ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบความหมายของคำ เหล่านี้ครับ ...  (อ่าน 3082 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

แมนแมน

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 86
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อยากทราบความหมายของคำ เหล่านี้ครับ ...
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2011, 10:38:41 am »
0
อยากทราบความหมายของคำ เหล่านี้ครับ ...

  อนุสัย

  สันดาน

  กิเลส

ทั้ง 3 คำนี้มีความหมาย แบบเดียวกันหรือไม่ครับ

  สอบถามเพราะ ยังสับสนกัำบการใช้คำ ทั้ง 3 คำนี้อยู่ครับ
 :c017:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อยากทราบความหมายของคำ เหล่านี้ครับ ...
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2011, 11:18:16 am »
0
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

อนุสัย กิเลสที่แฝงตัวนอนเนื่องอยู่ในสันดาน มี ๗ คือ
       ๑. กามราคะ ความกำหนัดในกาม
       ๒. ปฏิฆะ ความหงุดหงิด
       ๓. ทิฏฐิ ความเห็นผิด
       ๔. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย
       ๕. มานะ ความถือตัว
       ๖. ภวราคะ ความกำหนดในภพ
       ๗. อวิชชา ความไม่รู้จริง


ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%CD%B9%D8%CA%D1%C2


จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต;
       ในภาษาไทยหมายถึง พื้นความรู้สึกนึกคิดหรืออุปนิสัยใจคอที่ฝังอยู่ในส่วนลึกของจิตใจมาแต่กำเนิด
       (ความหมายนัยหลังนี้ มิใช่มาในบาลี)

สันดาน ความสืบต่อแห่งจิต คือกระแสจิตที่เกิดดับต่อเนื่องกันมา;
       ในภาษาไทยมักใช้ในความหมายว่า อุปนิสัยที่มีมาแต่กำเนิด, อัธยาศัยที่มีติดต่อมา


ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%CA%D1%B9%B4%D2%B9


กรรมกิเลส กรรมเครื่องเศร้าหมอง, การกระทำที่เป็นเหตุให้เศร้าหมอง มี ๔ อย่างคือ
       ๑. ปาณาติบาต การทำชีวิตให้ตกล่วงคือ ฆ่าฟันสังหารกัน
       ๒. อทินนาทาน ถือเอาของที่เจ้าของเขามิได้ให้คือลักขโมย
       ๓. กาเมสุมิจฉาจาร ประพฤติผิดในกาม
       ๔. มุสาวาท พูดเท็จ


กิเลส สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง, ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์

กิเลสกาม กิเลสเป็นเหตุใคร่, กิเลสที่ทำให้อยาก, เจตสิกอันเศร้าหมอง ชักให้ใคร่ ให้รัก ให้อยากได้
       ได้แก่ ราคะ โลภะ อิจฉา (อยากได้) เป็นต้น

กิเลสธุลี ธุลีคือกิเลส, ฝุ่นละอองคือกิเลส


กิเลสมาร มารคือกิเลส,
       กิเลสเป็นมาร โดยอาการที่เข้าครอบงำจิตใจ ขัดขวางไม่ให้ทำความดี ชักพาให้ทำความชั่ว ล้างผลาญคุณความดี ทำให้บุคคลประสบหายนะและความพินาศ

กิเลสวัฏฏ์ วนคือกิเลส, วงจรส่วนกิเลส,
       หนึ่งในวัฏฏะ ๓ แห่งปฏิจจสมุปบาท ประกอบด้วย อวิชชา ตัณหา และอุปาทาน;
       ดู ไตรวัฏฏ์


กิเลสานุสัย กิเลสจำพวกอนุสัย, กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน จะปรากฏเมื่ออารมณ์มายั่วยุ
       เหมือนตะกอนน้ำที่อยู่ก้นโอ่ง ถ้าไม่มีคนกวนตะกอนก็นอนเฉยอยู่ ถ้ากวนน้ำเข้า ตะกอนก็ลอยขึ้นมา
ฌานาทิสังกิเลสาทิญาณ ปรีชากำหนดรู้ความเศร้าหมอง ความผ่องแผ้ว และการออกแห่งฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ ตามความเป็นจริง
       (ข้อ ๗ ในทศพลญาณ)

นิวรณูปกิเลส โทษเครื่องเศร้าหมองคือนิวรณ์

วิปัสสนูปกิเลส อุปกิเลสแห่งวิปัสสนา,
       สภาพ น่าชื่นชม แต่ที่แท้เป็นโทษเครื่องเศร้าหมองแห่งวิปัสสนาซึ่งเกิดแก่ผู้ได้วิปัสสนา อ่อนๆ ทำให้เข้าใจผิดว่าตนบรรลุมรรคผลแล้ว จึงไม่ดำเนินก้าวหน้าต่อไปในวิปัสสนาญาณ มี ๑๐ คือ
       ๑. โอภาส แสงสว่าง
       ๒. ปีติ ความอิ่มใจ
       ๓. ญาณ ความรู้
       ๔. ปัสสัทธิ ความสงบกายและจิต
       ๕. สุข ความสบายกาย สบายจิต
       ๖. อธิโมกข์ ความน้อมใจเชื่อ
       ๗. ปัคคาหะ ความเพียรที่พอดี
       ๘. อุปัฏฐาน สติชัด
       ๙. อุเบกขา ความวางจิตเป็นกลาง
       ๑๐. นิกันติ ความพอใจ

สังกิเลส เครื่องทำใจให้เศร้าหมอง

อุปกิเลส โทษเครื่องเศร้าหมอง, สิ่งที่ทำจิตต์ใจให้เศร้าหมองขุ่นมัว รับคุณธรรมได้ยาก
       มี ๑๖ อย่าง คือ
           ๑. อภิชฌาวิสมโลภะ ละโมบ จ้องจะเอาไม่เลือกควรไม่ควร
           ๒. โทสะ คิดประทุษร้าย
           ๓. โกธะ โกรธ
           ๔. อุปนาหะ ผูกโกรธไว้
           ๕. มักขะ ลบหลู่คุณท่าน
           ๖. ปลาสะ ตีเสมอ
           ๗. อิสสา ริษยา
           ๘. มัจฉริยะ ตระหนี่
           ๙. มายา เจ้าเล่ห์
           ๑๐. สาเถยยะ โอ้อวด
           ๑๑. ถัมภะ หัวดื้อ
           ๑๒. สารัมภะ แข่งดี
           ๑๓. มานะ ถือตัว
           ๑๔. อติมานะ ดูหมิ่นท่าน
           ๑๕. มทะ มัวเมา
           ๑๖. ปมาทะ เลินเล่อหรือละเลย

ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%A1%D4%E0%C5%CA
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

prachabeodee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 135
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อยากทราบความหมายของคำ เหล่านี้ครับ ...
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2011, 02:46:42 pm »
0
...โมทนาด้วยกับความแจ่มชัดในข้ออรรถข้อธรรมที่นำมาตอบ....สาธุ สาธุ สาธุ
             :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

ratree

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อยากทราบความหมายของคำ เหล่านี้ครับ ...
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 12:47:54 am »
0
ชัดเจนจริง ๆ คะ ตามคำศัพท์เลยคะ คงจะนำไปใช้ถูกตามความหมายแล้วนะคะ

 :25:
บันทึกการเข้า