ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ความต่างในการควบคุมแสงสว่างรัศมี ของกรรมฐานแต่ละแนว  (อ่าน 2089 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

suchin_tum

  • ไม่กลับมาเกิด
  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 486
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
   จะขอยกเหตุเฉพาะผู้ที่ฝึกท่านั่งเท่านั้นนะ เพราะท่านั่งมีสับคืบ-เข้าคืบ มีการสับธาตุ
         ความชอบในพระรัศมี ต้องควบคุม เพราะเป็นการเข้าสะกด เข้าขณิกา ในตัว กรรมฐานที่มีแบบแผน เช่น กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ เน้นความหมดจด ทั้ง สังขตะ และ อสังขตะ หมดกิเลส ทั้งรูป นาม  เน้นการเข้าให้ได้ถึงขั้น 5 และเรียนส่วนพระลักษณะก่อน เพื่อละความชอบไม่ชอบ ผู้ฝึก 5 ขั้นมีการสะกดแต่ละขั้น ไว้โดยครู ธาตุไม่หาย เดี๋ยวจะเปรียบเทียบกับ กรรมฐาน อื่นให้ดูซัก1
        ธาตุ 5 ที่ครูสะกดไว้ สนับสนุน การเข้าห้อง 4 เข้าถึงฌาน เพื่อเข้าถึง รูปวัตถุ 16 ญาณสติ 200 ตรงนั้นที่ครูบอกว่า เป็นสมถะอย่างเดียว เพราะปราศจาก ปีติ ยุคคล ขันธ์มีกิจเป็นอันเดียวกันไม่ล่วงเกินกัน
          ครั้งอดีต ครูบาที่เรียน กรรมฐานนี้น้อยองค์ ที่ไม่ได้ ปฏิสัมภิทา มันเกียวกับธาตุ 5 ตรงนี้ด้วย ก็คือองค์ 5 ครูจึงจี้ให้เรียนพุทธานุสสติก่อน เพื่อไปถึงผลตรงนั้น เพื่ออะไร เพื่อ ละ ความชอบไม่ชอบ จาก กายา ทั้งรูปกายและนามกาย
          ธาตุ 5 มีธาตุสุข และความหมดจรดแทรกอยู่ พระที่ละเอียด หรือไม่ละเอียด ครูเล่าให้ฟัง ที่ดุก็มี ที่แบกกลดหนีก็มี แต่ก็ได้พระทั้งหมดนะ แต่ความหมดจรดมันต่างกัน ที่ธาต ที่ได้
         จิตที่เอารัศมีที่ธาตุไหนก็ได้วิปัสสนาญาน แค่ธาตุนั้น จึงต้องมี อุบายมาก เพื่อให้ได้ เข้าให้ถึงความละเอียดหมดจรด เพราะธาตุที่เสียไปไป หาก ได้ไม่ครบ 5 คือเสียธาตุสุขไปแล้ว
        เมื่อจิตที่เอาแสงสว่าง รัศมี ก็เท่ากับเข้าสะกดตัวเองในตัว
     ผู้ที่ฝึกตามครู กรรมฐาน มัชฌิมา นั้นไม่ค่อยมีปัญหา เพราะครูท่านจะสามารถ ปรับกรรมฐาน หรือ แก้ไขให้ได้ เพราะครูท่านจะได้ นวหรคุณ แทบทุกองค์
      ####################################
                   แต่สําหรับผู้ที่ฝึกเอง ที่ไม่มีครู ส่วนใหญ่ ก็จะมีกิเลส ด้านชอบไม่ชอบ อยู่มาก จึงต้องคุม ปีติ ยุคคล เอาเอง ในเรื่องความชอบไม่ชอบ ต้องคุมเรื่องรัศมีด้วย ไม่งั้นธาตุสุข อาจจะหาย และได้ไม่ครบ หายตอนไหน ก็เมื่อจิตไปเอารูปรัศมี ก็เท่ากับเข้าสะกดตัวเอง ก็ต้องพึงสนใจอยู่กับการงานกรรมฐานที่ตัวเองทําอยู่ รัศมีก็จะหายไป ต้องคุมเอง อย่าเพิ่งด่วนไปเอาแสงสว่าง หรือเพ่งกสิน มันยังไม่ละเอียด หากมีครูตรงนี้ ครูท่านดูให้ เข้าพระรัศมีจะต้องเข้าตรงหน้าครูจะดี กันวิปลาส 
         ท่านเคยสงสัยบ้างใหม ว่า พระอริยะ ทําไมจึงมีหลายอย่าง และก็สอนไม่เหมือนกัน ก็เพราะท่านสอน ตามที่ท่านได้ บางองค์มีตาทิพย์ บางองค์ไม่ได้ตาทิพย์ ที่ไม่ได้เจโตท่านก็สอน ไม่ให้ติดเรื่องฤทธิ์ ก็เพราะท่านไม่ได้ แต่ท่านก็เป็นพระอรหันต์สุขวิปัสสก นะ ทําไม จึงมี วิชชา 3  อภิญญา 6   มีปฎิสัมภิทาญาณ มันอยู่ที่ธาตุ ทั้งหมด
           ผู้ที่ฝึกกรรมฐานควรเก็บธาตุไปให้หมด ท่านนําธาตมาเกิด 5 ธาต แต่ท่านไปด่วนคว้า พระรัศมี บางที ธาตุสุขที่น่าจะได้มันหายไปสองธาตุ  เสียธาตหมดจรดไปเลย ได้มาเกิด 5 ธาต เสียไปเพราะกิเลส ความโลภ กลัวไม่ได้เห็น รัศมี
          พระอริยะทีดุก็มี ไม่ดุก็มีมันเกี่ยวกับธาต  บางองค์ท่านได้หมดจรดทั้ง5 ธาตุ ไม่นอน หรือ นอนไม่หลับทั้งคืน เยอะแยะไป ท่านไม่ได้ออกมา แสดงก็เพราะท่านหมดจรด โดยความได้ที่ธาต ทั้ง5 นี้แหละ
 ควรมาเรียนพุทธานุสสติ จะได้ไม่หลง ไปในความชอบใจ ไม่ชอบใจ
      จบแค่ห้อง 1 ครูก็สะกดไว้ให้ครบแล้ว ธาตุไม่มีหาย สําหรับศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา
       จบพุทธานุสสติ ได้ขึ้นอานาปาห้อง 4กันทุกคน เพราะธาตมี เพราะมีครู
       นี้คือ อานาปาในพระสูตร
              ผู้ที่ปฏิบัติอานาปาแบบดูลม ก็ชอบเอามาเทียบกับพระสูตรเช่นกัน แต่มันเห็นลม ได้ลม คนละอย่างบอกกันไม่ได้  เพราะผู้ไม่ได้ถึงบอกไปมันก็ไม่รู้
        ติดรู้ติดตํารา อุปทานมันเยอะ
ควรมาทําความรู้จักธาตุรู้จักรูปนาม ก็คือ มาเรียน พุทธานุสสติแล้วไม่หลง ไม่สงสัย ไปตามลําดับ
           สนใจเรียนกรรมฐานนี้ ไปคณะ 5 วัดราชสิทธาราม พระอาจารย์กรรมฐานท่านใจดี ใครไปกราบสมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน ในช่วงนี้ ก็เป็นมงคลหลังปีใหม่ มีไก่แก้ปีชง วันนั้นผมได้รับมา 1 องค์ หรือใครจะดูไก่จริงก็มี ขอให้โชคดีทุกท่าน

บันทึกการเข้า
ขอน้อมอาราธนากำลังแห่งครูอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาจงมาประสิทธิ์ประศาสตร์

translate

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 105
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา ครับ ที่ได้โพสต์ เล่าให้ฟัง ถึงแม้ผมจะอ่าน ไม่เข้าใจ 80 % แต่ก็ยินดีที่มีศิษย์ในสายกรรมฐาน มัชฌิมา มาเล่าอะไรให้ฟังกันบ้างครับ

 
    :s_hi: :13: :13: :13:
บันทึกการเข้า