การกําหนดรู้ ในชีวิตประจําวันจิตเพลิดเพลิน อยู่ในปีติในส่วนนามกาย และติด นิกันติ ในวิปัสนูปกิเลส ...การกําหนดอย่างนี้ ดับกิเลสได้ชั่วคราว เป็นครั้งๆคราวๆไป ที่ว่าสุขคือเพลินอยู่ในลมความคิด เพลินอยู่ในปีติ และผ่านไปจากหมวดกายไม่ได้ ก็คือ ที่จะพ้นข้ามเวทนา สุขทุกข์ คงไม่ผ่าน เพราะติดอยู่ในกาย ขั้นจิต ขั้นธรรม ไม่ต้องไปนึกถึง เพราะเรื่องจะผ่านขั้นกายยังทําไม่ได้เลย ติดอยู่แค่อิริยาปทบรรพ เป็นหนึ่งในหมวด กายานุปัสนาสติปัฏฐาน คือหลงอยู่ในกาย....อย่าไปเรียกว่าเป็นสติปัฏฐาน4 นะเดี๋ยวจะหลงต้องมาเกิด และสุขทุกข์ก็ไม่ดับ ยังมีให้เห็นทุกวันอยู่แล้ว ปฏิบัติหวังเอามรรคผล พระพุทธองค์ บอกไว้อย่าให้เกิน7ปี.....ใครทํามาเกินนี้ให้ถอย รีบเปลี่ยนกรรมฐาน....เชื่อพระพุทธเจ้าใหม..พระพุทธองค์ว่าไว้พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง บางพวกว่าสายสมาธิทําให้ติดสุข ก่อนจะทิ้งสุขมันต้องรู้จักสุขก่อน สมาบัติแปดคือการเรียนรู้นามสุข คือนามกายและคือ องค์ประกอบแห่ง ปฏิสัมภิทามรรค องค์ฌานคือการเรียนรู้รูปกาย....การฝึกกรรมฐานแบบเข้าปีติ5 ก็เพื่อ ถึงกาย และจิตนั่นคือฌานและสมาบัติ(ได้เรียนความถือ-ความปล่อย)หรือรป-นาม เรียกได้หลายอย่าง รูปนามกายจิตก็คือปีติ5อันเดียวกัน....ติดสุขสมาธิ ก็เพื่อนําถึงสุขพระนิพพาน....เพราะพระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง หรือใครจะคัดค้านพระธรรมคําสอน...ไม่ต้องกลัวติด พระอาจารย์กรรมฐาน ท่านมีอุบาย คือกรรมฐานต่อเนื่องให้อีก เรื่องติดไม่มี...คําว่าติดสุขคงเป็นคําคม ของผู้ทําไม่ได้และถูกใช้มานานสืบทอดกันมา.........อย่าลืมไปขึ้นกรรมฐานที่คณะ5 วัดราชสิทธารามได้กราบบารมีสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน.....ขอให้โชคดีมีปราโมทย์กันทุกรูปทุกนาม..