๓๘ หรือ www.baanaree.net


จากคุณ    : วรรณาอารี
87  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ผีเปรตในตำนานผีไทยกล่าวไว้ว่า มีอยู่ 12 ตระกูลใหญ่ ๆ เมื่อ: สิงหาคม 30, 2011, 09:56:06 am
ผีเปรตในตำนานผีไทยกล่าวไว้ว่า มีอยู่ 12 ตระกูลให_่ๆ ใครอยากจะทราบราย ละเอียดต้องไปดูในคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ นิรยกถาอันเป็นคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ หรือดูจากจารึกการเปรีย_ ณ วัดพระเชตุพนฯ และห าอ่านได้จากประชุมศิลาจารึกวัดพระเชตุพนฯ เล่ม 1 ซึ่งคัดลอกและถ่ายทอดมาโดยย่อ ดังนี้

หิมวนตปปเทเส วิชาติเปโต นาม เปตวิสโย กาลครั้งหนึ่งยังมี ประเทศแห่งหนึ่งใ นป่าหิมพานต์ ชื่อว่าวิชาตประเทศ ตั้งอยู่เบื้องบนแห่งนรกขึ้นมา อันเป็นที่อยู่แห่งเปรตทั้งหลายมีมหิทธกาเปรตเป็นอธิบดีแก่เปรตทั้งปวง และตระกูลเปรตนั้นมีอยู่ 12 ตระกูล คือ
1. วันตาสาเปรตตระกูล
2. กูณปขาทเปรตตระกูล
3. คูถขาทเปรตตระกูล
4. อัคคิชาลมุขเปรตตระกูล
5. สุจิมุขเปรตตระกูล
6. ตัณหาชิตาเปรตตระกูล
7. นิชฌามกเปรตตระกูล
8. สัตตังคาเปรตตระกูล
9. ปัพพตังคาเปรตตระกูล
10. อัชครังคาเปรตตระกูล
11. เวมานิกเปรตตระกูล
12. มหิทธิกาเปรตตระกูล

นอกจากเปรต 12 ตระกูลนี้ ยังมีเปรตอีก 19 จำพวก ได้แก่
1. สุจิโลมา คือ เปรตผู้มีขนเป็นเข็ม
2. ขุรโลมา คือ เปรตผู้มีขนเป็นกรด
3. เอกปาทา คือ เปรตผู้มีเท้าข้างเดียว
4. อเนกปาทา คือ เปรตผู้เท้ามาก
5. เอกหตถา คือเปรตผู้มีมือข้างเดียว
6. อเนกหตถา คือ เปรตผู้มีมือมาก
7. เอกเจตตา คือ เปรตผู้มีจักษุข้างเดียว
8. อเนกเนตตา คือ เปรตผู้มีจักษุมาก
9. ได้แก่ เปรตจำพวกที่กินมลทินครรภ์เป็นอาหาร
10. ได้แก่ เปรตจำพวกขนหยักเยื่อทูลศีรษะไว้เป็นนิตย์
11. ได้แก่ เปรตจำพวกกายยาว 25 เส้น นอนกลิ้งอยู่ดุจแผ่นศิลา
12. ได้แก่ เปรตจำพวกตัวจมอยู่บนภูเขาเพียง สะเอว ไฟไหม้อยู่
13. ได้แก่ เปรตพวกไถนาอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน
14. ได้แก่ เปรตจำพวกมีกายสูง มีกลิ่นตัวเหม็นยิ่งนัก
15. ได้แก่ เปรตจำพวกมีพืชเป็นเหล็กเป็นเปลวเพลิงรัดศีรษะอยู่
16. ได้แก่ เปรตจำพวกมีร่างกายผอม และเปลือยกายอยู่ตลอดเวลา
17. ได้แก่ เปรตจำพวกรูปชั่วตัวผอม สะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น ศีรษะกลั้วไปด้วยฝุ่น
18. ได้แก่เปรตจำพวกดำดุจตอไฟไหม้ และ
19. ได้แก่ เปรตจำพวกสูงเท่าลำตาล มีแต่หนังหุ้มกระดูก

เปรตไม่สมประกอบ 4 ชนิด
1. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างไม่สมประกอบ ร่างกายซูบผอมอดโซ
2. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างพิการ เช่น กายเป็นอย่างร่างของมนุษย์ แต่ศีรษะ เป็นอย่างสัตว์ดิรัจฉาน เช่น ตัวเป็นคนหัวเป็นนกกาบ้าง...เป็นสุกรบ้าง...เป็นสุนัขบ้าง
3. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างพิกล เสวยกรรมกรณ์ (รับกรรม รับอา_า) อยู่ตา มลำพังด้วยอำนาจบาปกรรมที่ได้กระทำเอาไว้สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่บนโลก มนุษย์
4. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างอย่างมนุษย์ปกติ แม้เป็นผู้เสวยก็มีวิมานอยู่ แต่ใน ราตรีต้องออกจากวิมานไปเสวยกรรมจนกว่าจะรุ่งเช้า เรียกว่าวิมานนิกเปรต

เปรตเป็นผีจำพวกหนึ่ง ซึ่งเคยทำบาปสร้างกรรมเอาไว้สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ครั้น ตายลงแล้วก็ต้องมารับผลกรรมตามที่ได้สร้างไว้ทำให้ต้องมีความเป็นอยู่ อย่างอดอยาก ผอมโซ ชอบส่งเสียงร้องหรือปรากฏตัวให้ชาวบ้านเห็นเพื่อขอส่วนบุ_ให้ช่วยทำบุ_อุทิศ ส่วนกุศลไปให้บ้างเพราะอดอยากหิวโหยซะเหลือเกิน

โดยทั่วไปคนส่วนให_่เข้าใจว่า เปรตเป็นผีชนิดหนึ่งที่มีลำตัวสูง บ้างว่าสูงเท่าลำตาล สูงเท่าต้นตาลหรือยอดตาล บ้างว่าสูงเท่าเสาชิงช้าวัดสุทัศน์ บ้างว่าสูงเท่ายอ ดธง หากเป็นสมัยนี้คงต้องเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันใหม่ว่า สูงกว่าตึกห้าชั้น หรือสูงเท่ากับคอนโดมิเดียมริมน้ำอะไรทำนองนี้ สรุปใจความก็คือ เปรตเป็นผีที่มี รูปร่างสูงมาก จนมีคำพูดติดปากล้อใครที่ตัวโย่งๆว่า ....สูงยังกับเปรต แต่เนื่องจากกรรมหรือการกระทำในทางที่ชั่วร้ายมีแตกต่างกันไป เมื่อตายแล้วจึงได้เกิดเ ป็นเปรตชนิดต่างๆกัน เช่น คนที่ชอบดุด่าตบดีพ่อแม่ผู้มีพระคุณ จะต้องไปเกิดเป็นเปรตจำพวกที่มีปากเท่ารูเข็ม มือโตเท่าใบพายหรือใบตาล อดอยากและหิวโ หยอยู่เป็นนิตย์ ลองคิดดูว่าหากใครเกิดมามีปากเท่ารูเข็ม เวลาจะกินข้าวต้องเอายัดเข้าปากไปทีละเมล็ดมันจะทรมานทรกรรมขนาดไหน เป็นคำขู่หรือเตือนสติข องคนโบราณ ให้ลูกหลาน มีความกตั__ู ให้การเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่ชราและไม่ทำร้ายทั้งร่างกายจิตใจใครขืนเป็นอย่าง ที่ว่ารวมทั้งพวกเกกมะเหรกเกเร ชาวบ้ านก็จะพากันด่าประณามว่า...ไอ้เปรต คนที่ชอบฆ่าเป็ดฆ่าไก่ ตีไก่ เชือดหมู เชือดวัว อยู่เป็นอาจิณ เวลาตายไปแล้วอาจต้องไปเกิดเป็นเปรตประเภท ตัวเป็นค นหัวเป็นไก่ หรือหัวเป็นหมู ตามแต่ผลกรรม ใครทำกรรมเอาไว้อย่างไรก็จะได้ผลกรรมอันนั้นตอบสนอง ฉะนั้นเปรตอาจมีอยู่หลายชนิดหลายจำพวก ใครอยากเห็นก็ลองดูรูปปั้นเปรตชนิดต่างๆ ได้ที่วัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี
เปรตมีที่อยู่อาศัยแตกต่างกันไปตามประเภทและเผ่าพันธ์รวมทั้งคติความเชื่อ ที่บอกต่อหรือสืบทอดกันมา บางตำราว่าอาศัยอยู่ตามวัดคอยปรากฏตัวหลอกหลอ นหรือแสดงร่างให้เห็นเพื่อขอส่วนบุ_ บ้างว่าอยู่ตามท้องทุ่งตามทางเปลี่ยวใครไปเที่ยวดึกๆ กลับบ้านคนเดียวเดินผ่านศาลาวัด หรือตามทางแยก อาจเจอเปรตเดิ นตามหลังมาส่งถึงบ้าน หรือเดินเป็นเพื่อนมาตลอดทาง ซึ่งหากเจอเปรตก็ไม่ต้องตกอกตกใจอะไร วิ่งลูกเดียว หรือหากว่ามีเปรตและผีชนิดใดก็ตามขวางหน้าเรา อยู่ โบราณว่าอย่าวิ่งหันหลังกลับ เพราะจะโดนมันดักหน้า ให้วิ่งไปข้างหน้าหรือวิ่งฝ่าไปเลย แต่ถ้าจะให้ดีกลางค่ำกลางคืน นอนอยู่บ้านสบายที่สุด...ว่ามั๊ย...

เปรตกินอะไรเป็นอาหารคงไม่ต้องบอก เพราะไม่รู้เหมือนกันนอกจากมีความเชื่อกันว่า เวลาทำบุ_อุทิศส่วนกุศลให้แก่_าติที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเปรตก็จะมารับ ส่วนบุ_จากลูกหลานได้กินอิ่มหมีพีมันไปมื้อหนึ่งคราวหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็อดอยากหิวโหย นอกจากพวกอาหารคาวหวานแล้ว บางทีลูกหลานจะถวายเสื้อผ้าเครื่ง อนุ่งห่มแก่พระสงฆ์ด้วย เพื่อให้ผี_าติๆ ของตนไม่ต้องโป๊หรือเปลือยกายล่อนจ้อน ใครจะศรัทธาแก่กล้าถึงขนาดถวาย ซาวด์อเบาท์ หรือโทรทัศน์ วีดีโอ ซีดี. ก็ ตามถนัดไม่ผิดกติกาอันใด หากไม่มี_าติหรือ ลูกหลานคอยทำอุทิศส่วนกุศลไปให้พวกเปรตเหล่านี้จะหิวโหย ร้องโหยหวล เสียงร้องของเปรตไม่มีใครยืนยันได้ว่ าไพเราะเพราะพริ้งขนาดไหน นอกจากในบางตำรา บอกไว้ว่า มันส่งเสียงร้องดังกรี๊ดๆ เป็นเสียงหวิวหวีดฟังแล้วชวนวังเวง วิเวกวิโหวเหว คนล่ะอย่างกับที่พวก วัยรุ่นกรี๊ดกร๊าดเวลาเจอดารายอดนิยมหรือตอนดูคอนเสิร์ตหลังหมอชิต ว่ากันว่าที่เสียงมันดังกรี๊ดๆ ก็เพราะเกิดจากแรงดันของลมจากท้องผ่านช่องปากที่เล็กเท่า รูเข็ม เลยกลายเป็นเสียงอย่างที่บอก แบบนี้พวกเปรตที่มีหัวเป็นไก่ก็อาจจะร้องเสียง เอก-อี้-เอ้ก-เอ้ก ก็ได้ล่ะมั้ง ถ้าใครทำบุ_หากจะอุทิศก็ขอให้กล่าวหรือออกน ามพวกผีไม่มี_าติ หรือบรรดาผีๆ ทั้งหลายรวมทั้งคุณผีเปรตด้วย เพื่อที่จะได้ไม่หิวโหยร่างกายผอมโซจนน่าสงสาร

หลังจากที่ถูกพระพันวษาสั่งประหารชีวิต นางวันทองได้กลายเป็นผีเปรตที่ไม่มีหั วหรือเปรตหัวขาด วันหนึ่งนางทราบข่าวว่าพระไวยวรนาถลูกชาย กำลังจะไปรบกับผู้เป็นพ่อคือขุนแผน เปรตนางวันทองกลัวพ่อกับลูกจะต้องฆ่ากันเอง พลอยเป็นบาปกรรมติดตัวกันไปเปล่าๆ ก็เลยออกมาห้ามทัพ โดยแปลงกายเป็นสาวงาม นั่งเล่นอยู่บนชิงช้า เพราะรู้ว่าพระไวยฯ นั้นชีกอเหมือนพ่อนั่นแหละพระไวยฯ ไม่ทราบความนัย จีบสาวงามที่ได้พบ แม้เธอจะบอกว่าเป็นแม่ หรือนางวันทอง พระไวยฯ ก็ไม่ยอมเชื่อจนนางต้องแปลงเพศกลับเป็นเปรตอย่างเดิมเพื่อให้เห็นแจ้ง ประจักษ์ ว่ากันว่า เปรตนอกจากจะมีรูปร่างผอมโซจนเห็นโครงกระดูกทุก ซี่และมีความสูงชนิดผีฝรั่งอายแล้ว มันยังสามารถ แลบลิ้นได้ยาวเท่ากบความสูงของตัวเองอีกด้วย อะไรจะเว่อร์ปานนั้น
เปรตน่าจะเหมือนผีธรรมดาสามั_ทั่วไปคือ กลัวพระ กลัวเครื่องรางของขลัง ลอ งเจอเข้าเป็นเผ่นกระเจิง เพราะผีกับพระไม่ถูกกัน เหมือนงูกบเชือกกล้วยยังไงยังงั้น แต่สำหรับ ผีเปรตมีท่านผู้รู้แนะนำว่า หากใครเจอระหว่างทางหรือเจอที่ไห นก็แล้วแต่ ให้รีบบอกว่า...ไปที่ชอบๆ...หรือไปผุดไปเกิดซะเถอะ แล้วจะอุทิศส่วนกุศลไปให้ เท่านี้ผีเปรตและผีทั้งหลาย ก็จะเลิกตอแย หายตัวแว๊บ..ไปเลย แ ล้วก็อย่าลืมทำตามสั__า เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะเจออีกเป็นรอบที่สอง เพราะคุณผีเขามาทวงส่วนกุศลนั่นแหละ

ผีเปรต หรือชาวอีสานเรียกว่า ผีเผด เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เอ๊ย..ไม่ใช่ เกิดหรื อถือกำเนิดขึ้นตามผลกรรมที่เคยได้กระทำเอาไว้ สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ตำราโบราณกล่าวว่า เวลาที่เปรตตัวเดิมจะพ้นจากกรรมได้ไปผุดไปเกิด จะมีเปรตตัวใหม่ มารับตำแหน่งแทนดังมีเค้ามาจากนิทานพระมาลัยเรื่องหนึ่ง ดังนี้

ยังมีมานพหนึ่งคนหนึ่งชื่อว่า มิตตวินทุ อยากจะไปเที่ยวทะเลกับพ่อค้าสำเภาจึงเ คี่ยวเข็_เอาเงินทองจากมารดาซึ่งเป็นแม่ม่ายใจบุ_ ด้วยความเป็นห่วงลูกชายมารดาก็ขัดขวาง มิตตวินทุปกติเป็นคนเกกมะเหรกเกเรอยู่แล้ว จึงโกรธจนลืมตัวถี บแม่จนล้มแล้วหนีไปเที่ยวทะเลจนได้ แต่ผลกรรมตามทันทำให้เรือแตก มิตตวินทุว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งที่เกาะแห่งหนึ่งอันเป็นที่อยู่ของพวกเปรต แต่ชายหนุ่มกลับม องเห็นกงจักรที่หมุนคว้างผ่าศีรษะของพวกเปรตเหล่านั้นเป็นดอกบัวซึ่ง ประดิษฐ์เป็นมาลาสวมใส่ไว้อย่างสวยงาม..เห็นเลือดที่ไหลย้อยมาตามตัวเป็น สังวาลสาย สร้อย เห็นพวกเปรตที่กำลังร้องครว_ครางยกมือยกไม้ชักดิ้นชักงอด้วยความเจ็บปวดเป็น การร้องรำทำเพลงอย่างมีความสุข มิตตวินทุจึงเอ่ยปากขอพวกเปรตรู้ ว่ามีผู้มารับกรรมหรือรับ

ช่วงต่อ แสดงว่าพวกตนได้พ้นจากกรรมที่เคยกระทำเอาไว้แล้วก็ดีใจ รีบยกให้อย่างไม่ลังเล จึงเป็นที่มาของคำพังเพยไทยที่ว่า "เห็นก งจักรเป็นดอกบัว เห็นสองโพดำเป็นสเปโต..." อะไรทำนองนี้แหละ

ในพจนานุกรมฉบับต่างๆ กล่าวถึงเปรตพอรวมความได้ว่าเป็นสัตว์พวกหนึ่ง เกิ ดในอบายภูมิ แปลว่า แดนแห่งความทุกข์เป็นผีเลวจำพวกหนึ่ง มีหลายชนิด รูปร่างสูงโย่งยังกับลำตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซเพราะอดอยาก ปากเท่ารูเข็ม..... สงสัยจะหมายถึงเข็มเย็บผ้ามากกว่าเข็มเย็บกระสอบ มีมือโตเท่าใบตาล กินเลือดและหนองเป็นอาหาร ร้องเสียงดังกรี๊ดๆ ไม่ใช่กรี๊ดกร๊าด ส่วนในหนังสือไ ตรภูมิพระร่วง พรรณนาเกี่ยวกับเปรตเอาไว้ว่า บางจำพวกอยู่ในมหาสมุทร บนยอดเขา ตามไหล่เขา แต่บางจำพวกก็อยู่ในปราสาท มีช้างม้าเป็นข้าทาส บางจ ำพวกเวลาข้างแรม เป็นเปรต เวลาข้างขึ้นเป็นเทวดา ฯลฯ อันนี้แล้วแต่บุ_กรรมที่ได้กระทำเอาไว้

ทางภาคใต้ มีผีอยู่ชนิดหนึ่ง เรียกว่า 'ผีหลังกลวง" เป็นผีที่มีรูปร่างลักษณะอย่างค น แต่ข้างหลังเป็นรูกลวงสามารถมองเห็นเครื่องในประเภทตับไตใส้พุงได้หมด มีหนอนยั๊วเยี๊ย เวลาใครก่อไฟผิงอยู่กลางแจ้ง ผีหลังกลวงจะทำทีเข้ามาขออาศัย ด้วย แล้วหลอกหลอนโดยการแสดงให้เห็นอวัยวะภายในจากหลังที่กลวง บางทีมันแกล้งวานเด็กๆ เกาหลังให้ แล้วหลอกให้เห็นอวัยวะภายในหรือหลังที่กลวงซึ่งมีกิ๊งกือเต็มไปหมดผีพวกนี้ ไม่ทำร้ายใคร แต่จะหลอกหลอนให้ตกใจกลัว
หัวข้อ: เปิดตำนานเปรต
88  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / พระพุทธเจ้าเปิดโลก เมื่อ: สิงหาคม 26, 2011, 09:26:55 am
พระพุทธเจ้าเปิดโลก

เผื่อคุณ  ๆ เพื่อน และ เด็ก ที่ยังไม่ทราบถึง พุทธกิจ แทนคุณ พระพุทธมารดา ในพรรษา 1
เป็นที่มาของ พระอภิธรรม ด้วยคะ

และเป็นคราที่ โลก สวรรค์ และ นรก ได้เห็นซึ่งกันและกันเป็นอัศจรรย์ มีครั้งเดียว ต่อพระพุทธเ้จ้าพระองค์หนึ่ง


89  พระไตรปิฏก / พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ / พกชาดก นกกระยางเจ้าเล่ห์ เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 12:43:59 pm
พกชาดก นกกระยางเจ้าเล่ห์



90  พระไตรปิฏก / พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ / กัณฑินาชาดก การตกอยู่ในอำนาจหญิง เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 12:39:48 pm
กัณฑินาชาดก การตกอยู่ในอำนาจหญิง



มาเสริมรอก่อน นะคะ เพราะเห็นห้องนี้เงียบไปนานแล้วคะ

 :58:
91  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ฌาน มีไว้เพื่อข่ม นิวรณ์ เมื่อ: สิงหาคม 14, 2011, 07:41:30 am
เรื่องกัมมัฏฐาน ๔๐ นั้น ในตำราท่านไม่ได้แยกออกว่า อันนั้นเป็นอารมณ์ของฌาน อันนั้นเป็น อารมณ์ของสมาธิ หรือท่านแยกไว้แต่ข้าพเจ้าไม่เห็นตำราก็เป็นได้ ฉะนั้น เทศนากัณฑ์นี้จะรวม กัมมัฏฐาน ๔๐ นั้นไว้เสียก่อนว่า กัมมัฏฐานใดควรเป็นอารมณ์ของฌาน และกัมมัฏฐานใดควรเป็น อารมณ์ของสมาธิ ต่อไปถ้ามีโอกาสจะเทศน์เรื่อง อัปปมัญญา ๔ อาหาเรปฏิกูล ๑ ธาตุววตฺถาน ๑ ให้ฟัง
กัมมัฏฐาน ๔๐ นั้น พวกที่เป็นอารมณ์ของฌาน ได้แก่ กสิณ ๑๐ อสุภ ๑๐ อรูปฌาน ๔ รวมเป็น ๒๔
ส่วนพวกที่เป็นอารมณ์ของสมาธิ ได้แก่ อนุสสติ ๑๐ อัปปมัญญา ๔ อาหาเรปฏิกูล ๑ ธาตุววตฺถาน ๑ รวมเป็น ๑๖
อนุ สสติ ๑๐ ได้แสดงแล้ว ยังเหลือแต่ อัปปมัญญา ๔ อาหาเรปฏิกูล ๑ ธาตุววตฺถาน ๑ นี่แล เรื่องบัญญัติจำเป็นจะต้องจดจำหน่อย ความจำเรียกว่า สัญญา ถ้ามีสัญญาอยู่สมาธิก็จะไม่รวมลงได้ ถ้าสมาธิรวมได้แล้ว กัมมัฏฐาน ๔๐ เป็นอันว่าทำถูกต้องแล้ว ถึงอย่างไรบัญญัติก็ต้องเป็นบัญญัติ อยู่ดี ๆ นี่แหละ


ทีนี้จะอธิบายถึงเรื่อง ฌาน ก่อน ฌาน แปลว่า เพ่ง เพ่งอารมณ์กัมมัฏฐานนั้น ๆ ให้เป็นไป ตามปรารถนาที่ตนประสงค์ไว้แล้ว เช่น เพ่งกสิณ หรือ เพ่งอสุภ เป็นต้น ให้เป็นไปตามประสงค์ของตน เช่น อยากจะให้เป็นไฟ แล้วก็เพ่งว่า ไฟ ๆ จนกว่าจิตนั้นจะรวมลงสู่ไฟ เกิดความร้อนขึ้นมา เป็นต้น หรือเพ่งคนให้เป็นอสุภ จนจิตรวมลงในคนนั้น แล้วเกิดอสุภขึ้นมาในบุคคลนั้นจริง ๆ ดังนี้ เป็นต้น
รวมความว่า จิต กับ สังขาร ไปปรุงแต่งหลอกลวงตนเอง แล้วตนเองก็เข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น จริง ๆ เกิดความสลดสังเวชถึงกับร้องไห้ร้องห่ม ทั้ง ๆ ที่ตัวของเราก็ยังดี ๆ อยู่ไม่เป็นอสุภเปื่อยเน่า อะไรเลย เพราะจิตรวมแล้วมัน ส่งใน คุมจิตของตัวเองไม่ได้ จึงร้องไห้ร้องห่มและเห็นเป็นอย่างนั้น จริง ๆ ก็ดีเหมือนกัน ถ้าไม่เห็นอสุภด้วยใจของตนแล้ว ก็จะประมาทมัวเมาอยู่ว่า ตัวของเรานี้สวยสด งดงาม จะไม่แก่ไม่เฒ่าไม่ตาย


ฌาน มีองค์ห้า คือ วิตก จิตไปกำหนดเอาอารมณ์ของกัมมัฏฐานนั้น ๆ มาเป็นอารมณ์ ๑ วิจารณ์ จิตนึกคิดตรึกตรองว่า ทำอย่างไรจิตเราจะละอารมณ์นั้น ๆ แล้วรวมเข้ามาเป็นฌานได้ ๑ เมื่อจิตละอารมณ์นั้น ๆ แล้ว ก็เข้าสู่ภวังค์ เกิด ปีติ ซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย หรือเบากาย เบาใจ ๑ แล้วเกิดความ สุข สงบอย่างยิ่ง ๑

จิตก็เป็นอารมณ์อันเดียวเรียกว่า เอกัคคตารมณ์ ๑ อันนี้เรียกว่าได้ ปฐมฌาน

ด้วยความคล่องตัวของการกระทำเช่นนั้นจึงไม่ต้องมีวิตก มีแต่ วิจารณ์ สุข เอกัคคตา เรียกว่า ทุติยฌาน

ด้วยความคล่องตัวยิ่งขึ้น ตติยฌาน จึงไม่ต้องมีวิจารณ์ มีแต่ สุข กับ เอกัคคตา เท่านั้น

จตุตฺถฌาน จิตมันแน่วแน่ใน เอกัคคตา จนสุขก็ไม่ปรากฏ จะปรากฏแต่ เอกัคคตา กับ อุเบกขา วางเฉยเท่านั้น

ฌาน เป็นเพียงแต่ข่มนิวรณ์ห้าได้ชั่วคราวเท่านั้น เพราะฌานไม่ได้ใช้ปัญญา ใช้แต่จิตสงบ อย่างเดียว จึงเป็นแต่ข่มนิวรณ์ห้าได้


จากคุณ    : venture
92  ธรรมะสาระ / บทสวดมนต์ มนต์พิธี / ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ( ใส่ทำนองเพลง ) เมื่อ: สิงหาคม 04, 2011, 10:14:14 am
ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ฟังดีเพลิน แก้นอนไม่หลับได้ คะ




 :bedtime2: :bedtime2: :bedtime2:
93  ธรรมะสาระ / บทสวดมนต์ มนต์พิธี / บทสวดสรรเสริญพระคุณพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ เมื่อ: สิงหาคม 04, 2011, 10:05:14 am
บทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณทำนองสรภัญญะ

องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน
ตัดมูลเกลศมาร บ มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว
ราคี บ พันพัว สุวคนธกำจร
องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร
โปรดหมู่ประชากร มละโอฆกันดาร
ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมสานต์
ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย
พร้อมเบญจพิธจัก- ษุจรัสวิมลใส
เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง
กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปแห่งชายหญิง
สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ
ข้าขอประณตน้อม ศิรเกล้าบังคมคุณ
สัมพุทธการุญ- ญภาพนั้นนิรันดร (กราบ)

บทสวดสรรเสริญพระธรรมคุณทำนองสรภัญญะ

ธรรมะคือคุณากร  ส่วนชอบสาธร
ดุจดวงประทีปชัชวาล
แห่งองค์พระศาสดาจารย์ ส่องสัตว์สันดาน
สว่างกระจ่างใจมล
ธรรมใดนับโดยมรรคผล เป็นแปดพึงยล
และเก้านับทั้งนฤพาน
สมญาโลกอุดรพิสดาร อันลึกโอฬาร
พิสุทธิ์พิเศษสุกใส
อีกธรรมต้นทางครรไล นามขนานขานไข
ปฏิบัติปริยัติเป็นสอง
คือทางดำเนินดุจครอง ให้ล่วงลุปอง
ยังโลกอุดรโดยตรง
ข้าขอโอนอ่อนอุตมงค์ นบธรรมจำนง
ด้วยจิตและกายวาจาฯ (กราบ)

บทสวดสรรเสริญพระสังฆคุณทำนองสรภัญญะ

สงฆ์ใดสาวกศาสดา รับปฏิบัติมา
แต่องค์สมเด็จภควันต์
เห็นแจ้งจตุสัจเสร็จบรร- ลุทางที่อัน
ระงับและดับทุกข์ภัย
โดยเสด็จพระผู้ตรัสไตร ปัญญาผ่องใส
สะอาดและปราศมัวหมอง
เหินห่างทางข้าศึกปอง บ มิลำพอง
ด้วยกายและวาจาใจ
เป็นเนื้อนาบุญอันไพ- ศาลแด่โลกัย
และเกิดพิบูลย์พูนผล
สมญาเอารสทศพล มีคุณอนนต์
อเนกจะนับเหลือตรา
ข้าขอนพหมู่พระศรา- พกทรงคุณา-
นุคุณประดุจรำพัน
ด้วยเดชบุญข้าอภิวันท์ พระไตรรัตน์อัน
อุดมดิเรกนิรัติศัย
จงช่วยขจัดโพยภัย อันตรายใดใด
จงดับและกลับเสื่อมสูญ (กราบ)
94  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / คนที่ไม่มีแฟนอยู่เป็นโสดมา จน 60 ปีแล้วนี่ เป็นเพราะกรรมอะไรคะ เมื่อ: สิงหาคม 01, 2011, 09:10:19 am
คือมี อา ที่มีอายุ 60 กว่าปีแล้ว ยังหาแฟนไม่ได้ พี่น้องทุกคน ก็มีแฟน มีลูก มีหลาน กันหมดแล้ว
เหลือแต่อาผู้หญิงคนนี้ไม่มีแฟน กับเขาเลย มีคนมาจีบก็ไม่สน จะบอกว่าเป็นคนธรรมะ ธรรโม ก็ไม่ใช่
เพราะก็มีชีวิต เหมือนกับพวกเรา ชอบ ช๊อบปิ้ง ชอบเที่ยว ดูหนัง ดูละคร สังสรรค์ ชอบดื่มด้วย

 อยากทราบเป็นเพราะกรรมอะไร คะ จึงไม่มีสามี หรือ แฟน แบบคนอื่นคะ

 :'( :c017:
95  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://wattumsumano.com/ วัดถ้ำสุมะโน พัทลุง เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 10:20:52 am


http://wattumsumano.com/
วัดถ้ำสุมะโน พัทลุง
96  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / จุลกฐิน คือ อะไรคะ ต่างจาก กฐิน อื่น ๆ อย่างไร คะ เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2011, 10:37:10 am
จุลกฐิน คือ อะไรคะ ต่างจาก กฐิน อื่น ๆ อย่างไร คะ

ไม่ค่อยจะเข้าใจ คะ เข้าใจ ว่าเป็น กฐินหลวง ใช่หรือไม่คะ

  มีวิธีการขั้นตอนอย่างไร คะ

   :c017:
97  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / เปิดใจ เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2011, 07:56:15 pm
เปิดใจ เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่

98  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / ฟอแมตฮาดดิสก์/แฟลชไดรว์ไม่ได้ !? ลองใช้โปรแกรม Any DRIVE Formatter ดูซิ !! เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2011, 07:27:21 pm
ฟอแมตฮาดดิสก์/แฟลชไดรว์ไม่ได้ !? ลองใช้โปรแกรม Any DRIVE Formatter ดูซิ !!
Any DRIVE Formatter เป็นโปรแกรมสำหรับใช้ในการบังคับฟอแมตอุปกรณ์บรรจุข้อมูลเช่น ฮาร์ดดิสก์หรือแฟลชไดรว์ ในกรณีที่ไม่สามารถสั่งฟอแมตแบบปกติได้ (เช่น โดนพวกไวรัสเข้าไปฝันตัว, ไฟล์ระบบเสียหาย) สามารถใช้โปรแกรม Any DRIVE Formatter มาจัดการได้ครับ !!



ดาวน์โหลดได้ที่
http://adriveformat.weebly.com/downloads.html
99  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / 7 วันระวังอันตรายโน๊ตบุ๊กใหม่ ข้อเท็จจริงที่ต้องรู้เพื่อรักษาสิทธิของเรา เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2011, 07:25:52 pm

7 วันระวังอันตรายโน๊ตบุ๊กใหม่ ข้อเท็จจริงที่ต้องรู้เพื่อรักษาสิทธิของเรา

    ไม่ว่าท่านจะซื้อโน๊ตบุ๊กจากในงานคอมมาร์ทหรือนอกงาน ก็น่าอ่านไม่แพ้กัน หลายๆท่านอาจจะส่งสัยกันว่าประกัน 7 วันนีั้มันยังไงกันแน่ และมีวิธีอย่างไรให้สังเกตุว่าน่าจะส่งเคลมใน 7 วัน NBS เลยมาช่วยแถลงไขให้ฟัง

ประกัน 7 วันมีไว้เพื่อ
ก่อนอื่นต้องพูดถึงประกัน 7 วันก่อนนะครับว่าเป็น การรับประกันว่าเครื่องที่ซื้อไปจากร้านนั้นๆไม่มีปั ญหา เป็นเครื่องใหม่จริงเพื่อใหเผู้ซื้อสบายใจและสามารถต ัดสินใจซื้อได้ทันที ซึ่งในความเป็นจริงประกัน 7 วันนี่ไม่ได้เป็นมาตรฐานแบบประกัน 1 ปีที่ทุกเครื่องต้องมี แต่เป็นเหมือนประกันที่แต่ละร้านกำหนดขึ้นมา ลองสังเกตุในใบเสร็จก็ได้ครับว่าถ้าร้านไหนรับประกัน เป็นมาตรฐาน 7 วันนั้นจะพิมพ์ในใบเสร็จเลยว่า สินค้ามีปัญหาสามารถเคลมได้ใน 7 วัน แต่ในอีกหลายๆร้านก็ใช่ว่าจะมีกำหนดไว้เพียงแต่แค่รั บปากเปล่าเท่านั้น เพราะฉะนั้นใช่ว่าแต่ละร้านที่รับประกัน 7 วัน จะเหมือนกันเสียหมด
มาตรฐานประกัน 7 วันที่แตกต่างกัน
ปรกติที่หลายๆร้านโม้ไว้คือถ้าเสียเปลื่ยนเครื่องใหม ่ในประกัน 7 วัน แต่ในความเป็นจริงนั่นหลายร้านก็ทำไม่ได้ เพราะการเปลี่ยนเครื่องใหม่นั้นคือการเอาเครื่องที่ส ามารถขายได้มาเปลี่ยน ให้ แล้วต้องเอาเครื่องเก่าไปเคลมซึ่งจะทำให้ร้านเสียประ โยชน์เพราะต้องรอ เครื่องซ่อม (ไม่นับบางร้านที่ไม่ดีโดยการเอาเครื่องเคลมมาวนขาย)
ทำให้ร้านส่วนใหญ่ไม่อยากเคลมโดยการเปลี่ยนเครื่องให ม่ จึงแนะนำโดยการช่วยแก้ปัญหาหรือแนะนำให้ไปเคลมกับศูน ย์เพื่อผลักภาระส่วนนี้ ไป แต่ในความเป็นจริงภาระการรับประกัน 7 วันเป็นของร้านที่รับเครื่องมาขาย ซึ่งในกรณีร้านเปลี่ยนเครื่องใหม่ เครื่องที่เคลมกับมาผู้ผลิตก็จะรับผิดชอบโดยการเปลี่ ยนเครื่องใหม่อยู่แล้ว เพราะถือว่าผิดพลาดจากการผลิต แต่ร้านจะเสียเวลาในการเคลมสินค้าทำให้ไม่ค่อยอยากใช ้วิธีนี้นัก
แต่อีกหลายร้านก็ดีนะครับโดยบอกกันตรงๆ หรือดีสุดก็คือเคลมให้ใหม่เลย ซึ่งเป็นหน้าที่ของลูกค้าอย่างเราที่ต้องรักษาสิทธิใ นการยืนยันให้ร้านแก้ไข ปัญหาให้สามารถใช้งานได้ หรือจะต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้เลยในกรณีเครื่องมีป ัญหาหนักมากเพราะเรา ซื้อมาใช้งานนะครับไม่ได้เอามาตั้งโชว์จึงต้องรักษาส ิทธิให้เต็มที่
**ไม่นับกรณีที่ลูกค้าเป็นผู้ทำ เสียหายเองนะครับเช่นเครื่องตก หรือกระแทก เพราะถือว่าเป็นปัญหาที่เกิดจากผู้ใช้เองไม่ใช่ปัญหา จากการผลิต
Dead pixel VS ประกัน 7 วัน
บอกก่อนนะครับสำหรับหลายๆท่านที่คิดว่าการทดสอบ Dead pixel ไม่สำคัญ เพราะนึกว่าอยู่ในประกัน 7 วัน แต่เอาเข้าจริงๆแล้วเาไม่นับประกัน 7 วันนะครับ (ยกเว้นบ้างร้านที่รับประกันพิเศษส่วนนี้ให้ หรือลดราคาเครื่องที่มี Dead pixel โดยจะบอกผู้ซื้อก่อนแล้ว) ในหนึ่งร้านเวลารับเครื่องมาบางที่เป็นร้อยๆเครื่องท ำให้ไม่สามารถทดสอบส่วน นี้ได้ จึงเป็นหน้าที่เราต้องมานั่งทดสอบ Dead pixel เอง โดยในแทบทุกร้านจะมีโปรแกรมสำหรับทดสอบ Dead pixel ให้ (แต่บ้างร้านก็ต้องทวงจึงจะให้) เพื่อให้ลูกค้าทดสอบด้วยตัวเอง เพื่อยืนยันจะได้ไม่มาโวยวายทีหลัง ซึ่งถ้าลูกค้าดูไม่ถี่ถ้วนแล้วมาขอใช้สิทธิประกัน 7 วัน ร้านส่วนใหญ่ก็จะไม่รับครับ เพราะถือว่าผู้ซื้อเป็นคนทดสอบด้วยตัวเองแล้ว

บางอาการก็ไม่ได้เสียนะครับ
อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดกับหลายๆเครื่องโดยเฉพาะเครื ่องที่นำกลับมาลง วินโดวส์เอง เช่นกรณีพอร์ตต่างๆไม่สามารถใช้งานได้ อาจจะเกิดจากปิดพอร์ตไว้หรือไดร์ฟเวอร์ไม่ได้ลง อาจจะรวมไปถึงปัญหาเล็กๆน้อยเช่นไดร์ฟเวอร์ต่างๆอันน ี้ต้องเข้าใจก่อนนะครับ ว่าเครื่องไม่ได้เสียจะไปหาเรื่องกับทางร้านก็ไม่ถูก นัก แต่ถ้าเจอปัญหาแบบนี้จริงก็สามารถยกไปให้ร้านที่ซื้อ เขาดูให้ได้ครับทางร้าน จะได้ชี้แจงให้เข้าใจด้วย
ใบเสร็จสำคัญมิใช่น้อย
เพราะจะมีข้อมูลทั้งหมดในการซื้อเครื่องสักเครื่องหน ึ่งทั้ง ชื่อร้านที่ตั้ง (ในกรณีซื้อในงานสำคัญมากครับเพราะจะได้ตามไปเคลมได้ ถูกที่) ข้อมูลของโน๊ตบุ๊กที่ซื้อไม่ว่าจะเป็นรุ่น สเปก ราคา และที่สำคัญคือซีเรียลเครื่องซึ่งแต่ละร้านจะมีเก็บไ ว้สำหรับอ้างอิง รวมถึงข้อแม้ของประกัน 7 วัน ซึ่งถ้ามีใบเสร็จเวลาไปเคลมก็จะเป็นหลักฐานในการอ้าง อิงว่าซื้อกับร้านนี้ จริง ถ้าหากไม่มีใบเสร็จบางร้านก็อาจจะขอไม่รับประกัน 7 วันได้ครับ แต่บ้างร้านที่ดีหน่อยก็จะเคลมให้แต่อาจจะเสียเวลาใน การยืนยันว่าซื้อ เครื่องจากร้านนี้จริงนานหน่อย
แล้วเมื่อไรละถึงจะเอาไปเคลม
เมื่อเครื่องมีปัญหาไม่ว่าจะเล็กๆน้อย หรือกระทั่งปัญหาใหญ่จนเปิดเครื่องไม่ติด ซึ่งไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กมันก็คือปัญหาที่ไม่ควรเกิด กับเครื่องใหม่ใช่ไหมละ ครับ( แต่บางอาการอาจจะไม่ได้เสียเพียงแต่ยังไม่ได้เปิดหรื อยังไม่ได้ลงไดร์วเวอร์ ครับ) ผมขอยกตัวอย่างที่เกิดปัญหาบ่อยๆแล้วกันครับเช่น

    * พอร์ตต่างๆไม่สามารถใช้งานได้
    * จอภาพเป็นเส้น
    * อุปกรณ์ภายในเช่นฮาร์ดดิสค์แรมมีปัญหา
    * เครื่องบูตไม่ขึ้น (แบบไม่เห็นจอใบออสเลย)
    * ปุ่มต่างๆกดไม่ติด
    * ลำโพงไม่มีเสียงออก
    * ชาร์ตไฟไม่เข้า (จากแบตเตอรี่หรือ Adapter)

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปัญหาทางกายภาพที่สามารถสังเกตุได้แ ต่ก็ย้ำนะครับว่า บางปัญหาอาจจะไม่ได้เกิดจากอุปกรณ์จริงๆ อาจจะเป็นเพียงปัญหาของไดร์ฟเวอร์เท่านั้น แต่ถ้าไม่มั่นใจก็ยกเครื่องไปให้ร้านที่ซื้อดูได้ครั บ
เอาอะไรไปเคลมประกัน 7 วันบ้างละ
อันที่จริงใช้แค่เครื่องกับใบเสร็จก็พอ แต่ถ้ากรณีเปลี่ยนเครื่องใหม่บางร้านอาจจะจำเป็นต้อง ใช้กล่องที่มีซีเรีย ลตรงกับเครื่องด้วยเพราะฉะนั้นอุปกรณ์ต่างๆที่ครรจะเ ก็บไว้ถึงจะไม่ได้ใช้ กับประกัน 7 วันก็ตามอันได้แก่

    * กล่องที่มีรหัสซีเรียลเครื่อง
    * ใบเสร็จ
    * ใบประกันที่ซื้อเพิ่ม
    * อุปกรณ์ข้างเคียงเช่น Adapter,แบตเตอรี่

ก่อนจากกัน อยาให้ผู้ที่ถอยโน๊ตบุค ให้ทดลองใช้เครื่องให้เต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่เปิดเครื่องโดยใช้ไฟจากแบตให้หมด แล้วลองชาร์ตไฟดูว่าแบตใช้งานได้ตามสเปกที่บอกมาหรือ ไม่ และใช้งานให้ครบทุกอย่างตามวัตถุประสงค์ของเรา ตั้งแต่ ดูหนัง(จอภาพเป็นเส้นไหม) ฟังเพลง(ลำโพงแตกไหม ปรับเสียงได้ดังแค่ไหน) เล่นเกม และ้งานอื่นๆ
สุดท้ายขอให้ท่านสมาชิกได้เครื่องที่ดี ถูกใจ ใช้งานได้เป็นอย่างดีกันทุกท่านครับ ท่านสมาชิกท่านใดมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ เวปบอร์ดของเราได้ตลอด และอย่าลืมติดตาม ผลงานของเราต่อไป รับรองได้ว่า มีประโยช์นกับสมาชิก ไม่ว่าเป็น Driver ออกใหม่ หรือว่า ซอฟแวร์ที่ช่วยเร่งประสิทธิภาพในการทำงานหรือการ รักษาเครื่องให้อยู่กับเราไปนานๆ โชคดีทุกท่านครับ

ข้อมูลจาก :   www.thaigaming.com
100  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะ (Buddha-nature) มีทางเดียวเท่านั้น เมื่อ: มิถุนายน 16, 2011, 11:21:14 am


ธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะ (Buddha-nature) มีทางเดียวเท่านั้น

"ความเป็นพุทธะมีอยู่ในตัวของทุกๆคน

หนทางที่สั้นและง่ายที่สุด เมื่อจิตว่างจากสรรพสิ่งทั้งมวลอย่างแท้จริง

สติกับปัญญาจะนำพาไปสู่ความเป็นพุทธะ"


ต่อมาไม่นาน อาตมาก็ไปถึงตำบลโซกาย, ณ ที่นั้น พวกใจบาปได้ตามจองล้างจองผลาญอาตมาอีก ทำให้อาตมาต้องหลบซ่อนอยู่ที่ซีวุย อันเป็นที่ซึ่งอาตมาได้อาศัยอยู่กับพวกพรานป่าตลอดเวลานานถึง 15 ปี ในบางโอกาส อาตมาก็หาทางสั่งสอนเขาตามที่เขาพอจะเข้าใจได้บ้าง เขาเคยใช้อาตมาให้นั่งเฝ้าข่ายดักจับสัตว์ของเขา, เมื่ออาตมาเห็นสัตว์มาติดที่ข่ายนั้น ก็ปลดปล่อยให้รอดชีวิตไป ในเวลาหุงต้มอาหาร อาตมานำผักมาใส่ลงไปในหม้อที่เขากำลังต้ม หรือแกงเนื้อ บางคนสงสัยก็ถามอาตมา อาตมาตอบให้ฟังว่า แม้เนื้อนั้นแกงรวมกันอยู่กับผัก อาตมาก็จะคัดเลือกรับประทานแต่ผักอย่างเดียวเท่านั้น
วันหนึ่ง อาตมารำพึงในใจตนเองว่า อาตมาไม่ควรจะเก็บตัวซ่อนอยู่เช่นนี้ตลอดไป มันถึงเวลาแล้ว ที่อาตมาจะทำการประกาศธรรม ดังนั้นอาตมาจึงออกจากที่นั้น และได้ไปสู่อาวาสฟัดฉิ่นในนครกวางตุ้ง

ในขณะนั้น ภิกษุเยนชุง ผู้เป็นธรรมาจารย์มีชื่อเสียงองค์หนึ่ง กำลังเทศนาว่าด้วยมหาปรินิวาณสูตร อยู่ในอาวาสนั้น มันเป็นการบังเอิญในวันนั้น เมื่อธงริ้วกำลังถูกลมพัดสะบัดพริ้วๆ อยู่ในสายลม ภิกษุสองรูปเกิดโต้เถียงกันขึ้นว่าสิ่งที่กำลังไหวสั่นระรัวอยู่นั้น ได้แก่ลม หรือได้แก่ธงนั้นเล่า เมื่อไม่มีทางที่จะตกลงกันได้ อาตมาจึงเสนอข้อตัดสินให้แก่ภิกษุสองรูปนั้นว่า ไม่ใช่ลมหรือธงทั้งสองอย่าง ที่แท้จริง ที่หวั่นไหวจริงๆ นั้น ได้แก่จิตของภิกษุทั้งสองรูปนั้นเองต่างหากที่ประชุมที่กำลังประชุมกันอยู่ ในที่นั้น พากันตื่นตะลึง.ในถ้อยคำที่อาตมาได้กล่าวออกไป และภิกษุเยนชุง ได้อาราธนาอาตมาให้ขึ้นนั่งบนอาสนะอันสูงแล้วได้ซักถามปัญหาที่เป็นปมยุ่งต่างๆ ในพระสูตรที่สำคัญๆ หลายพระสูตร

เมื่อได้เห็นว่า คำตอบของอาตมาชัดเจนแจ่มแจ้งและมั่งคง และเห็นว่าเป็นคำตอบที่มีอะไรสูงยิ่งไปกว่าความรู้ ที่จะหาได้จากตำราแล้ว ภิกษุเยนชุงได้กล่าวแก่อาตมาว่า "น้องชาย ท่านต้องเป็นบุคคลพิเศษเหนือธรรมดาเป็นแน่ เราได้ฟังข่าวมานานแล้วว่า บุคคลผู้ได้รับมอบผ้ากาสาวพัสตร์ และธรรมะจากพระสังฆปรินายกองค์ที่ห้านั้น บัดนี้ได้เดินทางลงมาทางทิศใต้แล้ว ท่านต้องเป็นบุคคลผู้นั้น เสียแน่แล้ว"

อาตมา ได้แสดงกิริยายอมรับโดยอ่อนน้อม ทันใดนั้น ภิกษุเยนชุงได้ทำความเคารพ และขอให้อาตมานำผ้าและบาตร ซึ่งได้รับมอบ ออกมาให้ที่ประชุมดูด้วย แล้วได้ถามอาตมาสืบไปว่า เมื่อสังฆปริณายกองค์ที่ห้ามอบธรรมอันเร้นลับสำหรับสังฆปริณายก ให้แก่อาตมานั้น อาตมาได้รับคำสั่งสอนอะไร อย่างใดบ้าง

อาตมาตอบว่า "นอกจากการคุ้ยเขี่ยด้วยเรื่องการเห็นแจ้งชัดใน จิตเดิมแท้ แล้ว ท่านไม่ได้ให้คำสอนอะไรอีกเลย ท่านไม่ได้เอ่ยถึงแม้แต่เรื่องธยานและวิมุต" ภิกษุเย็นชุงสงสัย จึงถามอาตมาว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น อาตมาตอบว่า เพราะว่ามันจะทำให้เกิดความหมายว่า มีหนทางขึ้นถึงสองทาง ก็ทางในพุทธธรรมนี้ จะมีถึงสองทางไม่ได้ มันมีแต่ทางเดียวเท่านั้น

ภิกษุเยนชุง ถามอาตมาต่อไปว่า ที่ว่ามีแต่ทางเดียวนั้นคืออะไร อาตมาตอบว่า "ก็มหาปรินิรวาณสูตรซึ่งท่านนำออกเทศนาอยู่นั่นเอง ย่อมชี้ให้เห็นอยู่แล้วว่า ธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะ(ซึ่งมีอยู่ในคนทุกคน) นั่นแหละคือทางทางเดียว ยกตัวอย่างตอนหนึ่งในพระสูตรนั้นมีว่า พระเจ้าโกโกวตั่ก ซึ่งเป็นโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ได้กราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า บุคคลที่ล่วงปาราชิกสี่อย่างก็ดี หรือทำอนันตริยกรรมห้าอย่างก็ดี และพวกอิจฉันติกะ (คือมิจฉาทิฏฐินอกศาสนา) ก็ดี ฯลฯ คนเหล่านี้ จะได้ชื่อว่าถอนรากเหง้าแห่งความดี และทำลาย ธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะ ของตนเองเสียแล้ว โดยสิ้นเชิงหรือหาไม่? พระพุทธเจ้าได้ตรัสตอบว่า รากเหง้าของความดีนั้น มีอยู่สองชนิดคือ ชนิดที่ถาวรตลอดอนันตกาล กับไม่ถาวร(Eternal, and Non-eternal) เพราะเหตุที่ธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะนั้น จะเป็นของถาวรตลอดอนันตการก็ไม่ใช่ จะว่าไม่ถาวรก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้น รากเหง้าแห่งความดีของเขา จึงไม่ถูกถอนขึ้นโดยสิ้นเชิง" ในบัดนี้ก็เป็นที่ปรากฏแล้วว่า พุทธธรรมมิได้มีทางสองทาง ที่ว่าทางฝ่ายดีก็มี ทางฝ่ายชั่วก็มี นั้นจริงอยู่ แต่เพราะเหตุที่ธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะนั้น เป็นของไม่ดีไม่ชั่ว เพราะฉะนั้น พุทธธรรมจึงเป็นที่ปรากฏว่าไม่มีทางถึงสองทาง ตามความคิดของคนธรรมดาทั่วไปนั้นเข้าใจว่า ส่วนย่อยๆของขันธ์และธาตุทั้งหลายนั้น เป็นของที่แบ่งแยกออกได้เป็นสองอย่าง แต่ผู้ที่ได้บรรลุธรรมแล้ว ย่อมเข้าใจว่า สิ่งเหล่านั้นตามธรรมชาติไม่ได้เป็นของคู่เลย พุทธภาวะหรือธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธนั้นไม่ใช่เป็นของคู่"

ภิกษุเยนชุง พอใจในคำตอบของอาตมาเป็นอย่างสูง ได้ประนมมือทั้งสองขึ้นเป็นการแสดงความเคารพแล้ว ท่านได้กล่าวแก่อาตมาว่า "คำอธิบายความในพระสูตรที่ข้าพเจ้าเองอธิบายไปแล้วนั้น ไร้มูลค่า เช่นเดียวกับกองขยะมูลฝอยอันระเกะระกะไปหมด ส่วนคำอธิบายของท่านนั้น เต็มไปด้วยคุณค่าเปรียบเหมือนทองคำเนื้อบริสุทธิ์" ครั้นแล้วท่านได้ช่วยจัดการให้อาตมาได้รับการ ประกอบพิธีปลงผม และรับการบรรพชาอุปสมบท เป็นภิกษุในพุทธศาสนา และได้ขอร้องให้อาตมา รับท่านไว้ในฐานะเป็นศิษย์คนหนึ่งด้วย

จำเดิมแต่นั้นมา อาตมาก็ได้ทำการเผยแพร่คำสอนแห่งสำนักตุงซั่น (คือ สำนักแห่งพระสังฆปริณายกองค์ที่สี่และองค์ที่ห้า ซึ่งอยู่ในวัดตุงซั่น) ตลอดมาภายใต้ร่มเงาของต้นโพธิ์(*4)

*4 คำว่าต้นโพธิ์ในที่นี้ เข้าใจว่าหมายถึงบารมีของพระพุทธเจ้า หรือมิฉะนั้นก็หมายถึงพุทธภาวะหรือธรรมชาติแห่งพุทธะ ซึ่งถือเป็นของสำคัญเพียงอย่างเดียวในนิกายนี้ (พุทธทาส ผู้แปลไทย)

นับตั้งแต่อาตมาได้รับมอบพระธรรมมาจากสำนักตุงซั่นแล้ว อาตมาต้องตกระกำลำบากหลายครั้งหลายหน ชีวิตปริ่มจะออกจากร่างอยู่บ่อยๆ วันนี้อาตมาได้มีเกียรติมาพบกับท่านทั้งหลาย ในที่ประชุมนี้ ทั้งนี้ อาตมาต้องถือว่าเป็นเพราะเราได้เคยติดต่อสัมพันธ์กันมาเป็นอย่างดีแล้วแต่ในกัลป์ก่อนๆ รวมทั้งอานิสงส์แห่งบุญกุศล ที่เราได้สะสมกันไว้ ในการถวายไทยธรรมร่วมกันมาแต่พระพุทธเจ้าหลายพระองค์ในชาติก่อนๆของเรานั่นเอง มิฉะนั้นแล้วไฉนเราจะมีโอกาสได้ยินได้ฟังคำสอนแห่ง "สำนักบรรลุฉับพลัน" อันเป็นรากฐานที่ทำให้เราเข้าใจพระธรรมได้แจ่มแจ้ง ในอนาคตนั้นเล่า

คำสอนอันนี้ เป็นคำสอนที่ "ได้มอบสืบทอดต่อๆ กันลงมาจากพระสังฆปริณายกองค์ก่อนๆ หาใช่เป็นคำสอนที่อาตมาประดิษฐ์คิดขึ้นด้วยตนเองไม่ ผู้ที่ปรารถนาจะสดับพระธรรมนั้น ในขั้นแรกควรจะชำระใจของตนให้ ครั้นได้ฟังแล้ว ก็ควรจะชะล้างความสงสัยของตน ให้เกลี้ยงเกลาไปเฉพาะตนๆ โดยทำนองที่พระมุนีทั้งหลายในกาลก่อนได้เคยกระทำกันมา จงทุกคนเถิด"

ครั้นจบพระธรรมเทศนา ผู้ฟังพากันปลาบปลื้มด้วยปีติ ทำความเคารพแล้วลาไป




พระสูตรเว่ยหล่าง

พุทธทาสภิกขุแปล

http://dhammaforlife1.blogspot.com/2011/05/buddha-nature.html
101  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / คนเมาอยู่ที่ไหน ที่นั้นก็เดือดร้อน อยู่ในอากาศ ก็เดือดร้อนในอากาศ เมื่อ: มิถุนายน 04, 2011, 10:18:40 am


เวียดนาม แอร์ไลนส์สายการบินแห่งชาติมักจะมีอะไรๆ ให้ผู้โดยสารได้ระทึกอยู่เป็นระยะๆ แต่การใช้มาตรการที่เด็ดขาดเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อความปลอดภัยของนับร้อยชีวิตบนเครื่อง. -- ภาพ: เตื่อยแจ๋.
       
เตื่อยแจ๋/เวียดนามเอ็กเพรส -- นายแกรมม์ บาร์นส อายุ 53 ปี ชาวออสเตรเลีย ผู้โดยสารเที่ยวบินสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์จากเมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลียมายังนครโฮจิมินห์ เวียดนาม ในช่วงบ่ายวานนี้ (1 มิ.ย.) ถูกมัดไว้กับที่นั่งโดยสารของตัวเองหลังพยายามทำร้ายผู้โดยสารคนอื่นและ พนักงานต้อนรับบนเครื่อง
       
       ไม่กี่ชั่วโมงหลังเครื่องขึ้นบิน นายบาร์นสกล่าวกับพนักงานต้อนรับว่า ปวดฟันและขอดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น ทันทีที่พนักงานต้อนรับทำตามคำขอของนายบาร์นสแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นนายบาร์นสกลับร้องเสียงดังและตะโกนใส่ผู้โดยสารหญิงที่ นั่งอยู่ข้างๆ
       
       ผู้โดยสารสตรีคนดังกล่าวแสดงความไม่พอใจในพฤติกรรมของนายบาร์นส โดยบอกพนักงานต้อนรับ ซึ่งพยายามขอร้องให้นายบาร์นสสงบลง แต่นายบาร์นสกลับส่งเสียงดังต่อไปและถอดนาฬิกาข้อมือขว้างไปที่ผู้โดยสารชาว ออสเตรเลียอีกคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ทำให้พนักงานต้อนรับชายต้องเข้ามาช่วยให้นายบาร์นสอยู่ในความสงบ แต่นายบาร์นสกลับทำร้ายพนักงานต้อนรับคนดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
       
       เมื่อกัปตันได้ทราบเหตุการณ์ จึงสั่งให้พนักงานต้อนรับย้ายที่นั่งนายบาร์นสและญาติของเขาไปยังบริเวณท้าย เครื่อง แต่ยังไม่มีทีท่าว่านายบาร์นสจะสงบลงเพราะยังคงส่งเสียงตะโกนอยู่ตลอด ลูกเรือจึงตัดสินใจมัดข้อมือของนายบาร์นสไว้กับที่นั่ง
       
       ทันทีที่เครื่องลงจอดที่สนามบินเติ่นเซินเญิ๊ต นครโฮจิมินห์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินเข้าประกบตัวนายบาร์นสลงจากเครื่อง และเขียนรายงานถึงพฤติกรรมก่อกวนในระหว่างเที่ยวบิน
       
       นายบาร์นสได้ลงชื่อในรายงานดังกล่าวและยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมตัว เองได้ เนื่องจากองค์ประกอบหลายอย่างทั้งผลของแอลกอฮอล์และยานอนหลับที่เขาทานเข้า ไป
       
       หน่วยรักษาความปลอดภัยได้ปล่อยตัวนายบาร์นสเป็นอิสระหลังหลังยึด หนังสือเดินทางและเอกสารส่วนตัว ขณะที่สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์สกล่าวว่าจะพบกับบาร์นสในวันนี้และอาจมีการ ปรับผู้โดยสารคนนี้จากเหตุดังกล่าว.
102  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ยิ่งพูดน้อย… ยิ่งได้ข้อมูลมาก เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2011, 04:12:49 pm


ขอบคุณภาพประกอบจาก http://learners.in.th


   1. ยิ่งพูดน้อย ยิ่งปล่อยไก่ยาก ต้อง ยอมรับล่ะว่า สมัยนี้ผู้หญิงนั้นมีความรอบรู้ในหลายๆด้าน และเรื่องบางเรื่องพวกหล่อนก็รู้ดีมากกว่าชายซะอีก แล้วถ้าคุณเผลอปล่อยไก่หรือแสดงความโง่เขลาออกมาล่ะก็ คะแนนคุณดิ่งฮวบทันที
   2. ยิ่งพูดน้อย ยิ่งน่าเชื่อถือ คุณ ลองสังเกตดูในที่ทำงานคุณก็ได้ ว่าเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าคุณฟังความเห็นของใครมากกว่า ระหว่างคนที่ขี้เล่นเม๊าไปเรื่อย กับคนที่เงียบขรึม…โดยทั่วไปแล้ว คนเรามักจะเชื่อถือคนที่พูดเฉพาะเวลาจำเป็นมากกว่า
   3. ยิ่งพูดน้อย ยิ่งดูลึกลับ ลึกลับแล้วยังไงน่ะเหรอ? ก็ทำให้คุณยิ่งดูเป็นบุรุษผู้น่าค้นหายังไงล่ะ ยิ่งทำให้เธออยากเข้าหาและทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณให้มากขึ้น
   4. ยิ่งพูดน้อย ยิ่งมีพลัง ผู้หญิง ทั่วไปจะรู้สึกว่า ผู้ชายที่พูดมากเกินความจำเป็นเวลาที่จีบพวกหล่อนนั้น เป็นพวกที่ไม่มีความมั่นใจ และเกิดความประหม่าซะจนต้องพูดๆๆๆจนน้ำลายแตกฟอง ดังนั้นความเคร่งขรึมสุขุมของคุณ เป็นเครื่องบ่งบอกแทนคำพูดว่า ‘ผมไม่ประหม่าความสวยของคุณเลยแม้แต่น้อย!’ซึ่งมันแมนกว่ากันเยอะๆๆ
   5. ยิ่งพูดน้อย ยิ่งได้ข้อมูลมาก ผู้หญิง ส่วนใหญ่ทนความตึงเครียดอันเกิดจากบรรยากาศเงียบๆไม่ได้นานหรอก ดังนั้นยิ่งคุณพูดน้อยเวลาอยู่กับเธอ เธอยิ่งเผยไต๋เกี่ยวกับตัวเองให้คุณฟัง และเก็บไว้เป็นข้อมูลได้มากเท่านั้น ทำให้คุณสามารถวิเคราะห์เธอได้ง่ายขึ้น
   6. ยิ่งพูดน้อย ยิ่งต้องแก้ตัวน้อย ไม่มีใครพูดความจริงได้ตลอดเวลาหรอก ดังนั้นยิ่งคุณพูดน้อยเท่าไร คุณก็ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะต้องโกหก หรือเคยโกหกอะไรไปแล้วบ้าง เดี๋ยวเกิดจำไม่ได้ขึ้นล่ะก็ยุ่งตายเลย

ใครที่ชอบพูดมาก พูดอยู่คนเดียวจนลืมฟังคนที่คุณพูดด้วย ระวังนะคะ วันหลัง จะไม่มีใครอยากพูดกับคุณ
103  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ที่มา กำเนิดเดือนทั้ง 12 ( เบา เบา หน่อยนะคะ กับวันหยุด ) เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2011, 03:48:23 pm
ที่มา กำเนิดเดือนทั้ง 12

สิ่งที่ควรนำไปด้วยสำหรับการเดินทางเขา บอกว่า สมัยก่อนเชื่อว่ามี 10 เดือน (โรมัน) แต่พอเอาเข้าจริงๆ ไม่ครบปีก็เลยเติมเดือน เดือนที่ว่า 7 8 9 10 ก็เลยถูกเลื่อนไปเฉยเลย

กำเนิดเดือนทั้ง 12

 เดือนมกราคม (January)
ตั้งตามนามของเอนัส ผู้รักษาประตูแห่งสวรรค์

 เดือนกุมภาพันธ์ (February)
ตั้งตามนามของเทพธิดาเฟบรูเลีย ผู้รักษาเวลาเพื่อพลีกรรมล้างบาป

 เดือนมีนาคม (March)
ตั้งตามนามของเทพเจ้ามาร์ช ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม

 เดือนเมษายน (April)
ตั้งมาจากภาษาลาติน "Aperire" แปลว่า "เปิด" หรือ "ผลิดอกออกผล"

 เดือนพฤษภาคม (May)
ตั้งตามนามเทพธิดาแม่ ซึ่งเป็นเทพธิดาผู้ช่วยให้พืชพรรณไม้ในโลกเจริญเติบโต

 เดือนมิถุนายน (June)
เป็นคำมาจากภาษาลาตินว่า "JuveinsW แปลว่า "หนุ่ม" หรือ "วัยรุ่น"

 เดือนกรกฎาคม (July)
ตั้งเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ จูเลียส ซีซาร์ จักรวรรดิแห่งโรมัน

 เดือนสิงหาคม (August)
ตั้งเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ ออกุสตุส จักรพรรดิองค์แรกของโรมัน

 เดือนกันยายน (September)
ตั้งมาจากภาษาลาตินว่า "Septem" แปลว่า "เจ็ด"

 เดือนตุลาคม (October)
ตั้งมาจากภาษาลาตินว่า "Octo" แปลว่า "แปด"

 เดือนพฤศจิกายน (November)
เป็นคำมาจากภาษาลาตินว่า "Novem" แปลว่า "เปิด" หรือ "ผลิดอกออกผล"

 เดือนธันวาคม (December)
ตั้งมาจากภาษาลาตินว่า "Devem" แปลว่า "สิบ"


Credit :  ดาราเดลี่ด็อดคอม
104  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นวัตกรรม ใหม่ทางด้านคอมพิวเตอร์ การสื่อสาร เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2011, 03:46:46 pm




105  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรม วิสาขบูชา 10-16 พ.ค. 2554 เมื่อ: เมษายน 27, 2011, 11:52:26 am
ปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า  ปรึกษาที่

อ.แปลง  สุวรรณกาญจน์  155  หมู่  1  บ.ไชยวาน  ต.ไชยวาน  อ.ไชยวาน  จ.อุดรธานี  41290  โทร.086-8548018

สถานปฎิบัติธรรมสิริอาริโย (ดงยางเดี่ยว)

ดำเนินรายการโดย

อ.แปลง  สุวรรณกาญจน์

คุณวุฒิ  พ.ม.  กศบ.  นบ.

ประสบการณ์

- ถือศีลปฏิบัติธรรม  44  ปี

- โล่เกียรติยศ  ผู้มีผลงานด้านจริยศึกษา    ดีเด่น  กระทรวงศึกษาธิการ  ปี 2536

- รางวัลเสมาทองคำ  สาขา  การแต่งหนังสือพุทธศาสนาดีเด่น  ปื 2542  ผู้เขียน  ตายแล้วไปไหน  อยู่บ้านนิพพานได้  รู้ทันกรรมนำสุขพ้นทุกข์  อุโบสถศีล  พัฒนาจิต

- วิทยากรบรรยาย  แนวทางปฏิบัติธรรม  อย่างฆราวาส 25 ปี

- ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติธรรมวัดดงยางเดี่ยว  มีกิจกรรมฟังธรรม  รักษาศีลแปด

เดินจงกรม  นั่งสมาธิ  ทุกวันพระ

ขอเชิญร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรม

วิสาขบูชา

10-16 พ.ค. 2554

ที่สถานปฎิบัติธรรมสิริอาริโย (ดงยางเดี่ยว)  (บาตรใหญ่)

บ้านยาง  หมู่  4  ต.หนองหาน

อ.หนองหาน  จ.อุดรธานี  กม.29

ถ.อุดรฯ-สกลฯ  แวะซ้าย  3  กม.

เงื่อนไขการอบรม

1. สมัครใจ

2. ตั้งใจสะสมบุญ

3. ใส่ชุดขาวถือศีลแปด

4. ทานอาหารมื้อเดียว

5. ปฏิบัติตามกิจวัตรประจำวัน

6. เครื่องนอนของกินให้เตรียมมา

เนื้อหาหลักสูตร  7  วัน

วันแรก… ปัญหาชีวิต  รู้จักตน  รู้จักธรรมจึงจักทำชีวิตให้มีสุขได้

วันที่ 2  กิเลสวัฏฏะ  กรรมวัฏฏะ  วิบากวัฏฏะ  กฎแห่งกรรม  วิธีแก้กรรม

วันที่ 3  ภพภูมิอันเป็นที่อยู่ของจิตวิญญาณ  26  ชั้นฟ้า  5  ชั้นดิน

วันที่ 4  ทาน  ศีล  สวรรค์  อาทีนพ  เนกขัมมะ

วันที่ 5  ศีล  สมาธิ  ปัญญา  อานิสงส์เลิศ  ทำได้อย่างไร

วันที่ 6  มหาสติ  มหาปัญญา  พารู้ธรรม  เห็นธรรม  บรรลุมรรคผลนิพพาน

วันที่ 7  อาสวักขยญาณและจิตบริสุทธิ์

ปรัชญาสถาบัน

…หาตนให้เห็น

…บริโภคให้เป็น

…ดำรงตนให้สมควร

…จะมีสุขเป็นนิรันดร์

ภารกิจประจำวัน

04.00-05.00  ตื่นทำความเพียร/ธรรมรับอรุณ  05.00-06.00  ทำวัตรสวดมนต์เช้า

06.00-08.00  กิจส่วนตัว  ทำอาหาร

08.00-10.00  ทานอาหาร  เก็บล้าง  ทำความสะอาด

10.00-12.00  ทำความเพียร/เดินจงกรม

12.00-14.00  พักผ่อนตามอัธยาศัย

14.00-15.00  ดื่มน้ำปานะ  ปานะมัตถ์

15.00-16.00  สนทนาธรรม  ซักถามปัญหา  16.00-18.00  ทำความสะอาดบริเวณอาคารที่พัก  18.00-19.00  เดินจงกรม/นั่งสมาธิ

19.00-20.30  ทำวัตร  สวดมนต์เย็น

20.30-23.00  บรรยายเนื้อหาหลักสูตร

23.00-24.00  เดินจงกรม  นั่งสมาธิ

24.00-04.00  ปฏิบัติตามอัธยาศัย  พักนอน

ปรัชญาชีวิต

โบราณว่า

1.ชีวิต  คือ  การต่อสู้  ศัตรู  คือ   ยากำลัง  สิ่งมุ่งหวัง  คือ  ความสุข
2.ชีวิต  คือ  ความฝัน  สิ่งสำคัญ  คือ  เงินตรา  ยอดปรารถนา  คือ  ความสุข
3.อ.แปลงว่า  ชีวิต  คือ  ความใฝ่ฝัน  (ทะเยอทะยาน)  สิ่งสำคัญ  คือ  การศึกษา  สิ่งแสวงหา  คือ  ความสุข
ข้อความชวนคิด
… ทำจริงจึงได้ผล
… ทุกคนมีโอกาส
… อย่าประมาทนอนใจ
…หาโอกาสให้แก่ตัว
… อย่ามัวเมาจนเกินไป
… ไม่เอาไปสักสิ่งอัน
… สุขเลิศนั้น  คือ  จิตสงบ

http://www.tourwat.com/%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81/
106  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / 23-30 เมษายน 2554 ณ. สวนธรรมสากล เจริญสติแบบเคลื่อนไหว เมื่อ: เมษายน 27, 2011, 11:46:52 am
ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมแนวทางการเจริญสติแบบเคลื่อนไหว (ของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ)

ในวันที่ 23-30 เมษายน 2554 ณ. สวนธรรมสากล ซ.41 ถ.เพชรเกษม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา


อบรมโดย

    หลวงตา สุริยา มหาปัญโญ จากวัดป่าโสมพนัส อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    พระอาจารย์โสภณ ฉันทธัมโม จากสวนธรรมสากล

    ในการอบรมครั้งนี้จะเป็นการปฏิบัติแบบเข้ม ผู้ที่เข้ารับการอบรมต้องงดใช้โทรศัพท์

    และเข้าร่วมปฏิบัติต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วัน สอบถามรายละเอียดได้ที่ 074-255668 ,

    089-2972219 ,088-3910338 หากสนใจให้โทรแจ้งชื่อก่อนวันที่ 20 เมษายนนี้

    เพราะรับจำนวนจำกัดค่ะ



    ตารางในการปฏิบัติธรรม

    04.00 น. สัญญานระฆัง เตรียมตัวทำวัตรเช้า ,สวดมนต์
    04.30 น. ทำวัตรเช้า สวดมนต์ ปฏิบัติธรรมร่วมกัน
    05.40 น. ทำความสะอาดบริเวณศาลาและที่พัก
    07.20 น. ฉันภัตตาหารเช้า
    09.00 น. ปฏิบัติธรรมร่วมกันที่ศาลา
    10.40 น. แยกปฏิบัติกิจส่วนตัว
    11.20 น. ฉันภัตตาหารเพล
    13.00 น. ปฏิบัติธรรมร่วมกันที่ศาลา
    15.00 น. ร่วมกันทำความสะอาดบริเวณศาลาและที่พัก
    17.30 น. ทำวัตรเย็น สวดมนต์และปฏิบัติธรรมที่ศาลา
    20.30 น. แยกปฏิบัติกิจส่วนตัว และพักผ่อน

http://www.watnongmuang.com/board/index.php?showtopic=59&pid=65&mode=threaded&show=&st=&
107  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / การ์ตูนธรรมะ ตอน ฉันจะลุก เมื่อ: เมษายน 02, 2011, 05:40:23 pm
ขอบคุณภาพเนื้อหาจากเว็บ

http://www.cartoondhamma.com/

แล้วไปติดตามต่อนะคะ มาแนะนำคะ

















แล้วทำไมคุณไม่ลุก?

ต่างฝ่ายต่างคิดว่าน่าจะเป็นอีกคนที่ควรลุก

สุดท้ายทุกคนต่างอึกๆอักๆจะลุกแต่ก็ไม่ลุกมองกันไปมองกันมา

เหตุผลที่คุณจะไม่ลุกมีมากมายก่ายกอง

แต่เหตุผลที่จะทำให้คุณลุกได้มีอยู่อย่างเดียวคือ

"ฉันจะลุก"
108  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เพลงบอกต่อ ให้กำลังใจ ฝากเพลงนี้ให้เขาฟัง ช่วยบรรเทาใจที่ทุกข์ เมื่อ: เมษายน 02, 2011, 05:19:58 pm


อยากให้ทุกท่านที่ได้รับความทุกข์อยู่ได้พบความสุขบ้าง

ขอบคุณผู้จัดทำด้วยคะ

 :25:
109  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ุถ้าคุณเก็บสร้อยข้อมูลทองคำหนัก 1 บาทได้จะทำอย่างไร เมื่อ: มีนาคม 22, 2011, 01:46:49 pm
ุถ้าคุณเก็บสร้อยข้อมูลทองคำหนัก 1 บาทได้จะทำอย่างไร

 พวกเราตอนเก็บได้ ความโลภ จะไม่เกิดไม่น่าเป็นไปได้นะคะ เพราะเราเป็นปุถุชน อยู่

 แต่กระนั้น การต่อสู้กับกิเลส ที่เราชนะใจได้นี้น่ายกย่องคะ

  เด็กดี ศรีอุบลราชธานี
เด็กหญิงบุษบงกช วงษ์ทอง
นักเรียนชั้นป.3/4 ซึ่งมีคุณครูวาสนา โลมะรัตน์
คุณครูรัชนีกร สุพรรณโรจน์
เป็นครูประจำชั้น
เก็บสร้อยคอทองคำหนัก 1บาท มูลค่า
ประมาณ 20,000 บาทได้
และนำส่งคืนเจ้าของซึ่งเป็นผู้ปกครอง
นักเรียนโรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี คือ
คุณนริศรา วาจรัต
ทำพิธีมอบส่งคืนบริเวณหน้าเสาธง
วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน 2553
โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียน อภัย บุญสาม  เป็นประธานพิธี



http://www.anubanubon.ac.th/obec/index.php?id_news=43&mod=news_old_full&path=web/news


110  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ไทม์ รวม10ภาพเหตุการณ์ชวนตะลึงปี 2010 เมื่อ: มีนาคม 06, 2011, 10:32:51 am

ไทม์ รวม10ภาพเหตุการณ์ชวนตะลึงปี2010

นิตยสารระดับโลกอย่างไทม์(Time)คัดภาพถ่าย ซึ่งสร้างความสะเทือนใจอย่างสูง จากภาพเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในปี 2010 อาทิ

1.เครื่องในของสัตว์ ถูกแขวนไว้ระเกะระกะ ในเมืองกาดาเบดจี ประเทศไนเจอร์ ภาพถ่ายเมื่อ 27 มิย. 2010




2.พระสงฆ์ชาวทิเบตโยนร่างเด็ก (ที่เสียชีวิตแล้ว) ลงไปในกองฟืนเผาศพ ที่เมือง ยูชู (Yushu) มณฑลชิงไห่ (Qinghai) ของจีน จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริคเตอร์ที่เขย่าบริเวณดังกล่าวใน วันที่ 19 เมย. 2010 และมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,400 คน



3.นักต่อสู้กระทิงชาวสเปน จูลิโอ อพาริซิโอ (Julio Aparicio) ถูกกระทิงขวิดเข้าที่คอ ในการต่อสู้กระทิงในกรุงแมดริด เมื่อ 21พฤษภาคม 2010 เขาของกระทิงเจาะลิ้นของเขาและทะลุเพดานปาก ทำให้ขากรรไกรล่างแตก เขารอดชีวิตได้ ภายหลังการผ่าตัดสองครั้ง ขณะที่กระทิงตัวนี้ ถูกสังหารหลังจากนั้นไม่นาน



4.เด็กในปากีสถาน ซึ่งอพยพจากภัยน้ำท่วมใหญ่ นอนอยู่ในตลาดบริเวณค่ายพัก เมื่อวันที่ 15 สค. 2010 คุณ ซัดจาด (Sajjad)



5.ลาตัวนี้กำลังขนหีบบัตรเลือกตั้งไปยังหมู่บ้านซึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้ ด้วยรถยนต์ ทางเหนือของเมืองคาบูล อัฟกานิสถานเมื่อวันที่ 17 กย. 2010  การเลือกตั้ง มีขึ้นในวันที่ 18 กย. จำนวนผู้มาออกเสียงต่ำกว่าการเลือกตั้งสี่ครั้งก่อนหน้านั้น



6.เกษตรกรกำลังไล่ต้อนฝูงวัวควาย ให้เข้าที่กำบัง เพื่อหลบอันตรายจากเถ้าของภูเขาไฟซึ่งมีอันตราย ภาพถ่ายในฟาร์ม ในนูปูร์ (Nupur) ไอซ์แลนด์ เมื่อ 17 เมย. 2010 ในเดือนเมย. ภูเขาไฟในประเทศนั้นปะทุ และพ่นเถ้าจากภูเขาไฟไปในบริเวณกว้าง ทำให้การคมนามคมทางอากาศต้องหยุดชะงักเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์



7.ปลาตายติดอยู่ในโคลนที่แข็งตัว ที่เมืองลูเหลียง (Luliang ) มณฑลยูนนาน เมื่อ 31 มีค. 2010 ภัยแล้งที่ร้ายแรงที่สุดในรอบศตวรรษของจีน ทำให้พื้นที่เกษตรกว่า 7.75 ล้านเฮคเตอร์เสียหาย ประชากรกว่า 20 ล้านคนขาดแคลนน้ำ



8.โครงกระดูกของเพลิแกนที่ตายไปแล้ว บนหาดทรายที่เปื้อนน้ำมัน บนเกาะแรคคูน รัฐหลุยเซียน่า สหรัฐฯ เมื่อ 21 กค. เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งขยายพันธุ์เพลิแกนซึ่งใหญ่ที่สุด ก่อนเหตุการน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก เกาะแห่งนี้มีเพลิแกนกว่า 60,000 ตัว แต่ภายหลังอุบัติเหตุทางนิเวศน์วิทยาครั้งนั้น เกือบจะไม่เพลิแกนเหลืออยู่เลย




9.เรือดำน้ำความยาว 33 เมตร ซึ่งใช้ในการลักลอบขนโคเคน ลอยอยู่ที่ท่าเรือในป่าดงดิบใกล้พรมแดนของโคลัมเบีย เรือลำดังกล่าว ถูกทางการอิควอดอร์ยึด โดยความช่วยเหลือของหน่วยงานปราบปรามยาเสพย์ติดสหรัฐฯ



10.อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งของฟิลิปปินส์ นางอิเมลดา มาร์คอส จูบโลงศพแก้วของสามีเธอ 26 มีค. 2010 ศพของอดีตประธานาธิบดี เฟอร์ดินันด์ มาร์คอสยังไม่ได้ฝัง หลังจากที่เขาตายลงในปี 1989



ขอบคุณภาพจาก
http://www.fwdder.com/out.php?d=http%3A%2F%2Fnews.sanook.com%2Fgallery%2Fgallery%2F990496%2F196168%2F
111  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทำไม..ต้องนับหนึ่ง เมื่อ: มีนาคม 06, 2011, 10:22:00 am
ทำไม..ต้องนับหนึ่ง
เคยสังเกตไหมว่า เลข 1 มีความมหัศจรรย์แค่ไหน

1 x 1 = 1
11 x 11 = 121
111 x 111 = 12321
1111 x 1111 = 1234321
11111 x 11111 = 123454321
111111 x 111111 = 12345654321
1111111 x 1111111 = 1234567654321
11111111 x 11111111 = 123456787654321
111111111 x 111111111=12345678987654321

ทำไม..เวลาที่เราจะทำอะไร เรามักจะได้ยินว่าการให้สัญญาณอยู่เสมอ..
เป็นอย่างนี้ประจำ เช่น..
กรรมการนับนักมวยที่ถูกน๊อก.. 1 - 2 - 3 - 4
เวลาพูดลองไมค์..โฆษกมักพูดว่า..ฮัลโหล.. 1 - 2 - 3 - 4 ฯลฯ
เวลาที่เราจะนับสิ่งของต่าง ๆ ก็จะเริ่มที่ 1 เสมอ..

คำว่า 1
ถ้าบวก, ลบ, คูณ,หาร..ก็น่าพิศวง
1 x 9 + 2 = 11
12 x 9 + 3 = 111
123 x 9 + 4 = 1111
1234 x 9 + 5 = 11111
12345 x 9 + 6 = 111111
123456 x 9 + 7 = 1111111
1234567 x 9 + 8 = 11111111
12345678 x 9 + 9 = 111111111
123456789 x 9 +10= 1111111111

จึงมีความหมายสำหรับสิ่งที่ดีที่สุด..
เช่น ถูกรางวัลที่ 1 บ้าง..
ชนะเลิศที่ 1 บ้าง...สอบได้ที่ 1 บ้าง..
วิ่งได้ที่ 1 บ้าง..
แล้วแต่ลำดับเหตุการณ์

ดังนั้น..คำว่า หนึ่ง
จึงเป็นบอกว่าของสิ่ง ๆ เดียว ที่โลกยอมรับกัน..
จึงให้ชื่อว่า หนึ่ง

ในทางธรรม คำว่า 1 เดียว..
ก็มีคุณค่ามากเช่นกัน..
ซึ่งสรุปหัวใจของพระพุทธศาสนา
ปัจฉิมโอวาทว่า ความไม่ประมาท นั่นเอง...
ถือว่าเป็นที่หนึ่งไม่มีสอง

ในชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน..
คนที่ไม่ประมาทในชีวิต ในวัย ในการศึกษา
มีสติก่อนทำ..ก่อนพูด..ก่อนคิด..
ก็ชื่อว่า...เป็นหนึ่งเดียวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด..
ที่ไม่เป็นสองรองใคร..

ในอีกแง่มุมหนึ่ง...
การนับหนึ่งก็เป็นการเริ่มต้นใหม่..
กับอดีตที่เคยผิดพลาดมา..
ถือว่า..เป็นบทเรียนที่มีคุณค่าในชีวิตของนักสู้..

หลายต่อหลายครั้ง..
ที่เราเคยท้อแท้..ผิดหวัง..
เคยนับหนึ่งใหม่ไม่รู้กี่ครั้ง..
แต่ทุกครั้งที่เรานับหนึ่ง..นั่นคือ..การเริ่มต้นใหม่..

ในชีวิตของคนเราก็เช่นกัน..
หากในหนึ่งชีวิต..
เราก็ผ่านร้อน..ผ่านหนาว..มามากต่อมาก..
เคยล้มลุก..คลุกคลาน..ไม่รู้กี่หน..

สิ่งสำคัญที่สุด..
ไม่ใช่อยู่ที่ว่า...เคยล้มมากี่ครั้ง...
แต่ที่สำคัญ คือ...
ทุกครั้งที่ล้ม...คุณลุกขึ้นมาใหม่...
แล้วค่อย ๆ ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า...
หรือว่า..ล้มแล้วนอนกลิ้งต่อไป..โดยไม่ยอมลุกขึ้น..

เพราะฉะนั้น..
ประโยชน์ของการนับหนึ่ง..
คือ..ทำให้เรารู้ว่า..
เมื่อมีจุดเริ่มต้น..ก็ต้องมีจุดจบ..
แต่ใครเล่าที่จะสามารถนับ 1 ถึง 10 ถึงร้อย ถึงพัน...
จนถึงหมื่น..แสน..ล้าน...
โดยที่ไม่ต้องย้อนกลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่...

การนับ 1 บนถนนเส้นชัยแห่งชีวิต..
ไม่จำเป็นว่า...
จะต้องนับ 1 ถึง ล้าน ทุกครั้งไป...
แต่การนับ 1 ถึง 10 แล้วค่อย ๆ นับไปอย่างช้า ๆ
และมั่นใจ มุ่งมั่นที่จะก้าวเดินต่อไป..ข้างหน้า...
แม้จะล้มลุก..คลุกคลาน..บ้าง...
ก็ขอให้ล้มตรงจุดนั้น...แล้วลุกขึ้นตรงจุดนั้น...
โดยไม่ต้องเดินย้อนกลับมา...
แล้วนับหนึ่งใหม่...

เพียงแต่ล้มลง ณ จุดใด..
ขอให้มีพลังใจที่เข้มแข็ง..
พยายามดันตัวเองลุกขึ้นมาให้ได้..
จากจุด ๆ นั้น ที่เต็มไปด้วยความท้อแท้..สิ้นหวัง..
ให้กลับกลายเป็นพลัง..ลุกขึ้น..ก้าวเดินต่อไป..อย่างมุ่งมั่นและมั่นใจ
และพยายามก้าวเดินต่อไป..
จนกว่าจะประสบความสำเร็จ...
112  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ถ้าฟังธรรมแล้วอาการเป็นอย่างนี้ ระหว่างฟังธรรม เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 11:58:19 am
ถ้าฟังแล้วหลับ พยากรณ์นิสัยว่า ชาติก่อนเกิดเป็น งู
ถ้าฟังแล้วเขี่ยพื้น ขีดดินไป พยากรณ์นิสัยว่า ชาติก่อนเกิดเป็น ไส้เดือน
ถ้าฟังแล้วชอบคุย พยากรณ์นิสัยว่า ชาติก่อนเกิดเป็น นกแก้ว นกขุนทอง
ถ้าฟังแล้วชอบเขย่าตัว พยากรณ์นิสัยว่า ชาติก่อนเกิดเป็น ลิง
.........

ถ้าฟังแล้วสงบนิ่ง พยากรณ์ชาติก่อนเกิดเป็นมนุษย์ และเคยสั่งสมบารมีปฏิบัติธรรม


ที่มาจาก คำบรรยายธรรม มหาระแบบ ฐิตญาโณ วัดบวรนิเวศน์

113  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ความสุขอยู่ที่ใด เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 11:54:50 am
ความสุขอยู่ที่ใด

> ความสุข เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
> ความสุขไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางที่ไปถึง
>
> คุณบอกกับตัวเองว่า เมื่อได้แต่งงาน และมีลูก ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้น
> แต่เมื่อมีลูก และลูกของคุณยังเล็กอยู่ คุณก็เกิดความรู้สึกว่า
> เมื่อเขาโตขึ้นเราคงมีความสุขและสบายขึ้น
>
> แต่เมื่อลูกโตมากขึ้น จนย่างเข้าสู่วัยรุ่น
> คุณกลับรู้สึกไม่ได้ดั่งใจอีกครั้ง
> และเมื่อลูกๆ ผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นไปได้
> คุณคิดว่า คุณจะมีความสุขมากขึ้น
> แต่คุณกลับบอกกับตัวเองอีกว่า จะรอให้ลูกๆ
> จัดการกับตัวของเค้าเองให้เรียบร้อยดีเสียก่อน
>
> บางครั้งคุณคิดว่า ถ้าคุณมีบ้าน มีรถ มีวันหยุดพักร้อนนานๆ
> และเมื่อถึงวันเกษียณอายุการทำงาน
> ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากที่สุด
> แต่เมื่อเกษียนแล้วก็จริง แต่ทำไมถึงยังไม่มีความสุขสักที
>
> ความสุขของชีวิตอยู่ที่ไหนกัน ?
> แท้จริงแล้ว ความสุขของชีวิต อยู่ ณ ช่วงเวลาขณะนี้ ช่วงเวลาปัจจุบัน
> ไม่ต้องรอให้ความสุขมาหาเราในอนาคต
> เราควรมีความสุข และพึงพอใจกับความสุขอยู่ในปัจจุบัน
>
> ชีวิตของมนุษย์ทุกคน ต้องมีสิ่งท้าทายเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทั้งอุปสรรคต่างๆ
> หรือบททดสอบชีวิตอันยากเข็ญ
> แต่ในที่สุดเราก็จะต้องก้าวผ่านไป อุปสรรคกับชีวิตเป็นของคู่กัน
> ดังนั้น เป็นหน้าที่ของเรา
> ที่ต้องหาความสุขและความพึงพอใจจากการเดินทางบนถนนแห่งชีวิตนี้ซึ่งจะทำให้ ชีวิตมีความสุข
> มากกว่าที่จะรอให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อน
> แล้วถึงจะมีความสุขได้
>
> เริ่มหยุดพูดกับตัวเองเสียทีว่า
> ถ้าฉันลดน้ำหนักได้สัก 5 กิโล ฉันถึงจะมีความสุข
> ถ้าฉันได้แต่งงาน ฉันถึงจะมีความสุข
> ถ้าผมมีเงินเก็บ 10 ล้าน ผมถึงจะมีความสุข
> ถ้าผมรวย ผมถึงจะมีความสุข
> ถ้าคุณหยุดพูดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ ชีวิตของคุณก็จะมีความสุข
> และคุณจะรู้สึกพึงพอใจกับชีวิต
>
> ตอบคำถาม ต่อไปนี้
> 1. บอกชื่อคน 3 คน ที่รวยที่สุดในโลก
> 2. บอกชื่อนางงามจักรวาล 3 คนล่าสุด
> 3. บอกชื่อ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล 3 คนล่าสุด
> 4. บอกชื่อนักแสดงนำชาย 3 คนล่าสุด ที่ได้รับรางวัลออสการ์
>
> นึกไม่ออกใช่ไหม? ไม่ใช่เรื่องแปลก
> ไม่มีใครหรอกที่จะจดจำคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด
> คนที่ได้รับการยกย่องสรรเสริญ ก็ล้วนล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา
> รางวัลต่างๆ เมื่อวางไว้นาน ก็จะถูกฝุ่นจับ แม้แต่ผู้ชนะก็จะถูกลืมในไม่ช้า
>
> ตอบคำถาม ต่อไปนี้
> 1. บอกชื่ออาจารย์ 3 ท่านที่เคยช่วยเหลือคุณในเรื่องการเรียน
> 2. บอกชื่อเพื่อน 3 คนที่ช่วยเหลือคุณในยามที่คุณต้องการ
> 3. นึกถึงคน 3 คนที่ทำให้คุณรู้สึกว่า คุณได้เป็นคนพิเศษ
> 4. บอกชื่อคน 3 คนที่คุณอยากใช้เวลาด้วย
>
> นึกออกง่ายกว่าใช่ไหม? นั่นเป็นเพราะว่า
> คนที่มีความหมายต่อชีวิตคุณ
> ไม่ได้เป็นคนที่ต้องเป็นที่สุด
> ไม่ได้มีเงินมากที่สุด ไม่ต้องได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
> เพราะยังมีคนใกล้ตัวคุณอีกหลายคน
> ที่ห่วงใยคุณ คอยให้การดูแลคุณ
> และเวลาที่มีอะไรเกิดขึ้น ก็จะคอยอยู่เคียงข้างคุณ
>
> ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะมีความสุข
> มากกว่าช่วงเวลา ณ ปัจจุบันนี้..
> ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับช่วงเวลาปัจจุบัน
>
> สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่ กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้
>
> ๑. อย่าเปรียบเทียบ ชีวิตของตัว เองกับคนอื่น
> คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขา มีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
> ๒. อย่าคิดทางลบ เกี่ยวกับ เรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้
> แทนที่จะมองโลก ในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิด ทางบวก ณ
> ปัจจุบันเสีย
> ๓. อย่าทำอะไร เกินกว่าที่ตัวเองทำได้ ...รู้ว่ าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
> ๔..อย่าเอา จริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขา
> ไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
> ๕. อย่า เสียเวลา และพลังงานอันมีค่าของคุณ กับ เรื่องหยุมหยิม
> หรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
> ๖. จงฝันตอนตื่น มากกว่าตอน หลับ
> ๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่าๆปลี้ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่า คุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว
> ๘. ลืมเรื่อง ขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามี
> หรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
> ๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร... จงอย่าเกลียดคนอื่น
> ๑๐.ประกาศ สงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
> ๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
> ๑๒.จงเข้าใจเสียว่า ชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียน รู้ และ ปัญหาเป็น
> เพียง ส่วนหนึ่งของหลักสูตร ซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
> ๑๓. จง ยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
> ๑๔. คุณ ไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถก เถียงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกันได้...เห็นพ้อง ที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร
>
> แล้ว เราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้าง เราล่ะ?
>
> ๑. อย่าลืมโทรฯหาคนที่คุณรักและรักคุณบ่อย ๆ
> ๒. จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
> ๓. จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
> ๔. จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6ขวบ
> ๕. พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
> ๖. คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่ เรื่องของคุณสัก หน่อย
> ๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็น อันขาด และ
> ถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้ , ก็ควรจะทำ ดังต่อไปนี้
> ๑. ทำสิ่งที่ควรทำ
> ๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์, ไม่สวย, ไม่น่ารื่นรมย์,จงทิ้งไปเสีย...เก็บไว้ทำไม ?
> ๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผล ทุกอย่างได้
> ๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด, เดี๋ยว มันก็เปลี่ยน
> ๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุก จากเตียง,แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย... get up, dress up and show up.
> ๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
> ๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้, อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
> ๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุขเสมอ...ดังนั้น, ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า

ขอบคุณคนที่ส่งต่อเรื่องดีๆแบบนี้มาให้คะ
114  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / นำ้ของเซ่นเจ้า ใส่บาตร ได้บุญ หรือ ได้บาป คะ เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 02:03:21 pm
ทุกปีเมื่อถึงเทศกาล ตรุษจีน ที่บ้านก็จะทำเครื่องเซ่นเจ้า บรรพบุรุษ ไม่ว่าขนมเข่ง หัวหมู ผลไม้

จำนวนมาก ทั้งแจกลูกหลาน ไปทานกัน บางส่วนเราเห็นว่ามีจำนวนมาก ก็เลยนำมาทำบุญใส่บาตร

การที่เรานำของเซ่นเจ้า บรรพบุรุษ มาใส่บาตรนี้ จัดเป็นบุญหรือเป็นบาปคะ

โปรดให้คำแนะนำด้วยนะคะ เพราะสงสัยมาสองปีแล้ว ไม่มีหลักฐานให้คุณพ่อ คุณแม่ เรื่องนี้สักครั้ง

รบกวนทุกท่านช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยนะคะ

 :c017:
115  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / คุณคือต้นไม้ชนิดไหน ??? ... แม่นมากๆ ... ^^ ( คลายอารมณ์สไตล์ธรรมคะ ) เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 03:15:09 pm
คุณคือต้นไม้ชนิดไหน ??? ... แม่นมากๆ ... ^^
 
ต้นไม้ที่เรารู้จักก็สามารถนำมาทำนายลักษณะนิสัยของคุณได้เหมือนกันโดยดูจาก วันเกิดของคุณและนำมาเทียบกับชื่อต้นไม้ของเราคุณจะมีลักษณะนิสัยเป็นอย่าง ไรนะ ?

สำหรับผู้ที่เกิดในช่วงระหว่างวันต่างๆ ดังนี้

คุณคือต้นไม้ชนิดไหน??? ... แม่นมากๆ ... ^^
 
ต้นไม้ที่เรารู้จักก็สามารถนำมาทำนายลักษณะนิสัยของคุณได้เหมือนกันโดยดูจาก วันเกิดของคุณและนำมาเทียบกับชื่อต้นไม้ของเราคุณจะมีลักษณะนิสัยเป็นอย่าง ไรนะ ?

 
สำหรับผู้ที่เกิดในช่วงระหว่างวันต่างๆ ดังนี้ ...

 
23 Dec - 1 Jan ........................ APPLE TREE
2 - 11 Jan ............................... FIR TREE
12 - 24 Jan ............................. ELM TREE
25 Jan - 3 Feb ......................... CYPRESS TREE
4 - 8 Feb ................................ POPLAR TREE
9 - 18 Feb .............................. CEDAR TREE
19 - 28 Feb ............................ PINE TREE
1 - 10 Mar ............................. WEEPING WILLOW TREE
11 - 20 Mar ........................... LIME TREE
21 Mar ................................. OAK TREE
22 - 31 Mar .......................... HAZELNUT TREE
1 - 10 Apr ............................ ROWAN TREE
11 - 20 Apr .......................... MAPLE TREE
21 - 30 Apr .......................... WALNUT TREE
1 - 14 May ............................ POPLAR TREE
15 - 24 May ......................... CHESTNUT TREE
25 May - 3 Jun ..................... ASH TREE
4 - 13 Jun ............................ HORNBEAM TREE
14 - 23 Jun ................ ........ FIG TREE
24 Jun ................................. BIRCH TREE
25 Jun - 4 Jul ....................... APPLE TREE
5 - 14 Jul ............................ FIR TREE
15 - 25 Jul .......................... ELM TREE
26 Jul - 4 Aug ..................... CYPRESS TREE
5 - 13 Aug ......................... POPLAR TREE
14 - 23 Aug ....................... CEDAR TREE
24 Aug - 2 Sep ................... PINE TREE
3 - 12 Sep ..........................WEEPING WILLOW TREE
13 - 22 Sep ........................ LIME TREE
23 Sep ............................... OLIVE TREE
24 Sep - 3 Oct ..................... HAZELNUT TREE
4 - 13 Oct ........................... ROWAN TREE
14 - 23 Oct ......................... MAPLE ! TREE
24 Oct - 11 Nov ................... WALNUT TREE
12 - 21 Nov ......................... CHESTNUT TREE
22 Nov - 1 Dec ..................... ASH TREE
2 - 11 Dec ............................ HORNBEAM TREE
12 - 21 Dec .......................... FIG TREE
22 Dec ................................. BEECH TREE

 
 

เฉลย
APPLE TREE ก็เหมือนๆ กับต้นแอปเปิลนั่นแหละ สวยงาม เต็มไปด้วยเสน่ห์ ดึงดูด เฟิร์ทสุดๆชอบผจญภัย ค่อนข้าง อ่อนไหว เลยตกหลุมรักอยู่บ่อยๆ ชอบรักและให้คนอื่นรักถ้าเป็นคนรักก็จะเป็นประเภทอบอุ่น มีเมตตา มี ความสามารถพิเศษและเต็มไปด้วยจินตนาการ

FIR TREE - The Mysterious
เป็น คนที่มีรสนิยมแบบไม่ธรรมดา รักศักดิ์ศรี ชอบฝันกลางอากาศ ชอบสิ่งสวยงามขี้หงุดหงิดและดื้อรั้นอีก ต่างหาก ออกจะเป็นคนเชื่อในตัวเองมากจะใส่ใจกับคนที่ใกล้ตัวมากเท่านั้น ถ้าเป็นคนรักก็จะเป็น ประเภทไม่เคยพอมีคนรักและศัตรูเยอะพอกัน

ELM TREE - The Noble-Mindedness เป็นคนที่มีรูปร่างสวยงาม รสนิยมการแต่งกายดีเยี่ยมไม่ค่อยจะให้อภัยใครซักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นคนที่ร่าเริง สนุกสนานชอบเป็นผู้นำ ไม่ชอบตาม ถ้าเป็นคู่รัก จะเป็นคู่รักที่ซื่อสัตย์เป็นคนที่มีความคิดทัศนคติที่กว้างไกล สามารถตัดสินใจแทนคนอื่นได้เป็นคนที่มีอารมณ์ขัน และอยู่ในโลกของความจริง

CYPRESS TREE - The Faithfulness เป็นคนที่มีความแข็งแกร่ง ปรับตัวเก่ง รับความเป็นจริงของโลกได้ มองโลกในแง่ดีและต้องการเงินที่จะพาตัวเองไปสู่ความรู้ ไม่ชอบความโดดเดี่ยวอ้างว้างเป็นคู่รักที่มีความต้องการโน่นต้องก ารนี่อยู่ตลอดเวลาไม่เคยพอแต่ก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์ไว้ใจได้
 
POPLAR TREE - The Uncertainty
ดู เป็นคนที่ชอบการตกแต่ง ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองจะมีแรงกำลังใจก็ต่อเมื่อจำเป็นต้องสร้างให้มี จริงๆเป็นคนที่ต้องการความตั้งใจและตั้งมั่นเป็นอย่างมาก ชอบอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม ช่างเลือกเลยมักจะโดดเดี่ยว มีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะออกไปในทางปรัชญา เป็นคนที่ไว้ใจได้และเป็นคู่รักที่ค่อนข้างเอาจริงเอาจังในเรื่องการใช้ ชีวิตคู่

CEDAR TREE - The Confidence
จะ เป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาไม่ค่อยสวย แต่รู้วิธีปรับตัว ชอบความหรูหราสุขภาพพลานามัยดี ( ข้อทดแทนที่คุ้มค่ากับความไม่สวย) ไม่ค่อยจะมีอาการอายกระมิดกระเมี้ยน มั่นใจในตัวเอง มุ่งมั่น แต่กลับไม่ค่อยอดทนมีความสามารถพิเศษเยอะ รอคอยรักแท้ และเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรได้รวดเร็ว

PINE TREE - The Particularity เป็นคนที่ยอมอะไรได้ง่ายๆ แต่ก็รู้จักวิธีที่จะทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับใครได้ง่ายๆแต่กลับตกหลุมรักง่ายและเลิง่ายด้วย ( แปลกนะ ?)

WEEPING WILLOW TREE - The Melancholy เป็นคนที่สวยงามแต่เต็มไปด้วยความเศร้า ดึงดูดเพศตรงข้าม มีจิตใจเมตตาชอบทุกสิ่งที่สวยงามและมีรสนิยม ชอบการเดินทาง ช่างฝัน ซื่อสัตย์ดูเหมือนจะโดนรอบได้ง่าย แต่กลับยากที่จะมีชีวิตร่วมกับคนอื่นเป็นคนที่มีความตั้งมั่น มักจะเจ็บปวดทรมานเพราะความรักแต่บางครั้งก็มีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์ได้ถ้า เนื้อคู่มี ลักษณะความเป็นผู้นำ
 
LIME TREE - The Doubt เป็นคนที่ยอมรับความเป็นไปในชีวิต ไม่ค่อยชอบการต่อสู้แข่งขันไม่ชอบการเป็นลูกจ้าง ออกจะเป็นคนที่ขี้เกียจ บอบบางแต่เสียสละเพื่อเพื่อนได้ มีพรสวรรค์และความสามารถเยอะแต่ไม่ดึงออกมาใช้ชอบบ่นเมื่อไม่ได้ดั่งใจ ขี้อิจฉา แต่ก็จงรักภักดี
 
HAZELNUT TREE - The Extraordinary เป็นคนที่มีเสน่ห์ เข้าอกเข้าใจคนอื่น รู้วิธีการที่จะสร้างความประทับใจกระตือรือร้นที่จะสร้างสรรค์ประโยชน์ให้ กับสังคม เป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นแต่ขี้หงุดหงิด เป็นคนรักที่ซื่อสัตย์ มั่นคงและเที่ยงตรงในการตัดสิน

ROWAN TREE - The Sensitivity
เป็น คนที่เต ? มไปด้วยเสน่ห์ ร่าเริง มีพรสวรรค์ ไม่เป็นคนที่หลงตัวเองแต่ชอบเรียกร้องความสนใจ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เป็นคนที่ต้องพึ่งพาคนอื่นแต่ขณะเดียวกันก็อยากเป็นอิสระ มีรสนิยม มีความสามารถทางศิลปะเป็นเพื่อนที่ดี แต่มักไม่ให้อภัยใครง่ายๆ

MAPLE TREE - Independence of mind เป็นคนที่ไม่ธรรมดาเลย เต็มไปด้วยจินตนาการ ขี้อาย เก็บตัว แต่ทะเยอทะยานหยิ่ง ชอบมี ประสบการณ์แปลกใหม่ แต่บางครั้งเป็นที่ประหม่า ซับซ้อนมีความทรงจำดีเรียนรู้อะไรได้ง่ายมีชีวิตรักที่ซับซ้อนและชอบสร้าง ความประทับใจ

WALNUT TREE - The Passion
เป็น คนที่มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความตรงกันข้าม เป็นคนที่หลงตัวเอง ก้าวร้าวไม่เห็นแก่ตัว มีการตอบโต้ที่คาดไม่ถึง มีความทะเยอทะยานไม่มีที่สิ้นสุดโอนอ่อนบ้างในบางครั้ง ขี้อิจฉา ไม่ค่อยอะลุ้มอล่วยอะไรง่าย เป็นจอมวางแผนอัจฉริยะ

CHESTNUT TREE - The Honesty
เป็น คนที่สวยแปลกๆ ( สวยแบบไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร)เป็นคนที่ไม่คิดจะสร้างจุดสนใจให้กับ ใคร มีความยุติธรรมเกิดมาเป็นนักการทูต เจรจาพาทีเก่าง แต่เป็นคนขี้โมโหและอ่อนไหวไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในตัวเอง หาคู่แท้ยากมาก

ASH TREE - The Ambition เป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูด มีชีวิตชีวา ทำอะไรตามอารมณ์ ไม่ค่อยสนใจกับคำวิจารณ์ทะเยอทะยาน ฉลาดเต็มไปด้วยความสามารถ เชื่อใจได้เป็นคนรักที่ค่อนข้างระมัดระวัง ใช้สมองมากกว่าหัวใจในการจัดการกับความรักแต่ก็ค่อนข้างเอาจริงเอาจังกับการ ใช้ชีวิตคู่
 
HORNBEAM TREE - The good taste เก๋ไก๋ มีเสน่ห์ มีรสนิยม ชอบความสะดวกสบายในชีวิตมีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต ขณะเดียวกันอารมณ์ ก็ขึ้นๆ ลงๆชอบฝันถึงการมีคนรักแบบประหลาด เลยไม่ค่อยจะแฮปปี้ในชีวิตคู่ไม่ค่อยไว้ใจคนอื่น และไม่ค่อยกล้าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง
 
FIG TREE - The Sensibility เป็นคนเข้มแข็ง มีความตั้งมั่น ไม่ขึ้นกับใคร ไม่ชอบให้ใครต่อต้านเป็นคนรักครอบครัว รักเด็กและสัตว์เลี้ยง มีอารมณ์ขันมีความสามารพิเศษและฉลาด

OAK TREE - Robust nature เป็นคนกล้าหาญ เข้าแข็ง รุนแรง ไม่ขึ้นกับใคร ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ปักหลักในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าใช่และเป็นนักปฏิบัติ

BIRCH TREE - The Inspiration เป็นคนมีชีวิตชีวา ดึงดูดเพศตรงข้าม เป็นมิตร ไม่เสแสร้ง อ่อนน้อมถ่อมตนไม่ชอบทำอะไรที่เกินตัวชอบชีวิตตามธรรมชาติ รักความสงบไม่ค่อยมีอารมณ์รุนแรง ความทะเยอทะยานก็ไม่ค่อยมี เต็มไปด้วยจินตนาการ

OLIVE TREE - The Wiadom เป็นคนอบอุ่น มีเมตตา เป็นคนมีเหตุมีผล มีความอดทนสูง ร่าเริง รักสงบเป็นคนยุติธรรม ขี้สงสาร ไม่ขี้อิจฉา รักการอ่านและเป็นเพื่อนของคนที่มีบุคลิกซับซ้อน

BEECH TREE - The Creative เป็นคนมีรสนิยมดี มักจะเป็นพะวงเรื่องการแต่งกายและวัตถุนิยมมีพื้นฐานชีวิตและอาชีพที่ดี มัธยัสถ์ เป็นผู้นำที่ดีมีช่วงเวลาที่วิเศษสุขในชีวิตเสมอ และยังคงความฟิตของร่างกายตลอดเวลา
116  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สุดยอด นักปลอม ตัวฉกาจ เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 03:09:04 pm

























117  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ปรัชญา คู่รัก คู่ขา คู่แต่ง เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 03:03:47 pm
คู่รัก : คอยคุณที่หน้าอำเภอ(แต่ง)
คู่ขา : คอยคุณที่หน้าโรงแรม
คู่แต่ง : คอยคุณที่หน้าอำเภอ(หย่า)
 
คู่รัก : นัดเจอกันในงานเลี้ยง
คู่ขา : นัดเจอกันหลังงานเลี้ยง
คู่แต่ง : เธออยู่บ้าน ฉันจะไปงานเลี้ยง
 
คู่รัก : เปิดหนังโรแมนติก ร้องไห้ด้วยกันตอนจบ
คู่ขา : เปิดหนังเอ๊กซ์ ดูด้วยกันไม่ทันจบ
คู่แต่ง : ซื้อทีวีรุ่นจอเดียว แยกได้สองช่อง
 
คู่รัก : ไม่พยายามคิดเรื่องทะเลาะกัน
คู่ขา : ไม่พยายามคิดเรื่องเป็นคู่กัน
คู่แต่ง : พยายามคิดเรื่องเป็นโสด
 
คู่รัก : สนใจทุกเรื่องร่วมกัน
คู่ขา : สนใจเรื่องเดียวเหมือนกัน
คู่แต่ง : สนใจเงินในบัญชีธนาคารร่วมกัน
 
คู่รัก : โลกนี้เป็นของเราสองคน
คู่ขา : เรื่องนี้รู้แค่เราสองคน
คู่แต่ง : เรื่องทั้งโลกกลาย เป็นเรื่องระหว่างเราสองคนได้ทั้งนั้น รวมทั้งเรื่องของพ่อตาแม่ยาย และญาติสนิทมิตรสหาย
 
คู่รัก : โทรศัพท์ถึงคุณเพื่อบอกว่า "รักเธอเหลือเกิน"
คู่ขา : เซ็กซ์โฟน
คู่แต่ง : โทรศัพท์มาเพื่อบอกว่า "กลับดึก ไม่ต้องคอย"
 
คู่รัก : ทุกครั้งที่เขียนใส่สมุดบันทึก คือ บทกวีหวานกลั่นจากหัวใจ
คู่ขา : ทุกครั้งที่เขียนใส่สมุดบันทึก คือ หมายเลขโทรศัพท์คู่ขาคนใหม่
คู่แต่ง : ทุกครั้งที่เขียน คือ เช็คส่วนบุคคล และบันทึกค่าใช้จ่าย
 
คู่รัก : ตาสบกันริมถนน
คู่ขา : ลิ้นพันกันบนโซฟา
คู่แต่ง : หลังชนกันบนเตียง
 
คู่รัก : แสดงความอาทรให้เขาสังเกต
คู่ขา : แสดงอาการเมื่อโดนสะกิด
คู่แต่ง : แสดงอารมณ์โดยไม่สะกด
 
คู่รัก : กล่าวคำอำลาว่า "รักเธอ"
คู่ขา : กล่าวคำอำลาว่า "อย่าลืมกินยาคุม"
คู่แต่ง : กล่าวคำอำลาว่า "ซักผ้าด้วย"
 
คู่รัก : เรียกคุณว่า ที่รักด้วยเสียงอ่อนหวาน
คู่ขา : เรียกคุณว่า ที่รักด้วยเสียงกระเส่า
คู่แต่ง : เรียกคุณว่า ที่รัก ชงกาแฟแก้ว
 
คู่รัก : สนใจขนาดนิ้วสวมแหวน
คู่ขา : สนใจขนาดยกทรง
คู่แต่ง : สนใจรอยลิปสติกที่ปกเสื้อ
 
คู่รัก : เมื่อคุณเล่าเรื่องตลก เขาตั้งใจฟัง และขำกลิ้ง
คู่ขา : เมื่อคุณเล่าเรื่องตลก เขาบอกว่าหยุดเถอะ วันนี้ต้องทำเวลา
คู่แต่ง : เมื่อคุณเล่าเรื่องตลก เขาให้คุณช่วยอธิบายอีกห้านาที พยักหน้าเข้าใจ และก้มหน้าอ่าน หนังสือพิมพ์ต่อ
 
คู่รัก : เมื่อคุณอยากทำอะไรสักอย่างทาน เธอจะเข้ามาช่วยคุณอย่างกุลีกุจอ
คู่ขา : เมื่อคุณอยากทำอะไรสักอย่างทาน เธอจะเข้ามาทำอะไรสักอย่าง จนคุณไม่อยากจะทำอาหารต่อ
คู่แต่ง : เมื่อคุณอยากทำอะไรสักอย่างทาน เธอจะขอให้คุณเผื่อเธออีกจาน
118  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / โฉมหน้าผู้บริจาค ช่วยเหลือผู้ประสพภัยแผ่นดินไหว ในจีน เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 03:01:44 pm




119  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / สามเณรที่ได้รับการบวช โดยพระพุทธเจ้า เทียบเท่ากับพระ ทายัชชอุปสัมปทา เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 12:34:12 pm
ในประวัติพระทัพพมัลลบุตรเถระ
ข้อความหนึ่งว่า
      "พระพุทธองค์จึงทรงบวชให้ด้วยการยกท่านจากการเป็นสามเณรขึ้นเป็นพระภิกษุในวันนั้น ด้วย
      พระดำรัสว่า “อชฺชโต ปฏฺฐาย ภิกฺขุ โหหิ” ซึ่งแปลว่า เธอจงเป็นภิกษุตั้งแต่วันนี้ไป การบวช
      ด้วยวิธีนี้เรียกว่า “ทายัชชอุปสัมปทา” แปลว่า การรับเข้าหมู่โดยความเป็นทายาท ทั้งนี้เพราะ
      พระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็นว่า ท่านมีคุณสมบัติสมควรที่จะเป็นพระภิกษุเพราะเป็น
      พระอรหันต์ และปฏิบัติหน้าที่เทียบเท่าพระ (ในพระพุทธศาสนามีสามเณรที่ได้รับการบวชด้วย
      วิธีนี้ ๓ รูป คือ สามเณรสุมนะ, สามเณรโสปากะ และสามเณรทัพพะ)"


120  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 5 เรื่องแสนธรรมดาที่ห้ามทำเด็ดขาด เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 02:47:14 pm
5 เรื่องแสนธรรมดาที่ห้ามทำเด็ดขาด
เรื่องธรรมดา ในชีวิตประจำวัน ที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพของเรา ห้ามทำเด็ดขาด


1. การใช้แปรงสีฟันร่วมกัน

ตอน เช้าตื่นมากิจวัตรที่ต้องทำคือการแปลงฟัน แต่ถ้าหากคุณไปนอนบ้านคนอื่น หุหุ คนจะรู้ไหมว่าในแปลงสีฟันเขามีเชื่อโรคมากน้อยแค่ไหน การใช้แปรงสีฟันร่วมกันนั้นจะทำให้แบคทีเรียในช่องปากที่สะสมนั้น มีมากขึ้นในแปรงสีฟัน หากใช้ร่วมกันนานๆ อาจทำให้ติดโรคภายในช่องปาก หรือโรคติดเชื้อจากแผลในช่องปากด้วย หากวันใดคนที่เราใช้แปรงร่วมด้วยไม่มีแปรงสีฟันจริงๆ ให้เขาใช้น้ำยาบ้วนปากแทน เพราะน้ำยาบ้วนปาก จะช่วยยับยั้งการก่อตัวของเชื้อแบคทีเรีย และทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นอีกด้วย

2. ใช้เครื่องเป่ามือในห้องน้ำสาธารณะ

เวลา ไปห้างสรรพสินค้าจะมีเครื่องเป่ามือให้แห้งผมเห็นแล้วช่างดัดจริตตาเสียนี้ กระไร ไม่รุ้คนที่มาเป่านี้ดัดจิตจริงๆ ที่ว่าแบบนี้เพราะว่า เครื่องเป่ามือเนียมันไม่เห้นจะมีความจำเป็นอะไร ที่บ้านของคุณผมก็เชื่อว่าไม่มี แต่เวลาไปห้างเนียของเป่าไว้ก่อน ดูเทห์หรอืไงไม่ทราบ แล้วคุรรู้หรือไม่ว่า การที่เป่ามือด้วยเครื่องอะ ท่อส่งอากาศที่ถูกเป่าออกมานั้น เต็มไปด้วยจุลินทรีย์ที่กำลังแพร่ขยายพันธุ์อยู่ ผลที่ได้คือ มือของคุณจะปราศจากแบคทีเรีย แต่จะอุดมไปด้วยเชื้อโรคมากกว่าตอนก่อนล้างมือเสียอีก ดังนั้น ควรซับมือด้วยกระดาษชำระ หรือผ้าเช็ดมือแบบใช้ครั้ง เดียวเท่านั้น

3. การนั่งบนชักโครกสาธารณะ

เวลา ปวดท้องเข้าห้องน้ำไม่เคยปราณีใคร นึกมันจะปวดก็จะปวดขึ้นมากระทันหัน ห้องน้ำสาธารณะก็ถือว่าเป็นสรวงสวรรค์ดีๆ นี้เองของคนอยกาถ่าย555 สำหรับ หลายๆ คนหนุ่มๆ (เกย์เก้) สาวๆ นั่งที่ปัสสาวะหรือถ่ายทุกข์แบบหนัก ไม่ว่าจะน้ำปัสสาวะหรือของเสียอื่นๆ ก็อาจจะมีบางส่วนที่กระเด็นมาสะสมกันอยู่ที่บริเวณโถรองนั่งของชักโครก จนเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคขนาดมหึมา ฉะนั้นถ้าหากท่านชายหรือท่านหญิงเกิดจะนั่งถ่าย ก็ควรจะเอาเช็คชูสะอาดๆ มารองไว้บนโถรองนั่งก่อนปลดทุกข์ทุกครั้ง รับรองว่าวิธีการนี้ผมใช้มาทุกครั้ง และเคล็ดลับของผมอีกอย่างจะเอาพกขวดน้ำเอ่ไว้เพื่อล้างให้สะอาดอีกด้วย

4. การกลั้นจาม

คุณรู้ไหมว่าอัตราความเร็วในการจามแต่ละครั้งนั้นสูงถึง 160 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงทีเดียว ดังนั้น การยื้อหรือกลั้นไม่ให้จามนั้นจะก่อให้เกิดแรงอัดอากาศภายใน อาจส่งผลทำให้เยื่อแก้วหูแตกหรือเป็นรูได้

5. กินยาแก้ปวดทุกครั้งที่ปวดศีรษะ

การ รับประทานยาแก้ปวดหัวบ่อยๆ และเป็นเวลานานจะมีผลทำให้ตัวยาสะสม และอาจกัดจนเป็นแผลในช่องท้อง หรือมีผลให้ตับทำงานหนักจนเกิดผลเสียกับตับได้ หนทางแก้ไขก็คือ เมื่อมีอาการปวดศีรษะ ให้พยายามดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือถ้าปวดศีรษะ เนื่องจากนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ก็ให้พักสายตาชั่วโมงละ 5 นาที ช่วงทานข้าวกลางวันก็ออกไปเดินเล่นเสียหน่อย เพื่อเป็นการพักผ่อนสายตาไปในตัว
หน้า: 1 2 [3] 4