5 ข้อปฏิบัติ สืบสานประเพณีสงกรานต์ ในช่วงโควิด-19 ระบาดข้อปฏิบัติ ประเพณีสงกรานต์ ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่อีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของคนไทย นั่นก็คือ “เทศกาลสงกรานต์” ถือเป็นประเพณีการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ของไทยที่ยึดถือปฏิบัติมาแต่โบราณ ทว่าในปีนี้อาจจะเงียบเหงาไม่คึกคักเหมือนทุกปี เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะยุติลงในเร็ววัน ทำให้ในปีนี้ต้องงดกิจกรรมการเล่นสาดน้ำกันไปก่อน เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไม่ให้กระจายไปวงกว้าง
ล่าสุดทางกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ประกาศแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาลประเพณีสงกรานต์เพิ่มเติม หลังจากที่ วธ. ได้ออกประกาศกระทรวงวัฒนธรรม เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีการต่างๆ กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา โดยให้ใช้แนวทางปฏิบัติที่มีการปรับปรุงฉบับใหม่ ดังนี้งดเว้นการรดน้ำญาติผู้ใหญ่ เลี่ยงการสัมผัสมือผู้สูงอายุ
1. งดเว้นการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ
ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีจะมีการจัดเทศกาลสงกรานต์ขึ้น แต่ด้วยการแพร่ระบาดไวรัสนี้ ทำให้หลายพื้นที่ออกประกาศงดจัดงานสงกรานต์ งดจัดกิจกรรมที่มีการชุมนุมและมีคนจำนวนมาก เพื่อป้องกันการระบาดไวรัสโควิด-19
2. งดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา
การงดเว้นเดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากเราอาจนำเชื้อไวรัสไปแพร่สู่คนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวได้
3. งดเว้นการรดน้ำญาติผู้ใหญ่ทุกกรณี
ผู้สูงอายุนับว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงอันดับต้นๆ ในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะภูมิคุ้มกันต่ำกว่าวัยอื่นๆ ดังนั้นเราจึงควรเว้นระยะห่าง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสมือกับผู้สูงอายุ
4. งดการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโดยเด็ดขาดสรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน ลดโอกาสติดเชื้อไวรัสจากนอกบ้าน
5. เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ให้ปฏิบัติ ดังนี้
5.1 สรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน การสรงน้ำพระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคลรับขวัญวันปีใหม่ไทยนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งประเพณีดั้งเดิมที่คนไทยปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน ด้วยสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้นเราควรสรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้านเพิ่มความสิริมงคล และเป็นการลดโอกาสติดเชื้อไวรัสจากนอกบ้านอีกด้วย
5.2 การแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ และญาติผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ใช้วิธีการกราบไหว้และขอพร โดยเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดทั้งนี้ สมาชิกในครอบครัวทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย
5.3 การแสดงความกตัญญูและขอพรต่อพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ที่อยู่ห่างไกลกัน ให้แสดงออกผ่านช่องทางโทรศัพท์หรือสื่อออนไลน์
@@@@@@
ทั้งนี้ ประกาศฉบับดังกล่าวของ วธ.มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วงเดือนเมษายนเป็นช่วงเทศกาลประเพณีสงกรานต์ และแม้ว่าจะมีการประกาศเลื่อนวันหยุดสงกรานต์และงดเว้นการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับแล้ว ก็อยากขอให้ทุกคนปฏิบัติตามประกาศของ วธ. และประกาศของ สธ. อย่างเคร่งครัดขอบคุณ :
https://mgronline.com/travel/detail/9630000036416เผยแพร่: 8 เม.ย. 2563 16:32 โดย: ผู้จัดการออนไลน์