ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระโกณฑธานเถระ ภิกษุผู้มีสตรีติดตามอยู่เบื้องหลัง  (อ่าน 2281 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



พระโกณฑธานเถระ ภิกษุผู้มีสตรีติดตามอยู่เบื้องหลัง

ในสมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ มีพระภิกษุ 2 รูปเป็นสหายรักใคร่กลมเกลียว เอื้อเฟื้อแบ่งปันเสมือนหนึ่งว่าเกิดจากครรภ์มารดาเดียวกัน วันหนึ่งพระภิกษุ 2 รูปนั้นจะไปทำอุโบสถที่โรงอุโบสถ ระหว่างทาง พระภิกษุรูปหนึ่งปวดอุจจาระ จึงบอกสหายให้คอยอยู่ก่อน ส่วนตนจะขอแวะทำสรีรกิจในพุ่มไม้ พระโกณฑธานเถระ

ขณะนั้นเทวดาผู้เกิดในดาวดึงส์ซึ่งมีนิสัยเกเรองค์หนึ่งเห็นพระภิกษุทั้งสองรูปรักใคร่กลมเกลียวกันยิ่งนัก อยากจะให้แตกกัน จึงปลอมเพศเป็นหญิงสาวสวย  เมื่อพระภิกษุรูปนั้นทำสรีรกิจเสร็จแล้วเดินออกมา เทวดาในรูปของหญิงงามก็จงใจเดินตามออกมาจากพุ่มไม้ด้วย เพื่อให้สหายที่คอยอยู่เห็นครั้นเมื่อเทวดารู้ว่าพระภิกษุผู้รอคอยเห็นพฤติกรรมของตนแล้ว ก็ซ่อนกายหายไปจากที่ตรงนั้น

เมื่อพระภิกษุรูปนั้นเดินเข้ามาใกล้ พระภิกษุผู้รอคอยได้กล่าวขึ้นว่า “ผู้มีอายุ ศีลของท่านวิบัติเสียแล้ว”

     “ทำไมหรือท่าน” พระภิกษุรูปที่เพิ่งทำสรีรกิจเสร็จกล่าวถามด้วยความสงสัย
     “ข้าพเจ้าเห็นหญิงรุ่นสาวคนหนึ่งเดินตามหลังท่านออกมาจากพุ่มไม้ เธอเกล้าผมเสียใหม่และจัดแจงผ้านุ่งให้เรียบร้อย การเข้าไปของท่านก็มิใช่ประเดี๋ยวประด๋าว อาการอย่างนี้จะให้หมายความว่าอย่างไร นอกจากศีลของท่านได้ถึงความวิบัติกับสตรีนั้นแล้ว ท่านอย่าปฏิเสธเลย ข้าพเจ้าเห็นกับตาตัวเอง” พระภิกษุผู้รอคอยตอบ

     เมื่อได้ฟังเช่นนั้น พระภิกษุรูปนั้นตกใจเป็นอันมาก กล่าวว่า 
     “ท่านอย่าให้ข้าพเจ้าต้องวิบัติเลย ข้าพเจ้ามิได้ทำกรรมอย่างนั้นจริงๆ”


 :96: :96: :96: :96:

แต่พระภิกษุผู้สหายไม่ฟัง เมื่อถึงโรงอุโบสถ พระภิกษุผู้เห็นเหตุการณ์ก็ไม่ปรารถนาจะทำอุโบสถร่วมด้วย เพราะถือว่าพระภิกษุอีกรูปหนึ่งไม่มีศีลเสียแล้ว ท่านได้บอกแก่สงฆ์ในชุมนุมนั้นว่าได้เห็นมาอย่างไร ส่วนภิกษุผู้ถูกกล่าวหาได้พยายามชี้แจงว่ามิได้ทำกรรมอย่างนั้น จึงอ้อนวอนขอความเห็นใจจากสงฆ์

ฝ่ายเทวดาที่กลั่นแกล้ง เมื่อเห็นเรื่องเลยเถิดไปอย่างนั้นก็เกิดร้อนตัวกลัวกรรม จึงยืนอยู่ในอากาศเล่าความจริงทั้งหมดให้เหล่าพระภิกษุฟัง และขอให้พระภิกษุทั้งสองจงทำอุโบสถร่วมกันเถิด เมื่อได้ฟังอย่างนั้น ภิกษุผู้เห็นเหตุการณ์จึงยอมทำอุโบสถร่วม แต่ความสนิทชิดเชื้อกลับมิได้เหมือนเดิมเสียแล้ว

เมื่อสิ้นอายุ พระภิกษุทั้งสองบังเกิดในเทวโลก ส่วนเทวดาจุติ (ตาย) จากเทวโลกแล้วเกิดในอเวจีมหานรก และต้องหมกไหม้อยู่ในอเวจีหนึ่งพุทธันดร ครั้นในกาลแห่งพระพุทธเจ้าของเรานี้ ท่านจึงมาเกิดในเมืองสาวัตถี เมื่อเจริญวัยก็ได้บรรพชาอุปสมบท และนับแต่วันที่ท่านบวชก็ปรากฏรูปสตรีตามไปเบื้องหลังของท่านตลอด ภิกษุทั้งหลายจึงเรียกท่านว่า “โกณฑธาน”

 :91: :91: :91: :91:

ภิกษุทั้งหลายเห็นพระโกณฑธานมีสตรีตามหลังอยู่เสมอจึงรังเกียจ พากันทูลเรื่องนี้แก่พระเจ้าปเสนทิโกศลว่า   “ภิกษุชื่อโกณฑธานเที่ยวไปโดยมีสตรีตามหลังอยู่เสมอ ยังความเสียหายให้เกิดขึ้นแก่ภิกษุทุกรูป ขอพระองค์จงไล่ภิกษุนั้นออกเสียจากแคว้นเถิด”

ฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศล เมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็เสด็จมายังเชตวนาราม ทรงให้ราชบุรุษล้อมที่อยู่ของพระโกณฑธานไว้ ทรงผินพระพักตร์ตรงไปยังด้านหน้าของกุฏินั้น พระโกณฑธานได้ยินเสียงอึงคะนึงจึงออกมายืนดูที่หน้ามุข ทันใดนั้นพระราชาก็ทรงมองเห็นว่าที่เบื้องหลังของพระโกณฑธานมีสตรีนางหนึ่งยืนอยู่ด้วย แต่ครั้นเมื่อพระราชาทรงเข้าไปหาพระโกณฑธานภาพสตรีนั้นก็หายไป แม้จะทรงตรวจดูทุกหนแห่งก็มิทรงเห็นจึงตรัสถามว่า

    “สตรีนั้นไปอยู่ที่ไหน พระคุณเจ้าโปรดบอกเถิด ข้าพเจ้าเห็นสักครู่นี้เอง”
    “ขอถวายพระพร คนทั้งหลายก็พูดกันอย่างนี้เหมือนกันแต่อาตมภาพไม่เห็นสตรีนั้นเลย”

พระราชาจึงทรงขอให้พระโกณฑธานลองไปยืนที่หน้ามุขอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พระองค์ก็ทอดพระเนตรเห็นสตรีนั้นอีก จึงทรงแน่พระทัยว่าเป็นภาพหลอกตา หาใช่สตรีจริงไม่ จึงตรัสกับพระโกณฑธานด้วยความกรุณาว่า

     “พระคุณเจ้า การที่มีรูปอันเศร้าหมองแก่สมณเพศเที่ยวติดตามอยู่เช่นนี้ไม่เป็นมงคล คนทั้งหลายจะไม่ถวายอาหารแก่ท่าน ขอท่านจงเข้าไปในพระราชวังเป็นเนืองนิตย์เพื่อรับอาหารบิณฑบาตจากข้าพเจ้าด้วยเถิด” 
      กล่าวดังนี้แล้วก็เสด็จกลับ





พระภิกษุทั้งหลาย เมื่อทราบเรื่องนี้แล้วกลับโพนทะนาว่า  “ดูเถิดผู้มีอายุทั้งหลาย! ขอท่านทั้งหลายจงดูกิริยาของพระราชาลามก พระองค์ได้ปวารณาพระโกณฑธานด้วยปัจจัยสี่แทนการไล่ออกจากวิหาร” และเมื่อพบพระโกณฑธานก็พากันกล่าวประณาม

ฝ่ายพระโกณฑธาน ก่อนหน้านี้ไม่เคยเอ่ยปากโต้ตอบใครเลย แต่มาบัดนี้ เมื่อเข้าใจว่าพระราชาเป็นกำลังสนับสนุนก็กำเริบใจ กล่าวโต้ตอบภิกษุทั้งหลายว่า “พวกท่านนั่นแหละเป็นผู้ทุศีลพวกท่านเป็นคนชั่วช้าและพาผู้หญิงเที่ยวไป”

เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ พระภิกษุทั้งหลายจึงนำความนั้นกราบทูลพระศาสดา เมื่อพระองค์ทรงเรียกมาไต่ถามทั้งสองฝ่ายแล้ว จึงตรัสกับพระโกณฑธานว่า

     “พระภิกษุเหล่านั้นเห็นหญิงเที่ยวไปกับเธอจึงกล่าวเช่นนั้น แต่เธอไม่เห็นหญิงเที่ยวไปกับพระภิกษุเหล่านั้นเลย เหตุไฉนจึงไปด่าว่าเขา การที่เธอมีภาพหญิงเที่ยวติดตามไปเบื้องหลังนั้น เพราะกรรมอันลามกของเธอในอดีต เหตุไฉนในบัดนี้จึงถือทิฏฐิชั่วอีกเล่า”

ask1 ask1  ans1 ans1

พระภิกษุทั้งหลายทูลถามว่า ภิกษุชื่อโกณฑธานได้ทำกรรมอะไรไว้ พระศาสดาทรงแสดงบุพกรรมของพระโกณฑธานเมื่อสมัยเป็นเทวดา แล้วตรัสเตือนพระโกณฑธานว่า

     “เธออาศัยกรรมอันชั่วช้าของตน จึงได้รับผลอันแปลกประหลาดเช่นนี้ บัดนี้ไม่ควรถือทิฏฐิชั่ว กล่าวคำหยาบกับใคร ๆ เพราะเมื่อเขาถูกด่าว่า ก็จะด่าว่าท่านตอบมา อันการกล่าวแข่งดีกันนั้น เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ แล้วโทษต่างๆ จะหวนกลับมาถึงตัวท่าน ถ้าท่านทำตนไม่ให้หวั่นไหว (อยู่อย่างสงบเสงี่ยม ไม่มีปากไม่มีเสียง) เหมือนกังสดาล (ระฆัง) ที่ปากขาดแล้ว  ท่านก็จะถึงนิพพาน”

เมื่อได้ฟังเช่นนั้น พระโกณฑธานก็ตั้งตนอยู่ในโอวาทของพระศาสดา ไม่นานนักก็ได้บรรลุอรหัตตผล  



บทความนี้เคยลงตีพิมพ์ในนิตยสาร Secret
เรื่อง เก็บมาเล่าโดย ขวัญ เพียงหทัย คอลัมน์ Dhamma Tales
ภาพ ศรายุธ นกแก้ว
http://www.goodlifeupdate.com/41295/healthy-mind/kontatantera/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

suchin_tum

  • ไม่กลับมาเกิด
  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 486
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
ขอน้อมอาราธนากำลังแห่งครูอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาจงมาประสิทธิ์ประศาสตร์

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ