พิมพ์

[fasai]

ตร.บุกทลายบริษัทส่งจม.ลวงรับรางวัล


 เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. นายนริศ  ปิยพฤก  รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกูล  ผบก. พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดพิษณุโลก เลขที่ 301/2553 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2553 เข้าตรวจค้นศูนย์บริการซันซิตี้อินเตอร์เนชั่นแนล S.C.T ตั้ง อยู่เลขที่ 138/15 หมู่ 7 ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าบริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมหลอกลวง ประชาชน ซึ่งจากการตรวจค้นพบพนักงานหน้าร้านชายหญิงจำนวน 4 คน มีน.ส.สุจิตรา หาญโสภา อายุ 26 ปี  นายชมพู หาญโสภา อายุ 24 ปี  นายติณณ์  ภูผานี อายุ 20 ปี และน.ส.นิภาภรณ์ โพสม อายุ 20 ปี  โดยมีนายวิชัย แซ่ลิ้ม อายุ 30 ปี เป็นผู้จัดการบริษัทมีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพฯ

 จากการ ตรวจค้นภายในบริษัทพบเครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมากอาทิเช่น เครื่องซักผ้า ชุดโฮมเทียเตอร์ โทรทัศน์สี เครื่องดูดฝุ่น หม้อหุงข้าว ซึ่งเครื่องส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มาจากประเทศจีน และติดฉลากมอก.ปลอม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบมีผู้เสียหายที่ถือจดหมายที่ทางบริษัทส่ง ไปให้เพื่อมารับของสมมาคุณจากทางบริษัทฟรีอีกจำนวนหลายราย

 นาย เสมอ  บัวผ่อง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/2 หมู่ 5 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ตนเองได้รับจมหมายจากทางบริษัท ซันซิตี้ฯ ว่าตนเองเป็นผู้โชคดีได้รับของแจกจากทางบริษัทฯ โดยต้องเดินทางมารับของด้วยตนเอง หลังจากที่ได้รับจดหมายตนเองได้เดินทางมารับสินค้าคือ นาฬิกาแขวน 1 เรือนราคาประมาณ 200 บาท จากนั้นกลุ่มพนักงานได้พูดจาหว่านล้อมให้ร่วมสนุกกับทางบริษัทโดยให้จับฉลาก รางวัล  ตนเองหลงเชื่อได้ร่วมจับฉลากรางวัลกับทางร้านและ ตนเองสามารถจับฉลากได้บัตร  VIP ซึ่ง ทางพนักงานได้บอกว่าตนเองเป็นผู้โชคดีจะได้รับรางวัลเป็นสินค้า ชุดโฮมเทียเตอร์ จำนวน 1 ชุด หม้อหุงข้าวจำนวน 1 ใบ เครื่องดูดฝุ่นจำนวน 1 เครื่อง ร่วมมูลค่า 65,000 บาท

 ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า พนักงานบริษัทได้มีเงื่อนไขว่าถ้าตนอยากได้ของรางวัล ตนเองต้องจ่ายค่าภาษีให้กับทางบริษัทจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ของจากราคาสินค้าที่ได้รับ เป็นจำนวนเงินประมาณ  25,000 บาท แต่วันนี้ตนเองมีเงินมาเพียง 5,000 บาท และเกิดความลังเล พนักงานบริเวณได้เสนอว่า ถ้าหากตนรับรางวัลไป ตนจะได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของบริษัทไปโชว์ตัวที่กรุงเทพ และจะได้รับค่าเดินทางและค่าตัวอีก 60,000 บาท ตนเองจึงหลงเชื่อยอมรับสินค้าดังกล่าว แต่ต้องกลับไปเอาเงินที่บ้านที่ อ.บางระกำ โดยที่พนักงานของบริษัทยินดีขนของไปส่งที่บ้านพักและรับเงินมาจำนวน 25,000 บาท และตนเองได้จ่ายค่าเดินเรื่องให้พนักงานหญิงไปอีกจำนวน 2,000 บาท  รวมเงินที่ตนเองเสียไปจำนวนทั้งสิน 27,000 บาท

 หลัง จากที่ตนเองได้รับสินค้าเมื่อตรวจสอบดูแล้วพบว่าสินค้าที่ได้มาเป็นของ คุณภาพต่ำไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป จึงได้ปรึกษากับภรรยาและในวันรุ่งขึ้นได้นำสินค้ามาคืนให้กับบริษัทแต่ก็ได้ รับการปฏิเสธและถูกต่อว่ากลับไป ตนจึงคิดว่าต้องถูกบริษัทดังกล่าวหลอกลวงจึงได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลกและเดินทางไปร้องเรียนกับนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จึงทำให้ทราบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกเหมือนกับตนเองมาร้องเรียนเช่นเดียวกัน หลายสิบราย

 ด้านพล.ต.ต.ธรรมนูญ  เพชรบุรีกูล  ผบก.ภ.จว. พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนเองได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดมาโดยตรงเพื่อติดตามเรื่องดังกล่าว เพราะมีผู้เสียหายมาร้องเรียนจำนวนหลายสิบราย จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของกลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก กลุ่มงานสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ประสานกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค  อุตสาหกรรมจังหวัด กรมการค้าภายใน ติดตามพฤติกรรมของบริษัทดังกล่าวจนกระทั่งสามารถรวบรวมหลักฐานและได้ไปขอ อนุมัติ หมายค้นจากศาลจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเข้าตรวจค้นบริษัทดังกล่าว

 จาก การตรวจค้นในวันนี้พบเครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนหลายสิบรายการ และตรวจพบว่ามีการติดฉลอกมอก.ปลอมที่ตัวสินค้า และจะทำการตรวจสอบว่าสินค้าทั้งหมดเป็นสินค้าหนีภาษีหรือไม่ นอกจากนี้ยังพบเครื่องกระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 50 นัด จึงได้ยึดไว้ตรวจสอบ  ใน เบื้องต้นได้นำตัวพนักงานของบริษัทจำนวน 4 คนไปสอบสวนและแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ส่วนเจ้าของบริษัทจะได้ติดตามมาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็ว หากประชานที่ตกเป็นเหยื่อของบริษัทดังกล่าวสามารถมาแจ้งความได้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ตลอดเวลา