ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หลังให้ทาน ต้องอธิษฐานอย่างไร.?  (อ่าน 1231 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28440
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
หลังให้ทาน ต้องอธิษฐานอย่างไร.?
« เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2016, 08:10:33 am »
0



หลังให้ทาน ต้องอธิษฐานอย่างไร.?
การอธิษฐานที่ถูกต้อง ฉบับท่าน ว.วชิรเมธี

ท่าน ว.วชิรเมธี อธิบายเรื่อง การอธิษฐาน ที่ถูกต้องหลังการให้ทานไว้ในบทความตอนหนึ่งว่า

ในอดีตกาลนานไกล มีมานพหนุ่มคนหนึ่งไปฟังธรรมที่วัด ครานั้นชายหนุ่มคนนี้ได้เห็นพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า ซึ่งถือกันว่าเป็นแม่ทัพแห่งกองทัพธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำลังถวายงานอยู่ จากการเห็นพระอัครสาวกรูปนั้นทำให้ท่านเกิดแรงบันดาลใจว่า อยากจะเป็นเช่นนั้นบ้าง ท่านจึงตั้งสัตยาธิษฐานว่า “สาธุ ด้วยทานที่ลูกทำนี้ เกิดชาติหน้าฉันใดขอให้ลูกได้เป็นอัครสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยเถิด”

การอธิษฐานอย่างนี้ไม่ได้เกิดจากแรงจูงใจคือความโลภ แต่เป็นการอธิษฐานเพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นอริยสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการอธิษฐานเพื่อเลื่อนคุณภาพจิตของตนเองให้สูงขึ้นจากปุถุชนเป็นอริยชน เป็นการอธิษฐานเพื่อให้ตนได้บำเพ็ญประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติอธิษฐานอย่างนี้เกิดจากธรรมฉันทะ ซึ่งถือกันว่าเป็นแรงจูงใจใฝ่สร้างสรรค์ เป็นแรงจูงใจในเชิงบวก เป็นแรงจูงใจที่ถูกต้องผลแห่งแรงอธิษฐานนี้ทำให้ต่อมาท่านได้เกิดเป็นพระธรรมเสนาบดีสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน


 st12 st12 st12 st12

พระสาวกอีกรูปหนึ่งที่ตั้งสัตยาธิษฐานแล้วได้สมปรารถนาคือ พระอัญญาโกณฑัญญะ ในอดีตชาตินั้น เมื่อท่านทำบุญแล้ว ท่านได้ตั้งสัตยาธิษฐานว่า “ขอให้ข้าพเจ้าได้เป็นสาวกคนต้น ๆ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสักพระองค์หนึ่ง” เหตุผลก็เพราะว่า ท่านถวายทานยอดข้าว พูดง่าย ๆ ว่า เมื่อเสร็จจากฤดูการทำนาแล้วได้ข้าวสารมาใหม่ ๆ เขาเรียกว่าเป็นข้าวอันเลิศ ทางเมืองเหนือยังมีประเพณีนี้อยู่เขาเรียกว่าประเพณีถวายข้าวใหม่ (ทานข้าวใหม่) คือเมื่อเสร็จฤดูการทำนาแล้วชาวบ้านจะยังไม่เอาข้าวนั้นมาหุงหาอาหารเพื่อตนเอง แต่จะเอาข้าวนั้นมาหุงหาทำอาหาร แล้วเอาข้าวสวย ข้าวเหนียวซึ่งเป็นข้าวจานแรก ข้าวก้อนแรก ข้าวกระติบแรกที่ได้จากการทำนาในปีนั้น ๆ ไปน้อมถวายพระสงฆ์ แล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษ เรียกว่าประเพณีทานข้าวใหม่ “ทาน” ในที่นี้ก็คือ “ถวาย”นั่นเอง ประเพณีถวายข้าวใหม่นั้นหมายถึงของที่ดีที่สุด ข้าวที่ดีที่สุด ตัวเองจะยังไม่กินถ้ายังไม่ได้ถวายพระสงฆ์

ในอดีตกาลก็เหมือนกัน ท่านอัญญาโกณฑัญญะถวายทานข้าวใหม่อย่างนี้ แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า “เนื่องจากข้าวใหม่ที่ถวายนี้เป็นข้าวอันเลิศ เป็นข้าวก้อนแรกเป็นข้าวสวยจานแรกที่ได้จากนาที่ลงแรงลงกำลังทำมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานอันบริสุทธิ์ ด้วยเหตุที่ว่า ข้าพเจ้าได้น้อมถวายข้าวอันประเสริฐ เป็นเลิศ เป็นยอดขอให้กุศลผลบุญนี้อำนวยอวยชัยให้ข้าพเจ้าจงได้เป็นสาวกคนที่หนึ่งของพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลนานไกลด้วยเทอญ”

ปรากฏว่า ด้วยทานชนิดนี้หรือด้วยแรงปรารถนานั้น ท่านได้กลายเป็นปฐมสาวก หมายถึง สาวกคนที่หนึ่งที่ตรัสรู้ตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงๆ


 :25: :25: :25: :25:

เพราะฉะนั้นคนสมัยก่อนเวลาท่านทำบุญให้ทาน ท่านอธิษฐานหาคุณภาพชีวิตอธิษฐานเพื่อการพัฒนาตนเองให้เป็นมนุษย์ที่ประเสริฐเลิศล้ำ อธิษฐานด้วยแรงจูงใจที่เป็นบุญเป็นกุศล ไม่ใช่อธิษฐานด้วยความโลภ เช่น “สาธุ ขอให้ได้จากัวร์สักคันขอให้ได้ครอบครองเครื่องบินเจ็ตสักลำหนึ่งหรือสาธุ ขอให้รวยสักสิบล้าน ยี่สิบล้านภายในปีนี้ด้วยเทอญ”

การอธิษฐานอย่างนี้ถือว่าเป็นการอธิษฐานด้วยอำนาจของความโลภ กลายเป็นการเอากิเลสอ่อนไปแลกกิเลสแก่ ทำให้ทานที่ทำไม่บริสุทธิ์ เป็นแต่เพียงการลงทุนทางจิตวิญญาณชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง

 :96: :96: :96: :96:

คนโบราณนั้นเมื่อทำบุญแล้ว ท่านมักอธิษฐานว่า

“สาธุ พระคุณเจ้าได้เห็นธรรมอันใด ขอให้ข้าพเจ้าจงได้เห็นธรรมอันนั้นเช่นเดียวกันกับพระคุณเจ้าด้วยเถิด”

นี่คือการอธิษฐานเพื่อให้ได้ดวงตาเห็นธรรมหรืออธิษฐานเพื่อให้ได้เป็นพระโสดาบัน นี่คือวิธีอธิษฐานที่ถูกต้อง ไม่เหมือนคนสมัยนี้ ทำบุญอย่างหนึ่ง อธิษฐานขอร้อยแปดพันเก้า ยิ่งอธิษฐาน ความโลภก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น มากขึ้น ยิ่งเข้าวัดกิเลสก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น มากขึ้น กิเลสไม่ได้ลดลง ความโลภไม่ได้ลดลง การให้ทานจึงเป็นการลงทุนทางจิตวิญญาณชนิดหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นถ้าจะให้ทานโดยเฉพาะวัตถุทานให้ถูกต้อง เราต้องให้เพื่อกำจัดความตระหนี่ถี่เหนียว ตั้งเจตนารมณ์ให้เป็นบุญเป็นกุศลแล้วให้ทาน

หากทำได้อย่างนี้ นี่แหละคือการทำทานที่ถูกต้อง
เมื่อทำถูกต้องแล้ว แม้วัตถุจะน้อยนิดแต่อาจให้ผลสัมฤทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ไพศาล


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.goodlifeupdate.com/41099/healthy-mind/prayv/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: หลังให้ทาน ต้องอธิษฐานอย่างไร.?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2016, 04:54:12 pm »
0
 thk56 thk56
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: หลังให้ทาน ต้องอธิษฐานอย่างไร.?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2016, 06:32:40 pm »
0
  ต้องอธิฐานนะครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา