ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สังเวคปริกิตตนปาฐะคาถา บทสวดเตือนสติ  (อ่าน 12936 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

pinmanee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 163
    • ดูรายละเอียด
สังเวคปริกิตตนปาฐะคาถา บทสวดเตือนสติ
« เมื่อ: มิถุนายน 01, 2011, 05:19:21 pm »
สังเวคปริกิตตนปาฐะคาถา บทสวดเตือนสติ

วันนี้ัวันพระ เราขออนุญาตแนะนำบทสวดมนต์ที่มีความหมายดีมากบทหนึ่ง
เป็นบทสวดมนต์ที่ทำให้เราสนใจในพระพุทธศาสนา มากขึ้นคะ

สังเวคปริกิตตนปาฐะ

อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปันโน,

พระตถาคตเจ้าเกิดขึ้นแล้ว ในโลกนี้,

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ,

เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง,

ธัมโม จะ เทสิโต นิยยานิโก,

และพระธรรมที่ทรงแสดง เป็นธรรมเครื่องออกจากทุกข์,

อุปะสะมิโก ปะรินิพพานิโก,

เป็นเครื่องสงบกิเลส เป็นไปเพื่อปรินิพพาน,

สัมโพธะคามี สุคะตัปปะเวทิโต,

เป็นไปเพื่อความรู้พร้อม เป็นธรรมที่พระสุคตประกาศ,

มะยันตัง ธัมมัง สุต๎วา เอวัง ชานามะ,

พวกเราเมื่อได้ฟังธรรมนั้นแล้ว จึงได้รู้อย่างนี้ว่า,

ชาติปิ ทุกขา, ................ แม้ความเกิดก็เป็นทุกข์,

ชะราปิ ทุกขา, ................ แม้ความแก่ก็เป็นทุกข์,

มะระณัมปิ ทุกขัง, ........... แม้ความตายก็เป็นทุกข์,

โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา,

แม้ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ
ความคับแค้นใจ ก็เป็นทุกข์,

อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข,

ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์,

ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข,

ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์,

ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง,

มีความปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์,

สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา,

ว่าโดยย่อ อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นตัวทุกข์,

เสยยะถีทัง, ...................... ได้แก่สิ่งเหล่านี้ คือ,

รูปูปาทานักขันโธ, .............. ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือรูป,

เวทะนูปาทานักขันโธ, ......... ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือเวทนา,

สัญญูปาทานักขันโธ, .......... ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือสัญญา,

สังขารูปาทานักขันโธ, ......... ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือสังขาร,

วิญญาณูปาทานักขันโธ, ...... ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือวิญญาณ,

เยสัง ปะริญญายะ, ............... เพื่อให้สาวกกำหนดรอบรู้อุปาทานขันธ์เหล่านี้เอง

ธะระมาโน โส ภะคะวา, ......... จึงพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เมื่อยังทรงพระชนม์อยู่,

เอวัง พะหุลัง สาวะเก วิเนติ,

ย่อมทรงแนะนำสาวกทั้งหลาย เช่นนี้เป็นส่วนมาก,

เอวัง ภาคา จะ ปะนัสสะ ภะคะวะโต สาวะเกสุ อะนุสาสะนี, พะหุลา ปะวัตตะติ,

อนึ่ง คำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น,
ย่อมเป็นไปในสาวกทั้งหลาย ส่วนมาก, มีส่วนคือการจำแนกอย่างนี้ว่า,

รูปัง อะนิจจัง, ....................... รูปไม่เที่ยง,

เวทะนา อะนิจจา, .................. เวทนาไม่เที่ยง,

สัญญา อะนิจจา, ................... สัญญาไม่เที่ยง,

สังขารา อะนิจจา, .................. สังขารไม่เที่ยง,

วิญญาณัง อะนิจจัง, ............... วิญญาณไม่เที่ยง,

รูปัง อะนัตตา, ........................ รูปไม่ใช่ตัวตน,

เวทะนา อะนัตตา, ................... เวทนาไม่ใช่ตัวตน,

สัญญา อะนัตตา, .................... สัญญาไม่ใช่ตัวตน,

สังขารา อะนัตตา, ................... สังขารไม่ใช่ตัวตน,

วิญญาณัง อะนัตตา, ................ วิญญาณไม่ใช่ตัวตน,

สัพเพ สังขารา อะนิจจา, ........... สังขารทั้งหลายทั้งปวง ไม่เที่ยง,

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ, ............ ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่ตัวตน ดังนี้,

เต (หญิงสวด ตา) มะยัง โอติณณาม๎หะ,

พวกเราทั้งหลาย เป็นผู้ถูกครอบงำแล้ว,

ชาติยา, .................................. โดยความเกิด,

ชะรามะระเณนะ, ....................... โดยความแก่และความตาย,

โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ,

โดยความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ
ความคับแค้นใจทั้งหลาย,

ทุกโขติณณา, .......................... เป็นผู้ถูกความทุกข์หยั่งเอาแล้ว,

ทุกขะปะเรตา, .......................... เป็นผู้มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้าแล้ว,

อัปเปวะนามิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยา ปัญญาเยถาติ,

ทำไฉน การทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้, จะพึงปรากฏชัดแก่เราได้.
บันทึกการเข้า