ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สาเหตุ ที่ผู้ปฏิบัติที่มีความตั้งใจปฏิบัติภาวนา แต่ภาวนาแล้วไม่สำเร็จมาจากอะไรคะ  (อ่าน 3446 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

sayamol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 95
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาเหตุ ที่ผู้ปฏิบัติที่มีความตั้งใจปฏิบัติภาวนา แต่ภาวนาแล้วไม่สำเร็จมาจากอะไรคะ

   คือมีความตั้งใจในการปฏิบัติ คะ ยอมลางาน ถึง 7 วัน อดตาหลับขับตานอน ไปอยู่วัดถึง 7 วันสมาทานศีล 8 นอนวันละ 4 ชม. เดินจงกรม สลับนั่งสมาธิ ทำอย่างนี้ เจ็ดวันเต็ม ๆ แต่ก็ไม่เห็นได้ผลอะไรเลยคะ ปฏิบัติกรรมฐานได้ก็ไม่เกิน 30 นาทีคะ เดินจงกรมก็ประมาณ 30 -45 นาที ทั้งๆ ที่มีความตั้งใจ ทำอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่เห็นผลปฏิบัติอะไรเลย นอกจากมีความเบื่อหน่าย ไม่อยากทำอีกแล้ว แบบนี้เกิดขึ้น

   เป็นเพราะอะไรคะ ถึง ภาวนาปฏิบัติไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจคะ

   คือ มีความตั้งใจให้ได้ ฌาน สัก ฌาน 1 คะ

   :smiley_confused1: :73:
บันทึกการเข้า
จริงใจ อ่อนน้อม พรั่งพร้อมด้วยความรู้
อัตตาหิ อัตตโนนาโถ
ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

indy

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 101
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อย่าเพิ่งหมดกำลังใจครับ เป็นแบบนี้ทุกคน
ความตั้งใจมากจนเกินไป มันจะไปขวางฌานที่เราต้องการ
ลองวางอารมณ์ใหม่ ลองดูเล่นๆนะ ให้พิจารณาว่าตอนนี้เรากำลงตายแล้ว
ไม่เอาอะไรแล้ว ไม่เป็น(ตำแหน่ง)อะไรแล้ว ทิ้งหมดทุกอย่าง แล้วใช้อารมณ์สุกเหมือนแม่รักลูกคือไม่มีกิเลสเจือปน
ทำอารมณ์สบายๆ แล้วพิจารณาตามที่ได้ไปฝึกมา
อย่าใช้อารมณ์หนัก มันจะกด ไม่ได้อะไร
อย่าอยากได้ฌานมันจะไม่ได้
ทำใจให้สงบ อย่าอยาก
บันทึกการเข้า

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
น่าจะมีอยู่ หลายสาเหตุ นะครับ งานนี้ ถ้าตั้งใจปฏิบัติแล้วจริง ๆ นะครับ

  1. สาเหตุ ได้ทำการปรามาส พระรัตนตรัย มีพระพุทธเจ้า เป็นต้น แล้วยังไม่ได้ขอขมา ( อันนี้สำคัญนะครับ )

  2. มีิมิจฉาทิฏฐิ คือยังไม่เข้าใจในหลักธรรม เป้าหมายการภาวนาที่ยังไม่เข้าใจอริยสัจจะ 4 นั้นกล่าวได้ว่าทำให้เป็นมรรคไม่ได้ครับ

  3. ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของกรรมฐาน

  4. ไม่รู้วิธีการรวมจิต ที่ศูนย์จิต ที่เรียกว่า สัมปยุตธรรม สัมปยุตธาตุ กันไม่ได้ ครับ
   
  5. ขาดกัลยาณมิตร ที่ภาวนาได้เป็นครู

  6. ไม่ได้แจ้งกรรมฐาน คือ สอบนิมิต ( เรื่องนี้มีหัวข้อวันนี้ ต้องอ่านดี ๆ นะครับ )

  7. สถานที่ และ เวลาสัปปายะ ไม่ตรงกับจริต
 
  8. ฝึกวิปัสสนา ผิดแนวทาง หรือ ฝึกสมถะผิดแนวทาง
 
  9. ทำความเพียรมากเกินไป เป็น วิปัสสนูปกิเลส เรียกว่า ปัคคาหะ ( เพียรจัด )

  10. ไม่ได้เรียนกรรมฐาน ให้เข้าใจก่อน ภาวนา

  11. ไม่ปิดวาจา ไม่มีความเลื่อมใส ในแนวทางปฏิบัติ เพียงแต่ทำตามเขาทำครับ

  และอีก หลาย ๆ กรณีครับ

  อย่างไรเสีย ทั้งหมดแก้ได้ พึงเข้าหากัลยาณมิตร ที่เหมาะสมกับจริตกับเราครับ ปฏิบัติได้แน่นอนครับ

 

  ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

rainmain

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 323
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คุณ danapol ตอบหลายข้อเลยนะครับ

ต้องมีสักสาเหตุ โดนใจ ผู้ถามแล้วนะครับ

วิธีแก้ ก็คือ เข้าหากัลยาณมิตร ผู้สอนกรรมฐาน ...

  :49:
บันทึกการเข้า
คิดดี พูดดี ทำดี เป็นกุศล และ กรรมฐาน เป็นมหากุศล นะครับ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

   
   คุณ DANAPOL ตอบได้ดีมาก เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง โมทนาครับ
   อย่างไรก็ตาม คุณ sayamol ทำได้ดีแล้ว ในระดับของมือใหม่ โมทนาสาธุครับ
   อยากบอกว่า "อย่าได้คิดว่าปฏิบัติแล้วไม่ได้อะไรเลย"
   ที่เห็นได้ชัดๆ คือ ขันติบารมี วิริยะบารมี คุณได้แน่นอน
   การปฏิบัติธรรมมีธรรมชาติอย่างหนึ่ง คือ "เป็นไปโดยลำดับ ไม่มีทางลัด"

   
   อย่าไปเปรียบเทียบกับบุคคลในสมัยพุทธกาลเลย บุคคลเหล่านั้นสั่งสมบารมีธรรมมามากพอแล้ว
   โดยส่วนตัวเชื่อว่า คนในปัจจุบันบารมีธรรมน้อยกว่าสมัยพุทธกาล


  พูดให้ตรงประเด็นก็คือ อินทรีย์บารมีของคุณ sayamol ยังอ่อนอยู่
   อินทรีย์ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา
   การตั้งความหวังว่า ต้องได้ฌาน แล้วไม่ได้ ทำให้ศรัทธามันหด หมดกำลังใจ
   ที่เขาเรียกว่า "ศรัทธาหัวเต่า" นั่นแหละ ศรัทธามันยืดได้หดได้
   ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของปุถุชน ใครๆก็เป็นอย่างนั้น รวมทั้งผม


  "การได้ฌาน" เป็นเรื่องไม่ง่ายสำหรับคนสมัยนี้ สภาพแวดล้อมในปัจจุบัน มีแต่สิ่งเร้าและยั่วยวนกิเลส
   การจะเข้าฌานได้นั้น ต้องไม่มีนิวรณ์เลย ลองพิจารณาดู ไม่มีนิวรณ์เลย ทำได้ไหม?
   ขอแนะนำให้เริ่มจาก ขณิกสมาธิ และอุปจารสมาธิ ก่อน
   เอาแค่อุปจารสมาธิก็พอ หากคุณได้ คุณจะขึ้นวิปัสสนาได้


  ที่สำคัญต้องมีครูอาจารย์ให้คำแนะนำและสอบอารมณ์
   ขอให้อดทนพากเพียรต่อไป อย่าหยุดปฏิบัติ อย่าคิดว่าปฏิบัติแล้วไม่ได้อะไร
   ควรคิดไปในทางบวก เรียนรู้ที่จะให้กำลังใจตนเอง
   ก่อนปฏิบัติอย่าลืมกล่าวคำ "ขอขมาพระรัตนตรัย"

    :25:
   
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

indy

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 101
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ไม่ทราบว่าปกติแล้วคุณsayamol ได้นั่งสมาธิบ่อยมั้ย
ถ้าไม่ค่อยได้นั่ง การที่เข้าคอร์สเจ็ดวัน มันเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร สิ่งที่จะเห็นได้ชัดในเจ็ดวันคือทุกข์
ผมว่าลองนั่งบ่อยๆ ถึงไม่ได้ฌานก็ให้นั่งไปเรื่อยๆ แล้วจะดีเอง กำลังสติจะมากขึ้น มีความชำนาญมากขึ้น
ส่วนจะได้หรือไม่ได้ ไม่ต้องสนใจ ให้จิตจับพุท โธ อย่างเดียว
 อีกอย่างลองไปทำดู ก่อนนั่ง ให้อ่านหนังสือะรรมะ เรื่องอะไรก็ได้ เพื่อให้จิตมันน้อม จดจ่อกับธรรมะ อันนี้ก็ดี จะเข้าได้ง่ายขึน ลองดูครับ
บันทึกการเข้า