ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - เฉินหลง
หน้า: [1] 2
1  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / เรียนถามเรื่อง สมาธิ กับ การใช้ฤทธิ์ ต้องใช้ สมาธิ ระดับไหน ถึงจะใช้ ฤกธิ์ได้ เมื่อ: มกราคม 24, 2013, 10:24:44 am
เรียนถามเรื่อง สมาธิ กับ การใช้ฤทธิ์ ต้องใช้ สมาธิ ระดับไหน ถึงจะใช้ ฤกธิ์ได้

  ไม่ทราบว่า ถ้าเราจะระลึกชาติ ย้อนหลัง ต้องฝึก สมาธิ อย่างไร

   เห็นเพื่อน ๆ ของผมบางคน และ หลายคนบอกว่า ระลึกชาติ ได้ โดยที่ไม่ได้ฝึกสมาธิ อย่างนี้เป็นจริง หรือ ครับ

  thk56
2  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / การประคองอารมณ์กรรมฐาน ใน อานาปานสติ ควรกำหนดลมหายใจแบบไหนครับ เมื่อ: มกราคม 24, 2013, 10:21:45 am
การประคองอารมณ์กรรมฐาน ใน อานาปานสติ ควรกำหนดลมหายใจแบบไหนครับ

  คือไม่เข้าใจ ว่า ต้องหายใจเข้าออก ยาว คือ นาน ๆ  ใช่หรือไม่ครับ
    หรือว่า กำหนดลมหายใจเข้าออก สั้น ๆ เป็นห้วง ๆ

    และการระงับ กายสังขาร ( ลมหายใจ ) นี้คือหยุดลมหายใจใช่หรือไม่ครับ

  thk56
3  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / อานิสงส์การฟังธรรมตามกาล เจริญธรรมวัน ธรรมสวนะ ( วันพระ ) เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 08:21:23 am

ขอบคุณภาพประกอบจาก
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7623.0


อานิสงส์การฟังธรรมตามกาล

       การฟังธรรมมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว มีเรื่องในชาดกเล่าไว้ว่า ครั้งหนึ่งขณะ ที่พระพุทธเจ้ากำลังทรงแสดงธรรมอยู่นั้น ปรากฏว่าคนฟังมีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น นั่งหลับบ้าง มองท้องฟ้าหรือแหงนดูดาวบ้าง แหย่เพื่อน ๆ ขีดเขียนดินเล่นบ้าง ฟังธรรมด้วยความเคารพบ้างหลังจากจบพระธรรมเทศนา มีอุบาสกคนหนึ่งเข้าไปทูลถามพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับพฤติกรรมคนเหล่านี้ พระพุทธองค์ตรัสว่า คนที่นั่งหลับเวลาฟังธรรม ชาติก่อนเคยเกิดเป็นงูเหลือม เพราะงูเหลือมหลังจากกินอาหารเต็มอิ่มแล้วก็จะหลับ คนที่มองท้องฟ้าหรือแหงนดูดาว ชาติก่อนเคยเกิดเป็นหมอดู หรือนักพยากรณ์ดวงชะตาราศี คนที่ชอบแหย่เพื่อนเล่น ชาติก่อนเคยเกิดเป็นลิง จึงอยู่ไม่เป็นสุข แหย่คนโน้นทีคนนี้ทีตามสัญชาตญาณเดิมที่ติดตัวมาคนที่ขีดเขียนดินเล่น ชาติก่อนเคยเกิดเป็นไส้เดือน จึงมีอาการแสดงออกคล้ายจะหาที่อยู่เดิมของตน ส่วนคนที่ฟังธรรมด้วยความเคารพ ชาติก่อนเคยเกิดเป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิต จึงสนใจ และเอาใจจดจ่ออยู่กับการฟังตลอดเวลา มีความกระตือรือร้นในทางก้าวหน้าอยู่เสมอ จึงฟังด้วยความสุขใจ เอิบอิ่มใจอย่างยิ่ง

การฟังธรรมมีอานิสงส์ ๕ อย่าง คือ

         ๑. อัสสุตัง สุณาติ               ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟังและได้เรียนรู้สิ่งที่ยังไม่เคยเรียนรู้
         ๒. สุตัง ปะริโยทะเปติ          สิ่งที่เคยได้ฟังแล้วก็จะทำให้เข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น
         ๓. กังขัง วิหะนะติ             สามารถแก้ข้อข้องใจ บรรเทาความสงสัยในเรื่องนั้น ๆ ได้
         ๔. ทิฏฐิง อุชุง กะโรติ          ทำความเห็นให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
         ๕. จิตตะมัสสะ ปะสีทะติ               จิตใจย่อมผ่องใส คือสะอาด สงบ และสว่าง

เพื่อให้จำง่าย

           ได้ความรู้ใหม่      ได้วิจัยของเก่า   ได้บรรเท่าความกังขา     ได้พัฒนาความคิด     จิตแจ่มใสใจเยือกเย็น

                การฟังธรรมเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง เรียกว่า ธัมมัสสวนมัย คือบุญสำเร็จได้ด้วยการฟังธรรม ขอให้ลองสำรวจดูตัวเองว่า เวลาฟังเทศน์ฟังธรรม เรามีพฤติกรรมอย่างไรในบรรดาพฤติกรรมเหล่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น อันจะเป็นเหตุให้ได้รับอานิสงส์ แห่งการฟังธรรมอย่างสมบูรณ์

http://www.mahachat.com/index.php/2010-07-12-09-45-53/2010-07-14-01-35-27
4  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / มีประวัติ เกี่ยวกับเรื่อง การทอดผ้าป่า และ ทอดกฐิน หรือไม่ครับ เมื่อ: กันยายน 23, 2012, 02:07:36 pm
กำลังอยากจะจัดผ้าป่า สักกอง แต่ไม่ทราบต้นสายปลายเหตุ ของเรื่อง การทอดผ้าป่า ว่าที่ถูกต้องควรทำอย่างไรครับ ยิ่งเห็น โรงเรียนบ้าง หน่วยงานราชการ บางแห่งก็จัดผ้าป่า สร้างตึก สร้างโรงเรียน รวมมาถึงชุมชนที่บ้านผม ก็จัดผ้าป่า เพื่อสร้างอาคารชุมชน ผมเลยงง ๆ ว่า ผ้าป่า นี้ไม่ได้ให้พระสงฆ์ หรือ อย่างไร สามารถใช้กับหน่วยงาน โรงเรียน ชุมชน ได้ผมเองก็งง ๆ อยู่ครับ

  ขอความรู้จากชาวธรรม ด้วยครับ

   :c017:
5  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ทำงานใส่ความคิด โดยการออกแบบชิ้นงาน แล้วเวลาผ่านไป 6 ชม.ไม่รู้ตัว เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2012, 08:39:28 am
ทำงานใส่ความคิด โดยการออกแบบชิ้นงาน แล้วเวลาผ่านไป 6 ชม.ไม่รู้ตัว
ปกติไม่ค่อยเป็นคนขยัน พอดีวันนั้นมีชิ้นงานอยู่ชิ้นหนึ่ง ที่ผมสนใจได้ทำการปรับปรุงออกแบบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ใช้เวลาในการออกแบบตั้งแต่รับงานมา 09.00 ก็ทำไปเรื่อย ออกแบบและใช้ความคิดในการปรับเปลี่ยน ปรากฏว่าขณะที่ทำอยู่วันนั้น รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากก็เลยทำไปไม่หยุด ปรับแก้ ปรับแก้ อยู่อย่างนั้น จนกระทั่ง หมดเวลาทำงาน ซึ่งแปลกใจมากครับ เมื่อมีคนมาเรียกให้หยุดทำงาน ผมไม่ได้ทานข้าว ดื่มน้ำเลยครับ ซึ่งหลังจากครั้งนั้นมาก ก็ทำไม่ได้แบบนั้นอีก อยากทราบว่า อย่างนี้จัดเป็นสมาธิ หรือไม่ครับ

 และเราจะทรงอารมณ์อย่างนี้ได้อย่างไร ครับ
 การที่เราไม่นั่งหลับตา เคลื่อนไหวอยู่จัดเป็นสมาธิ หรือไม่ครับ

  :c017:
6  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ขมพิพิธภัณฑ์ คนเป็นชมคนตาย ที่ศิริราช ( อสุภกรรมฐานชั้นเยี่ยม ) เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2012, 10:44:11 am

        “พิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์ คองดอน”  ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 อาคารกายวิภาคศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ถ.พรานนก แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 9.00-16.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ อัตราค่าเข้าชม(ทั้ง 6 พิพิธภัณฑ์ของศิริราช) คนไทย 20 บ. ชาวต่างชาติ 40 บ. เด็ก, นักเรียน และภิกษุ ชมฟรี สอบถามโทร. 0-2419-6363





7  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เหตุดินทรุดในจีน เร่งอพยพคนนับพัน 12 พ.ค.55 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2012, 10:40:37 am
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ไชน่าเดลี่ รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินทรุดในหมู่บ้านเหมาเหอ เมืองหลิ่วโจว ทางตอนใต้ของเขตการปกครองตนเองกวงซีจวง ประเทศจีน โดยพื้นดินได้ทรุดตัวลงไปกว่า 40,000 ตารางกิโลเมตร ส่งผลให้บ้านเรือนหลายหลังพังถล่มลงมา และทำให้มีการเร่งอพยพคนกว่า 1,700 คนไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อแผ่นดินได้ทรุดตัวลง ส่งผลให้บ้าน 6 หลังที่อยู่ในบริเวณนั้นได้รับความเสียหาย และยังได้มีการสั่งอพยพคนไปยังสถานที่ปลอดภัย

ด้านนายจ้าว หยุนฮุ่ย หัวหน้าวิศวกรของเขตการปกครองตนเองกวงซีจวงเชื่อว่า พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจะขยายกว้างมากขึ้น และเหตุดังกล่าว เกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ด้านรัฐบาลท้องถิ่นเอง ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำหรับช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุการณ์ครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว






ชอบคุณภาพจาก http://hilight.kapook.com/
8  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / MP3 พระธรรมเทศนา หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน 71 กัณฑ์ เมื่อ: เมษายน 20, 2012, 08:54:17 am

เทศน์ ณ สวนแสงธรรม (ช่วงค่ำ) ปี 2550 - 2551 รวม 71 กัณฑ์

ดาวโหลด (550 MB)
http://archive.org/download/Luangta71Kun/Luangta71Kun.zip

สาธุครับ
_/|\_ _/|\_ _/|\_


จากคุณ    : neo22@pantip
9  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ไหว้พระ 5 วัด จ.อยุธยา กับ Mthai เชิญชมภาพ วีดีโอ เมื่อ: เมษายน 16, 2012, 07:02:39 am
ไหว้พระ 5 วัด จ.อยุธยา กับ Mthai เชิญชมภาพ วีดีโอ

http://110.164.180.139/video29/8eca547fc80d91edc024e52cea1e41dd/4f8b6114/2012/04/12/1334206552.mp4







ติดตามภาพเนื้อหาได้ที่ลิงก์นี้ ครับ

http://travel.mthai.com/blog/15623.html#4f8af54de5753
10  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญร่วมทำบุญหล่อพระ วันที่ 14 เมษายน 2555 วัดหนองปรือ นครราชสีมา เมื่อ: เมษายน 12, 2012, 09:13:46 am
เชิญร่วมทำบุญหล่อพระ วันที่ 14 เมษายน 2555

เจ้าสำนัก พระมหารุ่งเรือง ขนฺติสโห จอว.
เลขที่-ซอย-ถนน: 246 ม.9 ถ.บ้านแปรง-หนองกราด 
ตำบล: บ้านแปรง   
อำเภอ: ด่านขุนทด   
จังหวัด: นครราชสีมา   
รหัสไปรษณีย์: 36220
โทร.: 084-765-1173


กิจกรรมภายในวัดหนองปรือ

    งานปฏิบัติธรรม ประจำปี  วันที่ 5-11 มกราคม ทุกปี
    อบรม นักเรียน/นักศึกษา ปีละ 3-50 ครั้ง ต่อปี
    กิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ทุกปี
    กิจกรรมวันสำคัญแห่งชาติ ทุกครั้ง
    กิจกรรมประเพณี ประจำท้องถิ่น ทุกปี
    กิจกรรมรักษาศีลอุโบสถ ของอุบาสกอุบาสิกา ตลอดปี




11  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / นอนแล้ว มีอาการอย่างนี้ ครับ จะแก้อย่างไร ดีครับ เมื่อ: มีนาคม 25, 2012, 10:34:56 am
แล้วถ้าช่วงเคลิ้มๆ (มะได้นั่งสมาธินะคะ นอนอยู่ก๊ะ) รู้สึกตัวเบาๆลอยเคว้งอยู่เหมือนไม่มีร่างกาย จากนั้นซัำกพักรู้สึกแปล๊บๆตามข้อมือทั้งสองกับข้อเท้าทั้งสอง แล้วก็เห็นแสงสีขาวสว่างวาบจ้าแสบตา จากนั้นก็รู้สึกเหมือนพลังงานอะไรซักอย่างเป็นเหมือนลมเย็นๆพุ่งเข้ามาที่หน้าผากอ่ะค่ะ เต็มๆเลยค่ะ แรงมากกก เป็นอยู่พักนึงก็ลืมตาตื่นค่ะ ตื่นมาตัวสั่นเหมือนเป็นไข้จับสั่นเลยค่ะ ปวดหัวแบบหนักๆด้วยค่ะ

จากคุณ somjeed ครับ

 :c017:

12  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / พระนันทกเถระ เอตทัคคะในทางผู้ให้โอวาสภิกษุณี เมื่อ: มกราคม 10, 2012, 08:50:45 am

พระนันทกเถระ เอตทัคคะในทางผู้ให้โอวาสภิกษุณี

พระนันทกเถระ เกิดในตระกูลพราหมณ์ เมืองสาวัตถี เมื่อเจริญวัยเติบโตขึ้นมาได้มี โอกาสไปฟังพระธรรมเทศนา จากพระบรมศาสดาแล้ว เกิดศรัทธาเลื่อมใส กราบทูล ขออุปสมบท ในพระพุทธศาสนา ตั้งใจบำเพ็ญเพียรเจริญสมณธรรม ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

ท่านก็เป็นอีกรูปหนึ่ง ที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ ในการระลึกชาติในอดีตของตนเอง และ สัตว์อื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในการแสดงธรรม แก่พุทธบริษัททั้ง ๔ สามารถ ชี้แจงยกอุปมาอุปไมย อธิบาย จนทำให้ผู้ฟังเข้าใจแจ่มแจ้ง

ท่านเคยแสดงธรรมแก่ภิกษุณี จำนวนถึง ๕๐๐ รูป จนได้บรรลุพระอรหัตผล ณ วัดราชการาม ซึ่งเป็นวัดที่พระเจ้าปเสนทิโกศล สร้างถวายตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล ซึ่งในครั้งนั้น ขณะที่พระบรมศาสดาประทับอยู่ ณ พระเชตะวันมหาวิหาร พระ มหาปชาบดีเถรี ได้พาภิกษุณีประมาณ ๕๐๐ รูป มาเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา เพื่อรับฟังพระธรรม เทศนา และพระพุทธองค์ได้ทรงมอบหมายให้พระภิกษุณีเหล่านั้น และในบรรดาภิกษุสาวกเหล่า นั้น ก็มีพระนันทกะรวมอยู่ด้วย

หลีกเลี่ยงแสดงธรรมแก่ภิกษุณี
พระสาวกรูปอื่น ๆ เมื่อถึงวาระของตน ก็ไปแสดงธรรมตามหน้าที่ ด้วยดีทุกองค์ แต่พอ ถึงวาระของพระนันทกะ ท่านไม่ไปแสดงธรรมเอง แต่ให้พระภิกษุรูปอื่น ไปแสดงธรรมแทน เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะท่านระลึกชาติในอดีตได้ว่า “ภิกษุณีเหล่านั้น ในอดีตชาติเคยเป็นบาท จาริกา ข้ารับใช้ของท่านมาก่อน” ดังนั้น ท่านจึงเกรงว่า “ถ้าพระภิกษุพุทธสาวกรูปอื่นที่ สามารถระลึกชาติในอดีตได้ ทราบความแล้ว อาจจะตำหนิท่านว่า ยังมีความผูกพันกับภิกษุณีเหล่า นั้นอยู่ก็ได้”

เรื่องนี้ทรงทราบถึงพระบรมศาสดา จึงทรงมีพระบัญชารับสั่งด้วยพระองค์เอง ให้พระนันทกะ ไปแสดงธรรมแก่นางภิกษุณีเหล่านั้น ท่านไม่อาจจะขัดพระบัญชาได้ จึงต้องไป เมื่อถึงวาระของตน

ท่านแสดงธรรม ว่าด้วยเรื่องอายตนะภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และอายตนะภาย นอก คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ เมื่ออายตนะภายนอกสัมผัสกันแล้ว ทำให้ เกิดเวทนา ถ้าชอบใจ ก็เกิดสุขเวทนา ถ้าไม่ชอบใจ ก็เกิดทุกขเวทนา ถ้าไม่เกิดความรู้สึกชอบใจ หรือไม่ชอบใจ ก็เป็นอุเบกขาเวทนา ท่านได้ชี้แจงให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น ไม่เที่ยงแท้ ย่อมผันแปร เปลี่ยนไป ไม่มีตัวตนที่ควรจะยึดถือได้

ท่านพระนันทกะ ได้แสดงธรรมแก่ภิกษุณีเหล่านั้นในวันแรก ภิกษุณีทั้งหลาย ได้บรรลุ เป็นพระโสดาบัน พากันชื่นชมโสมนัสยินดี ในธรรมกถาของท่าน พระบรมศาสดาทราบความนั้น แล้ว จึงรับสั่งให้ท่านไปแสดงธรรมอีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งท่านก็ได้แสดงในเรื่องเดียวกัน เมื่อจบ ลงแล้วนางภิกษุณีเหล่านั้น ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ด้วยกันทั้งหมด ด้วยอานิสงส์ ที่สามารถ ควบคุมจิต ให้สงบจากความรักความผูกพันในอดีตชาติได้

ด้วยเหตุนี้ พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องท่าน ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้ง หลาย ในทางผู้ให้โอวาทภิกษุณี

ท่านดำรงอายุสังขาร สมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม :
- ประวัติพระนันทกเถระ หนึ่งในอสีติมหาสาวก (พระมหาสาวก ๘๐)


13  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / หนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และมุตโตทัย ดาวน์โหลดอ่านได้ที่นี่ครั เมื่อ: มกราคม 04, 2012, 10:48:23 am
หนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และมุตโตทัย

http://ebooks.in.th/ebook.aspx?bid=2890


ใครมีเฟสบุคกด like ที่นี่ก้อได้ครับ

มีหนังสือมากมายให้อ่านครับ

http://www.facebook.com/ebooksinth
14  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / นั่งภาวนา กรรมฐาน แล้ว เห็น ร่างกายของตนเองเป็นร่าง กลวง ๆ ควรทำยังไงครับ เมื่อ: ธันวาคม 14, 2011, 09:42:11 am
ผมได้ฝึกเจริญกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ในขั้นที่ 1 อยู่เป็นเวลา เกือบ 2 ปีแล้วครับ จนเมื่อสองสามวันก่อนเห็นกายตัวเอง เป็นกายโพลง ๆ ซ้อนกายที่นั่งอยู่ ผมควรทำอย่างไรต่อไปครับ แต่ผมก็กำหนด พุทโธ ต่อไปนะครับ การเห็นแบบนี้ คือเห็นกายโพรง ๆ นี้ซ้อนกายที่นั่ง เป็น ๆ หาย ๆ ไปเป็นพัก กายที่เห็นนี้เป็นสีขาวครับ

   :smiley_confused1: :c017: :25:
15  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / วิถึธรรมพระโสดาบัน ในพระไตรปิฏก ชวนกันเป็นพระโสดาบันกันก่อน ครับ เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 08:57:20 am
โสดาบัน ๓ ระดับ
๑. เอกพีชี  เกิดอริยชาติอีกเพียงส่วนเดียว แล้วจักทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ (พระบาลีไม่มีคำว่าชาติ หรือเป็นการเกิดแบบเป็นตัวๆ เลย)
๒. โกลังโกละ (เกิดในสุคติภพอีก ๒-๖ส่วน ก็จักทำที่สุดแห่งทุกข์ได้)
๓. สัตตักขัตตุปรมะ (เวียนเกิดในสุคติภพหรืออริยชาติอีกเพียง ๗ ส่วน  ก็จักทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
 (พตปฎ. เล่ม ๒๐  ข้อ ๕๒๘)

 ญาณ ๗ ของ.พระโสดาบัน
๑. รู้จักปริยุฏฐานกิเลส (ได้แก่ นิวรณ์๕ , การทะเลาะวิวาทกันด้วย หอกคือปาก ฯลฯ)  แม้ละยังไม่ได้ก็รู้   ไม่มีที่จะไม่รู้
๒. อาเสวนา (เสพคุ้นไม่หนีโจทย์แต่ทบทวนเผชิญโจทย์)   ภาวนา(ทำให้มีผลเจริญ)    พหุลีกัมมัง (ทำให้มาก)
๓. เชื่อมั่นในธรรมวินัยนี้ ไม่ดาษดื่นทั่วไปกับสาธารณะปุถุชน
๔. มีธรรมดาของผู้สำนึกรีบออกจากอาบัติ เปรียบเหมือนกุมารอ่อนนอนหงาย  ที่ถูกถ่านไฟด้วยมือ  หรือด้วยเท้าเข้าแล้ว    ก็ชักหนีเร็วโดยฉับพลัน
๕. อาริยสาวกถึงความขวนขวายในกิจใหญ่น้อยที่ควรทำอย่างไร  ของเพื่อนสพรหมจารีโดยแท้  ถึงอย่างนั้นความเพ่งเล็งกล้าในอธิศีลสิกขา  อธิจิตสิกขา  และอธิปัญญา-สิกขา ของอาริยสาวกนั้นก็มีอยู่ 
เปรียบเหมือนแม่โคลูกอ่อนย่อมเล็มหญ้ากินด้วย  ชำเลืองดูลูกด้วย ฉันนั้น
๖. มีพลังทำประโยชน์  ทำไว้ในใจ  กำหนดด้วยจิตทั้งปวง   เงี่ยโสตฟังธรรมวินัยของตถาคต  อันบัณฑิตแสดงอยู่
๗. ได้ความรู้อัตถะ-รู้ธรรม  ปราโมทย์  รู้จริงครบถ้วนธรรม 
(โกสัมพีสูตร  พตปฎ. เล่ม ๑๒   ข้อ ๕๔๓ - ๕๕๐)

องค์คุณ ๘ ส่วน ของพระโสดาบัน
ส่วนที่ดับไปจากจิต
๑. ขีณนิรยะ (สิ้นจากนรก, ปิดนรก ดับความเร่าร้อนได้) 
๒. ขีณปิตติวิสยะ (สิ้นจากวิสัยความอยากอย่างเปรต) 
๓. ขีณติรัจฉานโยนิ (สิ้นจากความโง่ ที่ขวางเจริญ)
๔. ขีณาปายทุคติวินิปาตะ (สิ้นจากอบาย ทุคติ วินิบาต)

ส่วนที่เกิดทางจิต (โอปปาติกโยนิ)
๕. โสตาปันนะ (เข้าสู่กระแสโลกใหม่คือโลกุตระ)
๖. อวินิปาตธัมโม (ไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา)
๗. นิยตะ (เที่ยงแท้แน่นอนสู่มรรคผลที่สูงขึ้น)
๘. สัมโพธิปรายนะ (มุ่งตรัสรู้ในภายหน้า)
(พตปฎ. เล่ม ๑๙  ข้อ ๑๔๗๕)

โสดาบันติดแป้น
วัฏฏภิรตโสดาบัน ผู้ยังติดแป้นในฐานแห่งสุขอยู่  โดยไม่ยอมเลื่อนฐานให้เกิด “อภิชาตจิต” 
จน มี วุฒฑิภาวะ ที่สูงขึ้น จึงจัดอยู่ใน ฐีติบุคคล  ที่แม้จะรู้ทางไปสู่ที่สูง  ก็ไม่ยอมลำบากที่จะละทิ้ง วัฏฏะอันน่าภิรมย์นี้ (ภิรตา)
พระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญความหยุดอยู่  แต่สรรเสริญผู้ที่ ตั้งตนอยู่บนความลำบาก  กุศลธรรมจึงจะเจริญยิ่ง

โสดาบันผู้ไม่ย้อนกลับ
อนิ วัตตโสดาบัน คือ  ผู้ที่ไม่มีวันเวียนกลับไปสู่ที่ต่ำใดๆ อีกอย่างเด็ดขาด แม้เพียงชาติเดียว  โดยจิตจะไม่เกิดการยึดภพ ยึดชาติ อีกเลยแม้แต่ดวงจิตเดียว


จากคุณ    : toi (castertoi)


16  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญฟังธรรมบรรยาย "สมาธิบำบัด เพื่อแก้วิกฤตสุขภาพ" 16 ก.ย.54 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 10:21:56 am
สมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ โรงเรียนเทพศิรินทร์ โดย ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ ที่ปรึกษาสมามฯ ขอเรียนเชิญท่านร่วมฟังธรรมบรรยายโดย

 พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ วัดดอยเกิ้งอ.เเม่สะเรียง จ.เเม่ฮ่องสอน

 เรื่อง “สมาธิรักษาโรคโดยพลังพิรามิด & การเตรียมรับกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น”

วันศุกร์ที่ 16 ก.ย. 54 เวลา 13.00-16.00 น.
ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารเทิดพระเกียรติ์ ร.ร.เทพศิรินทร์ .
(ไม่มีค่าใช้จ่าย/เเต่งกายสุภาพ)

และ พระ ดร.ศรัณย์ รุ่น 09-11

จะมาเล่าประสบการณ์ที่หายป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายจากการปฏิบัติได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

ผู้สนใจกรุณาเเจ้งจำนวน & สำรองที่นั่งก่อน 30 ส.ค.54 นี้
ที่คุณสุขุม มหาวัจน์ ผู้จัดการสมาคม โทร. 02-2528978, 080-6064046


จากคุณ : ซามูไรหมูตอน
17  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ฝนที่ตกหนักติดต่อกัน ทำให้น้ำเอ่อล้นจากอ่างเก็บน้ำสามหลั่น สระบุรี เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 08:58:31 am
http://61.90.201.187/ch72008/1/2/376/20110911/0922369382500.flv



ฝนที่ตกหนักติดต่อกัน ทำให้น้ำเอ่อล้นจากอ่างเก็บน้ำสามหลั่น และไหลหลากเข้าท่วมในชุมชนพระพุทธฉาย ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมืองสระบุรี ซึ่งความแรงของกระแสน้ำ ทำให้ข้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพราะน้ำที่ไหลมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ขนย้ายไม่ทัน ชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน และอยู่กันอย่างหวาดผวา นอกจากนี้สะพานเข้าออกวัดพระพุทธฉาย ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาดใช้สัญจรไม่ได้

http://www.ch7.com/news/news_thailand_detail.aspx?c=2&p=376&d=156987
18  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ธรรมะ ธรรมะ ธรรมะ เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 09:56:54 am
ธรรมะไม่ใช่ข้อคิด
ธรรมะไม่ใช่ข้อเตือนใจ
ธรรมะไม่ใช่สิ่งที่เราจะรู้และเข้าใจได้
แต่ธรรมะคือสิ่งที่ทำให้เรารู้และเข้าใจได้ต่างหาก

เหมือนเราอยู่ในที่มืด แล้วถือไม้ขีดไฟอยู่กล่องหนึ่ง
เราคลำดู สัมผัสดู ก็รู้ว่ากล่องไม้ขีดนั้นเป็นสี่เหลี่ยม
ข้างในมีก้านไม้ขีดอยู่กี่แท่งก็รู้ แต่ว่าเราไม่รู้วิธีนำมาใช้
เราก็สำคัญว่าเรารู้จักไม้ขีดไฟดีแล้ว


ต่อเมื่อใดเรานำก้านไม้ขีดนั้นถูไปกับข้างกล่อง
พลันไม้ขีดไฟนั้นก็สว่าง ทำให้เราเห็นทุกอย่างที่ไม่เคยเห็น
ไม่ว่าจะก้านไม้ขีด กล่องไม้ขีด แสงสว่าง มือของเรา ตัวของเรา และรอบ ๆ ตัวเรา

ธรรมะก็เช่นกัน หากเราคิดว่าเรารู้แล้ว แต่เราไม่รู้จักวิธีนำไปใช้
นั่นก็คือเรายังไม่มีธรรมะ และทำให้เรายังคงไม่รู้อยู่นั่นเอง

ธรรมะสามารถทำให้ปุถุชนคนธรรมดาเปลี่ยนเป็นพระอริยเจ้าได้
ฉะนั้น คำที่ว่าธรรมะเอาชนะใจปุถุชนไม่ได้จึงไม่ถูกต้อง
ที่ถูกคือปุถุชนเมื่อยังไม่มีธรรมะในใจ ก็จะไม่สามารถรู้และเข้าใจความจริงของโลก
แต่เมื่อใดน้อมนำธรรมะไปปฏิบัติ เมื่อนั้นย่อมมีธรรมะในใจ
และธรรมะในใจนั่นเองที่จะทำให้เรารู้ ทำให้เราเข้าใจในสัจธรรมที่แท้จริงขึ้นมา

การที่เราพิจารณาว่าธรรมะคืออะไร และเห็นว่าธรรมะช่วยอะไรไม่ได้
ก็เหมือนการที่เราถือกล่องไม้ขีดไปมา และไม่เห็นว่ามันจะช่วยอะไรเราได้
ตรงกันข้าม แม้เราจะไม่รู้ว่าธรรมะคืออะไร แต่เพียงเรานำไปปฏิบัติเราก็จะเข้าใจเอง
เหมือนเราไม่รู้ว่ากล่องไม้ขีดมันมีไม้ขีดกี่ก้าน แต่พอเราเอามาถูข้างกล่องเท่านั้น
เราก็เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง

กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต คือสิ่งที่ยังธรรมะให้เกิดขึ้นในใจ
ศีล หิริ โอตตัปปะ พรหมวิหาร สังคหวัตถุ อิทธิบาท ฆราวาสธรรม ฯลฯ
เพียงแต่เรานำสิ่งเหล่านี้ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง แม้เราไม่เรียนธรรมะ
แต่เราก็จะเข้าใจว่าธรรมะคืออะไร มากกว่าคนที่เรียนมาแต่ไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้เสียอีก

เพราะฉะนั้น ธรรมะไม่ใช่แค่การพิจารณา ไม่ใช่แค่หลักในการคิด
แต่ธรรมะคือสิ่งที่ควรน้อมนำมาปฏิบัติและควรทำให้มีขึ้นในตัวเอง

เมื่อใดเรามีศีลอันดีพร้อม เมื่อใดหิริโอตตัปปะอันผู้อื่นติเตียนไม่ได้
เมื่อใดเรามีคุณธรรมอันเกิดขึ้นแล้วแก่ตนเองจากความพยายามของตนเอง
เมื่อนั้นหากธรรมะยังช่วยเราไม่ได้ ถึงเวลานั้นค่อยมาพูดกัน

จากคุณ    : พักผ่อน

19  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 09:10:22 am
สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว

ถ้าคุณจับหลักให้ถูก และทำให้เป็นสมาธิจริง ๆ สัก 3 นาที ก็มีผลแล้วครับ 5 นาที ก็ได้กำลังดี

ถ้าเราทำสมาธิแม้เพียง 5 นาทีแบบถูกต้อง ก็เหมือนกับ รีเซตสมอง เกิดความสดชื่นรวมจิตใหม่ขึ้นมาได้ไม่น้อยเลย

ผม สังเกตในสมัยที่ผมอ่านหนังสือเรียน จะมีบางช่วงที่เราคิดว่า อ่านไม่ไหวแล้ว อ่านไปก็ไม่เข้าหัว  อย่างน้อยต้องนอนก่อนคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยอ่านใหม่  จากการที่คิดว่าเราจะนอนก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านต่อนั้นเพราะอ่านไปก็ไม่ เข้าหัวแล้ว ถ้าเราทำสมาะิแค่เพียง 5 นาทีก็มีผลเท่ากับเรานอนไปแล้วหนึ่งคืนเลยทีเดียวในเรื่องนี้ สามารถกลับมาอ่านต่อได้แบบการเริ่มต้นใหม่เลยทีเดียว

ทีนี้การทำ สมาธินั้น อย่างน้อยเราต้องตั้งความมุ่งหมายไว้ก่อนทำสมาธิ ว่าเราจะทำสักเท่านั้นเท่านี้นาที คือเปรียบเหมือนวางแผนไว้ก่อนทำ  อย่าทำแบบเลื่อนลอยคืออยากจะทำก็ทำและไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำสักกี่นาที กันแน่ แบบนี้พอไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน พอเริ่มมีอกุศลเข้ามากระตุ้น เช่น ง่วง เหงา หาวนอน ก็จะเบื่อหน่ายแล้วพลันจะวางเป้าหมายเดิมไป


อย่าง ไรก็ตาม จะเปลี่ยนมาเป็นการสวดมนต์ให้มากขึ้นก็ได้ การสวดมนต์ เพื่อให้ได้ประโยชน์ในทางสมาธิด้วยในทางสติด้วยก็ได้  ก็เอาสติสมาธิรับรู้คำที่บริกรรมนั้น ไม่ว่าจะบริกรรมออกเสียงหรือบริกรรมในใจก้ได้ทั้งนั้น  หากเมื่อก่อนเราบริกรรมไปแบบนกแก้วนกขุนทองคือท่องตามความจำ    มาตอนนี้เปลี่ยนใหม่คือให้ใส่ใจมากขึ้น เอาสติไปจับในคำก็ได้ ในเสียงก็ได้ ในความหมายก็ได้ หรือในจังหวะการขยับปากก็ได้  คือเราสามารถฝึกสติหรือสมาธิกับกริยาใดๆของร่างกายหรือของจิตเราก้ได้ ตรงนี้จะมีประโยชน์มากครับ

เช่นเราท่องชิณบัญชร เราก็เอาสติไปจับที่คำที่เราท่อง หรือจับที่ความหมายก็ได้ ตรงนี้มันทำกันยาก ก็ทำได้ถือว่าเริ่มมีพัฒนาการด้านสติที่ดีขึ้นแน่นอนครับ เพราะหลายๆคนเคยทำมาอย่างนี้ นอกจากจะได้ผลตามอนิสงค์แห่งการสวดแล้ว ที่เป็นผลที่เห็นชัดเจนจริงๆคือ  ได้ผลด้านสติ และแน่นอนสมาธิก็จะมาควบคู่กันด้วย

การใช้สติมาจับเมื่อสวด ดร.บุญชัย เจ้าของโรงเรียน FAST ENGLISH สอนแนะนำเป็นประจำ ซึงท่านก็เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากคนหนึ่งเลยทีเดียว


จากคุณ : มังกรจักรวาล

20  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://khampramong.org/ วัดคำประมง เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 12:08:58 pm


http://khampramong.org/
วัดคำประมง


วัดคำประมง
 
คัดย่อบางส่วน จากความเป็นมาของวัดคำประมง
 
พระปพนพัชร์ (พัลลภ) กล่าวว่า “เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๙ ช่วงนั้น หลวงตาไปภาวนาที่ถ้ำขาม ช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๒๙ มาวันหนึ่งได้ทราบข่าวหลังจากไปวิเวกได้ลงมาข้างล่างที่วัดสันติฆาราม บ้านบัว ตำบลสว่าง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ผู้ใหญ่บ้านสมัยนั้นชื่อนายเสริม มีจิตศรัทธาที่จะถวายที่ดินให้หลวงตาในนามของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงตาก็บอกนายเสริมว่า ให้นายเสริมพาไปดูที่ พอไปดูที่แล้วมันไม่เหมาะสมที่จะสร้างวัด มันอยู่ใกล้บ้านเลยถามผู้ใหญ่เสริมว่ามีที่ใหม่อีกไหม คือตอนแรกจะยกที่ตรงนี้ให้หลวงปู่สิม หลวงตาก็บอกว่ามันไม่เหมาะสม เพราะที่มันไม่ใช่ทำเลที่ตั้งวัด นายเสริมก็ว่า “มีครับมันอยู่ที่ดอนขาม” ก็เลยพาหลวงตาไปดู ต้องเดินลัดเลาะป่าเข้าไป ไม่ได้เป็นทางอย่างที่เห็นปัจจุบันนี้ หลวงตาทำมาหมดแล้ว ถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปา หลวงตามทำทั้งหมด เดินลัดทุ่งลัดรอยเกวียนเข้าไปจนถึงดอนขาม ติดแม่น้ำอูน เป็นป่าที่ไม่ได้พัฒนา เป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว หลวงตาก็ว่า “อย่างนี้แหละใช่เหมาะจะสร้างวัด” แกก็เริ่มถวายที่ดิน ครั้งแรก ๔๘ ไร่ เป็น นส. ๓ ก ให้หลวงตาสร้างวัด ก็ไม่มีอะไรเลยเป็นป่าโปร่งๆ ป่าโล่งๆ ที่ทำมาหากินไม่ได้ เป็นที่เข็ดที่ขามของชาวบ้าน มันจะมีจอมปลวกใหญ่ที่เรียกว่าดอนขาม สูงใหญ่มาก จะมีลานที่เขาปักหลักไม้ไว้ และเขียนเป็นอักษรธรรมไม่รู้ความหมายว่า คืออะไร มีความเป็นมาอย่างไร แต่ว่าตอนที่หลวงตาไป ปลวกกินไปแล้ว ไฟไหม้หมดแล้วจึงเหลือแต่ดอนขามปัจจุบัน จอมปลวกนั้นก็ยังอยู่ หลวงตาก็ไปปักกรด ภาวนาอยู่คนเดียว แบกกรดสะพายบาตรพอลงจากถ้ำขาม อำเภอพรรณานิคม ที่หลวงปู่มั่นท่านไปจำพรรษา มันไม่มีอะไรสักอย่าง มีเขียงนาร้างๆ เสาก็ร้าง หลังคาก็ร้าง ผู้ใหญ่เสริมก็ไปทำนาได้บ้างไม่ได้บ้าง ถ้าดีเขาคงไม่ให้ มันใช้อะไรไม่ได้เลย ก็เราชอบที่อย่างนี้ พอเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๒๙ ผู้ใหญ่เสริมก็มากล่าวคำถวายที่ดิน หลวงตาก็นิมนต์พระมารับที่ดินตรงนี้หลายท่านหลายองค์ เป็นสักขีพยานว่าผู้ใหญ่แกถวายที่ดินตรงนี้แล้วนะ ให้กับหลวงตา หลวงปู่สิม ตอนนั้นหลวงปู่สิมอยู่ที่ถ้ำผาปล่อง ไม่ได้ลงมา หลวงตาก็จัดการรับเรียบร้อย”



เพื่อนได้พาคุณพ่อไปรักษาที่วัดคำประมง จ.สกลนคร  ที่วัดรักษาโดยใช้ยาสมุนไพรหลายอย่างซึ่งพระอาจารย์ทำพิธีสวดมนต์อธิฐานจิต ต้มยาหม้อให้ทุกๆ 2 อาทิตย์  และคนไข้ต้องทานอาหารมังสวิรัสอย่างเคร่งครัดพร้อมกับทานยาสมุนไพรทุกวัน  ทางวัดจัดบ้านให้อยู่ฟรี  ยาก็ฟรี  แต่ต้องมีญาติอยู่ดูแลคนไข้ 1 คน ทุกวันจะมีฟังเทศน์ตอนเช้า  พร้อมกิจกรรมสันทนาการบำบัด ออกกำลังกาย  แงเพลง  ร้องเพลง  ส่วนตอนเย็นก็มีการทำวัตรเย็น สวดมนต์ฟังเทศน์  ถ้าคนไข้อาการดีมีแรงก็เข้าร่วมกิจกรรมได้ แต่ถ้าไม่มีแรงก็อยู่ในห้องพักฟังเสียงตามสายแทนก็ได้  มีเสียงเพลงดนตรีไทยไพเราะบรรเลงโดยวงดนตรีพื้นบ้าน (วงไม้หอม) พระอาจารย์จะมาตรวจเยี่ยมอาการที่บ้านทุกวัน  ส่วนคนไข้อาการหนักมากๆในระยะสุดท้ายของชีวิต  ท่านก็จะบอกทุกคนให้มาอยู่กับคนไข้เพื่อสวดอิติปิโส และช่วยเป็นกำลังใจให้กับคนไข้ไปในภพภูมิที่ดี

ถ้าอยากดูภาพบรรยากาศในวัดก็ลองเข้าไปดูรายการคนค้นคน  ตอนอโรคยาศาล

มาถ่ายทอดสิ่งที่ได้พบ เผื่อได้เป็นประโยชน์ค่ะ
จากคุณ : ปันน้ำใจ
21  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สมเด็จโต กับฝรั่ง เมื่อถูกถามว่า แกนโลกอยู่ตรงไหน สำนวนเล่า เมื่อ: สิงหาคม 09, 2011, 08:30:45 am
   สมเด็จโต กับฝรั่ง

(เป็นเรื่องเค้าโครงความจริง ที่เคยเกิดขึ้นจริงจากบันทึกเก่า ๆ  แต่ผมเอามาเล่าดัดแปลงสำนวนเล็กน้อย น่ะขอรับ คงไม่ว่ากัน)

    ที่ต้องวงเล็บระบุเป็นเหลี่ยมเพชร ก็เพราะว่าคำว่าเหลี่ยมคม บางสถานการณ์อาจจะไม่เหมาะกับพระภิกษุสงฆ์ แต่ในที่นี้ผมอยากจะให้เห็นว่า เหลี่ยมมุมต่าง ๆ ของเพชรนั้น ไม่อันตราย ไม่บาดเนื้อหนังใคร มีแต่จะส่องแสง แห่งสีสรร ที่สวยงาม และทรงคุณค่าในตัว

                                   ............................................................

   ครั้งหนึ่ง ฝรั่งที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยในยุคเดียวกับที่หลวงปู่โต หรือสมเด็จโต ยังมีชีวิตอยู่นั้น   ได้ข่าวว่าสมเด็จโตนั้น มีปัญญามาก มีไหวพริบปฏิภาณ จึงอยากจะไปตั้งคำถามลองภูมิ เพื่อให้หลวงปู่จนด้วยคำถาม จึงไปหาหลวงปู่ เห็นท่าน กำลังยืนดูแลพระเณรกวาดลานวัดอยู่พอดี

   ถามอยู่หลาย ๆ คำถาม หลวงปู่ก็ตอบได้หมด จนฝรั่งคิดว่า เอาล่ะ ไอจะลองถามเรื่องวิทยาศาสตร์ดีกว่า พระไม่มีความรู้แน่ ๆ จึงยิงคำถามถวายไปว่า..

  "ท่านหลวงพ่อรู้ทุกสิ่ง แล้วหลวงพ่อรู้ไหมว่า ใจกลางของโลก หรือจุดศูนย์กลางของโลก อยู่ที่ประเทศไหน?"

  หลวงปู่ ยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่เอาปลายไม้เท้าชี้ลงไปที่พื้นดิน ที่ท่านยืนอยู่นั้น แล้วบอกฝรั่งว่า "อยู่ตรงนี้  อยู่ตรงนี้"

   ระฆังทำวัตรเย็นดังขึ้น หลวงปู่ต้องไปไหว้พระสวดมนต์ ท่านให้พร ทั้งฝรั่งทั้งคนที่พามา แล้วเดินจากไปทำกิจวัตรของสงฆ์ ตามปกติที่เคยทำเป็นนิตย์

    เล่นเอาฝรั่งยืนงง อยู่ตั้งนาน    ยืนมอง นั่งมอง ที่รอยไม้เท้า สักพัก ก็เอียงหน้าขึ้นมามองเพื่อนคนไทยที่พามา   เพื่อนคนไทยก็ แบมือแบไม้ แบะ แบะ ประมาณว่า "ตูไม่รู้เฟ้ย เรื่องแบบนี้ ยูไม่ต้องมาพึ่งพาอาศัยเลยนะ"  ฝรั่งก็เอามือจิ้ม ๆ ที่รอยไม้เท้า แล้วบ่นคร่ำครวญเบา ๆ ประมาณว่า..

 " Impossible  impossible ไอว่า มานเป็นไปม่ายด๋ายนะ ศูนย์กลางโลก จามาอยู๋ที่นี๋ ในวัดนี๋ ได้ยางงาย impossible "

  ทั้งฝรั่งทั้งเพื่อนคนไทย ก็งุนงง เดินทางกลับไป คนไทยคงไม่เท่าไหร่ แต่ทราบมาว่า ฝรั่งถึงกับนอนไม่หลับทั้งคืน รุ่งเช้าโน่นแหล่ะ ถึงเจอ เพื่อนฝรั่งอีกคน ที่มารับราชการเป็นอาจารยสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ให้แก่ลูกหลานบุคคลชั้นสูงในสมัยนั้น

  ก็เลย เล่าเรื่องที่ยังสงสัยหาคำตอบไม่ได้ ให้อาจารย์วิทยาศาสตร์ท่านนั้น ที่เป็นเพื่อนคุ้นเคยกันฟัง

     อาจารย์ฝรั่ง ได้ยินแล้ว ถึงกับ... ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวเราะเป็นภาษาฝรั่งก่อน จากนั้นก็หัวเราะก๊าก ๆๆๆ เป็นภาษาไทย   เอามือกุมท้องจนเห็นว่าพอควรแก่การขำได้แล้ว เพราะเห็นว่า เพื่อนฝรั่งยิ่งทำหน้างงหนักเข้าไปอีก อาจารย์ฝรั่งก็ เอามือตบไหล่เพื่อนพร้อมทั้ง พูดแบบคุ้นเคยว่า...

  "ยู สติวปิ๊ด...พระหลวงพ่อพูดถูกแล้ว ถูกที่สุดเลย ...แอบโซลูทลี่ ไรท์ .. หากยูไม่เชื่อพระหลวงพ่อ ยูก็ลองสั่งเครื่องจักร เครื่องมือจากประเทศของพวกเรา แล้ว ลองขุดลงไปดูสิ ขุดจนมันทะลุโลกไปอีกด้าน แล้วยูก็เอา ไม้ไผ่มาต่อ ๆๆ กัน เสียบเข้าไป ให้ทะลุโลกไปโผล่ด้านโน้นของโลก  จากนั้น ไอก็จะช่วยสงเคราะห์ หาช้างมาเตะยู แบบว่าเตะอย่างแรง ๆ นะ เพื่อที่จะส่งยู ออกไปนอกอวกาศ ยูก็จะมองลงมาเห็นว่า ไม้ไผ่น่ะเสียบอยู่ตรงกลาง ของโลก ลูกกลม ๆ ใบนี้พอดีเลยแหล่ะ  มายเดียเฟรนด์ เพื่อนรัก ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า กร๊าก ๆๆๆ เอิ๊กส์ เอื๊ก เอิ๊กสสสส์....หลวงพ่ออยู่วัดไหนล่ะเพื่อน ท่านรู้จริง ๆ นะ"

    ฝรั่งอาจารย์ พูดจบ ก็รีบตาลีตาเหลือกวิ่งออกไป ไม่วายหันมาบอกเพื่อนว่า

"ไอ สายแล้ว ไอสายแล้วเพื่อน  เดี๋ยวเข้าไปแลกเช่อร์ไม่ทัน ไปล่ะ  อย่าลืมขุดลงไปดูนะเพื่อน บาย"

ทิ้งให้เพื่อนยืนกึ่ง งง กึ่งว่าจะเริ่มเก๊ต และคราครวญกับตัวเองว่า...

  "...เออ..จริงของหลวงพ่อแฮะ  ก็โลกใบนี้มันกลม นี่หว่า ไม่ว่าขุดตรงไหนของลูกกลม ๆ  หากตั้งองศาชี้ไปตรง ๆ มันก็เป็นจุดศูนย์กลางของลูกกลม ๆ อยู่ดีนั่นแหล่ะ .......Opsss... สงสัยว่า ไอจะสติวปิด จริง ๆ นะนี่"

  ฝรั่งเดินช้า ๆ ยกมือขึ้นมากุมคาง กรีดนิ้วขยับสลับไปมาครุ่นคิด จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นมา กุมหน้าผากและปล่อยมือลงมา ในท่าที่ดูแล้วเหมือนกับปัดออกไปไกลตัว ในลักษณะทิ้งมือลง (ลักษณะที่เห็นกันอย่างคุ้นเคย ที่ฝรั่ง รู้สึกว่าเหมือนกับว่า ช่างเหอะ ๆๆๆ แล้วมักทำท่าอย่างนี้)  แล้วเดินลับไปในซอยซอยหนึ่ง ในเมืองบางกอกยุคต้น ๆ ของความศิวิไลซ์ ยุคนั้น
22  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นอกเรื่องหน่อยนะครับ มาแนะนำ วีดีโอ สำหรับผู้ที่ยังใช้ การค้นหา ไม่เก่งต้องดู เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 09:28:19 am
IT.Station: Search อย่างเซียน ตอนที่ 1/5



IT.Station: Search อย่างเซียน ตอนที่ 2/5



IT.Station: Search อย่างเซียน ตอนที่ 3/5



IT.Station: Search อย่างเซียน ตอนที่ 4/5



IT.Station: Search อย่างเซียน ตอนที่ 5/5

23  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / สมาธิที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสไว้ มีเพียง ๙ ระดับ ดังนี้ เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2011, 08:23:29 am
สมาธิที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสไว้ มีเพียง ๙ ระดับ ดังนี้
[๔๖๓] ธรรม ๙ อย่างที่ควรรู้ยิ่งเป็นไฉน ได้แก่อนุบุพพวิหาร ๙ คือ
ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้... สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม
บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่
บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่
อนึ่ง เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ และเสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป
บรรลุตติยฌาน ที่พระอริยะเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข
บรรลุจตุตถฌานไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่
บรรลุอากาสานัญจายตนฌานด้วยมนสิการว่า อากาศหาที่สุดมิได้
เพราะล่วงรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง เพราะดับปฏิฆสัญญา เพราะไม่กระทำไว้ในใจซึ่งนานัตตสัญญาอยู่
บรรลุวิญญาณัญจายตนฌานด้วยมนสิการว่า วิญญาณหาที่สุดมิได้
เพราะล่วงอากาสานัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวงอยู่
บรรลุอากิญจัญญายตนฌานด้วยมนสิการว่าไม่มีอะไร
เพราะล่วงวิญญาณัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวงอยู่
บรรลุเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน
เพราะล่วงอากิญจัญญายตนฌานโดยประการทั้งปวงอยู่
บรรลุสัญญาเวทยิตนิโรธ เพราะล่วงเนวสัญญานาสัญญายตนฌานโดยประการทั้งปวงอยู่
ธรรม ๙ อย่างเหล่านี้ควรรู้ยิ่ง ฯ
ที.ป. ๑๑/๒๘๒/๔๖๓
โปรดศึกษาพระสูตรเพิ่มเติม : http://etipitaka.com/read?language=thai&volume=11&number=282
*ปฐมฌาน ๑ ทุติยฌาน ๑ ตติยฌาน ๑ จตุตถฌาน ๑ อากาสานัญจายตนฌาน ๑ วิญญาณัญจายตนฌาน ๑
อากิญจัญญายตนฌาน ๑ เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน ๑ สัญญาเวทยิตนิโรธ ๑
24  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / นั่งสมาธิ แล้วเสียงดัง ผมคิดว่า ...... เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 09:48:20 am
นั่งสมาธิ แล้วเสียงดัง ผมคิดว่า ......จะหาซื้อที่อุดหู มาใช้ตอนนั่งสมาธิ

อยากทราบความเห็นของผู้ภาวนา ว่าความคิดของผมที่จะหาอุปกรณ์ ช่วยฝึกให้เป็น สมาธิ นี้ ผิดเพี้ยน หรือไม่ครับ

หรือ เพื่อน ๆ ที่ฝึกสมาธิ กันอยู่ มีคำแนะนำดี ๆ ให้ผมบ้าง ก็จะขอบคุณมากครับ


 :25: :25: :25: :25: :c017:
25  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ไทยแพล็งกิ้ง พวกพิลึก กึกกึ๊ย ( ครับ ) เอามาให้ชม ผ่อนคลายครับ เมื่อ: มิถุนายน 04, 2011, 09:20:17 am












ไทยแพล็งกิ้ง พวกพิลึก กึกกึ๊ย ( ครับ )
เอามาให้ชม ผ่อนคลายครับ
26  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / "ร็อคป่าช้าแตก" ลำซิ่งหุ่นผีสุดซี๊ด คิวแน่นไม่ได้กลับหลุม เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2011, 10:47:11 am

"ร็อคป่าช้าแตก" ลำซิ่งหุ่นผีสุดซี๊ด คิวแน่นไม่ได้กลับหลุม

 

 

 


 

 

 

ขณะนี้ ภาคอีสานมีวงดนตรีวงใหม่เกิดขึ้น “ร็อคป่าช้าแตก” ร้องเล่นเต้นรำเด็ดสะเด่าตามแบบฉบับอีสาน แต่นักดนตรีนักร้องไม่มีชีวิต เพราะมีแต่ผี และผู้ควบคุมผีให้ร้องเล่นเต้นตามจังหวะ เผยคิวแสดงแน่นแทบไม่ได้ลงหลุม…

ผู้สื่อข่าว จ.หนองบัวลำภู รายงานเมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ค. 2554 ว่า ขณะนี้ ธุรกิจวงดนตรี ต่างมีการแข่งขันกันสูง มีการงัดกลยุทธ์ลูกล่อลูกชนต่างๆ เพื่อมัดใจลูกค้าให้จ้างไปแสดงโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีรูปแบบตื่นเต้นเร้าใจ ล่าสุดเกิดวงร็อคใหม่ล่าสุด เป็นของกลุ่มพ่อบ้านหมู่ 7 ต.ผาอินทร์แปลง อ.เอราวัณ จ.เลย ที่มารับงานใน อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ชื่อวงร็อคป่าช้าแตก ที่งัดเอากลยุทธเพลงร็อคซิ่งอีสานมาเป็นจุดขาย

แต่เนื่องจากบรรดาพ่อบ้าน นักดนตรีของวงนี้แต่ละคน หน้าตาไม่ได้หล่อเหลา สูงยาว ขาวตี๋ หรือ มาดเท่แบบวงร็อกอย่างบอดีสแลม หรือ โปเตโต้ ทางกลุ่มพ่อบ้านวงร็อกป่าช้าแตก ก็เลยประยุกต์เอาหุ่นกระบอกมาเล่นแทน จะเอาหุ่นสวยยังไงก็ดูเป็นหุ่น ก็เลยปรึกษาหารือกันจนปิ้๊งไอเดียกระฉูดแบบสุด ๆ โดยเอาหุ่นมาตกแแต่งให้กลายเป็นผี ทั้งนักดนตรี และนักร้อง สุดท้ายก็ลงตัวในแนวคิดนี้

สำหรับรูปแบบในการแสดงของวงร็อกป่าช้าแตก ใช้หุ่นผีร้องเล่นเต้นอยูบนเวที ที่ยกสูงบริเวณกระบะท้ายรถบรรทุกหกล้อ ส่วนข้างล่าง ก็เป็นคนที่มาทำหน้าที่ชักหุ่นผี มีแกนเหล็กต่อสูงยกขึ้นไป มีเชือกสายยางสำหรับดึงชักหุ่นที่อยู่ข้างบน ให้ร้องเล่นเต้นตามจังหวะเพลง ล่าสุดมีข่าวว่าวงดนตรีคณะนี้ เริ่มคิวทองรับงานแทบไม่ว่าง เนื่องจากมีความแปลกใหม่ และผู้ชมไม่เคยพบเห็นการแสดงแบบนี้


Credit :  ไทยรัฐออนไลน์
27  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เตือน16จังหวัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2011, 10:41:14 am

วันนี้ (10พ.ค.) สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง" ฉบับที่ 11 ระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบัน ประเทศพม่าได้เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ

ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ด้านรับลมมรสุมในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัด

แม่ฮ่องสอน
เชียงใหม่
เชียงราย
ลำพูน
ลำปาง
พะเยา
แพร่
 น่าน
อุตรดิตถ์
พิษณุโลก
สุโขทัย
ตาก
พิจิตร
เพชรบูรณ์
ระนอง
และ พังงา

ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงขึ้น โดยเฉพาะทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตรและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2554

อนึ่ง ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ ตรวจสอบลักษณะอากาศก่อนเดินทางด้วย เนื่องจากมีพายุโซนร้อน “แอรี” กำลังเคลื่อนที่ผ่านบริเวณดังกล่าว
28  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน ณ วัดประทีปพลีผล 6 - 9 พฤษภาคม พ.ศ.2554 เมื่อ: เมษายน 27, 2011, 12:01:03 pm
  วันที่ 6 - 9 พฤษภาคม พ.ศ.2554
    ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน ณ วัดประทีปพลีผล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150 ซึ่งเป็นวัดที่ทรายไปบวชเป็นประจำคะ
    วิปัสสนากรรมฐานเพื่อพัฒนาจิตใจ ให้เกิดปัญญา และความสุข โดย ท่านพระอธิการประพันธ์ พนฺธุธมฺโม เจ้าอาวาสวัดปทีปพลีผล
     ชุดขาวเตรียมมาเองนะคะ
     สอนกรรมฐานโดย พระอาจารย์ชูเกียรติ  สิริยโส  ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน
มือถือ 085-2285639
    กำหนดการวิปัสสนา

    วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม 2554 เริ่ม 17.00 น.
17.00 น.     ลงทะเบียนเข้าที่พัก
17.30 น.     ปฐมนิเทศ สวดมนต์
18.00 น.     รับศีล 8 แนะแนวข้อวัตรปฏิบัติ สมาทานพระกรรมฐาน
19.00 น.     เดินจงกรม สมาธิก่อนนอน
20.00 น.     พักผ่อนอย่างมีสติ

     วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2554
04.00 น.     สัญญาณระฆัง รวมทำสมาธิ
04.30 น.     สวดมนต์ทำวัตรแปล
06.00 น.     เดินจงกรม, เจริญสติ กายบริหารโยคะ
07.00 น.     ทำกิจส่วนตัว
08.00 น.     รับประทานอาหารเช้า
09.00 น.     อบรมสมาธิ เดินจงกรม
10.00 น.     เจริญสติกรรมฐาน
11.00 น.     รับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น.     ธรรมบรรยาย
15.00 น.     อบรมจิต ผึกสมาธิ เดินจงกรม
16.00 น.     เจริญสติกรรมฐาน
17.00 น.     พักทำกิจส่วนตัว
18.00 น.     สวดมนต์ทำวัตรเย็นแปล
19.00 น.     ธรรมบรรยาย
20.00 น.     ชมธรรมะบรรยายประกอบสื่อ
21.00 น.     สมาธิก่อนนอน

     อบรมวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2554
04.00 น.     สัญญาณระระฆัง รวมทำสมาธิ
04.30 น.     สวดมนต์ทำวัตรแปล
06.00 น.     เดินจงกรม, เจริญสติ กายบริหารโยคะ
07.00 น.     ทำกิจส่วนตัว
08.00 น.     รับประทานอาหารเช้า
09.00 น.     อบรมสมาธิ เดินจงกรม
10.00 น.     เจริญสติกรรมฐาน
11.00 น.     รับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น.     ปัจฉิมนิเทศ เขียนความรู้สึกที่ได้อบรม
14.00 น.     ขอขมาพระสงฆ์ ขอขมาคณะครูอาจารย์
15.00 น.     ลาศีล 8 รับศีล 5 เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ หรือจะปฏิบัติต่อเหมือนวันที่ 7 พ.ค.2554 แต่อยู่ในศีล 5

     วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2554
04.00 น.     สัญญาณระฆังรวมทำสมาธิ

เสร็จแล้วเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

บริจาคเงินสนับสนุนการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานแล้วแต่ศรัทธาได้ที่
"กองทุนวิปัสสนากรรมฐาน วัดปทีปพลีผล"

" ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการอบรม "

http://www.ponboon.com/board/index.php?topic=3554.0
29  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญร่วมบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม ณ วัดป่าเกษมสุข ๒๙ เมษายน - ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เมื่อ: เมษายน 27, 2011, 11:58:41 am
ขอเรียนเชิญร่วมบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม

ณ วัดป่าเกษมสุข ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

วันที่ ๒๙ เมษายน - ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
(ตรงกับแรม ๑๑ - ๑๔ ค่่าเดือน ๕)


............................................................


ชีวิตของเรามีค่า จงใช้เวลาให้เป็นประโยชน์

อุบาสก อุบาสิกา นักเรียน นักศึกษา ร่วมสร้างบุญบารมี บวชเนกขัมมะประพฤติปฏิบัตธรรม อบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานจากพระวิปัสสนาจารย์ และพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒมาให้ธรรมบรรยายและให้ความรู้หลักธรรมตามแนวมหา สติปัฏฐานสูตร แก่ผู้เข้ารับการอบรมอย่างใกล้ชิด เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และอาจาริยะบูชา ในองค์หลวงปู่จันทา อนากุโล อีกด้วย


กำหนดการ

วันศุกร์ที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๔
- เวลา ๑๗.๐๐ น. พิธีบวชเนกขัมมะ/รับพระกัมมัฏฐาน

วันที่ ๓๐ เม.ย. – ๑ พ.ค. ๒๕๕๔
- ปฏิบัติตามตารางเวลาที่พระวิปัสสนาจารย์กาหนด และฟังธรรมบรรยายจากพระคณาจารย์

วันจันทร์ที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔
- เวลา ๑๑.๓๐ น. พิธีถวายผ้าป่าสามัคคี
- เวลา ๑๓.๓๐ น. พิธีลาสิกขา / เสร็จพิธี



ประธานอุปถัมภ์ :
พระครูอุดมธัมโมภาส เจ้าคณะอาเภอ จังหวัดปราจีนบุรี-สระแก้ว(ธ)

ประธานกรรมการ :
พระครูภาวนาวิโรจน์ รก.เจ้าอาวาสวัดป่าเกษมสุข

กรรมการจัดงาน :
คณะกรรมการวัดป่าเกษมสุข



............................................................

;aa37


หมายเหตุ ผู้ประสงค์ร่วมทำบุญถวายทาน อาหาร/น้ำปานะ ติดต่อได้ที่วัดป่าเกษมสุข หรือ โอนเงินเข้า บ/ช




ธนาคารนครหลวงไทย สาขาเขตอุตสาหกรรม(หนองกี่)
ชื่อ บ/ช วัดป่าเกษมสุข
เลขที่ บ/ช ๔๓๙ - ๒ - ๑๐๔๐๓ - ๘
สอบถามรายละเอียดได้ที่.... โทร. ๐๘๑-๗๑๕ ๔๐๒๑ , ๐๘๙-๐๒๕ ๔๐๕๒ , ๐๘๙-๘๐๖ ๔๙๖๐ , ๐๘๑-๘๐๒ ๑๑๗๙


_/\_ อนุโมทนา สาธุ

ขอบารมีหลวงปู่จันทา อนากุโล ช่วยให้งานนี้สำเร็จๆๆๆ ราบรื่นด้วยเทอญ

http://board.palungjit.com/archive/t-287205.html
30  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมวันวิสาขบูชา 2557 ถวายเป็นพุทธบูชา เมื่อ: เมษายน 27, 2011, 11:56:20 am
ปฏิบัติธรรมวันวิสาขบูชา 12-14 พฤษภาคม 2557 ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา

   สำนักสงฆ์เขาพระครู สถานปฏิบัติธรรมศรีราชา ได้จัดปฏิบัติธรรมเนื่องในวันวิสาขบูชา ถวายเป็นพุทธบูชา ในระหว่างวันที่ 12-14 พฤษภาคม 2557  จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมกันปฏิบัติธรรมเนื่องในวันวิสาข บูชา ซึ่งจะรับจำนวนจำกัด เพียง 150 ท่าน 
   

 ท่านใดจะเข้าร่วมปฏิบัติธรรมให้แจ้งชื่อท่าน หรือสอบถามได้ที่ 038-773349

กำหนดการปฏิบัติธรรมวันวิสาขบูชา
http://www.watkhaophrakru.com/webboard/index.php/topic,2277.msg5419/topicseen.html#msg5419


ประวัติวันวิสาขบูชา
http://www.watkhaophrakru.com/webboard/index.php/topic,137.msg214.html#msg214 (http://www.watkhaophrakru.com/webboard/index.php/topic,137.msg214.html#msg214)

https://www.youtube.com/v/9rX-9Jv0Hgg?fs=1&hl=th_TH
31  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / วิธีนับลมหายใจ ในอานาปานสติ แบบนี้ถูกหรือไม่ครับ เมื่อ: เมษายน 24, 2011, 09:08:01 am
1,1    2,2     3,3     4,4     5,5
1,1    2,2     3,3     4,4     5,5     6,6
1,1    2,2     3,3     4,4     5,5     6,6      7,7
1,1    2,2     3,3     4,4     5,5     6,6      7,7      8,8
1,1    2,2     3,3     4,4     5,5     6,6      7,7      8,8      9,9
1,1    2,2     3,3     4,4     5,5     6,6      7,7      8,8      9,9     10,10

นับเข้า 1 ออก นับ 1 ไปจน ครบ 10 แล้วกลับมาตั้งต้นใหม่ อย่างนี้ถูก หรือ ผิด ครับ หรือต้อง
ทำอะไรเพิ่มด้วยในระหว่่างที่นับครับ

 :25:
32  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / การสอบความเป็นพระโสดาบัน .... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 03:41:31 pm
เกณฑ์ในการวัดสอบโสดาบัน

มีศีลบริบูรณ์และมีความเชื่อยังลงมั่นไม่หวั่นไหวในพระรัตนตรัย
หรือ
เห็นญาณวัตถุ 44 ญาณวัตถุ 77
หรือ
มีอริยญายธรรม คือเห็นปฏิจฺจสมุปบาท

ถ้ามีคุณสมบัติข้างต้นพระศาสดาให้พยากรณ์ตนด้วยตนว่าเป็นโสดาบันแล้ว

จำมาจากเขาครับ

ก็เลยติดใจว่า ญาณวัตถุ 44 ญาณวัตถุ 77 เป็นอย่างไรครับ ใครพอจะอธิบายได้บ้างครับ

ขอบคุณครับ

 :c017:
33  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / การกราบไหว้ บูชา รอยพระพุทธบาทมีอานิสงค์อะไรครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 10:34:04 am
การกราบไหว้ บูชา รอยพระพุทธบาทมีอานิสงค์อะไรครับ

 และมีพระสูตร กล่าวเรื่องการกราบบูชา รอยพระพุทธบาทหรือไม่ครับ มีเนื้อหาว่าอย่างไร

 ใครพอจะแสดงให้ทราบได้บ้างครับ  ?

 :c017:
34  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ระหว่างการบวชเป็น พระ และ การอยู่ เป็น ฆราวาส นั้นใครสามารถถึงธรรมได้ก่อนในยุคนี เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 10:31:46 am
ระหว่างการบวชเป็น พระ และ การอยู่ เป็น ฆราวาส นั้นใครสามารถถึงธรรมได้ก่อนในยุคนี

ดูจากการบวชพระในปัจจุบัน ผมเข้าไปในวัด เพื่อจะสนทนาธรรมเรื่องเกี่ยวกับนิพพาน กับได้รับคำตอบว่า

ทั้ง 6 วัดเลยใกล้บ้านครับ ไม่ปรากฏว่า มีพระรูปไหนส่ิงเสริม เรื่องการภาวนาถึงพระนิพพาน กับมีความเห็นว่า

แม้แต่พระที่บวชยังทำไม่ได้ โยมไม่ได้บวชจะทำได้อย่างไร ?

  อันที่จริง ความคิดเช่นนี้ จัดว่าเป็นความคิดที่ผิดในแนวทางสงฆ์ หรือไม่ครับ ปัจจุบัน ฆราวาส ปฏิบัติธรรม

สำเร็จมีใครบ้างครับ หรือ ไม่มีเลย ดังนั้นพระนิพพาน เป็นเรื่องของนักบวชใช่หรือไม่ครับ

 ถ้าอย่างนั้น เราซึ่งเป็น ฆราวาส ก็คงไปนิพพานไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ครับ

 :25: :25: :25:
35  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / คนเกิดขึ้นมาแล้ว ถ้าพยากรณ์ โดยผู้มีความสามารถว่า... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 10:26:18 am
คนเกิดขึ้นมาแล้ว ถ้าพยากรณ์ โดยผู้มีความสามารถว่า...

 เช่น เด็กคนนี้จักฆ่า พ่อ และ ผู้มีพระคุณ ในอนาคต เหมือน พระยาพาล ( จากประวัติ พระประัโทณเจดีย์ )

      ต้องเข่นฆ่าคน เป็นจำนวนมาก เหมือน จอมโจรองคุลีมาล เป็นต้น

  อันนี้แสดงให้เห็นว่า ถ้าบุคคลใดเกิดมาได้รับพยากรณ์ แล้ว ก็ไม่สามารถ เปลี่ยนแปลง ชะตากรรมตนเองได้

ใช่หรือไม่ ครับ ?

 :25:
36  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / คนเกิดขึ้นมานั้น ดี เลว จากกำเนิดเลยหรือไม่ ? เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 10:22:28 am
บัวสี่เหล่า เป็นเครื่องจำแนกคนไว้

  แต่ปัญหาอยากถามว่า คนเราเกิดขึ้นมาแล้ว ดี เลว ตั้งแต่เกิดเลยหรือไม่ครับ

 ผมเห็นเด็กข้างบ้านตั้งแต่เด็กมา ก็เป็นเด็กเกเรา ปัจจุบัน ก็เป็นจิ๊กโก๋ ที่นี้ดูกำเนิดในบ้านคุณแม่ก็เป็นคนใฝ่ธรรม

ชอบไปวัด ไปวา ฟังธรรม ช่วยงานวัด แต่ทำไมลูกจึง ดับเบิ้ลเกเร

 อันนี้แสดงให้เห็นว่า คนจะดี จะเลว ล้วนแล้วมาแต่กำเนิด มาจากโครโมโซม ด้วยใช่หรือไม่ครับ


  :25: :25: :25:
37  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / หนึ่งบทเรียนชีวิต...((ดีมากๆๆ...เพื่อนๆๆลองอ่านดูน้า))‏ เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 11:53:31 am








38  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ฝ่าวิกฤติ ด้วย เสียงหัวเราะ! เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 02:26:30 pm
ฝ่าวิกฤติ ด้วย เสียงหัวเราะ!

ดาวตลกจากทั่วโลกได้เปิดประชุม "สภาตัวตลก" ขึ้นที่เยอรมนี เพื่อจะใช้การหัวเราะ เป็นหนทางฝ่าฟันวิกฤตการณ์เศรษฐ-กิจให้พ้นผ่านไปได้



คณะผู้จัดการประชุม ตั้งใจจะช่วยปลุกใจประชาชน หรืออาจจะกล่าวได้ว่า เพื่อสำแดงให้เห็นพลังของการหัวเราะที่มีต่อสุขภาพ


นาย อันโทสกา ผู้เคยอยู่กับคณะละครสัตว์มอสโก สเตท เซอร์กัส มานานถึง 20 ปี กล่าวเปิดโรงว่า เราอาจยิ้มสู้ความวิตกกังวลได้ แม้แต่ในยามเศรษฐกิจฝืดเคือง และกล่าวว่าการแสดงของพวกเขา จะเตือนให้ประชาชนได้เห็นว่า ท่ามกลางข่าวร้ายๆ ก็ยังมีหนทางออกทางอื่นอยู่ " เมื่อลูกโป่งแตก ระเบิดเสียงดังขึ้น คนอาจจะร้องไห้หรือหัวเราะก็ได้ แต่พวกตัวตลกจะพากันหัวเราะ" เขาบอก



ขณะเดียวกัน ตัวตลกจากสวิส นายโอลลิ ฮวนสไตน์ บอกว่า เขาอยากจะแนะนำกับภาคธุรกิจการเงินที่กำลังตกที่นั่งลำบากอยู่ว่า " อย่าไปใจเสีย และหมดความสุขในชีวิต กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมา"

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
39  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / มีอะไรในมือพ่อ เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 01:58:25 pm
น่าคิดนะ..

 
เริ่มจากการที่คุณพ่อเรียกลูกสาวเข้าไปพบ และบอกกับลูกสาวว่า

 
คุณพ่อ : "พ่อมีอะไรจะให้ดู เป็นของสำคุญมากนะ"
แล้วคุณพ่อก็หยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อ โดยกำสิ่งของไว้ในมือ ไม่ให้ลูกมองเห็น และคุณพ่อก็ถามลูกสาวว่า

 
คุณพ่อ : "อยากรู้มั้ยว่ามีอะไรในมือพ่อ"
ลูกสาวพยักหน้า พ่อเลยยื่นข้อเสนอว่า

 
คุณพ่อ : งั้นเอามือเขกพื้น 3 ที
พอลูกเขกเสร็จตามที่พ่อบอก คุณพ่อพูดอีกว่า

 
คุณพ่อ : "ไม่พอเปลี่ยนเป็น 5 ทีดีกว่า"
ลูกก็เขกพื้นอีก 5 ที พ่อก็พูดต่อว่า

 
คุณพ่อ : "เปลี่ยนเป็น 10 ทีดีกว่า"
ลูกก็เขกพื้นอีก 10 ที พอเขกเสร็จพ่อพูดอีกว่า

 

 

 
คุณพ่อ : "เพิ่มเป็น 15 ทีละกัน"
ด้วยความอยากรู้ ลูกสาวยอมเขกพื้นเพิ่มเป็น 15 ที พร้อมพูดกับพ่อว่า

 
ลูกสาว : "ลูกอยากรู้จริงๆว่าในมือพ่อมันคืออะไร"

 
พ่อเลยแบมือออก เผยให้เห็นเหรียญ 5 บาทธรรมดาเหรียญหนึ่ง
หลังจากนั้น คุณพ่อก็เอามือกำเหรียญ 5 บาทเหรียญเดิมอีกครั้ง

 
และถามลูกสาวว่า อยากดูไหมว่าในมือพ่อมีอะไร ถ้าอยากรู้ต้องเอามือเขกพื้น 5 ที ลูกสาวส่ายหน้า พร้อมกับบอกว่า

 
ลูกสาว : ไม่อยากดูแล้ว เพราะรู้แล้วว่าในมือพ่อมีอะไร
พ่อเลยต่อรอง

 
คุณพ่อ : "เขกแค่ 1 ทีก็ได้"
ลูกสาวยังส่ายหน้า พร้อมกับบอกว่า : "หนูรู้แล้ว หนูไม่อยากดูแล้ว"

 
คุณพ่อเลยบอกว่า: "เอางี้ พ่อให้ดูฟรีๆก็ได้ เอาหรือเปล่า"
ฝ่ายลูกสาว : "ไม่เอา ไม่รู้จะดูไปทำมัย ก็รู้อยู่แล้วว่าในมือพ่อมีอะไร"

 

 

 
ได้ฟังเช่นนั้น คุณพ่อเลยสอนลูกสาวว่า เหรียญ 5 ก็เปรียบเสมือนกับสิ่งอันพึงหวงแหนของของหญิงสาว ถ้าใครได้รู้ได้เห็นก่อนเวลาอันควร ก็จะกลายเป็นของไร้ค่าในทันใด

 
คุณพ่อ : นี่แหละลูก ของอะไรที่ยังคงเป็นความลับ คนมักยอมทำตามทุกอย่างที่จะได้สมความปราถนา
มีความอยากดู อยากรู้ อยากเห็น แต่เมื่อสมปราถนาแล้ว ดูบ่อยๆก็มักจะเบื่อ ให้ดูฟรีๆยังไม่อยากดูเลย
เช่นกันสิ่งที่พึงหวงสำหรับสตรี ก็เป็นสิ่งที่มีค่า ถ้าใครได้รู้ก่อนเวลาอันควร ก็จะไม่มีค่าอะไรอีกต่อไป ไม่ต่างจากเหรียญ 5 บาท ที่พ่อให้ลูกดูฟรีหรอก

 
แล้วเหรียญ 5 บาทของคุณยังคงมีค่าอยู่หรือไม่
40  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / การหลับตาที่ถูกวิธีในการนั่งสมาธิ เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 01:08:37 pm
การหลับตาที่ถูกวิธีในการนั่งสมาธิ

หลับตาสบายๆ แค่ผนังตาปิดเบาๆ อย่าเม้มตาแน่น อย่าบีบหัวตา และอย่ากดลูกนัยน์ตา หลับตาสักครึ่งลูก ปรือๆ สบายๆ

หลับ ตาเบาๆ คล้ายๆ กับเรานอนหลับ ปรือ ๆ ตา หลับตาซัก 80-90 % จนกระทั่งเรา ไม่มีความรู้สึกว่าหลับตา หรือลืมตา ให้ใจเข้าไปสู่ภายใน แล้วจะนั่งธรรมะสนุก นั่งจนกระทั่งเกิดความรู้สึกอยากนั่งเรื่อยๆ

เวลา หลับตา วางเปลือกตาให้เป็น ถ้าถูกส่วนแล้วมันแค่แตะไม่ถึงกับติด แค่สัมผัสเบาๆ เหมือนปรือๆ ตาเท่านั้น การปิดเปลือกตามีวัตถุประสงค์ไม่ให้เห็นภาพภายนอก ซึ่งจะพลอยทำให้ใจของเราฟุ้ง เหมือนเรา ปิดฉากปิดม่านของตาแค่นั้นเอง แล้วต่อจากนี้ไปเราไม่ใช้ลูกนัยน์ตากันเลย ลืมไปเลยว่าเรามีลูกนัยน์ตา

หลับ ตานี่สำคัญนะ ถ้าหลับตาเป็นจะเห็นภาพภายใน ถ้าหลับตาไม่เป็น ไปบีบเปลือกตา แบบคนทำตาหยี จะทำให้ปวดศีรษะ มึนศีรษะ แล้วไม่ได้ผลหรอก ถ้าหลับตาไม่เป็นมันก็ไม่เห็นภาพภายใน แสงสว่างจะไม่ค่อยเกิด

สังเกต ร่างกายว่ามีตึงหรือเครียดไหม ให้สังเกตให้ดีโดยเฉพาะบริเวณลูกนัยน์ตา เปลือกตา หัวคิ้ว บริเวณ นี้มักจะตึงง่าย เพราะเวลาปฏิบัติจริงๆ แล้วมักอยากเห็น เราก็ติดความเป็นมนุษย์ มักใช้ตามนุษย์ดูวัตถุ ทำให้เกิดการกดตาของเราไปดูในท้อง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้ตึง เราจึงต้องลืมธรรมชาติของมนุษย์ชั่วคราว

ที่มา : http://www.dmc.tv/index.php?module=meddetail&type=5&no=10
หน้า: [1] 2