ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชมรูปหล่อ พระสังฆราชและอธิบดีสงฆ์ ประดิษฐาน ณ วัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์  (อ่าน 5608 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0





“พระศรีสรรเพชญ์” พระพุทธรูปปางมารวิชัย
พระประธานภายในอุโบสถ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร
ตั้งอยู่ที่ถนนหน้าพระธาตุ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




อดีตอธิบดีสงฆ์ สถิตย์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
องค์ที่ ๔. สมเด็จพระสังฆราช(สุก ญาณสังวร) ปีพุทธศักราช ๒๓๖๓ – ๒๓๖๕
รูปหล่อนี้อยู่ในอุโบสถของวัดมหาธาตุฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 11, 2014, 11:23:12 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




ในฐานะศิษย์กรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ขอลงรูปภาพขนาดใหญ่
ของหลวงปู่สุก ไก่เถือน (สุก ญาณสังวร) เพื่อเป็นสังฆบูชา
       
                                         อุกาสะ วันทามิ ภันเต,
                                         สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต,
                                         มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโมทิตัพพัง,
                                         สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง,
                                         ทาตัพพัง สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ
                                         สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
       
                                         สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต,
                                         อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
                                         สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต,
                                         อุกาสะ ขะมามิ ภันเต




         ยังมีต่อ โปรดติดตาม.............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 10, 2014, 03:02:31 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ประวัติวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ (โดยย่อ)
(รวบรวมจากพระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงเธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงนิพนธ์เมื่อ ๒๔๖๐)

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์  เดิมชื่อว่า “วัดสลัก”  ผู้สร้างวัดแห่งนี้ไม่ปรากฏนาม  แต่สันนิษฐานว่ามีมาแต่ครั้งกรุงเก่า(กรุงศรีอยุธยา)  เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาสุรสิงหนาท(พระอนุชาธิราชของ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่๑)ทรงมาพบวัดนี้แล้ว  ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ และทรงสร้างถาวรวัตถุขึ้นมาใหม่ ทรงสถาปนาวัดนี้ขึ้นเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกในยุคกรุงรัตนโกสินทร์  ทรงขอพระราชทานพระอารามจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชว่า“วัดนิพพานนานาม”

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  โปรดให้ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกที่วัดนิพพานาราม จึงโปรดให้เปลี่ยนนามพระอารามว่า “วัดพระศรีสรรเพชญ์”  ต่อมาพระองค์ทรงประชุมพระราชาคณะให้จัดการศึกษาพระปริยัติธรรม และจัดให้มีการสอบไล่พระปริยัติธรรมที่วัดแห่งนี้ จึงโปรดให้เปลี่ยนนามพระอารามอีกครั้งว่า “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชวรมหาวิหาร” ตามแบบอย่างครั้งกรุงเก่า


 :25: :25: :25: :25:

เมื่อ พ.ศ ๒๓๔๖  พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดให้เรียกวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชวรมหาวิหารว่า “วัดมหาธาตุ” ด้วยเหตุว่านามวัดดังกล่าวเป็นหลักของพระนครที่มีทุกราชาธานีในประเทศนี้  จึงควรต้องมีในพระนครอมรรัตนโกสินทร์ อีกทั้งพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระมณฑป ซึ่งเป็นพระศรีรัตนมหาธาตุก็มีอยู่ในพระอาราม และเป็นพระอารามที่สถิตสมเด็จพระสังฆราชเหมือนวัดมหาธาตุที่กรุงเก่า  จึงพระราชทานนามพระอารามแห่งนี้ใหม่ในรัชสมัยของพระองค์ว่า “วัดมหาธาตุ”

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระราชทรัพย์อันเป็นส่วนของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  เพื่อปฎิสังขรณ์วัดมหาธาตุ  จึงโปรดให้เพิ่มสร้อยนามพระอาราม เฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชว่า “วัดมหาธาตุ ยุวราชรังสฤษฎิ์”



บรรยากาศเงียบสงบภายในบริเวณวัดมหาธาตุ


ถาวรวัตถุที่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงสร้าง

๑. พระมณฑปเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ทองบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
๒. พระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระประธานนามว่า “พระศรีสรรเพชญ์” และ “พระอรหันต์  ๘ ทิศ”
๓. พระวิหาร
๔. พระระเบียงเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ๑๐๘  องค์ (มีการสร้างเสริม ๔ องค์ รวม ๑๑๒ องค์)
๕. พระปรางค์และพระเจดีย์
๖. หอไตรกับหอระฆัง
๗. ศาลาการเปรียญ
๘. เสนาสนะ
๙. กำแพงวัด



พระเจดีย์ทองศรีรัตนมหาธาตุภายในพระมณฑป


พระมณฑป

ในสิ่งปลูกสร้างทั้ง ๙  อย่างที่ยังปรากฎอยู่ในปัจจุบันดังกล่าวนั้น  สิ่งหนึ่งที่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงสร้างให้เป็นสิ่งสำคัญและเป็นประธานของวัดแห่งนี้คือ “พระมณฑป”

พระมณฑปทรงสร้างครอบพระเจดีย์ทองซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวข้างต้นนั้น  นอกจากนั้นยังมีพระพุทธที่นำมาจากเมืองเหนือ เมืองสุโขทัย เมืองสวรรคโลก เมืองพิษณุโลก เมืองลพบุรี และที่กรุงเก่า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทนำมาประดิษฐานไว้ภายนำพระมณฑปถึง  ๒๘  องค์ล้วนแต่องค์งาม ๆ ทั้งนั้น   พระมณฑปนี้ทรงสร้างไว้ด้านทิศตะวันออกกึ่งกลางระหว่างพระอุโบสถกับพระวิหาร  พระองค์ทรงเอาเครื่องไม้ที่จะทรงสร้างปราสาทในวังหน้า นำมาสร้างพระมณฑป  แต่มณฑปที่สร้างด้วยเครื่องไม้นั้นถูกเพลิงไหม้  พระอุโบสถและพระวิหารก็ถูกไหม้ในครั้งนั้นด้วย  พระองค์ก็ทรงให้สร้างพระมณฑปใหม่ให้เป็นหลังคาทรงโรงอย่างที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน  พระมณฑปนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาตามลำดับ


 :96: :96: :96: :96:

ในสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เมื่อ พ.ศ.๒๓๘๗ ทรงบูรณะวัดมหาธาตุโดยการก่ออิฐถือปูนทั้งพระอาราม  ส่วนการบูรณะพระมณฑปให้รื้อเครื่องบนเปลี่ยนตัวไม้ที่ชำรุด  และเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่  ลงรักปิดทองพระเจดีย์ทอง  ประดับกระจกใหม่ทั้งหลัง

ในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕  พ.ศ. ๒๔๓๙  เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศสวรรคตได้  ๒ ปี  พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล  โปรดให้นิมนต์สมเด็จพระวันรัต(ฑิต) แต่ยังเป็นพระพิมลธรรมถวายพระธรรมเทศนา แล้วทรงบูชากัณฑ์เทศน์  ๑๐๐๐ ชั่ง  ทรงพระราชอุทิศเพื่อปฏิสังขรณ์สิ่งสำคัญในวัดมหาธาตุ คือ พระมณฑป  พระอุโบสถ  และพระวิหาร  ให้เปลี่ยนตัวไม้เครื่องบนที่ชำรุด  เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่  ประดับกระจกหน้าบันใหม่ ฉาบปูนผนังใหม่เหมือนกันทุกหลัง  แต่ที่หน้าบันพระวิหารนั้นเปลี่ยนลายเป็นรูปจุลมงกุฎของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  จากงบประมาณการบูรณปฏิสังขรณ์ที่ได้มาดังกล่าว จึงโปรดให้เพิ่มสร้อยนามพระอาราม เฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชว่า “วัดมหาธาตุ ยุวราชรังสฤษฎิ์”

 st12 st12 st12 st12

พระมณฑปนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาตามลำดับ โดยอดีตอธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุเสมอมา  ด้วยการบูรณะตามสภาพของส่วนที่ทรุดโทรม

ในสมัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  รัชกาลที่ ๙ พ.ศ. ๒๕๕๐  พระธรรมสุธี (พีร์ สุชาโต) อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุรูปปัจจุบัน  พิจารณาเห็นว่าพระมณฑปทรุดโทรมมากแล้ว  จึงได้เชิญชวนคณะสงฆ์วัดมหาธาตุ พร้อมทั้งอุบาสก  อุบาสิกา และชาวพุทธ ร่วมกันหาทุนทรัพย์ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้น  เมื่อวันเสาร์ที่ ๓  มีนาคม  พ.ศ. ๒๕๕๐  ตรงกับวันมาฆบูชา  ซึ่งเป็นการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่  เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในมงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ  ๘๐ พรรษาในปีนี้อีกด้วย


พระอุโบสถของวัดมหาธาตุ


พระอุโบสถ

พระอุโบสถที่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงสร้างไว้นั้น ได้ถูกเพลิงไหม้ในคราวเดียวกับพระมณฑป  พระองค์ทรงโปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่  โดยขยายตัวอาคารพระอุโบสถออกถึงแนวเขตสีมาจนเกือบชิดกับพระมณฑป  จึงยกสีมาขึ้นติดกับแนวผนัง  ประตูติดตั้งให้เปิดออกด้านข้าง  ลักษณะพระอุโบสถอย่างนี้มีเพียง ๒  แห่งคือวัดมหาธาตุกับวัดชนะสงคราม  เพราะทั้ง ๒ วัดนี้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงสร้าง

ในสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๗ ทรงบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ  โดยรื้อเครื่องบนเปลี่ยนตัวไม้ที่ชำรุด  และเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่  เสริมผนังและเสาให้สูงขึ้นกว่าเก่า  ๑ ศอก ลงรักปิดทองประดับกระจกใหม่ทั้งหลัง  แต่ผนังข้างในยังไม่ได้เขียนใหม่ สิ้นรัชกาลเสียก่อน

ในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕  พ.ศ. ๒๔๓๙  เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศสวรรคตได้  ๒ ปี  พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล  โปรดให้นิมนต์สมเด็จพระวันรัต(ฑิต) แต่ยังเป็นพระพิมลธรรมถวายพระธรรมเทศนา แล้วทรงบูชากัณฑ์เทศน์  ๑๐๐๐ ชั่ง  ทรงพระราชอุทิศเพื่อปฏิสังขรณ์สิ่งสำคัญในวัดมหาธาตุ คือ พระมณฑป  พระอุโบสถ  และพระวิหาร  ให้เปลี่ยนตัวไม้เครื่องบนที่ชำรุด  เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่  ประดับกระจกหน้าบันใหม่ ฉาบปูนผนังใหม่เหมือนกันทุกหลัง จากงบประมาณการบูรณปฏิสังขรณ์ที่ได้มาดังกล่าว จึงโปรดให้เพิ่มสร้อยนามพระอาราม เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชว่า “วัดมหาธาตุ ยุวราชรังสฤษฎิ์”


ที่มา www.watmahathat.com/history-of-wat-mahathat/
ขอบคุณภาพจาก http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000012544
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 11, 2014, 11:11:27 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



อดีตอธิบดีสงฆ์ สถิตย์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
องค์ที่ ๑๓. สมเด็จพระวันรัต (ฑิต อุทยมหาเถร) ปีพุทธศักราช ๒๔๓๒ – ๒๔๖๖
รูปหล่อนี้อยู่ในอุโบสถของวัดมหาธาตุฯ





อดีตอธิบดีสงฆ์ สถิตย์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
องค์ที่ ๑๔. สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารีมหาเถร) ปีพุทธศักราช ๒๔๖๖ – ๒๔๘๖
รูปหล่อนี้อยู่ในอุโบสถของวัดมหาธาตุฯ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



อดีตอธิบดีสงฆ์ สถิตย์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
องค์ที่ ๑๕. พระพิมลธรรม (ช้อย  ฐานทัตตมหาเถร) ปีพุทธศักราช ๒๔๘๖ – ๒๔๙๐
รูปหล่อนี้อยู่ในอุโบสถของวัดมหาธาตุฯ





อดีตอธิบดีสงฆ์ สถิตย์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
องค์ที่ ๑๖. พระพิมลธรรม (อาจ  อาสภมหาเถร) ปีพุทธศักราช ๒๔๙๐ – ๒๕๐๓ สมัยที่ ๑
(ลำดับที่ ๑๘) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ  อาสภมหาเถร) ปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ – ๒๕๓๒ สมัยที่ ๒
รูปหล่อนี้อยู่ในอุโบสถของวัดมหาธาตุฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 11, 2014, 11:46:20 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


อดีตอธิบดีสงฆ์ สถิตย์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
องค์ที่ ๑๗. พระธรรมปัญญาบดี (สวัสดิ์ กิตติสารมหาเถร) ปีพุทธศักราช ๒๕๐๓ – ๒๕๒๓
รูปหล่อนี้อยู่ในอุโบสถของวัดมหาธาตุฯ





อดีตอธิบดีสงฆ์ สถิตย์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
องค์ที่ ๑๘. พระสุเมธาธิบดี (บุญเลิศ  ทัตตสุทธิมหาเถร) ปีพุทธศักราช ๒๕๓๓ – ๒๕๔๗ (ลำดับที่ ๑๙)
รูปหล่อนี้อยู่ในอุโบสถของวัดมหาธาตุฯ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



พระเจดีย์ทองศรีรัตนมหาธาตุ ภายในพระมณฑป (วัดมหาธาตุฯ)

      พระมณฑปนั้นสร้างขึ้นใหม่ในครั้งที่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงบูรณปฏิสังขรณ์วัด แต่เดิมนั้นพระมณฑปนี้มีเครื่องยอดอย่างปราสาท ได้รื้อมาจากที่เตรียมไว้สร้างปราสาท กลางสระ ในพระราชวังบวรสถานมงคล แต่ต่อมาได้เกิดไฟไหม้ จึงมีการปฏิสังขรณ์อีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 3

      โดยภายในพระมณฑปนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ทองศรีรัตนมหาธาตุ บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนฐานเจดีย์บรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกหรือพระราชบิดาของพระองค์ เจดีย์องค์นี้ถือเป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ที่สมบูรณ์ที่สุดชิ้นหนึ่ง แต่หากใครอยากเข้าไปชมคงต้องรอเฉพาะวันพระ หรือจะไปในวันมาฆบูชาที่จะถึงนี้ก็ได้


ที่มา http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000012544
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

อธิบดีสงฆ์องค์ปัจจุบัน ของวัดมหาธาตุฯ พระธรรมสุธี (พีร์ สุชาตมหาเถระ)


ก่อนจบทริปนี้ มีคำถามให้เพื่อนๆ ปวดหัวเล็กน้อย ใครอ่านคำจารึกนี้ได้บ้าง ตามภาพด้านล่างเลยครับ

:25: :25: :25: :25: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 11, 2014, 12:30:43 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา