ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จิตที่ยึดติด  (อ่าน 2000 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
จิตที่ยึดติด
« เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2013, 11:37:44 am »
0


จิตที่ยึดติด

    จิตทั้งหลายที่ไม่ได้ผ่านการอบรมจิตมาอย่างเพียงพอ จิตนั้นจะไปติดอยู่ในกุศลกรรม และอกุศลกรรม จิตจะเชื่อว่าบาปเป็นของตน บุญเป็นของตน ยึดมั่นถือมั่นเอาไว้ ทั้งกรรมดีและกรรมชั่วคิดว่าเป็นของของตน พอตายไปก็กลับมาเกิดเพราะยังไม่สิ้นกรรมที่ยึดมั่นถือมั่นไว้ จิตดวงนั้นยังยึดไว้ว่าเป็นของของตนเอง แม้กระทั่งกองบุญต่างๆ จิตก็เข้าไปยึดไว้อย่างไม่ยอมปล่อยวาง

    เมื่อยึดมั่นถือมั่นไว้ว่า บุญนั้นเป็นของของตน มันก็ต้องเกิดภพชาติขึ้นมาเพื่อรองรับกรรม ทั้งกรรมดีที่เรียกว่าบุญ และกรรมชั่วที่เรียกว่าบาป จิตดวงนี้ต้องมีภพขึ้นมาเพื่อรองรับกรรมต่างๆ ที่เชื่อว่าเป็นของตนไว้ พอจิตรองรับกรรมก็เกิดภพเกิดชาติขึ้นมา ยึดมั่นถือมั่นกรรมอันใดไว้ คิดว่าเป็นของของตน จิตก็จะดำเนินโดยเอากรรมมาเป็นบทบาทของชีวิตใหม่ ทำกรรมดีไว้ก็ได้ผลบุญ โครงสร้างเรื่องราวของชีวิตก็จะชักนำไปยังบุญนั้นมาเป็นกรรมที่ตนได้รับ ทำบาปทำอกุศลกรรมไว้ก็ได้รับความทุกข์ บทบาทของชีวิตก็ได้รับเอาความทุกข์ความเดือดร้อนเข้ามา

    ดังนั้น ชีวิตก็จะสลับกันทั้งบาปทั้งบุญ ทั้งทุกข์ทั้งสุข สลับกันไป แล้วแต่ว่ากรรมใดส่งผลก่อนหลัง ใครทำกรรมดีไว้มาก ก็มีเรื่องดีเข้ามามาก




   
    เปรียบเสมือนคนที่ฝันดี เป็นสุข คนเราก็เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในความฝัน ความคิดอันเป็นกรอบทำให้ความคิดของคนมันออกไปไม่ได้ ดวงจิตวิญญาณที่หลงยึดมั่นถือมั่นในความคิดความฝัน แล้วก็เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในความฝัน พอฝันเรื่องนี้จบไป ฝันเรื่องใหม่ก็เข้ามา เราออกจากความฝันเราเองไม่ได้เพราะว่ายึดมั่นถือมั่นคิดว่าเป็นจริง จิตยึดที่ไหน ปรุงที่ไหนก็จะยึดเป็นตัวเป็นตนที่นั่น

    จิตออกไปจากวังวนของการยึดมั่นถือมั่น ออกจากวังวนของบุญและบาปไม่ได้ ออกจากวังวนกุศลกรรม อกุศลกรรมไม่ได้ จิตก็เวียนว่ายตายเกิดอยู่เรื่อยๆ ก็ให้รู้ว่า
    กระบวนการการเกิดการตายเป็นอย่างนี้ แต่แค่รู้เฉยๆ มันก็ไม่ถึงพระนิพพาน
    เหมือนคนที่รู้จักพระนิพพาน ก็รู้จากการจินตนาการคาดเดาจากการฟังการอ่านแล้วก็จินตนาการ
    ซึ่งนั่นก็เป็นเพียงแค่รู้จักพระนิพพาน แต่การที่จะสำเร็จพระนิพพานต้องเป็นการเข้าถึงพระนิพพาน เข้าถึงด้วยดวงจิตที่เข้าถึงสภาวะพระนิพพาน มีแต่การปฏิบัติเท่านั้นที่ดวงจิตจะเข้าถึงพระนิพพานได้

    คือจิตที่เท่าทัน เท่าทันทุกอย่าง เท่าทันหมดสิ้นแล้วก็เข้าถึงพระนิพพาน เป็นการเกิดปัญญาเรียกว่าปัญญาพระนิพพาน พอจิตเกิดหลุดพ้นก็ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก ก็เพราะจิตมันเท่าทันอะไรก็ตามที่เป็นอวิชชาที่ครอบงำจิตให้หลง





    พอจิตรู้แจ้งเห็นจริงซึ่งทุกอย่างแล้ว จิตก็ไม่มีที่ยึดที่เกาะ  ไม่มีกรรมอะไรที่ไปยึดมั่นถือมั่นไว้ จิตก็ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก จิตที่กลับมาเกิดก็เพราะยังมีความหลงอยู่ ยังคิดว่าเป็นของของตนอยู่ ยังคิดว่าเรื่องราวที่มีอยู่เป็นเรื่องจริง คิดว่าเป็นทรัพย์สิน คิดว่าเป็นสมบัติ เป็นของของเราจริงๆ

    เมื่อตายไป...ความยึดมั่นถือมั่นนี้ยังคงอยู่ไม่ยอมปล่อยวาง ยังยึดติดอยู่ การที่เราคิดว่าเราเป็นเจ้าของไม่ได้ตายไปด้วย ยังจองว่าเป็นของของตน เลยทำให้ดวงจิตวิญญาณนี้หลงว่าเป็นเจ้าของดวงจิต

    แท้ที่จริงแล้วมโนธาตุนี้เป็นธาตุรู้เฉยๆ แต่พอจิตเกิดอวิชชายึดมั่นถือมั่น คิดว่าเป็นของของตนขึ้นมาก็เลยมีเจ้าของ มโนธาตุตัวนี้เลยมีเจ้าของขึ้นมาเป็นจิตของเรา เป็นวิญญาณของเรา เพราะว่ามีเจ้าของขึ้นมาแล้ว แต่เดิมนั้นเป็นธาตุรู้เฉยๆ  แต่พอมีเจ้าของขึ้นมาก็เลยกลายเป็นจิตวิญญาณของเรา.


ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/190513/73740
ขอบคุณภาพจาก http://www.madchima.org/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: จิตที่ยึดติด
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2013, 08:23:38 pm »
0
 st11 st12
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: จิตที่ยึดติด
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2013, 12:23:16 pm »
0
 st12 st12 st12 st11
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ