ธาตุอากาศเหมือนเป็นธาตุใจดําอะไรทํานองนั้น วันนี้คุยเรื่องมนุษย์กันดีกว่า เพราะเราคือมนุษย์ มีหน้าที่สร้างความดี
ต้องขออนุโมทนา สาธุ ให้คะแนนเต็มร้อย กับคุณพี่ NATTAPONSON และอีกหลายๆคน ที่ร่วมงานเผยแผ่กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ ช่วยเหลือครูบาอาจารย์ เพื่อถวายพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยเฉพาะ พระปรมาจารย์ สมเด็จพระสังฆราช พระญาณสังวร(สุก)ไก่เถื่อน ของเราทุกท่าน
ขอให้ร่วมความดีนี้กันไปจนกว่าจะหาไม่ ก็คือดสิ้นลมดับ ถวายหัวใจ ถวายชีวิตกันไปเลย ว่างั้น
ใครท้อ จะหาแรงใจด้วยวิธีง่ายๆก็ให้นึกคิดไป แบบนี้ เดี๋ยวอารมณ์พุทธานุสสติมันทรงตัว ก็เข้าใจอารมณ์เพิ่มขึ้น เองทุกคนเก่งได้เท่ากัน เพราะเป็นมนุษย์เหมือนกัน
การทํางานในพระศนา ก็มีที่ไม่สบอารมณ์ นั่นคือภพ ไม่ใช่เรา มันต้องมี มันต้องเกิด
ในบางคราวที่ภูมิใจ ดีใจ พอใจ มันก็ต้องมีด้วย มันก็ต้องมี มันก็ต้องเกิด
บางคราวเฉยๆ เมื่อกระทบกับทุกข์ หรือสุข หรือได้คําตอบที่ไม่ชอบใจ ไม่สมใจ หรือไม่ได้คําตอบเลย อารมณ์นี้ก็ต้องมีก็ต้องเกิด
เป็นของดี นะจ๊ะ เป็นการเข้าปีติโดยธรรมชาติ หาซื้อไม่ได้นะ ประสบการณ์ กับเหล่ากัลญาณมิตรอย่างเราๆ
ก็ยังดีกว่าไปคบโจร หรือ ขนาดโจรยังยอมพระตถาคตเราเลย อะไรที่มนุษย์ทําไม่ได้ ไม่มี อย่างพระเทวทัตตอนนี้เข้าปีติอยู่ ในนรก แต่ก่อนเข้าปีติรู้ตัว ยกพนมอธิฐานไว้ เดี๋ยวท่านก็ต้องมา
บางทีเราอย่าได้ไปคิด ว่าคนนั้นทําไมเป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้ ทุกคนอยู่กันตาม ปีติ ตามจริต
ธาตุประจําตัวมีไม่เหมือนกัน
บางทีเราคิดอย่าง บางคนอาจจะมองว่าเราบ้าอยู่ก็ได้ แต่ในเวลาตรงกัน เรากําลังคิดว่าเราวิเศษอยู่ การทําอะไรเพื่อเอาโล่ เพื่อให้เป็นแบบที่เราตั้งอารมณ์ไว้ บางทีมันก็ต้องถูกขึง อยู่บนไตรลักษณ์ ไม่ควรไปตั้งอารมณ์รอดู การเฝ้ารอดูเป็นการรอกิเลส เพราะมีคําตอบให้การเฝ้ารอดูนั้นๆ ได้อยู่ สองอย่าง และทั้งสองอย่างนั้นเป็นแค่การยึดถือใน กาย
ถ้าฝึก รู้ไว เพราะมีการเพิ่มขนาดของ องค์อุเบกขาแบบไต่ระดับ ฝึกตลอด ก็เพิ่มตลอด เหมือนได้คะแนนทุกวัน
อุเบกขาที่ได้จากการพอกพูน ได้แล้วได้เลย ไม่สูญ เพิ่มขนาดจนกว่าจะถึงที่สุด
ยกตัวอย่างผู้มีธาตุอากาศ เข้ากับธาตุอื่นได้หมดทั้งทางโลกทางธรรม รู้ธาตุอื่น เเละเข้าใจธาตุอื่น เข้าไปอยู่ในธาตอื่นได้หมด
แต่ธาตุอากาสเวลาอยู่อยู่ธาตเดียว
ขอขยายตามความรู้สึกหน่อย
ธาตุอากาสหยุด นิ่ง ใบ้ ไม่อธิบาย แต่รู้ทัน ธาตุอื่นหมดว่าต้องการอะไร
ธาตุไฟ มีสุข มีทุกข์มีโทสะ ไม่ชอบใจ ไม่พอใจเก่ง
ธาตุนํ้า ดีใจเก่ง คล้อยตามเก่ง แต่ก็เป็นธาตุไฟได้เก่ง กลับไปกับมา
ธาตุลม เพลิดเพลินได้หมด ทั้งที่ชอบและไม่ชอบ
นํ้า ลม อากาส ปกปิดสิ่งที่ไม่ชอบใจไว้ในอารมณ์ได้เก่ง ไม่ปล่อยกาย ออกไปในรูป เช่นดินกับไฟ (ไปเถียงกัน) ซ่อน แต่ถ้ารูปยังไม่ดับ สังเกตุได้จากทางกายทั้งหก (ออกทางหูตา ท่าทาง)ปิดไม่ได้ แม้ไม่ออกทางวาจา ก็เห็นทางกายอื่น ที่ไม่ใช่วาจา ประโยค
ธาตุดิน วิตกเก่งขี้สงสัย ไม่เลิก เรื่องนี้หมด ก็เรื่องใหม่อีก
วิธีแก้ให้หายเป็นก็ต้องเป็นไปตามปีติ หรือไม่ก็มา ปฏิบัติ สัมปยุตธาตุธรรม แก้ความรู้สึกในฐานจิตร คือการปฏิบัติธรรม ความดี
เชิงกรรมฐานเน้นการเข้าปีติ ก็คือสุขทุกข์เป็นของจริงคือประโยชน์ของเรา
เพื่อละและวางเป็นอุเบกขา ตามธรรม
ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่ได้ทํางานถวายพระพุทธเจ้า
ก็ว่ากันไปตามธรรมความจริง