ก่อนอ่านคำตอบ กรุณาอ่านข้อธรรมต่างๆที่เสนอมาให้เข้าใจด้วยครับ
ตอบคำถามคุณแบน คุณแบนถามว่า“ภาวนา พุทธานุสสติ ใช้คำอื่นนอกจากคำว่า พุทโธ ได้หรือไม่ครับ”
ผมสงสัยมากครับ เวลาพระท่านสอนนั่งกรรมฐาน ทีไรต้องใช้คำว่า พุทโธ ทุกครั้ง
ใน เมื่อเราฝึก พุทธานุสสติกรรมฐาน แล้วภาวนาด้วยคำอื่นๆใน บทพุทธคุณได้หรือป่าวครับผมขอสรุปคำถามคุณแบนเป็นสองข้อ
๑. เวลาพระสอนกรรมฐาน ทำไมต้องใช้คำบริกรรมว่า พุทโธ
๒. พุทธานุสสติกรรมฐาน ใช้คำภาวนา อื่นๆในบทพุทธคุณได้หรือเปล่า(นอกจาก พุทโธ)ก่อนจะตอบคำถาม เรามาทำความเข้าใจกับคำว่า “บริกรรม” กันก่อน
บริกรรม 1. (ในคำว่า “ถ้าผ้ากฐินนั้น มีบริกรรมสำเร็จด้วยดี”) การตระเตรียม, การทำความเรียบร้อยเบื้องต้น เช่น ซัก ย้อม กะ ตัด เย็บ เสร็จแล้ว
2. สถานที่เขาลาดปูน ปูไม้ ขัดเงา หรือชักเงา โบกปูน ทาสี เขียนสี แต่งอย่างอื่น เรียกว่าที่ทำบริกรรม ห้ามภิกษุถ่มนำลาย หรือนั่งพิง
3. การนวดฟั้น ประคบ หรือถูตัว
4. การกระทำขั้นต้นในการเจริญสมถกรรมฐาน คือ กำหนดใจโดยเพ่งวัตถุ หรือนึกถึงอารมณ์ที่กำหนดนั้น ว่าซ้ำๆ อยู่ในใจ อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อทำใจให้สงบ
5. เลือนมาเป็นความหมายในภาษาไทย หมายถึงท่องบ่น, เสกเป่า
บริกรรมภาวนา ภาวนาขั้นต้นหรือขั้นตระเตรียม คือ กำหนดใจ โดยเพ่งดูวัตถุ หรือนึกถึงพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เป็นต้น ซ้ำๆ อยู่ในใจ
ขอให้ทุกท่านทำความเข้าใจกับ ความหมายของคำว่า “บริกรรมในข้อ ๔ “
และความหมายของคำว่า “บริกรรมภาวนา “ให้ดีนะครับ
ต่อไปถ้าผมกล่าวถึง คำว่า “บริกรรม” จะหมายถึง สองคำนั้น
---------------------------------
ตอบคำถามข้อแรก๑. เวลาพระสอนกรรมฐาน ทำไมต้องใช้คำบริกรรมว่า พุทโธ ?
คุณแบนไม่ได้ระบุว่า เป็นกรรมฐานกองไหน(จากทั้งหมด ๔๐ กอง)
แต่ถ้าหมายถึงแนวการสอนในสายพระป่า รวมทั้งสายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำแล้ว
ก็จะเป็นพุทธานุสสติ บวกกับอานาปานสติ โดยกำหนดให้บริกรรมว่า
“พุท” เวลาหายใจเข้า และ ตามด้วย “โธ” เวลาหายใจออก
วิธีบริกรรมแบบนี้ ผมไม่ทราบว่าใครเป็นต้นตำรับ จึงบอกเหตุที่แท้จริงไม่ได้
ได้แต่สันนิสฐานตามคนอื่นๆไป คงเป็นเพราะ พุทโธ พอดีกับลมหายใจเข้าออก
และที่สำคัญในบทพุทธคุณ ๙ ประการนั้น พุทโธเป็นคำเดียวที่มีสองพยางค์
นอกนั้น มีสามพยางค์ขึ้นไปทั้งสิ้นเรามาพิจารณาตามพระไตรปิฎก(มหานามสูตร) จะเห็นว่าพระองค์ไม่ได้บอกให้ใช้คำบริกรรมพุทโธเลย
เพียงแต่บอกว่า สาวกของท่านที่เป็นอริยะสาวกแล้ว ย่อมระลึกถึงพระองค์ว่า
เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ
ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว
ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า
เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เป็นผู้เบิกบานแล้ว
เป็นผู้จำแนกธรรม เป็นที่น่าสังเกตว่าในชั้นของอรรถกถา ระบุชัดเจนว่า พระสูตรนี้ตรัสถึงโสดาบันแต่อย่างเดียว
นั่นอาจนำมาซึ่งคำถามว่า “การระลึกถึงพุทธคุณของปุถุชนเป็นไปได้รึเปล่า”
หรือมีไว้เฉพาะอริยสาวกมหานามสูตรที่ ๑๐ นี้สำคัญมาก ผมสังเกตจากข้อธรรม พุทธคุณ ๙ ธรรมคุณ ๖ และสังฆคุณ ๙
ในพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรมของท่าน ป.อ.ปยุตโต
ทั้งสามหัวข้อนี้ ล้วนสงเคราะห์มาจาก สูตรนี้ทั้งหมด
คราวนี้ลองมาดูคัมภีร์วิสุทธิมรรคกันบ้าง อนุสสติทั้ง ๑๐ ในคัมภีร์นี้ ไม่ได้ระบุวิธีบริกรรมแบบนี้เอาไว้
ในส่วนของพุทธานุสสติ ให้ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ไม่ได้บอกให้ใช้คำบริกรรมว่า พุทโธ
และในส่วนของอานาปานสติ กำหนดให้นับเป็นคู่ๆเท่านั้น ไม่ได้บอกให้ใช้คำบริกรรมว่า พุทโธดังนั้น การใช้ พุทธานุสสติ ร่วมกับอานาปานสติ น่าจะเกิดหลังจาก การรจนา คัมภีร์วิสุทธิมรรคแล้ว
นั่นหมายถึง กรรมฐานมัชฌิมาดั้งเดิมนั้น ก็น่าจะไม่มีคำบริกรรมว่า “พุทโธ” เนื่องจากคัมภีร์วิสุทธิมรรคได้แปลมาจาก คัมภีร์วิมุตติมรรค ซึ่งเป็นคัมภีร์ของกรรมฐานมัชฌิมานั่นเอง
(อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ อย่าซีเรียส)
อนึ่ง หากท่านใดอยากทราบว่า ทำไมต้องรวมพุทธานุสสติเข้ากับอานาปานสติ
ผมตอบได้เลยวา ลำพังพุทธานุสสติ จะทำได้แค่อุปจารสมาธิ หากต้องการ “ฌานสมาบัติ”
ต้องนำอานาปานสติมาร่วมด้วย อ่านรายละเอียดเรื่องนี้ได้ที่ห้องสนทนาธรรม ในหัวข้อ
“พุทธานุสสติ มีกำลังถึงสมาบัติ ๘ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)” ตามลิงค์นี้ครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=509.0---------------------------------
ตอบคำถามข้อสอง๒. พุทธานุสสติกรรมฐาน ใช้คำภาวนา อื่นๆในบทพุทธคุณได้หรือเปล่า(นอกจาก พุทโธ) ?
ถ้าคุณแบนหมายถึงการระลึกถึงพุทธคุณ ในพุทธานุสติอย่างเดียว โดยไม่นำไปกี่ยวกับอานาปานสติแล้ว
ในพระไตรปิฎกไม่ได้ห้ามว่า “จะต้องระลึกข้อไหนบ้าง ทั้งหมดหรือบางข้อ”
ความเห็นของผม ก็คือ ใช้คำอื่นๆได้ไม่ผิด
ส่วนในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ระบุชัดเจนว่า ใช้ทั้งหมดก็ได้ หรือใช้ข้อใดข้อหนึ่งก็ได้
หากใช้ข้อใดข้อหนึ่ง ต้องระลึกถึงหลายๆนัย(ความหมาย)---------------------------------------
อันนี้ผมแถมให้ในการตอบคำถามข้อแรก ผมได้ตั้งคำถามทิ้งเอาไว้ว่า
“การระลึกถึงพุทธคุณของปุถุชนเป็นไปได้รึเปล่า” หรือมีไว้เฉพาะอริยสาวก
ผมมีข้อมูลบางอย่างมาให้พิจารณา ดังนี้ครับ
พระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม(มหามกุฏ)
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖
อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
ทุติยวรรคที่ ๒
มหานามสูตรที่ ๑(ขอแสดงเฉพาะข้อความที่สำคํญ)
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดีละๆ มหาบพิตร การที่มหาบพิตรเสด็จเข้า
มาหาตถาคตแล้วตรัสถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันผู้อยู่ด้วยธรรมเครื่อง
อยู่ต่างๆ จะพึงอยู่ด้วยธรรมเครื่องอยู่อะไร ดังนี้ เป็นการสมควรแก่มหาบพิตร
ผู้เป็นกุลบุตร ดูกรมหาบพิตร
กุลบุตรผู้มีศรัทธาย่อมเป็นผู้บริบูรณ์ ผู้ไม่มีศรัทธาย่อมไม่เป็นผู้บริบูรณ์
ผู้ปรารภความเพียรย่อมเป็นผู้บริบูรณ์ ผู้เกียจคร้านย่อมไม่เป็นผู้บริบูรณ์
ผู้มีสติตั้งมั่นย่อมเป็นผู้บริบูรณ์ ผู้มีสติหลงลืมย่อมไม่เป็นผู้บริบูรณ์
ผู้มีจิตตั้งมั่นย่อมเป็นผู้บริบูรณ์ ผู้ไม่มีจิตตั้งมั่นย่อมไม่เป็นผู้บริบูรณ์
ผู้มีปัญญาย่อมเป็นผู้บริบูรณ์ ผู้มีปัญญาทรามย่อมไม่เป็นผู้บริบูรณ์ ดูกรมหาบพิตรมหาบพิตรทรงตั้งอยู่ในธรรม ๕ ประการนี้แล้ว
พึงทรงเจริญธรรม ๖ ประการให้ยิ่งขึ้นไป
ดูกรมหาบพิตร ในธรรม ๖ ประการนี้ มหาบพิตรพึงทรงระลึกถึง
พระตถาคตว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ
ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว
ทรงรู้แจ้งโลกเป็นสารถีฝึกบุรุษ ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า
เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เป็นผู้เบิกบานแล้ว
เป็นผู้จำแนกธรรม ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_line.php?B=24&A=7955หากพิจารณามหานามสูตรที่ ๑ แล้ว จะเห็น พระพุทธเจ้าได้บอก พระเจ้ามหานามะว่า
ก่อนที่จะเจริญพุทธานุสสติ ต้องมีเครื่องอยู่เป็นธรรม ๕ ประการ
ธรรม ๕ ประการที่พระพุทธองค์กล่าวถึง คือ อินทรีย์ ๕ นั่นเอง
อินทรีย์ ๕ เป็นหลักธรรม ในโพธิปักขิยธรรม ๓๗ เป็นหลักปฏิบัติเพื่อให้บรรลุธรรม
ในพระสูตรนี้ไม่ได้บอกว่า พระเจ้ามหานามะ เป็นอริยบุคคลรึเปล่า
ผมเองได้อ่าน มหานามะสูตรมา ๓ สูตร ทั้งสามสูตรไม่ได้บอกว่า เป็นอริยบุคคล
ผมขอสรุปเอาเองล่ะกัน ว่าปุถุชนก็เจริญพุทธานุสสติได้ แต่ควรทำอินทรีย์ ๕ ให้บริบูรณ์ก่อน---------------------------------------
ขอวิเคราะห์สักนิดหนึ่ง๑. คนส่วนใหญ่ที่บริกรรมพุทโธ น้อยคนนักที่จะระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าได้
ที่บริกรรมพุทโธ ก็เพราะ อาจารย์สั่งให้ทำ
ดังนั้น การบริกรรมพุทโธ จึงเป็น “การเพ่งคำว่าพุทโธ แต่อย่างเดียว โดยไม่ทราบความหมายของมัน”
เนื่องจากไม่เข้าใจว่าพุทธคุณเป็นอย่างไร
ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ได้อธิบายความหมายของพุทธคุณไว้อย่างพิศดาร
คุณของพระพุทธเจ้าลึกล้ำสุดคณนา ยากที่จะหยั่งถึง๒. พระราหุล อาจไม่ใช้องค์แรกที่เรียนพุทธานุสสติ ตามที่คุณฟ้าใสเข้าใจ
จากการอ่านพุทธประวัติในพรรษาที่ ๒ หลังการตรัสรู้ของพระองค์
พระราหุลได้บรรพชาเป็นเณร ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ในครั้งแรก
ในครั้งนั้นมีอริยสาวกเสด็จตามพระองค์สองหมื่นรูป
ในจำนวนสองหมื่นรูปนั้น น่าจะมีอย่างน้อยก็รูปหนึ่งล่ะครับ ที่เจริญพุทธานุสสติ
และในมหานามสูตร ก็ระบุว่า อริยสาวกของพระองค์ส่วนใหญ่เจริญพุทธานุสสติ
นั่นคือเหตุผลที่ว่า “พระราหุลอาจไม่ใช่องค์แรกที่เรียนพุทธานุสสติ”
เพื่อนๆสมาชิกทุกท่านครับ ท่านคิดอย่างไร มีความเห็นอย่างไร แสดงให้ดูหน่อย
ขอให้ธรรมคุ้มครอง