ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เวลาที่สับสน เปล่าเปลี่ยว เงียบเหงา ใจเป็นทุกข์ เพื่อน ๆ แก้ไขปัญหานี้กันอย่างไร  (อ่าน 4945 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

pamai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0



เวลาที่สับสน เปล่าเปลี่ยว เงียบเหงา ใจเป็นทุกข์ เพื่อน ๆ แก้ไขปัญหานี้กันอย่างไร คะ

บางครั้งรู้สึก ว้าเหว่ เงียบเหงา โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม อย่างนี้เหมือนไม่มีความสุข ....

 หรือ จะเหมือนว่าชอบพบปะ ผู้คน .....


 เพื่อน ๆ ท่านผู้รู้นักภาวนา ผ่านช่วงนี้กันอย่างไร คะ ช่วยแชร์ประสบการณ์ ด้วยคะ

  :c017:
บันทึกการเข้า

sunee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 301
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ออกไปเดินห้าง ดูหนัง ช๊อปปิ้งบ้าง ดีหรือไม่คะ หรือ ไปเที่ยวงานนิทรรศการ

 หรือ มางาน commart วันที่ 25 ที่ศูนย์ประชุม ก็ได้นะคะ เดินให้เพลิดเพลิน เหนื่อยก็กลับไปนอน

  :49: :bedtime2:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
    นี่เป็นความรู้สึกของผู้หญิง บางคนเหงาเพราะขาดเพื่อน บางคนเหงาเพราะขาดแฟน
    ถ้ามองในมุมของนักปฏิบัติธรรม เขาเรียกว่า มีนิวรณ์ ที่เรียกว่า ถีนมิทธะ (ความหดหู่ซึมเซา)
    นักปฏิบัติธรรมมีกิจกรรมอยู่ ๓ เรื่องใหญ่่ๆ คือ ทาน ศีล ภาวนา
    การแก้ถีนมิทธะนั้น วิธีที่ประหยัดที่สุด คือ การภาวนา
    การภาวนาจะทำให้เกิด"ปิติ(อิ่มใจ)ในธรรม" จะเป็นสมถะหรือวิปัสสนาก็ิได้
    ธรรมปีติจะช่วยขับไล่ถีนมิทธะไปได้(ชั่วคราว) 
 
    ในแง่ของคนธรรมดาที่ไม่ใช่นักปฏิบัติธรรม ที่เรียกว่า ปุถุชน การแสวงหาความสุขทางโลกยังจำเป็นอยู่
    การทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ฟังเพลง ท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง หรือ อื่นๆ
    หากมีปัจจัยเพียงพอก็ทำไปเถิดครับ

    อยากบอกว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียง"สภาวะชั่วคราว" ถึงเวลามันจะเปลี่ยนแปลงไปเอง
    อดทนไว้... เดี๋ยวก็สว่างแล้ว

     :welcome: :49: :58: ;)



อัปโหลดโดย Jeatang เมื่อ 5 พ.ค. 2011

เพลง : ฤดูที่แตกต่าง
ศิลปิน : บอย โกสิยพงษ์

อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เรา
ได้เห็นถึงความแตกต่าง เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง
ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ
หากเปรียบกับชีวิตของคน เมื่อยามสุขล้นจนใจมันยั้งไม่อยู่
ก็คงเปรียบได้กับฤดู คงเป็นฤดูที่แสนสดใส


* (และ)แต่ถ้าวันหนึ่งวันไหน ที่ใจเจ็บจนทุกข์
ดั่งพายุที่โหมเข้าใส่ บอกกับตัวเองเอาไว้
ความเจ็บต้องมีวันหาย ไม่ต่างอะไรที่เราต้องเจอทุกฤดู

** อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เรา
ได้เห็นถึงความแตกต่าง เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง
ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ
เมื่อวันที่ต้องเจ็บช้ำใจ จากความผิดหวังจนใจมันรับไม่ทัน
เป็นธรรมดาที่เราต้องไหวหวั่นกับวันที่อะไรมันเปลี่ยนไป
( ซ้ำ * , ** )


อย่าไปกลัวเวลาที่ฟ้าไม่เป็นใจ อย่าไปคิดว่ามันเป็นวันสุดท้าย
น้ำตาที่ไหลย่อมมีวันจางหาย หากไม่รู้จักเจ็บปวด
ก็คงไม่ซึ้งถึงความสุขใจ
( ซ้ำ ** )

ที่มา http://lyrics.ohozaa.com/?search=โหน่ง พิมพ์ลักษณ์ กมลเพชร&search_song=ฤดูที่แตกต่าง&search_artist=บอย โกสิยพงษ์&action=noadd[/center]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2012, 10:45:15 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
- เป็นอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านเมื่อเรามีความพอใจยินดี และ ไม่พอใจยินดีสำคัญมั่นหมายไว้ในใจ พอมีสิ่งใดๆรอบกายมากระทบหน่อยแล้วพอเข้าในอารมณ์ความรู้สึกที่สำคัญมั่นหมายไว้ ก้อจะเกิดอารมณ์ดังกล่าวนั้นขึ้นมา
- ละความพอใจยินดี ไม่พอใจยินดีที่ใจคุณตั้งความสำคัญมั่นหมายนั้น ลองมองย้อนดูว่าพอใจสิ่งใด ไม่พอใจสิ่งใดไว้ เมื่อก่อนที่จะเกิดอารมณ์เช่นนี้ๆคุณเคยอยู่อย่างไร ทำอย่างไร แล้วลองกระทำอย่างที่เคยทำมา
- ระลึกรู้ว่ามันเป็นปกติของคนธรรมดาอย่างเราๆ เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นได้เสมอ แต่หากเราไปตั้งความพอใจยินดี ไม่พอใจยินดี แล้วสำคัญมั่นหมายไว้ในใจ คุณก็จะเกิดความติดข้องใจเช่นนี้ มันหาประโยชน์ไม่ได้ มันเป็นทุกข์อย่างที่คุณเป็นอยู่ในตอนนี้
เช่น คุณมีความพอใจยินดีที่จะมีใครซักคนมาอยู่ข้างๆ มาคอยดูแลห่วงใย แต่พอมันไม่เป็นไปตามที่ต้องการพอใจนั้นก็เกิดความว้าวุ่น ฟุ้งซ่านใจ สับสนใจจนเกิดทุกข์ เห็นไหมครับ หากคุณมีความติดข้องใจกับสิ่งใด พอได้สมหวังก็หลงตามมันไปก็ทุกข์ พอไม่ได้ดังพอใจยินดีก็เกิดเป็นความขุ่นข้องมัวใจ คับแค้น อัดอั้น โศรกเศร้า ร่ำไร รำพัน ก็ทุกข์อีก
- ละความติดข้องใจทั้งหลาย
- รู้จักวางใจกลางๆ
- อยู่คนเดียวให้ได้
- ผมไม่แนะนำให้ย้ายจิตไปทำนั่นทำนี้แทน เพราะมันอาจจะช่วยได้แค่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ไม่นานมันก็จะกลับมาอีกซ้ำๆวนๆอยู่อย่างนั้น ผมจึงแนะนำให้ละที่เหตุของทุกข์ดังกล่าวมาแล้วนั้น

ขอให้คุณผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะครับ
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

เด็กวัด

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 150
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


ผ่อนคลาย ลองดู อนิเมชั่น แล้วยิ้มสักหน่อย ก็น่าจะหายนะครับ

 :hee20hee20hee: :hee20hee20hee:
บันทึกการเข้า

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
กังวลมากไป ไม่ดี คะ.... การแก้ความกังวล ก็ต้องเสริมพลังจิต ด้วยกรรมฐาน คะ

 หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ น่าจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด หรือ มาช่วยตอบปํญหาธรรมกัน
หรือมาเข้าร่วมแก็งค์อาสาพาเหนื่อย กันก้ได้นะคะ

หางานทำในบ้าน ดูทีวี หนัง ละคร ไม่ใช่เป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่แท้จริงคะ

 ปัญหา ที่แท้จริงอยู่ที่ จิต กำลังครุ่นคิด วิตก กังวล เพราะต้องอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อน.....

 คนที่อยู่คนเดียวได้ ไม่พึ่งใครนับว่า น่านับถือนะคะ

  :s_hi: :58:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

nopporn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ทุกท่าน ตอบกันมาถูกทางแล้วคะ

  เวลาจิตที่ เงียบเหงา เปล่าเปลี่ยว กังวล ต่าง ๆ นั้น ถ้าหากเราแก้ด้วยการ ดูหนัง ดูละคร เที่ยวห้าง ช๊อปปิ้งเป็นต้นนั้น ไม่ใช่วิธีการที่แก้ได้อย่างถูกต้อง คะ เมื่อ จิตนั้นเข้าไปเสวยสภาพเดิมอีก ก็ต้องแก้กันอย่างนี้ ตอนนี้ชาวโลกส่วนใหญ่ ก็จะแก้ด้วยวิธีการนี้กันอยู่แล้วคะเป็นธรรมชาติ

  สำหรับชาวธรรม น่าจะต้องพิจารณา หาต้นตอ ด้วยการฝึกควบคุมจิต แนะนำเบื้องต้นไปร่วมปฏิบัติธรรม เพื่อรับแนวทางการภาวนาปฏิบัติ คะ จะได้แก้ไขปัญหา ได้ถูกต้องคะ

 
บันทึกการเข้า
อยู่แก๊งค์ ป่วนอ๊บ