ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระพุทธเจ้า มี พุทธมารดา 2 องค์  (อ่าน 7786 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

เสกสรรค์

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 419
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
พระพุทธเจ้า มี พุทธมารดา 2 องค์
« เมื่อ: ตุลาคม 30, 2012, 07:00:12 am »
0

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.bloggang.com

องค์ที่ 1 คือ พระนางสิริมหามายา พระพุทธเจ้า ได้เสด็จตามไปโปรดในพรรษา 1 ที่ชั้นดาวดึงส์

    พระนางสิริมหามายา มีพระนามเต็มว่า พระนางสิริมหามายา ศากยราชเทวี เป็นพุทธมารดาในพระพุทธเจ้า (พระโคตมพุทธเจ้า) ผู้มีบุญญาธิการเป็นพระศาสดาเอกของโลก เป็นพระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ กษัตริย์ผู้ครองกรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ และเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าอัญชนาธิปราช กษัตริย์ราชสกุลโกลิยวงศ์แห่งกรุงเทวทหะ แคว้นโกลิยะ

หลังจากพระนางสิริมหามายา อภิเษกสมรสกับพระเจ้าสุทโธทนะ ไม่นาน วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ในคืนนั้นพระนางสิริมหามายากำลังบรรทมหลับสนิท ทรงสุบินว่าพระนางไปอยู่ในป่าหิมพานต์ มีช้างเชือกหนึ่งลงมาจากยอดเขาสูงเข้ามาหาพระนาง นำดอกบัวมาให้ เมื่อพระนางรับดอกบัวไว้แล้วก็ตื่นขึ้น ภายหลังโหราจารย์ประจำราชสำนักทำนายว่าเป็นสุบินนิมิตที่ดี จะมีพระราชโอรสผู้ประเสริฐอุบัติบังเกิด

เมื่อใกล้กำหนดพระประสูติกาลที่กรุงเทวทหะ เมืองต้นตระกูลพระนาง ตามธรรมเนียมประเพณีพราหมณ์พระนางจะต้องเดินทางกลับ ในระหว่างเดินทาง ระหว่างกรุงกบิลพัศด์กับกรุงเทวทหะ บริเวณที่เรียกว่า “สวนลุมพินีวัน” พระนางได้หยุดพักพระอิริยาบถ (ปัจจุบันคือตำบล “รุมมินเด แขวงเปชวาร์” ประเทศเนปาล) โดยประทับยืนพระหัตถ์ขึ้นเหนี่ยวกิ่งสาละ จนรู้สึกประชวรพระครรภ์ และได้ประสูติพระสิทธัตถะกุมาร เมื่อวันศุกร์ เพ็ญเดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี

ภายหลังประสูติพระโอรสได้ 7 วัน พระนางสิริมหามายาสิ้นพระชนม์ พระโอรสจึงอยู่ในความดูแลของพระนางปชาบดีโคตมี พระกนิษฐาของพระนางสิริมหามายา

ครั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดำริ กระทำการสนองพระคุณพุทธมารดา จึงเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ สำหรับพระนางสิริมหามายานั้นอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต พระอินทร์จึงนำพระพุทธองค์ขึ้นไป เมื่อทรงแสดงพระธรรมเทศนาประทานแก่พุทธมารดาจบลง องค์พระสิริมหามายา พุทธมารดา ก็บรรลุโสดาปัตติผล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จกลับโลกมนุษย์เมื่อ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11

th.wikipedia.org/wiki/พระนางสิริมหามายา


องค์ที่ 2 คือ มหาปชาปตีโคตมี ซึ่งเป็นน้องสาวของ พระนางสิริมหามายา

        [๒๖๙]  นาค    อสูร    และพรหม
                  ต่างก็พากันบูชาพุทธมารดาผู้นิพพานซึ่งถูกเขานำออกไปแล้ว
                  ตามความสามารถตามกำลัง
        [๒๗๐]  ภิกษุณีผู้เป็นโอรสของพระสุคต
                  ซึ่งนิพพานแล้วทั้งหมดถูกอัญเชิญไปข้างหน้า
                  พระโคตมีเถรีผู้เลี้ยงดูพระพุทธเจ้า
                  ผู้อันเทวดาและมนุษย์สักการะแล้วถูกอัญเชิญไปข้างหลัง


   พระสุตตันตปิฎก  ขุททกนิกาย  อปทาน  [๒.  เอกูโปสถิกวรรค]
              ๗.  มหาปชาปตีโคตมีเถริยาปทาน เล่มที่  ๓๓ หน้าที่ ๔๒๓






   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 30, 2012, 07:02:50 am โดย เสกสรรค์ »
บันทึกการเข้า

winyuchon

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 125
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระพุทธเจ้า มี พุทธมารดา 2 องค์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2012, 01:57:27 pm »
0
ก็หมายถึง  องค์ที่ 1 คือ พระพุทธมารดา ที่ให้กำเนิด  แม่แท้ ๆ
            องค์ที่ 2 คือ พระพุทธมารดา ที่เลี้ยงดู    แม่บุญธรรม

   :25: :25: :25: :c017: :c017: :c017:
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: พระพุทธเจ้า มี พุทธมารดา 2 องค์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2012, 09:37:41 am »
0
อนุโมทนา นะจ๊ะ ที่นำเรืี่องนี้มาให้ทราบกัน

  สำหรับพุทธมารดา องค์ที่ 1 นั้นสำเร็จเป็นพระโสดาบัน นะจ๊ะ
 
  สำหรับพุทธมารดา องค์ที่ 2 นั้นสำเร็จเป็น พระอรหันต์สาวิกา นะจ๊ะ

 เจริญธรรม
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2012, 03:46:33 pm โดย patra »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระพุทธเจ้า มี พุทธมารดา 2 องค์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 03:26:35 pm »
0
สาธุขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำบทความที่ดีมีประโยชน์มาให้อ่าน และ ขอบคุณพระอาจารย์ที่ชี้แนะให้เข้าใจถูกต้องครับ
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ